Share

บทที่ 16 กัดไม่ปล่อย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-13 20:29:08

จากเหตุการณ์ในคืนนั้นเป็นเวลาหนึ่งเดือน ๆ เต็ม ๆ ที่เมษาต้องอยู่อย่างหวาดระแวง จะขยับตัวหรือทำอะไรก็เหมือนถูกจับจ้องตลอดเวลา 

และเธอยังถูกชายหนุ่มรังแก พูดจาเหยียดหยามทุกครั้งที่มีโอกาส บอกตามตรงว่าเธอไม่มีความสุขเอาเสียเลย ขนาดจะไปหาแม่กับน้องสาวก็ยังไม่ได้ไปเพราะกลัวความลับแตกทำได้แค่โทรถามข่าวคราว

เธอตั้งใจว่าจะคุยกับสาริกาอีกครั้งเพราะนี่ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่เจ้านายกับส้มเลิกกัน และไม่มีทีท่าว่าทั้งสองจะหวนกลับมาคบกันอีก ซึ่งมันน่าจะมั่นใจได้แล้ว

เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะสลัดความคิดอันหนักอึ้งออก แล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไหล่เดินลงไปยังชั้นล่าง

"คุณลียาจะไปไหนครับ" ลุงดินที่ยืนสำรวจรถอยู่หน้าบ้านเอ่ยถามเมื่อเห็นเด็กสาวเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก "ให้ลุงไปส่งไหมครับ"

"ไม่เป็นไรค่ะลุงดิน หนูไปเองดีกว่า" เมษาระบายยิ้มให้ลุงดินบาง ๆ แล้วเดินออกไปยืนรอรถที่โทรเรียกหน้ารั้วบ้าน

รอไม่นานรถก็มาถึง ที่ที่เธอจะไปก็คือห้างนั่นเองเพื่อซื้อของขวัญให้สาริกาสำหรับวันเกิดของท่านในวันพรุ่งนี้ 

ความจริงเธอไม่ได้อยากจะซื้อให้สักนิด แต่ติดที่เธออยู่ในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้หากไม่มีอะไรมอบให้ว่าที่แม่ยายเลยคงจะดูแปลก ๆ ไปหน่อย

เธอเดินเลือกซื้อของอยู่ในห้างนานเกือบสองชั่วโมงก็ได้เป็นน้ำหอมแบรนด์ดังที่เธอเห็นสาริกาชอบใช้อยู่บ่อย ๆ ราคาแรงไม่เบาจนแอบเสียดายเงินเหมือนกันถึงแม้เงินที่ใช้ไปจะเป็นเงินสาริกาก็ตาม

"ถ้าเอาไปใช้ เอาไปใช้ซื้ออย่างอื่นได้ตั้งเยอะ" เธอพึมพำพลางมองถุงน้ำหอมแบรนด์ดังอย่างนึกเสียดาย ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ 

"คุณเจ้านาย!"

วินาทีที่กำลังจะก้าวเท้าออกจากช็อปเมษาก็ต้องใจหล่นวูบ หน้าถอดสีเพราะสายตาดันเหลือบไปเห็นเจ้านายที่กำลังเดินอยู่ไม่ไกลจากที่เธอยืนมากนัก และดูเหมือนว่าชายหนุ่มก็หันมาเห็นเธอเข้าพอดี

"ลียา.." เจ้านายหน้านิ่วคิ้วขมวดทันทีที่เห็นหน้าหญิงสาว จากอารมณ์ดี ๆ ก็ขุ่นมัว ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาทุกข์ใจมีหน้ามาเดินช้อปปิ้งอย่างมีความสุขมันน่าโกรธยิ่งนักแล้วคิดหรือว่าเขาจะยอม

คนที่ทำลายชีวิตคนอื่นพังไม่มีสิทธิ์จะมีความสุขสักนิดเดียวด้วยซ้ำ

เขาก้าวตรงไปที่หญิงสาวด้วยความเร็วไม่สนใจผู้ช่วยคนสนิทที่มากับตัวเองสักนิด ในขณะที่เมษารีบสับเท้าเดินหนีด้วยความเร็วเช่นกันใครจะอยู่รอให้เขามาหยุมหัวกันล่ะ 

สายตาหันมองร่างสูงที่เดินทำหน้ายักษ์เป็นระยะ พลางพยายามเดินไปที่กลุ่มผู้คนพลุกพล่านหวังว่าจะบดบังการมองเห็นของอีกคนได้บ้าง 

'แต่ให้ตายสิ' เธอสบถในใจอีกคนตามไม่ยอมลดละเลยสักนิดแม้เธอพยายามหลบหลีกเพียงใดก็ไม่พ้นสายตาแหลมคมที่จ้องเธอไม่คาดสายตานั่นเลย

เธอเดินหนีเขาเดินตามอยู่แบบนั้นหากเป็นแบบนี้ต่อไปต้องแย่แน่ ๆ ดวงตากลมสอดส่องมองหาทางหนีทีไล่อย่างร้อนรน

มองเห็นด้านหน้าเป็นชั้นวางของซับซ้อนเริ่มมีความหวังขึ้นมา สองเท้าน้อย ๆ รีบเดินหลบเข้าไปด้วยความเร็ว เดินย่อตัวลัดเลาะไปตามช่องทางเล็กกระทั่งมาโผล่ที่ประตูเหล็กบานไม่ใหญ่มากนัก มีป้ายเขียนไว้เฉพาะพนักงานเท่านั้น

รอยยิ้มแห่งความดีใจผุดขึ้นบนใบหน้าเรียวเธอหนีรอดแล้ว ไม่รอช้ารีบเปิดประตูออกไปทันที

"เฮ้อ..เกือบไปแล้วไหมล่ะ" พอก้าวพ้นประตูก็พ่นลมหายใจหนัก ๆ พลางยกมือขึ้นลูบอกที่กระหน่ำเต้นด้วยความโล่งใจ แล้วรีบก้าวเท้าเดินออกไปจากตรงนั้น

ระหว่างเดินก็หันมองหลังเป็นระยะ ๆ ด้วยกลัวว่าอีกคนจะตามมาอีก และจังหวะนั้นเองทำให้เธอชนเข้ากับอะไรบางอย่างจัง ๆ 

ปึก!

"โอ๊ะ..!" 

