Share

บทที่ 150

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบเซียวอวี้อย่างใจเย็น

“ท่านให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของราชวงศ์ ส่วนหม่อมฉันก็ไม่อยากให้ผู้คนครหา ดังนั้นท่านประกาศเฉพาะความผิดที่หลิงเยี่ยนเอ๋อร์กระทำ ส่วนตัวตนของเหยื่อ และรายละเอียดของเหตุการณ์ก็ละเว้นได้เพคะ”

ทำเช่นนี้แล้วความผิดของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ก็จะเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้คนทั่วหล้าได้เช่นกัน

เซียวอวี้มองนางด้วยความเย็นชา

“เจ้าช่างคิดมาอย่างถี่ถ้วน

“หากเราไม่ทำเช่นนั้น เจ้าจะทำอย่างไร จะโปรยสำเนาใบบันทึกคำให้การไปทั่วเมืองอย่างนั้นรึ!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนลดสายตาลง

“หากไม่จำเป็นหม่อมฉันก็ไม่อยากทำเช่นนี้

“หากท่านเป็นคนร่างข้อกล่าวหาของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ด้วยตนเอง อาจจะหลบเลี่ยงจากหนักเป็นเบาได้ แต่หากเป็นของหม่อมฉัน ทุกอย่างจะยังคงเดิม และจะสู้กันจนถึงที่สุด”

ความรู้สึกของการถูกข่มขู่นั้นย่ำแย่

โดยอย่างยิ่ง เซียวอวี้ถึงกับเป็นกษัตริย์แห่งแคว้น

เขาเหยียดกายลุกขึ้น ความรู้สึกกดดันรอบกายพัดโหมกระหน่ำออกไป ภายในห้องเต็มไปด้วยบรรยากาศอันเยือกเย็น บวกกับสีหน้าของเขาที่ดูน่ากลัวยิ่งนัก

“เราตัดสินให้หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ถูกเนรเทศแล้ว เจ้ายังมีสิ่งใดไม่พอใจอีก

“เจ้าต้องการให้
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (5)
goodnovel comment avatar
Aew Soranee Arsrairas
มิน่า ทำไมเงินหมดเร็ว
goodnovel comment avatar
Rukchanaporn Nui
สุดยอดมากนางเอก จุดอ่อนเต้มีอะไรเอาออกมาเล่นงานให้หมด สม.. ฮ่องเต้ทรราช
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
นางเอกจะออกจากวังหลวงได้อย่างไร
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 151

    เขาออกคำสั่งทันที “ทหาร ลากตัวฮองเฮา...” ทันใดนั้น ด้านนอกตำหนักมีคนมารายงาน “ฝ่าบาท ไทเฮามีรับสั่ง เรียกฮองเฮาเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ” เซียวอวี้สีหน้าเย็นชา มองไปทางเฟิ่งจิ่วเหยียน เฟิงจิ่วเหยียนสงบนิ่งมิแปรเปลี่ยน ยืนหยัดดุจต้นสนและต้นไป๋ เห็นได้ชัดเจนว่า ทั้งหมดนี้อยู่ในแผนการของนาง... นางวางแผนแม่นยำไม่เคยผิดพลาดจริง ๆ ด้วยแน่ใจว่าเขาจะต้องลงโทษ จึงไปแจ้งต่อไทเฮาไว้ก่อนแล้ว เซียวอวี้ดวงตาคมกริบหนาวเหน็บ กระจายกลิ่นไอสังหารอย่างน่าสะพรึงกลัว “ฮองเฮา เจ้าควรอธิษฐานภาวนา ให้เจ้าได้อยู่ในตำหนักฉือหนิงตลอดชีวิต” ไทเฮาสามารถปกป้องนางได้ระยะหนึ่ง แต่มิอาจปกป้องนางตลอดไป! เฟิ่งจิ่วเหยียนโค้งคำนับด้วยความเคารพ “หม่อมฉันขอทูลลา” นางหันหลังเดินจากไป สีหน้าที่เคารพและยอมจำนนหายไปโดยพลัน กลายเป็นความเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็งเหมันต์ ตำหนักฉือหนิง จันทน์หอมลอยอบอวล จนทำให้คนแสบตา ไทเฮามองดูฮองเฮาที่อยู่ตรงหน้า แล้วยิ้มด้วยเมตตา “เจ้าวางใจเถอะ แม้ข้าปกป้องเจ้าตลอดไปไม่ได้ ทว่า เวลาไม่กี่วันย่อมทำได้ เพียงแต่... ”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 152

