Share

บทที่ 0016

Author: อันอี่หราน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ฮ่องเต้ต้าฉู่ตกใจเป็นอย่างมาก

เขาเคยสงสัยหรงอ๋อง เคยสงสัยเสนาบดีชุย หรือแม้กระทั่งครอบครัวของสนมโหรวกุ้ยเหรินที่ถูกเนรเทศก็เคยต้องสงสัย แต่ไม่เคยนึกถึงพระสนมชุยเฟยเลย

สมัยที่ตนยังเป็นรัชทายาทอยู่ ชุยอวี่ฉีก็แต่งมาเป็นพระชายารองแล้ว ความสัมพันธ์ในวัยเยาว์ล้ำค่าที่สุด เขาจึงมอบความรักให้แก่ชุยอวี่ฉีอย่างเต็มเปี่ยมมาโดยตลอด

และในสายตาฮ่องเต้ต้าฉู่ นางก็เป็นสตรีที่อ่อนโยนและใสซื่อ ทั้งยังให้กำเนิดองค์ชายถึงสองคน และก่อนหน้านี้ดเขาเองก็หมายมั่นจะให้นางครองตำแหน่งฮองเฮาคนต่อไป

พักก่อนต่อให้เรื่องของเสนาบดีชุยถูกเปิดโปง เขาก็ไม่ได้สงสัยนางเลย แต่ไม่คิดว่านางจะโหดร้ายถึงเพียงนี้

และเมื่อนางทำผิดจริง ช้าเร็วก็ต้องถูกเปิดเผย เพื่อความมั่นคงของราชสำนัก อย่างไรก็ต้องจัดการ

“เมิ่งฉวนเต๋อ สั่งการไปยังตำหนักฉางชิว ชุยเฟยทำความผิด ให้ลดขั้นเป็นตาอิ้ง ย้ายไปอยู่ตำหนักผู่เหวินแทน” ฮ่องเต้ต้าฉู่ครุ่นคิดอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดก็ได้ข้อสรุป

เมิ่งฉวนเต๋อได้รับบัญชาก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ด้วยไม่คิดว่าฮ่องเต้จะทรงเฉียบขาดถึงปานนี้ ตำหนักผู่เหวิน สภาพใกล้เคียงกับตำหนักเย็น ฮ่องเต้ต้าฉู่โปรดปรานพระสนมเต๋อเฟยมาโดยตลอด
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (2)
goodnovel comment avatar
NecroDagger
ซวยไปแล้ว 2 คนติดๆ กันเลย สนุกมาก
goodnovel comment avatar
ณัฐ ณัฐธยาน์
ทำไมต้องปลดล็อก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0017

    ฮ่องเต้ต้าฉู่พลิกไปได้เพียงแค่สองหน้าก็เห็นว่าภายในนั้นเรื่องหนึ่งอยู่ ไม่นานมานี้ตอนที่พระสนมเฉินเฟยคลอดบุตรก็เป็นชุยเหวินที่ซื้อตัวสนมโหรวกุ้ยเหริน และใช้ครอบครัวของนางมาข่มขู่ให้สนมโหรวกุ้ยเหรินออกหน้าซื้อตัวแม่นมทำคลอดผู้นั้นเห็นดังนี้เขาก็โกรธเสียจนปาสาส์นกราบทูลขอราชการนั้นออกไป “เขากลับรู้ว่าต้องทำให้บุตรสาวของตนเองไร้มลทิน”เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ต้าฉู่กริ้วแล้ว คนของกรมสอบสวนก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรต่อ“จับหนิงซวี่ได้หรือยัง?” ภายในใจของฮ่องเต้ต้าฉู่รู้สึกกลัดกลุ้มเพราะยังนึกไม่ออกว่าจะจัดการอย่างไรดี“ยามนี้ได้นำตัวคนไปส่งถึงศาลต้าหลี่แล้วพ่ะย่ะค่ะ โดยได้จัดคนดูแลเป็นเฉพาะการ และไม่ได้ใช้วิธีทรมานแต่อย่างใด เพียงแค่ป้องกันไม่ให้เขาฆ่าตัวตายเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ” แต่ไหนแต่ไรใต้เท้าหรงก็จัดการเรื่องได้อย่างน่าเชื่อถืออยู่แล้วฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินก็พยักหน้า “พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ”ความผิดที่ชุยเหวินกระทำแม้จะเป็นสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย แต่ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับนึกถึงสิ่งที่หลายปีมานี้เขาทุ่มเททำเพื่อแคว้นต้าฉู่ ชั่วขณะก็ไม่รู้ว่าควรจะลงโทษอย่างไรดีฮ่องเต้ต้าฉู่ฟังเมิ่งฉวนเต๋อเอ่ยถึงปฏิกิริยาขอ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0018

