แชร์

บทที่ 0015

ผู้เขียน: อันอี่หราน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-06-04 16:21:29
ครั้นเมื่อเห็นเผยฉู่เยี่ยนบาดเจ็บ องค์ชายใหญ่ก็รีบมาสังหารนักฆ่าจนเสียชีวิต การต่อสู้อันดุเดือดจึงได้ยุติลง

เหลียวดูรอบข้างพบว่าไม่มีศัตรูอีก พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงได้หันกลับไปที่เกี้ยว เห็นลู่ซิงหว่านยังนอนตาแป๋วอยู่ จึงได้วางใจ จากนั้นจึงหันมาดูเผยฉู่เยี่ยน พยุงแขนของเขาพลางถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”

“พระสนมโปรดวางใจ ไม่เป็นไรมากพ่ะย่ะค่ะ” เผยฉู่เยี่ยนอายุเพียงแค่แปดขวบเท่านั้น แต่นิสัยเป็นคนแข็งกร้าว ทำให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยอดไม่ได้ที่จะมองซ้ำอีก

“จิ่นเหยา จิ่นหยู ทิ้งคนไว้ให้จัดการที่นี่ อย่าให้ชาวบ้านรอบข้างแตกตื่น พวกเรากลับวังก่อน” เจอเรื่องเช่นนี้เข้า พระสนมเฉินกุ้ยเฟยรู้จักตั้งสติคล้ายกับตอนอยู่ในสนามรบ “ซื่อจื่อน้อยตามข้าขึ้นเกี้ยวก่อน เพราะได้รับบาดเจ็บ ไม่ควรที่จะขี่ม้าอีก”

เมื่อเห็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยกล่าวเช่นนี้ เผยฉู่เยี่ยนจึงไม่กล้าปฏิเสธอีก ได้แต่ตามนางขึ้นรถม้าไป

[เผยซื่อจื่อดูเท่ห์เหลือเกิน ถ้าไม่ได้เขามาช่วย วันนี้ข้าคงตายแน่ ฮือ ๆ ๆ...]

[สมแล้วที่เป็นผู้ช่วยมือดีของพระเอก อายุยังน้อยก็มีความกล้าหาญถึงเพียงนี้ ช่างร้ายกาจจริง ๆ!]

พระสนมเฉินเฟยขึ้นไปในรถม้า แล้วจึงอุ้มลู่ซิงหว่านมา พลางตบนางเบา ๆ แล้วเอ่ยถาม “หวานหว่านตกใจมากหรือเปล่า”

จากนั้นก็หันมาทางเผยฉู่เยี่ยน “ต้องขอบคุณเผยซื่อจื่อที่มาช่วยเหลือ เพราะท่านแท้ ๆ จึงช่วยชีวิตหย่งอันไว้ได้”

“พระสนมกล่าวหนักไปแล้ว ไทเฮาให้ข้าติดตามมา จุดประสงค์ก็เพื่อคุ้มกันองค์หญิงน้อย”

เผยฉู่เยี่ยนแม้จะบาดเจ็บ ท่าทีก็ยังสงบนิ่ง พร้อมมองดูลู่ซิงหว่านที่อยู่ในเบาะ แต่ไม่ได้พูดอะไร

เคลื่อนขบวนเดินทางได้ไม่นาน ก็เจอเข้ากับทหารรักษาพระองค์ที่ฮ่องเต้ส่งมา

“พระสนม ขออภัยที่ข้าน้อยมาช้าพ่ะย่ะค่ะ” รองหัวหน้ากองทหารรักษาพระองค์จูกู่ซานเห็นขบวนของพระสนมเฉินเฟยได้ออกเดินทางต่อ ก็ค่อยรู้สึกเบาใจขึ้น รีบลงจากหลังม้าและคุกเข่าลง “ไม่ทราบว่ามีใครบาดเจ็บหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

“ซื่อจื่อน้อยถูกธนูยิงเข้า ด้านหลังมีทหารทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต ข้าให้คนคอยดูแลไว้อยู่ รบกวนแม่ทัพจูช่วยไปดูอีกแรงเถอะ”

“ข้าจะคุ้มกันพระสนมกลับวังก่อน” จูกู่ซานรับบัญชาจากฮ่องเต้ให้มาอารักขาอยู่แล้ว ก่อนอื่นจึงต้องคุ้มกันพระสนม องค์ชายและองค์หญิงกลับวังก่อน ที่สำคัญซื่อจื่อน้อยยังได้รับบาดเจ็บอีก

