Share

แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง
แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง
Author: กระดาษรักครึ่งแผ่น

บทที่ 1

Author: กระดาษรักครึ่งแผ่น
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ อย่าดูดนะ มันเจ็บ!”

“อาหยวน พี่อดทนอีกนิดนึงนะ อีกเดี๋ยวพี่สะใภ้ก็จะดูดมันออกมาได้แล้ว!”

“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ เจ็บมากเลย... ซี๊ด…”

“เอาล่ะเอาล่ะ ออกมาแล้ว!”

ตอนบ่าย ณ ทุ่งข้าวโพดหน้าหมู่บ้านเซี่ยวาน

จางหยวนผู้มีใบหน้าที่โง่เขลา มองไปที่หญิงสาวที่กำลังนั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าด้วยหน้าตาที่บูดบึ้ง

หญิงสาวชื่อหลี่ชิวจวี๋ อยู่ในวัยที่บรรลุนิติภาวะแล้ว

ไม่เพียงแต่หน้าตาสะสวยผิวขาวผุดผ่องแล้ว รูปร่างก็โค้งเว้าสมส่วน เป็นที่สะดุดตาเป็นอย่างมาก

เธอสวมเสื้อกั๊กคอวีสีชมพูหลวม ๆ ตัวหนึ่ง

เนื่องจากกำลังนั่งยอง ๆ แค่จางหยวนก้มศีรษะลงไปเล็กน้อย ก็จะสามารถเห็นผิวขาวกระจ่างใสที่คอเสื้อของหลี่ชิวจวี๋ได้แล้ว

ถ้าเปลี่ยนไปเป็นกุ๊ยเหล่านั้นในหมู่บ้าน เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ก็คงจะกลืนน้ำลายไปหลายอึกแล้ว

แต่นอกจากจางหยวนจะไม่แยแสแล้ว ยังกล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหดหู่ใจว่า:

“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ พี่ดูดจนผมเจ็บไปหมดแล้ว!”

เมื่อได้ยินดังนี้ หลี่ชิวจวี๋ที่กำลังเช็ดเลือดออกจากมุมปากก็กลอกตาใส่:

“พี่นี่มันโง่จริง ๆ ! พี่รู้ไหมว่าเมื่อกี้มันอันตรายมากแค่ไหน? ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้ดูดเลือดพิษออกมาให้พี่ พี่ก็คงจะตายเพราะพิษงูไปแล้ว!”

อันที่จริงหลี่ชิวจวี๋รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

สามีเจ้ากรรมของเธอคนนั้นหายตัวไปหลายปีแล้ว

เธอไม่สามารถทำงานหนักในทุ่งนาได้

และเธอก็ไม่ยอมที่จะไปข้องแวะกับผู้ชายที่หวังในเรือนร่างของเธอเหล่านั้น ดังนั้นจึงทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากจางหยวนที่เป็นคนโง่เขลาที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้าน

ใครจะไปคิดว่า วันนี้จางหยวนมาช่วยเธอเก็บเกี่ยวข้าวโพดที่ไร่ จะถูกงูพิษกัดที่ขาโดยที่ไม่ได้ระวังตัว

ด้วยความอดสู หลี่ชิวจวี๋จึงรีบนั่งยอง ๆ แล้วช่วยจางหยวนดูดเลือดพิษออกมา

ใครจะไปคิดว่าจางหยวนผู้โง่เขลาจะไม่เห็นค่ามัน

อันที่จริงแล้ว จางหยวนไม่ได้โง่เขลามาตั้งแต่เกิด แต่เป็นเพราะเมื่อไม่กี่ปีก่อนได้ไปทำงานทางตอนใต้ แล้วได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะตรงไซต์งานก่อสร้าง ถึงได้กลายเป็นคนโง่เขลา

พ่อแม่ของเขาใช้เงินเก็บทั้งหมดที่มี มารักษาอาการป่วยเขา แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาเขาให้หายขาดได้