แรงชนทำให้ตัวเธอเซถอยหลังเล็กน้อย ทว่าเมื่อหันกลับมามองดวงตากลมก็ต้องเบิกกว้าง หัวใจดวงน้อยหล่นวูบสู่ตาตุ่มเพราะคนที่เธอวิ่งหนีแทบตายยืนจ้องเขม็งอยู่

"คะ..คุณ" เขามาโผล่ที่นี่ได้ยังไงแล้วมาตั้งแต่เมื่อไรความสงสัยผุดในสมองพร้อมความหวั่นใจ สองเท้าเล็กขยับหมายจะวิ่งหนีตามสัญชาตญาณ แต่ก็ไม่ทัน

เจ้านายตวัดมือจับท่อนแขนคนที่กำลังตั้งท่าวิ่งหนีด้วยความเร็ว แล้วกระชากตัวเธอเข้าหา แววตาแข็งกร้าวจับจ้องใบหน้าเรียวเขม็ง

"เธอหนีฉันไม่พ้นรอดลียา อย่าพยายามให้เหนื่อยเปล่าเพราะไม่ว่าเธอจะหนียังไงฉันก็จะตาม ตามเป็นเจ้ากรรมนายเวรเธอ อย่าหวังจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเลย"

"ปล่อยนะ ปล่อยสิ" นาทีนี้เมษาไม่ได้ฟังที่ชายหนุ่มพูดใส่หน้าสักนิดพยายามคิดหาวิธีเอาตัวมากกว่า มือทั้งสองยกขึ้นดันร่างสูงพัลวัน สร้างความรำคาญให้อีกคนไม่น้อยจนเขาต้องจับมือทั้งสองของเธอไว้ ออกแรงบีบจนใบหน้าเรียวเหยเก

เมษาทั้งเจ็บและกลัว แต่ก็ทำใจดีสู้เสือแหงนหน้าขึ้นมองสบแววตาแข็งกร้าว ขณะพยายามบิดข้อมือให้หลุดจากการจับกุม

"ถ้าไม่ปล่อยฉันจะร้องให้คนช่วย" ปากอิ่มพูดขู่ฟ่อทั้งที่ในใจโคตรหวั่น และไม่มั่นใจสักนิดว่ามันจะใช้ได้ผลไหมเพราะบริเวณที่ยืนอยู่เป็นลานจอดรถที่ค่อนข้างอับแสง และไร้ผู้คน

"เธอก็ลองแหกปากดูสิลียา" เสียงทุ้มเอ่ยลอดไรฟัน ดวงตาแข็งกร้าวจ้องใบหน้าเรียวราวกับจะเฉือนเนื้อแล้หนังเธอออกเป็นชิ้น ๆ 

คนถูกข่มขู่ด้วยสายตาหัวใจสั่นไหวอย่างหนัก แต่พยายามเก็บอาการไว้ หากไม่สู้ก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะทำยังไงกับเธอ

แววตาหวาดหวั่นมองสบนัยน์ตาแข็งกร้าวเสี้ยวนาที ก่อนเสมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นคนก็ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือพลางพยายามสะบัดมือออกจากการจับกุม

"ช่วยด้วยค่ะ ผะ.." 

ตะโกนได้ไม่ทันไรเสียงก็ถูกกลืนหายไปในลำคอด้วยฝีมือของชายหนุ่มที่กระชากท้ายทอยเธอเข้าไปประกบจูบปิดปาก มือข้างหนึ่งของเขากดท้ายทอยแน่นจนไม่สามารถพาหน้าหนีได้ ขณะที่มืออีกข้างเปลี่ยนเป็นกอดรัดเอวคอดไว้

"อื้อ.." เธอพยายามดีดดิ้นสุดแรงพลางรัวกำปั้นทุบตีผลักไสอกแกร่ง แต่นอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้วกลับยิ่งถูกเขากดจูบแรงขึ้นจนแทบทรงตัวไม่อยู่ 

ความรู้สึกเจ็บแปลบแผ่ซ่านไปทั่วริมฝีปากในตอนที่ฟันคมขบกัด กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ลอยคลุ้งแตะจมูก เธอเจ็บน้ำตาคลอเบ้ายิ่งออกแรงผลักไสอกแกร่งมากกว่าเดิม

เจ้านายไม่ได้สะทกสะท้านกับแรงผลักไสจากร่างบางสักนิด ยิ่งระบายอารมณ์ด้วยการขบกัดกลีบปากอิ่มแรงขึ้น ก่อนจะผละออกมองใบหน้าเรียวเขม็งพลางคลายมือจากท้ายทอยเล็กทุยมาปาดเลือดจากริมฝีปากอีกคนที่เลอะติดปากเขาอยู่

เลื่อนสายตาลงมองรอยเลือดที่ติดปลายนิ้วเสี้ยวนาที แล้วช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าเรียวต่อ

"โกรธมากเหรอ?" มุมปากหยักเหยียดยิ้มเย้ยหยันเมื่อได้เห็นแววตาไหวระริกที่จับจ้องหน้าเขาด้วยความโกรธ แต่กลับทำอะไรไม่ได้

"ฉันผิดก็จริง แต่คุณไม่เห็นต้องทำกันถึงขนาดนี้" เมษามองสบแววตาเย้ยหยันแล้วเอ่ยออกไป ขณะที่มือข้างหนึ่งออกแรงดันอกแกร่งหวังผลักร่างสูงให้ออกห่าง อีกมือเช็ดปากไปมาแรง ๆ 

"แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำลียาเมื่อเทียบกับความผิดที่เธอทำ หากไม่ใช่เพราะเธอป่านนี้ฉันกับคนรักคงจะได้แต่งงาน และใช้ชีวิตครอบครัวอย่างมีความสุขไปแล้ว"

"ฉัน..."

เมษาถึงกับพูดไม่ออก แววตาที่มองใบหน้าคมคายด้วยความโกรธเปลี่ยนเป็นไหวเอนด้วยความรู้สึกผิด แม้ที่ผ่านมาภายนอกเธอจะดูเหมือนไม่ได้สึกอะไรกับสิ่งที่ทำลงไป แต่ใครจะรู้เลยว่าความรู้สึกผิดบาปมันกัดกินใจเธอตลอดเวลา

ไม่เคยสบายใจ หรือมีความสุขเลยสักวัน

"ไม่ต้องมาเสแสร้งแกล้งตีหน้าเหมือนรู้สึกผิดลียา มันไม่ได้ช่วยทำให้ฉันใจอ่อน ยังไงเธอก็ต้องชดใช้สิ่งที่ทำไว้" 

ว่าจบเจ้านายก็ฉุดกระชากร่างบางบังคับให้เดินตามไปที่รถ 

"ปล่อยนะ คุณจะพาฉันไปไหน" คนถูกลากพยายามดิ้นรนหนีสุดแรง ทั้งสะบัดมือหวังให้หลุดพ้นการจับกุมทั้งขืนตัวไม่เดินตาม กลับไร้ผลแรงของชายหนุ่มมันเยอะจนเธอต่อต้านไม่ไหวตัวลอยไปตามแรงลากอย่างง่ายดาย

มาถึงรถหรูที่จอดอยู่เจ้านายก็เปิดประตูหมายจะยัดร่างบางเข้าไปในรถ แต่อีกคนกลับขัดขืนก้มกัดมือหนาที่จับกุมอยู่อย่างแรง พร้อมทั้งยกเท้าแตะเข้ากลางหว่างขาเขา

"อึก.."

