แชร์

บทที่ 0035

ผู้แต่ง: อันอี่หราน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
พูดจบเขาก็มองไปทางไทเฮา "เสด็จแม่ กระหม่อมยอมให้ได้มากที่สุดเท่านี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ"

ไทเฮาพยักหน้าไม่พูดอะไรต่อไป

ในเวลาเพียงไม่กี่วัน สมาชิกที่ร่วมคิดการกบฏกับอ๋องหรงก็ถูกจับเข้าคุกตาม ๆ กันไป

อ๋องหรง ถือว่าโชคดีที่ยังรอดชีวิต

คนอื่น ๆ กลับไม่ได้โชคดีแบบนั้น

หลังจากอ๋องหรงถูกจับแล้ว เรือนรับรองที่คณะทูตอาศัยอยู่ก็ยังคงมีทหารรักษาพระองค์คอยเฝ้าอยู่ไม่มีเสรีภาพแม้แต่น้อย

สิ่งนี้ทําให้เหอเหลียนเหรินซินยิ่งกังวลมากขึ้น ไม่รู้ว่าตอนนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ตรวจสอบไปถึงขั้นไหนแล้ว และจดหมายตอบกลับจากเสด็จพ่อก็ยังมาไม่ถึงสีกที ถ้าฮ่องเต้ต้าฉู่ต้องการจะจัดการตัวเองจริง ๆ ก็คงจะรอดชีวิตได้ยาก

เสด็จพ่อเลอะเลือนจริง ๆ มีอย่างที่ไหนส่งองค์รัชทายาทของแคว้นเป็นฑูตมาเจริญสัมพันธไมตรีในแดนศัตรู

เมื่อเห็นว่าเรื่องของอ๋องหรงสิ้นสุดลงแล้ว องค์รัชทายาทจึงเสด็จไปทูลฮ่องเต้ต้าฉู่เรื่องที่หวานหว่านไม่สบาย พร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังอย่างละเอียดยิบ

ฮ่องเต้ต้าฉู่ฟังจบก็หัวเราะเสียงดัง "ซื่อจื่อเผยคนนี้น่าสนใจจริง ๆ เสด็จแม่เลือกเขาเป็นองครักษ์ให้หวานหว่าน ถือว่าเลือกคนถูกแล้ว"

เมื่อได้ยินฮ่องเต้ต้าฉู่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0036

    และตั้งแต่เรื่องของหรงอ๋องสิ้นสุดลง ไทเฮาก็ล้มป่วยนอนซมตามกฎแล้วนางสนมทุกคนที่มีตำแหน่งตั้งแต่ตำแหน่งผินขึ้นไปจะต้องผลัดกันเฝ้าไข้แต่เนื่องจากสนมหนิงผินมีความรู้ทางการแพทย์อยู่บ้าง และนางเองไม่ได้ยุ่งอะไร จึงมักจะอยู่ปรนนิบัติในตำหนักหรงเล่อเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าไทเฮาจะไล่นางไปหลายครั้ง แต่นางก็มาทุกวันวันนี้ตอนที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟยพาหวานหว่านมาที่ตำหนังหรงเล่อ ก็เป็นนางสนมหนิงผินที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้างๆ"ข้าว่าสีหน้าของไทเฮาดูดีขึ้นมากแล้วนะ ต้องขอบใจน้องหนิงผินมากนะ" พระสนมเฉินกุ้ยเฟยพูดพลางประคองไทเฮาให้ลุกขึ้นพูดจบก็สั่งจิ่นอวี้ว่า “จิ่นอวี้ให้หวานหว่านไปเยี่ยมเสด็จย่าหน่อย”ไทเฮากลับรีบปฏิเสธทันที "ไม่ได้ ๆ หย่งอันยังเล็กอยู่ เดี๋ยวนางจะติดเชื้อเอาได้"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยกลับไม่สนใจ "ไทเฮานี่เป็นเพียงป่วยใจ จะติดเชื้อที่ไหนกันล่ะเพคะ"สนมหนิงผินก็หัวเราะและพูดว่า "พระสนมเฉินกุ้ยเฟยพูดถูกอย่างยิ่งเพคะ ไทเฮาต้องทำใจให้สบายถึงจะหาย"ไทเฮาหยอกล้อลู่ซิงหว่านและเอ่ยปากว่า "พวกเจ้าแต่ละคนชอบล้อข้าเล่นทั้งนั้น"[เสด็จย่าต้องมีชีวิตยืนนานนะเพคะ แม้ว่าในหนังสือนิทานจะไม่บอกเรื่องนี้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0037