    เมื่อฮ่องเต้ต้าฉู่กลับมายังห้องหนังสือส่วนพระองค์ ก็ได้ให้เมิ่งฉวนเต๋อไปเรียกคนของกรมสอบสวนมา“สืบเรื่องเงินบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งของปีนี้ที่จัดสรรไปว่าภายในมีผู้ทุจริตหรือไม่” ฮ่องเต้ต้าฉู่พูดออกมาอย่างง่ายดายด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความลังเลใต้เท้าหรง และคนอื่น ๆ ย่อมเข้าใจดีว่าที่ฮ่องเต้ต้าฉู่เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาในยามนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเสนาบดีชุย ในขณะนั้นจึงได้สืบไปในทิศทางนี้ทันทีเมื่อชัดเจนเรื่องทิศทางแล้ว บวกกับการทำงานที่รวดเร็ว และเฉียบขาดของกรมสอบสวน ไม่ถึงครึ่งวัน สาส์นฉบับหนึ่งก็ถูกเอามาวางไว้ที่โต๊ะหนังสือของฮ่องเต้เงินบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยหนึ่งแสนตำลึง ชุยเหวินเพียงแค่ผู้เดียวก็ทุจริตไปแล้วห้าหมื่นตำลึงยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงที่จัดสรรไปแต่ละรอบว่ามีหลงเหลือมาถึงมือของราษฎรจริง ๆ อยู่เท่าไหร่?เมื่อเห็นดังนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ไม่มีความลังเลอีกต่อไป “เมิ่งฉวนเต๋อ ไปเรียกเว่ยเฉิงมา”ในขณะนั้นก็ได้รับสั่งให้คนของทหารราชองครักษ์ และกรมสอบสวนไปตรวจค้น รวมถึงยึดทรัพย์ที่บ้านตระกูลชุย คนที่เกี่ยวข้องให้นำไปขังไว้ที่ศาลต้าหลี่เป็นการชั่วคราว ส่วนข้ารับใช้บ้างก็เน

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0019

    [ทูตของแคว้นเยว่เฟิงจะมาถึงแล้วอย่างหรือ? หรงอ๋องก็จะได้ตัดสินใจครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับรายละเอียดการกบฏกับทูตนั้นแล้ว เสด็จพ่อพระองค์รีบตื่นสิ พระองค์รีบตื่นเร็วเข้า น้องชายคนนั้นของพระองค์ไม่ใช่คนดีอะไรเลย!][ฮือ ๆ ๆ ทำไมข้าถึงได้น่าสงสารถึงเพียงนี้! เพิ่งเกิดก็โดนสนมโหรวกุ้ยเหรินลงมือสังหาร สามเดือนถูกพระสนมเต๋อเฟยลงมือ ยังไม่ถึงหนึ่งปีก็จะถูกหรงอ๋องลงมืออีกแล้วหรือเนี่ย?]พระสนมเฉินกุ้ยเฟยบย่อมรู้เรื่องที่พ่อของตนไปยังห้องทรงอักษรอยู่แล้ว แม้ว่าหวานหว่านจะเอ่ยจนดูน่ากลัว แต่คิดว่ามีการเตือนของบิดา ฝ่าบาทก็คงจะตื่นตัวอยู่ และคงไม่ถึงกับที่จะตกไปอยู่ในหลุมพรางของหรงอ๋องหรอกฮ่องเต้ต้าฉู่ทำเป็นเงียบสงบแต่กลับตบไปที่มือของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยโดยที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “แต่ไหนแต่ไรเจ้าก็เป็นคนรู้กาลเทศะอยู่สมอ”[เหอะ เด็กดีไม่มีขนมกินหรอกนะ][แต่เสด็จพ่อก็ดีกับท่านแม่ไม่เบาเลยนะ มักจะมาอยู่เป็นเพื่อนนางเสมอ][อยู่ดี ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่า หนิงอ๋องทำเรื่องใหญ่อะไรลงไปนะ จำไม่ค่อยได้แล้ว…]ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินภายในใจก็เป็นกังวลขึ้นมา หนิงอ๋องทำเรื่องอะไรที่ทำให้ตนเป็นห่วงอีก ดูท่าแล้วภาย