    หลังจากเซียวอวี้พูดจบ จึงสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป หลิงเยี่ยนเอ๋อร์นอนคว่ำหน้าบนพื้น แขนยึดไปข้างหน้าอย่างหมดหนทาง สีหน้าดุร้ายบิดเบี้ยว “ไม่—— “ฝ่าบาท! ฝ่าบาทท่านอย่าทิ้งหม่อมฉันไป! “ฝ่าบาท!!!” เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้? ฝ่าบาทจะไม่ต้องการเลือดหัวใจนางได้อย่างไร! พิษวารีสวรรค์ของเขา ไม่มีผู้ใดสามารถขจัดได้มิใช่หรือ? เป็นเพราะอะไรกันแน่! หลิงเยี่ยนเอ๋อร์กำมือแน่น เบ้าตาแดงก่ำ หรือว่านางต้องถูกเนรเทศจริง ๆ “ไม่!!!”…… เซียวอวี้กลับมาที่ตำหนักจื้อเฉิน ใบหน้าหล่อเหลาดุจน้ำค้างแข็ง ไม่คลายลงอยู่นาน หลิวซื่อเหลียงปรนนิบัติด้วยความระมัดระวัง คอยสังเกตสีหน้าของฮ่องเต้ตลอดเวลา แม้ไม่แน่ชัดในรายละเอียดที่เกิดขึ้น แต่หลิงกุ้ยเหรินถูกเนรเทศ ฮ่องเต้ยังเขียนราชโองการสำนึกผิดด้วย เหตุการณ์หลายเหตุการณ์นี้ ทำให้ทุกคนล้วนตกตะลึง เซียวอวี้นั่งอยู่หน้าโต๊ะทรงงาน จรดพู่กันเขียนบทสวดชำระล้างจิตใจ นี่คือบทสวดที่นักฆ่าหญิงสอนให้ท่อง บัดนี้เขาต้องการให้จิตใจสงบเหลือเกิน ชายแดนยังไม่สงบ วังหลังก็เกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ เ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 153

    เฟิ่งจิ่วเหยียนไปที่ห้องข้าง ๆ ก่อน หลังจากทำให้เจ้าหน้าที่ทหารทั้งสองหมดสติไป นางก็ค้นหาเอกสารทางการที่พวกเขาพกติดตัว รวมถึงหนังสือผ่านทางที่มีระบุจุดประสงค์ไว้หนึ่งฉบับ เป็นตามที่นางได้คาดไว้ เซียวอวี้ยังอาลัยอาวรณ์คนรักเก่า ไม่อาจโหดร้ายกับนางได้ แม้ในนามเรียกว่าเนรเทศ หากความจริงให้โอกาสหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ได้มีทางรอด โดยจะให้นางได้เปลี่ยนแปลงตัวตนและเริ่มต้นชีวิตใหม่ แล้วเวยเฉียงเล่า? เวยเฉียงมีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่หรือไม่? เฟิ่งจิ่วเหยียนฉีกหนังสือผ่านทางจนไม่เหลือชิ้นดี ท่ามกลางเศษซากที่กระจัดกระจาย สะท้อนภาพแววตาอาฆาตดุเดือดของนาง... หลังจากหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ตื่นขึ้นมา ก็พบว่านางอยู่ในสุสานศพไร้ญาติ รอบตัวนางล้อมด้วยซากศพที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปหมด ท่ามกลางความมืดยามราตรี ยังมีดวงตาสีเขียวสองสามคู่ ที่ผลุบโผล่อย่างรวดเร็ว เมื่อใช้มือคลำทาง สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่เหนียวเหนอะหนะ นางจึงกรีดร้องออกมา “กรี๊ด!” นางผุดลุกขึ้นอย่างไว คิดจะหนี ทันใดนั้น มีแสงกระบี่พุ่งผ่าน ดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างขาดที่ข้อเท้านาง ทันใดนั้นนางจึ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 154