โดนกัดที่มือไม่เท่าไรแต่โดนแตะเฉียดกลางเป้าเล่นเอาเจ้านายจุกจนตัวงอ ต้องใช้มือข้างหนึ่งจับขอบประตูรถที่อ้าออกพยุงตัวไว้ อีกมือกอบกุมเจ้าลูกชายสุดห่วงแน่น 

สายตาตวัดมองไปยังร่างบางที่วิ่งหนีไปยืนไกล ๆ ด้วยความโมโหสุดขีด

"ลียา!"

นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่หญิงสาวทำให้เขาเจ็บตัว และคราวนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยผ่านไปเหมือนครั้งก่อนแน่ ๆ 

เมษารู้เต็มอกว่าทำแบบนี้ยิ่งจะทำให้ชายหนุ่มโกรธแค้นเธอเพิ่มขึ้นไปอีก แต่หากเธอไม่สู้เอาตัวรอดก็ไม่รู้เลยว่าครั้งนี้จะถูกเขาลากไปทำอะไรมิดีมิร้ายหรือเปล่าเพราะเคยมีตัวอย่างมาแล้ว

เธอต้องทำเพื่อป้องกันตัว..

"ฉันขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำคุณเจ็บนะ แต่ฉันต้องป้องกันตัวเอง" เธอเปล่งเสียงขอโทษไปแม้รู้ว่ามันไม่ช่วยอะไรเลย ก่อนจะรีบหันหลังเดินกึ่งวิ่งออกจากลานจอดรถไปด้วยความเร็ว

เจ้านายมองตามร่างบางที่วิ่งหนีไปด้วยแววตาหมายมาดแรงกล้าพร้อมทุบหลังคารถหรูอย่างแรงระบายอารมณ์ไม่สนในว่ารถจะบุบสลายหรือไม่ จากนั้นก็เดินดุ่ม ๆ ไปขึ้นฝั่งคนขับ

สตาร์ทเครื่องเหยียบคันเร่งขับออกจากลานจอดด้วยความเร็วเพื่อตามอีกคนไป ยังไงวันนี้เขาต้องจัดการเธอให้ได้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 17 เป็นอิสระ1

    บนถนนใหญ่ที่มุ่งตรงสู่บ้านวณิชกาญจนโชติมีรถสองคันวิ่งไล่กันมาติด ๆ คันหนึ่งเป็นรถแท็กซี่ที่เมษานั่งอยู่ ส่วนคันที่วิ่งตามหลังเป็นรถของเจ้านายเสียงแตรจากรถของชายหนุ่มที่ไล่บี้รถหญิงสาวดังมาตลอดทางเป็นเชิงส่งสัญญาณให้รถเธอจอด เมษาได้ยินและรู้ว่าเป็นรถชายหนุ่มที่ตามมา แล้วเธอจะจอดให้โง่เหรออุตส่าห์หนีมาได้แล้วแท้ ๆ ยิ่งบอกคนขับแท็กซี่ให้ขับเร็วขึ้น เธอต้องกลับไปถึงบ้านให้เร็วที่สุดเท่านั้นเพราะในเวลานี้คงมีแค่สาริกาที่ปกป้องเธอจากคนที่กำลังโกรธจนบ้าระห่ำได้"หนูรู้จักคนที่กำลังขับรถไล่ตามมาใช่ไหม" แท็กซี่วัยกลางคนถามไถ่ด้วยความสงสัยระคนร้อนใจด้วยกลัวว่าจะเกิดปัญหาเหมือนที่เคยดูในข่าว"รู้จักค่ะ เขาเป็นญาติหนูเอง" เมษาเลือกโกหกเพราะไม่อยากพูดอะไรมากมายกว่านี้ ขณะนั้นก็คอยหันมองรถชายหนุ่มไปด้วยตอนนี้เธอแทบนั่งไม่ติด จิตใจมันรุ่มร้อนยิ่งกว่าไฟเสียอีกอยากจะกลับถึงบ้านไว ๆ "ลุงขับเร็วกว่านี้ได้ไหมคะ""เร็วกว่านี้ลุงกลัวจะอันตราย" คนขับแท็กซี่บอกกล่าวเมษาจึงทำให้แค่พยายามสงบจิตสงบใจไว้ สองมือน้อย ๆ บนหน้าตักประสานเข้าหากันแน่นด้วยความลุ้นระทึกทุกวินาทีหัวใจดวงน้อยยิ่งกระหน่ำเต้นหนักกว่าเด

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 18 เป็นอิสระ2

    สาริกากับประวีที่กำลังพักผ่อนอยู่บนห้องได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กสาวจนต้องรีบพากันลงมาดู แล้วก็ได้เห็นว่าบุตรชายกำลังกอดรัดเด็กสาวอยู่"เจ้านายลูกทำอะไร ปล่อยน้องเดี๋ยวนี้นะ!" เธอทั้งตกใจและไม่ชอบใจในเวลาเดียวกันที่บุตรชายใกล้ชิดเด็กสาว แต่ยังตีหน้าทำเหมือนเป็นห่วงเด็กสาวรีบเดินเข้าไปดึงตัวบุตรชายออกโดยมีคนเป็นสามียืนมองเงียบ ๆ แต่มีหรือเจ้านายจะยอมปล่อยง่าย ๆ ในเมื่อเขาจับหญิงสาวได้แล้ว"แม่อย่ามายุ่ง ยังไงวันนี้ผมก็จะจัดการเธอให้ได้" เขาจ้องหน้าผู้เป็นแม่เขม็งพลางสลัดแขนออกจากการดึงรั้งของท่าน ขณะที่อีกข้างจับมือหญิงสาวไว้แน่น"ปล่อยนะคุณเจ้านาย" เมษาเองพยายามแกะมือหนาออกจากข้อมือพัลวันพร้อมกับสาริกาที่ไม่ยอมละความพยายามจะแยกบุตรชายออกจากเด็กสาว"แม่บอกให้ปล่อยน้องเจ้านาย มีอะไรค่อยคุยกัน""ผู้หญิงอย่างลียาคุยดีด้วยไม่ได้หรอกครับ"ภายในห้องนั่งเล่นเกิดความวุ่นวายจากการเยื้อยุด และเสียงถกเถียงของสองคนแม่ลูก และไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ ขณะที่คนกลางอย่างเมษาตัวเซถลาไปมาแทบจะล้มแล้ไม่ล้มแล้อยู่หลายครั้งจากการแรงเยื้อยุดสุดท้ายประวีที่ยืนมองเหตุการณ์ก็ทนดูไม่ไหวต้องเป็นคนห้ามศึกทั้งที