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0020

    เพราะพระสนมเฉินกุ้ยเฟยเข้าวังมาช้า ดังนั้นตั้งแต่ที่ฮองเฮาสิ้นพระชนม์จึงมีพระสนมเต๋อเฟยเป็นผู้จัดการดูแลเรื่องต่าง ๆ ของวังหลังทั้งหกยามนี้พระสนมเต๋อเฟยถูกลดขั้น จึงเป็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยที่เข้ามารับภาระต่อ โดยมีพระสนมหลานเฟย มารดาขององค์ชายสองคอยช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ เพราะเหตุนี้เมื่อมีคนใหม่เข้ามาในวัง จึงจะต้องมาคาราวะต่อพระสนมเฉินกุ้ยเฟยก่อนดังนั้นวันนี้ตำหนังชิงอวิ๋นจึงคึกคักเป็นพิเศษหลังจากที่สนมหนิงผิน และสนมเล่อกุ้ยเหรินคาราวะเหล่าสนมตามกฎระเบียบแล้ว พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงเอ่ยสั่งสอนตามระเบียบออกมาสั้น ๆ ไม่กี่ประโยค จากนั้นคนอื่น ๆ ถึงได้เอ่ยพูดตามกัน“สนมเล่อกุ้ยเหรินเป็นบุตรสาวของรองหัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดิน บิดาของเจ้าเป็นถึงผู้ที่ออกแรงในการดึงเสนาบดีชุยลงมา หากไม่ใช่บิดาของเจ้า และคนอื่น ๆ ที่ดึงเสนาบดีชุยลงมา วันนี้ผู้ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดก็ยังเป็นพระสนมเต๋อเฟยผู้นั้น!” ผู้ที่เอ่ยคือสนมซูผินมารดาผู้ให้กำเนิดขององค์หญิงสอง และองค์หญิงเจ็ด ในตอนที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ยังเป็นองค์รัชทายาท ข้างกายก็มีเพียงแค่อดีตฮองเฮา และคนตระกูลชุยเพียงแค่สองคนภายหลังฮ่องเต้ต้าฉู่ขึ้นค

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0021

    สนมหนิงผิน และสนมเหรินกุ้ยเหรินกล่าวขอบพระทัยพร้อมกัน จากนั้นจึงได้พากันออกไปจากตำหนักชิงอวิ๋นแต่ลู่ซิงหว่านกลับยังติดอยู่ในพะวงความคิด[แล้วสนมหนิงผินคือใครอีกเนี่ย? ในนิยายเคยมีปรากฏออกมาเหรอ? ทำไมสนมเล่อกุ้ยเหรินถึงเคยปรากฏออกมาในนิยาย แต่สนมหนิงผินกลับไม่เคยล่ะ? ]พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเห็นว่าลู่ซิงหว่านขมวดหัวคิดเล็ก ๆ แล้วก็ยังบ่นพึมพำอยู่ในใจ ด้วยกลัวว่านางจะเหนื่อยจึงได้รีบอุ้มนางขึ้นมา “หวานหว่าน แม่พาเจ้าออกไปเล่นดีไหม?”[จะได้ออกไปเล่นอีกแล้วเหรอ ? ท่านแม่เยี่ยมจังเลย!]เมื่อเห็นว่าความสนใจของหวานหว่านถูกเบี่ยงเบนไป พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงได้เอ่ยสั่ง “จิ่นอวี้ เก็บของหน่อย พวกเราจะไปเดินเล่นที่อุทยานหลวงสักหน่อย”เมื่อครุ่นคิดไปครู่หนึ่งก็นึกอะไรขึ้นได้เลยออกคำสั่งกับจิ่นซิน “จิ่นซิน ไปเชิญซื่อจื่อเผยมาหน่อย ถึงยังไงก็เป็นคำสั่งของไทเฮา”ด้วยเหตุนี้คนกลุ่มหนึ่งจึงมุ่งหน้าไปที่อุทยานหลวงด้วยกันยามบ่ายของวันนี้ วังหลังก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาหนึ่งเรื่องหลายวันก่อน สนมฟางกุ้ยเหรินได้รับการวินิจฉัยจากหมอหลวงว่าทรงตั้งครรภ์ทั้งยังมีชีพจรครรภ์ที่ไม่มั่นคง จึงได้มีพระสนมเต๋อเฟยเป

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0022

    ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินบุตรสาวมองตนเองเช่นนี้จึงได้รีบเอ่ยปาก “เจ้าไม่ต้องมาร้องไห้คร่ำครวญที่นี้ เรื่องราวยังไม่ทันได้มีบทสรุป การใส่ร้ายพระสนมกุ้ยเฟยถือเป็นโทษร้ายแรง”[เอ๊ะ นึกไม่ถึงเลยว่าเสด็จพ่อผู้นี้ของข้าจะมาเข้าใจ และมีเหตุผลเพียงนี้? ]แม้แต่พระสนมเฉินกุ้ยเฟยก็อดมองไปทีฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ได้“ฝ่าบาท” สนมฟางกุ้ยเหรินเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่เป็นเช่นนี้ ท่าทีก็ลดลงมาเป็นครึ่งแล้วจึงได้รีบคุกเข่าลงไป “ฝ่าบาท หากไม่ใช่เพราะว่านางกำนัลข้างกายของหม่อมฉันพอเข้าใจเรื่องการแพทย์อยู่บ้าง แล้วพบว่ามีชวนหนิวซีอยู่ในกากยา ชวนหนิวซีนั้นเป็นยาขับเลือดทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุด หากใช้เป็นเวลานานทารกในครรภ์ของหม่อมฉันก็คงจะรักษาเอาไว้ไม่ได้ใช่ไหมเพคะ? ”“อ้อ? ” พระสนมเฉินกุ้ยเฟยกลับเอ่ยขึ้น “ไม่สู้เรียกนางกำนัลข้างกายของเจ้ามาให้พวกเรามาสอบถามต่อหน้าเลยจะดีกว่า”สนมฟางกุ้ยเหรินยังคิดจะเอ่ยปากพูดอะไรอีก แต่กลับถูกพระสนมเฉินกุ้ยเฟยหยุดเอาไว้ก่อน “กากยานั้นล่ะ ? น้องหญิงได้นำมาด้วยหรือเปล่า? ”แต่สนมฟางกลับมองไปที่ฝ่าบาท “นางกำนัลข้างกายผู้นั้นของหม่อมฉันกำลังยืนรออยู่ที่ด้านนอกของห้องทรงอักษร กากยาก็คือสิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0023