    นางสนมที่เพิ่งเข้าวังได้เพียงเดือนเศษ แค่เพิ่งได้ร่วมหอไม่กี่ครั้ง กลับถูกแต่งตั้งเป็นพระสนมขั้นเฟยนำหน้าตัวเองไปแล้ว แล้วจะให้นางทนได้อย่างไรแน่นอนว่าคนที่รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่สมเหตุสมผลไม่ได้มีแค่ไม่กี่คนนี้เท่านั้นเพียงแต่เรื่องดังกล่าวเป็นการตัดสินใจของฮ่องเต้ต้าฉู่ จึงย่อมไม่มีใครกล้าโต้แย้งณ ขณะนี้คนของศาลต้าหลี่และกรมสอบสวน ก็จัดเรียงคำสารภาพของอ๋องหรงเสร็จเรียบร้อยและนำมาถวายให้ฮ่องเต้ต้าฉู่ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้ต้าฉู่รู้เรื่องการสมคบคิดกบฏของอ๋องหรงมาจากหวานหว่าน แต่รายละเอียดยังไม่ทราบชัดเจนตอนนี้พอได้มาเห็นบันทึกนี้แล้วก็ก็ต้องโกรธจนเลือดขึ้นหน้าน้องชายแท้ ๆ ของตัวเองไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเลยจริง ๆ หมายจะเอาชีวิตตนนั้นยังไม่เท่าไร แต่ไม่สนใจความปลอดภัยของประชาชนต้าฉู่เลยสักนิดนี่สิจึงสั่งให้เสนาบดีหลินที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่เขียนจดหมายฉบับหนึ่งไปยังแคว้นเยว่เฟิงในจดหมายบอกเพียงว่าตอนนี้เรื่องที่อ๋องหรงสมคบคิดกับองค์รัชทายาทแคว้นเยว่เฟิงก่อกบฏถูกเปิดเผยแล้ว ให้ฮ่องเต้แคว้นเยว่เฟิงให้คําอธิบายด้วยในขณะนี้ติ้งกั๋วโหวได้มาถึงชายแดนแคว้นเยว่เฟิงนานแล้ว

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0038

    เรื่องสงครามภายในของแคว้นเยว่เฟิงปล่อยไว้อย่างนั้นก่อน ตอนนี้คดีที่หรงหวังก่อกบฏได้รับการจัดการเกือบเรียบร้อยดีแล้ว วันนี้หลังจากว่าราชการช่วงเช้าเสร็จ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เสด็จไปที่ตำหนักชิงอวิ๋น"ข้าไม่ได้เจอหวานหว่านนานแล้ว" ฮ่องเต้ต้าฉู่กล่าวด้วยอารมณ์ปลงๆพระสนมเฉินกุ้ยเฟยกลับยิ้มตอบเขาว่า "ในบรรดาองค์หญิงทั้งหมด หวานหว่านได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้มากที่สุดแล้ว"[ช่วงนี้เสด็จพ่อคงเหนื่อยแย่! ตอนนี้ก็จัดการเรื่องอ๋องหรงเสร็จแล้ว เรื่องเสนาบดีชุยก็สืบรู้แล้ว ตอนนี้ราชสำนักก็สะอาดสดใจขึ้นเยอะ ][แต่ในหัวข้อนี้ไม่มีในหนังสือนิทาน หรือว่าเป็นเพราะข้าและท่านแม่รอดชีวิตจึงเป็นตัวแปรให้มีการเปลี่ยนแปลงมากมายขนาดนี้?]ในใจของฮ่องเต้ต้าฉู่และพระสนมเฉินกุ้ยเฟยต่างคิดว่า ใช่ เป็นเพราะเจ้าฮ่องเต้ต้าฉู่เผลอกล่าวถึงเรื่องในราชสำนักต่อหน้าลู่ซิงหว่านอีกแล้วตอนนี้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเองก็ชินแล้ว จึงไม่พูดอะไรอีกแล้ว เพียงแต่รับฟังอย่างเงียบๆ"แคว้นเยว่เฟิงเกิดเรื่องน่าสนใจเรื่องหนึ่ง" ฮ่องเต้ต้าฉู่เล่าเรื่องความวุ่นวายภายในของแคว้นเยว่เฟิงให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยฟังพระสนมเฉินกุ้ยเฟยได้ฟังแล้วก็อดไม่ได้ที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0039

