Home / รักโบราณ / แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ) / บทที่7 ความเจ็บปวดในอดีต

Share

บทที่7 ความเจ็บปวดในอดีต

last update Huling Na-update: 2025-02-06 20:15:43

“ข้ามิใช่เด็กแล้วนะขอรับท่านพ่อ ย่อมรู้สิ่งใดควรมิควร”

“เจ้าค่อยติดตามไปภายหลัง เอาเวลานี้สร้างฐานกำลังที่มั่นคงให้ฝาแฝดมิดีกว่าหรือ ที่เหลียงเจ้าอาจเหนือผู้อื่น แต่นี่แคว้นอู๋เป่ยถึงจะมีเงินมากแค่ไหน ก็ต้องรู้จักการถนอมชีวิต อย่าเร่งวิ่งเข้าไปตายให้เร็วนัก เราแค่นิ่งรอให้เหยื่อตายใจ แล้ววิ่งเข้ากับดักของเราเอง เจ้านี่นะ! พ่อสอนกี่ครั้งแล้วมิรู้จักจดจำ”

“ใครว่าข้าจะรีบวิ่งไปตายเล่าขอรับ ข้าแค่อยากให้หลาน ๆ เติบโตขึ้นมาในสายตาของข้าก็เท่านั้น”

“ยังจะเถียงอีก น้องสาวเจ้าได้สอนพวกเขามากพอแล้ว”

“อย่างไรขอรับ”

“ความอดทนอย่างไรเล่า นางแค่ทนรอให้ลูกของนางเติบโต เพื่อที่วันหนึ่งไร้นางหรือใคร ๆ เด็ก ๆ จะสามารถดูแลตัวเองได้ ถึงกระนั้นนางก็คือสตรีที่ถูกอบรมมาดี จึงยังยึดมั่นในคำสอนของชนรุ่นหลังอยู่”

“เช่นนั้นข้าจะไม่ยินยอมให้เหลียนฮวา ต้องเป็นอย่างฮุ้ยเหมยเด็ดขาด”

“หึ ๆ เจ้านี่น่า! จนป่านนี้ยังมองไม่ออกอีกหรือ ว่าหลานสาวของเจ้าจะแตกต่างกับแม่ของนาง คนละขั้วเลยทีเดียว”

จางหลี่ชางหัวเราะในลำคอ แม้ในจดหมายไม่ได้บอกถึงรายละเอียดอะไรมากมาย แต่จากที่เขาจับใจความได้นั้น สองแฝดต้องการที่จะเรียนวิชาการต่อสู้ ต่างจากลูกสาวของเขา ที่เป็นกุลสตรีทุกระเบียดนิ้ว

“ไม่รู้ล่ะ! อย่างไรเสีย ข้าจะบอกนางมิให้สนใจกับคำสอน ที่งมงายพวกนั้น”

จางหย่งสือตั้งใจอย่างแน่วแน่ ที่จะไม่ยินยอมให้หรงเหลียนฮวา หลานสาวเพียงคนเดียว จะต้องพบเจอเรื่องเจ็บปวด เช่นที่น้องสาวของเขาต้องประสบอยู่ในตอนนี้

"ฟง! เข้ามาหาข้าสักหน่อยได้หรือไม่"

สิ้นเสียงของหลี่ชาง ประตูเปิดออกในทันที ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาก้าวเข้ามาในห้อง เขาคือฟงเด็กกำพร้าที่ชายชราฟูมฟักเลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดขวบ

เขารักชายหนุ่มเหมือนลูกชายอีกคน ฟงเป็นที่รักของทุกคนในบ้าน ตั้งแต่เล็กจนโต ชายหนุ่มเชื่อฟังและขยันเรียนรู้ทุกอย่าง ตอนนี้ฝีมือของชายหนุ่ม จัดได้ว่าอยู่ในขั้นสูงสุดในระดับพลังขั้นสีม่วง

แน่นอนว่าเขาก็คาดหวังที่จะเห็นหลาน ๆ แตกฉานด้านพลังแต่ละแขนงเช่นกัน การเดินทางของฟงในครั้งนี้ คงเต็มไปด้วยอันตรายและความท้าทายอีกมาก

"คารวะนายท่าน คุณชายใหญ่"

หลี่ชางมองดูชายหนุ่มที่เอาแต่ก้มหน้า แล้วได้แต่ทอดถอนใจ เขารู้ว่าฟงได้ยินทุกอย่าง และจากการหลบหน้าก้มต่ำในตอนนี้ คือชายหนุ่มกำลังควบคุมโทสะมิให้ระเบิดออกมา

ฟงรักและเคารพบุตรชายหญิงของเขายิ่งกว่าชีวิต แค่เพียงรอยแมวข่วนก็ทำให้ฟงเป็นเดือดเป็นร้อนแล้ว ชายหนุ่มมีนิสัยเช่นไร ไยเขาจะไม่รู้

"เจ้าคัดเลือกเงาสักแปดคน แล้วไปที่ชายป่าตะวันออกของเมืองชีเป่ย เพื่อพบกับหลานชายของเจ้า จำไว้ว่าอย่าให้พี่สาวของเจ้าเห็นหรือรู้ว่าเจ้าอยู่ที่นั่นเป็นอันขาด คุ้มครองและเป็นอาจารย์ของเขา ส่วนสิ่งของอื่นใดที่จำเป็น พี่ชายของเจ้าจะจัดเตรียมให้เอง พรุ่งนี้ออกเดินทางก่อนรุ่งสาง อีกเรื่องอย่าให้จางฮูหยินรู้เรื่องนี้"

หลี่ชางบอกถึงจุดประสงค์ที่เขาต้องการ ฟงเงยหน้าขึ้นสบตากับบิดาบุญธรรม ก่อนจะก้มต่ำอีกครั้ง ความรู้สึกของชายหนุ่มในตอนนี้ ยิ่งกว่าภูเขาไฟที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเวลา

“ข้าน้อยทราบแล้วขอรับ นายท่าน”

“เมื่อไหร่เจ้าจะเรียกข้าว่าพ่อ หืม!”