    ลู่ชิงหว่านเหลือบมองเผยฉู่เยี่ยน[มีความรับผิดชอบสมกับเป็นคุณชายจวนอันกั๋วกง][ความรู้สึกที่มีคนคอยปกป้องนี่มันดีจัง รู้สึกปลอดภัยสุด ๆ ไปเลย!]เนื่องจากมีพลังวิญญาณสนับสนุน แม้ตอนนี้ลู่ซิงหว่านจะเพิ่งสามเดือนแต่ก็นั่งได้อย่างมั่นคงแล้วซึ่งนั่นทำให้ฮ่องเต้ต้าฉู่และพระสนมเฉินกุ้ยเฟยอดไม่ได้คิดไม่ได้ว่า “สมกับที่เป็นเซียนกลับชาติมาเกิด ไม่เหมือนผู้ใดเลยจริง ๆ”ในงานเลี้ยงตอนรับที่พระราชวัง แม้ว่าพระสนมเฉินกุ้ยเฟยจะพยายามห้ามไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่อาจกล่อมฮ่องเต้ต้าฉู่ได้สำเร็จ ขณะนี้ลู่ชิงหว่านนั่งร่วมโต๊ะเดียวกันกับฮ่องเต้ต้าฉู่โดยมีนางกำนัลคอยปรนนิบัติ ทั้งคุณหนูและฮูหยินจวนขุนนางต่าง ๆ ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์“ได้ยินเขาลือกันมานานแล้วว่าฮ่องเต้ทรงรักและเอ็นดูองค์หญิงหย่งอันมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะรักมากถึงขนาดนี้!”“ก็ใช่น่ะสิ ก็ในเมื่อองค์หญิงหย่งอันเป็นดาวนำโชคของแคว้นต้าฉู่เรานี่นา!”ลู่ซิงหว่านไม่ได้ใส่สนใจคํานินทาเหล่านี้แม้แต่น้อย เพียงแต่บ่นในใจว่า[ตามในหนังสือนิทานแล้ว งานใหญ่แบบนี้มักต้องเกิดปัญหาวุ่นวายบางอย่างขึ้น][แต่งานเลี้ยงตอนรับที่พระราชวังหนนี้เกิดขึ้น

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0024

    แต่แล้วองค์รัชทายาทแคว้นเยว่เฟิงกลับยังไม่ยอมแพ้ เขากล่าวต่อว่า “ในเมื่อข้าไม่มีวาสนากับคุณหนูหาน”เขาพูดจบก็หยุดไปครู่หนึ่ง และมองหานซีเยว่ด้วยสายตาลึกซึ้งแต่หานซีเยว่กลับไม่ได้มองเขาเลยลู่ซิงหว่านเห็นภาพนี้แล้วก็อดบ่นไม่ได้ว่า[น่าขยะแขยงจริง ๆ เลย แคว้นเยว่เฟิงเลือกคนแบบนี้มาเป็นองค์รัชทายาทได้เยี่ยงไรกัน ลามกเป็นที่สุด มีองค์รัชทายาทแบบนี้แล้วแคว้นจะยังคงอยู่ได้ยืนนานหรือ?]เมื่อได้ยินเสียงความคิดของลู่ซิงหว่านแล้วฮ่องเต้ต้าฉู่นึกขำในใจฮ่องเต้ทรงคิดในใจว่า สิ่งที่ลูกหวานหว่านพูดนั้นไม่เพียงแต่มีประโยชน์มากเท่านั้น แต่ยังไพเราะเสนาะหูเสียด้วยคุณหนูคุณชายทั้งหลายเห็นว่าฮ่องเต้ต้าฉู่ที่มักจะมีสีหน้าเคร่งขรึมน่าเกรงกลัวเสมอ คืนนี้กลับเผลอยิ้มหลายครั้งก็รู้สึกว่าช่างน่าแปลกองค์รัชทายาทแคว้นเยว่เฟิงกล่าวต่อว่า “ให้ฮ่องเต้ต้าฉู่เป็นคนตัดสินพระทัยดีกว่า ขอฝ่าบาททรงยกองค์หญิงสักพระองค์หนึ่งให้มาเป็นพระชายาองค์รัชทายาทของกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบก็ยังไม่ลืมที่จะประจบสอพลอต่ออีกหน่อย "ได้ยินมาว่าราชวงศ์ต้าฉู่มีองค์หญิงหลายพระองค์ เห็นท่าทางองค์รัชทายาทแห่งต้าฉู่สดชื่นสดใสเช่น