    การประชุมราชสำนักในเช้าวันต่อมา ย่อมต้องตกลงกันว่าจะจัดการกับเหอเหลียนเหรินซินและเหอเหลียนจูลี่อย่างไรและแน่นอนมีเสนาบดีกลุ่มหนึ่งที่รู้สึกว่าแผนการที่เหอเหลียนเหิงซินเสนอมานั้นเยี่ยมยอด ประหารเหอแหลียนจูลี่เพื่อแสดงบารมีของแคว้นต้าฉู่ และเพื่อรับประกันว่าแคว้นเยว่เฟิงจะยอมจำนนอยู่ใต้แคว้นต้าฉู่ตลอดไป ให้เก็บอดีตรัชทายาทเหอเหลียนเหรินซินไว้เป็นเชลยในแคว้นต้าฉู่เพื่อยึดต่อรองกับเหอเหลียนเหิงซินส่วนอีกกลุ่มหนึ่งกลับเห็นว่า เหอเหลียนเหิงซินนั้นโหดร้ายมาก ตอนนี้เพียงแต่แกล้งจงรักภักดีอย่างจอมปลอมเท่านั้น ที่เขาเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวก็เพื่อต้องการให้แคว้นต้าฉู่จัดการเหอเหลียนจูลี่และเหอเหลียนเหรินซินแทนเขา เขาประหารอดีตไทเฮาแม่ผู้ให้กำเนิดของสองคนนี้ เขาก็กลัวว่าถ้าสองคนนี้กลับไปจะก่อให้เกิดกระแสได้สู้ส่งสองคนนี้กลับไปที่แคว้นเยว่เฟิงและปล่อยให้พวกเขากัดกันเองดีกว่าหลังจากฟังเสียงความคิดของลู่ซิงหว่านแล้ว แน่นอนว่าฮ่องเต้ต้าฉู่จะไม่เห็นด้วยกับแผนแรกแน่นอนแต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือแผนการที่สองถูกเสนอโดยองค์รัชทายาทตอนนี้องค์รัชทายาทมีอุปนิสัยที่กษัตริย์พึงมีมากขึ้นเรื่อยๆ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0040

    เมื่อนึกถึงสิ่งที่สัญญากับพระสนมเฉินกุ้ยเฟยไว้ก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงให้หัวหน้าฝ่ายพิธีการจัดงานขี้ม้าตีคลีอย่างจริงจังเดิมทีไทเฮาไม่อยากเข้าร่วม แต่ก็แพ้ลูกตื้อพระสนมเฉินกุ้ยเฟยที่ไปเชิญหลายต่อหลายครั้ง สุดท้ายจึงตกลงความตั้งใจของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยก็คือให้ไทเฮาเข้าร่วมงานที่คึกคัก เพื่อเอื้อต่อการฟื้นตัวของร่างกายให้ดีขึ้นแต่ว่าพระสนมหนิงเฟยไม่ใช่คนที่ชอบกีฬาขี้ม้าตีคลีและไม่ชอบงานที่คึกคักครื้นเครงด้วย นางบอกว่าสู้อยู่อ่านตำราแพทย์ในวังสักสองสามเล่มจะดีกว่าดังนั้นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงไม่ได้บังคับ เพียงแต่กำชับให้นางกำนัลดูแลพระสนมหนิงเฟยให้ดีเท่านั้นงานขี้ม้าตีคลีครั้งนี้ ฝ่ายพิธีการได้เลือกให้สนามขี้ม้าตีคลีส่วนพระองค์ แน่นอนว่าได้รับอนุญาติจากฮ่องเต้ต้าฉู่แล้ว และได้เชิญบรรดาครอบครัวของขุนนางตั้งแต่ระดับสามขึ้นไปมาเข้าร่วมเพราะกลัวว่าทุกคนจะรู้สึกเบื่อ ในงานขี้ม้าตีคลีจึงไม่เพียงแต่จัดให้มีมีการแข่งขันขี้ม้าตีคลีเท่านั้น แต่ยังมีงานประชันโคลงกลอนอีกด้วย และในงานก็ไม่แยกชายหญิงเป็นอันคึกคักมากทีเดียวเมื่อคณะของไทเฮามาถึง เป็นธรรมดาว่าเหล่าบบรรดาขุนนางต่างๆ และครอบคร

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0041

    [ทําไมข้าถึงรู้ชัดเจนขนาดนี้น่ะหรือ? เพราะข้าอ่านหนังสือนิทานมาแล้ว มุมมองของพระเจ้าไงล่ะ!][แล้วเหออวิ๋นเหยาก็มักจะรังแกเหออวี่เหยาเสมอ ตอนนี้ไม่ต้องดูและรู้ว่านางกําลังร่วมมือกับพี่ชายของนางรังแกเหออวี่เหยาอยู่อย่างแน่นอน][ส่วนคุณชายตระกูลหรงนั้น แน่นอนเขามีความรักอย่างลึกซึ้งต่อคุณหนูใหญ่ตระกูลเหอ][เหออวี่เหยาเป็นเพื่อนสนิทของนางเอก และก็คุ้นเคยกันดีกับพี่ชายของนางตามธรรมดา คุณชายตระกูลหรงเดิมเห็นว่านางไม่มีแม่เลยสงสารนาง ทำไปทำมาก็หลงรักนางเข้า][ตระกูลที่ดีเช่นตระกูลหรง ภรรยาใหม่ของใต้เท้าเหอก็อยากให้ลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองได้แต่งเข้า เหมือนว่าเหออวิ๋นเหยาก็ชอบคุณชายหรงมากด้วย][ต่อจากนั้นข้าก็จําไม่ค่อยได้แล้ว แต่ยังไงเหออวี่เหยาก็ได้แต่งงานกับคุณชายหรง แล้วสองคนก็เคียงคู่กันไปตลอดชีวิต ทำเอาทุกคนต่างพากันอิจฉา]ลู่ซิงหว่านพึมพำในใจไปเรื่อย และก็ค่อยๆ ลืมตาไม่ขึ้น คอพับและหลับไปทับตัวพระสนมเฉินกุ้ยเฟยที่อยู่ข้างๆทำให้เอาไทเฮาและคนอื่นหัวเราะกันทั่วพระสนมเฉินกุ้ยเฟยคิดในใจว่า ลูกสาวของข้านี่ดีจริงๆ เล่าเรื่องให้แม่ฟังยังรู้ว่ามีบทนำบทสรุปพูดจบแล้วก็มองไปที่คนในสนาม ยิ่ง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0042