“นั่นสิ! ข้าไม่คู่ควรเป็นพี่ชายเจ้าหรืออย่างไร มันน่านักเจ้าน้องชายคนนี่”

จางหย่งสือ พยายามเปลี่ยนบรรยากาศให้ผ่อนคลายลง เขากลัวใจของน้องชายบุญธรรม ว่าจะทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อตัวเอง หากจะว่าเขามุทะลุแล้ว ฟงนั้นมักจะไม่พูดแต่ลงมือทันที

“ข้าน้อยมิกล้าคิดเช่นนั้นขอรับ”

“เอาล่ะ! ข้าไม่อยากเถียงกับเจ้าเรื่องนี้แล้ว เจ้าออกไปคัดคนเถอะ เดียวข้าจะไปเตรียมของสำคัญให้ อ่อ! ให้มีผู้หญิงไปด้วยสักสองคน เผื่อจะได้ไม่ทำให้ฮวาเอ๋อร์รู้สึกกระดากใจ หากจะมีแต่ผู้ชายทั้งหมด”

“รับทราบขอรับ”

ฟงลุกขึ้นก่อนจะก้าวออกจากห้องไปเงียบ ๆ สองพ่อลูกหันมาสบตากัน ก่อนที่หย่งสือจะทันได้เอ่ยอะไรออกมา เสียงทหารด้านนอกเอ่ยชื่อของผู้ที่กำลังมาหาพวกเขาในตอนนี้ ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไปในฉับพลัน เพื่อมิให้จางฮูหยิน ผู้เป็นใหญ่อย่างแท้จริงเกิดสงสัย

ก่อนรุ่งสาง สองพ่อลูกได้ออกมาส่งฟง และเงาทั้งแปดนอกจวนอย่างลับ ๆ

"หย่งสือ ตั๋วเงินและป้ายทองของร้านตระกูลจางครบหรือไม่"

หลี่ชางจะเป็นกองหนุนที่ดีของหลาน ๆ นอกจากส่งมือดีไปเป็นอาจารย์แก่ทั้งสามแล้ว แน่นอนว่าอำนาจและทรัพย์สินจะต้องมีพร้อมเช่นกัน

ในเมื่อหรงจิ่งหวังเพียงผลประโยชน์ เขาก็จะมอบทั้งหมดให้หลานชายเป็นผู้รับไปเสีย อยากรู้นักว่าวันที่สกุลหรง ไม่หลงเหลือเงินแม้แต่อีแปะเดียว มันจะเป็นเช่นไร

"มีหรือข้าจะลืม ฟงเจ้าบอกหลาน ๆ ของเราว่าใช้ให้เต็มที่ ส่วนเจ้าก็อย่าได้ตระหนี่จนไม่กินไม่ใช้นะ เจินจู! เรื่องการกินอยู่ของพวกเจ้าทั้งเก้าคน ข้าให้เจ้ารับผิดชอบ นี่ตั๋วเงินสำหรับการเดินทาง ถ้าเอาไว้ที่หัวหน้าของเจ้า คงได้กินแค่ข้าวต้มกับเกลือเป็นแน่ เห็นไหมว่าข้าไม่เคยตระหนี่แบบใคร ๆ ว่า จริงไหมขอรับท่านพ่อ"

จางหย่งสือมอบตั๋วเงินปึกใหญ่ให้กับหญิงสาว ที่เป็นหนึ่งในเงามือดีของสกุลจาง ก่อนจะหันไปยิ้มแต้ให้แก่บิดา พร้อมคำถามที่ทุกคนได้แต่นิ่งเงียบ จางหลี่ชางกระพริบตาปริบ ๆ เพราะคำว่าไม่ตระหนี่นั้น คงน้อยเกินไปกับคนเช่นหย่งสือ

ทะเลที่ว่าเค็มคงไม่สู้ความงกของบุตรชายเขาได้ ทำการค้าสำหรับจางหย่งสือ จะต้องไม่มีคำว่าขาดทุน หากคิดจะคดโกงเขาแม้เพียงอีแปะเดียว คนที่ทำคือดวงถึงฆาตแล้วจริง ๆ

แต่สำหรับคนในครอบครัว และผู้ติดตาม คนงานในร้าน หย่งสือจะไม่มีคำว่าหวงเงิน เขาจะทุ่มทุกอย่างให้แก่ทุกคนเต็มที่เสมอ การทำงานหนักย่อมต้องได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า นั่นคือคติประจำตัวของจางหย่งสือ

“เช่นนั้นพวกข้าขอลานายท่าน กับคุณชายใหญ่นะขอรับ หากมีสิ่งใดคืบหน้าข้าจะรีบส่งข่าวทันทีขอรับ”

ทั้งเก้าคนทำความเคารพผู้เป็นนาย ก่อนจะพากันเหวี่ยงกายขึ้นบนหลังม้า ควบหายไปในความมืด ทิ้งให้คนด้านหลังมองตามด้วยความเป็นกังวลอยู่ลึก ๆ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่8 การมาของเงา

    ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อปรับอารมณ์ที่ยังคุกรุ่นให้สงบลง เพราะนับตั้งแต่เขาได้รับรู้เรื่องอันเลวร้าย ที่เกิดกับพี่สาวบุญธรรม เมื่อสามเดือนก่อน จนถึงวันนี้ ความโกระแค้นที่เขามีต่อหรงจิ่ง หาได้ลดน้อยลงไม่ฟงทอดสายตามองไปที่กระท่อม ด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย จนแสงเทียนส่องสว่างได้ดับลง ชายหนุ่มจึงได้ก้าวเข้าไปในบริเวณกระท่อม ก่อนจะนั่งลงยังท่อไม้ที่พิงอยู่ข้างเสาเรือนชายหนุ่มสะบัดผ้าคลุมห่มกาย ก่อนจะหลับตาลงอย่างช้า ๆ ทว่าประสาทสัมผัสทั้งหมดยังคงเปิดรับทุกความเคลื่อนไหว‘ได้อยู่ใกล้เท่านี้ ข้าก็ดีใจมากแล้ว’ยามเช้า ณ กระท่อมชายป่าเมืองชีเป่ยหยางเจี่ยนยืนมองคนจากจวนของบิดา ที่นำยามาส่งให้แก่มารดา สายตาที่คนพวกนั้นที่มองไปรอบบริเวณกระท่อม เหมือนกำลังหาพวกเขาพี่น้องอยู่ เด็กหนุ่มหันไปสบตากับน้องสาวฝาแฝด ก่อนจะหันกลับไปหาลุงสือที่เพิ่งเดินมาถึง“ท่านฟงมาถึงแล้วขอรับ”“เร็วดีนี่! พบกันที่น้ำตก ขอข้าดูคนพวกนี้อีกสักหน่อย”หยางเจี่ยนมองกลับไปที่ลานกระท่อม สิ่งที่เห็นคือบ่าวรับใช้จากจวนสกุลหรงหาได้ยำเกรงต่อมารดาของเขาแม้แต่น้อย ในเมื่อยุคนี้ยึดคนมีอำนาจและฐานะ เขาก็จะใช้มันให้คุ้มค่า“จะไห