Latest chapter

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0619

    คิดในใจ ลู่ซิงหว่านจึงใช้ทั้งมือและเท้าเดินกลับไปหาหานซีเยว่อีกครั้ง แล้วประคองโต๊ะเล็กให้ลุกขึ้นตอนนี้หานซีเยว่เปิดกล่องนั้นแล้ว เป็นกําไลหยกที่โปร่งใสซ่งชิงเหยียนถึงยิ้มแล้วพูดต่อ “ไม่ถือว่าเป็นกําไลที่ดีอะไรหรอก แต่เป็นของฮองเฮาองค์ก่อนทิ้งเอาไว้”ลู่ซิงหว่านเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามือของหานซีเยว่ที่ถือกําไลนั้นถึงกับสั่นนางวางกําไลนั้นกลับไปอย่างรวดเร็ว แล้วผลักไปตรงหน้าซ่งชิงเหยียน “พระสนมหวงกุ้ยเฟยเพคะ หม่อมฉันไม่กล้ารับไว้จริงๆ”ซ่งชิงเหยียนกลับยิ้มพลางยืนขึ้น หยิบกําไลหยกนั้นไว้ในมือ เดินไปตรงหน้าหานซีเยว่ แล้วสวมแทนนาง “การแต่งงานของเจ้ากับองค์รัชทายาท พวกข้าพอใจมาก ฮองเฮาองค์ก่อนก็ต้องพอใจมากเช่นกัน”ตอนนี้เมื่อซ่งชิงเหยียนพูดถึงซ่งชิงหย่าอีกครั้ง นางก็รู้สึกสงบมากขึ้นกว่าเดิม“กําไลวงนี้เป็นของฮองเฮาองค์ก่อนทิ้งเอาไว้ บอกว่าจะมอบให้ว่าที่ลูกสะใภ้ “น่าเสียดายที่นางเองไม่มีโอกาสได้มอบมันให้กับเจ้าด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงต้องให้น้องสาวอย่างข้าทําแทน”“เดิมทีจะมอบให้เจ้าในพิธีปักปิ่นของเจ้า แต่วันที่เจ้าเข้าพิธีปักปิ่นนั้น ข้าเกรงว่าจะมีธุระไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้ ดังนั้นจึ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0618

    หลังจากได้ยินคําพูดของซ่งชิงเหยียน ฉยงหัวก็เหม่อลอยไปชั่วขณะ“จะได้หรือ?” คําพูดของฉยงหัวแฝงความหมายหยั่งเชิงอยู่บ้าง นางย่อมยินยอมไปหลายวันมานี้นางก็คิดได้แล้ว ดีชั่วตอนนี้ตนเองสูญเสียพลังจิตวิญญาณไปแล้ว แทนที่จะมัวยึดติดกับการตามหาหวานหว่าน สู้สงบจิตสงบใจ เสพสุขกับชีวิตในตอนนี้จะดีกว่าบางทีหลังจากที่อาจารย์ของหวานหว่านออกจากการเก็บตัวแล้ว เห็นว่าตัวเองก็ไม่อยู่แล้ว ย่อมมาช่วยเองอยู่แล้ว“แน่นอน ข้าจะไปถามความหมายของฝ่าบาทเดี๋ยวนี้”“คิดว่าฝ่าบาทคงไม่ปฏิเสธแน่ ฝีมือการรักษาของแม่นางฉยงหัวยอดเยี่ยมมาก หากได้แม่นางฉยงหัวมาอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ด้วย นั่นคงจะดีไม่น้อย”แน่นอนว่านี่เป็นเพียงข้ออ้างของซ่งชิงเหยียนเท่านั้น ที่นางอยากพาฉยงหัวออกไปก็เพราะหวานหว่านหวานหว่านชอบพี่ฉยงหัวขนาดนี้ ย่อมต้องอยากอยู่กับนางตลอดไปอยู่แล้วจิ่นซินและจิ่นอวี้เก็บข้าวของเกือบทั้งคืน พวกนางเอาเข้าไป ซ่งชิงเหยียนเอาออกมา แบบนี้ไปๆ มาๆ สุดท้ายก็ทิ้งกล่องใหญ่สองใบไว้ซ่งชิงเหยียนประนีประนอมแล้วนางพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ให้คนขับรถม้าของฝ่าบาทเหนื่อยหน่อยละกัน!ก่อนออกเดินทาง นางยังมีเรื่องสําคั