    หลิงเยี่ยนเอ๋อร์กลัวถูกส่งไปยังหอนางโลมใต้ดิน สั่นไปหมดทั้งตัว อู๋ไป๋ปล่อยมือออก นางก็ล้มลงกับพื้นทันที นางย้อนถามกับเฟิ่งจิ่วเหยียน “พวกเจ้า...พวกเจ้าตระกูลเฟิ่ง มักจะปกป้องคุ้มครองว่าที่ฮองเฮาอย่างดีแบบนั้น ก่อนเจ้าแต่งงาน ทุกการเดินทางออกนอกจวนจะเป็นความลับเสมอ “เจ้าไม่ลองไตร่ตรองดูเล่า แม้ว่าข้าจะจ้างพวกโจรภูเขาไปลักพาตัวคน แต่หากไม่มีคนแจ้งข่าว ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าออกนอกจวน และใช้เส้นทางไหน!” เฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าขรึมเย็น เบนสายตาไปมองที่ไฉ่เยว่ ไฉ่เยว่พยักหน้า และตอบอย่างสงบ “ฮองเฮา นางพูดไม่ผิดเพคะ “นายท่านระมัดระวังเป็นพิเศษ คุณหนู...” ไฉ่เยว่เห็นว่ายังมีหลิงเยี่ยนเอ๋อร์อยู่ด้วย จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เมื่อก่อนที่คุณหนูออกนอกจวน เหล่าผู้คุ้มกันที่ติดตามล้วนเป็นคนสนิทของนายท่าน รถม้าไม่เด่นสะดุดตา เส้นทางกลับจวนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แม้แต่คนรับใช้ในจวนก็ไม่รู้ว่าคุณหนูออกนอกจวนแล้ว “...ทว่า ผู้คุ้มกันของคุณหนูล้วนเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ ไม่มีใครแจ้งแน่ และยังเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว ผู้ที่รอดเหลือแค่บ่าวคนเดียว สำหร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 155

    หลังจัดการกับหลิงเยี่ยนเอ๋อร์เสร็จ เฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนมาสวมชุดบุรุษ และสวมหน้ากาก พาไฉ่เยว่กลับไปหาเวยเฉียง ภายในห้อง เวยเฉียงมีซ่งหลีคอยดูแลอยู่ นางดูราวจะย้อนไปตอนวัยเด็ก ซุกตัวด้วยความขลาดกลัวที่มุมเตียง เห็นใครก็ตัวสั่นด้วยความกลัว เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนก้าวมาข้างหน้า นางก็หลบหนี และกรีดร้อง “อย่าเข้ามา! กรี้ด! อย่าแตะต้องข้า!!” คนเหล่านั้นทำร้ายนางไม่ต่างจากหนอนชอนไชกระดูก ที่กำจัดไม่สิ้น เฟิ่งจิ่วเหยียนทนมองไม่ไหว จึงลดม่านลง ปล่อยให้นางอยู่คนเดียวในนั้น ซ่งหลีเป็นหมอที่เก่งกาจ ทุกวันนี้เวยเฉียงกินยาที่เขาเตรียมให้ อาการป่วยจึงดีขึ้นบ้างแล้ว โดยเฉพาะสามารถนอนหลับในตอนกลางคืนได้แล้ว ถึงอย่างไรก็ยังไม่เหมือนคนปกติ ตอนนี้นางได้รับความกระทบกระเทือนใจมากจนตื่นตกใจง่าย แม้ได้ยินเสียงลมหวีดหวิวต้องใบหญ้า ก็สามารถกระตุ้นนางได้ ทำให้นางตื่นตระหนก เฟิ่งจิ่วเหยียนสั่งให้ไฉ่เยว่เฝ้าดูแลอยู่ในห้อง นางกับซ่งหลีออกไปคุยกันข้างนอก ซ่งหลีพูดอย่างหนักใจ “แผลทางกายยังรักษาได้ แต่แผลทางใจยากจะหาย” เฟิ่งจิ่วเหยียนหัวคิ้วขมวด “

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 156

    อู๋ไป๋มีเรื่องจะรายงาน เฟิ่งจิ่วหยียนจึงให้ไฉ่เยว่ออกไปก่อน ให้นางกลับไปคอยดูแลเวยเฉียงที่ห้อง แสงจันทร์เย็นยะเยือก ส่องกระทบร่างของเฟิ่งจิ่วเหยียน ดูราวกับถูกปกคลุมด้วยหมอกที่คลุมเครือ นางดูไร้ความรู้สึก ไม่พูดไม่ยิ้ม “สิ่งใดทำให้เจ้ารีบร้อนถึงเพียงนี้” คำพูดของอู๋ไป๋ติดอยู่ที่ริมฝีปากแล้ว “สตรีนางนั้น ข้าน้อยได้ทำตามคำสั่งท่าน โดยกรอกยาที่ทำให้นางเป็นใบ้ชั่วคราว และส่งนางไปที่หอนางโลมใต้ดิน “แม่เล้าของที่นั่นปฏิบัติตามกฎ โดยตรวจร่างกายของนางก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะรับไว้หรือไม่ “ส่วนข้าน้อยรออยู่ข้างนอก ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน แม่เล้าก็วิ่งออกมาด้วยความโกรธเคือง และก่นด่าข้าน้อยเป็นชุดใหญ่ “ท่านลองเดาสิว่า เกิดอะไรขึ้น?” ให้นางเดา? เฟิ่งจิ่วเหยียนสาดประกายตาคมกริบเหมือนมีดใส่ อู๋ไป๋ไม่กล้าเก็บงำเรื่องอีก และเขาก็ไม่สามารถอดกลั้นที่จะพูดออกมา “แม่เล้าบอกว่า นางไม่ใช่สตรีที่มีพื้นฐานพร้อมสมบูรณ์เลย แต่เป็นสตรีที่ช่องคลอดตีบตัน!” ได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเกิดระรอกคลื่น สตรีที่ช่องคลอดตีบตัน? กล่าวอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 157

