Share

บทที่ 8

ในมื้อเย็น แม่ของเขาหวังฮุ่ยตั้งใจทำอาหารจำพวกเนื้อสัตว์สองจานเพื่อเฉลิมฉลอง

เมื่อเห็น "อาหารจำพวกเนื้อสัตว์" ที่มีเนื้อเพียงไม่กี่ชิ้นบนจาน จางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดใจ

ไม่ใช่ว่าเขาจะรังเกียจที่มีเนื้อน้อย

นับตั้งแต่จางหยวนกลายเป็นคนโง่ เพื่อรักษาอาการป่วยของเขา สองสามีภรรยาผู้สูงวัยก็ไม่กินเนื้อสัตว์เลยแม้แต่เพียงครั้งเดียว !

จางหยวนขยี้ตา แสร้งทำเป็นว่ามีทรายเข้าไปในดวงตา

“พ่อครับ แม่ครับ พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปในเมือง! วันนี้ผมเก็บสมุนไพรจากบนภูเขามาได้เล็กน้อย ผมจะขายมันเพื่อหาเงิน!” จางหยวนกล่าว

เมื่อสองสามีภรรยาผู้สูงวัยได้ยินดังนี้ก็มองหน้ากัน และอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า

ลูกของพวกเขาโตแล้วจริง ๆ !

แต่พวกเขาไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก สมุนไพรที่เก็บมาจากภูเขา จะขายได้สักกี่บาทเชียว?

ถ้าขายได้เงินเยอะ ทุกคนในหมู่บ้านก็คงจะไปขุดสมุนไพรบนภูเขาแล้ว

จางหยวนไม่ได้อธิบาย เกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก

หลังจากกินข้าวเสร็จ เขาก็แบกตะกร้าสะพายหลังขึ้นไปบนภูเขาอีกครั้ง

ตอนนี้พระอาทิตย์ตกดินแล้ว เขาจะต้องเก็บโสมป่ากลับมา ก่อนที่ฟ้าจะมืด

พอเดินมาจนถึงจุดที่โสมป่าอยู่ และเห็นว่าของปลอมที่ตนทำเอาไว้ไม่มีใครแตะต้อง จางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขาปีนขึ้นไปบนหน้าผา มาที่ข้าง ๆ โสมป่า และขุดโสมป่าออกมาอย่างระมัดระวัง

หลังจากขุดโสมป่าทั้งหมดแล้ว จางหยวนก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยคามเบิกบานใจ

อายุของโสมป่านี้ ยาวนานกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้เล็กน้อย เกือบจะสิบห้าหรือสิบหกปีได้!

การขายโสมป่าที่มีอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ขายในราคาหลายแสนบาทไม่ใช่ปัญหาเลย!

จางหยวนใส่โสมป่าลงในตะกร้าสะพายหลังของเขาอย่างระมัดระวัง แล้วใช้ผ้าฝ้ายที่เตรียมไว้ปิดเอาไว้ จากนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

พอคิดว่าพรุ่งนี้จะเอาโสมป่าไปขาย แล้วจะมีเงินเข้าบัญชีเป็นแสนบาท เขาก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก

วิกฤติการเงินของครอบครัว ก็จะคลี่คลายได้ในที่สุด!

เขาเดินกลับไปพร้อมฮัมเพลงเล็กน้อย เมื่อเดินไปถึงครึ่งไหล่เขา ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว

โชคดีที่ตอนเด็ก ๆ จางหยวนมักจะขึ้นมาเล่นอยู่บนเขาอยู่เสมอ จึงทำให้คุ้นเคยกับเส้นทางบนภูเขาเป็นอย่างดี

ถ้าเปลี่ยนเป็นคนที่ไม่คุ้นเคย อาจจะหลงทางในภูเขาก็ได้!

หลังจากที่เดินตามเส้นทางในความทรงจำแล้ว จางหยวนก็เดินลงมาจากภูเขา

พอใกล้ถึงตีนเขา ทันใดนั้น ก็มีร่างหนึ่งรีบวิ่งออกมาจากพงหญ้า แล้วกระโจนไปหาจางหยวน!

จางหยวนตกใจมาก และอยากจะเตะเท้าออกไปตามสัญชาตญาณ

แต่วินาทีต่อมา เขาก็ได้เก็บเท้ากลับมา

เพราะคนนี้คือ “หงส์ขาว” ตัวนั้นที่เขาเห็นในตอนกลางวัน!

ในเวลานี้ ในนัยน์ตาของเธอไม่ได้มีความเย่อหยิ่งเหมือนตอนกลางวันอีกต่อไป มีเพียงความใคร่อันแรงกล้าเท่านั้น!

“คุณเป็นอะไรไป?” จางหยวนถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

หลังจากได้ยินคำถามของจางหยวน นัยน์ตาของหญิงสาวแสดงความสับสนออกมาเล็กน้อย ต่อมาก็กลายเป็นความใคร่

ครู่ต่อมา เธอก็ทิ้งตัวไปที่บนร่างของจางหยวน และกอดเขาเอาไว้แน่น...

