เสน่หามนตรา
บทที่ 5 - ปราบพยศ
...ร่างกายสมส่วนเดินย่างกรายตามหลังราชิตตามคำเชิญของเชคฮบราฮิมที่ต้องการพบเธอ กว่าราชิตจะเอ่ยชวนได้ จนเธอนั้นยินยอมตามเขามา ตามที่นายเหนือหัวต้องการก็เล่นหมดน้ำลายไปหลายลิตร กว่าเธอนั้นจะยอมตามมาแต่โดยดีด้วยการยื่นข้อเสนอบางอย่างให้แก่เธอ นั่นคือค่าเสียเวลาต่อนาที แต่เธอคนนี้ก็แสนจะระวังตัวเองเป็นอย่างดี แต่เจตนาของราชิตแค่สนองให้นายเหนือหัวเท่านั้น ไม่ได้คิดปองร้ายเธอแม้แต่น้อย
"นายท่านรอพบคุณด้านในครับ"ราชิตบอกทันทีเมื่อเดินมาหยุดตรงประตูห้องรับรองบานใหญ่สุดหรูภายในโรงแรมที่ตกแต่งสุดตระการตาระดับเจ็ดดาว
"ฉันยังสงสัย...นายท่านของคุณต้องการพบฉันทำไม หรือโกรธที่ฉันเดินชน แต่ฉันก็ขอโทษไปแล้วนะ" ม่านฟ้ายืนกอดอกร่ายยาวอย่างหงุดหงิดแต่ก็จำยอมเดินเข้าไป เมื่อราชิตเปิดประตูให้ ไม่ได้เห็นแก่เงินค่าเสียเวลาหรอกนะ...ถ้าไม่มากพอ! ^○^
"ชริ!...ไม่มีปากหรือไงนะ" ม่านฟ้าไม่วายหันไปแขวะราชิตด้วยคำพูดภาษาไทยอย่างอารมณ์เสียและหงุดหงิด ก่อนจะเดินผ่านหน้าราชิตเข้าไป
...ห้องพักสุดหรูอลังการสีทอง เฟอร์นิเจอร์หรูหราตั้งตระหง่านจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ชายร่างสูงกำยำล่ำสันนั่งมองมายังม่านฟ้าด้วยแววตาเสน่หา แต่ม่านฟ้ากลับไม่ได้สนใจหนุ่มรูปงามเลยแม้แต่น้อย สายตาคมของม่านฟ้านั้นมองคล้อยไล่กวาดสายตาโดยรอบ ที่เอาแต่เชยชมความสวยงามตรงหน้าที่มันดึงดูดสายตาเธอเท่านั้น
"อะแฮ่ม"
"อุ้ย!" ม่านฟ้าสะดุ้งตัวโหยง เมื่อเสียงกระแอมดังขึ้นจนทำให้เธอนั้นหลุดจากภวังค์ และมองไปยังต้นเสียงทันที
"คุณไม่เห็นผมเหรอ" เชคฮบราฮิมรู้สึกเสียหน้าแต่ไม่กล้าแสดงออกเท่าไหร่ เมื่อม่านฟ้าไม่ได้สนใจมองเขาเลย เอาแต่เชยชมสิ่งปลูกสร้างที่มนุษย์ปั้นแต่งเท่านั้น
"ฉันขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน" ม่านฟ้าบอกออกไปด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษ
"เราไม่เคยรู้จักกัน...แล้วเรียกฉันมาพบทำไม ยิ่งใหญ่มาจากไหน แล้วถ้าจะว่าเรื่องที่ฉันชนคุณ ฉันก็ขอโทษไปแล้วด้วย!..." ม่านฟ้าร่ายยาวอย่างไม่ได้เกรงกลัวมาดนิ่งขรึมของชายตรงหน้าสักนิด เมื่อชายหนุ่มเอาแต่มองเธอหน้านิ่งไม่ยอมพูดอะไรที่เป็นเนื้อหาสาระ
"........." เชคฮบราฮิมไม่ตอบ ลุกยืนเต็มความสูงแล้วเดินเข้ามาหาม่านฟ้า คนตัวเล็กที่แผดเสียงดัง อย่างไม่เกรงกลัวเขาสักนิด ทั้งที่คนอื่นในอาหรับแค่ได้ยินชื่อของเขาก็ยังกลัวจนตัวสั่น
"เป็นใบ้หรือไง ถามก็ไม่ อื้อ....." คำพูดถูกสูบคืนลงลำคอระหงส์ เมื่อปากหนาประทับลงปิดกลีบปากบางทันที ที่เอาแต่พร่ำพรรณาร่ายยาวอย่างตำหนิจนเชคฮบราฮิมอดที่จะทำโทษไม่ได้ ดวงตาของม่านฟ้าเบิกกว้างอย่างตกใจ การจู่โจมบดจูบที่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ม่านฟ้าแน่นิ่งไปชั่วขณะอย่างกับโดนช็อตด้วยกระแสไฟ