    Huling Na-update : 2025-02-07
  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่9 อสรพิษตรงหน้า

    “ท่านน้าฟงต่อจากนี้ คงต้องรบกวนพวกท่านแล้ว”หยางเจี่ยน เรียกฟงตามเนื้อความในจดหมาย ทำให้ฟงตกใจกับคำเรียกขานของผู้เป็นอยู่ไม่น้อย"มิได้ขอรับ ข้าเป็นเพียงข้ารับใช้ ไม่อาจเสมอนายขอรับ"ฟงกล่าวปฏิเสธทันที พรางคิดหาคำตอบ ว่าไยคุณชายถึงเรียกตนเช่นนั้น"ไม่ผิดหรอก ท่านน้าเรียกท่านแม่ของข้าว่าพี่สาว ท่านตาเรียกท่านว่าลูกบุญธรรม ข้าผู้เป็นหลานจะหาญกล้าเรียกท่านน้า เสมือนผู้รับใช้ได้อย่างไรเล่าขอรับ ดังนั้นข้าเรียกท่านน้าแบบนี้ถูกแล้วขอรับ"ชายหนุ่มจนด้วยคำพูด เมื่อหลานชายยกบิดาบุญธรรมกับพี่สาวบุญธรรมมากล่าวอ้าง เพื่อให้เขายอมจำนน หากจะว่าคุณชายจางหย่งสือมากด้วยเล่ห์กล จนหาผู้ใดเปรียบมิได้ เขาว่าตอนนี้น่าจะเป็นคุณชายใหญ่หรงหยางเจี่ยนนี่กระมัง ที่กำลังจะเป็นตัวแทนของพี่ชายบุญธรรมของเขา "ฮวาเอ๋อ ไท้เอ๋อร์ พวกเจ้าขึ้นมาข้างบนได้แล้ว เล่นน้ำกันนานเกินไปแล้วนะ"หยางเจี่ยนเรียกน้อง ๆ ที่เล่นน้ำอยู่ที่แอ่งน้ำตกเบื้องล่าง ทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับจากทั้งสองคน หรือแม้แต่เสียงหยอกล้อให้ได้ยิน หยางเจี่ยนขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัย ว่าเหตุใดจึงไร้การตอบรับจากทั้งคู่ เพราะก่อนหน้านี้เขามั่นใจยิ่งนัก ว่ายัง

    Huling Na-update : 2025-02-08
  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่10 กลบเกลื่อน

    “อะ...แฮ่ม! ฮวาเอ๋อร์ ไท้เอ๋อร์ ผู้นี้คือท่านน้าฟง เป็นน้องชายบุญธรรมของท่านแม่ และจะมาเป็นอาจารย์ของพวกเราอีกด้วย ส่วนด้านหลังคือเงาปีศาจ ผู้คุ้มกันที่ท่านตากับท่านลุงมอบให้แก่เราสามคน”หยางเจี่ยนกระแอมไอ เพื่อเรียกสติของน้องสาว นับตั้งแต่ไม่ต้องจับปืนไล่ล่าคนร้าย ดูเหมือนน้องสาวของเขา จะมีความเป็นผู้หญิงและเด็กมากขึ้น จนเรียกว่าล้นเหลือเลยทีเดียว“ฮวาเอ๋อร์ คารวะท่านน้าฟงเจ้าค่ะ”“ไท้เอ๋อร์ คารวะท่านน้าฟงขอรับ”“ข้ามิอาจเอื้อมขอรับ”“ไม่มีสิ่งใดผิดหรอกเจ้าค่ะ เราคือผู้อ่อนวัย เคารพผู้มากวัยกว่านั้นย่อมถูกต้อง ศีรษะเราก้มให้ผู้ที่ควรก้ม นั้นไม่มีสิ่งใดมิควรเลยเจ้าค่ะ”ฟงและเงาปีศาจต่างรู้สึกปีติอยู่ภายในใจ คุณหนูจางฮุ้ยเหมยช่างสอนสั่งบุตรธิดาได้ดีเยี่ยมนัก ฉลาดรู้พูดมิไร้ความคิด สมแล้วที่เป็นสายเลือดสกุลจาง“ขอรับ”ฟงได้แต่ตอบรับอย่างจำยอม สมแล้วที่เป็นแฝด ไม่มีความต่างกันสักนิดเลย“มาเถอะเจ้าค่ะ จะเที่ยงแล้วข้ารู้สึกหิว เรามาย่างปลากินกัน พี่ใหญ่ท่านว่างูตัวนั้น ถ้านำมาต้มจะอร่อยแค่ไหนนะ”“ลองดูก็ไมเสียหายนี่ แต่เจ้าคือคนแรกที่ต้องชิมนะ”“อย่าเลยขอรับพี่ใหญ่ พี่รอง ข้าว่าป่านนี้พิษค

    Huling Na-update : 2025-02-09
  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่11 วันเวลาที่ผ่านไป

