Beranda / วัยรุ่น / แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย / บทที่ 11 รับผิดชอบการกระทำ

Share

บทที่ 11 รับผิดชอบการกระทำ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-13 09:38:22

"เป็นยังไงบ้าง"

ทันทีที่เมษาย่างกรายเข้ามาถึงห้องโถงของบ้านวณิชกาญจนโชติเสียงของสาริกาที่นั่งอยู่ก็ถามไถ่ขึ้น 

เธอได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนเปล่งเสียงตอบพร้อมเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟาตัวตรงข้าม "คุณส้มไม่ได้พูดอะไรค่ะ แต่ฉันคิดว่าวิธีนี้น่าจะได้ผล"

"ก็ขอให้เป็นอย่างนั้น ฉันเหนื่อยและเอือมระอากับเรื่องนี้เต็มทนแล้ว" สาริกาเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจออกมา

"ทันทีที่คุณส้มยอมเลิกกับคุณเจ้านาย ฉันจะได้รับอิสระสามารถกลับไปอยู่กับแม่ และน้องสาวได้เลยใช่ไหมคะ" 

"ยัง..จนกว่าฉันจะแน่ใจว่าสองคนนั้นเลิกกันจริง ๆ เธอต้องอยู่เป็นไม้กันหมาสักระยะ"

"สักระยะนี่มันนานแค่ไหนคะ?" เมษาขมวดคิ้วมุ่น

"เธอจะถามอะไรเยอะแยะ ถึงเวลาก็รู้เองแหละ" 

สาริกาตวัดสายตามองหน้าเมษาที่เอาแต่ยิงคำถามไม่เลิกด้วยความรำคาญ ทำเอาคนถูกจ้องต้องรีบหลบสายตาพร้อมกับเอ่ยขอโทษไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิว "ขอโทษค่ะ"

ภายในห้องโถงถูกความเงียบเข้าปกคลุมนานนับนาที ก่อนสาริกาจะเอ่ยปากไล่เด็กสาวที่นั่งขวางหูขวางตา "จะไปไหนก็ไปไป" 

สิ้นเสียงไล่เมษาก็ลุกเดินคอตกขึ้นไปยังห้องนอนตัวเองทันที 

เธอทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรงอุตส่าห์หวังไว้ว่าทันทีที่ทำงานสำเร็จก็จะได้ออกไปจากบ้านหลังนี้ แต่ที่ไหนได้ต้องอยู่ต่อโดยไม่มีกำหนดแล้วเธอจะต้องอดทนไปจนถึงเมื่อไรกัน 

นี่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหากชายหนุ่มรู้ว่าเธอไปพูดเรื่องคืนนั้นกับแฟนของเขาเธอจะโดนเขาฆ่าไหมเพราะทุกวันนี้เขาก็จะเขมือบหัวเธอแทบทุกครั้งที่เจอกันแล้ว

"เฮ้อ..มันเป็นเวรกรรมอะไรของเธอนะเมษา" 

พอคิด ๆ ก็อดตัดพ้อชีวิตตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่จำความได้เธอก็ต้องพบเจอกับความลำบากตลอด ไม่รู้ว่าเมื่อไรฟ้าจะเมตตาดลบันดาลให้ชีวิตเธอสุขสบายอย่างคนอื่นเขาสักที

ไม่ต้องรวยมากก็ได้แค่มีบ้านอยู่ มีงานทำมั่นคง และมีกินมีใช้ก็พอ เธอนอนจมอยู่กับความคิดมากมายนานเกือบชั่วโมง ก่อนจะผล็อยหลับไปในที่สุด

ปัง! ปัง!

มาสะดุ้งตกใจตื่นก็ตอนที่ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าทุบประตูมากกว่าเพราะเสียงดังปังสนั่นหวั่นไหวไปหมดทำเอาเธอตาเหลือกตาลานลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจสุดขีด 

ขณะที่เสียงทุบประตูยังดังไม่ขาดสายตามด้วยน้ำเสียงเกี้ยวกราดของเจ้านาย "เปิดประตูเดี๋ยวนี้ลียา! ฉันบอกให้เปิดประตู"

บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าของเสียงกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน ไม่อยากคิดเลยว่าหากเปิดประตูออกไปจะต้องพบกับอะไรบ้างดูท่าแล้วไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต

"อึก.." 

เธอเผลอกลืนน้ำลายลงลำคออึกใหญ่พร้อมกับยกมือขึ้นทาบหัวใจที่เต้นแรงราวกับจะทะลุออกมานอกอกไว้ พยายามตั้งสติคิดว่าจะเอายังไงดีกับสถานการณ์ในตอนนี้ ดูทรงแล้วหากเธอไม่ยอมเปิดอีกคนก็คงไม่ยอมล่าถอย ดีไม่ดีอาจจะพังประตูเข้ามาด้วยซ้ำ

เสี้ยวนาทีต่อมาเธอก็ฉุกคิดอะไรขึ้นได้คนที่จะช่วยเธอได้คือสาริกาเท่านั้น แต่ก็น่าแปลกที่เสียงเคาะประตูดังสนั่นหวั่นไหวขนาดนี้ทำไมสาริกาถึงไม่มาดูว่าเกิดอะไรขึ้นจะว่าไม่ได้ยินก็คงไม่ใช่ หรือสาริกาจะไม่อยู่บ้าน 

คิดได้ดังนั้นเธอก็รีบหยิบมือถือที่วางบนหัวเตียงมาต่อสายหาสาริกาทันที แต่ก็ไร้การตอบรับจากปลายสายจึงกดโทรหาใหม่อีกครั้งด้วยหัวใจที่ลุ้นระทึก พลางภาวนาขอให้สาริการับสายเธอทีเถอะ

(โทรหาฉันมีอะไรเมษา) 

วินาทีที่ปลายสายกดรับแล้วถามไถ่มาพลอยทำให้เธอคลายความกลัวได้บ้างรีบบอกกล่าวปลายสายไปด้วยน้ำเสียงสั่น

"คุณสาริกาช่วยด้วยค่ะ ตอนนี้คุณเจ้านายมาทุบประตูห้องฉันใหญ่เลยคงรู้เรื่องที่ฉันไปคุยกับแฟนเขาแล้วแน่ ๆ ค่ะ ดูท่าเขาจะโกรธมาก ๆ เลยค่ะ"

(ตอนนี้ฉันออกมาธุระข้างนอก ยังไงเธอก็อยู่ในห้องนั่นแหละไม่ต้องเปิดประตูออกมาจนกว่าฉันจะกลับไป)

"แล้วเกิดคุณเจ้านายพังประตูเข้ามาล่ะคะ"

(เธอก็หาวิธีเอาตัวรอดไปก่อน แล้วฉันจะรีบกลับไป)

"ค่ะ" 

เมษาได้แต่ขานรับด้วยความจำใจ แล้วจึงกดวางสาย ตวัดสายตามองไปยังประตูด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น 

อ่า..ให้ตายสิแล้วเธอจะรอดไหมล่ะงานนี้กว่าจะสาริกาจะกลับมา...