    ตลอดสองวันนี้ฮองเฮาอยู่ในตำหนักฉือหนิง เห็นได้ชัดว่ากำลังลี้ภัยอยู่ข้างหลังไทเฮา หลิวซื่อเหลียงลองถามหยั่งเชิง “ฝ่าบาท บัดนี้ฮองเฮาอยู่กับไทเฮา หากว่าไทเฮา...” เซียวอวี้เงยหน้าขึ้นทันที นัยน์ตาเย็นชาน่าเกรงขาม “ไทเฮามิได้ไร้เหตุผลถึงเพียงนั้น” สองวันแล้ว ให้เวลามากพอแล้ว ตำหนักฉือหนิง เฟิ่งจิ่วเหยียนแช่ตัวในน้ำร้อน ร่างกายผ่อนคลาย ทว่าหัวใจถูกเหนี่ยวรั้ง มิอาจผ่อนคลาย ตึกตึกตึก! “ฮองเฮาเพคะ ฝ่าบาทมีพระบัญชาให้ท่านเข้าเฝ้าเพคะ” ครึ่งชั่วยามต่อมา ในห้องทรงพระอักษร เฟิ่งจิ่วเหยียนสวมอาภรณ์เรียบง่าย บนศีรษะมีเครื่องประดับน้อยชิ้น นางทำเช่นนี้ ราวกับมาขอรับโทษ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องจริง นางคุกเข่าด้วยความเคารพ “หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท” เซียวอวี้สายตาเยือกเย็น “เจ้าก็รู้ตัวว่ามีความผิด แล้วได้คิดหรือยัง ตามกฎของวังหลวง สมควรถูกลงโทษแบบใด” เฟิ่งจิ่วเหยียนลดสายตาลง “ล้วนขึ้นอยู่กับพระประสงค์ของฝ่าบาทเพคะ” หลิวซื่อเหลียงยืนเคียงข้างฮ่องเต้อย่างระมัดระวัง เขาเห็นเองกับตา ว่าฝ่าบาททรงเขียนราชโองก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 158

    ชุนเหอรับใช้หลิงเยี่ยนเอ๋อร์นานหลายปี เช่นเดียวกับจ้าวเฉียน ที่ได้กระทำสิ่งเลวร้ายมากมายเพื่อหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่เฟิ่งจิ่วเหยียนจะปล่อยนางไป เมื่อทำผิด ต้องได้รับโทษ ดังนั้น ชุนเหอจึงถูกจำคุกในกรมราชทัณฑ์ “ฮองเฮาโกหกข้า! นางโกหกข้า!” ไม่ว่านางจะตะโกนมากเพียงใด ก็ไม่มีผู้ใดสนใจ ตำหนักหย่งเหอ เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ตัดสินใจไปยังป่าที่เวยเฉียงถูกลักพาตัว เพื่อตรวจสอบให้ละเอียดยิ่งขึ้น หลังจากเข้าสู่ยามราตรี นางจึงลอบออกจากวัง นางกำชับให้อู๋ไป๋คอยดูแลเวยเฉียง แล้วพาไฉ่เยว่ไปที่ป่าผืนนั้นด้วยกัน วันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอนนี้มีเพียงไฉ่เยว่ที่รู้ชัดเจน ไฉ่เยว่ความจำดี อีกทั้งประสบการณ์ในวันนั้นได้ฝังลึกอยู่ในจิตใจ ชั่วชีวิตนี้มิอาจลืมเลือน นางชี้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง แล้วรื้อฟืนความทรงจำ “ฮองเฮา ตรงนี้เพคะ! ในเวลานั้นรถม้าของพวกเราถูกโจรภูเขาขวางไว้ ผู้คุ้มกันต่อสู้กับพวกโจรภูเขา บ่าวและเหยาเหนียงปกป้องคุณหนูกระโดดลงจากรถม้า วิ่งเข้าป่าทางนั้นเพคะ” แสงจันทร์หนาวเหน็บ ส่องกระทบใบหน้าของไฉ่เยว่ ช่างดูซีดเซียว

