หลังจากนั้นหลินเฟยจึงยอมรามือ โยนฟันงูทิ้งแล้วพักผ่อนเพียงครู่มันไม่ใช่ว่าหลินเฟยจะเหนื่อยล้า แต่เมื่อครู่ที่ผ่านมาอารมณ์ของเขาตื่นเต้นเกินไปในตอนที่ระบายออกมา และตอนนี้จำเป็นต้องผ่อนคลายอารมณ์ของตัวเองเสียสักหน่อยเจียงเฉินหยู่ที่นอนอยู่ไม่ไกลยังคงส่งเสียงพึมพำออกมาไม่ขาดสายเธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวดของบาดแผลทั่วร่างกาย"โอย...เจ็บจังเลย"เจียงเฉินหยู่เช็ดเลือดบนใบหน้าอย่างไม่รู้ตัว แล้วมองเห็นงูเหลือมยักษ์ขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆ รวมไปถึงหลินเฟยที่นั่งเลือดท่วมตัวอยู่บนตัวของงูเหลือมยักษ์ ขาดไปก็เพียงแต่บุหรี่ ราวกับผู้กล้าที่สามารถฆ่างูได้อย่างไงอย่างงั้นด้วยความตกใจ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องออกมาหลินเฟยดุดันตั้งแต่อายุน้อยๆ แบบนี้เลยเหรอ? ขนาดงูเหลือมยักษ์ยังถูกฆ่าได้?มันน่าเหลือเชื่อเสียจริงๆ!และฉากสถานการณ์แบบนี้ แม้จะเป็นคนบ้าก็สามารถรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นยิ่งไปกว่านั้น เจียงเฉินหยู่ยังจำเหตุการณ์ก่อนที่เธอจะหมดสติไปได้อีกต่างหากหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เจียงเฉินหยู่ก็กุมหน้าอกของตัวเองด้วยสีหน้าที่อยู่แย่ และตื่นตระหนกใจเนื้อเต้น"หลินเฟย นี่มัน...เ
เจียงเฉินหยู่ยังเด็ก ยิ่งภูมิหลังครอบครัวก็โดดเด่น เดิมทีเธอสามารถมีความสุขกับชีวิตที่แสนจะเพอร์เฟกต์นี้ได้ แต่ในเวลานี้ จะมีใครบ้างที่ทนนั่งรอความตายอย่างใจเย็นแบบนั้นได้หลินเฟยพูดปลอบโยนขึ้นมาว่า"อย่าเพิ่งตกใจไปเลย มีผมอยู่ คุณไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน""นอนลง ให้ผมตรวจดูหน่อย ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด"เจียงเฉินหยู่นอนอยู่บนพื้นอย่างเชื่อฟัง ต่อให้จะเป็นเวลานี้แล้ว เธอก็ยังคงคว้าคอเสื้อของตัวเองอย่างเคอะเขิน ใบหน้างดงามนั้นได้มีรอยแดงระเรื่อปรากฏขึ้นมา"ฉันไม่เอา…"หลินเฟยมองดูท่าทางแบบนี้ของเจียงเฉินหยู่ แล้วพูดอย่างเสียไม่ได้ว่า"ถึงขนาดนี้แล้ว? คุณไม่อยากอยู่ต่อแล้วงั้นเหรอ?""หากไม่ต่อกระดูกคุณจะต้องตาย ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายของคุณมีจุดไหนที่ผมไม่เคยเห็น? ผมเห็นมาหมดแล้ว ยังจะต้องเขินอายไปทำไมกัน แล้วอีกอย่างยังเป็นคุณที่โชว์ให้ผมดูนะ...""ถ้าคุณยังไม่ถอดเสื้อผ้าออก งั้นผมจะฉีกมันทิ้งซะ"หลินเฟยร้อนใจอยากจะช่วยเธอ จึงดึงเสื้อผ้าของเจียงเฉินหยู่ออกอย่างไม่ลังเลใจเขาปลดชุดชั้นในลูกไม้สีดำบนตัวของเจียงเฉินหยู่ออกและยอดหยกสาวที่ขาวสะอาดดั่งหิมะก็ได้เผยให้เห็นต่อหน้าต่อตาของหล
