Share

บทที่ 4

Author: กระดาษรักครึ่งแผ่น
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อจางหยวนเห็นสีหน้าของหลี่ชิวจวี๋เปลี่ยนเป็นสีแดง ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: "พี่ชิวจวี๋ ผมทำให้พี่เจ็บหรือเปล่า"

ขณะที่พูด เขาก็ปล่อยมือ

หลี่ชิวจวี๋จับมือเขาเอาไว้โดยที่ไม่รู้ตัว

“พี่หยวน อย่า! ทำแบบนี้แหละ…”

“พี่สะใภ้รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว พี่เก่งมากจริง ๆ !”

พูดจบ หลี่ชิวจวี๋ไม่รู้คิดอะไรอยู่ สีหน้าจึงแดงก่ำด้วยความเขินอาย จากนั้นก็รีบหยิบหมอนขึ้นมาปิดศีรษะเอาไว้

หลังจากที่จางหยวนตอบสนองได้ ก็พูดไม่ออกเล็กน้อย

เขาเม้มริมฝีปาก และจะบอกว่าตนเองจะกลับบ้านแล้ว แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นกลับเห็นเอวอันเรียวบางของหลี่ชิวจวี๋บิดเล็กน้อยราวกับว่าเป็นงูน้ำตัวหนึ่ง

อึก ๆ

เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

เหงื่อบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนหน้าผาก

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเหนื่อยล้าจากการรักษา อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะถูกทรมานจากภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า

สักพัก ในห้องก็เงียบลง

ท้องฟ้าด้านนอกก็ค่อย ๆ มืดลง

แสงสว่างในห้องก็มืดสลัวลงเช่นกัน

ตามคำร้องขอของหลี่ชิวจวี๋ จางหยวนจึงนวดให้หลี่ชิวจวี๋อยู่ตลอดเวลา

เมื่อเห็นว่าดึกแล้ว และจางหยวนก็เห็นว่าหลี่ชิวจวี๋ไม่ได้ขยับตัว จึงคิดว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้ว

เมื่อเห็นดังนี้ จางหยวนก็แอบถอนหายใจในใจ มรดกของนางฟ้าผู้ไม่มีใครเทียบนั้นทรงพลังมาก

พอได้สืบทอดมรดกวิชานี้ จางหยวนมีความมั่นใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในอนาคตมากขึ้น

ด้วยความหวังในอนาคต จางหยวนจึงดึงมือออกจากท้องของหลี่ชิวจวี๋ ก้มหยิบเสื้อยืดขึ้นมา และเตรียมที่จะจากไปอย่างเงียบ ๆ

สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงก็คือ ในเวลานี้ มีแขนอันอ่อนนุ่มสวยงามแขนหนึ่งโอบกอดเขาจากด้านหลัง

“พี่หยวน วันนี้อย่าไปเลยนะ!”

“พี่สะใภ้...พี่สะใภ้จะให้พี่เป็นลูกผู้ชายจริง ๆ สักครั้ง!”

ร่างกายของหลี่ชิวจวี๋สั่นเทา แม้แต่เสียงก็สั่นเทาด้วยเล็กน้อย...

เมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความนุ่มนวลที่มาจากแผ่นหลัง และมือเล็ก ๆ ที่กอดเอวของเขาเอาไว้แน่น จางหยวนก็รู้สึกว่าเลือดเริ่มสูบฉีด

เขาเป็นชายหนุ่มที่แข็งแกร่งที่ยังไม่เคยลิ้มรสกามมาก่อน จะทนต่อสิ่งนี้ได้อย่างไร!

โดยเฉพาะ หลี่ชิวจวี๋จงใจแนบชิดกับแผ่นหลังของจางหยวน ดูเหมือนตั้งใจจะให้จางหยวนสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของเธอ

จู่ ๆ จางหยวนก็หายใจลำบากขึ้นมาทันที: "พี่ชิวจวี๋ พี่..."