ขุนนางบู๊เหล่านี้ สมัยก่อนจะนับถืออันกั๋วกงที่สุด ทุกวันนี้ก็ย่อมให้เกียรติลูกชายคนเดียวของเขาก็คือเผยฉู่เยี่ยนด้วย

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยไม่อยากพูดมากความ ตอนนี้แม้จะปลอดภัยแล้ว ควรรีบออกจากสถานที่วุ่นวายแห่งนี้ กลับไปยังวังหลวงจะอุ่นใจกว่า

เมื่อเข้าไปในวัง พระสนมเฉินกุ้ยเฟยยืนกรานจะให้เผยฉู่เยี่ยนไปอยู่ตำหนักชิงอวิ๋นก่อน ค่อยตามหมอหลวงมาดู คนอื่นไม่กล้าคัดค้าน จึงได้แต่ติดตามไปตำหนักชิงอวิ๋นด้วยกัน

ลู่ซิงหว่านพยายามฝืนร่างไว้ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจต้านร่างเล็กๆ ที่ยังอ่อนวัย จนได้หลับสนิทไปนานแล้ว

หลังจากหมอหลวงมาตรวจดูแล้ว พบว่าเผยฉู่เยี่ยนเพียงแค่บาดเจ็บภายนอก ไม่กระทบถึงเส้นเอ็นและกระดูก พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงค่อยเบาใจลง

สมัยก่อนตอนออกศึก นางเคยผ่านชั้นเชิงสกปรกมามากมาย เมื่อครู่เห็นเผยฉู่เยี่ยนได้รับบาดเจ็บ นางก็รู้สึกเป็นห่วงยิ่ง ด้วยเกรงว่าลูกธนูสั้นจะเคลือบยาพิษไว้

ทั้งยังให้หมอหลวงตรวจดูรัชทายาทและองค์ชายรองด้วย เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างปลอดภัย พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงค่อยยอมให้หมอหลวงกลับไป

ส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ เมื่อได้รับข่าวจากทหารรักษาพระองค์ ก็รีบมาจากห้องทรงอักษรเช่นกัน

เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างปลอดภัย จึงค่อยวางพระทัยบ้าง

อีกทั้งประทานรางวัลให้แก่เผยฉู่เยี่ยน สิ้นเสียงไม่ทันไร แม่นมคนสนิทของไทเฮาก็มาถึง

“ทูลฝ่าบาท ไทเฮาทรงเป็นห่วงยิ่งนัก จึงให้หม่อมฉันมาดูว่าพระสนมเฉินเฟยเป็นอย่างไรบ้างเพคะ เมื่อเห็นทุกคนต่างปลอดภัย หม่อมฉันจะได้กลับไปรายงาน ให้ไทเฮาทรงหายห่วงเพคะ”

“ไปทูลให้ไทเฮาวางพระทัยได้ ซื่อจื่อน้อยได้รับบาดเจ็บผิวเผิน ส่วนคนอื่นล้วนปลอดภัยดี” พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเห็นไทเฮาเป็นห่วงเช่นนี้ จึงได้รีบตอบกลับ

แม่นมซุนคำนับพระสนมเฉินกุ้ยเฟยและฮ่องเต้ พร้อมเอ่ยปากต่อ “หม่อมฉันยังมีบัญชามาจากไทเฮา รับสั่งถึงเผยซื่อจื่อเพคะ”

ทุกคนต่างมองไปยังเผยฉู่เยี่ยน

เขาลุกขึ้นมาจากตั่ง พร้อมคุกเข่าลง

“ไทเฮารับสั่งว่า ซื่อจื่อน้อยถวายอารักขามีความดีความชอบ สมควรปูนบำเหน็จ อีกอย่าง องค์หญิงหย่งอันประสบเหตุร้ายโดยไม่คาดคิด ซื่อจื่อน้อยได้แสดงความกล้าหาญออกมา ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ให้ซื่อจื่อน้อยเป็นองครักษ์ส่วนตัวขององค์หญิงหย่งอัน ดูแลความปลอดภัยขององค์หญิงน้อย”

ลู่ซิงหว่านเพิ่งตื่นมาไม่นาน ก็ได้ยินรับสั่งนี้เข้า

[เสด็จย่าที่น่ารักของข้า ท่านใช้งานผิดงานไปหรือเปล่า]

[อีกหน่อยเผยซื่อจื่อจะเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ แล้วให้มาคุ้มกันข้า...]

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยได้ยินคำพูดของหวานหว่านก็รู้สึกไม่ค่อยเหมาะนัก จึงได้ทูลต่อฮ่องเต้ต้าฉู่ “ทำเช่นนี้อาจไม่เหมาะ...”

