Home / วัยรุ่น / แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย / บทที่ 9 ผ่านมากี่คน

Share

บทที่ 9 ผ่านมากี่คน

last update Last Updated: 2025-02-13 09:32:04

วันต่อมา..

ก็อก! ก็อก!

เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้งติด ๆ กันปลุกให้สองหนุ่มสาวที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงเดียวกันค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา      

"เฮ้ย!"

"คุณ!"

ทั้งเจ้านายและเมษาต่างผงะร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจวินาทีแรกที่ลืมตาขึ้นมาเห็นหน้ากัน จากที่มีอาการงัวเงีย และมึนจากฤทธิ์ยานอนหลับบวกฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็หายเป็นปลิดทิ้ง 

เมษาลอบกลืนน้ำลายหนี่ยว ๆ ลงคออึกใหญ่ ค่อย ๆ ก้มมองตัวเองอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้าง หัวใจดวงน้อยของเธอกระตุกวูบอย่างช่วยไม่ได้เมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มคลุมไว้ถึงหน้าอก 

เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไม่ต่างกันมีผ้าห่มผืนเดียวกับเธอคลุมท่อนล่างเอาไว้ 

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ความสงสัย และคำถามมากมายเริ่มผุดขึ้นในสมองของเธอ พยายามจะคิดทบทวนถึงเรื่องเมื่อคืนก็จำได้ลาง ๆ ว่าตัวเองดื่มไวน์จนรู้สึกมึน ๆ จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยเหมือนภาพมันตัดไป

ทว่าในตอนนี้เธอรู้สึกหวั่นใจ และอับอายมากกว่าเพราะมีอีกคนนอนอยู่ข้างกาย เธอรู้สึกอายจนไม่แม้แต่จะกล้าขยับตัว หรือเงยหน้ามองว่าอีกคนกำลังทำหน้าแบบไหน ได้แต่ใช้มือกำผ้าห่มบริเวณหน้าอกแน่นข่มความรู้สึกมากมายที่ประดังเข้ามา

แน่นอนว่าเจ้านายเองก็สับสนงุนงงกับสถานการณ์ในตอนนี้มากเช่นกัน มีคำถามมากมายผุดขึ้นในสมองไม่ต่างกัน

เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นทำไมตื่นเช้ามาเขาถึงได้อยู่บนเตียงกับผู้หญิงนี้ พยายามนึกเรื่องเมื่อคืนแล้วปะติดปะต่อก็ยังงุนงงอยู่ดีเพราะภาพมันตัดไปตรงที่เขานั่งดื่มไวน์กับพ่อแม่

สรุปเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

แกร็ก!

ระหว่างที่ทั้งสองยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประตูก็ถูกเปิดเข้ามา ก่อนจะได้ยินเสียงร้องอุทานดังลั่น

"ว้าย!"

"ตายแล้ว! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน" 

คนที่เปิดประตูเข้ามาคือสาริกานั่นเองทำให้เมษากับเจ้านายถึงกับเบิกตากว้างยิ่งกว่าเดิม ร้องเรียกชื่อคนที่ปรากฏกายอยู่หน้าประตูห้องด้วยความตกใจ

"แม่!"

"คุณสาริกา!"

เจ้านายรู้ได้ในทันทีว่ามันยิ่งกว่าฉิบหายอีก คงเข้าทางผู้เป็นแม่เพราะท่านอยากให้เขาแต่งงานกับหญิงสาวอยู่แล้ว รีบหยัดกายลุกขึ้นนั่งแล้วอธิบายกับท่านพัลวัน "ไม่ใช่อย่างที่แม่เห็นนะครับ"

"ชะ..ใช่ค่ะ" เมษาเองก็รีบหยัดกายลุกขึ้นนั่งตามแล้วเอ่ยสมทบกับชายหนุ่มด้วยกลัวว่าสาริกาจะคิดว่าเธออยากได้ลูกชายท่าน โดยเธอไม่รู้เลยว่ามันเป็นแผนของสาริกาเองนั่นแหละ

ขณะที่เจ้าของแผนการอย่างสาริกาแอบแสยะยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน แต่เพียงเสี้ยวนาทีเธอก็รีบปรับสีหน้าให้เคร่งขรึมทำเหมือนไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น 

กดเสียงเอ่ยกับคนทั้งสองด้วยน้ำเสียงดุดัน "จะไม่มีอะไรได้ยังไงในเมื่อหลักฐานคาตาขนาดนี้"

"ผมอธิบายได้นะครับแม่"

"พอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น แต่งตัวแล้วลงไปคุยกับแม่ที่ด้านล่าง" เธอเอ่ยตัดบทไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น ก่อนจะเลื่อนสายตามองหน้าเด็กสาวแล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มต่างจากที่พูดกับบุตรชายสิ้นเสียง "หนูลียาก็ด้วยนะ"

ว่าจบก็หันหลังเดินออกจากห้องไปทันที ภายในห้องจึงเหลือเพียงเมษากับเจ้านาย บรรยากาศเป็นไปอย่างอึมครึมจนเมษารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง

"อย่าคิดนะว่าเรื่องเป็นแบบนี้แล้วฉันจะยอมแต่งงานกับเธอ" เจ้านายกดเสียงเอ่ยพร้อมกับตวัดสายตามองร่างบางที่นั่งข้าง ๆ ด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะขยับตัวไปนั่งห้อยขาริมเตียงแล้วโน้มตัวลงไปหยิบกางเกงที่ตกอยู่บนพื้นมาสวมใส่ 

ขณะที่เมษานั้นรีบหันหน้าไปอีกทางเพราะไม่อยากเห็นภาพโป๊เปลือยของชายหนุ่ม มือทั้งสองกำผ้าห่มที่ปกปิดเนินหน้าอกแน่นพยายามข่มความรู้สึกมากมายที่สุ่มอยู่ในอก 

บางทีก็อยากจะบอกเขาออกไปเหลือเกินว่าเธอไม่ได้อยากแต่งงานกับเขาสักนิด แต่ติดที่ว่ามันทำไม่ได้ พอคิดไปคิดว่าความคิดบางอย่างพลันผุดในสมอง

ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วทำไมเธอไม่ยกเรื่องนี้มาทำให้เขาเลิกกับแฟนสาวล่ะ

แม้ไม่อยากทำแต่นี่อาจจะเป็นวิธีเดียวที่สามารถทำให้เธอได้รับอิสระ มันอาจจะเลว และดูเห็นแก่ตัวไปแต่หากได้หลุดพ้นจากเรื่องบ้า ๆ นี้ก็ถือว่าคุ้มค่า ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วถึงจะไม่รู้แน่ชัดว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง 

เธอหลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เรียกความกล้าให้ตัวเอง ก่อนจะบอกกล่าวกับคนที่นั่งอยู่ริมเตียงอีกฝั่ง "คุณจะต้องรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นค่ะเพราะฉันเสียหาย"

เจ้านายถึงกับหันมองหน้าเจ้าของคำพูดนั้นดังควับนึกโกรธเธอมากขึ้นไปอีก กดเสียงเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันสายตาจ้องมองใบหน้าเรียวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ "ฝันไปเถอะลียา เมื่อคืนฉันมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรเธอแน่นอน"

"แต่ฉันมั่นใจว่ามี ฉันรู้สึกได้ว่าร่างกายไม่เหมือนเดิม" แม้จะรู้สึกหวั่นกับสายตาวาวโรจน์ แต่เมษาก็ยังทำใจดีสู้เสือสวนกลับไปด้วยคำพูดโกหก 

ความจริงคือเธอไม่ได้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายสักนิดค่อนข้างมั่นใจเลยแหละว่าเมื่อคืนไม่ได้มีอะไรกับชายหนุ่ม

เธอเคยได้ยินมาว่าการมีอะไรครั้งแรกจะเจ็บตรงส่วนนั้น แต่เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บส่วนนั้นเลยสักนิด    

"เหรอ..ไม่ใช่ว่าก่อนมาถึงฉันเธอผ่านมาไม่รู้กี่คนแล้วเหรอลียา" คำพูดแสนหยาบคายถูกพ่นออกจากริมฝีปากหนาทำเอาคนฟังอย่างเมษาถึงกับอารมณ์พุ่งต่อให้ชายหนุ่มจะว่าลียา แต่มันก็เหมือนกับว่าเธอเพราะตอนนี้เธอสวมรอยเป็นลียาอยู่ 

อดไม่ได้จะต่อว่าเขาไป "ฉันไม่คิดเลยนะคะว่าคุณจะมีความคิดสกปรกแบบนี้ด้วย ต่างจากหน้าตาสิ้นเชิง"

"มันจะมากไปแล้วนะลียา ผู้หญิงที่เที่ยววิ่งไล่จับผู้ชายอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน" 

คำต่อว่าจากอีกคนทำให้เจ้านายโมโหจนหน้าแดงก่ำ ขบกรามแน่นจนได้ยินเสียงดังกรอด

"สิทธิ์ของความเป็นคนไงคะ คุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันด้วยคำพูดจาหยาบคาย" 

"ที่เธอโกรธมากขนาดนี้ไม่ใช่ว่าฉันพูดแทงใจดำหรอกเหรอ" ในสายตาของเจ้านายเมษาในคราบของลียาก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงใจแตกที่เที่ยวจับผู้ชายไปทั่ว 

เขามั่นใจเลยว่าด้วยนิสัยแบบนี้ของเธอคงจะผ่านผู้ชายมาไม่มากก็น้อยเพราะหากเป็นสาวบริสุทธิ์คงมียางอายบ้างไม่ใช่หน้าด้านหน้าทนแบบนี้      

"หรือเรื่องเมื่อคืนเป็นฝีมือของเธอ เธอแอบมอมเหล้าฉันใช่ไหม" ความอคติที่มีมากทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นแผนของลียาที่ต้องการจับเขาเพราะปกติเขาไม่ใช่คนที่เมาง่าย ๆ 

"ฉันว่าคุณจะเลอะแทะไปใหญ่แล้วค่ะ" เมษาได้แต่ส่ายหน้านึกผิดหวังในตัวชายหนุ่มยิ่งนัก ก่อนหน้านี้เธอมองว่าเขาเป็นคนที่น่าจะจิตใจดี มีเหตุผลแต่ไม่เลยเขาตรงข้ามทุกอย่าง

"ฉันเชื่อว่าคนอย่างเธอสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ" เจ้านายมีอคติไปแล้วว่าเมษาในคราบลียาไม่ดีต่อให้เธอพูดยังไงก็เปล่าประโยชน์ไม่ได้ทำให้เขามองเธอดีขึ้นมา

เขาตวัดสายตาดุดันมองร่างบางที่นั่งหันหลังให้เพียงเล็กน้อย ก่อนจะสาวเท้าเดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว               

 "เฮ้อ.." เมษาถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก รู้สึกหายใจทั่วท้องขึ้นมาหน่อยเมื่ออีกคนออกจากห้องไป รีบลุกเดินไปใส่ล็อกประตูให้แน่นหนา 

จากนั้นก็เดินไปยืนไล่สายตาสำรวจตัวเองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าที่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนก้มมองจุดสงวนเช็คอีกครั้งให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง 

ซึ่งบนร่างกายของเธอล้วนปกติทุกอย่างไม่มีรอยใด ๆ และไม่ได้รู้สึกเจ็บส่วนใดสักนิดเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 แต่กระนั้นก็อดคิดหนักไม่ได้อยู่ดีเพราะไม่รู้สาริกาจะว่ายังไงกับเรื่องนี้ก็ได้แต่ภาวนาขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี 

เธอยืนทำใจอยู่ครู่ใหญ่จึงเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ เสร็จแล้วออกมาแต่งตัว จากนั้นก็ลงไปยังชั้นล่างตามคำสั่งของสาริกา

    ติ้ง ติ้ง~

 ระหว่างที่กำลังจะก้าวลงบันใดเธอก็ต้องชะงักเท้าเมื่อเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ที่เธอถืออยู่ในมือดังขึ้น ก่อนจะยกมันขึ้นมากดเปิดหน้าจอดู 

คิ้วสวยพลันขมวดชนกันเล็กน้อยเพราะข้อความจากสาริกาที่โชว์หราบนหน้าจอโดยมีใจความว่า 