“ไม่ต้องพูด! พี่หยวน พี่สะใภ้คิดดีแล้ว!” หลี่ชิวจวี๋โน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูของจางหยวนเบา ๆ

ลมร้อนที่ปล่อยออกมาขณะที่พูด ทำให้หูของจางหยวนรู้สึกชา รู้สึกจักจี๊หัวใจราวกับว่าถูกแมวน้อยข่วน

ในขณะเดียวกัน มือเล็ก ๆ ของหลี่ชิวจวี๋ก็ไม่ได้นิ่งเฉยเช่นกัน

มันเคลื่อนจากเอวไปยังหน้าอกที่แข็งแกร่งของจางหยวน

กล้ามเนื้อหน้าอกที่แข็งแกร่งของชายหนุ่ม สำหรับผู้หญิงแล้วก็เป็นสิ่งล่อใจเช่นเดียวกัน

ยิ่งไปกว่านั้น หลี่ชิวจวี๋ยังเป็นสาวม่ายที่โดดเดี่ยวเดียวดายมานาน!

แค่ลูบหน้าอกของจางหยวน ก็ทำให้หลี่ชิวจวี๋หายใจเร็วขึ้นมาก เธออยากจะเอาร่างทั้งตัวแนบชิดกับร่างกายของจางหยวนใจจะขาด

การกระทำของเธอ ทลายแนวป้องกันสุดท้ายในใจของจางหยวนโดยสิ้นเชิง

จางหยวนหันกลับมากอดหลี่ชิวจวี๋ทันที แล้วเอาร่างอันอ่อนนุ่มมาไว้ในอ้อมแขน

มืออันหยาบกร้านที่ทำงานมาหลายปี ทำให้เสื้อผ้าของหลี่ชิวจวี๋ยุ่งเหยิงไปในชั่วพริบตาเดียว

ทันใดนั้น หลี่ชิวจวี๋ก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด: "ช๊ด! เบา ๆ หน่อย พี่หยวน!"

ที่แท้ก็เป็นเพราะว่าจางหยวนไม่สามารถควบคุมตนเองได้ จึงใช้แรงมากจนเกินไป พอไม่ทันได้ระวังจึงทำให้หลี่ชิวจวี๋เจ็บ

“พี่ชิวจวี๋ ผมขอโทษ! ผม... ผมจะอ่อนโยนกว่านี้!” น้ำเสียงของจางหยวนแสดงความขอโทษ

จากนั้น การเคลื่อนไหวของจางหยวนก็นุ่มนวลมากขึ้น

เมื่อได้สัมผัสความอ่อนโยนของจางหยวน หลี่ชิวจวี๋ก็รู้สึกว่าอารมณ์ที่ถูกระงับมานานหลายปีนั้นเหมือนกับแม่น้ำที่ไหลล้นตลิ่งในทันที จนทำให้เธอควบคุมตนเองไม่ได้

เธอเป็นม่ายสาวมานานมาก และยังโหยหาความรักจากผู้ชาย

เมื่อเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่หล่อเหลาและแข็งแกร่งอย่างจางหยวน ขณะนี้ทั้งกายและใจของหลี่ชิวจวี๋ก็ตกอยู่ในภวังค์ถึงขั้นถอนตัวไม่ได้...

คนหนึ่งก็เป็นชายหนุ่มเลือดร้อน

คนหนึ่งก็เป็นสาวม่ายมาหลายปี

เมื่อคนสองคนมีความสัมพันธ์กัน ก็เหมือนฟืนแห้งเจอไฟอันร้อนแรง แค่จุดก็ติด

แม้ว่าจางหยวนจะเคยดูหนังโป๊มานับไม่ถ้วนก่อนที่เขาจะโง่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับเป็นผู้ชายที่ไม่รู้อะไรเลย

ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่สามารถต้านทานได้

ท่ามกลางความงุนงง จางหยวนอุ้มหลี่ชิวจวี๋ขึ้นมา แล้ววางเธอลงบนเตียง...

