บทที่ 4 ไม่ง่ายอย่างที่คิด
ญาณินกำหมัดแน่น เธอคาดโทษปกป้องทางสายตาแล้วเรียกเด็ก ๆ เข้ามานั่งประจำที่ในห้องเรียนซึ่งมีอยู่ห้องเดียว เป็นทั้งห้องประชุม ห้องทำกิจกรรมและห้องเรียน บางทีก็เป็นห้องกินข้าวรวมไปด้วย ปกป้องเดินเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้กับเด็ก ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับญาณินที่กำลังแจกงาน
"ไม่ให้เหรอ" เขาถามเพราะญาณินเดินเลยเขาไปหน้าตาเฉย
"คุณไม่ใช่นักเรียนสักหน่อย"
"ก็อยากเรียนรู้เหมือนกันนะ อยากรู้ว่าครูนินเอาอะไรมาให้เด็ก ๆ ดูบ้าง"
"เอาไป!" เธอวางงานลงตรงหน้าปกป้องเป็นการตัดรำคาญ แต่จู่ ๆ เด็กนักเรียนที่นั่งอยู่ข้างเขาก็สะกิดแขนปกป้องเบา ๆ
"ผมรู้แล้วครับ ว่าทำไมครูป้องถึงเรียกครูนินว่าเป็ด"
"ยังไง" ปกป้องถามกลับอย่างสนใจ
"ก็เวลาที่ครูนินขมวดคิ้วใส่ครูป้อง ปากครูนินก็จะเบะคว่ำเหมือนปากเป็ดเลยครับ" ปกป้องหลุดขำยกใหญ่กับสิ่งที่ได้ยิน
"หัวเราะอะไรกันคะ ถ้าคุณจะดูก็อย่าชวนเด็ก ๆ เล่นสิ" เธอเอ็ดชายหนุ่มหน้าเครียดแล้วหยิบงานขึ้นมานำเสนอเด็ก ๆ ขณะที่ปกป้องอมยิ้มจนแก้มแดง เขาไม่ได้มองญาณินว่าเธอกำลังถลึงตาใส่อยู่
เวลาผ่านไปหลายนาทีจากที่เด็ก ๆ สนใจกับสิ่งที่สองสาวนำมาสอนก็เริ่มเบื่อและพูดคุยกัน ปกป้องมองไปรอบห้องเรียนเลยยกมือขึ้นบอกให้ญาณินกับอ้อมหยุดพักก่อน
"ถึงเวลากินข้าวแล้ว" ปกป้องลุกขึ้นยืน ญาณินกับอ้อมมองเด็ก ๆ ที่ทยอยเดินออกไปจากห้องอย่างมึนงงแล้วก้มมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือตัวเอง เธอเดินไปคว้าแขนปกป้องไว้
"อะไรกันคะ ยังไม่เที่ยงเลยนะ"
"เด็ก ๆ ที่นี่ไม่ค่อยกินข้าวเช้ามาแต่บ้านหรอก เลยต้องมีเวลาให้เด็ก ๆ กลับไปกินข้าวที่บ้าน"
"ฮะ! กินข้าวที่บ้านเหรอ แล้วเด็ก ๆ จะกลับมาเหรอ ปล่อยไปแบบนั้นน่ะ"
"ฮึ.." ปกป้องหัวเราะขบขันแล้วกอดอก "ไม่กลับ"
"เอ้า ทำไงอะถ้าไม่กลับมา"
"ตาม" เขาตอบเสียงเรียบแล้วหันหลังให้ญาณินกับอ้อมแต่จู่ ๆ ญาณินก็เดินอ้อมมาดักทางเขาไว้
"นายพูดเหมือนมันง่ายมากเลยนะ"
"นี่คุณครูนินครับ เด็ก ๆ พวกนี้น่ะเขาเคยเรียนมาหมดแล้วนะ ไอ้ที่คุณเอามาสอนน่ะ ส่วนมากจะสนใจการสอนที่เน้นปฏิบัติมากกว่า เช่นการออกไปสำรวจพื้นที่นอกโรงเรียน"
"ก็ไหนบอกเด็ก ๆ จะต้องสอบให้ผ่านเพื่อจะเข้าไปเรียนในตัวเมืองไง"
"อันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง"
ญาณินขมวดคิ้วยุ่ง เธอคิดว่าการเป็นครูอาสามันจะง่าย แต่พอมาเจอสถานการณ์จริงกลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย
"เด็ก ๆ ที่นี่ตั้งใจเรียนมากนะ แต่ก็ต้องมีเวลาให้พวกเขาด้วย เพราะทุกคนก็มีหน้าที่ที่ต้องทำเหมือนกัน ไม่ได้เหมือนเด็กในเมืองที่ตั้งหน้าไปเรียนอย่างเดียว"
"ไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย แล้วนายมีวิธีเรียกเด็ก ๆ กลับมาไหม"
"มี ผมเตรียมไว้แล้ว" ปกป้องยกยิ้มมุมปากแล้วเดินออกมาจากห้องเรียน อ้อมรีบเดินตามมาเพราะอยากรู้ว่าอะไรที่จะใช้เรียกเด็ก ๆ มาเรียนของปกป้อง
"จะทำอะไรเหรอป้อง" อ้อมถามอย่างอยากรู้ขณะที่ญาณินยืนกอดอกชะเง้อมองออกมาจากในห้องเรียน เธอเบ้ปากใส่เขาด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะเดินออกมาข้างนอก
"จะพาเด็ก ๆ ทำไฟฟ้าใช้เองที่โรงเรียน"
"แต่อ้อมเห็นบ้านผู้ใหญ่มีไฟฟ้าใช้นะ"
"ใช่ แต่เอาไว้ใช้งานสำคัญน่ะ เช่นเครื่องรับส่งสัญญาณวิทยุสื่อสาร เอาไว้ติดต่อกับคนข้างล่างถ้ามีเหตุฉุกเฉินกับต้องการของ ส่วนมากผู้ใหญ่ก็ลงไปซื้อเองนั่นแหละ"