 'เรื่องเมื่อคืนฉันเป็นคนจัดฉากเองไม่ต้องตกใจแค่เล่นไปตามน้ำก็พอ และเมื่อลงไปที่ห้องโถงเธอจะเห็นชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอยู่ด้วย ทั้งสองคนเป็นคนที่จ้างให้มาสวมรอยเป็นพ่อแม่ของลียา เพราะฉะนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกชายฉันเธอต้องเล่นละครให้เนียนอย่าให้มีพิรุธจนลูกชายฉันจับได้'

 พออ่านข้อความจากสาริกาจบเธอก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ไม่คิดว่าจะมีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีก ยิ่งเธอแสดงไม่ค่อยเก่งด้วย

กลัวเหลือเกินว่าจะเผลอแสดงพิรุธออกไป แต่ก็นั้นแหละแม้รู้สึกกลัว และไม่เต็มใจทำเธอก็มิอาจหลีกเลี่ยงได้เพราะมันคืองาน

                                    

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 10 ไม่มีทางเลือก

    เมษายืนทำใจ และรวบรวมความกล้าให้ตัวเองอยู่สักพักใหญ่ ก่อนจะก้าวลงบันไดต่อมาถึงห้องโถงเธอก็เห็นหญิงชายวัยไล่เลี่ยกับแม่ของเธอนั่งอยู่ในห้องโถงด้วยตามที่สาริกาบอก เธอพยายามสะกดจิตตัวเองว่านั้นคือพ่อแม่ของลียาต้องทำตัวสนิทสนมเข้าไว้ แล้วเดินตรงเข้าไปหาพวกท่านพลางแสดงท่าทางตกใจออกมา "พ่อแม่มาได้ยังไงคะ""พ่อกับแม่ตั้งใจจะมาทักทายคุณป้าสาริกาน่ะ" วสินพ่อสวมรอยของเมษาในคราบลียาตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล"ใช่จ้ะ" นิดาแม่สวมรอยเอ่ยเสริมอีกคนพลางมองหน้าเมษาด้วยแววตารักใคร่เอ็นดูราวกับว่าเด็กสาวเป็นลูกจริง ๆ ท่าทางราวกับเป็นพ่อแม่จริง ๆ ที่ทั้งคู่แสดงออกมาช่างสมบทบาททำเอาเมษาแอบทึ่งในใจ แสดงว่าคงเตรียมตัวมาอย่างดี ซึ่งเธอก็ต้องเล่นไปตามน้ำอย่างที่สาริกาบอกเดินเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ คุณแม่สวมรอยแล้วสวมกอดหลวม ๆ ทำเหมือนว่าคิดถึงท่านมาก "คิดถึงจังเลยค่ะ"บอกกล่าวกับแม่สวมรอยจบก็หันไปบอกกล่าวพ่อสวมรอยต่อพร้อมฉีกยิ้มให้จนตายี "คิดถึงพ่อเหมือนกันนะคะ""ไม่ต้องพูดเรื่องอื่นเลย มาพูดเรื่องลูกกับพี่เจ้านายดีกว่า พ่อกับแม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจากคุณป้าสาริกาหมดแล้ว" วสินแสร้งตีหน้าเคร่งขรึมแทน สา

    Last Updated : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 11 รับผิดชอบการกระทำ

    "เป็นยังไงบ้าง"ทันทีที่เมษาย่างกรายเข้ามาถึงห้องโถงของบ้านวณิชกาญจนโชติเสียงของสาริกาที่นั่งอยู่ก็ถามไถ่ขึ้น เธอได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนเปล่งเสียงตอบพร้อมเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟาตัวตรงข้าม "คุณส้มไม่ได้พูดอะไรค่ะ แต่ฉันคิดว่าวิธีนี้น่าจะได้ผล""ก็ขอให้เป็นอย่างนั้น ฉันเหนื่อยและเอือมระอากับเรื่องนี้เต็มทนแล้ว" สาริกาเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจออกมา"ทันทีที่คุณส้มยอมเลิกกับคุณเจ้านาย ฉันจะได้รับอิสระสามารถกลับไปอยู่กับแม่ และน้องสาวได้เลยใช่ไหมคะ" "ยัง..จนกว่าฉันจะแน่ใจว่าสองคนนั้นเลิกกันจริง ๆ เธอต้องอยู่เป็นไม้กันหมาสักระยะ""สักระยะนี่มันนานแค่ไหนคะ?" เมษาขมวดคิ้วมุ่น"เธอจะถามอะไรเยอะแยะ ถึงเวลาก็รู้เองแหละ" สาริกาตวัดสายตามองหน้าเมษาที่เอาแต่ยิงคำถามไม่เลิกด้วยความรำคาญ ทำเอาคนถูกจ้องต้องรีบหลบสายตาพร้อมกับเอ่ยขอโทษไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิว "ขอโทษค่ะ"ภายในห้องโถงถูกความเงียบเข้าปกคลุมนานนับนาที ก่อนสาริกาจะเอ่ยปากไล่เด็กสาวที่นั่งขวางหูขวางตา "จะไปไหนก็ไปไป" สิ้นเสียงไล่เมษาก็ลุกเดินคอตกขึ้นไปยังห้องนอนตัวเองทันที เธอทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรงอุตส่าห์หวังไ