กล่าวยังไม่ทันจบ ก็ได้ยินเผยฉู่เยี่ยนตอบกลับ “น้อมรับบัญชาของไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ”

นางจึงไม่สะดวกจะพูดอะไรอีก

เหลือเพียงลู่ซิงหว่านว้าวุ่นอยู่คนเดียว

[ช่างเถอะ ๆ ไหน ๆ เขาก็ยังเด็กอยู่ มาให้ข้ากอดขาเล่นก็ไม่เลว]

ขณะเดียวกันที่ตำหนักฉางชิว พระสนมชุยเฟยปัดถ้วยชาที่อยู่เบื้องหน้าลงพื้นจนแตก พร้อมกล่าวอย่างโกรธเคือง “ทำงานประสาอะไรน่ะ!”

ไป๋เวยคุกเข่าที่พื้น ตัวสั่นงันงก

เหตุการณ์ลอบสังหารในวันนี้ พระสนมชุยเฟยเป็นผู้วางแผน

วันก่อนในงานพิธีแต่งตั้ง นางเสียหน้าอย่างมาก ซ้ำองค์ชายสามยังถูกฝ่าบาทตำหนิอีก หากนางไม่ทำอะไรซะบ้าง อีกหน่อยบัลลังก์มิไปอยู่ในมือตำหนักชิงอวิ๋นหรอกหรือ

ประจวบเหมาะกับซ่งชิงเหยียนจะออกไปข้างนอก ถ้าสามารถจัดการนางได้ก็ย่อมจะเป็นการดี

แต่ไม่นึกว่าจะคว้าน้ำเหลว

ไป๋จื่อสั่งให้คนอื่นรีบถอยออกไป เดินขึ้นหน้าปลอบใจพระสนมชุยเฟย “พระสนมอย่าเพิ่งโกรเลยธเพคะ วันนี้มีคนอยู่กับพระสนมเฉินกุ้ยเฟยไม่น้อย พลั้งมือก็พอให้อภัย ตราบใดที่รัชทายาทยังไม่ขึ้นครองราชย์ เราก็ยังมีความหวังอยู่นะเพคะ”

ไป๋จื่อปลอบแล้วปลอบอีก พระสนมชุยเฟยก็ค่อยสงบจิตใจลงบ้าง พร้อมมองหน้าไป๋เวยอีกครั้ง “จัดการเรียบร้อยหรือเปล่า?”

“พระสนมโปรดวางใจ ไม่สาวมาถึงพวกเราอย่างแน่นอนเพคะ” ไป๋เวยเห็นพระสนมค่อยหายโกรธบ้าง จึงรีบโขกศีรษะแล้วตอบกลับ

ส่วนทางด้านฮ่องเต้ต้าฉู่ เมื่อปลอบใจพระสนมเฉินกุ้ยเฟยกับทุกคนแล้ว จึงกลับมายังห้องทรงอักษร เรียกตัวหัวหน้ากองทหารรักษาพระองค์มาพบ “เว่ยเฉิน ไปสืบให้ทั่ว ตามเมืองหลวงทุกแห่ง พระสนมพาองค์ชายและองค์หญิงออกไปข้างนอก เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา จะให้ข้าวางใจได้ยังไง”

เว่ยเฉินน้อมรับบัญชาจากฮ่องเต้ รีบออกจากห้องทรงอักษรทันที

ในใจกลับรู้สึกโล่งอก หมู่นี้ฝ่าบาททรงอารมณ์ดีขึ้นมาก หากเป็นแต่ก่อนน่ะหรือ ตนคงไม่พ้นถูกสั่งโบยเป็นแน่

เมื่อวานรองหัวหน้าจูกู่ซานไปดูแลที่เกิดเหตุ คาดว่าน่าจะยังทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้บ้าง ตนต้องไปหารือกับเขาก่อน

ที่ไหนได้ คนร้ายกลับสะสางที่เกิดเหตุจนหมดสิ้น แทบไม่เหลือเบาะแสใดๆ ไว้เลย

ทั้งคู่จนปัญญา จึงต้องขอความช่วยเหลือจากองครักษ์เงามังกร

อิ่งอีได้รับความเห็นชอบจากฮ่องเต้ต้าฉู่ ให้ช่วยทหารรักษาพระองค์ไต่สวนเรื่องนี้ เพียงครึ่งวัน หลักฐานก็ถูกส่งขึ้นไปยังโต๊ะทรงงานของฮ่องเต้

คนที่ส่งคนร้ายมา ก็คือคนสนิทของพระสนมชุยเฟยนามว่าไป๋เวย
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ณัฐ ณัฐธยาน์
ทำไมต้องปลดล็อก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0016