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 19 ความจริงเปิดเผย1

    วันต่อมาภายในบ้านดูจะวุ่นวายไปเสียหมดเพราะทุกคนยุ่งกับการจัดงานวันเกิดของสาริกา รวมถึงเมษาด้วยที่ไม่อยู่นิ่งเฉยช่วยงานจนตัวเป็นเกลียว คิดเสียว่าเป็นการส่งท้ายก่อนเธอจะออกจากบ้านหลังนี้งานวันเกิดสาริกาถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตทุกปีเพราะครอบครัวของเธอค่อนข้างมีหน้ามีตาทางสังคม บวกด้วยสาริกาที่เป็นคนชอบโอ้อวดเป็นทุกเดิมอยู่แล้วด้วยจึงน้อยหน้าใคร ๆ ไม่ได้ใช้เวลากับการจัดสถานที่บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน และจัดเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม ขนมเสร็จก็เย็นพอดีเมษาจึงหลบขึ้นห้องพักผ่อนและคิดว่าคืนนี้คงไม่ไปร่วมงานแค่ช่วยแม่บ้านเตรียมอาหารในครัวก็พอเพราะพอพรุ่งนี้เช้าเธอก็จะไปจากที่นี่ทันทีไม่มีความจำเป็นต้องแสดงละครอีกต่อไป สาริกาเองก็ไม่ได้สั่งอะไรเมื่อถึงเวลาเริ่มงานแขกเหรื่อเริ่มทยอยกันมาเมษาก็อาบน้ำแต่งตัว โดยเสื้อผ้าที่เธอเลือกสวมใส่วันนี้เป็นเสื้อยืดคอกลมสีขาวธรรมดากับกระโปรงผ้าซาตินสีชมพูอ่อนยาวถึงกลางขาดูเรียบร้อยและอ่อนหวานในคราวเดียวกันใบหน้าแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางบางเบาให้ดูไม่จืดชืดจนเกินไป เธอไม่ได้แต่งหรูหรา แต่ก็ไม่ได้แต่งจนดูเหมือนไม่ให้เกียรติเจ้าของงานอย่างสาริกาเธอยืนสำรวจความเรีย

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 20 ความจริงเปิดเผย2

    "ส่วนนี้คุณหญิงสิณีกับหนูดีเจ้านาย ภรรยาเจ้าสัวเกริกศักดิ์" เสียงแม่ดังทบโสตประสาททำให้เจ้านายหลุดจากภวังค์ความคิด ดึงสายตาไปมองทั้งสองคนตรงหน้า แล้วยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนตามมารยาท สวนทางกับใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มไร้ความยินดีทำคนทั้งสองที่ยิ้มร่าถึงกับหน้าเจื่อนรับรู้ได้ว่าชายหนุ่มคงไม่อยากรู้จักพวกเธอสักเท่าดูจากปฏิกิริยาที่แสดงออกมาสาริกาเองก็รับรู้ได้เกรงว่าปล่อยไว้บรรยากาศจะไม่ราบรื่นจึงเชื้อเชิญให้สองแม่ลูกไปนั่งยังโต๊ะที่จัดเตรียมไว้ให้ ก่อนไปก็มิวายส่งสายตาตำหนิบุตรชายเธออุตส่าห์แนะนำให้บุตรชายรู้จักกับผู้หญิงที่เพรียบพร้อม และเหมาะสมกับตัวเองทุกอย่างเพื่ออนาคตจะได้เกี่ยวดองกัน แต่บุตรชายกลับทำเสียแผนหมดถามว่าเจ้านายสะท้านกับสายตาตำหนิคนเป็นแม่ไหมตอบเลยว่าไม่ เดินไปนั่งดื่มเครื่องดื่มข้างคนเป็นพ่อหน้าตาเฉยสาริกาจึงต้องเป็นฝ่ายสะกดกลั้นอารมณ์เสียเองไม่อยากทำให้บรรยากาศในวันเกิดเสีย ครั้นส่งสองแม่ลูกถึงโต๊ะก็เดินกลับมานั่งกับสามีและลูก ทำเป็นพูดคุยหัวเราะกับทั้งสองอย่างมีความสุขให้คนในงานอิจฉา ทั้งที่ความรู้สึกตรงกันข้ามเธอหงุดสองคนพ่อลูกมากกว่าที่ไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลยทุกอย่

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 21 ชดใช้ยังไง1

    "เฮ้อ.."เมษาลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าเขตห้องครัวเพราะเมื่อกี้ตอนออกไปเติมของที่โต๊ะข้างนอก เหลือบเห็นว่าชายหนุ่มนั่งจ้องด้วยสายตาแทบจะกินหัวตลอดเวลา แต่เธอแสร้งทำไม่เห็นรีบเติมของแล้วรีบเข้ามาเธออยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็ว ๆ แล้วสิ.."เป็นอะไรคะน้องลี" รสที่เห็นสีหน้าเหนื่อย ๆ ของหญิงสาวอดถามไถ่ไม่ได้ ทั้งที่ตอนออกไปดูปกติดี"ปะ..""อ๊ะ..".ไม่ทันได้ตอบคำถามเมษาก็ต้องหลุดร้องด้วยแรงกระชากรุนแรงจากด้านหลัง ตัวเธอหมุนติ้วเข้าปะทะร่างเจ้าของการกระทำเต็ม ๆ ท่ามกลางสายตาของแม่บ้านที่ตกใจเจ้านายไม่พูดพร่ำทำเพลงพอจับหญิงสาวได้ก็ลากให้เธอเดินตามไปทางประตูหลังครัว"ปล่อยนะคุณเจ้านาย คุณจะพาฉันไปไหน" เมษาพยายามขัดขืนสะบัดมือออกจากการจับกุมพร้อมทั้งหันส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากเหล่าแม่บ้านไปด้วย แต่ไม่มีใครกล้าเข้ายุ่งเพราะเห็นว่าเจ้านายกำลังโกรธมาก "โอ้ย!" เมษาถูกฉุดกระชากแรงขึ้นจนตัวปลิว หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความหวาดหวั่นเมื่อถูกฉุดกระชากเข้าสู่บริเวณทางเดินบ้านพักของแม่บ้านที่มีเพียงแสงสว่างส่องเล็กน้อย บรรยากาศเงียบสงัดจนดูวังเวง"คุณเจ้านาย คุณจะพาฉันไปไ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 22 ชดใช้ยังไง2