    Last Updated : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 12 สนอง

    ตุ้บ!!ร่างของเมษาถูกเจ้านายเหวี่ยงขึ้นเตียงอย่างแรง แรงกระแทกกับที่นอนส่งผลให้เธอจุกจนร้องไม่ออก หน้าคะมำจูบที่นอนนุ่มเต็ม ๆ ทว่าแม้จะรู้สึกจุก และเจ็บเพียงใดเธอก็พยายามยันตัวลุกขึ้นนั่งโดยเร็วที่สุดด้วยความกลัวที่มีมากกว่า "อ๊ะ.."ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็ถูกร่างสูงผลักให้นอนราบกับที่นอนอีกครั้งโดยมีเขาตามมาคร่อมเอาไว้ มือเล็กทั้งสองยกขึ้นผลักไสคนด้านบนพัลวันพลางพยายามดีดดิ้นสุดแรง ปากร้องถามไปด้วยความตื่นตระหนก "คะ..คุณจะทำอะไร อะ..ออกไปนะ""อย่ามาทำไขสือลียา เธออยากได้ฉันมากไม่ใช่เหรอฉันก็กำลังสนองให้อยู่นี่ไง" เจ้านายกดเสียงเอ่ยอย่างเย็นเยือก แววตาแข็งกร้าวจดจ้องใบหน้าเรียวเขม็ง มือทั้งสองจับมือเล็กที่เอาแต่ผลักไสไปกดตรึงกับที่นอนข้างศีรษะเล็ก"ไม่ ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้" ใบหน้าเรียวส่ายปฏิเสธระรัวจนเส้นผมสีน้ำตาลสลวยยุ่งเหยิง ร่างบอบบางยังคงออกแรงดีดดิ้นไม่หยุดหย่อน สองเท้าเล็กถีบยันที่นอนไปมาจนยับยู่ยี่หวังดันตัวให้หลุดพ้นจากพันธนาการคนด้านบน"กรี๊ดด!" ริมฝีปากอิ่มพลันหลุดเสียงกรีดในเสี้ยววินาทีต่อมาเมื่อใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงซุกไซ้ลำคอ ใบหน้าเรียวที่เต็มไปด้วยความตื่นกลัวพยายา

    Last Updated : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 13 ผู้หญิงแพศยา

    @ผับหลังจากออกจากบ้านเจ้านายก็มานั่งดื่มที่ผับของเพื่อนชายคนสนิทเพื่อดับความร้อนรุ่มที่เกิดจากความโกรธน้ำสีอำพันในแก้วคริสตัลถูกชายหนุ่มยกดื่มครั้งแล้วครั้งแล้ว พอหมดก็เติมใหม่โดยมีแมธธิวเพื่อนที่เป็นเจ้าของผับคอยรินให้"แม่งเอ้ย! ทำไมทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ" จู่ ๆ เสียงทุ้มก็สบถออกมาด้วยอารมณ์ที่ยังคุกรุ่น แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเป็นจำนวนมากไม่สามารถดับไฟในกายเขาได้เลย กลับกันยิ่งเริ่มเมากึ๋ม ๆ ก็ยิ่งมีอารมณ์รุนแรงขึ้น ในสมองมีแต่ใบหน้าของลียาผู้หญิงแพศยาลอยวนซ้ำ ๆมือหนากำแก้วแน่นจนเส้นเลือดบนหลังมือลากยาวไปถึงแขนปูดนูน กรามทั้งสองขบเข้าหากันแน่นจนเกิดเสียงดังกรอด เขาอยากจะขย้ำเธอให้แหลกเป็นผุยผงให้สมกับที่เธอทำลายความรักของเขากับแฟนสาวพังไม่ใช่แค่คิดแต่เขาลุกพรวดขึ้นยืนโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้แมธธิวรู้สึกตกใจไม่น้อย เอ่ยถามไปด้วยความสงสัย "เป็นอะไรของมึง อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นยืน""กูต้องกลับไปจัดการคน" เจ้านายตอบเพื่อนชายเพียงแค่นั้นไม่ได้ขยายความต่อ ว่าจะก็เดินตัวปลิวออกจากผับไปขึ้นรถหรูราคาหลายสิบล้านขับตรงกลับบ้านด้วยความเร็วใช้เวลาขับรถราว ๆ สี่สิบห้านาทีก็มาถึงบ้าน ซึ่งตอน

    Last Updated : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 14 ทำความรู้จักว่าที่สะใภ้ของแม่

    เมษารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ด้วยความรู้สึกที่ไม่สดชื่นเท่าไรนักเพราะเมื่อคืนกว่าจะหลับได้ก็เกือบตีสี่แล้ว"เฮ้อ.." เธอถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกหนักอก ก่อนจะสบัดผ้าห่มออกจากตัวลุกลงจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วเดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อช่วยแม่บ้านทำอาหารเช้าเหมือนเช่นทุกวันทว่าเมื่อเดินลงไปถึงห้องโถงใหญ่เธอก็ต้องชะงัก หน้าถอดสีฉับพลันเพราะคนที่เพิ่งถูกเธอตีหัวไปเมื่อคืนนั่งอยู่ในห้องโถง รอบศีรษะของเขามีผ้าก็อตพันอยู่ชายหนุ่มคงโกรธเธอมากดูจากสายตาที่จ้องเธอแทบจะเขมือบหัว บางทีหากตอนนี้ไม่มีสาริกานั่งอยู่ที่โซฟาด้วยเขาคงพุ่งเข้ามาฆ่าเธอแล้วก็เป็นได้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าสาริการู้ว่าแผลบนหัวบุตรชายสุดที่รักได้มาจากเธอสาริกาคงเล่นงานเธอแน่ ๆ เหมือนเธออยู่ท่ามกลางฝูงเสือฝูงจระเข้ที่พร้อมจะขย้ำเธอทุกเมื่อแท้ ๆเธอแทบจะก้าวขาเดินต่อไม่ได้เพราะรู้สึกกดดันกับสายตาทั้งสองคู่ที่มองมา มือทั้งสองกำกระโปรงชุดเดรสแน่นพยายามข่มความรู้สึกมากมายที่กำลังประเดประดังเข้ามา"หนูลียามานั่งนี่สิจ๊ะ" กระทั่งสาริกาเอ่ยเรียกเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มจึงทำให้เบาใจขึ้นมาหน่อย นั่นอาจหมายความว่าท่านยังไม่ร

    Last Updated : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 15 เลือดคนร่าน