    ฮ่องเต้ต้าฉู่ตกใจเป็นอย่างมากเขาเคยสงสัยหรงอ๋อง เคยสงสัยเสนาบดีชุย หรือแม้กระทั่งครอบครัวของสนมโหรวกุ้ยเหรินที่ถูกเนรเทศก็เคยต้องสงสัย แต่ไม่เคยนึกถึงพระสนมชุยเฟยเลยสมัยที่ตนยังเป็นรัชทายาทอยู่ ชุยอวี่ฉีก็แต่งมาเป็นพระชายารองแล้ว ความสัมพันธ์ในวัยเยาว์ล้ำค่าที่สุด เขาจึงมอบความรักให้แก่ชุยอวี่ฉีอย่างเต็มเปี่ยมมาโดยตลอดและในสายตาฮ่องเต้ต้าฉู่ นางก็เป็นสตรีที่อ่อนโยนและใสซื่อ ทั้งยังให้กำเนิดองค์ชายถึงสองคน และก่อนหน้านี้ดเขาเองก็หมายมั่นจะให้นางครองตำแหน่งฮองเฮาคนต่อไปพักก่อนต่อให้เรื่องของเสนาบดีชุยถูกเปิดโปง เขาก็ไม่ได้สงสัยนางเลย แต่ไม่คิดว่านางจะโหดร้ายถึงเพียงนี้และเมื่อนางทำผิดจริง ช้าเร็วก็ต้องถูกเปิดเผย เพื่อความมั่นคงของราชสำนัก อย่างไรก็ต้องจัดการ“เมิ่งฉวนเต๋อ สั่งการไปยังตำหนักฉางชิว ชุยเฟยทำความผิด ให้ลดขั้นเป็นตาอิ้ง ย้ายไปอยู่ตำหนักผู่เหวินแทน” ฮ่องเต้ต้าฉู่ครุ่นคิดอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปเมิ่งฉวนเต๋อได้รับบัญชาก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ด้วยไม่คิดว่าฮ่องเต้จะทรงเฉียบขาดถึงปานนี้ ตำหนักผู่เหวิน สภาพใกล้เคียงกับตำหนักเย็น ฮ่องเต้ต้าฉู่โปรดปรานพระสนมเต๋อเฟยมาโดยตลอด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-04
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0017

    ฮ่องเต้ต้าฉู่พลิกไปได้เพียงแค่สองหน้าก็เห็นว่าภายในนั้นเรื่องหนึ่งอยู่ ไม่นานมานี้ตอนที่พระสนมเฉินเฟยคลอดบุตรก็เป็นชุยเหวินที่ซื้อตัวสนมโหรวกุ้ยเหริน และใช้ครอบครัวของนางมาข่มขู่ให้สนมโหรวกุ้ยเหรินออกหน้าซื้อตัวแม่นมทำคลอดผู้นั้นเห็นดังนี้เขาก็โกรธเสียจนปาสาส์นกราบทูลขอราชการนั้นออกไป “เขากลับรู้ว่าต้องทำให้บุตรสาวของตนเองไร้มลทิน”เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ต้าฉู่กริ้วแล้ว คนของกรมสอบสวนก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรต่อ“จับหนิงซวี่ได้หรือยัง?” ภายในใจของฮ่องเต้ต้าฉู่รู้สึกกลัดกลุ้มเพราะยังนึกไม่ออกว่าจะจัดการอย่างไรดี“ยามนี้ได้นำตัวคนไปส่งถึงศาลต้าหลี่แล้วพ่ะย่ะค่ะ โดยได้จัดคนดูแลเป็นเฉพาะการ และไม่ได้ใช้วิธีทรมานแต่อย่างใด เพียงแค่ป้องกันไม่ให้เขาฆ่าตัวตายเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ” แต่ไหนแต่ไรใต้เท้าหรงก็จัดการเรื่องได้อย่างน่าเชื่อถืออยู่แล้วฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินก็พยักหน้า “พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ”ความผิดที่ชุยเหวินกระทำแม้จะเป็นสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย แต่ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับนึกถึงสิ่งที่หลายปีมานี้เขาทุ่มเททำเพื่อแคว้นต้าฉู่ ชั่วขณะก็ไม่รู้ว่าควรจะลงโทษอย่างไรดีฮ่องเต้ต้าฉู่ฟังเมิ่งฉวนเต๋อเอ่ยถึงปฏิกิริยาขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-04
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0018