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0617

    ต้องบอกว่าของข้างนอกอร่อยกว่าของในวังจริงๆในนิทานล้วนบอกว่าชีวิตของพระสนมหวงกุ้ยเฟยในวังนั้นงดงามและสบายแค่ไหน แต่ลู่ซิงหว่านกลับรู้สึกว่า ไม่ได้สบายอยู่ข้างนอก[ถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกก็คงดีไม่น้อย ยังไงก็มีเงิน อยากซื้ออะไรก็ซื้อเลย][อยากกินอะไรก็ซื้อได้เลย สามารถกินอาหารที่พ่อครัวทําได้มากมาย พ่อครัวทำขนมในวังเหล่านี้ ข้ากินจนเบื่อแล้ว][เสด็จย่ากินมาตั้งหลายปี ยังกินไม่เบื่ออีกหรือ?]ซ่งชิงเหยียนบ่นในใจว่า เบื่อสิ แน่นอนว่านางกินจนเบื่อแล้ว ขนมที่องค์หญิงใหญ่นํามาจากหอฝูหม่านครั้งที่แล้ว ไทเฮาพูดตรงๆ เลยว่าอร่อยตอนนี้ซิงรั่วเกือบจะส่งคนมาส่งที่วังทุกสองวันก็ถือว่ามีใจแล้วจริงๆ เมื่อซ่งชิงเหยียนกําลังยุ่งอยู่ ฉยงหัวก็มาหานางมองท่าทางของจิ่นซินและจิ่นอวี้ที่กําลังยุ่งอยู่ อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง"พระสนมหวงกุ้ยเฟยนี่คือ..."คําพูดที่เหลือฉยงหัวไม่กล้าพูดออกมา ถูกโจรปล้นหรือ?“พี่ฉยงหัว!” ลู่ซิงหว่านพูดพลางพลิกตัวลงจากเตียง แล้ววิ่งไปหาฉยงหัวซ่งชิงเหยียนมองท่าทางคล่องแคล่วของลู่ซิงหว่านแล้วก็ตกตะลึงนางรู้ว่าหวานหว่านชอบพี่สาวฉยงหัวคนนี้มาก แต่เตียงนุ่มที่สูงขนาดนี้ น

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0616

    คิดถึงตรงนี้ องค์หญิงหกก็เงยหน้ามองไปยังทิศทางของฮ่องเต้ต้าฉู่อีกครั้ง ในใจเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นณ ตําหนักข้างของตําหนักเหวินอิงในเวลานี้ สนมเยว่กุ้ยเหรินก็กําลังพบท่านแม่ของตนเช่นกัน“เดิมคิดว่าเจ้าเป็นเพียงกุ้ยเหรินเล็กๆ ข้าไม่มีโอกาสเข้าวัง” ตอนนี้ฮูหยินเจิ้ง แม่ของสนมเยว่กุ้ยเหรินกําลังอยู่ในตําหนักของสนมเยว่กุ้ยเหริน มองสิ่งของในวังของนางไปๆมาๆ สัมผัสไปๆมาๆ ในใจรู้สึกน่าทึ่งเป็นมาก“ของในวังนี้ดีจริงๆ ทุกชิ้นประณีตขนาดนี้”เพราะรู้พฤติกรรมของแม่ตัวเอง สนมเยว่กุ้ยเหรินจึงไล่สาวใช้ข้างกายออกไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้นางแค่นั่งอยู่บนตั่งนุ่ม มองใบหน้าละโมบของแม่ตัวเองด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เดิมทีนางก็ไม่อยากเจอแม่ของตัวเองอยู่แล้วแม่ของคนอื่นๆ เข้าวังด้วยความห่วงใยและสงสารลูกสาวของพวกเขาแล้วแม่ของตัวเองล่ะเอาแต่โทษตัวเองที่ไร้ประโยชน์ โทษตัวเองที่แย่งความรักไม่เป็น โทษตัวเองที่ให้กําเนิดลูกไม่ได้เมื่อสนมเยว่กุ้ยเหรินคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินเจิ้งพลันหันหน้ามา เดินมาข้างกายนางอย่างลึกลับ ล้วงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อของตัวเอง แล้วยัดใส่มือสนมเยว่กุ้ยเหริน“เจ้าเป็นคนที่ไม่เอาไห