    ชายในชุดธรรมดาคนนี้ เป็นลูกชายคนโตของกวงฉินโหว กวนหลางสือ ตอนนี้มีตําแหน่งเป็นจางวางกรมหรมสอบสวนเรื่องนี้จะว่าไปแล้ว ก็เป็นเรื่องของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยตั้งแต่สมัยวัยสาวแล้วซ่งชิงเหยียนเกิดในจวนติ้งกั๋วโหว ในเวลานั้นพี่สาวของนางได้แต่งงานกับฮ่องเต้ต้าฉู่ซึ่งตอนนั้นยังเป็นองค์รัชทายาทอยู่ แน่นอนว่านี่เป็นสถานะที่ดีที่สุดในเมืองหลวงแล้วซ่งชิงเหยียนกับลูกชายคนโตของกว่างฉินโหวโตมาด้วยกันเป็นคู่หมายกันมาตั้งแต่เด็ก ชาวเมืองหลวงต่างก็รู้กันดีแต่ในเวลานั้นกว่างฉินโหวไม่มีตําแหน่งขุนนางแล้ว ดังนั้นแล้วจะว่าไปก็ไม่เหมาะสมกับตระกูลติ้งกั๋วโหวเท่าไหร่ แต่ครอบครัวติ้งกั๋วโหวกลับไม่ได้ใส่ใจเท่าไรนัก ทั้งสองครอบครัวก็เข้ากันได้ดีมากซ่งชิงเหยียนตามพ่อและพี่ชายไปสนามรบตั้งแต่เล็ก ตอนนั้นเพราะไปออกรบอยู่ข้างนอกหลายปี เลยทำให้เรื่องความรักของทั้งสองต้องล่าช้าพอกลับเมืองหลวงซ่งชิงเหยียนอายุ 20 ปีแล้วตอนนั้นกวนหลางสือก็อายุ 23 ปีแล้วแม้ว่าจะอายุจะไม่น้อยแล้ว แต่นางก็ยังปฏิเสธที่เชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลอื่น และเฝ้ารอให้ซ่งชิงเหยียนกลับมาเมืองหลวงเพื่อจะได้แต่งงานกันเพียงแต่ในปีนั้นซ่งชิงหย่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0043

    พูดจบก็ไม่รอให้กวนหลางสือตอบ แต่พาสาวใช้ขึ้นไปบนที่นั่งผู้ชมที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟยอยู่เลยตอนนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ไล่คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปหมดแล้ว เหลือไว้เพียงคนรับใช้ที่ใกล้ชิดไม่กี่คน จิ่นซินกําลังประคบยาให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยมีคนส่งสารมาจากข้างล่างว่า แม่นางต้วนจากจวนจางวางกรมกรมสอบสวนมาขอพบพระสนมเฉินกุ้ยเฟยแม้ว่าพระสนมเฉินกุ้ยเฟยจะประหลาดใจในใจ นางก็ไม่รู้จักจางวางกรมกรมสอบสวนและไม่เคยเจอแม่นางต้วนที่ไหนด้วย แต่ก็ยังเชิญให้เข้ามาตามมารยาทแม่นางต้วนทำความเคารพฮ่องเต้ต้าฉู่และพระสนมเฉินกุ้ยเฟยเสร็จแล้วก็เอ่ยปากว่า "สามีของข้าน้อยคือจางวางกรมกรมสอบสวนกวนหลางสือ ข้าน้อยพื้นเพเป็นคนหยุนโจว เห็นว่าพระสนมได้รับบาดเจ็บจึงนำยาสมานแผลมาถวายเพคะ"แวบแรกที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟยฟังชื่อกวนหลางสือ นางก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่าต่อมาจะรู้ว่าเหตุการณ์ในตอนนั้นเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด แต่ชีวิตมันก็กลับย้อนไปไม่ได้อีกแล้วตั้งแต่นั้นมานางก็ไม่ค่อยสืบข่าวเกี่ยวกับตระกูลกว่างฉินโหวแล้วจึงไม่รู้เลยว่าตอนนี้กวนหลางสือได้เป็นจางวางกรมกรมสอบสวนแล้วแต่แค่ไม่กี่อึดใจนางก็ได้สติกลับมาและตอบด้วยรอยยิ้