    เมื่อฮ่องเต้ต้าฉู่กลับมายังห้องหนังสือส่วนพระองค์ ก็ได้ให้เมิ่งฉวนเต๋อไปเรียกคนของกรมสอบสวนมา“สืบเรื่องเงินบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งของปีนี้ที่จัดสรรไปว่าภายในมีผู้ทุจริตหรือไม่” ฮ่องเต้ต้าฉู่พูดออกมาอย่างง่ายดายด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความลังเลใต้เท้าหรง และคนอื่น ๆ ย่อมเข้าใจดีว่าที่ฮ่องเต้ต้าฉู่เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาในยามนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเสนาบดีชุย ในขณะนั้นจึงได้สืบไปในทิศทางนี้ทันทีเมื่อชัดเจนเรื่องทิศทางแล้ว บวกกับการทำงานที่รวดเร็ว และเฉียบขาดของกรมสอบสวน ไม่ถึงครึ่งวัน สาส์นฉบับหนึ่งก็ถูกเอามาวางไว้ที่โต๊ะหนังสือของฮ่องเต้เงินบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยหนึ่งแสนตำลึง ชุยเหวินเพียงแค่ผู้เดียวก็ทุจริตไปแล้วห้าหมื่นตำลึงยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงที่จัดสรรไปแต่ละรอบว่ามีหลงเหลือมาถึงมือของราษฎรจริง ๆ อยู่เท่าไหร่?เมื่อเห็นดังนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ไม่มีความลังเลอีกต่อไป “เมิ่งฉวนเต๋อ ไปเรียกเว่ยเฉิงมา”ในขณะนั้นก็ได้รับสั่งให้คนของทหารราชองครักษ์ และกรมสอบสวนไปตรวจค้น รวมถึงยึดทรัพย์ที่บ้านตระกูลชุย คนที่เกี่ยวข้องให้นำไปขังไว้ที่ศาลต้าหลี่เป็นการชั่วคราว ส่วนข้ารับใช้บ้างก็เน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-04
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0019

    [ทูตของแคว้นเยว่เฟิงจะมาถึงแล้วอย่างหรือ? หรงอ๋องก็จะได้ตัดสินใจครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับรายละเอียดการกบฏกับทูตนั้นแล้ว เสด็จพ่อพระองค์รีบตื่นสิ พระองค์รีบตื่นเร็วเข้า น้องชายคนนั้นของพระองค์ไม่ใช่คนดีอะไรเลย!][ฮือ ๆ ๆ ทำไมข้าถึงได้น่าสงสารถึงเพียงนี้! เพิ่งเกิดก็โดนสนมโหรวกุ้ยเหรินลงมือสังหาร สามเดือนถูกพระสนมเต๋อเฟยลงมือ ยังไม่ถึงหนึ่งปีก็จะถูกหรงอ๋องลงมืออีกแล้วหรือเนี่ย?]พระสนมเฉินกุ้ยเฟยบย่อมรู้เรื่องที่พ่อของตนไปยังห้องทรงอักษรอยู่แล้ว แม้ว่าหวานหว่านจะเอ่ยจนดูน่ากลัว แต่คิดว่ามีการเตือนของบิดา ฝ่าบาทก็คงจะตื่นตัวอยู่ และคงไม่ถึงกับที่จะตกไปอยู่ในหลุมพรางของหรงอ๋องหรอกฮ่องเต้ต้าฉู่ทำเป็นเงียบสงบแต่กลับตบไปที่มือของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยโดยที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “แต่ไหนแต่ไรเจ้าก็เป็นคนรู้กาลเทศะอยู่สมอ”[เหอะ เด็กดีไม่มีขนมกินหรอกนะ][แต่เสด็จพ่อก็ดีกับท่านแม่ไม่เบาเลยนะ มักจะมาอยู่เป็นเพื่อนนางเสมอ][อยู่ดี ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่า หนิงอ๋องทำเรื่องใหญ่อะไรลงไปนะ จำไม่ค่อยได้แล้ว…]ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินภายในใจก็เป็นกังวลขึ้นมา หนิงอ๋องทำเรื่องอะไรที่ทำให้ตนเป็นห่วงอีก ดูท่าแล้วภาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-04
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0020