ปัง!

ขณะที่กำลังนั่งวิตกกังวลเธอก็ต้องสะดุ้งโหยงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจเพราะเสียงประตูที่ดังอึกกระทึกครึกโครมราวกับฟ้าผ่า มันทั้งดังและสั่นกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่าเล่นเอาเธออกสั่นขวัญหายเข้าไปใหญ่

"ลียาเปิดประตูออกมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้ อย่าให้ฉันโมโหและหมดความอดทนกับเธอไปมากกว่านี้ เพราะหากฉันเปิดประตูเข้าไปได้จะไม่รับรองความปลอดภัยของเธอ"

ประโยคขมขู่ดังผ่านประตูเข้ามายิ่งทำให้เมษารู้สึกกลัวเป็นทวีคูณ เริ่มลังเลว่าจะเปิดให้เขาดีไหม ทว่าอีกใจก็แย้งขึ้นมาอย่าเปิดอย่าไปเชื่อคำขู่ของเขาเพราะฟังจากเสียงเกรี้ยวกราดที่ดังเข้ามาก็เดาได้แล้วว่าเขากำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หากเธอเปิดประตูออกไปจะเหลืออะไร

เธอนั่งคิดแล้วคิดอีก ก่อนจะรวบรวมความกล้าตะเบ็งเสียงตอบคนด้านนอกไป "ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ"

สิ้นเสียงของเธอก็ได้ยินเหมือนเสียงฝีเท้าคนเดินห่างออกไป ชายหนุ่มไปแล้วอย่างนั้นเหรอมันจะง่ายไปไหมเพื่อความแน่ใจเธอจึงเดินไปแนบหูฟังที่ประตู คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจดูเหมือนเขาจะไปแล้วจริง ๆ ทำไมมันง่ายจัง

แต่ก็ช่างเถอะเธอเลือกจะทิ้งความสงสัยแล้วเดินกลับไปหย่อนก้นนั่งริมเตียง พ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

แกร็ก!

โล่งใจได้ไม่ทันไรก็ต้องสะดุ้งตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงคล้ายคนกำลังปลดล็อกลูกบิด รีบหันไปมองทางประตูปรากฏว่าใช่จริง ๆ และก่อนที่เธอจะได้ทำอะไรประตูก็ถูกเปิดเข้ามาโดยเจ้านายนั่นเอง 

อ่า..ให้ตายเถอะเธอว่าแล้วเชียวทำไมเขาถึงไปง่าย ๆ ที่แท้ก็ไปเอากุญแจมาไขประตูนี่เองเธอพลาดที่ชะล่าใจเกินไป 

เห็นสีหน้าเกรี้ยวกราด แววตาทอประกายวาวโรจน์ที่จ้องมองมายังเธอราวกับจะเขมือบหัวนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าความฉิบหายมาเยือนแล้วไงล่ะ..

เธอทำใจดีสู้เสือแม้ในใจจะรู้สึกกลัวจนขึ้นสมองก็ตาม หยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเตรียมพร้อมสำหรับวิ่งหนีหากเห็นท่าไม่ดี ก่อนจะข่มน้ำเสียงไม่ให้สั่นเครือพูดออกไปให้เป็นปกติที่สุด 

"คุณมีอะไรงั้นเหรอคะ ถึงได้ลงทุนไขกุญแจเข้ามาในห้องฉันแบบนี้"

"เธออย่ามาทำตีหน้าซื่อไม่รู้เรื่องราวลียา ผู้หญิงอย่างเธอนี่มันดื้อด้าน ไร้ยางอายที่สุดอยากได้ฉันจนตัวสั่นจนสามารถทำได้ทุกอย่าง" 

เจ้านายชี้หน้าต่อว่าหญิงสาวด้วยความโกรธพร้อมทั้งก้าวเท้าเข้าหาเธอช้า ๆ เขาโกรธจนอยากจะขย้ำเธอให้แหลกคามือให้สมกับที่เธอทำความรักของเขากับแฟนสาวพัง 

เขากับแฟนสาวกำลังจะแต่งงานกันแล้วแท้ ๆ แต่ทุกอย่างก็ต้องพังคลืนลงมา แฟนสาวขอลดสถานะจากคนรักกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมแม้เขาพยายามพูดขอให้เธอเปลี่ยนใจแค่ไหนก็ไม่อาจเปลี่ยนใจแฟนสาวได้ 

เพราะผู้หญิงแพศยาอย่างลียาที่ไปบอกกับแฟนสาวของเขาว่าเธอกับเขาพลาดมีอะไรกัน หนำซ้ำยังมีรูปถ่ายไปให้แฟนสาวเขาดูอีก พอรู้แบบนี้ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเป็นฝีมือของเธอไม่อย่างนั้นเธอจะถ่ายรูปไว้ทำไมหากเมาแล้วพลาดมีอะไรกันจริง ๆ 

"ฉันไม่ได้อยากทำแบบนี้ แต่คุณบังคับให้ฉันต้องทำเองนะ" เมษาสวนกลับไปตามความจริง เธออยากจะบอกความจริงเขาไปเหลือเกินว่าคนที่ทำคือแม่เขาทั้งหมด แต่ก็พูดไม่ได้ 

สายตาจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยความรู้สึกผิดระคนหวาดกลัว เท้าก็เริ่มขยับถอยหลังหนีร่างสูงที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ 

"ยังมีหน้ามาโทษฉันอีกเหรอลียา เธอนี่มันเกินเยียวยาจริง ๆ" 

คำตอบกลับจากเมษาเหมือนกระตุ้นอารมณ์โกรธของเจ้านายให้ประทุยิ่งกว่าเก่า ขบกรามเข้าหากันแน่นจนเสียงดังกรอด ใบหน้าแดงก่ำลามไปจนถึงใบหู แววตาทอประกายวาวโรจน์แข็งกร้าวจนดูน่ากลัวทำอีกคนหัวใจกระตุกวูบ เสียวสันหลังแปลบเพราะเธอไม่เคยเห็นเขาโกรธมากขนาดนี้มาก่อน

ในใจร่ำร้องว่าตายแน่เมษางานนี้ เธอต้องถูกเขาฆาตกรรมแน่ ๆ สัญชาตญาณมันบอกให้เธอวิ่งหนีสิจะรอให้เขาฆ่าหรือไงกัน ไวเท่าความคิดสองเท้าเล็กก็ก้าวกระโดดขึ้นบนเตียง 

"อย่าคิดหนีลียา เธอต้องรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง" 

เจ้านายรีบพุ่งเข้าไปที่เตียงหมายจะจับร่างบางที่กำลังหนี แต่ก็พลาดไปอีกแค่นิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะจับข้อเท้าเล็กได้แล้วแต่อีกคนดันหลบทัน