"อ๋อ.. เก่งนะเนี่ย" อ้อมปรบมือให้ปกป้องในขณะที่ญาณินปรายตามองเขาเพียงนิดแล้วเดินมานั่งลงด้านหลังปกป้อง ฟังเขาอธิบายของที่ต้องใช้ในการทำไฟฟ้าใช้วันนี้เมื่อเขาพูดจบเธอก็ปรบมือให้หนึ่งที
"ตั้งใจฟังมากขนาดนี้ ถ้าเป็นเด็ก ๆ คงได้รางวัลแล้ว"
"ใครตั้งใจฟังนายพูดไม่ทราบ หลงตัวเอง"
"อืม.." ชายหนุ่มยกยิ้มแล้วเดินกลับเข้าไปเอาของใช้ในห้องเรียนแล้วเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ญาณินทำหน้าเลิ่กลั่กแล้ววิ่งไปถามปกป้อง
"ไปไหนเนี่ย"
"ไปตามเด็ก ๆ ไง"
"ต้องไปเองเลยเหรอ"
"อืม" เขามองหน้าเธอแล้วยิ้ม ก็ญาณินเม้มปากแน่นอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าพูด "ไปด้วยกันสิ"
"ดี.." เธอดีใจเหมือนเด็กน้อยเลย ปกป้องเลิกคิ้วให้แล้วเดินนำไปก่อน ญาณินรีบก้าวเท้ายาว ๆ เดินตามหลังเขาไป "ไกลไหม" ญาณินเปิดปากถามปกป้องเป็นครั้งแรกหลังจากเดินมาไกลพอสมควรแล้ว
"ไกล" เขาตอบกลับสั้น ๆ แล้วหันมาสบตากับหญิงสาว "ถามจริง ๆ เถอะ คิดยังไงถึงมาที่นี่"
"ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่ว่าใช้ชีวิตอย่างไร้ประโยชน์มานานเลยอยากทำประโยชน์บ้าง"
"อืม..แล้วรู้ใช่ไหมว่ามันไม่ได้ง่ายเหมือนมาออกค่ายอาสากับมหาวิทยาลัย"
"รู้" เธอตอบเขาเสียงเบา ก็ไม่รู้ได้ไงเพิ่งเจอมาเมื่อกี้นี้เอง เฮ้อ~
"นั่นบ้านบัว แล้วนั่นก็บ้านตุ๋น ส่วนหลังโน้นบ้านของคำ" ญาณินมองตามนิ้วชี้ปกป้องที่ชี้ไปยังบ้านของเด็ก ๆ ก่อนที่เขาจะพาเธอเข้าไปในบ้านตุ๋นเป็นคนแรก
"สวัสดีครับ" ปกป้องยกมือไหว้สวัสดีพ่อของตุ๋นญาณินเองก็รีบยกมือไหว้สวัสดีด้วยเช่นกัน "ตุ๋นไปไหนแล้วครับ พอดีจะมาชวนไปดูวิธีปั่นไฟฟ้าใช้เองน่ะครับ"
"มันเพิ่งไปเล่นเมื่อกี้ น่าจะอยู่แถวบ้านคำน่ะ ครูไปหาดูแล้วกัน"
"ครับ" ปกป้องเดินไปที่บ้านบัวเป็นหลังที่สอง
"ครูมาหาบัวเหรอ มันอยู่บ้านไอ้คำโน่น"
"ครับ ๆ " ปกป้องกับญาณินเดินออกมาทันที เธอมองหน้าปกป้องแล้วเอ่ยถาม
"จะได้ผลเหรอ"
"ได้สิ"
"พ่อกับแม่เด็กไม่ค่อยมีใครสนใจการเรียนลูกเท่าไหร่เลย"
"เพราะคนที่นี่ไม่ได้เรียนมาเหมือนเราไง พ่อกับแม่เด็ก ๆ ไม่ได้เรียนเลยคิดว่าการเรียนไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่พอทางการมีประกาศมาว่าเด็ก ๆ ทุกคนที่นี่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ผู้ใหญ่นวยเลยเรียกชาวบ้านมาประชุมแล้วให้พาเด็ก ๆ มาเรียนและทางการก็ส่งครูอาสามาสอน แต่ด้วยความลำบากในการขึ้นมาบนนี้เลยไม่ค่อยมีใครอยากมาเท่าไหร่"
"แบบนี้นี่เอง" ญาณินพยักหน้าเข้าใจ
"เด็ก ๆ ชอบการเรียนรู้นอกห้องเรียนเสียมากกว่า แต่ถ้าสอบครั้งนี้ไม่ผ่านเกณฑ์… โรงเรียนก็จะถูกยุบลงแล้วเด็ก ๆ ก็จะไม่มีโอกาสที่จะได้เรียนอีก เพราะถ้าสอบผ่านก็จะได้เข้าไปเรียนหนังสือในเมือง โรงเรียนประจำตำบลน่ะ"
"แล้วแบบนี้จะได้ผลเหรอ เด็ก ๆ ไม่มีวี่แววจะสนใจการเรียนการสอนเลย"
"อันนั้น… ไม่รู้เหมือนกัน เราทำได้เท่าที่เราจะทำ" ปกป้องตอบกลับแล้วพาญาณินไปที่บ้านคำ เมื่อมาถึงเด็ก ๆ ก็รีบเดินหนี "ไม่สนใจไปดูครูทำไฟฟ้าแล้วเหรอ"
"ไม่ได้เรียนหนังสือแล้วใช่ไหมคะครู" บัวถาม
"เอ่อ…" ปกป้องหันมามองญาณิน
"ไม่จ้ะ ไปดูครูป้องทำไฟฟ้ากัน"
"เย้ ๆ" เด็ก ๆ ดีใจใหญ่
"งั้นไปรอครูที่โรงเรียนเลยนะ"
"ครับผม" เด็ก ๆ รีบวิ่งไปที่โรงเรียน ปกป้องกับญาณินยิ้มแล้วหันมามองหน้ากัน
"ยิ้มอะไร" ญาณินเบ้ปากใส่
"เปล่า แค่ยิ้มให้เด็ก ๆ ที่เชื่อฟังดีมาก"
"ชิ" ญาณินเดินนำเขามาก่อนแต่ก็ต้องหยุดชะงักกึกเมื่อถูกชาวบ้านเอ่ยแซว
"ครูนินกับครูป้องนี่เหมือนคนเป็นแฟนกันเลยนะ"
"เอ่อ.." หญิงสาวเอี้ยวหน้ากลับไปมองชายหนุ่มอย่างขอความช่วยเหลือแต่ปกป้องกลับเลิกคิ้วให้แถมยังยิ้มรับคำแซวนั้นอีก
"ฮึฮึ.."