...เมื่อสติกลับมาว่าร่างกายที่ถูกรุกล้ำ ม่านฟ้าพยายามถอยใบหน้าออกห่าง แต่เชคฮบราฮิมกับกดรั้งท้ายทอยให้แน่นิ่งอย่างบังคับ มือบางทุบตีลงไหล่กว้างแข็งแรงแต่ก็ไม่มีไหวติงใด ๆ ทั้งที่ม่านฟ้าทุบตีสุดแรงที่มี
...เมื่อพอใจกับการฉกชิมความหวานในโพรงปากสาว เชคฮบราฮิมจึงละริมฝีปากออกในระยะประชิด ดวงตาคมเฉี่ยวดุจพญาเหยี่ยวที่บินโฉบท่ามกลางทะเลทรายจ้องมองสบตาเข้าไปในดวงตากลมโตสีนิลนั้นอย่างเสน่หา
"ทำบ้าอะไรของคุณเนี้ย!" ม่านฟ้าถอยกรูออกห่าง แต่ถูกวงแขนแกร่งรวบรัดเข้าหาจนด้านหน้ากระทบกับอกแกร่งแข็งแรง "ปล่อยฉันนะ!...ไอ้โรคจิต!" คำสบประมาทที่เกิดมาไม่เคยมีใครกล้ากล่าวหาเชคฮบราฮิมสักครั้ง แต่ม่านฟ้ากลับสาดทอด่าเสียเทเสียอย่างไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย
"หยุด!" คำปรามเสียงเข้มที่ทรงพลังเอ่ยขึ้น
"ไอ้โรจิต! ไอ้บ้า! ไอ้หื่นกาม ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้" ร่างบางดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดแน่นของเชคฮบราฮิม แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการได้ด้วยแรงหญิงที่มีน้อยนิดหรือจะสู้แรงชายชาตรีได้
"ถ้าไม่หยุดผมจะปล้ำคุณ ตรงนี้! ตอนนี้!" ได้ผลเมื่อคำขู่ที่แสนดุดันถูกพ่นออกมา ม่านฟ้าที่กำลังพยศสงบนิ่งชะงักงันทันที และส่งสายตาเคืองแค้นอย่างเอาเรื่องที่เขานั้นบังอาจพรากจูบแรกของเธอไป จูบที่เธอหวังจะมองให้ชายที่รัก
เชคฮบราฮิม ชายหนุ่มรูปงาม คมเข้ม ร่างกายกำยำล่ำสัน เป็นที่หมายตาของสาว ๆ แค่เพียงกระดิกนิ้วไม่กี่ที ก็มีหญิงสาวเข้าหา แต่กลับไม่ใช่ม่านฟ้าหญิงไทยคนนี้ ความมั่นใจในตัวเองถดถอยลงเมื่อถูกเธอนั้นสบประมาทด้วยคำด่าทอ ^ไอ้โรคจิต...หื่นกาม^ ชีคคาตำแหน่งหนึ่งเดียวที่สาวๆ ทั่วทั้งอาหรับอยากจะครอบครอง แต่เชคฮบราฮิมยังไม่ต้องตาถูกใจจะมอบตำแหน่งนี้ ที่ต้องเคียงกายเขาให้กับใครโดยง่าย หากไม่ใช่หญิงที่เขารัก
"อยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ อย่าพยศให้มาก" เสียงเข้มดุดันสั่งการ
"คุณก็ปล่อยฉันสิ!" กลิ่นสาบสาวที่หอมหวนยั่วยวนเวียนวนในจมูก ทำให้เชคฮบราฮิมนั้นไม่อยากจะปล่อยออกห่าง แต่ก็ต้องยอมเมื่อสาวเจ้านั้นตวาดเสียงแข็ง...เธอคงไม่ใช่ง่าย ๆ เสียแล้ว ทรงคุณค่ากับตำแหน่งชีคคาเสียจริง นี่เขาคิดจริงจังกับคนที่เพิ่งเจอหน้าอย่างนั้นหรือ ? คำเตือนสติที่สงสัยที่ได้แต่ย้อนทวนในใจเท่านั้น "บ้าบอจริงๆ" เสียงสบถหยาบโพลนด้วยภาษาไทยหลุดรอดออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อเธอนั้นหลุดพ้นจากอ้อมกอดชายหนุ่ม