และในขณะนี้

"พี่หยวน พี่หยวน..."

มีเสียงตะโกนดังออกมาเป็นระยะ

จางหยวนสะดุ้ง นั่นเป็นเสียงของแม่ของเขาหวังฮุ่ย

ทันใดนั้นเขาก็ตั้งสติขึ้นมาได้

เพียะ

จางหยวนตบหน้าของตนเองเบา ๆ

จางหยวน นายช่างเลวจริง ๆ ถึงได้ฉวยโอกาสตอนที่คนกำลังประสบวิกฤติ

จางหยวนแอบด่าทอที่ตนเองไม่เอาไหน จากนั้นก็วางหลี่ชิวจวี๋ลงเบา ๆ

"พี่ชิวจวี๋ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ผมต้องกลับบ้านแล้ว"

หลังทิ้งทวนด้วยประโยคนี้ จางหยวนก็หันหลังกลับแล้ววิ่งไป

หลี่ชิวจวี๋ที่นอนอยู่บนเตียง มองดูจางหยวนที่รีบออกจากบ้านไป ก็ด่าทอด้วยความโกรธว่า: "ช่างโง่เขลาจริง ๆ เนื้อมาถึงปากแล้วก็ไม่กิน..."

"ไอ้เด็กเหลือขอคนนี้!"

แต่สิ่งนี้ กลับทำหลี่ชิวจวี๋มีความตั้งใจที่จะมอบตนเองให้กับจางหยวนเพิ่มมากขึ้น

ผู้ชายทุกคนในหมู่บ้าน ต่างก็พากันอยากได้ร่างกายของเธอ

ยกเว้นจางหยวนคนเดียวเท่านั้น

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลี่ชิวจวี๋ก็รู้สึกว้าวุ่นใจขึ้นมา

ขณะที่นึกถึงรูปร่างหน้าตาของจางหยวน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่แข็งแรงของเขา เธอก็อดไม่ได้ที่จะเข้านอน

ในขณะเดียวกัน จางหยวนก็จัดระเบียบเสื้อผ้าและปรับลมหายใจเล็กน้อยที่ประตูบ้านของหลี่ชิวจวี๋ พอแน่ใจว่าตนเองไม่มีอะไรที่ผิดแปลกไปแล้ว ก็เดินไปที่ลานบ้านของตนเอง

ข้างเตาตรงมุม แม่ของเขาหวังฮุ่ยกำลังทำอาหารอยู่

หลังของเธอค่อมลง

ควันจากฟืนที่กำลังลุกไหม้ก็ลอยออกมา

"แค่กแค่ก..."

ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะหันกลับมาไอ

แต่ทันทีที่หันกลับมา แล้วเห็นจางหยวน เธอกลับหัวเราะขึ้นมา: "ลูกหยวน วันนี้ลูกหักข้าวโพดให้พี่ชิวสะใภ้จวี๋คงจะเหนื่อยมาก รีบไปล้างมือแล้วมากินข้าวเร็ว"

จางหยวนส่ายหัว: "ผมไม่เหนื่อย!"

ขณะที่เขาพูด เขาก็รีบเข้าไปเติมฟืน แล้วพูดว่า "แม่ ผมกินข้าวที่บ้านพี่สะใภ้ชิวจวี๋แล้ว แม่กับพ่อรีบกินเถอะ"

จากนั้น ด้วยความช่วยเหลือจากจางหยวน ไม่นานผู้เป็นแม่ก็ทำอาหารเสร็จ

จางหยวนนำอาหารมาวางไว้บนโต๊ะข้างหน้าต่างในบ้าน

ข้างโต๊ะ มีจางต้าซานนอนอยู่ด้วยสีหน้าท่าทางที่เศร้าสร้อย เมื่อเห็นจางหยวนเดินเข้ามา ก็เปลี่ยนไปเป็นสีหน้าที่ใจดีทันที