เมษาสามารถวิ่งหนีชายหนุ่มลงมายืนที่ข้างเตียงอีกฝั่งได้สำเร็จ ก่อนจะหันไปสวนกลับร่างสูงด้วยน้ำเสียงหอบสั่น "ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องรับผิดชอบด้วย"

"เธอเป็นต้นเหตุทำให้ฉันกับคนรักต้องเลิกกัน จะไม่ผิดได้ยังไงเพราะเธอคนเดียวลียาไม่รู้สึกละอายแก่ใจ หรือรู้สึกผิดบาปบ้างเหรอที่ทำให้คนอื่นเขาเลิกกัน"

"คุณกับแฟนเลิกกันแล้วเหรอ" 

แทนที่เมษาจะรู้สึกสลดเมื่อได้รู้ว่าชายหนุ่มเลิกกับแฟนสาวแล้วเธอกลับแสดงท่าทางดีใจออกมาเพราะคิดว่าตัวเองกำลังจะได้รับอิสระจนลืมนึกถึงข้ออื่นไป 

ทว่าเพียงเสี้ยวนาทีที่นึกขึ้นได้กลับกลายเป็นความรู้สึกผิดเข้ามาแทนที่ ใบหน้าเรียวพลันเศร้าหมองลงทันใด สายตาจ้องมองร่างสูงที่ยืนข้างเตียงอีกฝั่งอย่างคนรู้สึกผิด

"ฉันขอโทษที่ทำให้คุณกับแฟนต้องเลิกกัน แต่ฉันมีเหตุผลที่ต้องทำ" ความรู้สึกผิดที่เปี่ยมล้นอยู่ในอกทำให้เธอกล่าวขอโทษอีกคนไป ใจเหม่อลอยนึกถึงภาพของส้มและบุตรสาวที่กำลังเล่นกับเจ้านายอย่างมีความสุข

ทั้งสามเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่เป็นเธอที่ทำให้ความสุขของคนทั้งสามพังลง ยิ่งตอกย้ำให้รู้สึกผิด และย้ำเตือนว่าเธอมันเลวมากแค่ไหน

น้ำตาแห่งความเสียใจค่อย ๆ เอ่อคลอดวงตาอย่างกลั้นไม่อยู่จนเธอต้องรีบยกมือขึ้นเช็ดพลางเชิดหน้าสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสะกดกลั้นก้อนน้ำตาเอาไว้

"นอกจากเธอจะหน้าด้าน ไร้ยางอายแล้วยังเสแสร้งแกล้งทำเก่งอีกด้วยนะลียา" 

สิ่งที่หญิงสาวแสดงออกมาเจ้านายกลับมองว่าเป็นการแสดง เขาไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะรู้สึกผิดจริง เพราะถ้าเธอมีจิตสำนึกคงไม่ทำเรื่องทุเรศแบบนี้

เมษาไม่คิดจะต่อปากต่อคำ หรือพูดอะไรอีกหันมองไปที่ประตูแล้วหันกลับมามองคนที่ยืนข้างเตียงอีกฝั่งเพื่อประมวลว่าหากวิ่งหนีออกไปจะถูกเขาจับได้ไหม 

ซึ่งเหมือนเจ้านายจะรู้ทันความคิดของหญิงสาว แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปยืนมองหน้าเธอนิ่ง ๆ 

ทันทีที่ร่างบางพุ่งตัวไปที่ประตูเขาก็รีบวิ่งเข้าตะครุบด้วยความเร็ว

"กรี๊ดด!" 

เมษากรีดออกมาด้วยความตกใจในตอนที่ถูกร่างสูงพุ่งเข้าตะปบรวบร่างเข้าสู่วงแขน เธออุตส่าห์กะระยะไว้อย่างดีแล้วเชียวทำไมถึงยังโดนเขาจับได้ก็ไม่รู้ พยายามดีดดิ้นพลางใช้มือผลักไสร่างสูงสุดแรงที่มีแต่ก็มิอาจหลุดพ้นจากวงแขนแกร่งได้ หนำซ้ำยังถูกโอบรัดแน่นขึ้นจนลำตัวแนบสนิทกัน 

"ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ"

"เธออยากได้ฉันจนตัวสั่นไม่ใช่เหรอ แล้วจะวิ่งหนีทำไม" เจ้านายจ้องหน้าร่างบางที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนเขม็ง

"แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากได้แล้วไง ปล่อยสิ" ความกลัวที่มีจนมากล้นทำให้เมษาพูดออกไปแบบนั้น นาทีนี้เธอคิดเพียงอย่างเดียวว่าต้องออกไปให้ห่างชายหนุ่มเขามันน่ากลัวเกินไปสำหรับเธอ 

ทว่ายิ่งเธอปฏิเสธยิ่งทำให้เจ้านายโกรธมันเหมือนว่าเธอกำลังเล่นตลกกับความรู้สึกของเขา และคนรัก พอทำลายทุกอย่างได้สำเร็จก็มีท่าทีเปลี่ยนไป คิดเหรอว่าเขาจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 12 สนอง

    ตุ้บ!!ร่างของเมษาถูกเจ้านายเหวี่ยงขึ้นเตียงอย่างแรง แรงกระแทกกับที่นอนส่งผลให้เธอจุกจนร้องไม่ออก หน้าคะมำจูบที่นอนนุ่มเต็ม ๆ ทว่าแม้จะรู้สึกจุก และเจ็บเพียงใดเธอก็พยายามยันตัวลุกขึ้นนั่งโดยเร็วที่สุดด้วยความกลัวที่มีมากกว่า "อ๊ะ.."ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็ถูกร่างสูงผลักให้นอนราบกับที่นอนอีกครั้งโดยมีเขาตามมาคร่อมเอาไว้ มือเล็กทั้งสองยกขึ้นผลักไสคนด้านบนพัลวันพลางพยายามดีดดิ้นสุดแรง ปากร้องถามไปด้วยความตื่นตระหนก "คะ..คุณจะทำอะไร อะ..ออกไปนะ""อย่ามาทำไขสือลียา เธออยากได้ฉันมากไม่ใช่เหรอฉันก็กำลังสนองให้อยู่นี่ไง" เจ้านายกดเสียงเอ่ยอย่างเย็นเยือก แววตาแข็งกร้าวจดจ้องใบหน้าเรียวเขม็ง มือทั้งสองจับมือเล็กที่เอาแต่ผลักไสไปกดตรึงกับที่นอนข้างศีรษะเล็ก"ไม่ ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้" ใบหน้าเรียวส่ายปฏิเสธระรัวจนเส้นผมสีน้ำตาลสลวยยุ่งเหยิง ร่างบอบบางยังคงออกแรงดีดดิ้นไม่หยุดหย่อน สองเท้าเล็กถีบยันที่นอนไปมาจนยับยู่ยี่หวังดันตัวให้หลุดพ้นจากพันธนาการคนด้านบน"กรี๊ดด!" ริมฝีปากอิ่มพลันหลุดเสียงกรีดในเสี้ยววินาทีต่อมาเมื่อใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงซุกไซ้ลำคอ ใบหน้าเรียวที่เต็มไปด้วยความตื่นกลัวพยายา