    วันทั้งวันเมษาคลุกตัวอยู่แต่ในห้อง มื้อเที่ยงเธอก็ไม่ลงไปทานโดยอ้างว่าไม่หิวทั้งที่ความจริงคือเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนตอนเช้ามากกว่าก็อก! ก็อก!เธอพลันสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจครั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น หัวใจดวงน้อยอดเต้นแรงไม่ได้ด้วยระแวงว่าจะเป็นชายหนุ่ม ยอมรับเลยว่าตั้งแต่เกิดเรื่องเธอรู้สึกระแวงไปหมดจริง ๆ"คุณลียาคะ คุณสาริกาให้มาตามลงไปทานข้าวค่ะ"ลมหายใจถูกพ่นออกจากจมูกโด่งด้วยความรู้สึกโล่งอกพอได้ยินเสียงแม่บ้านที่ดังเล็ดลอดเข้ามา เมื่อรู้ว่าไม่ใช่ชายหนุ่มเธอก็ลุกจากเตียงเดินไปเปิดประตูทันที "ค่ะ" ส่งยิ้มให้แม่บ้านเล็กน้อย จากนั้นก็เดินลงไปยังชั้นล่างด้วยหัวใจตุ่ม ๆ ต่อม ๆ ลุ้นว่าเย็นนี้เธอจะโดนชายหนุ่มหาเรื่องอะไรอีก เอาจริง ๆ หากไม่เกรงใจสาริกาที่เป็นเจ้าของบ้าน และรู้สึกหิวเธอไม่อยากจะลงไปเลยด้วยซ้ำเธอลอบกลืนน้ำลายลงคอดังอึกสองมือน้อย ๆ ขย้ำกระโปรงชุดเดรสแน่นในตอนที่เดินมาถึงห้องอาหารแล้วเห็นชายหนุ่มนั่งทำหน้ายักษ์อยู่ สายตาจ้องมองเธอราวกับจะกินหัวกันเธอไม่ชอบเอาเสียเลย แต่ก็ทำได้แค่ข่มอารมณ์ และจิตใจให้สงบนิ่งเอาไว้ ก้าวเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้ข้างสาริกา"อยู่บ้า

    Last Updated : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 16 กัดไม่ปล่อย

    จากเหตุการณ์ในคืนนั้นเป็นเวลาหนึ่งเดือน ๆ เต็ม ๆ ที่เมษาต้องอยู่อย่างหวาดระแวง จะขยับตัวหรือทำอะไรก็เหมือนถูกจับจ้องตลอดเวลา และเธอยังถูกชายหนุ่มรังแก พูดจาเหยียดหยามทุกครั้งที่มีโอกาส บอกตามตรงว่าเธอไม่มีความสุขเอาเสียเลย ขนาดจะไปหาแม่กับน้องสาวก็ยังไม่ได้ไปเพราะกลัวความลับแตกทำได้แค่โทรถามข่าวคราวเธอตั้งใจว่าจะคุยกับสาริกาอีกครั้งเพราะนี่ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่เจ้านายกับส้มเลิกกัน และไม่มีทีท่าว่าทั้งสองจะหวนกลับมาคบกันอีก ซึ่งมันน่าจะมั่นใจได้แล้วเธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะสลัดความคิดอันหนักอึ้งออก แล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไหล่เดินลงไปยังชั้นล่าง"คุณลียาจะไปไหนครับ" ลุงดินที่ยืนสำรวจรถอยู่หน้าบ้านเอ่ยถามเมื่อเห็นเด็กสาวเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก "ให้ลุงไปส่งไหมครับ""ไม่เป็นไรค่ะลุงดิน หนูไปเองดีกว่า" เมษาระบายยิ้มให้ลุงดินบาง ๆ แล้วเดินออกไปยืนรอรถที่โทรเรียกหน้ารั้วบ้านรอไม่นานรถก็มาถึง ที่ที่เธอจะไปก็คือห้างนั่นเองเพื่อซื้อของขวัญให้สาริกาสำหรับวันเกิดของท่านในวันพรุ่งนี้ ความจริงเธอไม่ได้อยากจะซื้อให้สักนิด แต่ติดที่เธออยู่ในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้หากไม่มีอะไรมอบให้ว่าที

    Last Updated : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 17 เป็นอิสระ1

    บนถนนใหญ่ที่มุ่งตรงสู่บ้านวณิชกาญจนโชติมีรถสองคันวิ่งไล่กันมาติด ๆ คันหนึ่งเป็นรถแท็กซี่ที่เมษานั่งอยู่ ส่วนคันที่วิ่งตามหลังเป็นรถของเจ้านายเสียงแตรจากรถของชายหนุ่มที่ไล่บี้รถหญิงสาวดังมาตลอดทางเป็นเชิงส่งสัญญาณให้รถเธอจอด เมษาได้ยินและรู้ว่าเป็นรถชายหนุ่มที่ตามมา แล้วเธอจะจอดให้โง่เหรออุตส่าห์หนีมาได้แล้วแท้ ๆ ยิ่งบอกคนขับแท็กซี่ให้ขับเร็วขึ้น เธอต้องกลับไปถึงบ้านให้เร็วที่สุดเท่านั้นเพราะในเวลานี้คงมีแค่สาริกาที่ปกป้องเธอจากคนที่กำลังโกรธจนบ้าระห่ำได้"หนูรู้จักคนที่กำลังขับรถไล่ตามมาใช่ไหม" แท็กซี่วัยกลางคนถามไถ่ด้วยความสงสัยระคนร้อนใจด้วยกลัวว่าจะเกิดปัญหาเหมือนที่เคยดูในข่าว"รู้จักค่ะ เขาเป็นญาติหนูเอง" เมษาเลือกโกหกเพราะไม่อยากพูดอะไรมากมายกว่านี้ ขณะนั้นก็คอยหันมองรถชายหนุ่มไปด้วยตอนนี้เธอแทบนั่งไม่ติด จิตใจมันรุ่มร้อนยิ่งกว่าไฟเสียอีกอยากจะกลับถึงบ้านไว ๆ "ลุงขับเร็วกว่านี้ได้ไหมคะ""เร็วกว่านี้ลุงกลัวจะอันตราย" คนขับแท็กซี่บอกกล่าวเมษาจึงทำให้แค่พยายามสงบจิตสงบใจไว้ สองมือน้อย ๆ บนหน้าตักประสานเข้าหากันแน่นด้วยความลุ้นระทึกทุกวินาทีหัวใจดวงน้อยยิ่งกระหน่ำเต้นหนักกว่าเด