    เพราะพระสนมเฉินกุ้ยเฟยเข้าวังมาช้า ดังนั้นตั้งแต่ที่ฮองเฮาสิ้นพระชนม์จึงมีพระสนมเต๋อเฟยเป็นผู้จัดการดูแลเรื่องต่าง ๆ ของวังหลังทั้งหกยามนี้พระสนมเต๋อเฟยถูกลดขั้น จึงเป็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยที่เข้ามารับภาระต่อ โดยมีพระสนมหลานเฟย มารดาขององค์ชายสองคอยช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ เพราะเหตุนี้เมื่อมีคนใหม่เข้ามาในวัง จึงจะต้องมาคาราวะต่อพระสนมเฉินกุ้ยเฟยก่อนดังนั้นวันนี้ตำหนังชิงอวิ๋นจึงคึกคักเป็นพิเศษหลังจากที่สนมหนิงผิน และสนมเล่อกุ้ยเหรินคาราวะเหล่าสนมตามกฎระเบียบแล้ว พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงเอ่ยสั่งสอนตามระเบียบออกมาสั้น ๆ ไม่กี่ประโยค จากนั้นคนอื่น ๆ ถึงได้เอ่ยพูดตามกัน“สนมเล่อกุ้ยเหรินเป็นบุตรสาวของรองหัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดิน บิดาของเจ้าเป็นถึงผู้ที่ออกแรงในการดึงเสนาบดีชุยลงมา หากไม่ใช่บิดาของเจ้า และคนอื่น ๆ ที่ดึงเสนาบดีชุยลงมา วันนี้ผู้ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดก็ยังเป็นพระสนมเต๋อเฟยผู้นั้น!” ผู้ที่เอ่ยคือสนมซูผินมารดาผู้ให้กำเนิดขององค์หญิงสอง และองค์หญิงเจ็ด ในตอนที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ยังเป็นองค์รัชทายาท ข้างกายก็มีเพียงแค่อดีตฮองเฮา และคนตระกูลชุยเพียงแค่สองคนภายหลังฮ่องเต้ต้าฉู่ขึ้นค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-04
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0021

    สนมหนิงผิน และสนมเหรินกุ้ยเหรินกล่าวขอบพระทัยพร้อมกัน จากนั้นจึงได้พากันออกไปจากตำหนักชิงอวิ๋นแต่ลู่ซิงหว่านกลับยังติดอยู่ในพะวงความคิด[แล้วสนมหนิงผินคือใครอีกเนี่ย? ในนิยายเคยมีปรากฏออกมาเหรอ? ทำไมสนมเล่อกุ้ยเหรินถึงเคยปรากฏออกมาในนิยาย แต่สนมหนิงผินกลับไม่เคยล่ะ? ]พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเห็นว่าลู่ซิงหว่านขมวดหัวคิดเล็ก ๆ แล้วก็ยังบ่นพึมพำอยู่ในใจ ด้วยกลัวว่านางจะเหนื่อยจึงได้รีบอุ้มนางขึ้นมา “หวานหว่าน แม่พาเจ้าออกไปเล่นดีไหม?”[จะได้ออกไปเล่นอีกแล้วเหรอ ? ท่านแม่เยี่ยมจังเลย!]เมื่อเห็นว่าความสนใจของหวานหว่านถูกเบี่ยงเบนไป พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงได้เอ่ยสั่ง “จิ่นอวี้ เก็บของหน่อย พวกเราจะไปเดินเล่นที่อุทยานหลวงสักหน่อย”เมื่อครุ่นคิดไปครู่หนึ่งก็นึกอะไรขึ้นได้เลยออกคำสั่งกับจิ่นซิน “จิ่นซิน ไปเชิญซื่อจื่อเผยมาหน่อย ถึงยังไงก็เป็นคำสั่งของไทเฮา”ด้วยเหตุนี้คนกลุ่มหนึ่งจึงมุ่งหน้าไปที่อุทยานหลวงด้วยกันยามบ่ายของวันนี้ วังหลังก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาหนึ่งเรื่องหลายวันก่อน สนมฟางกุ้ยเหรินได้รับการวินิจฉัยจากหมอหลวงว่าทรงตั้งครรภ์ทั้งยังมีชีพจรครรภ์ที่ไม่มั่นคง จึงได้มีพระสนมเต๋อเฟยเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-04
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0022

    ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินบุตรสาวมองตนเองเช่นนี้จึงได้รีบเอ่ยปาก “เจ้าไม่ต้องมาร้องไห้คร่ำครวญที่นี้ เรื่องราวยังไม่ทันได้มีบทสรุป การใส่ร้ายพระสนมกุ้ยเฟยถือเป็นโทษร้ายแรง”[เอ๊ะ นึกไม่ถึงเลยว่าเสด็จพ่อผู้นี้ของข้าจะมาเข้าใจ และมีเหตุผลเพียงนี้? ]แม้แต่พระสนมเฉินกุ้ยเฟยก็อดมองไปทีฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ได้“ฝ่าบาท” สนมฟางกุ้ยเหรินเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่เป็นเช่นนี้ ท่าทีก็ลดลงมาเป็นครึ่งแล้วจึงได้รีบคุกเข่าลงไป “ฝ่าบาท หากไม่ใช่เพราะว่านางกำนัลข้างกายของหม่อมฉันพอเข้าใจเรื่องการแพทย์อยู่บ้าง แล้วพบว่ามีชวนหนิวซีอยู่ในกากยา ชวนหนิวซีนั้นเป็นยาขับเลือดทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุด หากใช้เป็นเวลานานทารกในครรภ์ของหม่อมฉันก็คงจะรักษาเอาไว้ไม่ได้ใช่ไหมเพคะ? ”“อ้อ? ” พระสนมเฉินกุ้ยเฟยกลับเอ่ยขึ้น “ไม่สู้เรียกนางกำนัลข้างกายของเจ้ามาให้พวกเรามาสอบถามต่อหน้าเลยจะดีกว่า”สนมฟางกุ้ยเหรินยังคิดจะเอ่ยปากพูดอะไรอีก แต่กลับถูกพระสนมเฉินกุ้ยเฟยหยุดเอาไว้ก่อน “กากยานั้นล่ะ ? น้องหญิงได้นำมาด้วยหรือเปล่า? ”แต่สนมฟางกลับมองไปที่ฝ่าบาท “นางกำนัลข้างกายผู้นั้นของหม่อมฉันกำลังยืนรออยู่ที่ด้านนอกของห้องทรงอักษร กากยาก็คือสิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-04
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0023

    ลู่ชิงหว่านเหลือบมองเผยฉู่เยี่ยน[มีความรับผิดชอบสมกับเป็นคุณชายจวนอันกั๋วกง][ความรู้สึกที่มีคนคอยปกป้องนี่มันดีจัง รู้สึกปลอดภัยสุด ๆ ไปเลย!]เนื่องจากมีพลังวิญญาณสนับสนุน แม้ตอนนี้ลู่ซิงหว่านจะเพิ่งสามเดือนแต่ก็นั่งได้อย่างมั่นคงแล้วซึ่งนั่นทำให้ฮ่องเต้ต้าฉู่และพระสนมเฉินกุ้ยเฟยอดไม่ได้คิดไม่ได้ว่า “สมกับที่เป็นเซียนกลับชาติมาเกิด ไม่เหมือนผู้ใดเลยจริง ๆ”ในงานเลี้ยงตอนรับที่พระราชวัง แม้ว่าพระสนมเฉินกุ้ยเฟยจะพยายามห้ามไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่อาจกล่อมฮ่องเต้ต้าฉู่ได้สำเร็จ ขณะนี้ลู่ชิงหว่านนั่งร่วมโต๊ะเดียวกันกับฮ่องเต้ต้าฉู่โดยมีนางกำนัลคอยปรนนิบัติ ทั้งคุณหนูและฮูหยินจวนขุนนางต่าง ๆ ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์“ได้ยินเขาลือกันมานานแล้วว่าฮ่องเต้ทรงรักและเอ็นดูองค์หญิงหย่งอันมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะรักมากถึงขนาดนี้!”“ก็ใช่น่ะสิ ก็ในเมื่อองค์หญิงหย่งอันเป็นดาวนำโชคของแคว้นต้าฉู่เรานี่นา!”ลู่ซิงหว่านไม่ได้ใส่สนใจคํานินทาเหล่านี้แม้แต่น้อย เพียงแต่บ่นในใจว่า[ตามในหนังสือนิทานแล้ว งานใหญ่แบบนี้มักต้องเกิดปัญหาวุ่นวายบางอย่างขึ้น][แต่งานเลี้ยงตอนรับที่พระราชวังหนนี้เกิดขึ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-04

บทล่าสุด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0634

    เขาเป็นฮ่องเต้และเข้าใจวิธีการใช้คนเป็นอย่างดีคนอย่างเสิ่นผิงเป็นดาบที่แหลมคม ต้องให้ผู้ถือดาบควบคุมให้ดีเรื่องต่อไปนั้นง่ายมากฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้เว่ยเฉิงออกหน้าเพื่อปลอบขวัญราษฎรทั้งหมด ส่วนตัวเขาเองก็พาเสิ่นผิงกลับไปที่จวนนายอำเภออีกครั้งครั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงตั้งใจพาลู่ซิงหว่านมาอยู่ข้างกายถึงอย่างไรเขาก็มีความคิดแบบนี้มานานแล้ว อยากจะพาลู่ซิงหว่านไปประชุมเช้าด้วยแต่เมื่อนึกถึงคนแก่คร่ำครึกลุ่มนั้น เพื่อลดความยุ่งยากให้กับลู่ซิงหว่านและซ่งชิงเหยียนสองแม่ลูก ในที่สุดเขาก็ยกเลิกความคิดนี้แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกมันไม่เหมือนกันแล้ว สิ่งที่ควรใช้ก็ต้องใช้ให้ดีเมื่อเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังอุ้มเด็กคนหนึ่ง เสิ่นผิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นฮ่องเต้ เขาเป็นแค่ข้าน้อยธรรมดาคนหนึ่ง จะกล้าเอ่ยปากได้อย่างไรจนกระทั่งทั้งสองนั่งลง ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงเอ่ยปากถามว่า “คุณชายเสิ่นแม้จะสวมเสื้อผ้าธรรมดา แต่ดูแล้วก็สง่างาม ไม่รู้ว่าพ่อเจ้าเป็นใครกัน”เสิ่นผิงกลับส่ายหน้า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านพ่อเป็นใคร ข้าน้อยอาศัยอยู่กับท่านแม่ที่อําเภอไถจิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0633