บทที่ 5 อ่อนไหวง่าย"ยังไม่หุบยิ้มอีก!" หญิงสาวแยกเขี้ยวใส่ชายหนุ่มแล้วกระแทกเท้าเดินออกมา ปกป้องเลิกคิ้วอย่างยิ้ม ๆ ก็ไม่ให้ยิ้มได้ยังไงเขาออกจะชอบที่ถูกแซวแบบนั้น"น่าขันจริง ๆ เลย… นี่สินะเขาเรียกพรหมลิขิตที่แท้จริง" ระยะเวลาหลายปีที่ไม่ได้เจอหน้ากันเลยแต่ญาณินก็ยังคงเป็นญาณินคนเดิมที่เขา(รัก)รู้จักทั้งสองเดินมาจนถึงโรงเรียน ญาณินรู้สึกแปลกใจมากที่เห็นเด็ก ๆ มารวมตัวกันครบทุกคน "ทำไมเด็ก ๆ ถึงมารวมตัวกันครบเลยล่ะ" เธอหันมาถามปกป้อง"รู้หนึ่งคนเท่ากับหมดห้องต้องรู้ด้วย" พอได้คำตอบเธอก็เข้าใจทันทีก่อนจะมองไปที่คำซึ่งเขากำลังยิ้มให้เธออยู่"ครูป้องครับ พวกผมพร้อมแล้ว" ตุ๋นตะโกนขึ้นเพื่อน ๆ ก็ส่งเสียงร้องตามตุ๋น"งั้นไปเลยดีกว่า ครูจะแนะนำให้รู้ว่าต้องใช้อะไรบ้าง""ครับ/ค่ะ" ปกป้องนำทีมออกไปด้านนอกแล้วยกอุปกรณ์ออกมาอีกสองกล่องใหญ่ เขาอธิบายให้เด็ก ๆ ฟังอย่างละเอียดยิบขนาดญาณินก็เพลินกับสิ่งที่ปกป้องพูดด้วย"แหม.. ตั้งใจฟังขนาดนี้ไม่ไปนั่งด้านหน้าเลยล่ะคะ ครูป้องจะได้มองเห็น" อ้อมแซวเพื่อนรักที่กำลังเท้าคางมองปกป้องอยู่ด้วยสีหน้าเคลิ้ม ๆ ญาณินรีบหุบยิ้มแล้วหันมาถลึงตาใส่อ้อม"จู้จี้! ด
บทที่ 6 เหตุฉุกเฉินเช้าวันต่อมาปกป้องเดินมารอญาณินที่หน้าบ้านพักในช่วงเช้ามืดของวันใหม่ เขาหย่อนตัวนั่งลงบนแคร่หน้าบ้านพักเธอขณะที่มืออีกข้างถือกระเป๋าสะพายที่ข้างในมียาแก้ปวดและยานวดไว้ให้เธอด้วย แถมยังมีข้าวเหนียวกับปลาย่างที่เมียผู้ใหญ่ห่อให้อีก"มาแล้วเหรอ" ญาณินเปิดประตูออก แล้วยื่นหน้าออกมาถามปกป้อง เธอหรี่ตามองเขาแล้วหยิบแว่นขึ้นมาสวมใส่เพื่อความชัดเจน"เดินได้ไหม ลงบันไดได้ใช่ไหม" เขาถามแต่ความไวของเขาคือเดินไปรอรับเธอที่ตีนบันไดแล้ว ญาณินจับราวบันไดเดินลงมาช้า ๆ จนถึงตัวปกป้อง"ต้องเดินไปอีกเหรอ""อืม ไหวใช่ไหม""แล้วถ้าไม่ไหวทำไง" เธอรู้ตัวเองดีว่าเดินไม่ไหวแน่นอน ปกป้องยิ้มกริ่มแล้วหันหลังให้ญาณิน "ให้ขี่หลังเหรอ""อืม""เหมือนช้างเลย พี่ช้างใจดี อ่า.. หยอกเฉย ๆ" ปกป้องทำท่าจะลุกขึ้นแต่กลับถูกญาณินกอดคอไว้ก่อน เธอก้าวขึ้นมาขี่หลังเขาแล้วถือกระเป๋าสะพายไว้ แต่จังหวะที่จะเอาสายคล้องคอตัวเอง กระเป๋าสะพายกลับตีหน้าปกป้อง "อ๊ะ! ขอโทษ""ถึงอนามัยสงสัยจะต้องรักษาอาการหัวแตกด้วยเลยมั้ง" เขาประชดประชันแล้วกระชับตัวหญิงสาวขึ้น ญาณินเม้มปากแน่น แล้วอยู่นิ่ง ๆ จนปกป้องพามาถึงรถผู้ใหญ
บทที่ 7 สองต่อสองสิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ ญาณินเบือนหน้าหนี "ฉันจำไม่ได้แล้วว่าเมื่อก่อนเกิดอะไรขึ้น และไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น" เธอบอกเขาเสียงเรียบโดยไม่หันมาสบตากับคู่สนทนา"…" ปกป้องก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วถอนหายใจ เขากับเธอนั่งเงียบกันอยู่พักหนึ่งจนกระทั่งฝนเริ่มซาลงมากแล้ว แต่ก็ไม่สามารถขับรถกลับไปให้ถึงหมู่บ้านได้เพราะถนนค่อนข้างเละและลื่น "เราต้องนอนในรถ เพราะขับรถกลับไม่ได้แล้ว""ทำไมกลับไม่ได้ ฝนหยุดแล้วนะ""ถนนลื่น แบบนั้นอันตรายกว่าถูกน้ำซัดอีก" หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจแล้วเอี้ยวหน้ากลับไปมองท้ายกระบะ "ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันเอาไฟฉายมา" พอพูดจบปกป้องก็เปิดไฟฉาย ไฟสว่างจ้าไปทั่วคันจนญาณินต้องยื่นมือไปผลักไฟฉายส่องไปทางอื่น "แล้วหิวไหม" ปกป้องถามญาณิน"เพิ่งกินไปเองนะ แต่ก็หิว ๆ อยู่ ข้าวเหนียวกับปลาย่างอร่อยมากเลยอะ""ธรรมดา รสชาติที่ไม่ได้ปรุงแต่งอะไรมากมายมักจะอร่อย" เขาพูดอย่างยิ้ม ๆ จำได้ดีเมื่อครั้งที่มาอยู่หมู่บ้านนี้แรก ๆ เมียผู้ใหญ่บ้านทำหมูย่างให้กิน โรยแค่เกลือกับสมุนไพรที่ชาวบ้านหามาแค่นั้น แต่รสชาติกลับอร่อยถูกปากเหมือนไปสั่งกินในร้านอาหารดัง ๆ เลย"นาย.. เลิกไปต่อยตีก