    เวลาผ่านไปจากเดือนเป็นปี จนล่วงเลยมากว่าสามปีแล้ว จางฮุ้ยเหมยนั่งยิ้มอย่างสุขใจ เมื่อบุตรชายหญิงมีร่างกายที่เปลี่ยนไป รูปร่างของฝาแฝดสูงใหญ่ขึ้นมาก ในวัยสิบเจ็ดซึ่งเติบโตเกินกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันเลยก็ว่าได้ ส่วนหยางไท้เองใช่จะน้อยหน้า โตกว่าคนวัยเดียวกันจนเรียกว่าผิดหูผิดตาที่ยังคงไม่เปลี่ยนคือทั้งสามยังชอบอ้อนนาง เหมือนเด็กมิรู้โตเช่นเดิม หญิงสาวมองลูก ๆ ที่ช่วยกันรดน้ำผัก ก่อนที่สองฝาแฝดจะพาน้องชายออกไปทำงาน ยังบ้านคหบดีเฉินซึ่งได้มาทำการค้าที่เมืองชีเป่ยทั้งเสื้อผ้าอาหารนั้น นายท่านสกุลเฉินมอบแก่นางและลูก ๆ จนเรียกว่าไม่อดอยากเช่นในอดีต ที่นางยินยอมให้ลูก ๆ ไปช่วยงานที่บ้านสกุลเฉินนั้น เพราะไม่อยากให้พวกเขาเข้าป่าล่าสัตว์อีก“ท่านแม่ขอรับ พวกเราจะไปแล้วนะขอรับ” หยางเจี่ยนเดินเข้ามาบอกผู้เป็นแม่เช่นในทุกวัน“เอานี่จ๊ะ! ผ้าปักที่แม่ทำเสร็จแล้ว”จางฮุ้ยเหมยส่งห่อผ้าที่ปักเสร็จให้แก่บุตรชาย ก่อนที่นางจะทำงานให้ร้านผ้าสกุลเฉินนั้น นางได้ปักผ้าขายให้กับร้านค้าในตลาด แต่มักจะถูกสกุลหรงคอยกลั่นแกล้ง จนไม่มีผู้ใดจ้างงานนางอีก หยางเจี่ยนเปิดห่อผ้าออกดู ลวดลายที่เขาต้องการปรากฏแก่สายตา

    Huling Na-update : 2025-02-10
  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่12 มารดาขอโทษ

    ส่วนเขายังอยู่ที่สีม่วงขั้นเจ็ด เช่นเดียวกันกับน้องสาว ส่วนหยางไท้นั้นอยู่ที่สีทองขั้นห้า ส่วนเงาทั้งหมดคือสีม่วงขั้นเก้า แม้เขาจะงงอยู่บ้างในช่วงแรกของการฝึก แต่เมื่อเวลาผ่านมาจนถึงวันนี้ เขาถือเสียว่าตนเองถูกกฎของเวลาดึงมาอยู่ในอีกคู่ขนานกับโลกเดิม ทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้ นี่คือวิถีชีวิตและความเป็นจริงของคนที่นี่ เขาแค่นำสิ่งเดิม ๆ มาเสริมให้มันดีขึ้นก็เท่านั้น และที่เขาเองก็แปลกใจไม่ต่างจากทุกคน นั่นคือร่างกายของฝาแฝดมีพลังแฝงที่น่ากลัว เขาไม่แน่ใจว่าไปทำอะไรกับร่างกายนี้ หรือพิษที่พวกเขาได้รับมาตลอดหลายปี ไปเปิดจุดชีพจรบางเส้น ที่ถูกทำให้ไม่อาจฝึกฝนพลังได้ให้มันกลับมาปกติหรืออย่างไร เขาก็ไม่อาจบอกได้เช่นกัน แต่ที่แน่ ๆ คือพวกเขาใช้เวลาน้อยกว่าหลายคน ในการฝึกสำเร็จจนถึงระดับสีม่วง หยางเจี่ยนมองดูน้องสาวกับแส้คู่ใจของนาง ที่กำลังกวัดแกว่งอยู่กลางลานฝึก เพื่อทดสอบการเลื่อนขั้นพลัง ทุกอย่างดูจะง่ายไปหมดสำหรับเหลียนฮวา นั้นเพียงการมองหากสังเกตดี ๆ นางกำลังต่อสู้สุดชีวิต เพื่อไม่ให้ธาตุไฟแตกซ่าน เวลาผ่านไปกว่าสองชั่วยาม การทดสอบได้เสร็จสิ้นลง พร้อมสภา

    Huling Na-update : 2025-02-11
  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่13 สิ้นสามีเชื่อฟังบุตร

    “ท่านแม่ดีที่สุดในสายตาของพวกเรานะขอรับ หากท่านแม่อ่อนแออย่างที่พูด ป่านนี้เราคงมิได้อยู่ด้วยกันจนถึงทุกวันนี้ หากท่านแม่เลือกเพียงความสุขสบาย แล้วก้าวออกจากสกุลหรง เราสามคนพี่น้องก็คงเป็นเพียงลูกกำพร้า ที่ไร้มารดาปกป้อง แต่ท่านแม่ยอมที่จะอยู่อย่างลำเค็ญ เพียงเพื่อได้อยู่โอบกอดเราสามพี่น้อง นี่คือความเข้มแข็งที่สุดของคำว่าแม่แล้วมิใช่หรือขอรับ”จางฮุ้ยเหมยถึงกับน้ำตาซึมด้วยความตื้นตันใจ กับคำพูดของลูกชาย นางนึกโทษตัวเองเสมอ ที่ไม่กล้าจะเปลี่ยนแปลง เพียงเพราะคำว่าหน้าที่ขอและกฎบัญญัติของภรรยา ที่นางยึดมั่นมาโดยตลอดนับตั้งแต่แต่งงาน“ ‘สิ้นสามีเชื่อฟังบุตร’ คำกล่าวนี้ ท่านแม่ใช้มันได้แล้วนะเจ้าคะ ทุกวันนี้ท่านแม่ก็เหมือนไร้สามีอยู่แล้ว เมื่อจะยึดมั่นคำกล่าวของชนรุ่นเก่า ท่านแม่ก็นำคำนี้มาใช้ก็ย่อมไม่ผิดเจ้าค่ะ”จางฮุ้ยเหมยหัวเราะน้อย ๆ เมื่อตอนนี้นางกำลังถูกลูก ๆ ให้เหตุผลสำหรับการเปลี่ยนแปลง ที่มิผิดต่อคำสอนของคนโบราณ“เช่นนั้นก็ได้ นับตั้งแต่พรุ่งนี้แม่จะเริ่มสอนเจ้าดีดพิณ”จางฮุ้ยเหมยลูบศีรษะของบุตรสาวเบา ๆ ก่อนจะให้ลูก ๆ พากันไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมกินมื้อค่ำกันได้แล้ว เสียงหัวเราะดังจ

