แชร์

บทที่ 0050

ผู้เขียน: อันอี่หราน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-05 13:25:53
เหออวิ๋นเหยาโมโหมาจากงานขี้ม้าตีคลี เดี๋ยวกลับถึงจวนก็ต้องไปบ่นกับท่านแม่

"ท่านพ่อ ท่านแม่ วันนี้พี่ทำให้ข้าอายที่งานขี้ม้าตีคลี อย่างไรก็จะเอาให้รู้แพ้รู้ชนะให้ได้" เหออวิ๋นเหยพูดพลางเข้าหานางหลินและร้องไห้ฟูมฟาย

เมื่อตอนที่นางหลินเพิ่งแต่งเข้าจวนเหอใหม่ๆ ก็ยังแสร้งทำเป็นแม่ที่มีเมตตา

แต่ดังคำกล่าวที่ว่าเมื่อมีแม่เลี้ยงพ่อก็จะกลายเป็นพ่อเลี้ยงไปด้วย

และเนื่องจากตอนนี้จวนอันกั๋วได้ก็ไม่มีอยู่แล้วด้วย ราชเลขาเหอจึงไม่สนใจลูกสาวคนโตของเขาอีกต่อไป

นางหลินเห็นว่าราชเลขาเหอเป็นแบบนี้ ก็เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของนางออกมา รังแกเหออวี่เหยาอย่างโจ่งแจ้ง

เมื่อเห็นเหออวิ๋นเหยาทำแบบนี้ เหออวี่เหยากลับไม่พูดอะไร เพียงแต่ยืนอยู่ในมุมห้องโถงและมองดูพวกเขาสามคนพ่อแม่ลูก

"เจ้าลูกทรพี ทำวงตระกูลต้องขายหน้า" ราชเลขาเหอตำาหนิเหออวี่เหยาโดยไม่สนใจความจริงใดๆ ทั้งนั้น

นางก็ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับท่านพ่อ พูดแต่เพียงว่า วันนี้ข้าได้ไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้กับพระสนมมา ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งเกี่ยวกับวันครบรอบการตายของท่านแม่ ว่าให้องค์รัชทายาทไปไหว้หลุมศพท่านแม่ที่อารามหมิงจิ้ง

"หึ..." นางหลินกลับเยาะเย้ยว่า "สถานที
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0051

    ถ้าลู่ซิงหว่านได้รู้ ก็คงจะพูดประมาณว่า [ท่านแม่ ขอบคุณท่านจริงๆ แต่ข้าไม่อยากไปตากแดดตากลมที่ค่ายทหาร เพียงอยากอยู่ในวังเป็นดอกไม้งามเล็กๆ ก็พอแล้ว]เมื่อนึกถึงเสียงในใจของหวานหว่าน พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงได้ตระหนักถึงอีกเรื่องหนึ่งจึงรีบเปิดผ้าม่านรถ มองไปทางจิ่นซินซึ่งอยู่ด้านนอก “จิ่นซิน เจ้าพาคนไปที่จวนราชเลขากรมแรงงานใต้เท้าเหอ บอกเขาว่าอีกสี่วันข้างหน้าครบรอบวันเสียชีวิตของเหอฮูหยิน องค์ชายรัชทายาทจะไปร่วมงานด้วย”จิ่นซินมองหน้าเฉินกุ้ยเฟยด้วยความแปลกใจ คำพูดนี้เมื่อครู่ก็ได้กล่าวกับคุณหนูเหอไปแล้ว เหตุใดจึงต้องไปอีกครั้งหนึ่งจิ่นอวี้อยู่ข้างๆ พูดแทรก “พระสนมคิดจะให้กำลังใจคุณหนูเหอหรือเจ้าคะ”พระสนมเฉินกุ้ยเฟยพยักหน้า “จิ่นซินเป็นเด็กโง่นัก หากไม่มีข้า ดูซิเจ้ายังจะอยู่ในวังหลวงได้ยังไง”จิ่นซินใช้คำพูดเง้างอดซึ่งมีแต่พวกนางที่ฟังออก “หากไม่มีพระสนม จ้างให้ข้าก็ไม่มาอยู่ในวังหลวงหรอกเจ้าค่ะ”จิ่นซินรับบัญชาจากพระสนมเฉินกุ้ยเฟย เรียกตัวบ่าวไพร่บางคน ตามกันไปจวนตระกูลเหอและการมาถึงของจิ่นซิน ก็ทันได้ยับยั้งมิให้เหออวี๋เหยาถูกตบหน้าเข้าบ่าวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องโถง ไม่ท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0052