ไม่นานหลังจากนั้น หลินเฟยก็ได้ช่วยเจียงเฉินหยู่เชื่อมต่อซี่โครงทั้งเจ็ดซี่ได้สำเร็จหลินเฟยเช็ดรอยเลือดบนหน้าผาก หยิบชุดชั้นในลูกไม้สีดำที่โยนทิ้งไปข้างๆ ขึ้นมา และสวมกลับไปให้เจียงเฉินหยู่อย่างอ่อนโยนเจียงเฉินหยู่ยกมือเล็กๆ อีกข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บขึ้นมา สัมผัสความรู้สึกของการถูกผู้ชายสวมเสื้อผ้าให้อีกครั้ง...และทักษะด้านนี้ของหลินเฟยก็ดูเชี่ยวชาญเอาเสียมากๆ...เจียงเฉินหยู่จ้องมองหลินเฟยด้วยดวงตาที่เปล่งประกายวาววับ รู้ความจริงใจก็ต่อเมื่อมีทุกข์ยากร่วมกันทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอได้ปฏิบัติต่อหลินเฟยขนาดนั้น การที่หลินเฟยยอมช่วยเธอแบบนี้ เป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อย"หลินเฟย ฉัน..."แต่หลินเฟยไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้น และกำลังกัดปลายนิ้วของตัวเองอย่างเต็มแรงเขาปล่อยให้เลือดของตัวเองไหลออกมา แล้วยัดนิ้วเข้าไปในปากเล็กๆ ของเจียงเฉินหยู่ในทันทีเจียงเฉินหยู่ชะงักไปเล็กน้อย ไม่รู้ว่าหลินเฟยหมายความว่าอย่างไร หรือว่าหลินเฟยมีความชอบพิเศษแบบนี้? แต่หลินเฟยกลับพูดขึ้นมาว่า"อย่าเพิ่งพูดอะไร ดื่มเลือดของผมสักหน่อย ไม่ต้องถามว่าทำไม"หลินเฟยประคองเจียงเฉินหยู่ให้ลุกขึ
"ถ้าผมเกิดหลงทางและกลับมาไม่ได้ ผมสามารถอดทนได้อีกหลายวัน แต่หากคุณไม่มีใครคอยดูแล ก็คงทำได้แค่รอความตายเท่านั้น ช่างมันเถอะนะ""ถ้าจะกลับก็ต้องกลับไปพร้อมกัน"เจียงเฉินหยู่รู้สึกว่าคำพูดของหลินเฟยนั้นสมเหตุสมผล จึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าเท่านั้นและเวลาก็ค่อยๆ เดินไปอย่างช้าๆ อย่างไม่รู้ตัวในระหว่างวัน ยังพอมีแสงที่สาดส่องลงไปในน้ำได้บ้างเป็นบางส่วนแต่เมื่อท้องฟ้าได้มืดลง ในถ้ำก็ไม่มีแสงสาดส่องลงไปได้เลยแม้แต่น้อยความมืดกลืนกินคนทั้งสองไปจนหมดสิ้น ค่ำคืนอันมืดมิดท่ามกลางภูเขาลึกนี้เงียบสงัด มองไม่เห็นแม้แต่นิ้วมือของตัวเองอุณหภูมิก็เริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว ความหนาวเย็นกลืนกินหลินเฟยและเจียงเฉินหยู่ไปอย่างฉับพลันความสิ้นหวังและความโดดเดี่ยวแบบนี้น้อยคนนักที่จะสามารถยอมรับได้ โดยความรู้สึกแบบนี้มันไม่ต่างไปจากการนอนในโลงศพที่มืดมิดและคับแคบแต่อย่างใด และเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่เจียงเฉินหยู่จะรู้สึกหวาดกลัวเจียงเฉินหยู่มองไปยังหลินเฟยที่อยู่ข้างๆ"หลินเฟย คุณอยู่หรือเปล่า?"หลินเฟยกำลังเคลิ้มจะหลับ จึงตอบไปอย่างลวกๆ ว่า"อืม...ผมอยู่นี่ มีอะไรหรือเปล่า?"เจียงเฉินหยู่จับแขนของ