บทที่ 8 ดื้อเสียงร้องของปกป้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงฟ้าผ่า ญาณินสะดุ้งตกใจกระแทกหมัดใส่ปลายคางเขาอีกหนึ่งดอก ทำเอาปกป้องหงายหลังล้มลงไปกับแคร่"โอ๊ย… ยัยเป็ดเธอจะเอาฉันตายในกระท่อมเลยเหรอ" ปกป้องเอามือปิดตาที่ถูกชกหนึ่งหมัดก่อนหน้านี้แล้วอีกมือก็กุมปลายคางไว้อีก "อ่า! เจ็บ.. เหมือนลูกตาจะแตกเลย" ขณะที่ปกป้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บญาณินนั่งกำหมัดอย่างระแวง"ก็ใครใช้ให้นายเข้ามาใกล้ฉัน นายเองก็ผิดที่เข้ามาใกล้แถมยังพูดจาเหมือนมีอะไร""มีอะไร? มีอะไรตรงไหนนี่ยังพูดไม่จบเลย เธอก็ชกเข้าเบ้าตาแล้ว""ก็นายมีพิรุธหนิ""อ่า.. ยัยเป็ด!" ปกป้องกำหมัดแน่นแล้วยื่นมือไปตรงหน้าอย่างคาดโทษญาณิน หญิงสาวยิ้มเจื่อนแล้วยกขาขึ้นมานั่งกอดเข่าบนแคร่ มองหน้าปกป้องอย่างยิ้ม ๆ "ไม่ต้องมายิ้ม! อ่า.. ตาฉัน""ไหน.. ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหนิ ยังไม่ได้เขียวช้ำเลย แค่แดง ๆ เอง""ยังไม่สำนึกผิดอีกเหรอ" ปกป้องมองญาณินตาขวางแล้วหันไปเอาถุงยาในกระเป๋าสะพายข้างออกมา เขาหยิบยานวดออกมาป้ายที่รอบดวงตาเพื่อบรรเทาความปวดและเจ็บ ญาณินยิ้มแห้ง จู่ ๆ ก็อยากทายาให้เขาแต่อีกหนึ่งความรู้สึกก็ฉุกรั้งไม่ให้ทำแบบนั้น"เอาไว้กลับลงเขาฉันจะเ
บทที่ 9 ผิดผีญาณินทำปากขมุบขมิบว่าปกป้องในใจแล้วกอดคอเขาแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มหยุดชะงักแล้วหันมามองหน้าหญิงสาวตาขวาง "จะตายแล้ว รัดแน่นกว่านี้ตายแน่ ๆ""ฉันไม่ได้ตั้งใจหนิ""เฮ้อ… จะมีสักครั้งไหมที่จะไม่ทะเลาะกัน" ปกป้องขบกรามแน่นแล้วพาญาณินเดินต่อโดยที่คนข้างหลังปิดปากเงียบกริบ เดินมาเกือบหนึ่งชั่วโมงจู่ ๆ เสียงท้องร้องก็ดังขึ้นทำลายความเงียบ ญาณินยิ้มเจื่อนแล้วยื่นหน้าไปใกล้ ๆ ใบหน้าหล่อเหลา"หิวไหม" เธอเอ่ยถามหลังจากเงียบมานานหลายนาที"หิว""ขอโทษนะที่ท้องฉันมันร้องเสียงดังรบกวนนายน่ะ""ฮึ.." เขาแค่นหัวเราะในลำคออย่างนึกขำแล้ววางตัวญาณินลงอีกครั้ง เขาหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพายแล้วส่งให้ญาณิน "กินสิ นี่เป็นขนมที่ชาวบ้านทำกินกันบ่อย ๆ แข็งไปหน่อยแต่อยู่ท้องแน่นอน" ญาณินรับขนมมาแล้วแบ่งครึ่ง"นายก็ต้องกินด้วย ถ้าฉันเป็นอะไรไปนายจะได้เป็นอะไรไปด้วยกันกับฉัน" ปกป้องแสยะยิ้มมุมปากแล้วยื่นหน้าไปใกล้ ๆ แล้วอ้าปาก"ป้อนสิ ถ้ากินแล้วฉันตายเธอจะได้รอดไง" ญาณินแยกเขี้ยวใส่แล้วป้อนใส่ปากปกป้องอย่างที่เขาต้องการ "อ๊ะ!""อะไร! เป็นอะไร""อร่อย" ชายหนุ่มเอาขนมจากมือคนตรงหน้ามากัดก
บทที่ 10 เรื่อง ผัว ๆ เมีย ๆญาณินดันตัวลุกขึ้นพลางทำหน้ามึนงงก่อนจะเอ่ยถามปกป้อง "ผิดผีคืออะไรเหรอ""ก็…""ไหน! ไหนครูป้องกับครูนินอยู่ไหน" เสียงเมียผู้ใหญ่บ้านดังมาแต่ไกล ด้วยความไม่รู้ญาณินจึงขานรับแล้วชะเง้อมองตุ๋นกับบัวที่ไปพาเมียผู้ใหญ่มา"มีอะไรกันเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยถามด้วยความมึนงง"ก็ไอ้ตุ๋นมันไปบอกว่าครูทั้งสองคนผิดผีกัน""ผิดผี?" หญิงสาวเอี้ยวหน้ามามองปกป้องคล้ายว่าจะให้เขาอธิบายไอ้คำว่าผิดผีมันหมายความว่ายังไง ปกป้องลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มเจื่อนก่อนจะเดินเข้าไปกระซิบกระซาบเมียผู้ใหญ่บ้าน เมื่อเสร็จแล้วก็ถอยออกมายืนข้างญาณิน แต่ที่น่าแปลกคือสีหน้าของเมียผู้ใหญ่บ้านที่เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม"นายไปพูดอะไร ทำไมทุกคนมองฉันแปลก ๆ" ญาณินสะกิดแขนปกป้องพลางคลี่ยิ้มให้คนตรงหน้า "ตอบดิ พูดอะไรทำไมทุกคนยิ้มให้ฉันแบบนั้น""เปล่า แค่บอกว่าเป็นอุบัติเหตุ""เหรอ.. ผิดผีเท่ากับเป็นอุบัติเหตุเหรอ""อืม เดี๋ยวเดินไปส่ง""ไปง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ แล้วเมียผู้ใหญ่บ้านไม่สงสัยอะไรแล้วใช่ไหม ฉันจะได้อธิบายว่าเราล้มกันยังไง" ญาณินถูกปกป้องดันตัวออกมาจากตรงนั้นทั้งที่เธอยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้ง