    รอจนเหออวี่เหยามาถึงห้องโถงหน้า ใต้เท้าเหอก็ชักสีหน้าบึ้งตึงพร้อมด่าว่าอีก “ทำไมออกมาชักช้านัก ปล่อยให้ผู้อื่นต้องรอนานน่ะ”เหออวี่เหยาไม่คิดกล่าวตอบ แต่หันไปคารวะจิ่นซิน “จิ่นซินกูกูรอนานแล้ว”จิ่นซินรีบพยุงนางขึ้น “คุณหนูเหออย่าได้เกรงใจ พระสนมให้บ่าวมาเรียนคุณหนู ว่าอีกสี่วันข้างหน้าครบรอบวันตายของอดีตเหอฮูหยิน องค์ชายรัชทายาทกับองค์ชายรองจะมาร่วมงานด้วย รบกวนคุณหนูเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อไม่ให้เสียงานใหญ่”เหออวี่เหยารู้สึกซาบซึ้งในความเมตตา จึงได้พยักหน้าตอบรับใต้เท้าเหอได้ยินเข้าก็ตกตะลึง เมื่อครู่ธิดาคนโตบอกว่าวันครบรอบวันตายของเผยเสียน องค์ชายรัชทายาทจะเสด็จมาเซ่นไหว้ เขายังไม่เชื่อด้วยซ้ำ ไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องจริงแอบปรายตาไปทางนางหลินโดยไม่ตั้งใจ ทั้งคู่สบสายตากันนางหลินรีบเดินมากล่าวยิ้มแย้ม “ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ยังต้องรบกวนให้กูกูมาด้วยตนเองอีก”กล่าวจบก็ให้สาวใช้ข้างกายมอบซองแดงให้จิ่นซินหนึ่งใบจิ่นซินปฏิเสธไม่รับ “เราเป็นคนของพระสนมเฉินกุ้ยเฟย ไม่เคยมีธรรมเนียมเช่นนี้ รบกวนฮูหยินเก็บไว้เถอะ”จิ่นซินหันไปมองเหออวี่เหยา พร้อมดึงมือนางไว้ “พระสนมยังกล่าว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0053

    พระสนมเฉินกุ้ยเฟยกลับดูไม่เดือดร้อน “พวกเจ้าลองบอกซิว่า คนที่ปล่อยข่าวลือ มีจุดประสงค์เพื่ออะไร”จิ่นซินและจิ่นอี้ต่างสบสายตากัน จิ่นซินกล่าวตอบ “ย่อมเป็นการสร้างปัญหาให้พระสนม และทำให้ฝ่าบาททรงเกิดความระแวง”พระสนมเฉินกุ้ยเฟยกลับตอบยิ้มๆ “ในเมื่อนางคิดสร้างปัญหาให้ข้า แล้วข้ายังจะไปข้องแวะด้วยทำไม ปล่อยพวกนางไปก็สิ้นเรื่อง”“แต่ว่าพระสนม...”จิ่นอวี้คิดจะพูดต่อ กลับถูกพระสนมเฉินกุ้ยเฟยขัดจังหวะ “เราบริสุทธิ์ใจก็พอ ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ใดๆ”ลู่ซิงหว่านอดไม่ได้ที่จะชื่นชม[สมแล้วที่เป็นธิดาในตระกูลแม่ทัพ อีกทั้งเคยผ่านสนามรบมาอย่างโชกโชน จิตใจกว้างขวางยิ่งนัก]ทันใดนั้นเอง สุรเสียงของฮ่องเต้ต้าฉู่ก็แว่วเข้ามา “ชิงเหยียนพูดถูกต้อง ขอเพียงเราบริสุทธิ์ใจ”ทุกคนต่างพากันถวายบังคมต่อฮ่องเต้ฮ่องเต้ต้าฉู่ตรงเข้าพยุงพระสนมเฉินกุ้ยเฟย “ข้าได้ยินข่าวนี้แล้ว แต่ยังไงก็เชื่อใจเจ้า”ลู่ซิงหว่านอดไม่ได้ที่จะแบะปากเล็กน้อย[จริงหรือ? ท่านเชื่อใจท่านแม่แน่นะ ในใจก็ต้องมีความระแวงบ้างล่ะ][เพียงแต่ไม่อยากเสียเกียรติของฮ่องเต้ อยากให้ท่านแม่มองว่าท่านใจกว้าง จึงได้พูดเช่นนี้กระมัง][หากเชื่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0054