คนโง่เขลาคนหนึ่ง ไม่รู้ประสีประสาเหมือนเด็ก ย่อมถูกคนในหมู่บ้านรังแกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หลี่ชิวจวี๋ในฐานะเพื่อนบ้าน เคยเห็นพ่อแม่ของจางหยวนร้องไห้เงียบ ๆ อยู่หลายครั้ง เพราะลูกชายที่โง่เขลาของพวกเขาถูกคนรังแก

เธอรู้สึกเห็นอกเห็นใจครอบครัวของจางหยวนเป็นอย่างมาก

แต่เธอก็เป็นคนที่น่าสงสารเช่นกัน จึงไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก

อันที่จริงแล้วจางหยวนค่อนข้างหล่อเหลา ร่างกายกำยำขยันขันแข็ง ถ้าไม่กลายเป็นคนโง่ ก็คงจะเป็นชายหนุ่มที่ขยันขันแข็งและมีความสามารถคนหนึ่ง!

หลังจากที่เช็ดเลือดออกจากมุมปากแล้ว ก็นั่งยอง ๆ สักพัก หลี่ชิวจวี๋รู้สึกว่าขาชาเล็กน้อย จึงอยากจะลุกขึ้นยืน

แต่ทันทีที่ลุกขึ้นยืน

เธอกลับรู้สึกว่าขาที่ชาของเธอกระตุกอย่างแรง ขาทั้งสองข้างก็เริ่มอ่อนแรงทันที คนทั้งคนก็ล้มลงกับพื้นอย่างควบคุมตนเองไม่ได้

ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ จางหยวนผู้โง่เขลาที่มีหูตาที่ว่องไว ได้อุ้มหลี่ชิวจวี๋เอาไว้

หลี่ชิวจวี๋ตกใจ ยังไม่ทันได้โล่งอก เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“อาหยวน อะไรอยู่ในกระเป๋าพี่ถึงได้แข็งขนาดนี้!”หลี่ชิวจวี๋อดไม่ได้ที่จะพูด

ทันทีที่พูดจบ จู่ ๆ เธอก็ตกใจ ในที่สุดก็รู้ว่านั่นคืออะไร

หลี่ชิวจวี๋เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว กลับเห็นว่าสีหน้าของจางหยวนเปลี่ยนเป็นสีแดงในบางจุด

“เอ๊ะ! อาหยวน หรือว่า... พิษงูยังหลงเหลืออยู่?” หลี่ชิวจวี๋อดไม่ได้ที่จะพึมพำ

เธอเคยได้ยินคนพูดว่า งูเป็นสัตว์ที่ใคร่ในกามมาแต่โดยกำเนิด

หรือว่าจะเป็น...

ในเวลานี้ หลี่ชิวจวี๋ที่อยู่ในอ้อมแขนของจางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง

เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ความแปลกประหลาดของจางหยวนนั้นรุนแรงขึ้นกว่าเดิม

มันรุนแรงมากจนทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว!

หลี่ชิวจวี๋เหลือบมองจางหยวนด้วยความตกใจ แต่คิดไม่ถึงว่าจางหยวนจะร่างกายกำยำขนาดนี้!

สามีเศษสวะของเธอที่หายตัวไปคนนั้น อยู่ต่อหน้าจางหยวนถือว่าเป็นเด็กน้อยไปเลย!

นี่เป็นประสบการณ์หนึ่งที่หลี่ชิวจวี๋ไม่เคยสัมผัสมาก่อน!

เธอเม้มริมฝีปากอันเหือดแห้ง โดยไม่รู้ตัว แล้วมองไปที่จางหยวนผู้โง่เขลา จึงรู้สึกจั๊กจี้หัวใจราวกับว่าถูกแมวข่วน

สามีของหลี่ชิวจวี๋เป็นนักเลงชื่อดัง เพราะทำร้ายคนจนบาดเจ็บจึงต้องหลบหนีไปด้วยความหวาดกลัว และไม่มีข่าวตราวมาหลายปีแล้ว