จางหยวนตกใจมาก เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ตอนช่วงกลางวันหญิงสาวคนนี้ยังใช้สายตาเหมือนมองคางคกมองเขาอยู่เลย แล้วทำไมถึงได้โอบกอดเขาในตอนกลางคืน?

เป็นไปได้ไหมว่า ที่ผู้หญิงคนนี้จะมีหลายบุคลิก?

หงส์ขาวที่เย่อหยิ่งในตอนกลางวัน กลับเป็นคนที่สำส่อนในตอนกลางคืน?

แต่จากนั้นไม่นาน จางหยวนก็ปฏิเสธความคิดนี้ เพราะผู้หญิงคนนี้ยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่!

เมื่อนึกถึงคำพูดของหญิงสาวสำส่อนที่สำส่อนกับชายสามคนในช่วงกลางวัน จางหยวนก็คาดเดาว่า หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า อาจถูกวางยา!

จางหยวนหวั่นไหวเล็กน้อย

เด็กสาวปลดกระดุมเสื้อของเขาอย่างงุ่มง่าม และลูบคลำไปทั่วร่างกายของเขา

“จุ๊จุ๊! ต้องกระตือรือร้นขนาดนี้เลยเหรอ? ดูเหมือนว่ายาจะมีพลังมาก!” สีหน้าของจางหยวนเต็มไปด้วยการหยอกล้อ

แต่ไม่ว่าเขาจะหยอกล้อแค่ไหน หญิงสาวในอ้อมแขนของเขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

เมื่อค้นพบข้อเท็จจริงนี้ จางหยวนก็ถอนหายใจทันที

แม้ว่าเขาจะไม่ชอบผู้หญิงที่ดูถูกคนชนบทคนนี้เลย

แต่ในเมื่อได้เจอกันแล้ว จะให้เขาไม่สนใจใยดี เขาทำไม่ได้จริง ๆ !

จางหยวนมองไปบริเวณรอบ ๆ ก็จำได้ว่ามีถ้ำที่ค่อนข้างสะอาดอยู่ไม่ไกลจากเชิงเขา

ปกติแล้วเวลาคนในหมู่บ้านขึ้นไปบนภูเขา แล้วเจอฝนตก ก็จะเข้าไปหลบฝนในถ้ำแห่งนั้น

จางหยวนจะพาหญิงสาวไปที่ในถ้ำ จากนั้นก็ฝังเข็มเพื่อล้างพิษให้เธอ

พอจางหยวนอุ้มหญิงสาวขึ้นมา ก็รู้สึกถึงกลิ่นหอมจาง ๆ เข้ามาในรูจมูกเป็นระยะ ซึ่งทำให้รู้สึกสดชื่นมาก

ต้องบอกว่า ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะนิสัยไม่ค่อยดี แต่ตัวหอมจริง ๆ !

จางหยวนอุ้มเธอไปจนถึงถ้ำ

ระหว่างทางหญิงสาวยังคงกอดจูบลูบคลำเขา

มันทำให้จางหยวนเกิดความอยากขึ้นในใจ!

เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูน ที่จะไม่รู้สึกรู้สาอะไร

หลังจากเข้าไปในถ้ำแล้ว จางหยวนก็ใช้ความพยายามอย่างมาก ในการดึงหญิงสาวออกจากเบนตัวของตนเอง แล้ววางเธอนั่งลงบนก้อนหินใหญ่ในถ้ำ

จากนั้น ขณะที่เขากำลังจะหยิบเข็มเงินออกมาจากในกระเป๋า เพื่อฝังเข็มถอนพิษให้หญิงสาว

ทันใดนั้น เด็กผู้หญิงตรงหน้าเขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วเอามือทั้งสองข้างคล้องคอจางหยวน

ริมฝีปากสีแดงประกบไปที่ริมฝีปากของจางหยวน โดยไม่ทันได้ตั้งตัว!

ความรู้สึกนุ่มนวลอ่อนหวานหวานเต็มปากและรูจมูก!

นัยน์ตาของจางหยวนเบิกกว้างทันที

ปากเล็ก ๆ ของผู้หญิงตรงหน้า ทำไมถึงได้หวานขนาดนี้?

มันเหมือนกับอาหารรสเลิศที่ถูกร่ายเวทมนตร์เอาไว้ ให้ผู้คนอยากกินคำที่สองหลังจากที่ได้กินไปคำหนึ่ง!

สมองของเขาว่างเปล่าอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดจางหยวนก็ตั้งสติได้ จึงผลักหญิงสาวออกไปตามสัญชาตญาณ

แต่ในขณะนี้ เด็กสาวใช้ลิ้นหอม ๆ ของเธอเปิดแนวป้องกันสุดท้ายของเขา!

สาวงามอยู่ในอ้อมแขน แถมยังกระตือรือร้นมาก

ผู้ชายธรรมดาคนไหน ก็ต้านทานเอาไว้ไม่อยู่!

ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ มือของผู้หญิงคนนี้ ยังซุกซนเล็กน้อย!

ในขณะนั้น ความคิดสุดท้ายที่แวบขึ้นมาในสมองของจางหยวนก็คือ...

สาวน้อย คุณช่างไม่มีจรรยาบรรณในการต่อสู้เอาซะเลย!

ช่วงเวลาต่อมา จางหยวนก็ตกอยู่ในภวังค์การจู่โจมของหงส์ขาวตัวนี้อย่างสิ้นเชิง...

ในขณะเดียวกัน

ชายสามหญิงหนึ่งที่จางหยวนเจอในช่วงกลางวัน ต่างก็พากันนั่งอยู่บนพื้นหญ้าบนไหล่เขาอย่างหดหู่

“เชี่ยแม่ง! สาวน้อยคนนั้นวิ่งไปไหนแล้ว? ตามหามาครึ่งค่อนคืนแล้วก็หาเธอไม่เจอ แถมพวกเรายังหลงทางอีก!” หวังปินคนที่ถูกเรียกว่านายน้อยหวังก่อนหน้านี้มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ

ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวโน้มน้าวใจอย่างระมัดระวังว่า: "นายน้อยหวัง อย่าโกรธไปเลย! ก็แค่ฉู่เสวี่ยฉีคนเดียวเอง? ยังมีผู้หญิงดี ๆ อีกตั้งมากมายในโลกใบนี้!"

“หุบปาก! นังสารเลวหลินเหม่ยลี่! หากเธอไม่ตบอกรับรองว่าจะสามารถจัดการกับฉู่เสวี่ยฉีได้ ฉันจะมานอนบนภูเขาตอนกลางคืนไหม?”

หวังปินชี้ไปที่จมูกของผู้หญิงคนนั้นแล้วด่าทอ

เมื่อได้ยินดังนี้ หลินเหม่ยลี่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรอีก

เธอเองก็รู้สึกหดหู่ใจมากเช่นกัน

เห็นได้ชัดว่าฉู่เสวี่ยฉีโดนวางยาแล้ว ยาปลุกเซ็กส์กำลังจะออกฤทธิ์อยู่แล้ว

เธอแค่ออกไปส่งข่าวแค่แป๊บเดียว หลังจากกลับมาฉู่เสวี่ยฉีก็หายตัวไปแล้ว!

“นายน้อยหวัง ผมคิดว่า ฉู่เสวี่ยฉีจะต้องลงเขาไปแล้ว!” ชายสารเลวที่อยู่ข้าง ๆ เขาวิเคราะห์

หวังปินทำเสียงตะคอกอย่างเย็นชา: "นั่นคือสิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุด! สาวน้อยฉู่เสวี่ยฉีนั่นกินยาปลุกเซ็กส์ "ฉันชอบกินฟืน"เข้าไป ถ้าพบกับผู้ชายคนไหน เธอจะต้องกระโดดเข้าไปกอดอย่างแน่นอน แล้วอีกฝ่ายก็จะได้ประโยชน์ไป!"

พอนึกถึงตรงนี้ฉู่เสวี่ยฉีอาจถูกคนอื่นทำมิดีมิร้ายไปแล้วก็ได้

หวังปินรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง!

เขาพยายามคิดแผนมาเป็นอย่างดี แต่สุดท้ายกลับปล่อยให้คนอื่นเก็บผลไม้ไป?

ในเวลานี้ หลินเหม่ยลี่ที่อยู่ด้านข้างก็รีบกล่าวปลอบใจว่า:

“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้! นายน้อยหวัง พวกเราสามสี่คนต่างก็หาทางลงเขาไม่ได้ ฉู่เสวี่ยฉีไม่ค่อยมีสติ จะลงเขาไปได้ยังไง!”

ชายสารเลวอีกคนก็พยักหน้าเมื่อได้ยินดังนี้: "ที่หลินเหม่ยลี่วิเคราะห์ก็มีเหตุผล! ฉู่เสวี่ยฉีอาจจะยังอยู่บนภูเขา แต่อาจจะหลงทางเหมือนกับพวกเรา!"

“แม่งเอ๊ย! อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย! หลินเหม่ยลี่ ตอนนี้ฉันโกรธมาก!” หวังปินตบฝุ่นบนเสื้อผ้าของเขาอย่างแรง

หลินเหม่ยลี่แสร้งทำเป็นโกรธ สีหน้าท่าทางก็ยั่วยวนขึ้นมาทันที แจากนั้นก็เดินมาที่ตรงหน้าหวังปินแล้วปลดกระดุมเสื้อผ้าของตนออก

ใบหน้าของชายสารเลวสองคนที่อยู่ข้าง ๆ เต็มไปด้วยความอิจฉา

แต่หวังปินไม่ได้บอกให้พวกเขามาร่วมด้วย พวกเขาจึงทำได้แต่ดูอยู่ข้าง ๆ เท่านั้น

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status