    วันรุ่งขึ้น เหล่าสนมต่างไปเข้าเฝ้าไทเฮาที่ตำหนักหรงเล่อพระสนมเฉินกุ้ยเฟยไปถึงไม่นับว่าเร็ว แต่ก็ไม่นับว่าสาย เพียงแต่เมื่อนางไปถึงนั้น สนมส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในตำหนักก่อนแล้วเมื่อเห็นว่าพระสนมเฉินกุ้ยเฟยมาช้า ก็ย่อมมีคนทำสีหน้าแปลกๆ และคนแรกที่เอ่ยปาก ก็คือสนมซูผินที่คราวก่อนถูกพระสนมเฉินกุ้ยเฟยตำหนิ “บัดนี้พระสนมได้ถือตราหงส์แล้ว จะมาเข้าเฝ้าไทเฮาก็ย่อมจะชักช้าบ้าง”พระสนมเฉินกุ้ยเฟยหาได้โกรธเคืองไม่ มีเพียงเอ่ยปากโต้ตอบ “ความหมายของซูผินก็คือ ข้าดูแลวังหลังหกตำหนักจึงไม่เคารพไทเฮางั้นหรือ? ไม่รู้ว่าไทเฮาจะทรงเห็นด้วยหรือไม่ ประเดี๋ยวคงต้องทูลถามดู หรือจะให้มอบอำนาจประมุขแห่งวังหลวงแก่ซูผินก็ย่อมได้”“ท่าน...” ซูผินไม่คิดว่าพระสนมเฉินกุ้ยเฟยจะกล้าย้อนกลับอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ จึงได้หุบปากลงตรงข้ามกับหนิงเฟยซึ่งอยู่ข้างๆ ถึงขั้นหัวเราะออกมาซูผินถูกตอกจนหน้าหงาย ย่อมไม่กล้าเอ่ยปากใดๆ อีกส่วนอวิ๋นกุ้ยเหรินซึ่งสนิทกับซูผินมานานกลับเอ่ยปากแทน “พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้...”ซ่งชิงเหยียนไม่คิดจะไว้หน้าใครอีกแล้ว เพราะตอนนี้ตนเหมือนคนตาสว่าง ไหนๆ คนเหล่านี้ก็ไม่พอใจตนมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0055

    แม่นมซูกล่าวยิ้มๆ “พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเป็นคนเถรตรงเพคะ”ไทเฮารู้สึกสะท้อนในพระทัย “ข้าก็หวังให้นางเป็นเช่นนี้ตลอดไป ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่ให้เสียทีที่พี่สาวนางกตัญญูต่อข้านัก”จากนั้นก็รับสั่งเสียงเบา “ข้าผิดต่อพวกนางทั้งพี่และน้องเอง”แม่นมซูรีบเดินขึ้นหน้ามา ประคองไทเฮาให้ยืนขึ้น “หากดวงวิญญาณอดีตฮองเฮาได้ทรงทราบ ก็คงเห็นด้วยกับการกระทำของไทเฮาเช่นนี้เพคะ”ไทเฮาพยักหน้า พร้อมรับสั่งต่อ “ดูท่าชิงเหยียนคงรู้ว่าต้นตอข่าวลือเกิดจากที่ใด คงมีวิธีรับมือของนางเอง”“พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเป็นคนฉลาดอยู่แล้วเพคะ”“แต่ในเมื่อฮ่องเต้มาหาข้าเพราะเรื่องนี้ ข้าก็ต้องช่วยชิงเหยียนจัดการเสียบ้าง เพื่อให้นางสบายใจ” ไทเฮารับสั่งจบก็หันไปมองแม่นมซูที่อยู่ด้านข้าง “ข้าดูแล้วฮ่องเต้คงจะรักชิงเหยียนอยู่ไม่น้อย”เมื่อไทเฮาเสด็จออกไป ทุกคนต่างก็ยืนขึ้นแสดงการคำนับรอจนไทเฮานั่งลงแล้ว ก็ได้รับสั่งด้วยพระพักตร์เคร่งขรึม “บัดนี้เรื่องราวใหญ่น้อยในวังหลังล้วนมอบให้เฉินกุ้ยเฟยดูแล เดิมทีข้าก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอีก แต่วันก่อนได้ยินข่าวลือบางอย่างในวัง ใจคิดว่าผ่านไปซักพักคงจะเงียบหาย ที่ไหนได้นับวันก็ยิ่งลือกันหนัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0056