หลี่ชิวจวี๋ผู้น่าสงสารเริ่มต้นชีวิตการเป็นม่ายมานับตั้งแต่นี้

ทุกครั้งที่ได้ยินผู้หญิงปากปีจอในหมู่บ้านเหล่านั้น พูดถึงเรื่องที่ผู้ชายบ้านตนเองเอาอกเอาใจมากแค่ไหน หลี่ชิวจวี๋ก็รู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก

บางครั้งในค่ำคืนอันยาวนาน

หลี่ชิวจวี๋ก็จะรู้สึกเงียบเหงาโดดเดี่ยว และอยากจะซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มที่รักและทะนุถนอมเธอ

ตอนนี้ถูกจางหยวนกอดเอาไว้ในอ้อมแขน กลิ่นอ่อน ๆ ของผู้ชายผสมกับกลิ่นเหงื่อบนตัวของจางหยวน

ทำให้หลี่ชิวจวี๋มีความคิดที่กล้าหาญหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ

หรือว่าจะอยู่กับจางหยวน.....

อย่างไรเสียจางหยวนก็โดนพิษก็เพราะเธอ เธอช่วยจางหยวนล้างพิษที่เหลืออยู่ ถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล!

อีกอย่าง เธอใช้ชีวิตเป็นม่ายมาตั้งหลายปี ตอนนี้เธอรู้สึกว่ามันมากพอแล้วจริง ๆ

การมีผู้ชายที่รักเธอ คือความฝันอันแสนหวานที่เธอโหยหามาหลายครั้งเมื่อตอนที่เธอนอนไม่หลับในยามค่ำคืน

อีกอย่าง จางหยวนก็เป็นแค่คนโง่เขลาคนหนึ่ง

ประการแรกคนโง่ไม่เข้าใจอะไรเลย ประการที่สองคนโง่จะว่านอนสอนง่ายมากกว่า

หากมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างตนเองกับเขา ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครรู้

สำหรับความรู้ผิดที่มีต่อสามี อันที่จริงหลี่ชิวจวี๋ได้วางแผนหย่าร้างไว้แล้ว

หลี่ชิวจวี๋กัดฟัน แล้วตัดสินใจ ด้วยความเด็ดเดี่ยวทันที

เธอเงยหน้าขึ้นแล้วมองจางหยวนด้วยดวงตาที่มีเสน่ห์: "อาหยวน ฉันสวยไหม?"

จางหยวนตอบอย่างไม่ลังเลว่า: "สวย..."

ประโยคนี้ไม่มีความเท็จเลยแม้แต่น้อย!

หลี่ชิวจวี๋เป็นคนที่สวยมาก คิ้วโก่งดั่งคันศร ปากเล็กเหมือนเชอรี่ เป็นคนที่งามมาตั้งแต่กำเนิด

แม้ว่าจะมีอายุเกือบสามสิบปีแล้ว แต่กลับดูไม่แก่เลยแม้แต่น้อย

รูปร่างก็ได้รับการรักษาดูแลเป็นอย่างดี

ส่วนที่ควรเรียวเล็กก็เรียวเล็ก ส่วนที่ควรใหญ่ก็ใหญ่ ถือว่าเป็นคนรักในฝันของบรรดาชายหนุ่มส่วนใหญ่ในหมู่บ้านเซี่ยวาน...

หลังจากได้รับคำชมจากจางหยวนแล้ว มุมปากของหลี่ชิวจวี๋ก็ยกขึ้น

“ถือว่านายมีวาทศิลป์ที่ดี”

จากนั้น เธอก็คว้ามือของจางหยวนเอาไว้แล้วเดินไปในที่ที่ห่างไกลผู้คน

ขณะที่เธอเดิน เธอก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า:

“คนโง่ก็มีวาสนาของคนโง่จริง ๆ วันนี้ถือว่าวาสนาของนายมาถึงแล้ว”

“หลายปีที่ผ่านมานี้ แม้ว่าฉันจะมีความคิดที่จะหาผู้ชาย แต่ฉันก็ยังตัดสินใจไม่ได้”

“ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันคงตัดสินใจทำแบบนี้ไม่ได้จริง ๆ !”

“แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะฉันทำให้พี่โดนพิษงู ฉันจึงไม่อาจดูพี่ทนทุกข์ทรมานโดยที่ไม่ทำอะไรเลยไม่ได้ เดี๋ยวฉันจะล้างพิษให้พี่ดีๆ ถือเสียว่าให้เจ้างั่งอย่างพี่ได้ผลประโยชน์ไปก็แล้วกัน!”

ระหว่างทาง หลี่ชิวจวี๋พูดกับตนเองไม่หยุด ไม่รู้ว่ากำลังคุยกับจางหยวน หรือหลี่ชิวจวี๋ กำลังพยายามโน้มน้าวใจตนเอง

อันที่จริงแล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีผู้ชายจำนวนมากในหมู่บ้านที่คอยจับจ้องหลี่ชิวจวี๋

แต่หลี่ชิวจวี๋ก็ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไม่ไว้หน้ามาโดยตลอด

เธอรู้ดีแก่ใจว่า คนเหล่านี้เกรงกลัวสามีเลวระยำคนนั้นของเธอ จึงอยากแค่แตะอั๋งเธอแต่ไม่เคยคิดที่จะรับผิดชอบ

เมื่อเทียบกันแล้ว จางหยวนผู้โง่เขลามีความน่าเชื่อถือมากกว่า!

ไม่นาน หลี่ชิวจวี๋ก็พาจางหยวนไปที่สระน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทุ่งข้าวโพดของเธอ

สระน้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดีที่เธอค้นพบโดยบังเอิญขณะที่เดินเล่นไปรอบ ๆ

บริเวณรอบ ๆ รายล้อมไปด้วยต้นไม้สูง อยู่ในสถานที่ห่างไกล ปกติแล้วจะไม่ค่อยมีคนมา

หลี่ชิวจวี๋กลอกตาไปมา แล้วมองไปที่สระน้ำ โดยคิดว่าเมื่อเสร็จกิจแล้วเธอจะสามารถอาบน้ำในสระได้

ทันใดนั้น เธอก็มองไปที่จางหยวนด้วยนัยน์ตาที่สดใส: "พี่หยวน ต่อไปพี่จะต้องเชื่อฟังคำพูดของฉันนะ!"

“อืม!”จางหยวนตอบรับ

หลังจากที่ได้ยินจางหยวนตอบรับแล้ว หลี่ชิวจวี๋ก็กระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของจางหยวนแล้วกอดจางหยวนเอาไว้แน่น และพยายามให้ทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกันมากที่สุด

“อาหยวน มา... กอดฉันเอาไว้แน่นๆ” หลี่ชิวจวี๋

แต่จางหยวนกลับงุนงง และไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย

หลี่ชิวจวี๋ตำหนิอยู่ในใจ ช่างเป็นคนที่โง่เขลาไม่เข้าใจอะไรเลยเสียจริง ๆ

จากนั้นเธอก็ยืนเขย่งเท้า แล้วเอาริมฝีปากสีแดงอันอ่อนนุ่มของเธอยื่นออกไป

ในขณะเดียวกัน เธอก็ดึงมือของจางหยวนมาวางลงบนเอวของตนเอง...

"อืม!"

ภายใต้การแนะนำของหลี่ชิวจวี๋ จางหยวนก็ตอบโต้อย่างเงอะงะเช่นกัน

จากการกระทำของจางหยวน หลี่ชิวจวี๋ก็ตกอยู่ในภวังค์ และก็หายใจถี่ขึ้นเรื่อย ๆ
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Usanee Alex
ดีนะ มีสาระ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 2