"ต้องการเท่าไหร่"
"อะไรต้องการเท่าไหร่"
"เงิน ทอง เครื่องเพชร บ้านหรือว่ารถ"
"บ้าบออะไรของคุณเนี้ย"
"อยากได้อะไร...แค่บอกผม"
"โอ้ย! นี่คุณ! ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูด"
"บอกผมมา"
"นี่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น ไม่เอาเข้าใจไหม"
"อยากได้อะไร"
"นี่!...ทำไมคุณหน้ามึนขนาดนี้ ห๊ะ! ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ!...ไอ้คนบ้าเอาแต่ใจ" ม่านฟ้าสุดจะทนกับสิ่งที่ชายหนุ่มพร่ำพูดโดยไม่สนใจคำถามและสิ่งที่เธอสงสัยสักนิด จนต้องตะเบงเสียงดังแหลมอย่างต่อต้าน ความทนทานของเชคฮบราฮิมก็เสียกระไร เขานั้นตั้งใจจะกลั่นแกล้งม่านฟ้าหรือว่าสิ่งที่พูดออกมานั้นเป็นดั่งที่พูดจริง ๆ จากส่วนลึกข้างใน
เสน่หามนตราบทที่ 6 - แกล้ง"ผมถามว่าต้องการเท่าไหร่" เชคฮบราฮิมยังคงพูดวนซ้ำเช่นเดิมอย่างกลั่นแกล้ง ท่าทางของม่านฟ้าเวลาเคืองโกรธโมโห มันดูน่ามอง น่าเสน่หามากสำหรับชายหนุ่ม จนเขานั้นอดใจแทบไม่ได้ อยากจะจัดการเธอให้สาสมกับคำด่าทอที่สาดใส่เขาเสียจริงเชียว แม่นางฟ้าเดินดิน"ฉันไม่ได้ขายตัวนะ ไอ้บ้า!" ม่านฟ้าคนหน้านิ่งต้องหัวเสียหงุดหงิด เมื่อชายหนุ่มคิดเอาแต่มองเธอในแง่ลบ และพร่ำพูดแค่คำเดิม ๆ ออกมา"นี่คุณ ฉันเสียเวลาไร้สาระกับคุณมามากพอแล้วนะ" และม่านฟ้าเริ่มป่วยการที่จะพูดต่อเมื่อเชคฮบราฮิมเอาแต่ถามแบบเดิมๆ วกวนจนเริ่มเอือมระอา ต้องเริ่มลดน้ำหนักเสียงอ่อนลงอย่างหน่าย ๆ"ผมจะจ่ายค่าเสียเวลาให้ตามที่ราชิตเสนอให้แต่แรกที่เจรจากับคุณ" ให้ตายเถอะปกติเชคฮบราฮิมไม่เคยต้องพูดประโยคยาวขนาดนี้มาก่อน แต่กับม่านฟ้าเขาต้องเปลืองน้ำลายแค่ไหน"เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ..." ม่านฟ้าเชิดหน้าพูดออกมาอย่างขึงขัง"ทานข้าวกับผมสักครั้งหน่อยเป็นไร...ม่านฟ้า""เอ๋...คุณรู้ชื่อฉันได้ยังไง " ดวงตาคมสีนิลเบิกกว้างทันใดเมื่อชื่อที่เธอไม่เคยบอกเขาสักครั้งแต่เขานั้นกลับพูดมันออกมา"ไม่มีอะไรที่ผมอยากรู้แล้ว
เสน่หามนตราบทที่ 7 - รุก! ( NC 10%)เมื่อสิ้นคำพูดที่ เชคฮ บราฮิม กล่าวลั่น ม่านฟ้าก็แย้งขึ้นทันที "แล้วคุณจะทนทำไม...รู้จักกันไหม ? ก็เปล่าเลย" ม่านฟ้าแย้งขึ้นทันควัน"หนึ่ง..." เสียงเข้มนับเลขเป็นภาษาอังกฤษ สายตาคมจ้องมองม่านฟ้าอย่างไม่ละสายตา ขาแกร่งค่อย ๆ ขยับเข้ามาทีละก้าว จนสาวเจ้าต้องก้าวถอยหลังให้ออกห่าง"........" ความรู้สึกหวาดระแวงเมื่อสายตาชายหนุ่มเอาแต่จ้องมอง "จา จะทำอะไร""สอง..." ขาแกร่งขยับเข้าหาช้า ๆ ไม่ได้สนใจคำถามม่านฟ้าสักนิด"นี่คุณ! ขยับออกไปนะ...