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0615

    เดิมคิดว่าเสด็จพ่อจะให้รางวัลตัวเอง แต่การไปเรียนหนังสือจะถือเป็นรางวัลอะไรได้เมื่อก่อนนางเคยได้ยินลู่ซิงยุ่นบ่นว่าอาจารย์คนนี้เข้มงวดขนาดไหน ยังต้องทําการบ้านอีก นั่นไม่แตกต่างจากการคัดลอกพระคัมภีร์ในตําหนักเหยียนหัวของนางหรอกหรือนางไม่อยากไปหรอก!เมื่อเห็นท่าทางของลู่ซิงหุย ลู่ซิงหว่านก็อดหัวข้าะคิกคักไม่ได้[เสด็จพ่อ ดูเหมือนว่าลูกสาวของท่านดูเหมือนจะไม่ชอบเรียนหนังสือนะ][แต่ก็ใช่ เด็กบ้านไหนชอบเรียนหนังสือกัน เดิมคิดว่าเสด็จพ่อจะให้รางวัลอะไรแก่นาง การเรียนหนังสือนี้นับเป็นรางวัลอะไรได้]ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ไม่สนใจ ในฐานะที่เป็นองค์หญิง ไม่เรียนหนังสือย่อมไม่ได้อยู่แล้วองค์หญิงทุกคนล้วนถูกส่งไปที่ห้องเรียนเมื่ออายุหกขวบ แม้ว่าจะแตกต่างจากเหล่าองค์ชาย แต่ก็มีอาจารย์สอนพิเศษฮ่องเต้ต้าฉู่หันไปมองพระสนมเหวินเฟยอีกครั้ง “ตอนนี้ซิงเหยียนอยู่ข้างกายเจ้า รู้สึกสบายใจกว่าเมื่อก่อนมากนะ”“เพียงแต่ตอนนี้ต้องพาเด็กตัวเล็กๆ แบบนี้มาด้วย ลําบากเจ้าแล้วจริงๆ”เด็กๆ มีความสุขหรือไม่นั้น มักจะมองปราดเดียวก็รู้แล้วลู่ซิงเหยียนเป็นเพียงเด็กอายุสามขวบเท่านั้น เมื่อก่อนสนมซูผินดูแลเองไม่มาก

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0614

    ครั้งนี้ลู่ซิงหว่านเดาผิดแล้วที่ลู่ซิงหุยพูดประจบด้วยเป็รเรื่องจริง นางกลัวที่จะไปคัดลอกหนังสือธรรมมะที่ตําหนักเหยียนหัวแล้วจริงๆ จึงไม่กล้าทะเลาะกับพี่น้องของตนอย่างโจ่งแจ้งอีกแล้วเพราะพอเสด็จพ่อทรงกริ้วขึ้นมา มันน่ากลัวมากเลยเพราะว่าเมื่อก่อนสนมซูผินปฏิบัติต่อองค์หญิงเจ็ดเพียงแค่เป็นของเล่นเท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจนางมากนักพูดตามคําพูดขององค์หญิงรอง เสด็จแม่ของพวกนางเลี้ยงดูพวกนางสองพี่น้อง ก็ไม่มีอะไรมากไปแค่ให้มีกินมีใส่ ขอเพียงไม่อดตายก็พอแล้วดังนั้นหลังจากที่องค์หญิงเจ็ดมาถึงข้างกายของพระสนมเหวินเฟยแล้ว จึงสามารถไปเที่ยวที่อุทยานหลวงได้บ่อยๆ และแน่นอนว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นลู่ซิงหุยนางชี้ไปที่ลู่ซิงและพึมพําว่า"พี่สาวคนสวย"[ตาบอดตั้งแต่อายุยังน้อย][ฮึ่ม ข้าจะไม่เล่นกับเจ้าอีกแล้ว เจ้าเด็กขี้ประจบ]ประโยคนี้ขององค์หญิงเจ็ดทําให้ลู่ซิงหุยพอใจจริงๆ ลู่ซิงหุยจึงย่อตัวลงทันทีและเข้าไปใกล้หน้าองค์หญิงเจ็ด “ซิงเหยียนเป็นเด็กดี”เป็นเด็กดีมากเมื่อเทียบกับไอ้เด็กเหลือขอลู่ซิงหว่านนั่นต้องบอกว่าวันนี้ลู่ซิงหุยโชคดีมาก ในขณะที่นางเล่นกับลู่ซิงเหยียน ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เดินผ่านส

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0613

    [ว้าว ชิงช้า]ทันทีที่ลู่ซิงหว่านเห็นชิงช้า ดวงตาของนางก็เปล่งประกาย นางวิ่งไปที่ชิงช้าทันทีขณะที่กําลังจะเดินไปข้างชิงช้านั้น กลับถูกเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าขวางทางไว้ก็คือองค์หญิงเจ็ดลู่ซิงเหยียนนั่นเองลู่ซิงเหยียนไม่ถือว่าสูงนักไม่รู้ว่านางเตี้ยเกินไปหรือลู่ซิงหว่านสูงเกินไป เด็กสองคนที่อายุห่างกันแค่สองสามขวบกลับสูงห่างกันแค่ครึ่งหัวเท่านั้นในเวลานี้ ลู่ซิงเหยียนมองลู่ซิงหว่านที่น่ารักตรงหน้าแล้ว ในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้วก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว กอดหัวนางไว้ แล้วจุ๊บแก้มนางทีหนึ่งลู่ซิงหว่านถอยหลังไปสองก้าวแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้นจิ่นอวี้กลั้นยิ้มแล้วก้าวเข้าไปประคององค์หญิงของตนให้ลุกขึ้น ส่วนพระสนมเหวินเฟยและสาวใช้ที่ปรนนิบัติอยู่ทางนั้นก็รีบเดินเข้ามา“หวานหว่านไม่เป็นไรใช่ไหม?” พระสนมเหวินเฟยถามด้วยความเป็นห่วงหลังจากองค์หญิงเจ็ดเห็นพระสนมเหวินเฟยแล้ว ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มกว้าง “เสด็จแม่ น้องหญิงหอมจังเลยเพคะ”ลู่ซิงหว่านมองคนตรงหน้าอย่างหมดคําพูด ที่จริงในใจรู้สึกรังเกียจมาก[คนดีๆ ที่ไหนจู่ๆ ก็มาหอมคนอื่นกลางทางแบบนี้][คนไม่รู้ว่าสงสัยคงนึกว่าเป็นเด็