    ร้อนแรงจนควบคุมตนเองไม่ได้ หลี่ชิวจวี๋ยื่นมือออกไป แล้วแตะไปที่เอวของจางหยวน...แต่ในเวลานี้ จางหยวนรู้สึกราวกับว่าถูกคนเหยียบหางของเขา"โอ๊ย……"เขากรีดร้องแล้วกระโดดขึ้น จากนั้นก็วิ่งไปที่สระน้ำโดยไม่หันกลับมามองอีกเลยสีหน้าของหลี่ชิวจวี๋เปลี่ยนไปเป็นอย่างมากน้ำที่อยู่ตรงขอบสระ ไม่ได้ลึกมาก แต่ส่วนที่ลึกที่สุดกลับลึกจนไม่เห็นก้นสระ"พี่หยวน อย่าวิ่ง รีบกลับมา…""พี่หยวน..."หลี่ชิวจวี๋ตะโกน แต่จางหยวนกลับวิ่งเข้าใกล้ส่วนที่ลึกของสระน้ำมากขึ้นเรื่อย ๆหลี่ชิวจวี๋จึงรีบไล่ตามเขาไปแต่หลังจากวิ่งไล่ตามไปได้ไม่นาน น้ำก็ขึ้นมาจนถึงคอของเธอเธอมองดูจางหยวนที่วิ่งไปที่ส่วนลึกของสระน้ำด้วยความจนใจ คนทั้งคนกระพือแขนในน้ำอยู่ครู่หนึ่ง กลืนน้ำเข้าไปหลายอึก แล้วก็จมลงไป"พี่หยวน..."หลี่ชิวจวี๋ตกใจทันทีเธอรีบกลับเข้าฝั่ง แล้วตะโกนว่า "ใครก็ได้ ช่วยฉันด้วย...""ใครก็ได้ช่วยด้วย..."หลี่ชิวจวี๋พลางตะโกน พลางหาท่อนไม้ยาวท่อนหนึ่งมาช้อนตัวจางหยวนแต่กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย"ฮือฮือ..."“พี่หยวน พี่สะใภ้ขอโทษ!”“ใครก็ได้ช่วยด้วย...”หลี่ชิวจวี๋ร้องไห้ฟูมฟายในขณะนี้“เอ๊ะ นี่หลี

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 3

    “พี่หยวน ฮือฮือ...”“หากพี่มาช้าไปกว่านี้ ฉันจะต้องสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วแน่ ๆ” หลี่ชิวจวี๋ร่ำไห้จางหยวนโอบกอดหลี่ชิวจวี๋เอาไว้ ก้มหน้าลงเพื่อจะพูดปลอบใจสักสองสามคำคิดไม่ถึงว่าทันทีที่สายตาโฟกัสลงไปด้านล่าง ก็เห็นว่าเสื้อผ้าของหลี่ชิวจวี๋ยุ่งเหยิงหน้าอกที่ขาวราวหิมะ เผยให้เห็นครึ่งหนึ่ง และกำลังแนบชิดกับหน้าอกของจางหยวน...พอเขาได้สัมผัสถึงความนุ่มนวลของหลี่ชิวจวี๋ สูดดมกลิ่นหอมจากร่างกายของ เธอ จางหยวนที่เพิ่งจะมีสติสัมปชัญญะก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกฟุ้งซ่านเล็กน้อย และรู้สึกคันจมูกขึ้นมาทันทีโดยเฉพาะตอนที่เขานึกถึงการกระทำก่อนหน้านี้ของหลี่ชิวจวี๋ จางหยวนรู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้นอันแผ่วเบาในใจผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่เช่นนี้ แถมยังเป็นม่ายมาหลายปี หรือว่า จะทำกิจที่ยังทำกับหลี่ชิวจวี๋ไม่เสร็จต่อไป...แต่พอจางหยวนสังเกตเห็นว่า เสื้อผ้าที่หลี่ชิวจวี๋ใส่ ดูเหมือนจะเป็นเสื้อผ้าแบบเดียวกับตอนที่เธอใส่ตอนแต่งงานเข้ามาในหมู่บ้านเซี่ยวาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะลังเลเฮ้อ!พี่ชิวจวี๋ก็เป็นคนที่น่าสงสารเหมือนกันแถมยังเป็นผู้มีพระคุณของจางหยวนด้วยครอบครัวของหลี่ชิวจวี๋และครอบครัวของจางหย