อ๊ะ!" แผ่นหลังบางกระทบกับผนังห้อง วงแขนแกร่งกักกั้นเธอไว้ทันทีอย่างไม่รีรอ"หึ" รอยยิ้มร้ายมุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม เมื่อเห็นแล้วว่าม่านฟ้าไร้หนทางหลีกหนี"อะ ออกไปนะ" เสียงพูดติดขัดอย่างหวาดระแวง รอยยิ้มร้ายที่เหมือนแอบแฝงอะไรบางอย่าง จนม่านฟ้านั้นเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย"ไม่อยากจะใช้กำลังบังคับ""งั้นก็หลบและปล่อยฉันสิ""..............." ใบหน้าคมสันเลื่อนเข้ามาใกล้อย่างช้า ๆ อีกทั้งสายตายังจ้องมองหน้าหญิงสาวไม่วางตา ทำเอาม่านฟ้านั้นใจเต้นโครมครามอย่างไม่อาจหักห้ามได้เมื่อมองใบหน้าคมนี้ในระยะประชิด เขาดูมีเสน่ห์ แว
เสน่หามนตราบทที่ 8 - ตั้งใจเชคฮ บราฮิมรับตัวม่านฟ้าที่ไร้เรี่ยวแรงจะยืน ยกอุ้มตัวสาวขึ้นแนบอกก่อนจะพาเดินไปแล้ววางเธอนั่งนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหรูขลิบทอง ท่ามกลางอาหารมากมายละลานตา เวลานี้เธอควรทานอาหารได้แล้ว...ท่ามกลางบรรยากาศที่สว่างไสวด้วยแสงเทียนสีนวล บนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายเมนู ใบหน้าสวยเสลาเมื่อกระทบกับเสียงเทียนช่างดูตราตรึง น่าค้นหาสายตาคมของเชคฮ บราฮิมจ้องมองอย่างไม่ลดละท่ามกลางความเงียบไร้เสียงสนทนา ม่านฟ้าที่ต้องจำยอมทานมื้อเย็นกับเชคฮบราฮิมผู้สูงศักดิ์ด้วยเม็ดเงินจำนวนมากสำหรับเธอที่เขาเสนอให้นอกจากค่าเสียเวลาต่อนาทีแล้ว เธอยังได้อีกหนึ่งหมื่นดอลล่าตามที่เชคฮ บราฮิมเสนอ..."อาหารถูกปากไหม" เชคฮบราฮิมเอ่ยถามเมื่อนานแล้วบนโต๊ะอาหารมีแต่ความเงียบสงัด"ค่ะ" คำตอบแสนสั้นแต่รับรู้ได้ ม่านฟ้าตอบแค่นั้นและหันไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้ามันตอกย้ำว่าศักดิ์ศรีและความสาวของเธอ ถูกพังทลายลงด้วยฝีมือผู้ชายตรงหน้า เธอโกรธ!"อยากได้อะไรเพิ่มไหม" เชคฮ บราฮิม สรรค์หาคำถามอีกครั้ง เมื่อม่านฟ้าเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาตักข้าวเข้าปากอย่างเดียว โดยไม่สนใจเหลียวมองเขาเลย
เสน่หามนตราบทที่ 9 - มารหัวใจเมื่อเสียงปริศนาภาษาอังกฤษดังขึ้นทั้งม่านฟ้าและครรชิต จึงเบนสายตาไปยังเจ้าของเสียง ชายหนุ่มรูปร่างสูง กำยำล่ำสัน ในชุดสูทสีเข้มกำลังเดินมุ่งตรงมาประชิดในการสนทนาของคนทั้งสอง พร้อมกับคนสนิทอย่างราชิตที่ติดสอยห้อยตามตูดมาไม่ห่างกาย "คุณม่านฟ้ารู้จักเขาเหรอครับ"("ไม่ค่ะ/รู้") ม่านฟ้าและบราฮิมพูดขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดแนะ"ฉันไม่รู้จักเขาค่ะ" ม่านฟ้าตอบปฏิเสธโดยไม่มองหน้าเชคฮ บราฮิมสักนิด"ทำไมจะไม่รู้...