บทนำสามปีก่อนหน้านี้"ถ้าเลิกตีรันฟันแทงกันไม่ได้เราสองคนก็เลิกกันเถอะ"ปกป้องหันมามองต้นทางของเสียงในขณะที่มือกำหมัดแน่นจนแขนสั่นเทิ้ม"เลือกมาแล้วกัน ว่าป้องจะเอายังไง ระหว่าง นิน กับไปหาเรื่องชกต่อยกับคนอื่น" ญาณินปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มแดงก่ำ นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริง ๆ ที่เธอจะขอร้องเขาขณะที่ปกป้องยังปิดปากเงียบกริบ "หยุดนะ ถ้าป้องเดินออกไปแม้แต่ก้าวเดียว เราสองคนเลิกกัน""ขอโทษนะ.." ปกป้องหันหลังเดินออกมาจากห้องพักทันทีโดยไม่หันกลับไปมองคนรักอีก ญาณินทรุดนั่งลงกับพื้นร้องไห้โฮด้วยความเสียใจที่ไม่อาจรั้งแฟนหนุ่มให้อยู่กับตัวเองได้"นายมันเห็นแก่ตัว.. ไอ้คนเลว!"ปัจจุบัน"ไอ้เชี่ย.. แป๊บ ๆ ขึ้นดอย แป๊บ ๆ ลงดอย มึงไปสร้างบ้านอยู่บนดอนเถอะเชื่อกู" ธันวาขมวดคิ้วว่าให้เพื่อนรักขณะที่ตัวเองยืนพิงประตูรถยนต์สูบบุหรี่อย่างสบายเฉิบ ปกป้องกลอกตาไปมาแล้วสะพายกระเป๋าสัมภาระที่เตรียมมาจากบ้านขึ้นหลัง"บ่นกูจัง""ไม่ใช่แค่กูที่บ่น เพื่อนแม่งทุกคนอะบ่นมึงด้วย""เข้าใจกูหน่อยดิ ก็ชวนแล้วไม่ไปกันเองหนิ""โห.. นี่ตอนไปออกค่ายอาสายังไม่กันดารพอเหรอวะ นี่บนดอยมีไฟไหม?""ไม่""ก็นั่นน่ะสิ แล้วยังจ
บทที่ 1 ตาฝาดหนึ่งชั่วโมงต่อมาเสียงล้อกระเป๋าเดินทางครูดไปตามถนนขรุขระ อ้อมขยับแว่นตาเบา ๆ แล้วชะเง้อมองรถกระบะคันสีเหลืองที่แล่นตรงมาทางนี้จึงหยุดเดินแล้วหันไปกวักมือเรียกญาณินที่กำลังสนุกอยู่กับการเก็บภาพบรรยากาศภูเขา"ยัยนิน! รถมารับแล้วใช่ไหม""ไหน ๆ" หญิงสาววิ่งมาหาเพื่อนแล้วยกมือขึ้นมาป้องแสง มองรถยนต์ที่กำลังแล่นมาทางนี้อย่างพิจารณา "ใช่แล้ว! รถผู้ใหญ่แต่ทำไมวิ่งมาทางนั้นนะ ผู้ใหญ่เข้าไปในเมืองมาเหรอ"เอี๊ยด!!เสียงเบรกรถที่มาพร้อมกับฝุ่นตลบ อ้อมรีบยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วสะบัดมือไล่ฝุ่นไปมาเบา ๆ ในขณะที่ญาณินรีบเข้าไปเคาะกระจกรถ"ใช่ผู้ใหญ่นวยไหมคะ""ใช่ครับ อ๋อ… ครูที่จะมาสอนเด็ก ๆ ใช่ไหมครับ""ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะผู้ใหญ่ หนูชื่อญาณินค่ะ ส่วนนี่เพื่อนหนูชื่ออ้อม""สวัสดีค่ะผู้ใหญ่" อ้อมยกมือไหว้สวัสดี"ขึ้นรถเลยหนู""คันนี้เหรอคะ ข้างหน้าหรือหลังดี.." ญาณินถอยออกห่างจากรถหนึ่งก้าวพลางใช้ความคิดก่อนจะเหวี่ยงกระเป๋าสัมภาระขึ้นท้ายกระบะแล้วกระโดดขึ้นมาอย่างไม่ลังเลใจ "อ้อมแกไปนั่งกับผู้ใหญ่ เดี๋ยวฉันจะว่าจะเก็บภาพสักหน่อย""ได้ดิ แกนั่งคนเดียวได้นะ""ได้""อืม ๆ จับดี ๆ แล้วกัน" ว่าจ
บทที่ 10 เรื่อง ผัว ๆ เมีย ๆญาณินดันตัวลุกขึ้นพลางทำหน้ามึนงงก่อนจะเอ่ยถามปกป้อง "ผิดผีคืออะไรเหรอ""ก็…""ไหน! ไหนครูป้องกับครูนินอยู่ไหน" เสียงเมียผู้ใหญ่บ้านดังมาแต่ไกล ด้วยความไม่รู้ญาณินจึงขานรับแล้วชะเง้อมองตุ๋นกับบัวที่ไปพาเมียผู้ใหญ่มา"มีอะไรกันเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยถามด้วยความมึนงง"ก็ไอ้ตุ๋นมันไปบอกว่าครูทั้งสองคนผิดผีกัน""ผิดผี?" หญิงสาวเอี้ยวหน้ามามองปกป้องคล้ายว่าจะให้เขาอธิบายไอ้คำว่าผิดผีมันหมายความว่ายังไง ปกป้องลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มเจื่อนก่อนจะเดินเข้าไปกระซิบกระซาบเมียผู้ใหญ่บ้าน