    Last Updated : 2025-02-13

Latest chapter

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   The end

    “อ๊ะ!” เมษาหลับตาพริ้มเมื่อแก่นกายหนาค่อย ๆ สอดใส่ผ่านปากทางรัก ฝากฝังความเป็นชายของเขาเข้ามาถึงครึ่งลำอย่างรวดเร็วจากหยาดน้ำหวานเปียกชื้นที่ทำหน้าที่แทนสารหล่อลื่นลำกายหนาชำแรกผ่านม่านความเจ็บปวดที่ตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่ง เพียงไม่กี่วินาทีขนาดอันใหญ่โตก็ถูกโอบอุ้มด้วยความอบอุ่นจากร่างกายของหญิงสาวที่ตอนนี้ตัวสั่นเกร็งอย่างห้ามไม่อยู่“ฮึก..” เมษากัดริมฝีปาก ใบหน้าหวานเชิดขึ้นสูงเมื่อคนตัวโตทิ้งน้ำหนักลงจนร่างกายเบียดแนบกันไร้ช่องว่าง“เจ็บไหมคะ?” เจ้านายกระซิบถามเสียงต่ำขณะโน้มตัวลงจูบซับไปตามใบหน้าเรียว“เจ็บนิดหน่อยค่ะ..แต่ทนไหว” หญิงสาวตอบเสียงอ้อนอาจเป็นเพราะห่างหายมานาน และขนาดที่ใหญ่โตของชายหนุ่มเลยทำให้รู้สึกเจ็บน้อย ๆ ทว่าแม้จะเจ็บแต่เธอก็ไม่อยากให้เขาแยกจากเลยแม้แต่วินาทีเดียว สองมือเรียวจิกผ้าปูที่นอนระบายความเจ็บที่เคล้าระคนไปกับความเสียวซ่านจนแทบจะแยกไม่ออก เสียงลมหายใจหนัก ๆ ที่ข้างใบหูทำให้เลือดในกายของเธอสูบฉีด ในที่สุดเธอก็ปรับตัวได้ “พี่จะขยับแล้วนะ” เจ้านายกระซิบ สอดผสานฝ่ามือของเขาและเธอเข้าด้วยกัน กดลงที่เหนือศีรษะเล็กแล้วเริ่มขยับ ในจังหวะแรกเนิบนาบและมั่นคง

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 90 รักนะ

    @โรงแรมภายในห้องทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกเปิดไฟดาวน์ไลท์หน้าห้องน้ำเอาไว้ ให้ความสว่างเพียงสลัว ๆ เท่านั้น กลิ่นอโรม่าลอยจาง ๆ ในอากาศทำให้บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อย เดินมาถึงห้องนอนเมษาก็อดหัวใจเต้นแรงไม่ได้เมื่อเห็นบนเตียงนอนสีขาวที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นรูปหัวใจตรงกลางถูกโรยเป็นตัวอักษรคำว่า 'พี่นายรักน้องเมย์'ตรงปลายเตียงมีผ้าขนหนูที่ถูกทำเป็นรูปหงส์สองตัวหันหน้าเข้าหากันมันเหมือนเตียงสำหรับคู่บ่าวสาวชัด ๆ สมองพานก่อเกิดภาพแสนลามกขึ้นมา"ชอบไหมครับ" เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกคนตัวโตสอดแขนเข้ามาโอบกอดเอวคอดจากด้านหลังพร้อมกับน้ำเสียงสุดเซ็กซี่ที่ดังชิดกกหูตามมาด้วยลมหายใจร้อนผะผ่าวทำขนกายเธอลุกซู่ ในท้องรู้สึกปั่นป่วนแปลก ๆ"ชอบค่ะ เหมือนเตียงในเรือนหอบ่าวสาวเลย" ใบหน้าเรียวที่เคลือบด้วยรอยยิ้มแสนหวานเอียงขึ้นมองสบสายตาร่างสูงด้านหลัง"งั้นเรามาเข้าหอกันไหมครับ" ได้ทีเจ้านายก็ชวนทำเรื่องอย่างว่าทั้งที่สัญญาดิบดีว่าแค่นอนกอดเฉย ๆ เอาจริง ๆ ที่พูดแบบนั้นเขาก็แค่หลอล่อคนตัวเล็กเขาของขาดมาตั้งไม่รู้กี่เดือนจะให้ทนไหวได้อย่างไรกัน แน่นอนว่าเมษาเองรู้ทันคนตัวโตอย่างที่รู้ ๆ กันดีทั้งเธอแล

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 89 คืนดี

    หลังจากคืนดีกันสิ่งแรกที่เจ้านายทำคือพาหญิงสาวไปเดท เขาเลือกร้านอาหารที่เป็นร้านโปรดของเธอ เขาอยากให้เธอประทับใจที่สุดกับการกลับมาเริ่มต้นใหม่เพราะที่ผ่านมาการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ดีเท่าไรนัก ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าไม่ดีมาก ๆ..แต่นี่สินะที่คนโบร่ำโบราณกล่าวไว้ว่าเกลียดสิ่งไหนมักได้สิ่งนั้นวันนี้เขากล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารักผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสุดหัวใจ รักแบบไม่คิดว่าจะรักได้มากขนาดนี้"อย่ามองแบบนี้สิคะ เมย์เขินนะ" เมษาที่ถูกชายหนุ่มจ้องมองแทบจะกลืนกินถึงกับหน้าแดงระเรื่อออกอาการเขินจนเก็บไม่อยู่ บ่อยครั้งที่ถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้แต่อย่างที่บอกว่าเธอก็ไม่เคยต้านทานมันได้สักทียิ่งหลังจากกลับมาคืนดีกันเขาก็ใช้สายตาแบบนี้แทบทุกวันแทบทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน แค่นั้นไม่พอเขายังติดสกินชิพเธอชนิดที่ว่าเหมือนกาวตราช้างก็ไม่ปราน วันแรกที่ตกลงคืนดีกันเขาก็ไปแสดงตัวว่าเป็นแฟนเธอที่มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบเธอกะว่าจะไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอเลยสิ แต่บอกตามตรงว่าแทนที่จะไม่พอใจเธอกับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่เขาแสดงความหึงหวงออกมา และกล้าจะเป