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 13 ผู้หญิงแพศยา

    @ผับหลังจากออกจากบ้านเจ้านายก็มานั่งดื่มที่ผับของเพื่อนชายคนสนิทเพื่อดับความร้อนรุ่มที่เกิดจากความโกรธน้ำสีอำพันในแก้วคริสตัลถูกชายหนุ่มยกดื่มครั้งแล้วครั้งแล้ว พอหมดก็เติมใหม่โดยมีแมธธิวเพื่อนที่เป็นเจ้าของผับคอยรินให้"แม่งเอ้ย! ทำไมทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ" จู่ ๆ เสียงทุ้มก็สบถออกมาด้วยอารมณ์ที่ยังคุกรุ่น แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเป็นจำนวนมากไม่สามารถดับไฟในกายเขาได้เลย กลับกันยิ่งเริ่มเมากึ๋ม ๆ ก็ยิ่งมีอารมณ์รุนแรงขึ้น ในสมองมีแต่ใบหน้าของลียาผู้หญิงแพศยาลอยวนซ้ำ ๆมือหนากำแก้วแน่นจนเส้นเลือดบนหลังมือลากยาวไปถึงแขนปูดนูน กรามทั้งสองขบเข้าหากันแน่นจนเกิดเสียงดังกรอด เขาอยากจะขย้ำเธอให้แหลกเป็นผุยผงให้สมกับที่เธอทำลายความรักของเขากับแฟนสาวพังไม่ใช่แค่คิดแต่เขาลุกพรวดขึ้นยืนโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้แมธธิวรู้สึกตกใจไม่น้อย เอ่ยถามไปด้วยความสงสัย "เป็นอะไรของมึง อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นยืน""กูต้องกลับไปจัดการคน" เจ้านายตอบเพื่อนชายเพียงแค่นั้นไม่ได้ขยายความต่อ ว่าจะก็เดินตัวปลิวออกจากผับไปขึ้นรถหรูราคาหลายสิบล้านขับตรงกลับบ้านด้วยความเร็วใช้เวลาขับรถราว ๆ สี่สิบห้านาทีก็มาถึงบ้าน ซึ่งตอน

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 14 ทำความรู้จักว่าที่สะใภ้ของแม่

    เมษารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ด้วยความรู้สึกที่ไม่สดชื่นเท่าไรนักเพราะเมื่อคืนกว่าจะหลับได้ก็เกือบตีสี่แล้ว"เฮ้อ.." เธอถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกหนักอก ก่อนจะสบัดผ้าห่มออกจากตัวลุกลงจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วเดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อช่วยแม่บ้านทำอาหารเช้าเหมือนเช่นทุกวันทว่าเมื่อเดินลงไปถึงห้องโถงใหญ่เธอก็ต้องชะงัก หน้าถอดสีฉับพลันเพราะคนที่เพิ่งถูกเธอตีหัวไปเมื่อคืนนั่งอยู่ในห้องโถง รอบศีรษะของเขามีผ้าก็อตพันอยู่ชายหนุ่มคงโกรธเธอมากดูจากสายตาที่จ้องเธอแทบจะเขมือบหัว บางทีหากตอนนี้ไม่มีสาริกานั่งอยู่ที่โซฟาด้วยเขาคงพุ่งเข้ามาฆ่าเธอแล้วก็เป็นได้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าสาริการู้ว่าแผลบนหัวบุตรชายสุดที่รักได้มาจากเธอสาริกาคงเล่นงานเธอแน่ ๆ เหมือนเธออยู่ท่ามกลางฝูงเสือฝูงจระเข้ที่พร้อมจะขย้ำเธอทุกเมื่อแท้ ๆเธอแทบจะก้าวขาเดินต่อไม่ได้เพราะรู้สึกกดดันกับสายตาทั้งสองคู่ที่มองมา มือทั้งสองกำกระโปรงชุดเดรสแน่นพยายามข่มความรู้สึกมากมายที่กำลังประเดประดังเข้ามา"หนูลียามานั่งนี่สิจ๊ะ" กระทั่งสาริกาเอ่ยเรียกเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มจึงทำให้เบาใจขึ้นมาหน่อย นั่นอาจหมายความว่าท่านยังไม่ร

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 15 เลือดคนร่าน

    วันทั้งวันเมษาคลุกตัวอยู่แต่ในห้อง มื้อเที่ยงเธอก็ไม่ลงไปทานโดยอ้างว่าไม่หิวทั้งที่ความจริงคือเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนตอนเช้ามากกว่าก็อก! ก็อก!เธอพลันสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจครั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น หัวใจดวงน้อยอดเต้นแรงไม่ได้ด้วยระแวงว่าจะเป็นชายหนุ่ม ยอมรับเลยว่าตั้งแต่เกิดเรื่องเธอรู้สึกระแวงไปหมดจริง ๆ"คุณลียาคะ คุณสาริกาให้มาตามลงไปทานข้าวค่ะ"ลมหายใจถูกพ่นออกจากจมูกโด่งด้วยความรู้สึกโล่งอกพอได้ยินเสียงแม่บ้านที่ดังเล็ดลอดเข้ามา เมื่อรู้ว่าไม่ใช่ชายหนุ่มเธอก็ลุกจากเตียงเดินไปเปิดประตูทันที "ค่ะ" ส่งยิ้มให้แม่บ้านเล็กน้อย จากนั้นก็เดินลงไปยังชั้นล่างด้วยหัวใจตุ่ม ๆ ต่อม ๆ ลุ้นว่าเย็นนี้เธอจะโดนชายหนุ่มหาเรื่องอะไรอีก เอาจริง ๆ หากไม่เกรงใจสาริกาที่เป็นเจ้าของบ้าน และรู้สึกหิวเธอไม่อยากจะลงไปเลยด้วยซ้ำเธอลอบกลืนน้ำลายลงคอดังอึกสองมือน้อย ๆ ขย้ำกระโปรงชุดเดรสแน่นในตอนที่เดินมาถึงห้องอาหารแล้วเห็นชายหนุ่มนั่งทำหน้ายักษ์อยู่ สายตาจ้องมองเธอราวกับจะกินหัวกันเธอไม่ชอบเอาเสียเลย แต่ก็ทำได้แค่ข่มอารมณ์ และจิตใจให้สงบนิ่งเอาไว้ ก้าวเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้ข้างสาริกา"อยู่บ้า