    "..."เมษากลับเงียบพร้อมก้มหน้าหลบสายตากดดันเธอไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดยังไงดี อีกทั้งยังรู้สึกกลัวและกังวลไปหมด นั่นทำให้เจ้านายไม่คิดจะอดทนอีกต่อไปผละตัวออกจากร่างบาง "งั้นก็ไปพูดกับลียาตัวจริงเองแล้วกัน แต่เธอคงไม่ได้โง่จนไม่รู้ใช่ไหมว่าการสวมรอยเป็นคนอื่นมันผิดกฎหมาย หากลียาตัวจริงรู้ว่าตัวเองถูกสวมรอยแล้วไปแจ้งความจับเธอเข้าคุกใครหน้าไหนก็คงช่วยเธอไม่ได้" พูดขู่ด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมทั้งยื่นมือไปจับข้อมือเล็กทำท่าลากเธอออกไปจากบ้าน จงใจแสดงให้หญิงสาวเห็นว่าเขาพูดจริงทำจริงเธอจะได้เลิกปากแข็งสักทีและมันได้ผล.."มะ..ไม่นะ"เมษารีบสะบัดมือออกจากการจับกุมวิ่งไปยืนห่าง ๆ ร่างสูงด้วยกลัวว่าจะถูกเขาจับไปส่งลียา สายตาจ้องมองใบหน้าคมคายด้วยความรู้สึกกลัวและกังวลสองมือน้อย ๆ ขย้ำกระโปรงตัวยาวแน่นจนฝ่ามือเริ่มชื้นไปด้วยเหงื่อตลอดจนถึงไรผม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะภายในบ้านมันร้อน หรือเพราะความกดดันกันแน่ เธอลอบกลืนน้ำลายลงลำคอแห้งผากดังอึก ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดยาว ๆ เรียกความกล้าบอกกล่าวไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิวแทบจะขาดหาย"ฉันชื่อ..เมษา..""แล้วเธอมาสวมรอยเป็นลียาทำไม ต้องการอะไร"พอมาถึงคำถามนี้เม

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 23 เมษยา เอริซันท์

    กลับมาถึงบ้านเจ้านายก็พบว่าแขกเหรื่อทยอยกันกลับหมดแล้ว เหลือเพียงแม่บ้านที่ช่วยกันเก็บสถานที่"พ่อกับแม่ฉันอยู่ไหน" เปล่งเสียงถามแม่บ้านเมื่อได้รับคำตอบว่าทั้งสองนั่งอยู่ในบ้านก็รีบเดินเข้าหาไป"เจ้านาย" สาริกาที่นั่งใจจดใจจ่อรอบุตรชายอยู่ในห้องโถงรีบลุกพรวดไปหาบุตรชายทันทีเธอร้อนรนใจยิ่งนักหลังรู้จากแม่บ้านว่าบุตรชายฉุดกระชากลากถูเด็กสาวออกไปทางหลังครัว แต่ไม่รู้ว่าไปไหนกันเพราะไม่มีใครกล้าตามไปดู"แล้วเมษาล่ะ ลูกพาเมษาไปไว้ที่ไหน แล้วลูกทำอะไรเธอรึเปล่า" ยิงคำถามใส่ระรัวเมื่อไม่เห็นเด็กสาวกลับมาด้วย กลัวว่าบุตรชายจะทำอะไรแผลง ๆนาทีนี้เธอเรียกเด็กสาวว่าเมษาได้เต็มปากเต็มคำเพราะความจริงถูกเปิดเผยแล้วไม่จำเป็นให้สวมรอยเป็นลียาอีกต่อไป"หึ" เจ้านายเค้นหัวเราะในลำคอเบา ๆ พอได้เห็นท่าทางร้อนรนจนปิดไม่มิดของผู้เป็นแม่ แต่เขาเลือกไม่ตอบคำถามท่านถามถึงเรื่องอื่นแทน"ลียากับครอบครัวกลับไปแล้วเหรอครับ" "เจ้านายแม่ถามลูกอยู่นะ ลูกจะพูดเรื่องอื่นทำไม" สาริกายิ่งร้อนรนจนเผลอขึ้นเสียงใส่บุตรชายถามว่าเจ้านายสะทกสะท้านไหมตอบเลยว่าไม่ มองสบแววตาขุ่นมัวคนเป็นแม่นิ่ง ๆ แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ยอมอ่อนข้

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-25
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 24 ในโอวาท1

    ผ่านไปเพียงวันเดียวเท่านั้นประวัติของหญิงสาวกับครอบครัวก็มาวางตรงหน้าเจ้านายเขายกยิ้มมุมปากอย่างพอใจพลางยื่นมือไปหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลที่ผู้ช่วยนำมาให้เปิดอ่าน'เมย์ เมษยา เอริซันท์ ลูกครึ่งไทยฝรั่งเศล อายุยี่สิบสองปี จบการศึกษามัธยมปีที่สาม บิดาชื่ออเล็กซ์ เอริซันท์ มารดาชื่อจัน หอมนวล'"แค่นี้?"ครั้นอ่านจบก็เงยหน้าขึ้นเลิกคิ้วถามผู้ช่วยต่อเพราะที่เขาอยากรู้ไม่ใช่แค่ประวัติพื้นฐาน แต่ต้องการรู้ถึงความเป็นมาของชีวิตเธอละเอียดได้เท่าไรยิ่งดีสิ้นเสียงถามผู้ช่วยคนสนิทก็รีบเอ่ยรายงานทันทีถ้าชักช้ากลัวจะถูกผู้เป็นนายกินหัวเอา "นักสืบไปสืบแถวบ้านที่คุณเมษาเคยอยู่คนแถวนั้นบอกว่าคุณเมษากำพร้าพ่อตั้งแต่เด็กครับ อายุเธอได้สองเดือนพ่อเธอก็บินกลับประเทศจากนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย แม่ของเธอต้องทำงานเลี้ยงเธอคนเดียวมาตลอด กระทั่งหลายปีผ่านไปแม่ของเธอก็แต่งงานใหม่ และมีลูกด้วยกันหนึ่งคนชื่อมายด์เป็นโรคหัวใจตีบมาตั้งแต่เด็กต้องหาหมอตลอด""ยังไงต่อ""ชาวบ้านบอกว่าพ่อเลี้ยงคุณเมษาเป็นคนไม่ดีครับทั้งติดผู้หญิง ติดเหล้า ติดการพนัน เงินที่ได้จากการทำงานก็เอาไปเล่นพนันหมดบางครั้งไม่พอจ่ายยังไถ่จากแม่ของเธ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-25