    Huling Na-update : 2025-02-12
  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่14 สกุลเฉิน

    จวนสกุลเฉิน ณ เมืองชีเป่ยภายในห้องหนังสือ ฟงกำลังนั่งรอฟังการตัดสินใจของศิษย์เอก อย่างคุณชายหรงหยางเจี่ยนอย่างสงบหยางเจี่ยนอ่านเนื้อความสั้น ๆ ทว่าได้ใจความในสาสน์ด่วนจากเมืองหลวง เด็กหนุ่มยังคงไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา ก่อนจะเงยหน้ามองผู้เป็นอาจารย์ และน้อง ๆ“เมื่อเราเลี่ยงไม่ได้ ก็จำต้องตั้งรับเท่านั้นขอรับท่านน้าฟง”“เราในตอนนี้จะไหวหรือพี่ใหญ่”“ไหวหรือไม่เราจะทำอะไรได้ หนีเช่นนั้นรึ หากเราหลบหนีหนึ่งครั้ง ย่อมต่อมีครั้งต่อ ๆ ไป แต่หากเราสู้มิว่าอยู่หรือตาย นั่นถือว่าเราทำเต็มที่แล้ว หากเป็นเช่นนี้แล้วเจ้าจะเลือกเส้นทางใด”“ย่อมต้องไม่หนี แต่การถอยเพื่อตั้งหลักมันก็มิเสียหลาย”เหลียนฮวาลองเสนอทางแยกให้แก่พี่ชาย ซึ่งหากถามนางในตอนนี้ ก็ไม่คิดที่จะถอยเพื่อตั้งหลักสักนิด เพราะกว่าสามปีมานี่ พวกนางถอยตั้งหลักกันมามากพอแล้วการฝึกฝนอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำอะไรโดยไม่อาจเปิดเผยได้ มาเป็นเวลาขนาดนี้ เรียกได้ว่าพวกนางถอยให้จนเกินพอแล้ว สำหรับศัตรูที่มองเห็นอยู่ในทุกขณะลมหายใจ“ที่ผ่านมา เราถอยไม่มากพอหรือ”“หึ ๆ ข้าก็แค่อยากให้แน่ใจ ว่าพี่ใหญ่จะลงสนามปะลองกับศัตรูจริงแท้หรือไม่เท่านั้นเจ้าค่ะ”“เจ

    Huling Na-update : 2025-02-13
  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่15 ค่ำคืนอันงดงาม

    รุ่งสางสามพี่น้อง ได้ลุกขึ้นมาจัดเตรียมทุกอย่างให้แก่มารดา และทุกคนในบ้านเพื่อนำติดตัวไปที่อารามหมิงอี้ อาหารเช้าของวันนี้เป็นเหลียนฮวากับหยางไท้ เป็นผู้ลงมือทำด้วยตนเองหลังมื้อเช้าจบลง จางฮุ้ยเหมยได้โอบกอดลูก ๆ ทีละคน ก่อนจะขึ้นรถม้าไปพร้อมกับป้าโจวและเสี่ยวเตี๋ย ส่วนเจินจูกับชิงหลิงได้ขี่ม้าติดตามไปในขบวน แม้ว่าจะได้รับสายตาแคลงใจจากผู้เป็นแม่ หยางเจียนก็ยังคงมีคำพูด ที่ทำให้ทุกอย่างคลายลงอย่างละม่อมเช่นเดิม“ไปกันเถอะ!”หยางเจี่ยนก้าวนำน้อง ๆ ไปยังทิศทางของจวนเฉิน ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหน เขาก็พร้อมแล้วสำหรับการโต้ตอบกับสตรีของบิดา “ข้าฝากท่านแม่กับทุกคนด้วยนะขอรับ ท่านน้าฟง” หยางเจี่ยนยืนส่งผู้เป็นอาจารย์ ที่กำลังจะติดตามไปคุ้มครองมารดาของเขาที่อารามหมิงอี้ “เจ้าเองก็ต้องระวังตัวให้มาก หากเหนือกว่ากำลังอย่าได้ฝืน เข้าใจหรือไม่” “ข้าทราบแล้วขอรับ” “ทางนี้ข้าคงต้องฝากพวกเจ้าดูแล” ฟงหันไปเอ่ยกับเงาที่เหลือ เขาจะมีเพียงเจินจูกับชิงหลิงเท่านั้น ที่คอยเป็นผู้ช่วย ซึ่งไม่น่าจะเหนือกว่ากำลังของเขาเท่าใดนัก สำหรับเขาแล้ว ศัตรูคือสิ่งที