เมื่อกี้เรายังทานข้าวด้วยกัน" เชคฮ บราฮิมสวนขึ้นทันที และเขาก็รู้ว่าตอนนี้ม่านฟ้านั้นโกรธและไม่พอใจเขาอยู่ และที่ตามมาก็หวังจะมาดูให้แน่ใจว่าเธอถึงห้องพักอย่างปลอดภัย แต่ไหนเลยถึงมาเจอม่านฟ้ากับชายที่คนนี้ จึงทำให้เขานั้นต้องแสดงตัว"นี่คุณ!" ม่านฟ้าแผดเสียงดังใส่อย่างเหลืออดใส่เชคฮ บราฮิม ที่ยืนหน้านิ่งมองไปที่ครรชิตอย่างไม่วางตา"ก็จริง ผมพูดผิดตรงไหน" เชคฮ บราฮิมยังคงพูดต่อโดยเจตนานั้นไม่ได้อยากทำให้ม่านฟ้าโกรธ เขาแค่ต้องการเเสดงตัวให้ครรชิตรู้เท่านั้น...คนฉลาดอย่างเขามีหรือจะมองครรชิตไม่ออกว่าคิดยังไงกับม่านฟ้า ผีเห็นผีเท่านั้นถึงจะเข้าใจ...ครรชิตที
บทที่ 1สาธารณะรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาณาเขตดินแดนในฝันที่ใครหลายคนนั้นอยากไปเหยียบสักครั้งในชีวิต ด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ความมั่งคั่งของผู้คนและเศรษฐกิจที่รุ่งเรือง ความตระการตาของตึกราบ้านช่อง วัฒนธรรมที่น่าศึกษาและสิ่งสวยงามของประเทศนี้ที่แตกต่างและหรูหรา"สวยจัง" เสียงหวานของม่านฟ้าหญิงสาววัยสร้างตัวที่ได้แต่นั่งมองรูปภาพ ชื่นชมทัศนียภาพแค่ภาพนิ่ง อยากให้สักวันมันเป็นความจริง ว่าเธอนั้นจะได้มีโอกาสสัมผัส ผืนทะเลทราย ที่ร้อนระอุแต่มันก็มีความงามในแบบของตัวมันเอง ที่ทำให้ม่านฟ้านั้นหลงใหล อยากจะไปสักครั้งม่านฟ้า เป็นสาวโสดตัวคนเดียว ไร้ญาติพี่น้อง พ่อแม่ตายจากตั้งแต่เธอยังเด็ก มีเพียงยายคนเดียวที่ชุบเลี้ยงเธอมา แต่ต้องมาจากลาไปอย่างไม่มีวันกลับเมื่อปีที่แล้วด้วยโรคชรา ม่านฟ้าเป็นคนใจแข็ง เธอเลือกคบคน น้อยนักที่ใครจะกล้าเข้าหาเพราะหน้าตา ท่าทางเธอนั้นดูเย็นชา ม่านฟ้าชอบอิสระ ชอบท่องเที่ยว ชอบถ่ายรูป มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่แอบดื้อเงียบ มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าได้กล้าเสียม่านฟ้าทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีเพื่อนที่สนิทกันแค่ไม่กี่คน เพราะเธอนั้นเลือกที่คบ มันมีสาเหตุให้เธอเป็น
บทที่ 2 - ครรชิตท้องฟ้าที่แสนสดใส แสงแดดเจิดจ้าร้อนระอุจนแสบผิวของเมืองไทย สาวไทยผิวสองสีกำลังย่างกรายเรียวขายาวสวยเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้เธอจะไปทำตามฝันที่ตั้งใจ ม่านฟ้าทำการลาพักร้อนด้วยสิทธิ์ที่เธอนั้นมี วันนี้เธอจะได้เหยียบผืนดินที่ใฝ่ฝันมานาน"เดินทางดีๆ นะแก" เอยเพื่อนสนิทมาส่งม่านฟ้ายังสนามบินเพื่อเดินทางไปยังที่หมาย สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์"ขอบใจนะเอย...ที่มาส่ง" ม่านฟ้าขยับเข้าไปกอดเอยอย่างขอบคุณ"เที่ยวให้สนุกนะแก...ฝันกำลังเป็นจริงแล้ว""อืม...