    เมื่อนึกได้ว่าพรุ่งนี้คือวันครบรอบวันตายของเผยเสียน องค์ชายรัชทายาทกับพวกก็เตรียมตัวแต่เช้าตรู่ หลังกินอาหารเช้าเสร็จ เฉินกุ้ยเฟยจึงให้จิ่นอวี้ไปเชิญองค์ชายใหญ่และองค์ชายรองมายังตำหนักชิงอวิ๋นนางต้องกำชับพวกเขาหน่อยจึงจะวางใจ“ท่านน้า” องค์ชายใหญ่มาถึงตำหนักชิงอวิ๋น เห็นลู่ซิงหว่านนั่งเล่นอยู่บนเตียง จึงรีบมาอุ้มนางเหมือนเช่นปกติ“วันนี้หวานหว่านเป็นเด็กดีหรือเปล่า”ลู่ซิงหว่านตอบกลับรัชทายาท[ข้าย่อมเป็นเด็กดีอยู่แล้ว เมื่อครู่ยังได้กินข้าวเป็นเพื่อนท่านแม่ด้วย]เฉินกุ้ยเฟยมีเพียงเวลานี้เท่านั้น ที่รู้สึกว่าตนไม่ได้เข้าวังเสียเปล่า เพราะรัชทายาทเป็นเด็กที่กตัญญูนักเพียงแต่ทุกครั้งที่เจอเขา นางมักจะนึกถึงคำพูดของหวานหว่าน ที่บอกว่ารัชทายาทผู้นี้ไม่เหมาะจะครองบัลลังก์ แต่ระยะมานี้เห็นเขาทีไร ก็รู้สึกว่ามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นทุกครั้งขณะกำลังใช้ความคิดอยู่ จิ่นอวี้ก็กลับมา “พระสนม องค์ชายรองไปตำหนักของพระสนมหลานเฟย บ่าวจึงมาแจ้งให้ท่านทราบน่ะเจ้าค่ะ”“เอาเถอะ ไม่ต้องไปเชิญเขามาหรอก ข้าจะบอกรัชทายาทเอง”ขณะพูดคุย เผยฉู่เยี่ยนก็ได้เดินเข้ามา “คารวะพระสนมเฉิน คารวะองค์ชายรัชทา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0057

    [น่าอิจฉาจริงๆ อิจฉาจนข้าพูดไม่ออกแล้ว]พระสนมเฉินกุ้ยเฟยคิดในใจ แล้วหลายวันก่อนมีงานขี่ม้าตีคลี ไม่ได้พาเจ้าไปหรอกหรือ?แต่ก็เก็บคำพูดของลู่ซิงหว่านไว้ในใจ แอบชั่งใจอยู่ครึ่งค่อนวัน ในที่สุดก็ไม่ได้เอ่ยปากบอกองค์ชายทั้งสอง เห็นว่าเรื่องนี้ควรต้องถามฮ่องเต้ต้าฉู่ก่อนรอจนองค์ชายรัชทายาทออกจากตำหนักชิงอวิ๋นไปแล้ว พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงยืนขึ้นและมีคำสั่ง “เราไปห้องทรงอักษรเข้าเฝ้าฝ่าบาท”จิ่นซินและจิ่นอวี้แม้จะสงสัย แต่ยังคงรีบจัดแจงให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟย นางหันมาสั่งอีก “พาหวานหว่านไปด้วย”ทุกคนพากันออกจากตำหนักชิงอวิ๋นจวบจนใกล้ถึงห้องทรงอักษร จึงเห็นสนมเล่อกุ้ยเหรินเดินออกมาจากห้องนั้นก่อน“พระสนม ข้างหน้าคือเล่อกุ้ยเหริน ดูหน้าตานาง คงจะมีข่าวดีอะไรแน่” จิ่นอวี้เป็นคนช่างสังเกต ย่อมจะตาไวกว่าคนอื่นเล่อกุ้ยเหรินก็เห็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยตั้งแต่อยู่ไกลลิบๆ จึงรีบตรงมาแสดงความคารวะ “คารวะพระสนมพระสนมเฉินกุ้ยเฟย”พระสนมเฉินกุ้ยเฟยแม้จะไม่ถูกชะตากับเล่อกุ้ยเหรินเท่าใดนัก แต่สีหน้ายังดูเป็นมิตรอยู่ “ไม่เจอเล่อกุ้ยเหรินเสียหลายวัน ได้ยินว่าสุขภาพไม่สู้ดีอย่างงั้นหรือ?”“ขอบคุณพระสนมที่ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0058