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 16 กัดไม่ปล่อย

    จากเหตุการณ์ในคืนนั้นเป็นเวลาหนึ่งเดือน ๆ เต็ม ๆ ที่เมษาต้องอยู่อย่างหวาดระแวง จะขยับตัวหรือทำอะไรก็เหมือนถูกจับจ้องตลอดเวลา และเธอยังถูกชายหนุ่มรังแก พูดจาเหยียดหยามทุกครั้งที่มีโอกาส บอกตามตรงว่าเธอไม่มีความสุขเอาเสียเลย ขนาดจะไปหาแม่กับน้องสาวก็ยังไม่ได้ไปเพราะกลัวความลับแตกทำได้แค่โทรถามข่าวคราวเธอตั้งใจว่าจะคุยกับสาริกาอีกครั้งเพราะนี่ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่เจ้านายกับส้มเลิกกัน และไม่มีทีท่าว่าทั้งสองจะหวนกลับมาคบกันอีก ซึ่งมันน่าจะมั่นใจได้แล้วเธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะสลัดความคิดอันหนักอึ้งออก แล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไหล่เดินลงไปยังชั้นล่าง"คุณลียาจะไปไหนครับ" ลุงดินที่ยืนสำรวจรถอยู่หน้าบ้านเอ่ยถามเมื่อเห็นเด็กสาวเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก "ให้ลุงไปส่งไหมครับ""ไม่เป็นไรค่ะลุงดิน หนูไปเองดีกว่า" เมษาระบายยิ้มให้ลุงดินบาง ๆ แล้วเดินออกไปยืนรอรถที่โทรเรียกหน้ารั้วบ้านรอไม่นานรถก็มาถึง ที่ที่เธอจะไปก็คือห้างนั่นเองเพื่อซื้อของขวัญให้สาริกาสำหรับวันเกิดของท่านในวันพรุ่งนี้ ความจริงเธอไม่ได้อยากจะซื้อให้สักนิด แต่ติดที่เธออยู่ในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้หากไม่มีอะไรมอบให้ว่าที

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 17 เป็นอิสระ1

    บนถนนใหญ่ที่มุ่งตรงสู่บ้านวณิชกาญจนโชติมีรถสองคันวิ่งไล่กันมาติด ๆ คันหนึ่งเป็นรถแท็กซี่ที่เมษานั่งอยู่ ส่วนคันที่วิ่งตามหลังเป็นรถของเจ้านายเสียงแตรจากรถของชายหนุ่มที่ไล่บี้รถหญิงสาวดังมาตลอดทางเป็นเชิงส่งสัญญาณให้รถเธอจอด เมษาได้ยินและรู้ว่าเป็นรถชายหนุ่มที่ตามมา แล้วเธอจะจอดให้โง่เหรออุตส่าห์หนีมาได้แล้วแท้ ๆ ยิ่งบอกคนขับแท็กซี่ให้ขับเร็วขึ้น เธอต้องกลับไปถึงบ้านให้เร็วที่สุดเท่านั้นเพราะในเวลานี้คงมีแค่สาริกาที่ปกป้องเธอจากคนที่กำลังโกรธจนบ้าระห่ำได้"หนูรู้จักคนที่กำลังขับรถไล่ตามมาใช่ไหม" แท็กซี่วัยกลางคนถามไถ่ด้วยความสงสัยระคนร้อนใจด้วยกลัวว่าจะเกิดปัญหาเหมือนที่เคยดูในข่าว"รู้จักค่ะ เขาเป็นญาติหนูเอง" เมษาเลือกโกหกเพราะไม่อยากพูดอะไรมากมายกว่านี้ ขณะนั้นก็คอยหันมองรถชายหนุ่มไปด้วยตอนนี้เธอแทบนั่งไม่ติด จิตใจมันรุ่มร้อนยิ่งกว่าไฟเสียอีกอยากจะกลับถึงบ้านไว ๆ "ลุงขับเร็วกว่านี้ได้ไหมคะ""เร็วกว่านี้ลุงกลัวจะอันตราย" คนขับแท็กซี่บอกกล่าวเมษาจึงทำให้แค่พยายามสงบจิตสงบใจไว้ สองมือน้อย ๆ บนหน้าตักประสานเข้าหากันแน่นด้วยความลุ้นระทึกทุกวินาทีหัวใจดวงน้อยยิ่งกระหน่ำเต้นหนักกว่าเด

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 18 เป็นอิสระ2

    สาริกากับประวีที่กำลังพักผ่อนอยู่บนห้องได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กสาวจนต้องรีบพากันลงมาดู แล้วก็ได้เห็นว่าบุตรชายกำลังกอดรัดเด็กสาวอยู่"เจ้านายลูกทำอะไร ปล่อยน้องเดี๋ยวนี้นะ!" เธอทั้งตกใจและไม่ชอบใจในเวลาเดียวกันที่บุตรชายใกล้ชิดเด็กสาว แต่ยังตีหน้าทำเหมือนเป็นห่วงเด็กสาวรีบเดินเข้าไปดึงตัวบุตรชายออกโดยมีคนเป็นสามียืนมองเงียบ ๆ แต่มีหรือเจ้านายจะยอมปล่อยง่าย ๆ ในเมื่อเขาจับหญิงสาวได้แล้ว"แม่อย่ามายุ่ง ยังไงวันนี้ผมก็จะจัดการเธอให้ได้" เขาจ้องหน้าผู้เป็นแม่เขม็งพลางสลัดแขนออกจากการดึงรั้งของท่าน ขณะที่อีกข้างจับมือหญิงสาวไว้แน่น"ปล่อยนะคุณเจ้านาย" เมษาเองพยายามแกะมือหนาออกจากข้อมือพัลวันพร้อมกับสาริกาที่ไม่ยอมละความพยายามจะแยกบุตรชายออกจากเด็กสาว"แม่บอกให้ปล่อยน้องเจ้านาย มีอะไรค่อยคุยกัน""ผู้หญิงอย่างลียาคุยดีด้วยไม่ได้หรอกครับ"ภายในห้องนั่งเล่นเกิดความวุ่นวายจากการเยื้อยุด และเสียงถกเถียงของสองคนแม่ลูก และไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ ขณะที่คนกลางอย่างเมษาตัวเซถลาไปมาแทบจะล้มแล้ไม่ล้มแล้อยู่หลายครั้งจากการแรงเยื้อยุดสุดท้ายประวีที่ยืนมองเหตุการณ์ก็ทนดูไม่ไหวต้องเป็นคนห้ามศึกทั้งที

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13
  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 19 ความจริงเปิดเผย1