เมื่อเสร็จแล้วก็ถอยออกมายืนข้างญาณิน แต่ที่น่าแปลกคือสีหน้าของเมียผู้ใหญ่บ้านที่เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม"นายไปพูดอะไร ทำไมทุกคนมองฉันแปลก ๆ" ญาณินสะกิดแขนปกป้องพลางคลี่ยิ้มให้คนตรงหน้า "ตอบดิ พูดอะไรทำไมทุกคนยิ้มให้ฉันแบบนั้น""เปล่า แค่บอกว่าเป็นอุบัติเหตุ""เหรอ.. ผิดผีเท่ากับเป็นอุบัติเหตุเหรอ""อืม เดี๋ยวเดินไปส่ง""ไปง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ แล้วเมียผู้ใหญ่บ้านไม่สงสัยอะไรแล้วใช่ไหม ฉันจะได้อธิบายว่าเราล้มกันยังไง" ญาณินถูกปกป้องดันตัวออกมาจากตรงนั้นทั้งที่เธอยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้ง
บทที่ 9 ผิดผีญาณินทำปากขมุบขมิบว่าปกป้องในใจแล้วกอดคอเขาแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มหยุดชะงักแล้วหันมามองหน้าหญิงสาวตาขวาง "จะตายแล้ว รัดแน่นกว่านี้ตายแน่ ๆ""ฉันไม่ได้ตั้งใจหนิ""เฮ้อ… จะมีสักครั้งไหมที่จะไม่ทะเลาะกัน" ปกป้องขบกรามแน่นแล้วพาญาณินเดินต่อโดยที่คนข้างหลังปิดปากเงียบกริบ เดินมาเกือบหนึ่งชั่วโมงจู่ ๆ เสียงท้องร้องก็ดังขึ้นทำลายความเงียบ ญาณินยิ้มเจื่อนแล้วยื่นหน้าไปใกล้ ๆ ใบหน้าหล่อเหลา"หิวไหม" เธอเอ่ยถามหลังจากเงียบมานานหลายนาที"หิว""ขอโทษนะที่ท้องฉันมันร้องเสียงดังรบกวนนายน่ะ""ฮึ.." เขาแค่นหัวเราะในลำคออย่างนึกขำแล้ววางตัวญาณินลงอีกครั้ง เขาหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพายแล้วส่งให้ญาณิน "กินสิ นี่เป็นขนมที่ชาวบ้านทำกินกันบ่อย ๆ แข็งไปหน่อยแต่อยู่ท้องแน่นอน" ญาณินรับขนมมาแล้วแบ่งครึ่ง"นายก็ต้องกินด้วย ถ้าฉันเป็นอะไรไปนายจะได้เป็นอะไรไปด้วยกันกับฉัน" ปกป้องแสยะยิ้มมุมปากแล้วยื่นหน้าไปใกล้ ๆ แล้วอ้าปาก"ป้อนสิ ถ้ากินแล้วฉันตายเธอจะได้รอดไง" ญาณินแยกเขี้ยวใส่แล้วป้อนใส่ปากปกป้องอย่างที่เขาต้องการ "อ๊ะ!""อะไร! เป็นอะไร""อร่อย" ชายหนุ่มเอาขนมจากมือคนตรงหน้ามากัดก
บทที่ 8 ดื้อเสียงร้องของปกป้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงฟ้าผ่า ญาณินสะดุ้งตกใจกระแทกหมัดใส่ปลายคางเขาอีกหนึ่งดอก ทำเอาปกป้องหงายหลังล้มลงไปกับแคร่"โอ๊ย… ยัยเป็ดเธอจะเอาฉันตายในกระท่อมเลยเหรอ" ปกป้องเอามือปิดตาที่ถูกชกหนึ่งหมัดก่อนหน้านี้แล้วอีกมือก็กุมปลายคางไว้อีก "อ่า! เจ็บ.. เหมือนลูกตาจะแตกเลย" ขณะที่ปกป้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บญาณินนั่งกำหมัดอย่างระแวง"ก็ใครใช้ให้นายเข้ามาใกล้ฉัน นายเองก็ผิดที่เข้ามาใกล้แถมยังพูดจาเหมือนมีอะไร""มีอะไร? มีอะไรตรงไหนนี่ยังพูดไม่จบเลย เธอก็ชกเข้าเบ้าตาแล้ว""ก็นายมีพิรุธหนิ""อ่า.. ยัยเป็ด!" ปกป้องกำหมัดแน่นแล้วยื่นมือไปตรงหน้าอย่างคาดโทษญาณิน หญิงสาวยิ้มเจื่อนแล้วยกขาขึ้นมานั่งกอดเข่าบนแคร่ มองหน้าปกป้องอย่างยิ้ม ๆ "ไม่ต้องมายิ้ม! อ่า.. ตาฉัน""ไหน.. ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหนิ ยังไม่ได้เขียวช้ำเลย แค่แดง ๆ เอง""ยังไม่สำนึกผิดอีกเหรอ" ปกป้องมองญาณินตาขวางแล้วหันไปเอาถุงยาในกระเป๋าสะพายข้างออกมา เขาหยิบยานวดออกมาป้ายที่รอบดวงตาเพื่อบรรเทาความปวดและเจ็บ ญาณินยิ้มแห้ง จู่ ๆ ก็อยากทายาให้เขาแต่อีกหนึ่งความรู้สึกก็ฉุกรั้งไม่ให้ทำแบบนั้น"เอาไว้กลับลงเขาฉันจะเ