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 88 ให้โอกาส

    วันต่อมา.."อรุณสวัสดิ์ครับน้องเมย์"เสียงทักทายดังขึ้นเหนือศีรษะทำเมษาที่กำลังลืมตาตื่นถึงกับตาเบิกโพลงอาการง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เธอดีดตัวลุกขี้นนั่งอัตโนมัติเมื่อเงยขึ้นเห็นคนตัวโตนั่งพิงหัวเตียง และกำลังจับจ้องมาที่เธอ สองคิ้วสวยขมวดมุ่นจำได้ว่าเมื่อคืนเธอนั่งทำรายงานจนดึกจึงเข้านอน โดยตอนที่เธอเข้านอนชายหนุ่มยังฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ แต่ไหง่เช้านี้ตื่นมาเขาถึงอยู่บนเตียงได้ แล้วเขาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร"คุณขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไร" ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยเปล่งเสียงถามตรง ๆ "ราวตีสองได้แล้วครับ นอนตรงนั้นแล้วปวดเมื่อยไปทั้งตัวพี่เลยมานอนบนเตียง" เจ้านายเอ่ยเสียงอ่อนพลางส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้หญิงสาวด้วยกลัวว่าเธอจะโกรธ ที่เขาพูดไปไม่ใช่คำแก้ตัว แต่รู้สึกปวดหลังปวดขาจริง ๆ จึงมานอนที่เตียงกับเธออย่างถือวิสาสะใบหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวเธอโกรธ ทว่าเมษากลับแอบอมยิ้ม ในสายตาเขาเธอดุมากเลยหรือถึงให้ออกอาการขนาดนี้ เจ้านายคนใจร้ายหายไปไหนเสียแล้ว เธออยากจะหัวเราะออกมา แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้"ฉันเข้าใจ คนแก่ก็แบบนี้แหละปวดหลังปวดนู่นปวดนี่ป็นธรรมดาจะไม่ถือโทษแล้วกัน" เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 87 ส่วนลึกในใจ

    "ซี๊ดด.."เจ้านายซูดปากออกมาเบา ๆ ในตอนที่กำลังหยัดกายลุกขึ้นยืน มือกอบกุมหน้าท้องแกร่งเอาไว้ ใบหน้าเหยเกคล้ายคนกำลังเจ็บปวด เมษาเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ "คุณเป็นอะไร""พี่รู้สึกปวดท้องนิดหน่อยครับ"พอฟังคำตอบเธอก็เดาได้ทันทีว่าที่ชายหนุ่มปวดท้องน่าจะเพราะทานอาหารที่เธอทำมากเกินไป สิ่งที่แอบกังวลก็เป็นจริงถึงเธอจะตั้งใจแกล้ง แต่ก็ไม่ได้อยากให้เขาถึงขั้นเจ็บตัว"ไปหาหมอไหม" ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทว่าคนตัวโตกลับส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับเดินกอบกุมท้องออกไปยังห้องโถงเดินมาหย่อนก้นนั่งที่โซฟาโดยมีเมษาเดินตามมาติด ๆ ด้วยรู้สึกเป็นห่วงต่อให้เขาบอกว่าปวดท้องนิดหน่อยก็ตาม"แน่ใจจริง ๆ นะว่าจะไม่ไปหาหมอ" เดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้าง ๆ แล้วถามย้ำอีกครั้ง "ฉันว่าไปหาหมอดีกว่า"ใบหน้าเรียวและดวงตากลมแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างปิดไม่มิดเจ้านายเห็นก็แอบหัวใจพองโตถือว่าที่เขาทนทานอาหารรสชาติแย่จนเกลี้ยงไม่เสียเปล่าอย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าหญิงสาวยังมีความรู้สึกต่อเขาไม่มากก็น้อยไม่อย่างนั้นคงไม่มีท่าทีเป็นห่วงแบบนี้"แน่ใจครับ ไม่ได้เจ็บมากเดี๋ยวก็คงหายไปเอง" เขาระบายยิ้มออกมาบาง ๆ สายตาจ้องมองใ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 86 ค่าดอกไม้2

    เจ้านายเดินไปหย่อนก้นนั่งที่โซฟาในห้องโถง ขณะที่เมษาเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อเอาของไว้ แล้วลงมายังชั้นล่างอีกครั้ง"ฉันจะไปทำกับข้าว คุณนั่งรอก่อน" บอกกล่าวกับร่างสูงที่นั่งบนโซฟาแล้วเดินเข้าไปในครัว แต่เมื่อมาถึงเธอกลับบอกให้แม่บ้านทำเมนูต่างให้ สวนปรุงรสเธอจะเป็นคนปรุงเองสั่งเสร็จก็นั่งบนเก้าอี้แถวนั้นรอแม่บ้านทำอาหาร แม่บ้านห้าคนเร่งทำเมนูอาหารที่หญิงสาวสั่งพัลวัน ใช้เวลาราวยี่สิบนาทีก็เสร็จเหลือเพียงให้คนเป็นเจ้านายมาปรุงรส"มาปรุงรสได้เลยค่ะคุณหนู" แม่บ้านคนหนึ่งบอกกล่าว เมษาจึงลุกเดินไปยื่นหน้าเตาที่วางเรียงกันสี่อัน ก่อนจะยื่นมือไปหยิบขวดน้ำส้มสายชูมาบีบใส่ผัดผักรวมในกระทะ ตามด้วยหม้อแกงอีกสามหม้อ จากนั้นก็หยิบขวดเกลือมาเปิดฝาเหยาะใส่ต่อสร้างความงุนงงให้เหล่าแม่บ้านที่ยืนมองอยู่ด้านหลังไม่น้อย ต่างพากันมองหน้าไปมาเพราะจะทักท้วงก็ไม่กล้าเมษยกยิ้มร้ายมุมปากพลางไล่สายตามองกับข้าวบนเตา เธอใช้แค่น้ำส้มสายชูกับเกลือปรุงรสด้วยนึกหมั่นไส้คนตัวโตจึงอยากแกล้งเขา ดูสิยังจะบอกว่าได้ทานข้าวกับคนที่รักอร่อยอยู่ไหม"เสร็จแล้วจัดโต๊ะได้เลยนะคะ แล้วก็ทอดไข่เจียวให้เมย์สักสองฟองด้วยนะคะ" เธอ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 85 ค่าดอกไม้1