    ทางด้านพระสนมเฉินกุ้ยเฟย ได้เร่งรีบเข้าไปในห้องทรงอักษรฮ่องเต้ต้าฉู่เห็นนางกับลูกมา ก็รู้สึกยินดียิ่ง “หวานหว่านมาหาพ่อเร็วเข้า”จิ่นอวี้รีบส่งตัวลู่ซิงหว่านไปหา“เมื่อครู่ตอนหม่อมฉันมาถึง ได้พบเล่อกุ้ยเหรินที่ระหว่างทาง”“ใช่” ฮ่องเต้ต้าฉู่หยอกล้อลู่ซิงหว่านไปพลาง ปากก็พูดกับพระสนมเฉินกุ้ยเฟย “เห็นบอกว่าตั้งครรภ์ จึงรีบมาบอกข้า”ท่าทีไม่ยินดียินร้ายของฮ่องเต้ต้าฉู่ กลับทำให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยรู้สึกประหลาดใจ จึงได้เอ่ยปากถาม “ฝ่าบาทเพคะ”[แค่นี้ท่านแม่ยังไม่รู้อีก ช่างโง่เสียจริง!][เสด็จพ่อมีลูกตั้งหลายคนแล้ว แถมพี่ชายใหญ่กับพี่ชายรองก็เอาถ่าน ใครจะไปสนใจเด็กที่ยังไม่เกิดมา][แต่เสด็จพ่อก็เอ็นดูข้ามากกว่าใคร คงเพราะตอนเกิดใหม่ๆ ได้ทำให้แคว้นตู้ฉู่เกิดฝนตก จึงคิดว่าข้าเป็นตัวนำโชคกระมัง]ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินสิ่งที่ลู่ซิงหว่านพูดในใจ เกรงว่านางจะเกิดความน้อยใจ จึงรีบเอ่ยปาก “เพราะข้าคิดว่า มีหวานหว่านคนเดียวก็เพียงพอแล้ว”เมื่อก่อนเพราะมีราชกิจรัดตัว จึงทำให้ฮ่องเต้ไม่อาจใส่พระทัยต่อทายาทคนไหนเป็นพิเศษ แม้ว่าจะอยู่กับหวานหว่านนานกว่าใครเพราะได้ยินเสียงพูดในใจของนาง แต่พอนานวันเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05

บทล่าสุด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0634

    เขาเป็นฮ่องเต้และเข้าใจวิธีการใช้คนเป็นอย่างดีคนอย่างเสิ่นผิงเป็นดาบที่แหลมคม ต้องให้ผู้ถือดาบควบคุมให้ดีเรื่องต่อไปนั้นง่ายมากฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้เว่ยเฉิงออกหน้าเพื่อปลอบขวัญราษฎรทั้งหมด ส่วนตัวเขาเองก็พาเสิ่นผิงกลับไปที่จวนนายอำเภออีกครั้งครั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงตั้งใจพาลู่ซิงหว่านมาอยู่ข้างกายถึงอย่างไรเขาก็มีความคิดแบบนี้มานานแล้ว อยากจะพาลู่ซิงหว่านไปประชุมเช้าด้วยแต่เมื่อนึกถึงคนแก่คร่ำครึกลุ่มนั้น เพื่อลดความยุ่งยากให้กับลู่ซิงหว่านและซ่งชิงเหยียนสองแม่ลูก ในที่สุดเขาก็ยกเลิกความคิดนี้แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกมันไม่เหมือนกันแล้ว สิ่งที่ควรใช้ก็ต้องใช้ให้ดีเมื่อเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังอุ้มเด็กคนหนึ่ง เสิ่นผิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นฮ่องเต้ เขาเป็นแค่ข้าน้อยธรรมดาคนหนึ่ง จะกล้าเอ่ยปากได้อย่างไรจนกระทั่งทั้งสองนั่งลง ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงเอ่ยปากถามว่า “คุณชายเสิ่นแม้จะสวมเสื้อผ้าธรรมดา แต่ดูแล้วก็สง่างาม ไม่รู้ว่าพ่อเจ้าเป็นใครกัน”เสิ่นผิงกลับส่ายหน้า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านพ่อเป็นใคร ข้าน้อยอาศัยอยู่กับท่านแม่ที่อําเภอไถจิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0633

    [นี่เป็นขบวนเสด็จของฝ่าบาท พวกเจ้ายังกล้าขัดขวางอีกหรือ?]ส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เปิดม่านรถออกอย่างเงียบๆ และมองออกไปด้านนอกตอนนี้ที่หน้ารถของพวกเขา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกําลังคุกเข่าอยู่ เป็นธรรมดาที่มีชาวบ้านทยอยกันเดินมาทางนี้ลู่ซิงหว่านตาไว มองปราดเดียวก็เห็นคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุด เป็นชายที่คุยกับพวกเขาเมื่อวาน“เสด็จพ่อ พี่ชาย” ลู่ซิงหว่านชี้นิ้วไปยังคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุดฮ่องเต้ต้าฉู่หันมองลู่ซิงหว่านอย่างสงสัย แล้วมองไปข้างหน้าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาคิดไปคิดมา ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ลุกขึ้นและออกจากรถม้าไป“ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี” ทุกคนคุกเข่าลงและตะโกนถวายบังคมชายที่อยู่ด้านหน้าสุดกลับเอ่ยปากก่อน “ข้าน้อยเสิ่นผิง ถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบ เสิ่นผิงก็เงยหน้าขึ้น มองตรงไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ “ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาททรงมอบเงินเหล่านั้นให้ข้าน้อย ข้าน้อยก็รู้สึกว่าฝ่าบาทต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการแน่นอน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นผิงก็โขกหัวลงไปอีกครั้ง “ฝ่าบาททรงเมตตากรุณายิ่งนัก เป็นความโชคดีของราษฎรในใต้หล้าเหลือเกินพ่ะย่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0632

    ฮ่องเต้ต้าฉู่จัดการเรื่องนี้เสร็จ ก็เสียเวลาไปบ้าง ได้แต่พักค้างคืนหนึ่งคืนก่อนแล้วค่อยออกเดินทางอีกครั้งในวันถัดไปเท่านั้นค่ำคืนนี้ พวกฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่ได้ไปพักที่โรงเตี๊ยมหรือเรือนรับรองใดๆ อีก แต่พักอยู่ในที่ว่าการอําเภอโดยตรงตอนนี้ไม่มีงานราชการที่ต้องจัดการ หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ก็รู้สึกเบื่อมาก“เว่ยเฉิง” ฮ่องเต้ต้าฉู่ชะโงกหน้าไปถาม “ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของอําเภอเทียนจินนี้เป็นอย่างไร?”พูดถึงตรงนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ยืนขึ้น “ไม่สู้เรียกหวงกุ้ยเฟยมาดีกว่า ให้ออกไปเดินเล่นด้วยกัน”บังเอิญจริงๆ ซ่งชิงเหยียนและพรรคพวกก็กําลังเดินมาทางนี้เช่นกัน“นายท่าน” เยวี่ยกุ้ยเหรินเดิมทีก็มีนิสัยร่าเริงอยู่แล้ว เมื่อก่อนอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทและพระสนมหวงกุ้ยเฟยยังไม่กล้าปล่อยมากนัก หลายวันมานี้คุ้นเคยกันแล้ว ย่อมมีชีวิตชีวามากขึ้น “พระ...ฮูหยินเรียกข้าออกไปเดินเล่นด้วยกัน นายท่านจะไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อได้ยินสนมเยว่กุ้ยเหรินเรียกซ่งชิงเหยียนแบบนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็อึ้งไปชั่วขณะเขาจับตาซ่งชิงหย่านอย่างว่างเปล่า ราวกับว่าเขาสามารถเห็นใบหน้าของซ่งชิงหย่าผ่านใบหน้าของนางเมื่อฮ่องเต

DMCA.com Protection Status