บทที่ 7 สองต่อสองสิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ ญาณินเบือนหน้าหนี "ฉันจำไม่ได้แล้วว่าเมื่อก่อนเกิดอะไรขึ้น และไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น" เธอบอกเขาเสียงเรียบโดยไม่หันมาสบตากับคู่สนทนา"…" ปกป้องก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วถอนหายใจ เขากับเธอนั่งเงียบกันอยู่พักหนึ่งจนกระทั่งฝนเริ่มซาลงมากแล้ว แต่ก็ไม่สามารถขับรถกลับไปให้ถึงหมู่บ้านได้เพราะถนนค่อนข้างเละและลื่น "เราต้องนอนในรถ เพราะขับรถกลับไม่ได้แล้ว""ทำไมกลับไม่ได้ ฝนหยุดแล้วนะ""ถนนลื่น แบบนั้นอันตรายกว่าถูกน้ำซัดอีก" หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจแล้วเอี้ยวหน้ากลับไปมองท้ายกระบะ "ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันเอาไฟฉายมา" พอพูดจบปกป้องก็เปิดไฟฉาย ไฟสว่างจ้าไปทั่วคันจนญาณินต้องยื่นมือไปผลักไฟฉายส่องไปทางอื่น "แล้วหิวไหม" ปกป้องถามญาณิน"เพิ่งกินไปเองนะ แต่ก็หิว ๆ อยู่ ข้าวเหนียวกับปลาย่างอร่อยมากเลยอะ""ธรรมดา รสชาติที่ไม่ได้ปรุงแต่งอะไรมากมายมักจะอร่อย" เขาพูดอย่างยิ้ม ๆ จำได้ดีเมื่อครั้งที่มาอยู่หมู่บ้านนี้แรก ๆ เมียผู้ใหญ่บ้านทำหมูย่างให้กิน โรยแค่เกลือกับสมุนไพรที่ชาวบ้านหามาแค่นั้น แต่รสชาติกลับอร่อยถูกปากเหมือนไปสั่งกินในร้านอาหารดัง ๆ เลย"นาย.. เลิกไปต่อยตีก
บทที่ 6 เหตุฉุกเฉินเช้าวันต่อมาปกป้องเดินมารอญาณินที่หน้าบ้านพักในช่วงเช้ามืดของวันใหม่ เขาหย่อนตัวนั่งลงบนแคร่หน้าบ้านพักเธอขณะที่มืออีกข้างถือกระเป๋าสะพายที่ข้างในมียาแก้ปวดและยานวดไว้ให้เธอด้วย แถมยังมีข้าวเหนียวกับปลาย่างที่เมียผู้ใหญ่ห่อให้อีก"มาแล้วเหรอ" ญาณินเปิดประตูออก แล้วยื่นหน้าออกมาถามปกป้อง เธอหรี่ตามองเขาแล้วหยิบแว่นขึ้นมาสวมใส่เพื่อความชัดเจน"เดินได้ไหม ลงบันไดได้ใช่ไหม" เขาถามแต่ความไวของเขาคือเดินไปรอรับเธอที่ตีนบันไดแล้ว ญาณินจับราวบันไดเดินลงมาช้า ๆ จนถึงตัวปกป้อง"ต้องเดินไปอีกเหรอ""อืม ไหวใช่ไหม""แล้วถ้าไม่ไหวทำไง" เธอรู้ตัวเองดีว่าเดินไม่ไหวแน่นอน ปกป้องยิ้มกริ่มแล้วหันหลังให้ญาณิน "ให้ขี่หลังเหรอ""อืม""เหมือนช้างเลย พี่ช้างใจดี อ่า.. หยอกเฉย ๆ" ปกป้องทำท่าจะลุกขึ้นแต่กลับถูกญาณินกอดคอไว้ก่อน เธอก้าวขึ้นมาขี่หลังเขาแล้วถือกระเป๋าสะพายไว้ แต่จังหวะที่จะเอาสายคล้องคอตัวเอง กระเป๋าสะพายกลับตีหน้าปกป้อง "อ๊ะ! ขอโทษ""ถึงอนามัยสงสัยจะต้องรักษาอาการหัวแตกด้วยเลยมั้ง" เขาประชดประชันแล้วกระชับตัวหญิงสาวขึ้น ญาณินเม้มปากแน่น แล้วอยู่นิ่ง ๆ จนปกป้องพามาถึงรถผู้ใหญ
บทที่ 5 อ่อนไหวง่าย"ยังไม่หุบยิ้มอีก!" หญิงสาวแยกเขี้ยวใส่ชายหนุ่มแล้วกระแทกเท้าเดินออกมา ปกป้องเลิกคิ้วอย่างยิ้ม ๆ ก็ไม่ให้ยิ้มได้ยังไงเขาออกจะชอบที่ถูกแซวแบบนั้น"น่าขันจริง ๆ เลย… นี่สินะเขาเรียกพรหมลิขิตที่แท้จริง" ระยะเวลาหลายปีที่ไม่ได้เจอหน้ากันเลยแต่ญาณินก็ยังคงเป็นญาณินคนเดิมที่เขา(รัก)รู้จักทั้งสองเดินมาจนถึงโรงเรียน ญาณินรู้สึกแปลกใจมากที่เห็นเด็ก ๆ มารวมตัวกันครบทุกคน "ทำไมเด็ก ๆ ถึงมารวมตัวกันครบเลยล่ะ" เธอหันมาถามปกป้อง"รู้หนึ่งคนเท่ากับหมดห้องต้องรู้ด้วย" พอได้คำตอบเธอก็เข้าใจทันทีก่อนจะมองไปที่คำซึ่งเขากำลังยิ้มให้เธออยู่"ครูป้องครับ พวกผมพร้อมแล้ว" ตุ๋นตะโกนขึ้นเพื่อน ๆ ก็ส่งเสียงร้องตามตุ๋น"งั้นไปเลยดีกว่า ครูจะแนะนำให้รู้ว่าต้องใช้อะไรบ้าง""ครับ/ค่ะ" ปกป้องนำทีมออกไปด้านนอกแล้วยกอุปกรณ์ออกมาอีกสองกล่องใหญ่ เขาอธิบายให้เด็ก ๆ ฟังอย่างละเอียดยิบขนาดญาณินก็เพลินกับสิ่งที่ปกป้องพูดด้วย"แหม.. ตั้งใจฟังขนาดนี้ไม่ไปนั่งด้านหน้าเลยล่ะคะ ครูป้องจะได้มองเห็น" อ้อมแซวเพื่อนรักที่กำลังเท้าคางมองปกป้องอยู่ด้วยสีหน้าเคลิ้ม ๆ ญาณินรีบหุบยิ้มแล้วหันมาถลึงตาใส่อ้อม"จู้จี้! ด