Bab terbaru

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   The end

    “อ๊ะ!” เมษาหลับตาพริ้มเมื่อแก่นกายหนาค่อย ๆ สอดใส่ผ่านปากทางรัก ฝากฝังความเป็นชายของเขาเข้ามาถึงครึ่งลำอย่างรวดเร็วจากหยาดน้ำหวานเปียกชื้นที่ทำหน้าที่แทนสารหล่อลื่นลำกายหนาชำแรกผ่านม่านความเจ็บปวดที่ตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่ง เพียงไม่กี่วินาทีขนาดอันใหญ่โตก็ถูกโอบอุ้มด้วยความอบอุ่นจากร่างกายของหญิงสาวที่ตอนนี้ตัวสั่นเกร็งอย่างห้ามไม่อยู่“ฮึก..” เมษากัดริมฝีปาก ใบหน้าหวานเชิดขึ้นสูงเมื่อคนตัวโตทิ้งน้ำหนักลงจนร่างกายเบียดแนบกันไร้ช่องว่าง“เจ็บไหมคะ?” เจ้านายกระซิบถามเสียงต่ำขณะโน้มตัวลงจูบซับไปตามใบหน้าเรียว“เจ็บนิดหน่อยค่ะ..แต่ทนไหว” หญิงสาวตอบเสียงอ้อนอาจเป็นเพราะห่างหายมานาน และขนาดที่ใหญ่โตของชายหนุ่มเลยทำให้รู้สึกเจ็บน้อย ๆ ทว่าแม้จะเจ็บแต่เธอก็ไม่อยากให้เขาแยกจากเลยแม้แต่วินาทีเดียว สองมือเรียวจิกผ้าปูที่นอนระบายความเจ็บที่เคล้าระคนไปกับความเสียวซ่านจนแทบจะแยกไม่ออก เสียงลมหายใจหนัก ๆ ที่ข้างใบหูทำให้เลือดในกายของเธอสูบฉีด ในที่สุดเธอก็ปรับตัวได้ “พี่จะขยับแล้วนะ” เจ้านายกระซิบ สอดผสานฝ่ามือของเขาและเธอเข้าด้วยกัน กดลงที่เหนือศีรษะเล็กแล้วเริ่มขยับ ในจังหวะแรกเนิบนาบและมั่นคง

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 90 รักนะ

    @โรงแรมภายในห้องทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกเปิดไฟดาวน์ไลท์หน้าห้องน้ำเอาไว้ ให้ความสว่างเพียงสลัว ๆ เท่านั้น กลิ่นอโรม่าลอยจาง ๆ ในอากาศทำให้บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อย เดินมาถึงห้องนอนเมษาก็อดหัวใจเต้นแรงไม่ได้เมื่อเห็นบนเตียงนอนสีขาวที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นรูปหัวใจตรงกลางถูกโรยเป็นตัวอักษรคำว่า 'พี่นายรักน้องเมย์'ตรงปลายเตียงมีผ้าขนหนูที่ถูกทำเป็นรูปหงส์สองตัวหันหน้าเข้าหากันมันเหมือนเตียงสำหรับคู่บ่าวสาวชัด ๆ สมองพานก่อเกิดภาพแสนลามกขึ้นมา"ชอบไหมครับ" เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกคนตัวโตสอดแขนเข้ามาโอบกอดเอวคอดจากด้านหลังพร้อมกับน้ำเสียงสุดเซ็กซี่ที่ดังชิดกกหูตามมาด้วยลมหายใจร้อนผะผ่าวทำขนกายเธอลุกซู่ ในท้องรู้สึกปั่นป่วนแปลก ๆ"ชอบค่ะ เหมือนเตียงในเรือนหอบ่าวสาวเลย" ใบหน้าเรียวที่เคลือบด้วยรอยยิ้มแสนหวานเอียงขึ้นมองสบสายตาร่างสูงด้านหลัง"งั้นเรามาเข้าหอกันไหมครับ" ได้ทีเจ้านายก็ชวนทำเรื่องอย่างว่าทั้งที่สัญญาดิบดีว่าแค่นอนกอดเฉย ๆ เอาจริง ๆ ที่พูดแบบนั้นเขาก็แค่หลอล่อคนตัวเล็กเขาของขาดมาตั้งไม่รู้กี่เดือนจะให้ทนไหวได้อย่างไรกัน แน่นอนว่าเมษาเองรู้ทันคนตัวโตอย่างที่รู้ ๆ กันดีทั้งเธอแล

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 89 คืนดี

    หลังจากคืนดีกันสิ่งแรกที่เจ้านายทำคือพาหญิงสาวไปเดท เขาเลือกร้านอาหารที่เป็นร้านโปรดของเธอ เขาอยากให้เธอประทับใจที่สุดกับการกลับมาเริ่มต้นใหม่เพราะที่ผ่านมาการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ดีเท่าไรนัก ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าไม่ดีมาก ๆ..แต่นี่สินะที่คนโบร่ำโบราณกล่าวไว้ว่าเกลียดสิ่งไหนมักได้สิ่งนั้นวันนี้เขากล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารักผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสุดหัวใจ รักแบบไม่คิดว่าจะรักได้มากขนาดนี้"อย่ามองแบบนี้สิคะ เมย์เขินนะ" เมษาที่ถูกชายหนุ่มจ้องมองแทบจะกลืนกินถึงกับหน้าแดงระเรื่อออกอาการเขินจนเก็บไม่อยู่ บ่อยครั้งที่ถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้แต่อย่างที่บอกว่าเธอก็ไม่เคยต้านทานมันได้สักทียิ่งหลังจากกลับมาคืนดีกันเขาก็ใช้สายตาแบบนี้แทบทุกวันแทบทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน แค่นั้นไม่พอเขายังติดสกินชิพเธอชนิดที่ว่าเหมือนกาวตราช้างก็ไม่ปราน วันแรกที่ตกลงคืนดีกันเขาก็ไปแสดงตัวว่าเป็นแฟนเธอที่มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบเธอกะว่าจะไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอเลยสิ แต่บอกตามตรงว่าแทนที่จะไม่พอใจเธอกับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่เขาแสดงความหึงหวงออกมา และกล้าจะเป