Pinakabagong kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1186

    หนานฉีทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน มิใช่การกระทำที่ชาญฉลาดสงครามที่แคว้นต่าง ๆ ล้อมโจมตีหนานฉี ต้องสูญเสียกำลังทหารจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายต่างจำเป็นต้องพักฟื้นและฟื้นฟูเป่ยเยี่ยนกล้าเคลื่อนทัพไปทางใต้ เป็นเพราะไม่มีอุปสรรค สามารถยึดครองแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้โดยไม่สูญเสียกำลังทหารแม้แต่นายเดียวแม้ว่าหนานฉีจะไม่พอใจเป่ยเยี่ยนมากเพียงใด ก็ไม่อาจประกาศสงครามโดยไม่ไตร่ตรองถึงแม้คืนที่ผ่านมารุ่ยอ๋องจะหลับไม่เต็มที่ สมองก็ยังคงตื่นอยู่เขาคัดค้านการส่งกองทัพออกไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยนอย่างเด็ดขาดแม่ทัพอาวุโสหลี่ไม่พอใจ“ท่านอ๋อง ขอบังอาจถามว่าตอนนี้ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่ที่ใด?”รุ่ยอ๋องมีท่าทีลังเล เรื่องเช่นนี้ คงต้องมอบให้ฮ่องเต้ตัดสินพระทัยในที่ประชุม รุ่ยอ๋องเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน“ท่านแม่ทัพอาวุโสหลี่ ข้ารู้ว่าท่านปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อต้านเป่ยเยี่ยน ทว่าเรื่องนี้สุดท้ายแล้วมิใช่หนานฉีควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว“การส่งกองทัพไปช่วยแคว้นซีหนี่ว์เพื่อขัดขวางแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง เป็นเพราะเรากับแคว้นซีหนี่ว์เป็นพันธมิตรกัน หากส่งกองทัพไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน พวกเราจะใช้เหตุผลใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1185

    หร่วนฝูอวี้สวมอาภรณ์ผ้าโปร่งบางเบา เดินออกมาจากด้านหลังฉากกั้นทันทีรุ่ยอ๋องจ้องมองนางตาไม่กะพริบ เหงื่อในฝ่ามือก็ยิ่งออกมาก“ข้า ข้ายังมีเอกสารทางการ...”เขาไม่มีประสบการณ์เลย จำต้องดูจากสมุดภาพทว่าคำพูดนี้ เขาไม่อาจเอ่ยออกมาได้ดวงตาของหร่วนฝูอวี้หรี่ลงทันที สายตาราวกับสัตว์ป่าที่ออกล่าเหยื่อ“เอกสารทางการ? ข้าว่า เจ้าคงคิดจะหนีกระมัง!”นางก้าวเท้ายาวมาข้างหน้า พร้อมกับข่มขู่: “มาถึงสถานที่ของข้าแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะออกไปได้!”พูดจบ นางก็ตรงไปแบกคนขึ้นมาทันทีรุ่ยอ๋องไม่คาดคิดเลยว่า จะเป็นเหตุการณ์เช่นนี้!ศีรษะของเขาคว่ำลง เมื่อเลือดสูบเข้า ก็มีแต่ความว่างเปล่าไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้?อย่างน้อยเขาก็เป็นบุรุษ!ตึง!หร่วนฝูอวี้โยนเขาลงบนเตียง ไม่ทะนุถนอมแม้แต่น้อยจากนั้นด้วยความรวดเร็วและง่ายดาย นางก็ถอดเข็มขัดบนตัวของรุ่ยอ๋องออกมาในที่สุดรุ่ยอ๋องก็ได้สติกลับมา รีบคว้าปกคอเสื้อของตนเองไว้“เจ้าช้าก่อน...”นางร้อนใจจนไม่อาจทนไหว!หร่วนฝูอวี้นั่งอยู่บนเอวของเขา กดมือทั้งสองข้างของเขาวางไว้ข้างศีรษะทั้งสองด้านมองเห็นบุรุษที่ยามปกติมีระเบียบแบบแผน เยือกเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1184