    [นี่เป็นขบวนเสด็จของฝ่าบาท พวกเจ้ายังกล้าขัดขวางอีกหรือ?]ส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เปิดม่านรถออกอย่างเงียบๆ และมองออกไปด้านนอกตอนนี้ที่หน้ารถของพวกเขา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกําลังคุกเข่าอยู่ เป็นธรรมดาที่มีชาวบ้านทยอยกันเดินมาทางนี้ลู่ซิงหว่านตาไว มองปราดเดียวก็เห็นคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุด เป็นชายที่คุยกับพวกเขาเมื่อวาน“เสด็จพ่อ พี่ชาย” ลู่ซิงหว่านชี้นิ้วไปยังคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุดฮ่องเต้ต้าฉู่หันมองลู่ซิงหว่านอย่างสงสัย แล้วมองไปข้างหน้าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาคิดไปคิดมา ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ลุกขึ้นและออกจากรถม้าไป“ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี” ทุกคนคุกเข่าลงและตะโกนถวายบังคมชายที่อยู่ด้านหน้าสุดกลับเอ่ยปากก่อน “ข้าน้อยเสิ่นผิง ถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบ เสิ่นผิงก็เงยหน้าขึ้น มองตรงไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ “ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาททรงมอบเงินเหล่านั้นให้ข้าน้อย ข้าน้อยก็รู้สึกว่าฝ่าบาทต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการแน่นอน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นผิงก็โขกหัวลงไปอีกครั้ง “ฝ่าบาททรงเมตตากรุณายิ่งนัก เป็นความโชคดีของราษฎรในใต้หล้าเหลือเกินพ่ะย่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0632

    ฮ่องเต้ต้าฉู่จัดการเรื่องนี้เสร็จ ก็เสียเวลาไปบ้าง ได้แต่พักค้างคืนหนึ่งคืนก่อนแล้วค่อยออกเดินทางอีกครั้งในวันถัดไปเท่านั้นค่ำคืนนี้ พวกฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่ได้ไปพักที่โรงเตี๊ยมหรือเรือนรับรองใดๆ อีก แต่พักอยู่ในที่ว่าการอําเภอโดยตรงตอนนี้ไม่มีงานราชการที่ต้องจัดการ หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ก็รู้สึกเบื่อมาก“เว่ยเฉิง” ฮ่องเต้ต้าฉู่ชะโงกหน้าไปถาม “ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของอําเภอเทียนจินนี้เป็นอย่างไร?”พูดถึงตรงนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ยืนขึ้น “ไม่สู้เรียกหวงกุ้ยเฟยมาดีกว่า ให้ออกไปเดินเล่นด้วยกัน”บังเอิญจริงๆ ซ่งชิงเหยียนและพรรคพวกก็กําลังเดินมาทางนี้เช่นกัน“นายท่าน” เยวี่ยกุ้ยเหรินเดิมทีก็มีนิสัยร่าเริงอยู่แล้ว เมื่อก่อนอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทและพระสนมหวงกุ้ยเฟยยังไม่กล้าปล่อยมากนัก หลายวันมานี้คุ้นเคยกันแล้ว ย่อมมีชีวิตชีวามากขึ้น “พระ...ฮูหยินเรียกข้าออกไปเดินเล่นด้วยกัน นายท่านจะไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อได้ยินสนมเยว่กุ้ยเหรินเรียกซ่งชิงเหยียนแบบนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็อึ้งไปชั่วขณะเขาจับตาซ่งชิงหย่านอย่างว่างเปล่า ราวกับว่าเขาสามารถเห็นใบหน้าของซ่งชิงหย่าผ่านใบหน้าของนางเมื่อฮ่องเต

DMCA.com Protection Status