    Huling Na-update : 2025-02-14

Pinakabagong kabanata

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่92 มิควรสืบพันธุ์

    “หากเจ้ายินยอมแต่โดยดี ข้าจะมอบตำแหน่งที่คู่ให้” “กระบี่เจ้า! ควบคุมมันมิให้สั่นได้เสียก่อน ค่อยคิดสิ่งอื่นดีกว่าไหม…” หญิงสาววางถ้วยชาลง บนโต๊ะอย่างใจเย็น พรึ่บ! ปึก! เคร้ง! รวดเร็วจนชายหนุ่ม ขาสั่นจนแทบยืนไม่อยู่ กระบี่ในมือร่วงลงพื้น ก่อนที่เขาจะเบนสายตา ไปมองยังหญิงสาว ซึ่งตอนนี้กลับไปนั่งยังที่เดิม เสมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อครู่ มันมิใช่ฝีมือของนาง “จะลงมือกับใครก็ตาม เจ้าต้องศึกษาอีกฝ่ายให้แจ่มแจ้ง หึๆ ยังดีที่ตรงนี้เป็นข้า ถ้าเป็นผู้ติดตามของข้าทั้งสอง เจ้าคงไม่ได้ยืนต่อคำ เกินชั่วอึดใจ...” ชายหนุ่มถึงกับใบหน้าถอดสี เขาไม่คิดว่าแผนการที่แยบยล จะถูกล่วงรู้จนหมดสิ้นเช่นนี้ “ผู้ใดอยู่ข้างนอก เข้ามานี่เร็ว!” อ๋องน้อยโหว ตะโกนเรียกเหล่าองครักษ์ ทว่ากลับไร้ซึ่งวี่แวว ชายหนุ่มรีบย่อกายลงเก็บกระบี่ โดยที่สายตา หาได้ละไปจากร่างงาม ที่นั่งดื่มชาอย่างเพลิดเพลิน ราวกับเขาที่อยู่ร่วมห้อง เป็นเพียงอากาศธาตุ “หึๆ มิใช่เจ้าสั่งห้ามใครมารบกวนหรอกหรือ แต่คนของข้าอยู่ข้างนอกนะ เรียกได้...” “หญิงแพศยา! สตรีมีคู่หมาย

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่91 มอบบทเรียน

    ยิ่งไม่เคยรู้ถึงฝีมือของคู่ต่อสู้ เขายิ่งต้องรีบเผด็จศึก ให้ได้โดยไว จึงมิคิดที่จะลีลาให้ตนเอง กลายเป็นฝ่ายเสียท่า สิ้นคำของชายหนุ่ม เงาร่างในชุดสีดำสองคน ก้าวออกจากหลังฉากกั้น ซึ่งเป็นส่วนด้านหลังห้องที่มีหน้าต่าง “อือๆ” เจ้าของจวนทำได้แค่...ส่งเสียงทัดทานในลำคอ ทว่ากลับไม่สามารถต่อต้านการกระทำใดๆ ของชายชุดดำได้เลย อาภรณ์เนื้อดีถูกถอดออก จนแหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนที่ชายชุดดำจะดึงมีดเล่มเล็กออกมา “นายหญิง โปรดพักผ่อนรอสักครู่ขอรับ” ชายผู้ถือมีดเอ่ยกับผู้เป็นนาย จินอู่หันหลังให้ พร้อมสะบัดมือเล็กน้อย เพื่อให้คนของเขา ลงมือได้แล้ว หากไม่ติดว่าที่นี่ คือถิ่นศัตรู...คำว่าเงียบเสียง จะไม่มีเลยสำหรับเขา ความเจ็บปวดของศัตรู ควรประกาศให้โลกรู้ แต่เมื่อสถานที่ไม่อำนวย เขาก็ไม่ติดที่จะลงมืออย่างเงียบๆ โหวอ๋องดวงตาเหลือกลาน แต่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ เมื่ออาวุธคู่กายของเขา กำลังถูกเฉือดเฉือนประหนึ่งหนูถูกถลกหนัง แม้มันจะไม่รู้สึกเจ็บ ทว่าใจของบุรุษแท้เยี่ยงเขา มันแหลกละเอียดจนมิเหลือชิ้นดี “สกุลโหว ควรสิ้นสุดที่เจ้าสองพ่อลูก อย่าได้สร้าง

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่90 ก้าวเท้าผิด

    “คุณหนูเฉินเป็นอย่างไรบ้าง” เป็นสาวใช้อาวุโส ที่เอ่ยถามกับสาวใช้สกุลเฉิน และผู้ติดตามหนุ่ม “คุณหนูดื่มยาแก้เมา และหลับอยู่เจ้าค่ะ” เจินจู ตอบสาวใช้สูงวัย ก่อนจะเหลือบตามองไปยัง สาวใช้ของอนุหรู สตรีผู้เพียรพยายามรั้ง ให้คุณหนูของนางพักในจวน “ข้าจะมาเชิญคุณหนูเฉิน กลับเข้าพักยังเรือนรับรอง ด้วยตอนนี้เฉินฮูหยิน ได้พักผ่อนรออยู่แล้ว” “หากไม่มีคำสั่งใดจากปากของฮูหยิน ข้าคงมิอาจปล่อยให้คุณหนูห่างสายตา เอาเป็นว่าข้าจะให้เจินจู ติดตามท่านเข้าไปพบฮูหยินของเราก็แล้วกัน” “นี่เป็นประสงค์ของท่านอ๋อง ที่มิอยากให้ผู้ใดตำหนิ ว่าดูแลแขกไม่ดี” หญิงชราตวัดสายตาดุใส่ชายหนุ่ม ผู้ไร้ความยำเกรงในอายุและฐานะของนาง ยิ่งเห็นใบหน้าเรียบเฉย แม้เพียงครึ่งเสี้ยงของใบหน้า นางก็รู้ดีว่าคนผู้นี้ ไม่ได้สะท้านต่อคำของนางเลย “งานเลี้ยงกับคนเมามาย ย่อมเป็นของคู่กัน และมิใช่ทุกคนที่ต้องการพักในจวนของเจ้าภาพ คุณหนูอยู่ในรถม้าแล้ว รอเพียงฮูหยินกลับออกมา เราก็พร้อมกลับจวน” จากความอ่อนน้อม พลันเป็นดุดัน จนทำให้ชายหนุ่มหลายคน ที่ยืนอยู่เบื้องหลังส