    วันต่อมาภายในบ้านดูจะวุ่นวายไปเสียหมดเพราะทุกคนยุ่งกับการจัดงานวันเกิดของสาริกา รวมถึงเมษาด้วยที่ไม่อยู่นิ่งเฉยช่วยงานจนตัวเป็นเกลียว คิดเสียว่าเป็นการส่งท้ายก่อนเธอจะออกจากบ้านหลังนี้งานวันเกิดสาริกาถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตทุกปีเพราะครอบครัวของเธอค่อนข้างมีหน้ามีตาทางสังคม บวกด้วยสาริกาที่เป็นคนชอบโอ้อวดเป็นทุกเดิมอยู่แล้วด้วยจึงน้อยหน้าใคร ๆ ไม่ได้ใช้เวลากับการจัดสถานที่บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน และจัดเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม ขนมเสร็จก็เย็นพอดีเมษาจึงหลบขึ้นห้องพักผ่อนและคิดว่าคืนนี้คงไม่ไปร่วมงานแค่ช่วยแม่บ้านเตรียมอาหารในครัวก็พอเพราะพอพรุ่งนี้เช้าเธอก็จะไปจากที่นี่ทันทีไม่มีความจำเป็นต้องแสดงละครอีกต่อไป สาริกาเองก็ไม่ได้สั่งอะไรเมื่อถึงเวลาเริ่มงานแขกเหรื่อเริ่มทยอยกันมาเมษาก็อาบน้ำแต่งตัว โดยเสื้อผ้าที่เธอเลือกสวมใส่วันนี้เป็นเสื้อยืดคอกลมสีขาวธรรมดากับกระโปรงผ้าซาตินสีชมพูอ่อนยาวถึงกลางขาดูเรียบร้อยและอ่อนหวานในคราวเดียวกันใบหน้าแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางบางเบาให้ดูไม่จืดชืดจนเกินไป เธอไม่ได้แต่งหรูหรา แต่ก็ไม่ได้แต่งจนดูเหมือนไม่ให้เกียรติเจ้าของงานอย่างสาริกาเธอยืนสำรวจความเรีย

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-13

Bab terbaru

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   The end

    “อ๊ะ!” เมษาหลับตาพริ้มเมื่อแก่นกายหนาค่อย ๆ สอดใส่ผ่านปากทางรัก ฝากฝังความเป็นชายของเขาเข้ามาถึงครึ่งลำอย่างรวดเร็วจากหยาดน้ำหวานเปียกชื้นที่ทำหน้าที่แทนสารหล่อลื่นลำกายหนาชำแรกผ่านม่านความเจ็บปวดที่ตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่ง เพียงไม่กี่วินาทีขนาดอันใหญ่โตก็ถูกโอบอุ้มด้วยความอบอุ่นจากร่างกายของหญิงสาวที่ตอนนี้ตัวสั่นเกร็งอย่างห้ามไม่อยู่“ฮึก..” เมษากัดริมฝีปาก ใบหน้าหวานเชิดขึ้นสูงเมื่อคนตัวโตทิ้งน้ำหนักลงจนร่างกายเบียดแนบกันไร้ช่องว่าง“เจ็บไหมคะ?” เจ้านายกระซิบถามเสียงต่ำขณะโน้มตัวลงจูบซับไปตามใบหน้าเรียว“เจ็บนิดหน่อยค่ะ..แต่ทนไหว” หญิงสาวตอบเสียงอ้อนอาจเป็นเพราะห่างหายมานาน และขนาดที่ใหญ่โตของชายหนุ่มเลยทำให้รู้สึกเจ็บน้อย ๆ ทว่าแม้จะเจ็บแต่เธอก็ไม่อยากให้เขาแยกจากเลยแม้แต่วินาทีเดียว สองมือเรียวจิกผ้าปูที่นอนระบายความเจ็บที่เคล้าระคนไปกับความเสียวซ่านจนแทบจะแยกไม่ออก เสียงลมหายใจหนัก ๆ ที่ข้างใบหูทำให้เลือดในกายของเธอสูบฉีด ในที่สุดเธอก็ปรับตัวได้ “พี่จะขยับแล้วนะ” เจ้านายกระซิบ สอดผสานฝ่ามือของเขาและเธอเข้าด้วยกัน กดลงที่เหนือศีรษะเล็กแล้วเริ่มขยับ ในจังหวะแรกเนิบนาบและมั่นคง

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 90 รักนะ

    @โรงแรมภายในห้องทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกเปิดไฟดาวน์ไลท์หน้าห้องน้ำเอาไว้ ให้ความสว่างเพียงสลัว ๆ เท่านั้น กลิ่นอโรม่าลอยจาง ๆ ในอากาศทำให้บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อย เดินมาถึงห้องนอนเมษาก็อดหัวใจเต้นแรงไม่ได้เมื่อเห็นบนเตียงนอนสีขาวที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นรูปหัวใจตรงกลางถูกโรยเป็นตัวอักษรคำว่า 'พี่นายรักน้องเมย์'ตรงปลายเตียงมีผ้าขนหนูที่ถูกทำเป็นรูปหงส์สองตัวหันหน้าเข้าหากันมันเหมือนเตียงสำหรับคู่บ่าวสาวชัด ๆ สมองพานก่อเกิดภาพแสนลามกขึ้นมา"ชอบไหมครับ" เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกคนตัวโตสอดแขนเข้ามาโอบกอดเอวคอดจากด้านหลังพร้อมกับน้ำเสียงสุดเซ็กซี่ที่ดังชิดกกหูตามมาด้วยลมหายใจร้อนผะผ่าวทำขนกายเธอลุกซู่ ในท้องรู้สึกปั่นป่วนแปลก ๆ"ชอบค่ะ เหมือนเตียงในเรือนหอบ่าวสาวเลย" ใบหน้าเรียวที่เคลือบด้วยรอยยิ้มแสนหวานเอียงขึ้นมองสบสายตาร่างสูงด้านหลัง"งั้นเรามาเข้าหอกันไหมครับ" ได้ทีเจ้านายก็ชวนทำเรื่องอย่างว่าทั้งที่สัญญาดิบดีว่าแค่นอนกอดเฉย ๆ เอาจริง ๆ ที่พูดแบบนั้นเขาก็แค่หลอล่อคนตัวเล็กเขาของขาดมาตั้งไม่รู้กี่เดือนจะให้ทนไหวได้อย่างไรกัน แน่นอนว่าเมษาเองรู้ทันคนตัวโตอย่างที่รู้ ๆ กันดีทั้งเธอแล