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 88 ให้โอกาส

    วันต่อมา.."อรุณสวัสดิ์ครับน้องเมย์"เสียงทักทายดังขึ้นเหนือศีรษะทำเมษาที่กำลังลืมตาตื่นถึงกับตาเบิกโพลงอาการง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เธอดีดตัวลุกขี้นนั่งอัตโนมัติเมื่อเงยขึ้นเห็นคนตัวโตนั่งพิงหัวเตียง และกำลังจับจ้องมาที่เธอ สองคิ้วสวยขมวดมุ่นจำได้ว่าเมื่อคืนเธอนั่งทำรายงานจนดึกจึงเข้านอน โดยตอนที่เธอเข้านอนชายหนุ่มยังฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ แต่ไหง่เช้านี้ตื่นมาเขาถึงอยู่บนเตียงได้ แล้วเขาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร"คุณขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไร" ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยเปล่งเสียงถามตรง ๆ "ราวตีสองได้แล้วครับ นอนตรงนั้นแล้วปวดเมื่อยไปทั้งตัวพี่เลยมานอนบนเตียง" เจ้านายเอ่ยเสียงอ่อนพลางส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้หญิงสาวด้วยกลัวว่าเธอจะโกรธ ที่เขาพูดไปไม่ใช่คำแก้ตัว แต่รู้สึกปวดหลังปวดขาจริง ๆ จึงมานอนที่เตียงกับเธออย่างถือวิสาสะใบหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวเธอโกรธ ทว่าเมษากลับแอบอมยิ้ม ในสายตาเขาเธอดุมากเลยหรือถึงให้ออกอาการขนาดนี้ เจ้านายคนใจร้ายหายไปไหนเสียแล้ว เธออยากจะหัวเราะออกมา แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้"ฉันเข้าใจ คนแก่ก็แบบนี้แหละปวดหลังปวดนู่นปวดนี่ป็นธรรมดาจะไม่ถือโทษแล้วกัน" เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 87 ส่วนลึกในใจ

    "ซี๊ดด.."เจ้านายซูดปากออกมาเบา ๆ ในตอนที่กำลังหยัดกายลุกขึ้นยืน มือกอบกุมหน้าท้องแกร่งเอาไว้ ใบหน้าเหยเกคล้ายคนกำลังเจ็บปวด เมษาเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ "คุณเป็นอะไร""พี่รู้สึกปวดท้องนิดหน่อยครับ"พอฟังคำตอบเธอก็เดาได้ทันทีว่าที่ชายหนุ่มปวดท้องน่าจะเพราะทานอาหารที่เธอทำมากเกินไป สิ่งที่แอบกังวลก็เป็นจริงถึงเธอจะตั้งใจแกล้ง แต่ก็ไม่ได้อยากให้เขาถึงขั้นเจ็บตัว"ไปหาหมอไหม" ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทว่าคนตัวโตกลับส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับเดินกอบกุมท้องออกไปยังห้องโถงเดินมาหย่อนก้นนั่งที่โซฟาโดยมีเมษาเดินตามมาติด ๆ ด้วยรู้สึกเป็นห่วงต่อให้เขาบอกว่าปวดท้องนิดหน่อยก็ตาม"แน่ใจจริง ๆ นะว่าจะไม่ไปหาหมอ" เดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้าง ๆ แล้วถามย้ำอีกครั้ง "ฉันว่าไปหาหมอดีกว่า"ใบหน้าเรียวและดวงตากลมแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างปิดไม่มิดเจ้านายเห็นก็แอบหัวใจพองโตถือว่าที่เขาทนทานอาหารรสชาติแย่จนเกลี้ยงไม่เสียเปล่าอย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าหญิงสาวยังมีความรู้สึกต่อเขาไม่มากก็น้อยไม่อย่างนั้นคงไม่มีท่าทีเป็นห่วงแบบนี้"แน่ใจครับ ไม่ได้เจ็บมากเดี๋ยวก็คงหายไปเอง" เขาระบายยิ้มออกมาบาง ๆ สายตาจ้องมองใ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 86 ค่าดอกไม้2

    เจ้านายเดินไปหย่อนก้นนั่งที่โซฟาในห้องโถง ขณะที่เมษาเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อเอาของไว้ แล้วลงมายังชั้นล่างอีกครั้ง"ฉันจะไปทำกับข้าว คุณนั่งรอก่อน" บอกกล่าวกับร่างสูงที่นั่งบนโซฟาแล้วเดินเข้าไปในครัว แต่เมื่อมาถึงเธอกลับบอกให้แม่บ้านทำเมนูต่างให้ สวนปรุงรสเธอจะเป็นคนปรุงเองสั่งเสร็จก็นั่งบนเก้าอี้แถวนั้นรอแม่บ้านทำอาหาร แม่บ้านห้าคนเร่งทำเมนูอาหารที่หญิงสาวสั่งพัลวัน ใช้เวลาราวยี่สิบนาทีก็เสร็จเหลือเพียงให้คนเป็นเจ้านายมาปรุงรส"มาปรุงรสได้เลยค่ะคุณหนู" แม่บ้านคนหนึ่งบอกกล่าว เมษาจึงลุกเดินไปยื่นหน้าเตาที่วางเรียงกันสี่อัน ก่อนจะยื่นมือไปหยิบขวดน้ำส้มสายชูมาบีบใส่ผัดผักรวมในกระทะ ตามด้วยหม้อแกงอีกสามหม้อ จากนั้นก็หยิบขวดเกลือมาเปิดฝาเหยาะใส่ต่อสร้างความงุนงงให้เหล่าแม่บ้านที่ยืนมองอยู่ด้านหลังไม่น้อย ต่างพากันมองหน้าไปมาเพราะจะทักท้วงก็ไม่กล้าเมษยกยิ้มร้ายมุมปากพลางไล่สายตามองกับข้าวบนเตา เธอใช้แค่น้ำส้มสายชูกับเกลือปรุงรสด้วยนึกหมั่นไส้คนตัวโตจึงอยากแกล้งเขา ดูสิยังจะบอกว่าได้ทานข้าวกับคนที่รักอร่อยอยู่ไหม"เสร็จแล้วจัดโต๊ะได้เลยนะคะ แล้วก็ทอดไข่เจียวให้เมย์สักสองฟองด้วยนะคะ" เธอ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 85 ค่าดอกไม้1