เรื่องนี้ ทำให้จางหยวนรู้สึกเศร้าใจมาก แต่บนใบหน้ากลับไม่ได้แสดงความผิดปกติใด ๆ เลย

ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ พ่อของเขาตัดใจที่จะไปรักษาที่โรงพยาบาลไม่ได้ จึงต้องนอนบนเตียงมาเกือบปีแล้ว

ฐานะทางบ้าน ก็แย่ลงเรื่อย ๆ

อาหารหนึ่งมื้อ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่ามันฝรั่งฝอย ผักกาดขาว และหมั่นโถวสองสามลูก

แค่นี้ ก็ถือว่าดีแล้ว

จางหยวนรู้ว่านี่คืออาหารที่แม่ของเขาตั้งใจทำเป็นพิเศษ เพราะรู้สึกว่าวันนี้เขาเหนื่อย จากการช่วยหลี่ชิวจวี๋ทำงาน

โดยปกติแล้ว พ่อแม่ของเขาจะกินแต่หมั่นโถวแห้งกับผักดองเท่านั้น

เมื่อเห็นท่าทางที่พ่อแม่กินแค่ผักกาดขาวกับมันฝรั่งฝอย จางหยวนก็ก้มศีรษะลงพร้อมกับนัยน์ตาที่แดงก่ำ

ในขณะนี้ เขากำหมัดเอาไว้แน่น และสาบานว่า: ต่อไปจะต้องทำให้พ่อแม่ของเขามีชีวิตที่ดีให้ได้

พอทานอาหารมื้อง่าย ๆ เสร็ํจแล้ว

จางหยวนก็ปรับเปลี่ยนอารมณ์ หลังจากลังเลอยู่นาน เขามองไปที่พ่อของเขาแล้วพูดว่า "พ่อครับ ขาของพ่อมีความรู้สึกไหมครับ"

เมื่อได้ยินดังนี้ พ่อของเขาจางต้าซานและแม่ของเขาหวังฮุ่ยต่างก็พากันตกตะลึง

เพราะว่า พฤติกรรมในปัจจุบันของจางหยวนแตกต่างจากจางหยวนที่โง่เขลาในเมื่อก่อนมาก

จางหยวนคนก่อน โง่เขลาไร้เดียงสา ปกติจะแค่ทำงานและเล่นไปวัน ๆ และจะไม่ถามคำถามเช่นนี้ออกมา

หวังฮุ่ยไม่รู้ว่าจะทำยังไงไปชั่วขณะหนึ่ง: "ลูกหยวน ลูก ... "

จางต้าซานที่อยู่ด้านข้าง ก็มีสีหน้าที่ตกตะลึงเช่นกัน

Related chapters

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 5

    จางหยวนเผยรอยยิ้มออกมา: "พ่อครับ แม่ครับ ผมหายแล้ว ผมจำเรื่องในอดีต ได้ทั้งหมด"เพล้งชามที่อยู่ในมือของหวังฮุ่ยหล่นลงบนพื้นเธอร้องไห้ด้วยความดีใจสุดขีด: "ดีเหลือเกิน ดีเหลือเกิน ในที่สุดลูกหยวนก็หายดีแล้ว"จางต้าซานไม่ได้พูดอะไร แต่นัยน์ตาของเขากลับเปล่งประกายแวววาวอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นภาพฉากนี้ จางหยวนก็สะอื้นไห้พร้อมพูดว่า "พ่อครับแม่ครับ ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ พ่อกับแม่ลำบากแล้ว"“ไม่ลำบาก เลี้ยงลูกชายของตนเอง มันจะไปลำบากอะไร!” จางต้าซานเผยรอยยิ้มที่หาได้ยากออกมาจางหยวนกล่าวต่อว่า: "พ่อครับ จริง ๆ แล้ว ผมไม่เพียงแต่หายดีเท่านั้น แต่ผมยังได้เรียนรู้ศาสตร์ทางการแพทย์บางอย่างด้วย ให้ผมดูอาการพ่อหน่อย บางทีผมอาจจะมีวิธีรักษาขอของพ่อก็ได้""ลูกหยวน ไม่ต้องพยายามแล้ว ขาทั้งสองข้างของพ่อ ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย แม้แต่หมอประจำหมู่บ้านก็ยังบอกว่ามันใช้การไม่ได้แล้ว... ลูกหายก็ดีแล้ว พรุ่งนี้พ่อจะขายที่ดินติดถนนของบ้านเราซะ แล้วหาเมียให้ลูกสักคนหนึ่ง ต่อไปจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข…"จางต้าซานโบกไม่โบกมือเมื่อได้ยินดังนี้ นัยน์ตาของจางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะแดงก่ำอีกครั้