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 89 คืนดี

    หลังจากคืนดีกันสิ่งแรกที่เจ้านายทำคือพาหญิงสาวไปเดท เขาเลือกร้านอาหารที่เป็นร้านโปรดของเธอ เขาอยากให้เธอประทับใจที่สุดกับการกลับมาเริ่มต้นใหม่เพราะที่ผ่านมาการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ดีเท่าไรนัก ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าไม่ดีมาก ๆ..แต่นี่สินะที่คนโบร่ำโบราณกล่าวไว้ว่าเกลียดสิ่งไหนมักได้สิ่งนั้นวันนี้เขากล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารักผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสุดหัวใจ รักแบบไม่คิดว่าจะรักได้มากขนาดนี้"อย่ามองแบบนี้สิคะ เมย์เขินนะ" เมษาที่ถูกชายหนุ่มจ้องมองแทบจะกลืนกินถึงกับหน้าแดงระเรื่อออกอาการเขินจนเก็บไม่อยู่ บ่อยครั้งที่ถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้แต่อย่างที่บอกว่าเธอก็ไม่เคยต้านทานมันได้สักทียิ่งหลังจากกลับมาคืนดีกันเขาก็ใช้สายตาแบบนี้แทบทุกวันแทบทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน แค่นั้นไม่พอเขายังติดสกินชิพเธอชนิดที่ว่าเหมือนกาวตราช้างก็ไม่ปราน วันแรกที่ตกลงคืนดีกันเขาก็ไปแสดงตัวว่าเป็นแฟนเธอที่มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบเธอกะว่าจะไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอเลยสิ แต่บอกตามตรงว่าแทนที่จะไม่พอใจเธอกับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่เขาแสดงความหึงหวงออกมา และกล้าจะเป

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 88 ให้โอกาส

    วันต่อมา.."อรุณสวัสดิ์ครับน้องเมย์"เสียงทักทายดังขึ้นเหนือศีรษะทำเมษาที่กำลังลืมตาตื่นถึงกับตาเบิกโพลงอาการง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เธอดีดตัวลุกขี้นนั่งอัตโนมัติเมื่อเงยขึ้นเห็นคนตัวโตนั่งพิงหัวเตียง และกำลังจับจ้องมาที่เธอ สองคิ้วสวยขมวดมุ่นจำได้ว่าเมื่อคืนเธอนั่งทำรายงานจนดึกจึงเข้านอน โดยตอนที่เธอเข้านอนชายหนุ่มยังฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ แต่ไหง่เช้านี้ตื่นมาเขาถึงอยู่บนเตียงได้ แล้วเขาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร"คุณขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไร" ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยเปล่งเสียงถามตรง ๆ "ราวตีสองได้แล้วครับ นอนตรงนั้นแล้วปวดเมื่อยไปทั้งตัวพี่เลยมานอนบนเตียง" เจ้านายเอ่ยเสียงอ่อนพลางส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้หญิงสาวด้วยกลัวว่าเธอจะโกรธ ที่เขาพูดไปไม่ใช่คำแก้ตัว แต่รู้สึกปวดหลังปวดขาจริง ๆ จึงมานอนที่เตียงกับเธออย่างถือวิสาสะใบหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวเธอโกรธ ทว่าเมษากลับแอบอมยิ้ม ในสายตาเขาเธอดุมากเลยหรือถึงให้ออกอาการขนาดนี้ เจ้านายคนใจร้ายหายไปไหนเสียแล้ว เธออยากจะหัวเราะออกมา แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้"ฉันเข้าใจ คนแก่ก็แบบนี้แหละปวดหลังปวดนู่นปวดนี่ป็นธรรมดาจะไม่ถือโทษแล้วกัน" เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 87 ส่วนลึกในใจ

    "ซี๊ดด.."เจ้านายซูดปากออกมาเบา ๆ ในตอนที่กำลังหยัดกายลุกขึ้นยืน มือกอบกุมหน้าท้องแกร่งเอาไว้ ใบหน้าเหยเกคล้ายคนกำลังเจ็บปวด เมษาเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ "คุณเป็นอะไร""พี่รู้สึกปวดท้องนิดหน่อยครับ"พอฟังคำตอบเธอก็เดาได้ทันทีว่าที่ชายหนุ่มปวดท้องน่าจะเพราะทานอาหารที่เธอทำมากเกินไป สิ่งที่แอบกังวลก็เป็นจริงถึงเธอจะตั้งใจแกล้ง แต่ก็ไม่ได้อยากให้เขาถึงขั้นเจ็บตัว"ไปหาหมอไหม" ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทว่าคนตัวโตกลับส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับเดินกอบกุมท้องออกไปยังห้องโถงเดินมาหย่อนก้นนั่งที่โซฟาโดยมีเมษาเดินตามมาติด ๆ ด้วยรู้สึกเป็นห่วงต่อให้เขาบอกว่าปวดท้องนิดหน่อยก็ตาม"แน่ใจจริง ๆ นะว่าจะไม่ไปหาหมอ" เดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้าง ๆ แล้วถามย้ำอีกครั้ง "ฉันว่าไปหาหมอดีกว่า"ใบหน้าเรียวและดวงตากลมแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างปิดไม่มิดเจ้านายเห็นก็แอบหัวใจพองโตถือว่าที่เขาทนทานอาหารรสชาติแย่จนเกลี้ยงไม่เสียเปล่าอย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าหญิงสาวยังมีความรู้สึกต่อเขาไม่มากก็น้อยไม่อย่างนั้นคงไม่มีท่าทีเป็นห่วงแบบนี้"แน่ใจครับ ไม่ได้เจ็บมากเดี๋ยวก็คงหายไปเอง" เขาระบายยิ้มออกมาบาง ๆ สายตาจ้องมองใ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 86 ค่าดอกไม้2

    เจ้านายเดินไปหย่อนก้นนั่งที่โซฟาในห้องโถง ขณะที่เมษาเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อเอาของไว้ แล้วลงมายังชั้นล่างอีกครั้ง"ฉันจะไปทำกับข้าว คุณนั่งรอก่อน" บอกกล่าวกับร่างสูงที่นั่งบนโซฟาแล้วเดินเข้าไปในครัว แต่เมื่อมาถึงเธอกลับบอกให้แม่บ้านทำเมนูต่างให้ สวนปรุงรสเธอจะเป็นคนปรุงเองสั่งเสร็จก็นั่งบนเก้าอี้แถวนั้นรอแม่บ้านทำอาหาร แม่บ้านห้าคนเร่งทำเมนูอาหารที่หญิงสาวสั่งพัลวัน ใช้เวลาราวยี่สิบนาทีก็เสร็จเหลือเพียงให้คนเป็นเจ้านายมาปรุงรส"มาปรุงรสได้เลยค่ะคุณหนู" แม่บ้านคนหนึ่งบอกกล่าว เมษาจึงลุกเดินไปยื่นหน้าเตาที่วางเรียงกันสี่อัน ก่อนจะยื่นมือไปหยิบขวดน้ำส้มสายชูมาบีบใส่ผัดผักรวมในกระทะ ตามด้วยหม้อแกงอีกสามหม้อ จากนั้นก็หยิบขวดเกลือมาเปิดฝาเหยาะใส่ต่อสร้างความงุนงงให้เหล่าแม่บ้านที่ยืนมองอยู่ด้านหลังไม่น้อย ต่างพากันมองหน้าไปมาเพราะจะทักท้วงก็ไม่กล้าเมษยกยิ้มร้ายมุมปากพลางไล่สายตามองกับข้าวบนเตา เธอใช้แค่น้ำส้มสายชูกับเกลือปรุงรสด้วยนึกหมั่นไส้คนตัวโตจึงอยากแกล้งเขา ดูสิยังจะบอกว่าได้ทานข้าวกับคนที่รักอร่อยอยู่ไหม"เสร็จแล้วจัดโต๊ะได้เลยนะคะ แล้วก็ทอดไข่เจียวให้เมย์สักสองฟองด้วยนะคะ" เธอ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 85 ค่าดอกไม้1