บทล่าสุด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0619

    คิดในใจ ลู่ซิงหว่านจึงใช้ทั้งมือและเท้าเดินกลับไปหาหานซีเยว่อีกครั้ง แล้วประคองโต๊ะเล็กให้ลุกขึ้นตอนนี้หานซีเยว่เปิดกล่องนั้นแล้ว เป็นกําไลหยกที่โปร่งใสซ่งชิงเหยียนถึงยิ้มแล้วพูดต่อ “ไม่ถือว่าเป็นกําไลที่ดีอะไรหรอก แต่เป็นของฮองเฮาองค์ก่อนทิ้งเอาไว้”ลู่ซิงหว่านเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามือของหานซีเยว่ที่ถือกําไลนั้นถึงกับสั่นนางวางกําไลนั้นกลับไปอย่างรวดเร็ว แล้วผลักไปตรงหน้าซ่งชิงเหยียน “พระสนมหวงกุ้ยเฟยเพคะ หม่อมฉันไม่กล้ารับไว้จริงๆ”ซ่งชิงเหยียนกลับยิ้มพลางยืนขึ้น หยิบกําไลหยกนั้นไว้ในมือ เดินไปตรงหน้าหานซีเยว่ แล้วสวมแทนนาง “การแต่งงานของเจ้ากับองค์รัชทายาท พวกข้าพอใจมาก ฮองเฮาองค์ก่อนก็ต้องพอใจมากเช่นกัน”ตอนนี้เมื่อซ่งชิงเหยียนพูดถึงซ่งชิงหย่าอีกครั้ง นางก็รู้สึกสงบมากขึ้นกว่าเดิม“กําไลวงนี้เป็นของฮองเฮาองค์ก่อนทิ้งเอาไว้ บอกว่าจะมอบให้ว่าที่ลูกสะใภ้ “น่าเสียดายที่นางเองไม่มีโอกาสได้มอบมันให้กับเจ้าด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงต้องให้น้องสาวอย่างข้าทําแทน”“เดิมทีจะมอบให้เจ้าในพิธีปักปิ่นของเจ้า แต่วันที่เจ้าเข้าพิธีปักปิ่นนั้น ข้าเกรงว่าจะมีธุระไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้ ดังนั้นจึ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0618

    หลังจากได้ยินคําพูดของซ่งชิงเหยียน ฉยงหัวก็เหม่อลอยไปชั่วขณะ“จะได้หรือ?” คําพูดของฉยงหัวแฝงความหมายหยั่งเชิงอยู่บ้าง นางย่อมยินยอมไปหลายวันมานี้นางก็คิดได้แล้ว ดีชั่วตอนนี้ตนเองสูญเสียพลังจิตวิญญาณไปแล้ว แทนที่จะมัวยึดติดกับการตามหาหวานหว่าน สู้สงบจิตสงบใจ เสพสุขกับชีวิตในตอนนี้จะดีกว่าบางทีหลังจากที่อาจารย์ของหวานหว่านออกจากการเก็บตัวแล้ว เห็นว่าตัวเองก็ไม่อยู่แล้ว ย่อมมาช่วยเองอยู่แล้ว“แน่นอน ข้าจะไปถามความหมายของฝ่าบาทเดี๋ยวนี้”“คิดว่าฝ่าบาทคงไม่ปฏิเสธแน่ ฝีมือการรักษาของแม่นางฉยงหัวยอดเยี่ยมมาก หากได้แม่นางฉยงหัวมาอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ด้วย นั่นคงจะดีไม่น้อย”แน่นอนว่านี่เป็นเพียงข้ออ้างของซ่งชิงเหยียนเท่านั้น ที่นางอยากพาฉยงหัวออกไปก็เพราะหวานหว่านหวานหว่านชอบพี่ฉยงหัวขนาดนี้ ย่อมต้องอยากอยู่กับนางตลอดไปอยู่แล้วจิ่นซินและจิ่นอวี้เก็บข้าวของเกือบทั้งคืน พวกนางเอาเข้าไป ซ่งชิงเหยียนเอาออกมา แบบนี้ไปๆ มาๆ สุดท้ายก็ทิ้งกล่องใหญ่สองใบไว้ซ่งชิงเหยียนประนีประนอมแล้วนางพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ให้คนขับรถม้าของฝ่าบาทเหนื่อยหน่อยละกัน!ก่อนออกเดินทาง นางยังมีเรื่องสําคั