ฝากดูแลบ้านด้วยนะ รดน้ำต้นไม้ให้ด้วย" ม่านฟ้าละกอดจากเอย และเอ่ยฝากฝังดูแลบ้านที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ยายทิ้งไว้ให้ก่อนลาลับจากโลกไปเสียงเครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าที่แสนกว้างใหญ่ไพศาล แพก้อนเมมฆสีขาวสะอาดตาหนากระทบกับแสงแดดจ้า ส่องประกายระยิบระยับ เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติช่างสรรค์สร้างขึ้นมาเสียจริง สายตาคมจ้องมองความงามบนท้องฟ้ารอยยิ้มและหัวใจเต้นตุบ ๆ...บริษัททัวร์ที่ม่านฟ้าเลือกใช้บริการก็ดูแลดีเสียจริง การเดินทางที่ไร้คนรู้จัก ก็ไม่ยักจะเป็นอุปสรรคต่อม่านฟ้าเลยสักนิด"สวัสดีครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้นจนเธอต้องละ
เสน่หามนตราบทที่ 3 - เชคฮบราฮิม"วันนี้เรามีภาระกิจที่ไหนบ้าง ราชิต" ทายาทผู้นำรัฐเอ่ยถามเลขาคนสนิทถึงภาระกิจที่ต้องทำ ตามที่ท่านผู้นำรัฐมอบหมายให้"ท่านจะต้องต้อนรับแขกคนสำคัญด้วยตนเองที่สนามบินครับ...และเลี้ยงรับรองในมื้อเย็น เป็นอันเสร็จภาระกิจของวันนี้ครับ" ราชิตร่ายยาวถึงภาระกิจที่เชคฮบราฮิมต้องทำ"ทานข้าวอย่างนั้นหรือ...ใครกันแขกสำคัญ เรื่องนี้เราไม่เห็นรู้ล่วงหน้า""ท่านผู้นำสั่งมาแบบกระทันหันครับ ต้องขออภัยที่รายงานช้า" ราชิตเลขาคนสนิทโค้งคำนับอย่างนอบน้อมเป็นการขอโทษขอโพย แต่แท้จริงแล้วราชิตทำโดยคำสั่งท่านผู้นำรัฐต่างหากที่สั่งเข้มไว้ เพราะหากบอกกล่าวล่วงหน้าบุตรชายทายาทคงปฏิเสธภาระกิจนี้เป็นแน่เชคฮบราฮิม ทายาทลำดับต่อไปต่อจากท่านผู้นำแห่งรัฐชาร์จาห์ ที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอาหรับบนอ่าวเปอร์เซีย ที่มีประชากรนับหลายแสนคน เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมที่มั่งคั่ง ผู้คนมากมายทั้งนักธุรกิจชาวต่างชาติและนักธุรกิจในอาหรับ ที่ต้องการร่วมลงทุนกับธุรกิจของชาร์จาห์ แต่ก็ไม่ง่ายนักเลยที่เชคฮบราฮิมผู้เคร่งครัดและมีแบบแผนจะยอมร่วมลงทุนด้วยง่าย ๆ หากผลที่ได้นั้นไม่มากพอจนเป็นท
เสน่หามนตราบทที่ 4 - ต้องการ...สายตาคมที่ยืนมองเหตุการณ์ในมุมลับตา การเสวนาระหว่างหญิงสาวที่เขาเพิ่งชนอยู่ในสายตาของเชคฮบราฮิมตลอดหลังจากที่เขานั้นเดินออกมา เชคฮบราฮิมดั่งถูกสาปให้นิ่งดั่งหินเมื่อเห็นใบหน้าหวานเสลา ดุจนางพญา ดวงตาคมของม่านฟ้าที่มองหน้าสบตาเขามันตราตรึงติดในดวงตาอย่างน่าจดจำ...^นางฟ้าเดินดิน^ เขาตราหน้าเธอในใจ"มีอะไรพึงพอใจหรือครับท่าน" ราชิตเลขาคนสนิทเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าคนเป็นนายอมยิ้มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หากสิ่งนั้นไม่ถูกใจจริง ๆ"เราพอใจหญิงนางนั้น" เชคฮบราฮิมเอ่ยบอก"ท่านหมายถึงใครหรือครับ""นางฟ้าเดินดินคนนั้น" คำพูดที่ทำเอาเลขาอย่างราชิตถึงกับงวยงงเมื่อเจ้านายพร่ำบอก "คนที่ชนเราตอนเข้ามา" เชคฮบราฮิมขยายความเมื่อเห็นแล้วว่าคนสนิทไม่เข้าใจ "เราต้องการเธอคนนั้น!" เสียงเข้มแผดดังอย่างมุ่งมั่น"แต่กระผมเกรงว่า...""