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 4

    เมื่อจางหยวนเห็นสีหน้าของหลี่ชิวจวี๋เปลี่ยนเป็นสีแดง ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: "พี่ชิวจวี๋ ผมทำให้พี่เจ็บหรือเปล่า"ขณะที่พูด เขาก็ปล่อยมือหลี่ชิวจวี๋จับมือเขาเอาไว้โดยที่ไม่รู้ตัว“พี่หยวน อย่า! ทำแบบนี้แหละ…”“พี่สะใภ้รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว พี่เก่งมากจริง ๆ !”พูดจบ หลี่ชิวจวี๋ไม่รู้คิดอะไรอยู่ สีหน้าจึงแดงก่ำด้วยความเขินอาย จากนั้นก็รีบหยิบหมอนขึ้นมาปิดศีรษะเอาไว้หลังจากที่จางหยวนตอบสนองได้ ก็พูดไม่ออกเล็กน้อยเขาเม้มริมฝีปาก และจะบอกว่าตนเองจะกลับบ้านแล้ว แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นกลับเห็นเอวอันเรียวบางของหลี่ชิวจวี๋บิดเล็กน้อยราวกับว่าเป็นงูน้ำตัวหนึ่งอึก ๆเขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเหงื่อบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนหน้าผากส่วนหนึ่งเป็นเพราะเหนื่อยล้าจากการรักษา อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะถูกทรมานจากภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าสักพัก ในห้องก็เงียบลงท้องฟ้าด้านนอกก็ค่อย ๆ มืดลงแสงสว่างในห้องก็มืดสลัวลงเช่นกันตามคำร้องขอของหลี่ชิวจวี๋ จางหยวนจึงนวดให้หลี่ชิวจวี๋อยู่ตลอดเวลาเมื่อเห็นว่าดึกแล้ว และจางหยวนก็เห็นว่าหลี่ชิวจวี๋ไม่ได้ขยับตัว จึงคิดว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้วเมื่อเห็นดังนี้ จางหยวนก็

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 5

    จางหยวนเผยรอยยิ้มออกมา: "พ่อครับ แม่ครับ ผมหายแล้ว ผมจำเรื่องในอดีต ได้ทั้งหมด"เพล้งชามที่อยู่ในมือของหวังฮุ่ยหล่นลงบนพื้นเธอร้องไห้ด้วยความดีใจสุดขีด: "ดีเหลือเกิน ดีเหลือเกิน ในที่สุดลูกหยวนก็หายดีแล้ว"จางต้าซานไม่ได้พูดอะไร แต่นัยน์ตาของเขากลับเปล่งประกายแวววาวอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นภาพฉากนี้ จางหยวนก็สะอื้นไห้พร้อมพูดว่า "พ่อครับแม่ครับ ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ พ่อกับแม่ลำบากแล้ว"“ไม่ลำบาก เลี้ยงลูกชายของตนเอง มันจะไปลำบากอะไร!” จางต้าซานเผยรอยยิ้มที่หาได้ยากออกมาจางหยวนกล่าวต่อว่า: "พ่อครับ จริง ๆ แล้ว ผมไม่เพียงแต่หายดีเท่านั้น แต่ผมยังได้เรียนรู้ศาสตร์ทางการแพทย์บางอย่างด้วย ให้ผมดูอาการพ่อหน่อย บางทีผมอาจจะมีวิธีรักษาขอของพ่อก็ได้""ลูกหยวน ไม่ต้องพยายามแล้ว ขาทั้งสองข้างของพ่อ ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย แม้แต่หมอประจำหมู่บ้านก็ยังบอกว่ามันใช้การไม่ได้แล้ว... ลูกหายก็ดีแล้ว พรุ่งนี้พ่อจะขายที่ดินติดถนนของบ้านเราซะ แล้วหาเมียให้ลูกสักคนหนึ่ง ต่อไปจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข…"จางต้าซานโบกไม่โบกมือเมื่อได้ยินดังนี้ นัยน์ตาของจางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะแดงก่ำอีกครั้