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0617

    ต้องบอกว่าของข้างนอกอร่อยกว่าของในวังจริงๆในนิทานล้วนบอกว่าชีวิตของพระสนมหวงกุ้ยเฟยในวังนั้นงดงามและสบายแค่ไหน แต่ลู่ซิงหว่านกลับรู้สึกว่า ไม่ได้สบายอยู่ข้างนอก[ถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกก็คงดีไม่น้อย ยังไงก็มีเงิน อยากซื้ออะไรก็ซื้อเลย][อยากกินอะไรก็ซื้อได้เลย สามารถกินอาหารที่พ่อครัวทําได้มากมาย พ่อครัวทำขนมในวังเหล่านี้ ข้ากินจนเบื่อแล้ว][เสด็จย่ากินมาตั้งหลายปี ยังกินไม่เบื่ออีกหรือ?]ซ่งชิงเหยียนบ่นในใจว่า เบื่อสิ แน่นอนว่านางกินจนเบื่อแล้ว ขนมที่องค์หญิงใหญ่นํามาจากหอฝูหม่านครั้งที่แล้ว ไทเฮาพูดตรงๆ เลยว่าอร่อยตอนนี้ซิงรั่วเกือบจะส่งคนมาส่งที่วังทุกสองวันก็ถือว่ามีใจแล้วจริงๆ เมื่อซ่งชิงเหยียนกําลังยุ่งอยู่ ฉยงหัวก็มาหานางมองท่าทางของจิ่นซินและจิ่นอวี้ที่กําลังยุ่งอยู่ อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง"พระสนมหวงกุ้ยเฟยนี่คือ..."คําพูดที่เหลือฉยงหัวไม่กล้าพูดออกมา ถูกโจรปล้นหรือ?“พี่ฉยงหัว!” ลู่ซิงหว่านพูดพลางพลิกตัวลงจากเตียง แล้ววิ่งไปหาฉยงหัวซ่งชิงเหยียนมองท่าทางคล่องแคล่วของลู่ซิงหว่านแล้วก็ตกตะลึงนางรู้ว่าหวานหว่านชอบพี่สาวฉยงหัวคนนี้มาก แต่เตียงนุ่มที่สูงขนาดนี้ น

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0616

    คิดถึงตรงนี้ องค์หญิงหกก็เงยหน้ามองไปยังทิศทางของฮ่องเต้ต้าฉู่อีกครั้ง ในใจเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นณ ตําหนักข้างของตําหนักเหวินอิงในเวลานี้ สนมเยว่กุ้ยเหรินก็กําลังพบท่านแม่ของตนเช่นกัน“เดิมคิดว่าเจ้าเป็นเพียงกุ้ยเหรินเล็กๆ ข้าไม่มีโอกาสเข้าวัง” ตอนนี้ฮูหยินเจิ้ง แม่ของสนมเยว่กุ้ยเหรินกําลังอยู่ในตําหนักของสนมเยว่กุ้ยเหริน มองสิ่งของในวังของนางไปๆมาๆ สัมผัสไปๆมาๆ ในใจรู้สึกน่าทึ่งเป็นมาก“ของในวังนี้ดีจริงๆ ทุกชิ้นประณีตขนาดนี้”เพราะรู้พฤติกรรมของแม่ตัวเอง สนมเยว่กุ้ยเหรินจึงไล่สาวใช้ข้างกายออกไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้นางแค่นั่งอยู่บนตั่งนุ่ม มองใบหน้าละโมบของแม่ตัวเองด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เดิมทีนางก็ไม่อยากเจอแม่ของตัวเองอยู่แล้วแม่ของคนอื่นๆ เข้าวังด้วยความห่วงใยและสงสารลูกสาวของพวกเขาแล้วแม่ของตัวเองล่ะเอาแต่โทษตัวเองที่ไร้ประโยชน์ โทษตัวเองที่แย่งความรักไม่เป็น โทษตัวเองที่ให้กําเนิดลูกไม่ได้เมื่อสนมเยว่กุ้ยเหรินคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินเจิ้งพลันหันหน้ามา เดินมาข้างกายนางอย่างลึกลับ ล้วงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อของตัวเอง แล้วยัดใส่มือสนมเยว่กุ้ยเหริน“เจ้าเป็นคนที่ไม่เอาไห