อยากได้ก็คืออยากได้!...ไปสืบมาว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน" เสียงราชิตต้องหลบคืนกลับสู่ลำคอเมื่อเจ้านายแผดเสียงกังวาลดังลั่นยิ่งกว่าระฆัง ทายาทท่านผู้นำแห่งรัฐชาร์จาห์ที่ใครต่อใครนั้นเกรงขาม ด้วยสมญานามที่ก้องไปทั่วว่าดุดันและเด็ดขาดที่สุด สิ่งไหนที่เชค
เสน่หามนตราบทที่ 9 - มารหัวใจเมื่อเสียงปริศนาภาษาอังกฤษดังขึ้นทั้งม่านฟ้าและครรชิต จึงเบนสายตาไปยังเจ้าของเสียง ชายหนุ่มรูปร่างสูง กำยำล่ำสัน ในชุดสูทสีเข้มกำลังเดินมุ่งตรงมาประชิดในการสนทนาของคนทั้งสอง พร้อมกับคนสนิทอย่างราชิตที่ติดสอยห้อยตามตูดมาไม่ห่างกาย "คุณม่านฟ้ารู้จักเขาเหรอครับ"("ไม่ค่ะ/รู้") ม่านฟ้าและบราฮิมพูดขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดแนะ"ฉันไม่รู้จักเขาค่ะ" ม่านฟ้าตอบปฏิเสธโดยไม่มองหน้าเชคฮ บราฮิมสักนิด"ทำไมจะไม่รู้...เมื่อกี้เรายังทานข้าวด้วยกัน" เชคฮ บราฮิมสวนขึ้นทันที และเขาก็รู้ว่าตอนนี้ม่านฟ้านั้นโกรธและไม่พอใจเขาอยู่ และที่ตามมาก็หวังจะมาดูให้แน่ใจว่าเธอถึงห้องพักอย่างปลอดภัย แต่ไหนเลยถึงมาเจอม่านฟ้ากับชายที่คนนี้ จึงทำให้เขานั้นต้องแสดงตัว"นี่คุณ!" ม่านฟ้าแผดเสียงดังใส่อย่างเหลืออดใส่เชคฮ บราฮิม ที่ยืนหน้านิ่งมองไปที่ครรชิตอย่างไม่วางตา"ก็จริง ผมพูดผิดตรงไหน" เชคฮ บราฮิมยังคงพูดต่อโดยเจตนานั้นไม่ได้อยากทำให้ม่านฟ้าโกรธ เขาแค่ต้องการเเสดงตัวให้ครรชิตรู้เท่านั้น...คนฉลาดอย่างเขามีหรือจะมองครรชิตไม่ออกว่าคิดยังไงกับม่านฟ้า ผีเห็นผีเท่านั้นถึงจะเข้าใจ...ครรชิตที
เสน่หามนตราบทที่ 8 - ตั้งใจเชคฮ บราฮิมรับตัวม่านฟ้าที่ไร้เรี่ยวแรงจะยืน ยกอุ้มตัวสาวขึ้นแนบอกก่อนจะพาเดินไปแล้ววางเธอนั่งนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหรูขลิบทอง ท่ามกลางอาหารมากมายละลานตา เวลานี้เธอควรทานอาหารได้แล้ว...ท่ามกลางบรรยากาศที่สว่างไสวด้วยแสงเทียนสีนวล บนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายเมนู ใบหน้าสวยเสลาเมื่อกระทบกับเสียงเทียนช่างดูตราตรึง น่าค้นหาสายตาคมของเชคฮ บราฮิมจ้องมองอย่างไม่ลดละท่ามกลางความเงียบไร้เสียงสนทนา ม่านฟ้าที่ต้องจำยอมทานมื้อเย็นกับเชคฮบราฮิมผู้สูงศักดิ์ด้วยเม็ดเงินจำนวนมากสำหรับเธอที่เขาเสนอให้นอกจากค่าเสียเวลาต่อนาทีแล้ว เธอยังได้อีกหนึ่งหมื่นดอลล่าตามที่เชคฮ บราฮิมเสนอ..."