    แป๊บเดียวเวลาก็ผ่านมาสามเดือนเต็มแล้วที่เจ้านายตามง้อเมษา และเหมือนความพยายามของเขาจะออกผลบ้างแล้วเพราะเธอดูอ่อนลง ยอมรับอะไร ๆ ที่เขาคอยทำให้บ้างแม้จะไม่ทุกอย่างก็ตามเจ้านายมารอรับหญิงสาวเหมือนเช่นทุกวัน ที่แตกต่างไปคงเป็นกุหลาบสีแดงช่อโตที่วางบนเบาะข้างคนขับ เขาขับรถผ่านร้านดอกไม้แล้วนึกถึงเธอจึงตั้งใจซื้อมาให้ ได้แต่หวังว่าเธอจะชอบ และไม่โยนทิ้งถังขยะเขานั่งรอในรถจนเห็นเธอเดินมาจึงเปิดประตูลงจากรถ เดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับรอ"เชิญครับคุณผู้หญิง" เธอเดินมาถึงก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานพลางโน้มตัวผายมือเชื้อเชิญขึ้นรถ"ขอบคุณ" เมษาเอ่ยตามมารยาท ในวินาทีที่กำลังจะก้าวขึ้นไปนั่งบนรถแล้วเห็นช่อดอกไม้วางอยู่บนเบาะเธอก็ต้องชะงักสองคิ้วขมวดมุ่น ก่อนจะหันไปมองร่างสูงที่ยืนยิ้มแฉ่งเชิงตั้งคำถาม"ชอบไหมครับ พี่เห็นมันสวยดีเลยนึกถึงน้องเมย์" เจ้านายบอกกล่าวพลางมองช่อดอกไม้สลับกับใบหน้าแสนสวย "พี่ตั้งใจซื้อมาให้เลยนะครับ"เมษาไม่ได้พูดอะไรอีก ยื่นมือไปหยิบช่อดอกไม้มาถือไว้แล้วก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ ก่อนจะวางช่อดอกไม้บนตักเจ้านายเห็นแบบนั้นก็ใจชื่นหน่อยเพราะแอบลุ้นอย่างหนักว่าเธอจะรับไหม หรือร

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 84 แม่เจ้าพระคุณทูนหัว

    เมษารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหลังจากนอนหลับเต็มอิ่มแล้ว สองคิ้วสวยพลันขมวดมุ่นเข้าหากันเมื่อปรือตาขึ้นพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดคนตัวโตหนำซ้ำเธอยังกอดเขาอยู่เช่นกัน ใบหน้าชิดใกล้กับแผงอกแกร่งที่หลบซ่อนภายใต้เสื้อยืดสีดำจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจอีกฝ่าย และได้กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเขา เธอเผลอสูดดมเข้าปอดพรืดใหญ่ ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าคมคายที่อยู่ห่างเพียงนิด มือยกขึ้นสัมผัสบนแก้มเกลี้ยงเกลาเบา ๆ นานแล้วสินะที่เธอไม่ได้มอง และได้อยู่ใกล้ ๆ เขาแบบนี้อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้จริง ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอโคตรคิดถึงและโหยหาเขาเลย แต่ก็ทำได้แค่อดทนอดกลั้นความรู้สึกเอาไว้แม้เขาทำเธอเจ็บ แต่เธอก็ยังรู้สึกดีเวลาที่ได้รับความอบอุ่นจากอ้อมกอดนี้เพราะเขาเป็นคนที่เข้ามาเติมเต็มความรักความอบอุ่นที่ขาดหายจากผู้เป็นพ่อให้กับเธอภายนอกเธอแสดงออกไปเหมือนยังโกรธเขาอยู่ ทว่าจริง ๆ หัวใจของเธอมันอ่อนไหวไปแล้วเพียงแค่พยายามฝืนตัวเองไว้เท่านั้นเธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ สายตายังคงจับจ้องใบหน้าคมคายไม่วาง เนิ่นนานหลายนาทีก่อนจะหลับตาลงพร้อมกับซุกหน้าเข้าหาอกแกร่งใช้โอกาสที่คนตัวโตหลับซึมซับความอบอุ่นที่โหย

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 83 ซึมซับช่วงเวลาดีๆ

    @ร้านอาหารครึ่งชั่วโมงต่อมาเมษาก็ต้องมานั่งหน้าบูดบึ้งอยู่ที่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งแทนที่จะได้กลับบ้านก็เพราะคนหน้ามึนอย่างชายหนุ่มพามาน่ะสิทั้งที่เธอบอกแล้วว่าไม่หิวไม่อยากกิน แต่เขาก็ไม่ฟังพามาจนได้เธอนั่งกอดอกมองอาหารมากกว่าห้าอย่างด้วยแววตาขุ่นเคือง ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นเมนูโปรดเธอทั้งนั้นถามว่าใครสั่งก็คนที่พามานั่นแหละ คิดว่าแค่จำเมนูอาหารทุกอย่างที่เธอชอบทานได้จะทำให้เธอใจอ่อนงั้นหรือบอกเลยไม่มีทาง"พี่สั่งของโปรดน้องเมย์ทั้งนั้นเลยนะครับ ทานสิ" เจ้านายเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อเห็นคนตัวเล็กเอาแต่นั่งทำหน้าคว่ำ มือกอดอก สายตามองมาอย่างไม่พอใจราวกับเด็กน้อย"ก็บอกแล้วไงว่าไม่หิว อยากกินก็กินไปคนเดียวสิ" เมษาตอบเสียงขุ่นพลางสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นไม่อยากจะมองหน้าคนใจร้าย"ไม่หิวจริง ๆ เหรอครับ ของโปรดน้องทั้งนั้นเลยนะ" ไม่ว่าเปล่าเจ้านายยังยกจานปูผัดผงกะหรี่ไปใกล้ใบหน้าเรียวยั่วความอยากของเธอด้วยกลิ่นหอม ๆกลิ่นหอมของผงกะหรี่ลอยอบอวลแตะจมูกทำเมษาลอบกลืนน้ำลายลงคอดังอึก จากที่หิวอยู่แล้วก็ยิ่งหิวเข้าไปอีก ทว่าเธอยังคงเก็บอาการได้ดี"ก็บอกว่าไม่หิวไง" หันกลับมามองคนตัวโตตาขวา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status