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0612

    แต่สาวใช้ของนางกลับไม่กล้าส่งเสียงใดๆ เพียงแค่ฟังเจ้านายของตนบ่น ส่วนนางเองก็เก็บเศษซากที่ตกแตกอย่างเชื่อฟังอาจเป็นเพราะฝ่าบาททรงเมตตา เพราะพระสนมหวงกุ้ยเฟยและสนมเยว่กุ้ยเหรินต้องเดินทางไกล ดังนั้นก่อนออกเดินทางจึงอนุญาติให้พบครอบครัวได้เป็นกรณีพิเศษทางด้านจวนติ้งกั๋วโหว แน่นอนว่าฮูหยินติ้งกั๋วโหวนางเซียวมาด้วยตัวเอง และครั้งนี้ก็เช่นกัน ข้างกายนางมีคนมาด้วยคนหนึ่งแต่สิ่งที่ซ่งชิงเหยียนคาดไม่ถึงก็คือ คนนี้ไม่ใช่พี่สะใภ้ของนาง แต่เป็นอาสะใภ้รองของนาง กัวหยูหลังจากทั้งสองทําความเคารพซ่งชิงเหยียนด้วยความเคารพแล้วซ่งชิงเหยียนก็ให้ทั้งสองนั่งลงนางเซียวนั้นนั่งลงไปแล้วแต่กัวหยูกลับเดินไปข้างหน้าและคุกเข่าลงด้วยเสียงดัง"ตุบ"ทําให้ซ่งชิงเหยียนตกใจ แม้ว่านางจะไม่ชอบอาสะใภ้คนนี้ แต่พูดไปแล้ว หลายปีที่ผ่านมา นางเองก็ไม่ง่ายเลยเพราะเข้าใจความยากลําบากของนาง ดังนั้นนางจึงไม่ได้ถึงขั้นรังเกียจอะไรดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นและช่วยพยุงนางขึ้น แต่กัวหยูกลับยืนกรานที่จะคุกเข่าอยู่ที่นั่นและพูดว่า "หม่อมฉันขออภัยต่อพระสนมหวงกุ้ยเฟยและองค์รัชทายาทแทนพี่ชายของหม่อมฉันด้วยเพคะ"หลายวันก่อนได้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0611

    ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมมีเรื่องจะกําชับฮองเฮาเช่นกัน “หลังจากข้าจากไปแล้ว งานแต่งงานของจิ่นเหยาต้องพึ่งพาเจ้าให้มาก หากต้องการความช่วยเหลือ เจ้าก็ไปหาหลานเฟยให้ช่วยเจ้าได้เลย ไม่จําเป็นต้องแบกรับไว้คนเดียว”“เรื่องอื่นๆ ในวัง เจ้าก็สามารถปรึกษากับเสด็จแม่หรือหลานเฟยได้”“นางสนมคนอื่นๆ ในวังที่ตั้งครรภ์ก็ต้องรบกวนเจ้าดูแลให้มากๆ ด้วย”พูดจบฮ่องเต้ต้าฉู่ก็หันไปมองไทเฮาอีกครั้ง “สําหรับเรื่องการคัดตัว เสด็จแม่กับฮองเฮาก็จัดการกันเองเถอะ ดูหญิงคัดตัวว์ล่วงหน้าบ้างก็ดี”เพื่อปลอบขวัญฮองเฮา คืนนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงไปเสวยพระกระยาหารที่ตําหนักจิ่นซิ่ว และค้างคืนที่ตําหนักจิ่นซิ่วหลังจากจบการร่วมรัก เสิ่นหนิงก็พลิกตัวลงจากเตียง เยว่หรานรีบเข้ามาทำความสะอาดให้พระมเหสีของตนนายบ่าวมองหน้ากันโดยปราศจากคำพูดใดๆเสิ่นหนิงมองผ่านกระจกทองแดงไปยังฮ่องเต้ต้าฉู่ที่กําลังหลับสนิทอยู่บนเตียง ให้เยว่หรานแนบหูมา พูดด้วยน้ำเสียงที่ที่ได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้น “บอกเขาว่า แผนการทั้งหมดหยุดชั่วคราว ข้ามีแผนการอื่น”ในเมื่อฮ่องเต้ต้าฉู่จะเสด็จลงใต้ เช่นนั้นก็สามารถวางแผนอื่นได้แล้วเรื่องที่ฮ่องเต้ต้าฉู่จะพาพ

DMCA.com Protection Status