เธอคิดว่าหลินเฟยเพียงตอบรับว่าจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเพียงแค่ลมปากเท่านั้น แต่ความจริงแล้วกลับแอบหนีออกไป ทิ้งเธอไว้ตรงนี้เพื่อรอความตายอย่างน่าอนาถเท่านั้นเสียงร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าสมเพชของเจียงเฉินหยู่ดังก้องไปทั่วทั้งถ้ำขณะที่เจียงเฉินหยู่ตกอยู่ในความสิ้นหวังนั้นซ่าซ่า...ตำแหน่งผิวน้ำที่ไม่ไกลออกไป มีเสียงน้ำไหลได้ดังแว่วมาและร่างที่คุ้นเคยก็ได้โผล่พ้นผิวน้ำออกมาโดยที่มือนั้นยังหิ้วปลาสองตัวที่กระโดดไปมาอีกต่างหาก"ฟึ่บ..."หลินเฟยสะบัดน้ำออกจากผม และรู้สึกงุนงงเล็กน้อยเมื่อเห็นเจียงเฉินหยู่ที่ร้องไห้คร่ำครวญจนแทบจะขาดใจ"คุณเป็นอะไรไป? ร้องไห้หนักขนาดนี้ ผมยังคิดว่าคุณโหยหวนอยู่นะ!"เมื่อเห็นหลินเฟยกลับมาแล้ว เจียงเฉินหยู่ก็รู้สึกประหลาดใจเอาเสียมากๆและเธอถึงได้เข้าใจแล้วว่า หลินเฟยไม่ได้ทอดทิ้งเธอ แต่แค่ไปจับปลามาแก้ปัญหาปากท้องเท่านั้นจากนั้นเธอก็รีบเช็ดน้ำตาที่อยู่บนหน้าในทันที"ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ขอโทษด้วยนะ...เมื่อกี้ฉันตื่นขึ้นมา แล้วไม่เห็นคุณ ฉันก็เลยคิดว่าคุณทิ้งฉันแล้วหนีไปแล้วเสียอีก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะหาของกิน ดังนั้นก็เลย.. "เมื่อเห็นท่าทางที่
"คุณชายอู๋ครับ คือว่า...พวกเขาวิ่งเข้าไปในเทือกเขาแล้ว ภูเขามันใหญ่เกินไป ผมตามไม่ทัน...""ตามไม่ทัน? แกนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ คนทั้งสองคนยังจะตามไม่ทันอีก? ตาแกบอดแล้วหรือไง?"อู๋เทียนโมโหจนแทบจะลุกจากเตียงคนไข้แต่ทว่ากลับถูกบาดแผลดึงรั้งเอาไว้ เจ็บปวดจนต้องร้องซี๊ดออกมา จากนั้นก็หันกลับไปพาลโกรธเฉินจื่อหยางไปด้วย"นายกเทศมนตรีเฉิน ให้คุณช่วยไปจัดการเรื่องหน่อย ทำไมมันยากขนาดนี้? คุณไม่ได้ใส่ใจเลยใช่ไหม? ยังคิดที่จะก้าวหน้าอยู่อีกหรือเปล่า! เชื่อหรือไม่ว่า แค่ผมโทรไปหาพ่อแค่กริ๊งเดียว คุณก็จะร่วงลงมาแน่นอน!""คุณชายอู๋ไม่รู้อะไรนะครับ พื้นที่ภูเขาของเมืองฉีหลินนี้ทอดยาวหลายพันไมล์และแทบไม่มีจุดสิ้นสุด เมื่อใดก็ตามที่เข้าไปในภูเขาแล้ว ผู้คนมักจะสูญเสียทิศทาง และการหลงทางมันก็เป็นเรื่องปกตินะครับ…"และผู้ชายวัยกลางคนอีกคนที่นอนอยู่บนเตียงข้างๆ ก็คือเฉินจื่อหยางนั่นเองหลังจากได้ยินคำพูดของอู๋เทียนแล้วนั้น เขาก็แอบขุ่นเคืองใจ หลังจากด่าทอบรรพบุรุษสิบแปดชั่วคนของอู๋เทียนแล้วนั้น เขาถึงรีบพูดอธิบายออกมา"ยังจะกล้าเถียงอีก? ฉันจะบอกอะไรให้นะเฉินจื่อหยาง ฉันจะให้โอกาสนายเป็นครั้งสุ