    แป๊บเดียวเวลาก็ผ่านมาสามเดือนเต็มแล้วที่เจ้านายตามง้อเมษา และเหมือนความพยายามของเขาจะออกผลบ้างแล้วเพราะเธอดูอ่อนลง ยอมรับอะไร ๆ ที่เขาคอยทำให้บ้างแม้จะไม่ทุกอย่างก็ตามเจ้านายมารอรับหญิงสาวเหมือนเช่นทุกวัน ที่แตกต่างไปคงเป็นกุหลาบสีแดงช่อโตที่วางบนเบาะข้างคนขับ เขาขับรถผ่านร้านดอกไม้แล้วนึกถึงเธอจึงตั้งใจซื้อมาให้ ได้แต่หวังว่าเธอจะชอบ และไม่โยนทิ้งถังขยะเขานั่งรอในรถจนเห็นเธอเดินมาจึงเปิดประตูลงจากรถ เดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับรอ"เชิญครับคุณผู้หญิง" เธอเดินมาถึงก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานพลางโน้มตัวผายมือเชื้อเชิญขึ้นรถ"ขอบคุณ" เมษาเอ่ยตามมารยาท ในวินาทีที่กำลังจะก้าวขึ้นไปนั่งบนรถแล้วเห็นช่อดอกไม้วางอยู่บนเบาะเธอก็ต้องชะงักสองคิ้วขมวดมุ่น ก่อนจะหันไปมองร่างสูงที่ยืนยิ้มแฉ่งเชิงตั้งคำถาม"ชอบไหมครับ พี่เห็นมันสวยดีเลยนึกถึงน้องเมย์" เจ้านายบอกกล่าวพลางมองช่อดอกไม้สลับกับใบหน้าแสนสวย "พี่ตั้งใจซื้อมาให้เลยนะครับ"เมษาไม่ได้พูดอะไรอีก ยื่นมือไปหยิบช่อดอกไม้มาถือไว้แล้วก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ ก่อนจะวางช่อดอกไม้บนตักเจ้านายเห็นแบบนั้นก็ใจชื่นหน่อยเพราะแอบลุ้นอย่างหนักว่าเธอจะรับไหม หรือร

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 84 แม่เจ้าพระคุณทูนหัว

    เมษารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหลังจากนอนหลับเต็มอิ่มแล้ว สองคิ้วสวยพลันขมวดมุ่นเข้าหากันเมื่อปรือตาขึ้นพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดคนตัวโตหนำซ้ำเธอยังกอดเขาอยู่เช่นกัน ใบหน้าชิดใกล้กับแผงอกแกร่งที่หลบซ่อนภายใต้เสื้อยืดสีดำจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจอีกฝ่าย และได้กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเขา เธอเผลอสูดดมเข้าปอดพรืดใหญ่ ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าคมคายที่อยู่ห่างเพียงนิด มือยกขึ้นสัมผัสบนแก้มเกลี้ยงเกลาเบา ๆ นานแล้วสินะที่เธอไม่ได้มอง และได้อยู่ใกล้ ๆ เขาแบบนี้อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้จริง ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอโคตรคิดถึงและโหยหาเขาเลย แต่ก็ทำได้แค่อดทนอดกลั้นความรู้สึกเอาไว้แม้เขาทำเธอเจ็บ แต่เธอก็ยังรู้สึกดีเวลาที่ได้รับความอบอุ่นจากอ้อมกอดนี้เพราะเขาเป็นคนที่เข้ามาเติมเต็มความรักความอบอุ่นที่ขาดหายจากผู้เป็นพ่อให้กับเธอภายนอกเธอแสดงออกไปเหมือนยังโกรธเขาอยู่ ทว่าจริง ๆ หัวใจของเธอมันอ่อนไหวไปแล้วเพียงแค่พยายามฝืนตัวเองไว้เท่านั้นเธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ สายตายังคงจับจ้องใบหน้าคมคายไม่วาง เนิ่นนานหลายนาทีก่อนจะหลับตาลงพร้อมกับซุกหน้าเข้าหาอกแกร่งใช้โอกาสที่คนตัวโตหลับซึมซับความอบอุ่นที่โหย

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 83 ซึมซับช่วงเวลาดีๆ

    @ร้านอาหารครึ่งชั่วโมงต่อมาเมษาก็ต้องมานั่งหน้าบูดบึ้งอยู่ที่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งแทนที่จะได้กลับบ้านก็เพราะคนหน้ามึนอย่างชายหนุ่มพามาน่ะสิทั้งที่เธอบอกแล้วว่าไม่หิวไม่อยากกิน แต่เขาก็ไม่ฟังพามาจนได้เธอนั่งกอดอกมองอาหารมากกว่าห้าอย่างด้วยแววตาขุ่นเคือง ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นเมนูโปรดเธอทั้งนั้นถามว่าใครสั่งก็คนที่พามานั่นแหละ คิดว่าแค่จำเมนูอาหารทุกอย่างที่เธอชอบทานได้จะทำให้เธอใจอ่อนงั้นหรือบอกเลยไม่มีทาง"พี่สั่งของโปรดน้องเมย์ทั้งนั้นเลยนะครับ ทานสิ" เจ้านายเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อเห็นคนตัวเล็กเอาแต่นั่งทำหน้าคว่ำ มือกอดอก สายตามองมาอย่างไม่พอใจราวกับเด็กน้อย"ก็บอกแล้วไงว่าไม่หิว อยากกินก็กินไปคนเดียวสิ" เมษาตอบเสียงขุ่นพลางสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นไม่อยากจะมองหน้าคนใจร้าย"ไม่หิวจริง ๆ เหรอครับ ของโปรดน้องทั้งนั้นเลยนะ" ไม่ว่าเปล่าเจ้านายยังยกจานปูผัดผงกะหรี่ไปใกล้ใบหน้าเรียวยั่วความอยากของเธอด้วยกลิ่นหอม ๆกลิ่นหอมของผงกะหรี่ลอยอบอวลแตะจมูกทำเมษาลอบกลืนน้ำลายลงคอดังอึก จากที่หิวอยู่แล้วก็ยิ่งหิวเข้าไปอีก ทว่าเธอยังคงเก็บอาการได้ดี"ก็บอกว่าไม่หิวไง" หันกลับมามองคนตัวโตตาขวา

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status