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 6

    ถ้าไม่ใช่เพราะเสื้อผ้ารัดรูปเป็นแนวป้องกันสุดท้าย จางหลินคงจะเปลือยกายล่อนจ้อนต่อหน้าจางหยวนไปแล้ว!ภาพเหตุการณ์ที่กะทันหันนี้ ทำให้ทั้งจางหยวนและจางหลินตกตะลึงเมื่อเห็นภาพอันขาวละมุนที่อยู่ตรงหน้า จางหยวนก็กลืนน้ำลายไปตามสัญชาตญาณหากหลี่ชิวจวี๋เป็นลูกพีชสุกขนาดใหญ่ งั้นจางหลินก็คือแอปเปิ้ลน้อยที่ฝาดเล็กน้อยลูกพีชลูกใหญ่ก็ดีแบบลูกพีชลูกใหญ่ แอปเปิ้ลเขียวก็ดีแบบแอปเปิ้ลเขียวกล่าวโดยสรุป จมูกของจางหยวนเริ่มคันขึ้นมาอีกครั้งในเวลาเดียวกัน จางหลินที่ตกตะลึงไปหลายวินาที ภายใต้การจ้องมองของจางหยวน ในที่สุดก็ตั้งสติได้เธอกรีดร้องเสียงดังทันที และยังไม่ลืมที่จะใช้แขนปกป้องส่วนที่สำคัญปฏิกิริยาของจางหลิน ทำให้จางหยวนอยากจะพูดว่า มีอะไรให้ต้องปกป้องเหรอ?มันไม่ได้ใหญ่อยู่แล้ว!แต่เขาไม่กล้าพูดคำเหล่านี้ออกไป ถ้าพูดออกไป มันจะเป็นการทำร้ายจิตใจคน!จางหยวนถอนสายกลับมาด้วยความร้อนตัว หันกลับมา แล้วเริ่มถอดเสื้อของตนเองออกเมื่อเห็นการกระทำของเขา จางหลินก็กรีดร้องหนักเข้าไปอีก“จางหยวน นาย...นายกำลังจะทำอะไร!” จางหลินพลางตะโกน พลางซักถามเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ จางหยวนก็แสดงท่าทา

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 7

    ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกรายล้อมไปด้วยชายสามคนที่เปลือยเปล่าเช่นกันสิ่งที่ตามมาก็คือ คำพูดหยาบคายทุกประเภทเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ จางหยวนก็แอบถุยน้ำลายในใจ“คนในเมือง ช่างเล่นสนุกเก่งจริง ๆ ”ภาพแบบนี้ สมัยก่อนมีให้เห็นแค่ในภาพยนต์เล็ก ๆ บางเรื่องเท่านั้นคิดไม่ถึงว่าการปีนเขาในครั้งนี้จะได้เห็นของจริงหลังจากแอบมองสักพัก จางหยวนก็วางแผนที่จะจากไปอย่างเงียบ ๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะได้ยินการสนทนาระหว่างคนหลายคน“นายน้อยหวัง เกิดอะไรขึ้น? คุณอารมณ์ไม่ดีเลย? คุณคิดถึงผู้หญิงแซ่ฉู่คนนั้นอยู่เหรอ”“เด็กผู้หญิงแซ่ฉู่ยังเป็นนกน้อยตัวหนึ่งอยู่ นายน้องหวังชอบแบบนี้”“เฮยเฮย……”ชายทั้งสามกำลังถกเถียงกันผู้หญิงคนนั้นก็พูดแทรกขึ้นมาว่า: "นายน้อยหวัง ไม่ต้องกังวล ครังนี้ฉันได้ชวนเธอออกมาด้วย และได้เตรียมการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอให้ค่ำก่อน ฉันจะมอมเหล้าเธอ พอถึงเวลานั้น คุณก็รู้ว่าควรจะทำยังไง... "เพียะนายน้อยหวังตบตูดของผู้หญิงคนนั้นไปหนึ่งที แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: "ดีมาก เมื่อเรื่องนี้เสร็จสิ้น ผมจะตอบแทนคุณอย่างงาม"ผู้หญิงคนนั้นก็เบิกบานใจขึ้นมาทันที การเคลื่อนไหวของเธอก็ร