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0615

    เดิมคิดว่าเสด็จพ่อจะให้รางวัลตัวเอง แต่การไปเรียนหนังสือจะถือเป็นรางวัลอะไรได้เมื่อก่อนนางเคยได้ยินลู่ซิงยุ่นบ่นว่าอาจารย์คนนี้เข้มงวดขนาดไหน ยังต้องทําการบ้านอีก นั่นไม่แตกต่างจากการคัดลอกพระคัมภีร์ในตําหนักเหยียนหัวของนางหรอกหรือนางไม่อยากไปหรอก!เมื่อเห็นท่าทางของลู่ซิงหุย ลู่ซิงหว่านก็อดหัวข้าะคิกคักไม่ได้[เสด็จพ่อ ดูเหมือนว่าลูกสาวของท่านดูเหมือนจะไม่ชอบเรียนหนังสือนะ][แต่ก็ใช่ เด็กบ้านไหนชอบเรียนหนังสือกัน เดิมคิดว่าเสด็จพ่อจะให้รางวัลอะไรแก่นาง การเรียนหนังสือนี้นับเป็นรางวัลอะไรได้]ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ไม่สนใจ ในฐานะที่เป็นองค์หญิง ไม่เรียนหนังสือย่อมไม่ได้อยู่แล้วองค์หญิงทุกคนล้วนถูกส่งไปที่ห้องเรียนเมื่ออายุหกขวบ แม้ว่าจะแตกต่างจากเหล่าองค์ชาย แต่ก็มีอาจารย์สอนพิเศษฮ่องเต้ต้าฉู่หันไปมองพระสนมเหวินเฟยอีกครั้ง “ตอนนี้ซิงเหยียนอยู่ข้างกายเจ้า รู้สึกสบายใจกว่าเมื่อก่อนมากนะ”“เพียงแต่ตอนนี้ต้องพาเด็กตัวเล็กๆ แบบนี้มาด้วย ลําบากเจ้าแล้วจริงๆ”เด็กๆ มีความสุขหรือไม่นั้น มักจะมองปราดเดียวก็รู้แล้วลู่ซิงเหยียนเป็นเพียงเด็กอายุสามขวบเท่านั้น เมื่อก่อนสนมซูผินดูแลเองไม่มาก

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0614

    ครั้งนี้ลู่ซิงหว่านเดาผิดแล้วที่ลู่ซิงหุยพูดประจบด้วยเป็รเรื่องจริง นางกลัวที่จะไปคัดลอกหนังสือธรรมมะที่ตําหนักเหยียนหัวแล้วจริงๆ จึงไม่กล้าทะเลาะกับพี่น้องของตนอย่างโจ่งแจ้งอีกแล้วเพราะพอเสด็จพ่อทรงกริ้วขึ้นมา มันน่ากลัวมากเลยเพราะว่าเมื่อก่อนสนมซูผินปฏิบัติต่อองค์หญิงเจ็ดเพียงแค่เป็นของเล่นเท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจนางมากนักพูดตามคําพูดขององค์หญิงรอง เสด็จแม่ของพวกนางเลี้ยงดูพวกนางสองพี่น้อง ก็ไม่มีอะไรมากไปแค่ให้มีกินมีใส่ ขอเพียงไม่อดตายก็พอแล้วดังนั้นหลังจากที่องค์หญิงเจ็ดมาถึงข้างกายของพระสนมเหวินเฟยแล้ว จึงสามารถไปเที่ยวที่อุทยานหลวงได้บ่อยๆ และแน่นอนว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นลู่ซิงหุยนางชี้ไปที่ลู่ซิงและพึมพําว่า"พี่สาวคนสวย"[ตาบอดตั้งแต่อายุยังน้อย][ฮึ่ม ข้าจะไม่เล่นกับเจ้าอีกแล้ว เจ้าเด็กขี้ประจบ]ประโยคนี้ขององค์หญิงเจ็ดทําให้ลู่ซิงหุยพอใจจริงๆ ลู่ซิงหุยจึงย่อตัวลงทันทีและเข้าไปใกล้หน้าองค์หญิงเจ็ด “ซิงเหยียนเป็นเด็กดี”เป็นเด็กดีมากเมื่อเทียบกับไอ้เด็กเหลือขอลู่ซิงหว่านนั่นต้องบอกว่าวันนี้ลู่ซิงหุยโชคดีมาก ในขณะที่นางเล่นกับลู่ซิงเหยียน ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เดินผ่านส

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0613

    [ว้าว ชิงช้า]ทันทีที่ลู่ซิงหว่านเห็นชิงช้า ดวงตาของนางก็เปล่งประกาย นางวิ่งไปที่ชิงช้าทันทีขณะที่กําลังจะเดินไปข้างชิงช้านั้น กลับถูกเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าขวางทางไว้ก็คือองค์หญิงเจ็ดลู่ซิงเหยียนนั่นเองลู่ซิงเหยียนไม่ถือว่าสูงนักไม่รู้ว่านางเตี้ยเกินไปหรือลู่ซิงหว่านสูงเกินไป เด็กสองคนที่อายุห่างกันแค่สองสามขวบกลับสูงห่างกันแค่ครึ่งหัวเท่านั้นในเวลานี้ ลู่ซิงเหยียนมองลู่ซิงหว่านที่น่ารักตรงหน้าแล้ว ในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้วก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว กอดหัวนางไว้ แล้วจุ๊บแก้มนางทีหนึ่งลู่ซิงหว่านถอยหลังไปสองก้าวแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้นจิ่นอวี้กลั้นยิ้มแล้วก้าวเข้าไปประคององค์หญิงของตนให้ลุกขึ้น ส่วนพระสนมเหวินเฟยและสาวใช้ที่ปรนนิบัติอยู่ทางนั้นก็รีบเดินเข้ามา“หวานหว่านไม่เป็นไรใช่ไหม?” พระสนมเหวินเฟยถามด้วยความเป็นห่วงหลังจากองค์หญิงเจ็ดเห็นพระสนมเหวินเฟยแล้ว ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มกว้าง “เสด็จแม่ น้องหญิงหอมจังเลยเพคะ”ลู่ซิงหว่านมองคนตรงหน้าอย่างหมดคําพูด ที่จริงในใจรู้สึกรังเกียจมาก[คนดีๆ ที่ไหนจู่ๆ ก็มาหอมคนอื่นกลางทางแบบนี้][คนไม่รู้ว่าสงสัยคงนึกว่าเป็นเด็