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 6

    ถ้าไม่ใช่เพราะเสื้อผ้ารัดรูปเป็นแนวป้องกันสุดท้าย จางหลินคงจะเปลือยกายล่อนจ้อนต่อหน้าจางหยวนไปแล้ว!ภาพเหตุการณ์ที่กะทันหันนี้ ทำให้ทั้งจางหยวนและจางหลินตกตะลึงเมื่อเห็นภาพอันขาวละมุนที่อยู่ตรงหน้า จางหยวนก็กลืนน้ำลายไปตามสัญชาตญาณหากหลี่ชิวจวี๋เป็นลูกพีชสุกขนาดใหญ่ งั้นจางหลินก็คือแอปเปิ้ลน้อยที่ฝาดเล็กน้อยลูกพีชลูกใหญ่ก็ดีแบบลูกพีชลูกใหญ่ แอปเปิ้ลเขียวก็ดีแบบแอปเปิ้ลเขียวกล่าวโดยสรุป จมูกของจางหยวนเริ่มคันขึ้นมาอีกครั้งในเวลาเดียวกัน จางหลินที่ตกตะลึงไปหลายวินาที ภายใต้การจ้องมองของจางหยวน ในที่สุดก็ตั้งสติได้เธอกรีดร้องเสียงดังทันที และยังไม่ลืมที่จะใช้แขนปกป้องส่วนที่สำคัญปฏิกิริยาของจางหลิน ทำให้จางหยวนอยากจะพูดว่า มีอะไรให้ต้องปกป้องเหรอ?มันไม่ได้ใหญ่อยู่แล้ว!แต่เขาไม่กล้าพูดคำเหล่านี้ออกไป ถ้าพูดออกไป มันจะเป็นการทำร้ายจิตใจคน!จางหยวนถอนสายกลับมาด้วยความร้อนตัว หันกลับมา แล้วเริ่มถอดเสื้อของตนเองออกเมื่อเห็นการกระทำของเขา จางหลินก็กรีดร้องหนักเข้าไปอีก“จางหยวน นาย...นายกำลังจะทำอะไร!” จางหลินพลางตะโกน พลางซักถามเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ จางหยวนก็แสดงท่าทา