    “เจ้าคิดจะ...มีลูกกับข้า?” คิ้วของรุ่ยอ๋องขมวดปมแน่น จ้องมองหร่วนฝูอวี้ที่อยู่ตรงหน้า ดูเหมือนจะทำตัวไม่ถูกเหตุใดจู่ ๆ นางถึงมีความคิดเช่นนี้ได้?เพียงเพื่อจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับฮองเฮาหรือ? หร่วนฝูอวี้ยังคงจับปกเสื้อของเขาอยู่ พร้อมกับมองสำรวจเขาด้วยท่าทางของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า“พวกเราเป็นสามีภรรยากัน มีลูกแล้วจะอย่างไร?“เจ้ายังจะเรื่องมากอีกรึ?”รุ่ยอ๋องส่ายศีรษะอย่างแข็งเกร็ง“ข้าเพียงรู้สึกว่า...”นี่ไม่ปกติเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีคนขัดขวางการกระทำที่ขาดสติของหร่วนฝูอวี้ได้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การจะมีลูกนั้น มีความหมายอย่างไร“ข้าไม่ใช่คนใจง่ายเช่นนั้น” รุ่ยอ๋องผลักนางออกไปโดยแสร้งทำเป็นสุขุมเยือกเย็น พร้อมกับหันหลังให้นาง สายตามองไปยังที่ไกล ๆ“ใจง่ายรึ?” หร่วนฝูอวี้หัวเราะด้วยความโมโห เช่นนั้นก็เท่ากับว่านางเป็นคนใจง่ายรึ?บุรุษสุนัขผู้นี้ ปากช่างร้ายกาจนัก!“ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะไปหาคนอื่น!”หร่วนฝูอวี้พูดได้ทำได้ รุ่ยอ๋องจึงรีบคว้าแขนของนางไว้“เจ้าเสียสติไปแล้วรึ?!”นางเป็นพระชายาของเขา จะมีสัมพันธ์กับชายอื่นได้อย่างไร?หร่วนฝูอวี้เกลียดท่าทางลั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1183

    ด้านนอกห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้ยืนอยู่ด้วยสีหน้าคร่ำเคร่งได้ยินว่าเสนาบดีที่ช่วยปกครองเหล่านี้ต้องการทำตามโอวหยางเหลียน ใช้ความตายมาข่มขู่จิ่วเหยียนวิธีนี้ช่างชั่วร้ายยิ่งนักจนกระทั่งตอนที่เห็นพวกนางเดินออกมา และไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย เซียวอวี้ถึงค่อยโล่งใจเหล่าเสนาบดีทำเป็นมองไม่เห็นเขา มีเพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่มองเขาด้วยแววตาที่แฝงความรู้สึกซับซ้อนฮ่องเต้ฉีเสด็จมาที่แคว้นซีหนี่ว์ด้วยพระองค์เอง คิดดูแล้วก็คงกังวลพระทัยว่าประมุขแคว้นจะทรงหวั่นไหว ไม่เสด็จกลับไปหนานฉีอีกเห็นได้ชัดว่า พวกเขาเป็นเช่นเดียวกัน ไม่อาจคาดเดาจิตใจของประมุขแคว้นได้ช่างน่าเศร้าจริง ๆเมื่อเปรียบเทียบเช่นนี้ หูย่วนเอ๋อร์ก็รู้สึกสบายใจโดยไม่รู้ตัวยิ่งไปกว่านั้นคำพูดแต่ละคำของประมุขแคว้นนั้นมีความหมายอันลึกซึ้ง สิ่งที่พวกนางพยายามจะรักษาไว้ อย่างมากเพียงชั่วชีวิตเดียวนี่เหมือนกับการที่หมอรักษาโรค รักษาที่ปลายเหตุมิได้รักษาที่ต้นเหตุเมื่อครู่ประมุขแคว้นเอ่ยกับพวกนางมากมาย ทำให้พวกนางเข้าใจว่า ต้นเหตุที่แคว้นซีหนี่ว์ไม่อาจสร้างความยิ่งใหญ่ได้ ก็คือ “บาดแผลภายใน”การกดขี่บุรุษภายในแคว้นมากเกินไป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1182