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่89 เฉินฮูหยิน

    “สามหาว! เจ้ากล้าข่มขู่ท่านอ๋องเยี่ยงนั้นรึ!” “ทำไมข้าต้องขู่ผู้ใดด้วย อีกอย่างถ้าท่านบริสุทธิ์ใจจริง จะเป็นเดือดเป็นร้อนไปไย แค่คุณหนูเฉินจะกลับบ้านตนเอง หรือมีสิ่งใดเป็นนอกในอย่างนั้นรึ! ดูรั้งนางจนออกหน้าเยี่ยงนี้” ชายหนุ่มเอียงหน้าช้า พร้อมมุมปากบิดขึ้นน้อยๆ การกระทำนั้นชวนให้อนุคนงาม หนาวสะท้านไปทั้งกาย บุรุษที่น่ากลัวย่อมเป็นคนที่มีหลากหลายบุคลิก ซึ่งปกติแล้วหรงเล่อถงสุขุมนุ่มลึก ทว่าตอนนี้...เขายิ่งกว่าคนจิตวิปลาสอย่างไรอย่างนั้น “นอกในอันใดกัน นางเป็นแขกของสามีข้า การดูแลเอาใจใส่ ย่อมเป็นเรื่องที่ข้าต้องทำอยู่แล้ว” “เช่นนั้นหลีกทางข้าเถิด อนุหรู” หรงเล่อถง กดน้ำเสียงให้ลึก และชัดเจนว่าเขาพร้อมขัดขวางเรื่องนี้ อย่างไม่คิดยินยอมปล่อยผ่าน ต่อให้สตรีที่กำลังตกที่นั่งลำบาก มิใช่พี่น้อง เขาก็คงปล่อยให้สตรีเหล่านั้น แปดเปื้อนจากคนโสมมได้เป็นอันขาด ถึงเขาจะมิใช่คนดีไปเสียทุกเรื่อง แต่เขามีพี่สาวน้องสาว พวกนางจะเป็นเช่นหากต้องอยู่อย่างอดสู แบกรับความอัปยศไปทั้งชีวิตเฉินหนิงฮวาในตอนนี้ ดวงตาปรือจนแทบจะปิดแล้ว ชายหนุ่มพอจะเดาได้ ว่าเกิดจากสาเ

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่88 ข้าคงดื่มมากไป

    “หยุดนะ! เจ้าจะทำอะไรลูกข้า!” เจียงชูเหนียง รีบผลักร่างของคนสนิทออก ก่อนจะหันไปหาบุตรชาย มือบางหมายจะเอื้อมไปแตะ ที่ข้างแก้มของผู้เป็นลูก ทว่าร่างสูงกลับเบี่ยงกายหลบ “อย่าล้ำเส้นข้าอีก มิเช่นนั้น...ข้าจะไม่ใจดีเช่นครั้งก่อน” “ครั้งก่อน...” เจียงชูเหนียง ถึงกับเซถอยหลัง คนของนางไม่เคยลงมือกับบุตรชาย มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ที่ทั้งคู่เคยปะทะกัน เมื่อปีก่อนที่อารามบนเขา แววตาแตกตื่นทำได้เพียง มองตามแผ่นหลังของบุตรชาย ที่กลืนหายไปในความมืด “ไหนเจ้าบอกว่า เขาไม่เห็นเจ้าอย่างไรเล่า แล้ว...หรือเจ้าทำนอกเหนือจากที่ข้ารู้” “เขาก็แค่หยั่งเชิงเรา เจ้าอย่าได้เผยพิรุธจะดีกว่า เลือดในกายเขามีของเจ้าแค่ครึ่งเดียว อย่าคาดหวังให้มาก ว่าเขาจะเหมือนเจ้า เพราะขนาดพ่อแท้ๆ เขายังไม่เหมือนเลย กลับไปได้นิสัยของยายแก่ แม่สามีเจ้ามาแทบทั้งสิ้น” “พูดเรื่องนี้ก็ดี เจ้าหานางพบรึยัง!” “ยัง! หรงเล่อถงไม่เคยเผยร่องรอย ให้ข้าตามไปจนถึงตัวยายแก่นั้นได้เลย” “อย่าช้า! นางรู้เรื่องมากเกินไป หากปล่อยไว้ เล่อถงต้องคิดแปรพักตร์” “เหม

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่87 ข้ามิอาจทำตามใจ

    น้ำเสียงของชายหนุ่ม ไม่มีคำว่าเสแสร้ง เขาไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมจึงกล้าที่จะพูดความรู้สึกแท้จริงออกมา ทั้งที่เขาไม่เคยให้ใครได้เห็นมันเลยสักครั้ง อาจเพราะนาง เหมือนพี่สาวของเขาก็เป็นได้ “แล้วทำไม จึงไม่ไปหาพวกเขาเล่าเจ้าคะ” “หากข้าทำทุกอย่างได้ตามใจ ก็คงดีไม่น้อย ลูกภรรยารองที่ต้องแบกอนาคตของมารดา แค่หายใจผิดที่ก็คือหายนะแล้ว” “ดูลำบากนะเจ้าคะ” “ใช่!” “แล้วที่คุณชายพูดกับข้า มิกลัวข้าไปเล่าให้ผู้อื่นฟังหรือเจ้าคะ และไม่กลัวจะมีคนแอบฟังรึ!” “หึๆ ข้ามั่นใจว่าจะรู้แค่เราสี่คนเท่านั้น เพราะต่อให้คนที่คิดแอบฟังอยากได้ยิน ก็ไม่อาจเฉียดใกล้ตรงนี้ได้” ชายหนุ่มชำเลืองมองไปที่ ผู้ติดตามของหญิงสาว กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมา ต่อให้เป็นนักฆ่าระดับสูง ก็ยังต้องไตร่ตรองให้ดีก่อนลงมือ และมิใช่แค่ชายผู้นี้เท่านั้น สาวใช้ของคุณหนูเฉิน ก็หาใช่ธรรมดาไม่... “เรื่องบางเรื่อง หากพูดออกมาแล้วสบายใจ ก็อย่าได้เก็บมันไว้เลยเจ้าค่ะ เว้นแค่เรื่องที่จะนำภัยมาสู่ตนเอง จึงมิควรเอ่ยออกมา คนเราล้วนมีเรื่องที่ยากจะพูดได้ แต่ก็ใช่ว่าบางเรื่องจะระบายออ