    แป๊บเดียวเวลาก็ผ่านมาสามเดือนเต็มแล้วที่เจ้านายตามง้อเมษา และเหมือนความพยายามของเขาจะออกผลบ้างแล้วเพราะเธอดูอ่อนลง ยอมรับอะไร ๆ ที่เขาคอยทำให้บ้างแม้จะไม่ทุกอย่างก็ตามเจ้านายมารอรับหญิงสาวเหมือนเช่นทุกวัน ที่แตกต่างไปคงเป็นกุหลาบสีแดงช่อโตที่วางบนเบาะข้างคนขับ เขาขับรถผ่านร้านดอกไม้แล้วนึกถึงเธอจึงตั้งใจซื้อมาให้ ได้แต่หวังว่าเธอจะชอบ และไม่โยนทิ้งถังขยะเขานั่งรอในรถจนเห็นเธอเดินมาจึงเปิดประตูลงจากรถ เดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับรอ"เชิญครับคุณผู้หญิง" เธอเดินมาถึงก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานพลางโน้มตัวผายมือเชื้อเชิญขึ้นรถ"ขอบคุณ" เมษาเอ่ยตามมารยาท ในวินาทีที่กำลังจะก้าวขึ้นไปนั่งบนรถแล้วเห็นช่อดอกไม้วางอยู่บนเบาะเธอก็ต้องชะงักสองคิ้วขมวดมุ่น ก่อนจะหันไปมองร่างสูงที่ยืนยิ้มแฉ่งเชิงตั้งคำถาม"ชอบไหมครับ พี่เห็นมันสวยดีเลยนึกถึงน้องเมย์" เจ้านายบอกกล่าวพลางมองช่อดอกไม้สลับกับใบหน้าแสนสวย "พี่ตั้งใจซื้อมาให้เลยนะครับ"เมษาไม่ได้พูดอะไรอีก ยื่นมือไปหยิบช่อดอกไม้มาถือไว้แล้วก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ ก่อนจะวางช่อดอกไม้บนตักเจ้านายเห็นแบบนั้นก็ใจชื่นหน่อยเพราะแอบลุ้นอย่างหนักว่าเธอจะรับไหม หรือร

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 84 แม่เจ้าพระคุณทูนหัว

    เมษารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหลังจากนอนหลับเต็มอิ่มแล้ว สองคิ้วสวยพลันขมวดมุ่นเข้าหากันเมื่อปรือตาขึ้นพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดคนตัวโตหนำซ้ำเธอยังกอดเขาอยู่เช่นกัน ใบหน้าชิดใกล้กับแผงอกแกร่งที่หลบซ่อนภายใต้เสื้อยืดสีดำจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจอีกฝ่าย และได้กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเขา เธอเผลอสูดดมเข้าปอดพรืดใหญ่ ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าคมคายที่อยู่ห่างเพียงนิด มือยกขึ้นสัมผัสบนแก้มเกลี้ยงเกลาเบา ๆ นานแล้วสินะที่เธอไม่ได้มอง และได้อยู่ใกล้ ๆ เขาแบบนี้อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้จริง ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอโคตรคิดถึงและโหยหาเขาเลย แต่ก็ทำได้แค่อดทนอดกลั้นความรู้สึกเอาไว้แม้เขาทำเธอเจ็บ แต่เธอก็ยังรู้สึกดีเวลาที่ได้รับความอบอุ่นจากอ้อมกอดนี้เพราะเขาเป็นคนที่เข้ามาเติมเต็มความรักความอบอุ่นที่ขาดหายจากผู้เป็นพ่อให้กับเธอภายนอกเธอแสดงออกไปเหมือนยังโกรธเขาอยู่ ทว่าจริง ๆ หัวใจของเธอมันอ่อนไหวไปแล้วเพียงแค่พยายามฝืนตัวเองไว้เท่านั้นเธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ สายตายังคงจับจ้องใบหน้าคมคายไม่วาง เนิ่นนานหลายนาทีก่อนจะหลับตาลงพร้อมกับซุกหน้าเข้าหาอกแกร่งใช้โอกาสที่คนตัวโตหลับซึมซับความอบอุ่นที่โหย

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 83 ซึมซับช่วงเวลาดีๆ

    @ร้านอาหารครึ่งชั่วโมงต่อมาเมษาก็ต้องมานั่งหน้าบูดบึ้งอยู่ที่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งแทนที่จะได้กลับบ้านก็เพราะคนหน้ามึนอย่างชายหนุ่มพามาน่ะสิทั้งที่เธอบอกแล้วว่าไม่หิวไม่อยากกิน แต่เขาก็ไม่ฟังพามาจนได้เธอนั่งกอดอกมองอาหารมากกว่าห้าอย่างด้วยแววตาขุ่นเคือง ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นเมนูโปรดเธอทั้งนั้นถามว่าใครสั่งก็คนที่พามานั่นแหละ คิดว่าแค่จำเมนูอาหารทุกอย่างที่เธอชอบทานได้จะทำให้เธอใจอ่อนงั้นหรือบอกเลยไม่มีทาง"พี่สั่งของโปรดน้องเมย์ทั้งนั้นเลยนะครับ ทานสิ" เจ้านายเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อเห็นคนตัวเล็กเอาแต่นั่งทำหน้าคว่ำ มือกอดอก สายตามองมาอย่างไม่พอใจราวกับเด็กน้อย"ก็บอกแล้วไงว่าไม่หิว อยากกินก็กินไปคนเดียวสิ" เมษาตอบเสียงขุ่นพลางสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นไม่อยากจะมองหน้าคนใจร้าย"ไม่หิวจริง ๆ เหรอครับ ของโปรดน้องทั้งนั้นเลยนะ" ไม่ว่าเปล่าเจ้านายยังยกจานปูผัดผงกะหรี่ไปใกล้ใบหน้าเรียวยั่วความอยากของเธอด้วยกลิ่นหอม ๆกลิ่นหอมของผงกะหรี่ลอยอบอวลแตะจมูกทำเมษาลอบกลืนน้ำลายลงคอดังอึก จากที่หิวอยู่แล้วก็ยิ่งหิวเข้าไปอีก ทว่าเธอยังคงเก็บอาการได้ดี"ก็บอกว่าไม่หิวไง" หันกลับมามองคนตัวโตตาขวา

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status