"ยังจะเรื่องอะไรอีกล่ะ? ก็เพราะไอ้เหี้ยหลินเฟยนั่นน่ะสิ! ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ฉันจะอยู่ในสภาพแบบนี้เหรอ!""ลูกพี่ลูกน้องของนายและหลินเฟยล่ะ?"เมื่อเห็นเจียงเฉิน อู๋เทียนก็จำเขาได้เขาและเจียงเฉินเคยพบกันมาหลายต่อหลายครั้ง บางครั้งก่อนหน้านี้ เขายังร่วมเล่นผู้หญิงด้วยกันเสียอีก!เมื่อได้ยินว่าอู๋เทียนได้พาคนมาตามหาเจียงเฉินหยู่และหลินเฟยแบบนี้สีหน้าของเจียงเฉินจึงเปลี่ยนไปทันที เรื่องที่เขาได้ทำไว้ก่อนหน้านี้จะถูกเปิดเผยออกมาไม่ได้ จึงรีบทำท่าทางเสียใจและพูดอย่างเศร้าสร้อยขึ้นมาว่า"คุณชายอู๋ไม่รู้อะไร เมื่อวานพี่สาวและหลินเฟยได้เข้าไปในป่าเพื่ออาบน้ำกัน จนถึงตอนนี้ยังไม่กลับออกมาเลยครับ""ผมเองก็ส่งคนไปค้นหาจนทั่วแล้ว แต่ก็ไม่ได้พบกับอะไรเลย""แม่งเอ๊ย นายพูดว่าพวกเขาสองคนไปอาบน้ำด้วยกัน? วันกับอีกคืนแล้วก็ยังไม่กลับออกมา?""เหี้ยเอ๊ย แม่งจริงๆ เลย!"สีหน้าของอู๋เทียนขึงขัง พร้อมกับตะคอกเสียงดังออกมาในความคิดที่แสนจะโสมมของเขา เขาก็เลยคิดว่าเจียงเฉินหยู่และหลินเฟยไปอาบน้ำในป่าด้วยกัน และก็เลยต่อสู้กันอย่างเมามันในนั้นด้วย!"คุณชายอู๋อย่าเพิ่งร้อนใจไปเลยนะครับ ตามที่คุณชายเจี
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา การแสดงละครตบตาของเจียงเฉินนั้นแนบเนียนมาก ประกอบกับสถานะของเขาที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเจียงเฉินหยู่ แน่นอนว่าไม่มีใครคิดเชื่อมโยงการหายตัวของเจียงเฉินหยู่กับเขาเป็นธรรมดา"คุณชายเจียงครับ คุณก็อย่าโทษตัวเองจนเกินไป การตามหาหลายวันที่ผ่านมา คุณก็ดูซูบผอมและลำบากมากแล้ว นั่งลงพักผ่อนก่อนเถอะครับ""แบบนี้ดีกว่า ผมจะส่งเฮลิคอปเตอร์บินค้นหา ต่อให้จะพลิกภูเขาก็ต้องตามหาคนให้เจอะ!"เฉินจื่อหยางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดโทรออกในทันทีเพราะท้ายที่สุดแล้ว เจียงเฉินหยู่เป็นถึงทายาทโดยตรงของตระกูลเจียง หากมีการสูญหายในเขตการปกครองของเขา เขาจะต้องรับผิดชอบ ดังนั้นเขาจึงใส่ใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษ"ใช่ รีบส่งเฮลิคอปเตอร์บินค้นหาเร็วเข้า จะต้องค้นหาเจียงเฉินหยู่ให้เจอ!"อู๋เทียนรีบตะโกนออกมา"งั้นก็ต้องลำบากท่านนายกเทศมนตรีเฉินแล้วนะครับ ผมเหนื่อยเกินไป ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ"เดิมทีเจียงเฉินคิดว่าการแกล้งค้นหาตบตาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จะทำให้อู๋เทียนและเฉินจื่อหยางล้มเลิกความคิดในการค้นหาและออกจากที่นี่ไปได้แต่คิดไม่ถึงเลยว่าทั้งสองจะทุ่มเทในการค้นหาเสียเพียงนี้
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได