Share

บทที่ 5

Penulis: กระดาษรักครึ่งแผ่น
last update Terakhir Diperbarui: 2024-10-29 19:42:56
จางหยวนเผยรอยยิ้มออกมา: "พ่อครับ แม่ครับ ผมหายแล้ว ผมจำเรื่องในอดีต ได้ทั้งหมด"

เพล้ง

ชามที่อยู่ในมือของหวังฮุ่ยหล่นลงบนพื้น

เธอร้องไห้ด้วยความดีใจสุดขีด: "ดีเหลือเกิน ดีเหลือเกิน ในที่สุดลูกหยวนก็หายดีแล้ว"

จางต้าซานไม่ได้พูดอะไร แต่นัยน์ตาของเขากลับเปล่งประกายแวววาวอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ จางหยวนก็สะอื้นไห้พร้อมพูดว่า "พ่อครับแม่ครับ ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ พ่อกับแม่ลำบากแล้ว"

“ไม่ลำบาก เลี้ยงลูกชายของตนเอง มันจะไปลำบากอะไร!” จางต้าซานเผยรอยยิ้มที่หาได้ยากออกมา

จางหยวนกล่าวต่อว่า: "พ่อครับ จริง ๆ แล้ว ผมไม่เพียงแต่หายดีเท่านั้น แต่ผมยังได้เรียนรู้ศาสตร์ทางการแพทย์บางอย่างด้วย ให้ผมดูอาการพ่อหน่อย บางทีผมอาจจะมีวิธีรักษาขอของพ่อก็ได้"

"ลูกหยวน ไม่ต้องพยายามแล้ว ขาทั้งสองข้างของพ่อ ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย แม้แต่หมอประจำหมู่บ้านก็ยังบอกว่ามันใช้การไม่ได้แล้ว... ลูกหายก็ดีแล้ว พรุ่งนี้พ่อจะขายที่ดินติดถนนของบ้านเราซะ แล้วหาเมียให้ลูกสักคนหนึ่ง ต่อไปจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข…"จางต้าซานโบกไม่โบกมือ

เมื่อได้ยินดังนี้ นัยน์ตาของจางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะแดงก่ำอีกครั้ง

พ่อแม่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีชีวิตที่ดี

หลังจากที่รู้เรื่องที่ตนหายดีแล้ว สิ่งแรกที่พ่อนึกถึงคืออนาคตของตนเอง ไม่ใช่เรื่องขาของเขา

จางหยวนกลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วยืนกรานว่า “พ่อครับ ให้ผมลองดูหน่อย”

ขณะที่พูด เขาก็เปิดผ้าห่มออก แล้วค่อย ๆ ยกขาทั้งสองของพ่อขึ้น

ขาทั้งสองข้างของพ่อ ตั้งแต่เข่าลงมา ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย และยังคงบวมอยู่ตลอดเวลา

จางหยวนตรวจดูสักพักหนึ่ง

“โชคดีที่กระดูกไม่ได้เป็นอะไร ก็แค่เส้นลมปราณบางส่วนตายก็เท่านั้น”

“ในมรดกวิชาของพี่เทพธิดาตนนั้น มีวิธีซ่อมแซมเส้นลมปราณด้วย”

เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วหันกลับมาถามว่า “แม่ครับ ที่บ้านมีเข็มเงินบ้างไหมครับ?”

"มีมีมี..."

หวังฮุ่ยรีบไปหาทันที

เข็มเงินนี้ เป็นเข็มเงินที่แพทย์แผนจีนที่มารักษาจางต้าซานก่อนหน้านี้ทิ้งเอาไว้

แพทย์แผนจีนคนนั้นว่ากันว่าเป็นแพทย์แผนจีนโบราณที่มีชื่อเสียงในละแวกเหล่านั้น

แม้ว่า จะจ่ายค่ารักษาให้แพทย์แผนจีนชราคนนั้นไปหลายหมื่นบาท แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะรักษาขาทั้งสองข้างของพ่อได้เลย

ไม่นาน แม่ของเขาก็นำเข็มเงินมา

หลังจากที่จางหยวนทำความสะอาด และฆ่าเชื้อแล้ว ก็เตรียมที่จะรักษาโรคให้พ่อของเขา

แม้ว่าจางต้าซานและหวังฮุ่ยจะสงสัยว่าจางหยวนรู้ศาสตร์ทางการแพทย์หรือไม่

แต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่จริงจังของจางหยวน ทั้งสองก็ไม่ได้ห้ามปราม อย่างไรเสียก็เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายแม้ว่าจะหมดหวังแล้วก็ตาม

ทั้งสองไม่รู้ว่า จางหยวนในตอนนี้ รู้มากกว่าศาสตร์ทางการแพทย์

เขาเจาะเข็มเงินเข้าไปในจุดฝังเข็มบนขาของพ่อได้อย่างแม่นยำ

จางหยวนรู้สึกประหลาดใจที่พบว่า แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาใช้เข็มเงิน แต่เขากลับรู้สึกช่ำชองเป็นอย่างมาก

เข็มเงินอันเรียวเล็กเล่มนั้น ราวกับว่าเป็นทหารที่เชื่อฟัง หากตนอยากจะเจาะเข็มลงจุดนั้น ก็สามารถเจาะลงไปได้อย่างแม่นยำ

ไม่นาน เข็มเงินหลายเล่มก็เจาะเข้าไปบนหน่องของพ่อ

เข็มเงินเหล่านี้เรียงต่อกัน ราวกับว่าเป็นไส้เดือนหรืองูตัวน้อยที่เลื้อยคดเคี้ยวไปมา

ในขณะนี้ จางหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วใช้มือจับปลายเข็มเงิน แล้วค่อย ๆ ขยับมันเบา ๆ

พอโยกเข็มเงินทั้งหมดแล้ว จางหยวนก็ค่อย ๆ ถอนเข็มเงินที่เจาะเข้าไปในจุดฝังเข็มขึ้นมาหน่อยหนึ่ง จากนั้นมันก็เริ่มโยกจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ราวกับว่าควบคุมเรือใบ

หากคนที่รู้เทคนิคการฝังเข็มของการแพทย์แผนจีนได้เห็นภาพฉากนี้ จะต้องตะโกนว่า: "มังกรฟ้ากระดิกหาง" อย่างแน่นอน

ใช่แล้ว เทคนิคการฝังเข็มที่จางหยวนใช้ ก็คือเทคนิคการฝังเข็มโบราณ “มังกรฟ้ากระดิกหาง” ที่สูญหายไปหลายปีแล้ว

เทคนิคการฝังเข็มชุดนี้ ไม่เพียงแต่สามารถกระตุ้นเส้นลมปราณที่ตายไปของพ่อเขาได้เท่านั้น แต่ยังสามารถกระตุ้นเส้นประสาทที่ขาของพ่อเขาได้อีกด้วย

หลังจากที่ยุ่งอยู่กับการรักษาสักพักหนึ่ง ศีรษะของจางหยวนก็เต็มไปด้วยเหงื่อ

การรักษานี้ ไม่เพียงแต่เปลืองพลังทางจิตใจเท่านั้น แต่ยังเปลืองพลังงานทางร่างกายอีกด้วย

ในเวลานี้ จู่ ๆ จางต้าซานก็ตะโกนขึ้นมา: "เอ๊ะ..."

เสียงร้องของจางต้าซานทำให้หวังฮุ่ยสะดุ้งกลัว

คิดไม่ถึงว่าในวินาทีต่อมา ขาคู่นั้นของจางต้าซานที่ไม่ได้ขยับเลยมาเกือบปี ตอนนี้เริ่มสั่นขึ้นมาเล็กน้อย

“ขาของฉัน ดูเหมือนว่าจะรู้สึกเจ็บ...” จางต้าซานพูดด้วยความไม่มั่นใจเล็กน้อย

หวังฮุ่ยที่อยู่ด้านข้าง เอามือปิดปากด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจจนพูดไม่ออก

เมื่อจางหยวนเห็นดังนี้ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ใจที่เป็นกังวลของเขา ก็รู้สึกสบายใจในที่สุด

แม้ว่าการฝังเข็มเมื่อสักครู่นี้ จางหยวนรู้ว่าไม่มีความผิดพลาดใด ๆ เลย แต่ผลลัพธ์ที่แท้จริงเป็นยังไง เขาไม่แน่ใจเลย

ตอนนี้ ขาของพ่อเขามีความรู้สึกแล้ว ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าการฝังเข็มเมื่อสักครู่นี้เห็นผลอย่างมหัศจรรย์

สามแล้วที่เป็นพี่เทพธิดา ศาสตร์ทางการแพทย์นี้เก่งกาจมาก

จางหยวนแอบชื่นชมเทพธิดาผู้งามเพริศพริ้งที่ให้มรดกวิชาแก่ตนเองผู้นั้น พร้อมปาดเหงื่อ แล้วพูดว่า: "พ่อครับ พ่อพักผ่อนก่อนเถอะครับ ขาของพ่อ ยังต้องรักษาเสริมด้วยสมุนไพร ผมมั่นใจว่า ไม่เกินครึ่งเดือน จะต้องสามารถเดินบนพื้นได้อย่างแน่นอน"

"ดีเหลือเกิน!"

"ตาเฒ่า คุณได้ยินไหม? คุณจะเดินบนพื้นได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน ลูกหยวนของเราเก่งจริง ๆ " "โอ้!"

หวังฮุ่ยพลางปลื้มปีติใจ พลางปาดน้ำตาไปด้วย

สีหน้าของจางต้าซานเต็มไปด้วยความผันผวนของชีวิตและสั่นเล็กน้อย เขารู้สึกตื่นเต้นมากจนพูดไม่ออก

จางหยวนยิ้ม รีบกลับห้อง แล้วมอบช่วงเวลานี้ให้กับพ่อแม่ของเขา

ห้องนอนของจางหยวน ตกแต่งอย่างเรียบง่าย และโทรมเล็กน้อย ถึงขนาดว่ามีกระจกสามชิ้นร่วงลงมาจากหน้าต่าง

เขายึดผนังเอาไว้แล้วปีนขึ้นไปบนเตียง รู้สึกวิงเวียนศีรษะเป็นระยะ เรี่ยวแรงทั้งหมดของร่างกายดูเหมือนจะหมดลง

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้นอนเลย แต่กลับนั่งขัดสมาธิบนเตียง

ในมรดกวิชาของเทพธิดานั้นมีวิธีฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณ ที่เรียกว่า "พระสูตรกายจิต" ซึ่งเหมาะที่สุดที่จะใช้ในสถานการณ์ที่ใช้พลังงานทางจิตใจไปมาก

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น จางหยวนจึงปฏิบัติตามวิธีการทำสมาธิในพระสูตรกายจิต และเริ่มสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ

เมื่อเวลาผ่านไป จางหยวนรู้สึกประหลาดใจที่พบว่า พลังของตนดูเหมือนจะฟื้นตัวขึ้นจริง ๆ แม้ว่าเขาจะฟื้นตัวได้ไม่เร็วนัก แต่ก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน

ดังนั้น จางหยวนจึงรักษาท่าทางนี้เอาไว้ และนั่งสมาธิตลอดทั้งคืน

สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ จางหยวนไม่ได้นอนทั้งคืน แต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเลย

ฟ้าเพิ่งจะสาง

จางหยวนเดินออกจากห้องนอน ก็พบว่าแม่ของเขาไปทำงานที่ทุ่งนาแล้ว

มีหมี่นโถวร้อน ๆ อยู่บนเตาในครัว

จางหยวนกินหมั่นโถวลูกใหญ่ ๆ สี่ลูกในคราวเดียว ปริมาณอาหารเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากเมื่อก่อน

หลังจากทักทายพ่อของเขาแล้ว จางหยวนก็หยิบจอบและกระเป๋าเป้ใบเล็ก ๆ แล้วออกจากบ้านไป

เขากำลังจะขึ้นเขาเพื่อไปเก็บสมุนไพร

แม้ว่าในเมืองและเทศมณฑลจะมีร้านขายยาสมุนไพรจีนจำหน่าย แต่ด้วยฐานะของครอบครัวในตอนนี้ ทำให้ไม่สามารถซื้อยาสมุนไพรเหล่านั้นได้

โชคดีที่มีสมุนไพรดี ๆ มากมายบนภูเขาที่อยู่หลังหมู่บ้าน

รุ่งอรุณกำลังจะมาถึง แต่เมฆหมอกยังคงอยู่

หมู่บ้านเซี่ยวานปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว

จางหยวนเดินเร็วมาก ไม่นานก็เดินไปถึงปากทางเข้าหมู่บ้าน

ถ้าจะไปที่ภูเขาทางด้านหลัง ใช้เส้นทางทางเข้าหมู่บ้านจะสะดวกกว่า

ระหว่างทางที่ขึ้นไปบนภูเขา พอเดินบนภูเขาไปได้สักพัก จางหยวนก็ได้ยินเสียงคนตะโกนขอความช่วยเหลือที่อยู่ไม่ไกลนัก

เขาแปลกใจเล็กน้อย ทำไมบนภูเขาแห่งนี้ถึงได้มีคนตะโกนขอความช่วยเหลือ?

อีกอย่าง น้ำเสียงนี้ยิ่งฟังยิ่งคุ้นเคย?

เขารีบไปยังทิศทางที่เสียงนั้นดังมาทันที

เมื่อไปถึงสถานที่นั้น จางหยวนก็พบว่า เสียงนั้นดังมาจากในป่าบริเวณตีนเขา

พอเข้าไปใกล้ ๆ ก็เห็นหลุมหลุมหนึ่ง ดูเหมือนว่ามันค่อนข้างจะนานแล้ว!

น่าจะเป็นนักล่าในหมู่บ้านเมื่อก่อนที่ต้องการจะฆ่าหมูป่า จึงได้ขุดหลุมสร้างกับดักเอาไว้

“ช่วยด้วย!” เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือดังมาจากในหลุมอีกครั้ง

เมื่อได้ยินเสียงนี้ จางหยวนก็นึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมาทันที

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เสียงนี้ฟังดูคุ้นเคยสำหรับเขา ดูเหมือนว่าจะเป็นเสียงของจางหลิน

พอมองเข้าไปใกล้ ๆ เป็นไปตามที่คาดการเอาไว้ เป็นจางหลินที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันจริง ๆ !

จางหลินเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยคนแรกในหมู่บ้าน และเป็นสาวสวยชื่อดังในหมู่บ้าน

อีกอย่างครอบครัวของเธอมีฐานะที่ร่ำรวยมาก บวกกับจางหลินมีหน้าตาที่สะสวย เธอจึงไม่เหมือนเด็กผู้หญิงที่เติบโตมาในสถานที่ยากจนอย่างหมู่บ้านเซี่ยวาน

โดยเฉพาะหลังจากที่เธอไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เมื่อเธอกลับมาในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวและฤดูร้อนเธอก็กลายเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในหมู่บ้าน

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธอ

พ่อของเธอเป็นเกษตรกรรายใหญ่ในหมู่บ้าน มูลค่าสุทธินับห้าล้านบาท

ลุงของเธอเป็นผู้ใหญ่บ้าน ลูกพี่ลูกน้องของเธอก็ทำงานอยู่ในเมือง

แต่ตอนที่เรียนประถม เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่คอยตามตูดจางหยวน ทั้งสองยังเคยเล่นพ่อแม่ลูกด้วยกันอีกด้วย จางหลินยังเคยสาบานว่าจะแต่งงานกับจางหยวนเมื่อเธอโตขึ้น

น่าเสียดาย หลังจากที่เข้าเรียนมัธยมต้นแล้ว ผลการเรียนของจางหยวนแย่ลงเรื่อย ๆ หลังจากเรียนจบมัธยมต้นแล้วเขาก็ไปทำงานทางใต้

พวกเขาทั้งสองคนจึงกลายเป็นคนแปลกหน้า

ตอนนี้กลับได้มาพบกับจางหลินอีกครั้ง

จางหลินยืนอยู่ในหลุม ใบหน้าอันเรียวเล็กที่เดิมทีขาวสะอาดตอนนี้กลับเปื้อนไปด้วยดิน ดูไปแล้วน่าสงสารมาก

ในเวลานี้ จางหลินร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้ง:

“มีใครอยู่ไหม ได้โปรดช่วยฉันด้วย!”

จากนั้นเธอก็เห็นจางหยวนยื่นศีรษะออกมา

“จางหยวน นายเองเหรอ!” จางหลินรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าตนเองร้องตะโกนตั้งนาน คนที่มากลับเป็นจางหยวน!

“อืม!” จางหยวนตอบอย่างสงบนิ่ง

จางหลินกลับรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย

ตะโกนเรียกอยู่ตั้งนานกว่าจะมีคนมา แต่คนที่มาดันเป็นคนโง่

“นาย ช่วยดึงฉันขึ้นไปหน่อยได้ไหม” จางหลินพูดด้วยความกังวลใจเล็กน้อย เพราะกังวลว่าจางหยวนจะไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด ดังนั้นเธอจึงจงใจชะลอคำพูดของเธอลง

“อืม!” จางหยวนตอบอีกครั้ง แล้วยื่นมือออกไป

จากนั้น จางหลินก็ยื่นมือของเธอให้จางหยวน

จางหยวนคว้ามือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ แล้วดึงอย่างแรง

ด้วยพลังที่เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปของเขาในตอนนี้ ทำให้เขาสามารถดึงจางหลินขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า จะมีเถาวัลย์หนามอยู่ข้าง ๆ หลุม ซึ่งบังเอิญไปติดกับเสื้อผ้าด้านหลังของจางหลิน

บวกกับจางหยวนใช้แรงมาก ทำให้มีเสียงดังแคว่ก เสื้อผ้าของจางหลิน ถูกฉีกจนขาด!

พอจางหยวนดึงจางหลินขึ้นมาบนพื้น เสื้อผ้าท่อนบนของจางหลินก็ถูกฉีกออกเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งตกลงไปอยู่ในหลุม และอีกครึ่งหนึ่งห้อยอยู่บนเถาวัลย์

ร่างกายท่อนบนที่ขาวนวลราวหิมะของจางหลิน ถูกเปิดเผยต่อหน้าจางหยวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...
Komen (1)
goodnovel comment avatar
อยากมีสามี สกุลหวัง
อ้าวอ่านไปอ่านมามีความรู้สึกเหมือนนิยายเรื่องไอ้หมอเนตรอะไรสักอย่างนี่แหละหน้าหม้อมาก......
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 6

    ถ้าไม่ใช่เพราะเสื้อผ้ารัดรูปเป็นแนวป้องกันสุดท้าย จางหลินคงจะเปลือยกายล่อนจ้อนต่อหน้าจางหยวนไปแล้ว!ภาพเหตุการณ์ที่กะทันหันนี้ ทำให้ทั้งจางหยวนและจางหลินตกตะลึงเมื่อเห็นภาพอันขาวละมุนที่อยู่ตรงหน้า จางหยวนก็กลืนน้ำลายไปตามสัญชาตญาณหากหลี่ชิวจวี๋เป็นลูกพีชสุกขนาดใหญ่ งั้นจางหลินก็คือแอปเปิ้ลน้อยที่ฝาดเล็กน้อยลูกพีชลูกใหญ่ก็ดีแบบลูกพีชลูกใหญ่ แอปเปิ้ลเขียวก็ดีแบบแอปเปิ้ลเขียวกล่าวโดยสรุป จมูกของจางหยวนเริ่มคันขึ้นมาอีกครั้งในเวลาเดียวกัน จางหลินที่ตกตะลึงไปหลายวินาที ภายใต้การจ้องมองของจางหยวน ในที่สุดก็ตั้งสติได้เธอกรีดร้องเสียงดังทันที และยังไม่ลืมที่จะใช้แขนปกป้องส่วนที่สำคัญปฏิกิริยาของจางหลิน ทำให้จางหยวนอยากจะพูดว่า มีอะไรให้ต้องปกป้องเหรอ?มันไม่ได้ใหญ่อยู่แล้ว!แต่เขาไม่กล้าพูดคำเหล่านี้ออกไป ถ้าพูดออกไป มันจะเป็นการทำร้ายจิตใจคน!จางหยวนถอนสายกลับมาด้วยความร้อนตัว หันกลับมา แล้วเริ่มถอดเสื้อของตนเองออกเมื่อเห็นการกระทำของเขา จางหลินก็กรีดร้องหนักเข้าไปอีก“จางหยวน นาย...นายกำลังจะทำอะไร!” จางหลินพลางตะโกน พลางซักถามเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ จางหยวนก็แสดงท่าทา

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 7

    ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกรายล้อมไปด้วยชายสามคนที่เปลือยเปล่าเช่นกันสิ่งที่ตามมาก็คือ คำพูดหยาบคายทุกประเภทเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ จางหยวนก็แอบถุยน้ำลายในใจ“คนในเมือง ช่างเล่นสนุกเก่งจริง ๆ ”ภาพแบบนี้ สมัยก่อนมีให้เห็นแค่ในภาพยนต์เล็ก ๆ บางเรื่องเท่านั้นคิดไม่ถึงว่าการปีนเขาในครั้งนี้จะได้เห็นของจริงหลังจากแอบมองสักพัก จางหยวนก็วางแผนที่จะจากไปอย่างเงียบ ๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะได้ยินการสนทนาระหว่างคนหลายคน“นายน้อยหวัง เกิดอะไรขึ้น? คุณอารมณ์ไม่ดีเลย? คุณคิดถึงผู้หญิงแซ่ฉู่คนนั้นอยู่เหรอ”“เด็กผู้หญิงแซ่ฉู่ยังเป็นนกน้อยตัวหนึ่งอยู่ นายน้องหวังชอบแบบนี้”“เฮยเฮย……”ชายทั้งสามกำลังถกเถียงกันผู้หญิงคนนั้นก็พูดแทรกขึ้นมาว่า: "นายน้อยหวัง ไม่ต้องกังวล ครังนี้ฉันได้ชวนเธอออกมาด้วย และได้เตรียมการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอให้ค่ำก่อน ฉันจะมอมเหล้าเธอ พอถึงเวลานั้น คุณก็รู้ว่าควรจะทำยังไง... "เพียะนายน้อยหวังตบตูดของผู้หญิงคนนั้นไปหนึ่งที แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: "ดีมาก เมื่อเรื่องนี้เสร็จสิ้น ผมจะตอบแทนคุณอย่างงาม"ผู้หญิงคนนั้นก็เบิกบานใจขึ้นมาทันที การเคลื่อนไหวของเธอก็ร

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 8

    ในมื้อเย็น แม่ของเขาหวังฮุ่ยตั้งใจทำอาหารจำพวกเนื้อสัตว์สองจานเพื่อเฉลิมฉลองเมื่อเห็น "อาหารจำพวกเนื้อสัตว์" ที่มีเนื้อเพียงไม่กี่ชิ้นบนจาน จางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดใจไม่ใช่ว่าเขาจะรังเกียจที่มีเนื้อน้อยนับตั้งแต่จางหยวนกลายเป็นคนโง่ เพื่อรักษาอาการป่วยของเขา สองสามีภรรยาผู้สูงวัยก็ไม่กินเนื้อสัตว์เลยแม้แต่เพียงครั้งเดียว !จางหยวนขยี้ตา แสร้งทำเป็นว่ามีทรายเข้าไปในดวงตา“พ่อครับ แม่ครับ พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปในเมือง! วันนี้ผมเก็บสมุนไพรจากบนภูเขามาได้เล็กน้อย ผมจะขายมันเพื่อหาเงิน!” จางหยวนกล่าวเมื่อสองสามีภรรยาผู้สูงวัยได้ยินดังนี้ก็มองหน้ากัน และอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าลูกของพวกเขาโตแล้วจริง ๆ !แต่พวกเขาไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก สมุนไพรที่เก็บมาจากภูเขา จะขายได้สักกี่บาทเชียว?ถ้าขายได้เงินเยอะ ทุกคนในหมู่บ้านก็คงจะไปขุดสมุนไพรบนภูเขาแล้วจางหยวนไม่ได้อธิบาย เกี่ยวกับเรื่องนี้มากนักหลังจากกินข้าวเสร็จ เขาก็แบกตะกร้าสะพายหลังขึ้นไปบนภูเขาอีกครั้งตอนนี้พระอาทิตย์ตกดินแล้ว เขาจะต้องเก็บโสมป่ากลับมา ก่อนที่ฟ้าจะมืดพอเดินมาจนถึงจุดที่โสมป่าอยู่ และเห็นว่าของปลอมที่

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 9

    ค่ำคืนนี้ ผ่านไปอย่างยาวนานมากจนกระทั่งฟ้าสางเล็กน้อย จางหยวนที่อยู่ในถ้ำก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเมื่อเห็นใบหน้าอันเรียวเล็กที่ประณีตสวยงามที่อยู่ตรงหน้า และสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอันอบอุ่นในอ้อมแขน เขาก็รู้สึกว่าตนเองกำลังฝันอยู่ครู่หนึ่งแต่ไม่นานจางหยวนก็รู้ว่า ตนเองไม่ได้ฝันไปเพราะเรือนร่างอันงดงามของสาวสวยที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา มันนุ่มนวลอ่อนโยนมากจริง ๆ !หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ในใจว่า..."ซี๊ด!"จางหยวนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเมื่อคืนนี้ เขาถูกสาวน้อยคนนี้ผลักจริง ๆ !แม้ว่าตอนนี้ พวกเขาทั้งสองจะกอดกันแบบห่าง ๆ ก็ตาม!จางหยวนกลืนน้ำลาย ตอนนี้สถานการณ์ร้ายแรงกว่าที่คิดแล้ว!ทำยังไงดี?ควรทำยังไง?แต่ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ต้องลุกขึ้นไปสวมเสื้อผ้าก่อน!จางหยวนผลักหญิงสาวออกไปด้วยความระมัดระวังแต่ไม่ว่าเขาจะระมัดระวังมากแค่ไหนขณะที่ทั้งสองแยกจากกัน เด็กสาวยังคงร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อยม่านตาของจางหยวนหดลงเล็กน้อย แล้วแอบพูดว่าแย่แล้ว!ทันใดนั้นเอง หญิงสาวก็ลืมตาขึ้นเมื่อฉู่เสวี่ยฉีเห็นจางหยวน แล้วเห็นร่างที่เปลือยเปล่าของตนเอง รวมทั้งความยุ่งเหยิงบนพื้นเธอ

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 10

    ถ้าพูดอย่างเคร่งครัดแล้ว ตอนนี้เขาได้เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวจจริง ๆ แล้ว!แต่จางหยวนจะไม่พูดเรื่องนี้ต่อหน้าแม่ของเขาถ้าให้ทั้งสองคนรู้เข้า เขาจะต้องโดนดุอย่างแน่นอนตระกูลจางเป็นตระกูลที่ซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบมาโดยตลอด ไปรังแกผู้หญิงมา จะไม่รับผิดชอบได้อย่างไร?จางหยวนแทบจะจินตนาการได้ว่า หลังจากที่ทั้งสองคนรู้เรื่องนี้แล้ว พวกเขาจะต้องให้เขาไปแสดงความรับผิดชอบต่อหงส์ขาวตัวนั้นอย่างแน่นอน“แค่กแค่ก แม่ครับ ฉันรู้สึกหิวนิดหน่อย ผมจะกวาดพื้นเอง แม่ไปทำอาหารเถอะ!” จางหยวนไอสองครั้งแล้วรีบเปลี่ยนเรื่องหวังฮุ่ยก็ไม่ได้พูดหัวข้อนี้อีกต่อไปหลังจากที่ล้างมือแล้วก็เข้าครัวไปทำอาหารเช้าอาหารเช้าคือโจ๊กมันเทศที่จางหยวนชื่นชอบที่สุดเขาดื่มมันไปสามชามใหญ่ ๆ แล้วก็กินหมั่นโถวที่ทำขึ้นมาเองอีกสองลูกใหญ่ ๆเมื่อเห็นว่าจางหยวนกินเก่งขนาดนี้ ทั้งสองคนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อก่อนในตอนเช้า อย่างมากจางหยวนจะดื่มซุปได้เพียงแค่สองชามและกินหมั่นโถวหนึ่งลูกเท่านั้นทำไมวันนี้ถึงได้กินเยอะขึ้น?สิ่งที่ทั้งสองไม่รู้ก็คือ เมื่อคืนนี้ในถ้ำจางหยวนใช้พลังงานไปไม่น้อยเลย จึงต้องทานอาหารเสริม

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 11

    ผู้หญิงคนใดที่มีสิ่งเหล่านี้ ถึงสามารถเรียกได้ว่าเป็นสาวงามแต่บังเอิญว่าผู้หญิงตรงหน้า มีครบทุกอย่าง!สิ่งที่น่าดึงดูดที่สุดคือ บุคลิกที่เย็นชาสง่างามบนตัวของผู้หญิงคนนี้เธอเปรียบเสมือนราชินีผู้เย็นชาที่เซ็กซี่สง่างามทำให้ผู้ชายอดไม่ได้ที่จะหลงใหลในความงามและความเซ็กซี่ของเธอ แต่เนื่องจากความน่าเกรงขามของราชินี จึงทำให้ไม่กล้ามีความคิดที่ป่าเถื่อนอยู่ในใจแต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น ก็ยิ่งอยากจะลากราชินีผู้งดงามเย็นชาผู้นี้ลงมาจากบัลลังก์โดยไม่รู้ตัวให้เธอยอมจำนนในอ้อมแขนของตนเอง และถูกเขาพิชิต!ในขณะนี้ จางหยวนอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงฉากหนึ่งในสมองสมมุติว่า……คนที่อยู่ในถ้ำเมื่อคืนนี้ไม่ใช่หญิงสาวที่มีนิสัยที่ไม่ดีคนนั้น แต่เป็นราชินีที่งดงามเย็นชาที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ถ้าอย่างนั้น...ตนเองอาจจะตัดใจออกจากถ้ำไม่ได้?ราวกับรับรู้ถึงความคิดที่ไม่ดีของจางหยวน สาวสวยผู้งดงามเย็นชาจ้องมองมาที่เขาทันทีจางหยวนสั่นเทาไปทั้งตัวพอถูกสาวสวยที่งดงามเย็นชามอง เขาก็รู้สึกเหมือนตอนที่เรียนหนังสือ อารมณ์ประมาณว่าถูกเตือนด้วยสายตาครูประจำชั้นผู้เคร่งครัดเมื่อวอกแวกในชั้นเรียน!!ในเวลานี้ ชา