    เสนาบดีที่ช่วยปกครองต่างก็เป็นคนสนิทของอดีตประมุข แต่ละคนล้วนเป็นเสาหลักสำคัญของราชสำนักพวกนางยืนอยู่นอกห้องทรงพระอักษร ถึงอายุจะต่างกัน ทว่าล้วนมีความจงรักภักดีและกล้าหาญ“พวกหม่อมฉันขอเข้าเฝ้าประมุขแคว้น!”เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรในห้องทรงพระอักษร ด้วยสายตาที่แน่วแน่นางจ้องมองเงาร่างของแต่ละคนที่อยู่ด้านนอกตำหนัก ความแน่วแน่ในดวงตาเจือความหม่นหมอง“ให้พวกนางเข้ามา”ไม่นาน เหล่าเสนาบดีก็ทยอยกันเข้ามาด้านใน หูย่วนเอ๋อร์ที่บาดเจ็บหนักนอนอยู่บนแคร่หามนั้นเห็นเด่นชัดที่สุดเฟิ่งจิ่วเหยียนวางฎีกาที่อยู่ในมือลง กวาดตามองพวกนางแวบหนึ่ง“ต้องการจะพูดสิ่งใด?”“ท่านประมุขแคว้น พวกหม่อมฉันทราบแล้ว เหตุใดใต้เท้าโอวหยางถึงสิ้นใจ” ลมหายใจของหูย่วนเอ๋อร์สงบนิ่ง ทว่ามองเห็นบาดแผลภายในไม่รุนแรงเสนาบดีคนอื่น ๆ จึงเอ่ยต่อ“ใต้เท้าโอวหยางทำเพื่อความมั่นคงของแผ่นดินแคว้นซีหนี่ว์ นางอาศัยความตาย ขอร้องให้ประมุขแคว้นทรงอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ต่อไป!”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูสงบนิ่ง มิได้เอ่ยขัดจังหวะคำพูดของพวกนางหูย่วนเอ๋อร์ลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก หันไปโน้มศีรษะให้เฟิ่งจิ่วเห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1181

    การตายของโอวหยางเหลียน สำหรับหูย่วนเอ๋อแล้ว เป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง ในบรรดาขุนนางใหญ่ของราชสำนัก พวกนางทั้งสองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันที่สุด ที่สำคัญกว่านั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป หูย่วนเอ๋อร์มิได้เตรียมใจไว้เลย สาวใช้ตอบอย่างระมัดระวัง “บ่าวรู้เพียงว่า ใต้เท้าโอวหยางกินยาพิษฆ่าตัวตายเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์ไม่เชื่อ ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ไฉนใต้เท้าโอวหยางกลับมาฆ่าตัวตาย? “ต้องมีคนวางแผนสังหารนางเป็นแน่! เรื่องนี้ ท่านประมุขแคว้นทราบหรือไม่!” สาวใช้ผงกศีรษะ “ตอนที่ใต้เท้าโอวหยางเกิดเรื่อง ท่านประมุขแคว้นก็อยู่ที่จวนโอวหยางเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์มีน้ำตาคลอหน่วย รู้สึกเสียใจที่ตนเองบาดเจ็บ จึงไม่สามารถออกไปสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง การตายของโอวหยางเหลียน มิใช่เพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่ตกตะลึงสงสัย ยังสร้างความวุ่นวายในราชสำนักด้วย ในการประชุมราชสำนักวันรุ่งขึ้น หัวข้อที่เหล่าขุนนางเอ่ยถึง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของโอวหยางเหลียน เสนาบดีสามรัชสมัยผู้นี้ ไม่มีผลงานอะไรยิ่งใหญ่แต่ก็ทำงานอย่างหนักหน่วง ควรได้รับการเชิดชูหลังสิ้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1180

    เมื่อหมอหลวงมาถึง โอวหยางเหลียนก็เสียชีวิตจากพิษแล้ว เหล่าคนรับใช้ในจวนต่างคุกเข่าลงกับพื้น ส่งเสียงร้องไห้ดังระงมไม่ขาดสาย “ใต้เท้า——” สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนจดจ้องไปบนเตียง ที่มีโอวหยางเหลียนนอนอยู่บนนั้น ที่จากไปอย่างเด็ดเดี่ยว ยอมตายเพื่อตักเตือน โอวหยางเหลียนทำเช่นนี้ ทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องรับภาระที่หนักหน่วง “ฝังศพอย่างสมเกียรติ” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยสั้น ๆ จบ พลันลุกขึ้นและเดินออกไป เสียงร้องไห้ทางด้านหลังนั้น ราวกับลอยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของนาง เซียวอวี้ยืนอยู่ที่ข้างประตู ยื่นมือให้นางจับไว้อย่างมั่นคง การตายของโอวหยางเหลียน เปรียบเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกโยนลงทะเลสาบ สร้างแรงกระเพื่อม แต่ก็สงบลงในที่สุด เขาหาได้สนใจความเป็นหรือตายของโอวหยางเหลียนไม่ สนใจเพียงสุขภาพของจิ่วเหยียนเท่านั้น สีหน้าของนางดูมิสู้ดีเลย “กลับวังก่อนเถิด” เขาตัดสินใจแทนนาง ในรถม้า เฟิ่งจิ่วเหยียนเงียบจนน่าใจหาย เซียวอวี้ไม่ได้รบกวนนาง เพียงอยู่เคียงข้างนาง และคอยเป็นที่พึ่งพิงให้นางเสมอ หลังจากกลับมาถึงวัง คนทั้งสองนั่งอยู่ข้างเตียง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1179