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0612

    แต่สาวใช้ของนางกลับไม่กล้าส่งเสียงใดๆ เพียงแค่ฟังเจ้านายของตนบ่น ส่วนนางเองก็เก็บเศษซากที่ตกแตกอย่างเชื่อฟังอาจเป็นเพราะฝ่าบาททรงเมตตา เพราะพระสนมหวงกุ้ยเฟยและสนมเยว่กุ้ยเหรินต้องเดินทางไกล ดังนั้นก่อนออกเดินทางจึงอนุญาติให้พบครอบครัวได้เป็นกรณีพิเศษทางด้านจวนติ้งกั๋วโหว แน่นอนว่าฮูหยินติ้งกั๋วโหวนางเซียวมาด้วยตัวเอง และครั้งนี้ก็เช่นกัน ข้างกายนางมีคนมาด้วยคนหนึ่งแต่สิ่งที่ซ่งชิงเหยียนคาดไม่ถึงก็คือ คนนี้ไม่ใช่พี่สะใภ้ของนาง แต่เป็นอาสะใภ้รองของนาง กัวหยูหลังจากทั้งสองทําความเคารพซ่งชิงเหยียนด้วยความเคารพแล้วซ่งชิงเหยียนก็ให้ทั้งสองนั่งลงนางเซียวนั้นนั่งลงไปแล้วแต่กัวหยูกลับเดินไปข้างหน้าและคุกเข่าลงด้วยเสียงดัง"ตุบ"ทําให้ซ่งชิงเหยียนตกใจ แม้ว่านางจะไม่ชอบอาสะใภ้คนนี้ แต่พูดไปแล้ว หลายปีที่ผ่านมา นางเองก็ไม่ง่ายเลยเพราะเข้าใจความยากลําบากของนาง ดังนั้นนางจึงไม่ได้ถึงขั้นรังเกียจอะไรดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นและช่วยพยุงนางขึ้น แต่กัวหยูกลับยืนกรานที่จะคุกเข่าอยู่ที่นั่นและพูดว่า "หม่อมฉันขออภัยต่อพระสนมหวงกุ้ยเฟยและองค์รัชทายาทแทนพี่ชายของหม่อมฉันด้วยเพคะ"หลายวันก่อนได้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0611

    ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมมีเรื่องจะกําชับฮองเฮาเช่นกัน “หลังจากข้าจากไปแล้ว งานแต่งงานของจิ่นเหยาต้องพึ่งพาเจ้าให้มาก หากต้องการความช่วยเหลือ เจ้าก็ไปหาหลานเฟยให้ช่วยเจ้าได้เลย ไม่จําเป็นต้องแบกรับไว้คนเดียว”“เรื่องอื่นๆ ในวัง เจ้าก็สามารถปรึกษากับเสด็จแม่หรือหลานเฟยได้”“นางสนมคนอื่นๆ ในวังที่ตั้งครรภ์ก็ต้องรบกวนเจ้าดูแลให้มากๆ ด้วย”พูดจบฮ่องเต้ต้าฉู่ก็หันไปมองไทเฮาอีกครั้ง “สําหรับเรื่องการคัดตัว เสด็จแม่กับฮองเฮาก็จัดการกันเองเถอะ ดูหญิงคัดตัวว์ล่วงหน้าบ้างก็ดี”เพื่อปลอบขวัญฮองเฮา คืนนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงไปเสวยพระกระยาหารที่ตําหนักจิ่นซิ่ว และค้างคืนที่ตําหนักจิ่นซิ่วหลังจากจบการร่วมรัก เสิ่นหนิงก็พลิกตัวลงจากเตียง เยว่หรานรีบเข้ามาทำความสะอาดให้พระมเหสีของตนนายบ่าวมองหน้ากันโดยปราศจากคำพูดใดๆเสิ่นหนิงมองผ่านกระจกทองแดงไปยังฮ่องเต้ต้าฉู่ที่กําลังหลับสนิทอยู่บนเตียง ให้เยว่หรานแนบหูมา พูดด้วยน้ำเสียงที่ที่ได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้น “บอกเขาว่า แผนการทั้งหมดหยุดชั่วคราว ข้ามีแผนการอื่น”ในเมื่อฮ่องเต้ต้าฉู่จะเสด็จลงใต้ เช่นนั้นก็สามารถวางแผนอื่นได้แล้วเรื่องที่ฮ่องเต้ต้าฉู่จะพาพ

DMCA.com Protection Status