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 12

    จางหยวนเม้มริมฝีปาก แล้วชี้ไปที่หัวกกของโสมป่าแล้วพูดว่า“หัวกก ถูกต่อเข้าไปอย่างเห็นได้ชัด! ส่วนลวดลายของโสม ก็แกะสลักด้วยมีดอย่างชัดเจน จากนั้นก็เอาไปทำให้มันดูเก่า! เหมือนกับทำของโบราณเลย…”“กล่าวโดยสรุปก็คือ นี่คือโสมธรรมดาที่ถูกดัดแปลงเป็นโสมป่า! ดูไปแล้วก็เหมือนกับโสมป่าจริง ๆ แต่ยังไงก็เป็นของปลอมอยู่ดี!ฤทธิ์ยาในนั้นเทียบกันไม่ติดเลย!”หลังจากที่จางหยวนพูดจบ ผู้จัดการร้านขายยาที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ก็รู้สึกกังวลในเป็นอย่างมากเขาคิดไม่ถึงเลยว่า จางหยวนจะรู้วิธีดูโสมป่าจริง ๆและทุกคำพูดของจางหยวนก็ถูกต้องตรงประเด็นทั้งหมด!ผู้จัดการร้านขายยาอาศัยวิธีนี้ ในการเปลี่ยนโสมธรรมดาให้เป็นโสมป่า!ในขณะนี้ อันที่จริงแล้วไม่ใช่แค่ผู้จัดการร้านขายยาเท่านั้นที่ตกใจนอกจากนี้ยังมีสาวงามผู้เย็นชาที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยสาวงามผู้เย็นชามองที่จางหยวนด้วยความประหลาดใจเดิมทีเธอคิดว่า จางหยวนแค่อยากจะหาข้ออ้างเข้าใกล้เธอแต่คิดไม่ถึงว่า จางหยวนสามารถพูดคำพูดได้มากมายขนาดนี้ แถมฟังไปแล้วดูสมเหตุสมผลมาก!ในเวลานี้ ผู้จัดการร้านขายยาก็กลอกตาแล้วเยาะเย้ยขึ้นมาทันที“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มพูดออกมามากม

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 13

    “ห้าแสน... สี่หมื่นบาท!” ในที่สุดจางหยวนก็เสนอราคานี้ราคานี้ ขึ้นราคาแล้ว แต่จะไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าขึ้นราคามากจนเกินไปสาวงามผู้เย็นชามองจางหยวนด้วยสายตาที่สงบนิ่งจากประสบการณ์ของเธอ เข้าใจความหมายที่จางหยวนทำเช่นนี้ไปโดยปริยาย“เป็นราคาที่ชาญฉลาดมาก! ถ้าคุณเสนอราคาห้าแสนห้าหมื่นบาท ฉันอาจจะไปซื้อโสมจากที่อื่นด้วยความโกรธ!” สาวสวยผู้เย็นชากล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆจากนั้นเธอก็ยื่นนามบัตรให้กับจางหยวน: "แนะนำตนเอง ฉันชื่อฉู่เสวี่ยเยี่ยน เป็นผู้จัดการทั่วไปของภัตตาคารเทียนเหอ! นี่คือนามบัตรของฉัน!"เมื่อได้ยินดังนี้ จางหยวนก็ประหลาดใจ และรับนามบัตรมาคิดไม่ถึงว่าฉู่เสวี่ยเยี่ยนที่อยู่ตรงหน้า จะเป็นคือผู้จัดการทั่วไปของภัตตาคารเทียนเหอ!ภัตตาคารเทียนเหอ เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองชิงเหอ!ว่ากันว่าการตกแต่งภายในได้ดีมาก และอาหารก็อร่อยมากเช่นกันไม่น่าแปลกใจที่เธอจะสามารถขับรถหรูราคาห้าล้านบาทได้!จางหยวนพูดอย่างจริงจังว่า: "ผมชื่อจางหยวน!"“เดี๋ยวฉันจะเอาเงินให้คุณ! ต่อไปถ้าคุณสามารถหาโสมป่าได้ สามารถโทรแจ้งให้ฉันทราบได้ ฉันต้องการมันทั้งหมด!” ฉู่เสวี่ยเยี่ยนกล่าวจ

Bab terbaru

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 422

    เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 421

    "ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 420

    หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 419

    พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 418

    ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 417

    ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 416

    จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 415

    เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 414

    แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ

DMCA.com Protection Status