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 7

    ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกรายล้อมไปด้วยชายสามคนที่เปลือยเปล่าเช่นกันสิ่งที่ตามมาก็คือ คำพูดหยาบคายทุกประเภทเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ จางหยวนก็แอบถุยน้ำลายในใจ“คนในเมือง ช่างเล่นสนุกเก่งจริง ๆ ”ภาพแบบนี้ สมัยก่อนมีให้เห็นแค่ในภาพยนต์เล็ก ๆ บางเรื่องเท่านั้นคิดไม่ถึงว่าการปีนเขาในครั้งนี้จะได้เห็นของจริงหลังจากแอบมองสักพัก จางหยวนก็วางแผนที่จะจากไปอย่างเงียบ ๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะได้ยินการสนทนาระหว่างคนหลายคน“นายน้อยหวัง เกิดอะไรขึ้น? คุณอารมณ์ไม่ดีเลย? คุณคิดถึงผู้หญิงแซ่ฉู่คนนั้นอยู่เหรอ”“เด็กผู้หญิงแซ่ฉู่ยังเป็นนกน้อยตัวหนึ่งอยู่ นายน้องหวังชอบแบบนี้”“เฮยเฮย……”ชายทั้งสามกำลังถกเถียงกันผู้หญิงคนนั้นก็พูดแทรกขึ้นมาว่า: "นายน้อยหวัง ไม่ต้องกังวล ครังนี้ฉันได้ชวนเธอออกมาด้วย และได้เตรียมการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอให้ค่ำก่อน ฉันจะมอมเหล้าเธอ พอถึงเวลานั้น คุณก็รู้ว่าควรจะทำยังไง... "เพียะนายน้อยหวังตบตูดของผู้หญิงคนนั้นไปหนึ่งที แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: "ดีมาก เมื่อเรื่องนี้เสร็จสิ้น ผมจะตอบแทนคุณอย่างงาม"ผู้หญิงคนนั้นก็เบิกบานใจขึ้นมาทันที การเคลื่อนไหวของเธอก็ร

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 8

    ในมื้อเย็น แม่ของเขาหวังฮุ่ยตั้งใจทำอาหารจำพวกเนื้อสัตว์สองจานเพื่อเฉลิมฉลองเมื่อเห็น "อาหารจำพวกเนื้อสัตว์" ที่มีเนื้อเพียงไม่กี่ชิ้นบนจาน จางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดใจไม่ใช่ว่าเขาจะรังเกียจที่มีเนื้อน้อยนับตั้งแต่จางหยวนกลายเป็นคนโง่ เพื่อรักษาอาการป่วยของเขา สองสามีภรรยาผู้สูงวัยก็ไม่กินเนื้อสัตว์เลยแม้แต่เพียงครั้งเดียว !จางหยวนขยี้ตา แสร้งทำเป็นว่ามีทรายเข้าไปในดวงตา“พ่อครับ แม่ครับ พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปในเมือง! วันนี้ผมเก็บสมุนไพรจากบนภูเขามาได้เล็กน้อย ผมจะขายมันเพื่อหาเงิน!” จางหยวนกล่าวเมื่อสองสามีภรรยาผู้สูงวัยได้ยินดังนี้ก็มองหน้ากัน และอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าลูกของพวกเขาโตแล้วจริง ๆ !แต่พวกเขาไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก สมุนไพรที่เก็บมาจากภูเขา จะขายได้สักกี่บาทเชียว?ถ้าขายได้เงินเยอะ ทุกคนในหมู่บ้านก็คงจะไปขุดสมุนไพรบนภูเขาแล้วจางหยวนไม่ได้อธิบาย เกี่ยวกับเรื่องนี้มากนักหลังจากกินข้าวเสร็จ เขาก็แบกตะกร้าสะพายหลังขึ้นไปบนภูเขาอีกครั้งตอนนี้พระอาทิตย์ตกดินแล้ว เขาจะต้องเก็บโสมป่ากลับมา ก่อนที่ฟ้าจะมืดพอเดินมาจนถึงจุดที่โสมป่าอยู่ และเห็นว่าของปลอมที่