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 8

    ในมื้อเย็น แม่ของเขาหวังฮุ่ยตั้งใจทำอาหารจำพวกเนื้อสัตว์สองจานเพื่อเฉลิมฉลองเมื่อเห็น "อาหารจำพวกเนื้อสัตว์" ที่มีเนื้อเพียงไม่กี่ชิ้นบนจาน จางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดใจไม่ใช่ว่าเขาจะรังเกียจที่มีเนื้อน้อยนับตั้งแต่จางหยวนกลายเป็นคนโง่ เพื่อรักษาอาการป่วยของเขา สองสามีภรรยาผู้สูงวัยก็ไม่กินเนื้อสัตว์เลยแม้แต่เพียงครั้งเดียว !จางหยวนขยี้ตา แสร้งทำเป็นว่ามีทรายเข้าไปในดวงตา“พ่อครับ แม่ครับ พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปในเมือง! วันนี้ผมเก็บสมุนไพรจากบนภูเขามาได้เล็กน้อย ผมจะขายมันเพื่อหาเงิน!” จางหยวนกล่าวเมื่อสองสามีภรรยาผู้สูงวัยได้ยินดังนี้ก็มองหน้ากัน และอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าลูกของพวกเขาโตแล้วจริง ๆ !แต่พวกเขาไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก สมุนไพรที่เก็บมาจากภูเขา จะขายได้สักกี่บาทเชียว?ถ้าขายได้เงินเยอะ ทุกคนในหมู่บ้านก็คงจะไปขุดสมุนไพรบนภูเขาแล้วจางหยวนไม่ได้อธิบาย เกี่ยวกับเรื่องนี้มากนักหลังจากกินข้าวเสร็จ เขาก็แบกตะกร้าสะพายหลังขึ้นไปบนภูเขาอีกครั้งตอนนี้พระอาทิตย์ตกดินแล้ว เขาจะต้องเก็บโสมป่ากลับมา ก่อนที่ฟ้าจะมืดพอเดินมาจนถึงจุดที่โสมป่าอยู่ และเห็นว่าของปลอมที่

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 9

    ค่ำคืนนี้ ผ่านไปอย่างยาวนานมากจนกระทั่งฟ้าสางเล็กน้อย จางหยวนที่อยู่ในถ้ำก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเมื่อเห็นใบหน้าอันเรียวเล็กที่ประณีตสวยงามที่อยู่ตรงหน้า และสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอันอบอุ่นในอ้อมแขน เขาก็รู้สึกว่าตนเองกำลังฝันอยู่ครู่หนึ่งแต่ไม่นานจางหยวนก็รู้ว่า ตนเองไม่ได้ฝันไปเพราะเรือนร่างอันงดงามของสาวสวยที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา มันนุ่มนวลอ่อนโยนมากจริง ๆ !หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ในใจว่า..."ซี๊ด!"จางหยวนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเมื่อคืนนี้ เขาถูกสาวน้อยคนนี้ผลักจริง ๆ !แม้ว่าตอนนี้ พวกเขาทั้งสองจะกอดกันแบบห่าง ๆ ก็ตาม!จางหยวนกลืนน้ำลาย ตอนนี้สถานการณ์ร้ายแรงกว่าที่คิดแล้ว!ทำยังไงดี?ควรทำยังไง?แต่ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ต้องลุกขึ้นไปสวมเสื้อผ้าก่อน!จางหยวนผลักหญิงสาวออกไปด้วยความระมัดระวังแต่ไม่ว่าเขาจะระมัดระวังมากแค่ไหนขณะที่ทั้งสองแยกจากกัน เด็กสาวยังคงร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อยม่านตาของจางหยวนหดลงเล็กน้อย แล้วแอบพูดว่าแย่แล้ว!ทันใดนั้นเอง หญิงสาวก็ลืมตาขึ้นเมื่อฉู่เสวี่ยฉีเห็นจางหยวน แล้วเห็นร่างที่เปลือยเปล่าของตนเอง รวมทั้งความยุ่งเหยิงบนพื้นเธอ

Latest chapter

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 422

    เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 421

    "ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 420

    หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 419

    พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 418

    ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 417

    ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 416

    จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 415

    เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 414

    แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ

DMCA.com Protection Status