บทที่ 4 ไม่ง่ายอย่างที่คิดญาณินกำหมัดแน่น เธอคาดโทษปกป้องทางสายตาแล้วเรียกเด็ก ๆ เข้ามานั่งประจำที่ในห้องเรียนซึ่งมีอยู่ห้องเดียว เป็นทั้งห้องประชุม ห้องทำกิจกรรมและห้องเรียน บางทีก็เป็นห้องกินข้าวรวมไปด้วย ปกป้องเดินเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้กับเด็ก ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับญาณินที่กำลังแจกงาน"ไม่ให้เหรอ" เขาถามเพราะญาณินเดินเลยเขาไปหน้าตาเฉย"คุณไม่ใช่นักเรียนสักหน่อย""ก็อยากเรียนรู้เหมือนกันนะ อยากรู้ว่าครูนินเอาอะไรมาให้เด็ก ๆ ดูบ้าง""เอาไป!" เธอวางงานลงตรงหน้าปกป้องเป็นการตัดรำคาญ แต่จู่ ๆ เด็กนักเรียนที่นั่งอยู่ข้างเขาก็สะกิดแขนปกป้องเบา ๆ"ผมรู้แล้วครับ ว่าทำไมครูป้องถึงเรียกครูนินว่าเป็ด""ยังไง" ปกป้องถามกลับอย่างสนใจ"ก็เวลาที่ครูนินขมวดคิ้วใส่ครูป้อง ปากครูนินก็จะเบะคว่ำเหมือนปากเป็ดเลยครับ" ปกป้องหลุดขำยกใหญ่กับสิ่งที่ได้ยิน"หัวเราะอะไรกันคะ ถ้าคุณจะดูก็อย่าชวนเด็ก ๆ เล่นสิ" เธอเอ็ดชายหนุ่มหน้าเครียดแล้วหยิบงานขึ้นมานำเสนอเด็ก ๆ ขณะที่ปกป้องอมยิ้มจนแก้มแดง เขาไม่ได้มองญาณินว่าเธอกำลังถลึงตาใส่อยู่เวลาผ่านไปหลายนาทีจากที่เด็ก ๆ สนใจกับสิ่งที่สองสาวนำมาสอนก็เริ่มเบื่อและพู
บทที่ 3 น้องเป็ดญาณินแยกเขี้ยวใส่ปกป้องแล้วเดินออกมาด้วยความอาย"ฮึ.." เขาแค่นหัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วเดินตามหลังเธอไป "อีกไกลนะ ถ้าไม่ดื่มน้ำตอนนี้อาจจะเหนื่อยมากกว่าปกติ เพราะทางข้างหน้าเป็นเนิน" เขาพูดกรอกหูคนตัวเล็กที่เอาแต่เดินจ้ำอ้าวไม่หยุดก่อนจะยื่นขวดน้ำดื่มไปขวางหน้าญาณิน และมันได้ผลเมื่อเธอยอมหยุดเดินแล้วรับขวดน้ำไปถือไว้ แต่สีหน้ากลับลังเลใจที่จะกิน"ไม่กิน""เพราะ?" ปกป้องถาม"ขี้ปากนาย ฉันไม่กิน""เฮอะ… ก็ตามใจ เมื่อก่อนจูบแลกลิ้นกันยังทำมาแล้ว กินน้ำขวดเดียวกันแค่นี้คงไม่ตายหรอกมั้ง หรือเธอรังเกียจ?" คำพูดนั้นยังไม่บาดใจเท่ารอยยิ้มร้ายกาจนั่น! ญาณินกระชากขวดน้ำดื่มมากระดกเข้าปากแล้วเบ้ปากใส่เขา"ทำไมจะกินไม่ได้""ก็แค่นั้น" เขารับขวดน้ำมาเก็บแล้วเดินทางต่อครืด!คนตัวเล็กเหยียบก้อนหินจนลื่นจะล้มแต่ดีที่คว้าแขนปกป้องไว้ได้ทัน ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากแล้วยืนรอให้อีกฝ่ายตั้งตัวได้ อันที่จริงเขากับเธอก็พอมีเวลาอยู่ด้วยกันสักพักใหญ่ ๆ เลยนะแต่จะไม่ทะเลาะกันนี่สิมันยังแปลกอยู่"นิน""ไม่ต้องมาเรียกชื่อ" ปกป้องยกยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยเรียกเธออีกชื่อหนึ่ง"น้องเป็ด""โอ๊ย! อย่ามาเรี
บทที่ 2 พรนั้นสัมฤทธิ์ผลธันวาเกาศีรษะแกรก ๆ แล้วยื่นมือไปตบบ่าเพื่อนเบา ๆ เป็นการขอโทษเพื่อน ปกป้องคงคิดว่าเขากำลังแกล้งหรือล้อเลียนเรื่องแฟนเก่าอยู่แน่เลย "กูขอโทษนะ กูคงจะตาฝาดไปจริง ๆ นั่นแหละ""ตลกตายแหละ""แฮ่ ๆ""ไปแล้ว""เออ ๆ เดี๋ยวกูไปส่ง" ว่าจบธันวาก็ดันตัวเพื่อนรักขึ้นรถแล้วขับไปส่งเขายังจุดที่ผู้ใหญ่นวยมารับ พอมาถึงธันวาก็รีบเข้าไปสวมกอดผู้ใหญ่ไว้ด้วยความคิดถึง"สวัสดีครับพ่อ""คุณธันวาไม่ได้จะขึ้นดอยกับคุณป้องเหรอครับ""ครั้งนี้พักก่อนครับพ่อ แล้วนี่พ่อมารอปกป้องนานแล้วเหรอครับ""อ๋อ ไม่นานเลยครับ พอดีพาครูอาสาคนใหม่มาซื้อของด้วยน่ะ""อ๋อ..""งั้นผมเอาของพวกนี้ขึ้นรถรอเลยนะครับ" ปกป้องยิ้มให้เพื่อนแล้วเชิดหน้าไปที่กองสิ่งของที่อยู่ท้ายรถ ธันวาเดินกระฟัดกระเฟียดมายกของขึ้นรถช่วยเพื่อนจนเสร็จ เวลาผ่านไปยี่สิบกว่านาทีที่ทุกคนยืนรอครูอาสาคนใหม่"เลยเวลาแล้ว กูต้องไปแล้วนะ" ธันวาสวมกอดเพื่อนรักแล้วหันมายกมือไหว้ลาผู้ใหญ่นวย ก่อนจะขับรถออกไปแต่เขากลับเห็นภาพหลอนอีก ธันวาหันขวับไปมองผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าคล้ายญาณินที่กำลังถือของพะรุงพะรังเดินสวนทางมาแต่ก็ไม่ได้จอดรถดูให้แน่ใจเพร