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 9

    ค่ำคืนนี้ ผ่านไปอย่างยาวนานมากจนกระทั่งฟ้าสางเล็กน้อย จางหยวนที่อยู่ในถ้ำก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเมื่อเห็นใบหน้าอันเรียวเล็กที่ประณีตสวยงามที่อยู่ตรงหน้า และสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอันอบอุ่นในอ้อมแขน เขาก็รู้สึกว่าตนเองกำลังฝันอยู่ครู่หนึ่งแต่ไม่นานจางหยวนก็รู้ว่า ตนเองไม่ได้ฝันไปเพราะเรือนร่างอันงดงามของสาวสวยที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา มันนุ่มนวลอ่อนโยนมากจริง ๆ !หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ในใจว่า..."ซี๊ด!"จางหยวนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเมื่อคืนนี้ เขาถูกสาวน้อยคนนี้ผลักจริง ๆ !แม้ว่าตอนนี้ พวกเขาทั้งสองจะกอดกันแบบห่าง ๆ ก็ตาม!จางหยวนกลืนน้ำลาย ตอนนี้สถานการณ์ร้ายแรงกว่าที่คิดแล้ว!ทำยังไงดี?ควรทำยังไง?แต่ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ต้องลุกขึ้นไปสวมเสื้อผ้าก่อน!จางหยวนผลักหญิงสาวออกไปด้วยความระมัดระวังแต่ไม่ว่าเขาจะระมัดระวังมากแค่ไหนขณะที่ทั้งสองแยกจากกัน เด็กสาวยังคงร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อยม่านตาของจางหยวนหดลงเล็กน้อย แล้วแอบพูดว่าแย่แล้ว!ทันใดนั้นเอง หญิงสาวก็ลืมตาขึ้นเมื่อฉู่เสวี่ยฉีเห็นจางหยวน แล้วเห็นร่างที่เปลือยเปล่าของตนเอง รวมทั้งความยุ่งเหยิงบนพื้นเธอ

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 10

    ถ้าพูดอย่างเคร่งครัดแล้ว ตอนนี้เขาได้เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวจจริง ๆ แล้ว!แต่จางหยวนจะไม่พูดเรื่องนี้ต่อหน้าแม่ของเขาถ้าให้ทั้งสองคนรู้เข้า เขาจะต้องโดนดุอย่างแน่นอนตระกูลจางเป็นตระกูลที่ซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบมาโดยตลอด ไปรังแกผู้หญิงมา จะไม่รับผิดชอบได้อย่างไร?จางหยวนแทบจะจินตนาการได้ว่า หลังจากที่ทั้งสองคนรู้เรื่องนี้แล้ว พวกเขาจะต้องให้เขาไปแสดงความรับผิดชอบต่อหงส์ขาวตัวนั้นอย่างแน่นอน“แค่กแค่ก แม่ครับ ฉันรู้สึกหิวนิดหน่อย ผมจะกวาดพื้นเอง แม่ไปทำอาหารเถอะ!” จางหยวนไอสองครั้งแล้วรีบเปลี่ยนเรื่องหวังฮุ่ยก็ไม่ได้พูดหัวข้อนี้อีกต่อไปหลังจากที่ล้างมือแล้วก็เข้าครัวไปทำอาหารเช้าอาหารเช้าคือโจ๊กมันเทศที่จางหยวนชื่นชอบที่สุดเขาดื่มมันไปสามชามใหญ่ ๆ แล้วก็กินหมั่นโถวที่ทำขึ้นมาเองอีกสองลูกใหญ่ ๆเมื่อเห็นว่าจางหยวนกินเก่งขนาดนี้ ทั้งสองคนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อก่อนในตอนเช้า อย่างมากจางหยวนจะดื่มซุปได้เพียงแค่สองชามและกินหมั่นโถวหนึ่งลูกเท่านั้นทำไมวันนี้ถึงได้กินเยอะขึ้น?สิ่งที่ทั้งสองไม่รู้ก็คือ เมื่อคืนนี้ในถ้ำจางหยวนใช้พลังงานไปไม่น้อยเลย จึงต้องทานอาหารเสริม