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่86 ท่านย่า

    ใช้เวลากว่าสองชั่วยาม อาหารมากมายถูกจัดขึ้นโต๊ะ ซึ่งมันเป็นเวลาที่พระอาทิย์ลับขอบฟ้าไปแล้วเช่นกัน หลังจากอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว สองย่าหลานก็มานั่งร่วมกินอาหาร รวมถึงสาวใช้ข้างกาย ที่ได้รับอนุญาตให้ร่วมโต๊ะ กับเจ้านายทั้งสอง“ถงเอ๋อร์ เจ้าได้ข่าวพี่ๆ กับน้องชายเจ้าบ้างหรือไม่”หญิงชราถามถึงหลานชายหญิง ที่ติดตามสะใภ้ใหญ่ของนาง ไปอยู่ไกลถึงเมืองชีเป่ย นางคิดถึงหลานๆ เหลือเกิน ยิ่งเมื่อนึกถึงความต่ำช้าของลูกและสามี นางยิ่งไม่อยากให้หลานชายคนรอง ต้องมีชีวิตมั่วหมองเพราะมีพ่อกับปู่ เป็นคนเห็นแก่ได้ และกระหายในอำนาจ จนมิสนถูกผิด แต่อย่างไร...นางก็มิอาจพูดความจริง บางอย่างออกมาได้ หาไม่แล้วชีวิตของหรงเล่อถง คงไม่ปลอดภัยอีกต่อไป“พวกเขาก็สุขสบายดีขอรับ เอาไว้เมื่อไหร่ที่พี่ใหญ่ พี่รองและน้องเล็กกลับมาเมืองหลวง ข้าจะพาพวกเขามาพบท่านย่านะขอรับ” “ขอบใจเจ้ามาก อย่างไรเจ้าก็พี่น้อง อย่าให้คำว่าอำนาจมาบังตา จนทำร้ายกันเองเล่า ข้าเชื่อว่าแม่ใหญ่ของเจ้า จะไม่สอนให้พี่น้องของเจ้า ช่วงชิงสิ่งใดและทำร้ายเจ้า นางเป็นคนจิตใจดี และย่าก็เชื่อว่าเจ้า จะมีเลือดของย่า มากที่สุดในกายเช่นกัน”

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่85 พี่น้องต่างมารดา

    “สุราดีนะเจ้าคะ” หนิงฮวาเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงปนเขินอาย ตามจริตของสตรี“หากคุณหนูใหญ่ชอบ ข้ายินดีมอบให้เป็นของกำนัล”“หนิงฮวา ขอบคุณท่านอ๋องน้อย ที่มีน้ำใจเจ้าค่ะ”“เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”ชายหนุ่มเจ้าบ้าน ยังคงเลือกที่จะดื่มสุราอีกหลายจอก กับสองแม่ลูกสกุลเฉิน และนั้นทำให้หญิงสาวอีกคน ซึ่งนั่งอยู่อีกฝั่ง กำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ ที่คนรักของนาง ให้ความสนใจหญิงอื่นต่อหน้าถึงนางจะเป็นบุตรสาวเสนาบดี แต่นางก็ยังคงเป็นเพียงลูกภรรยารอง ไม่อาจเทียบกับบุตรสาวคนโต สกุลคหบดีที่กำนิดจากภรรยาเอกและเท่าที่สืบรู้มา นายท่านสกุลเฉิน มีเพียงภรรยาเดียว นั่นหมายความว่าทุกอำนาจ อยู่ในมือมารดาของคุณหนูใหญ่สกุลเฉิน นางที่มารดายังเป็นรอง ไหนเลยจะเทียบเคียง“อย่าทำสิ่งใดออกนอกหน้า แค่ลูกพ่อค้า! จะเทียบอันใดเจ้าได้”ฮูหยินรองหรงเอ่ยกับบุตรสาว แม้ว่าในใจจะหวาดหวั่นอยู่มาก แต่นางไม่มีวันแสดงสิ่งใด ให้ศัตรูได้เห็นเด็ดขาด“แต่ท่านอ๋องน้อย”“ท่านอ๋องทำถูกแล้ว ถ้าไม่ไปทักทายพวกนาง จะรู้ได้อย่างไรว่าตัวตนแท้จริงคือใคร”“เจ้าค่ะ”เมื่อหาข้อโต้แย้งมารดาไม่ได้ หญิงสาวจำต้องยอมนิ่งเงียบ แม้ว่าใบหน้างามจะแสร้งยิ้ม แต่ก็

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่84 สุราดี

    “นายหญิงน้อยฟาง ตัวแทนสกุลจาง”เป็นเฟยที่ยื่นเทียบเชิญ พร้อมบอกถึงสถานะผู้เป็นนาย หลังจากแม่ลูกสกุลเฉิน ก้าวจากไปแล้ว “เชิญนายหญิงน้อยฟาง ด้านในขอรับ” พ่อบ้านประสานมือโค้งกาย เช่นที่ทำกับแขกคนอื่นๆ ก่อนจะเรียกสาวใช้มานำทาง เพื่อเข้าไปยังลานจัดเลี้ยง จื่อเว่ย เดินตามสาวใช้จวนอ๋องเข้าไป โดยมีชิงหลิงและเฟยก้าวตาม ทั้งสามเดินเข้ามาถึงลานสำหรับจัดเลี้ยง ซึ่งดูเหมือนคืนนี้ จะไม่มีการแยกชายหญิง “นายหญิงฟาง เชิญนั่งเจ้าค่ะ” สาวใช้ผายมือให้แก่ตัวแทนสกุลจาง ก่อนจะเดินจากไป เฟยและชิงหลิง ก้าวเข้าไปยืนอยู่เบื้องหลังของผู้เป็นนาย จื่อเว่ยเหลือบตามองไปยังโต๊ะข้างกัน ก่อนจะค้อมหัวเล็กน้อย ให้แก่แม่ลูกสกุลเฉิน ซึ่งนับเป็นคู่แข่งทางการค้าคนสำคัญ “ไยวันนี้สกุลจาง จึงได้ให้หญิงงามมาเพียงลำพังเล่า ท่านหย่งสือและหลานๆ ไปที่ใดกัน” เป็นท่านอ๋องน้อยโหว ที่เดินเข้ามาถามจื่อเว่ย คราแรกเขาแอบผิดหวังเล็กน้อย ที่หรงเหลียนฮวาไม่มาด้วย แต่เมื่อครู่นี้...เขาได้ยลโฉมหญิงงามทั้งสอง จากสกุลเฉิน เลยทำให้ความรู้สึกใหม่เข้ามาทดแทน จึงไม่ใคร่จะใส่ใจ ว่าหรงเหลียนฮวาจะมาห

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status