    โอวหยางเหลียนมองเห็นความหวั่นไหวในใจของเฟิ่งจิ่วเหยียน นี่คือสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น “ตั้งแต่เยาว์วัยท่านก็แตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปในหนานฉี “ท่านกำเนิดมาเพื่อแคว้นซีหนี่ว์เพคะ “ท่านก็คงจะคิดด้วยว่า หนานฉีกดขี่สตรีที่มีความสามารถเกินไป “แต่ท่านมิอาจเปลี่ยนแปลงมันได้ “ท่านประมุขแคว้น ท่านเคยคิดหรือไม่ หากท่านให้กำเนิดองค์หญิงรัชทายาท ในแคว้นซีหนี่ว์แห่งนี้ นางจะกลายเป็นประมุขแคว้น ทว่าในหนานฉี นางจะเป็นเพียงองค์หญิง แม้จะได้รับความโปรดปราน แต่ไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมของการช่วยเหลือสามีและดูแลบุตรได้ “ในหนานฉี ผู้หญิงทุกคนไม่สามารถเป็นแม่ทัพหญิงเช่นท่านได้ ฮ่องเต้ฉีองค์ปัจจุบันหลักแหลมกว่าใครอย่างมิต้องสงสัย แต่ทายาทรุ่นหลังเล่า? ท่านประมุขแคว้น ท่านไม่คิดเพื่อตัวเอง ก็ต้องคิดถึงลูก ๆ ของท่านด้วยเพคะ!” เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้ตกอยู่ในกับดักชั่วร้ายที่โอวหยางเหลียนสร้างขึ้น ใบหน้าของนางแน่วแน่ “สิ่งที่เจ้าพูด ล้วนอ้างแต่มุมมองของผู้หญิง “ลองคิดอีกมุม หากเราให้กำเนิดองค์ชาย สถานการณ์ของเขาในแคว้นซีหนี่ว์ ก็ไม่ต่างกับสถานการณ์ขององค์หญิงในหนานฉี”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1178

    หูย่วนเอ๋อร์ถูกลอบสังหาร โอวหยางเหลียนจึงเสนอให้เซียวอวี้เป็นผู้นำทัพ นี่ยิ่งทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนเกิดความสงสัยอย่างเลี่ยงมิได้ นางหันกลับไปมองที่โอวหยางเหลียน “เราคิดว่า เจ้าเหมาะที่จะปกป้องเมืองมากกว่าพระสวามี” มีความแปลกประหลาดในแววตาของโอวหยางเหลียน “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยินดีจะไปเพคะ!” นางรับคำสั่งอย่างง่ายดาย หาได้มีพิรุธไม่ เฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้ต้องการให้โอวหยางเหลียนเป็นผู้นำทัพจริง ๆ ดวงตาของนางมืดมน กล่าวอย่างสื่อความนัย “ท่านป้าอายุมากแล้ว จะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร “เมื่อผ่านพ้นวันเกิดปีที่แปดสิบแล้ว มิลองเกษียณแล้วกลับบ้านเกิด มีชีวิตบั้นปลายที่ดีเล่า” ตามกฎระเบียบของแคว้นซีหนี่ว์ เมื่อขุนนางมีอายุครบเจ็ดสิบห้าปี ก็สมควรเกษียณและกลับบ้านเกิด ม่านตาของโอวหยางเหลียนเบิกกว้าง “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยังทำได้...” เฟิ่งจิ่วเหยียนลดเสียงลง “นี่คือเกียรติยศสุดท้ายที่เราจะมอบให้ท่าน” ทั้งเรื่องซูถงและการลอบสังหารหูย่วนเอ๋อร์คืนนี้ หากจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับโอวหยางเหลียน นางหาได้เชื่อไม่ นางได้จัดสาย

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status