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 11

    ผู้หญิงคนใดที่มีสิ่งเหล่านี้ ถึงสามารถเรียกได้ว่าเป็นสาวงามแต่บังเอิญว่าผู้หญิงตรงหน้า มีครบทุกอย่าง!สิ่งที่น่าดึงดูดที่สุดคือ บุคลิกที่เย็นชาสง่างามบนตัวของผู้หญิงคนนี้เธอเปรียบเสมือนราชินีผู้เย็นชาที่เซ็กซี่สง่างามทำให้ผู้ชายอดไม่ได้ที่จะหลงใหลในความงามและความเซ็กซี่ของเธอ แต่เนื่องจากความน่าเกรงขามของราชินี จึงทำให้ไม่กล้ามีความคิดที่ป่าเถื่อนอยู่ในใจแต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น ก็ยิ่งอยากจะลากราชินีผู้งดงามเย็นชาผู้นี้ลงมาจากบัลลังก์โดยไม่รู้ตัวให้เธอยอมจำนนในอ้อมแขนของตนเอง และถูกเขาพิชิต!ในขณะนี้ จางหยวนอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงฉากหนึ่งในสมองสมมุติว่า……คนที่อยู่ในถ้ำเมื่อคืนนี้ไม่ใช่หญิงสาวที่มีนิสัยที่ไม่ดีคนนั้น แต่เป็นราชินีที่งดงามเย็นชาที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ถ้าอย่างนั้น...ตนเองอาจจะตัดใจออกจากถ้ำไม่ได้?ราวกับรับรู้ถึงความคิดที่ไม่ดีของจางหยวน สาวสวยผู้งดงามเย็นชาจ้องมองมาที่เขาทันทีจางหยวนสั่นเทาไปทั้งตัวพอถูกสาวสวยที่งดงามเย็นชามอง เขาก็รู้สึกเหมือนตอนที่เรียนหนังสือ อารมณ์ประมาณว่าถูกเตือนด้วยสายตาครูประจำชั้นผู้เคร่งครัดเมื่อวอกแวกในชั้นเรียน!!ในเวลานี้ ชา

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 12

    จางหยวนเม้มริมฝีปาก แล้วชี้ไปที่หัวกกของโสมป่าแล้วพูดว่า“หัวกก ถูกต่อเข้าไปอย่างเห็นได้ชัด! ส่วนลวดลายของโสม ก็แกะสลักด้วยมีดอย่างชัดเจน จากนั้นก็เอาไปทำให้มันดูเก่า! เหมือนกับทำของโบราณเลย…”“กล่าวโดยสรุปก็คือ นี่คือโสมธรรมดาที่ถูกดัดแปลงเป็นโสมป่า! ดูไปแล้วก็เหมือนกับโสมป่าจริง ๆ แต่ยังไงก็เป็นของปลอมอยู่ดี!ฤทธิ์ยาในนั้นเทียบกันไม่ติดเลย!”หลังจากที่จางหยวนพูดจบ ผู้จัดการร้านขายยาที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ก็รู้สึกกังวลในเป็นอย่างมากเขาคิดไม่ถึงเลยว่า จางหยวนจะรู้วิธีดูโสมป่าจริง ๆและทุกคำพูดของจางหยวนก็ถูกต้องตรงประเด็นทั้งหมด!ผู้จัดการร้านขายยาอาศัยวิธีนี้ ในการเปลี่ยนโสมธรรมดาให้เป็นโสมป่า!ในขณะนี้ อันที่จริงแล้วไม่ใช่แค่ผู้จัดการร้านขายยาเท่านั้นที่ตกใจนอกจากนี้ยังมีสาวงามผู้เย็นชาที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยสาวงามผู้เย็นชามองที่จางหยวนด้วยความประหลาดใจเดิมทีเธอคิดว่า จางหยวนแค่อยากจะหาข้ออ้างเข้าใกล้เธอแต่คิดไม่ถึงว่า จางหยวนสามารถพูดคำพูดได้มากมายขนาดนี้ แถมฟังไปแล้วดูสมเหตุสมผลมาก!ในเวลานี้ ผู้จัดการร้านขายยาก็กลอกตาแล้วเยาะเย้ยขึ้นมาทันที“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มพูดออกมามากม

Latest chapter

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 422

    เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 421

    "ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 420

    หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 419

    พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 418

    ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 417

    ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 416

    จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 415

    เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 414

    แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ

DMCA.com Protection Status