อาหารถูกปากไหม" เชคฮบราฮิมเอ่ยถามเมื่อนานแล้วบนโต๊ะอาหารมีแต่ความเงียบสงัด"ค่ะ" คำตอบแสนสั้นแต่รับรู้ได้ ม่านฟ้าตอบแค่นั้นและหันไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้ามันตอกย้ำว่าศักดิ์ศรีและความสาวของเธอ ถูกพังทลายลงด้วยฝีมือผู้ชายตรงหน้า เธอโกรธ!"อยากได้อะไรเพิ่มไหม" เชคฮ บราฮิม สรรค์หาคำถามอีกครั้ง เมื่อม่านฟ้าเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาตักข้าวเข้าปากอย่างเดียว โดยไม่สนใจเหลียวมองเขาเลย
เสน่หามนตราบทที่ 7 - รุก! ( NC 10%)เมื่อสิ้นคำพูดที่ เชคฮ บราฮิม กล่าวลั่น ม่านฟ้าก็แย้งขึ้นทันที "แล้วคุณจะทนทำไม...รู้จักกันไหม ? ก็เปล่าเลย" ม่านฟ้าแย้งขึ้นทันควัน"หนึ่ง..." เสียงเข้มนับเลขเป็นภาษาอังกฤษ สายตาคมจ้องมองม่านฟ้าอย่างไม่ละสายตา ขาแกร่งค่อย ๆ ขยับเข้ามาทีละก้าว จนสาวเจ้าต้องก้าวถอยหลังให้ออกห่าง"........" ความรู้สึกหวาดระแวงเมื่อสายตาชายหนุ่มเอาแต่จ้องมอง "จา จะทำอะไร""สอง..." ขาแกร่งขยับเข้าหาช้า ๆ ไม่ได้สนใจคำถามม่านฟ้าสักนิด"นี่คุณ! ขยับออกไปนะ...อ๊ะ!" แผ่นหลังบางกระทบกับผนังห้อง วงแขนแกร่งกักกั้นเธอไว้ทันทีอย่างไม่รีรอ"หึ" รอยยิ้มร้ายมุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม เมื่อเห็นแล้วว่าม่านฟ้าไร้หนทางหลีกหนี"อะ ออกไปนะ" เสียงพูดติดขัดอย่างหวาดระแวง รอยยิ้มร้ายที่เหมือนแอบแฝงอะไรบางอย่าง จนม่านฟ้านั้นเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย"ไม่อยากจะใช้กำลังบังคับ""งั้นก็หลบและปล่อยฉันสิ""..............." ใบหน้าคมสันเลื่อนเข้ามาใกล้อย่างช้า ๆ อีกทั้งสายตายังจ้องมองหน้าหญิงสาวไม่วางตา ทำเอาม่านฟ้านั้นใจเต้นโครมครามอย่างไม่อาจหักห้ามได้เมื่อมองใบหน้าคมนี้ในระยะประชิด เขาดูมีเสน่ห์ แว
เสน่หามนตราบทที่ 6 - แกล้ง"ผมถามว่าต้องการเท่าไหร่" เชคฮบราฮิมยังคงพูดวนซ้ำเช่นเดิมอย่างกลั่นแกล้ง ท่าทางของม่านฟ้าเวลาเคืองโกรธโมโห มันดูน่ามอง น่าเสน่หามากสำหรับชายหนุ่ม จนเขานั้นอดใจแทบไม่ได้ อยากจะจัดการเธอให้สาสมกับคำด่าทอที่สาดใส่เขาเสียจริงเชียว แม่นางฟ้าเดินดิน"ฉันไม่ได้ขายตัวนะ ไอ้บ้า!" ม่านฟ้าคนหน้านิ่งต้องหัวเสียหงุดหงิด เมื่อชายหนุ่มคิดเอาแต่มองเธอในแง่ลบ และพร่ำพูดแค่คำเดิม ๆ ออกมา"นี่คุณ ฉันเสียเวลาไร้สาระกับคุณมามากพอแล้วนะ" และม่านฟ้าเริ่มป่วยการที่จะพูดต่อเมื่อเชคฮบราฮิมเอาแต่ถามแบบเดิมๆ วกวนจนเริ่มเอือมระอา ต้องเริ่มลดน้ำหนักเสียงอ่อนลงอย่างหน่าย ๆ"ผมจะจ่ายค่าเสียเวลาให้ตามที่ราชิตเสนอให้แต่แรกที่เจรจากับคุณ" ให้ตายเถอะปกติเชคฮบราฮิมไม่เคยต้องพูดประโยคยาวขนาดนี้มาก่อน แต่กับม่านฟ้าเขาต้องเปลืองน้ำลายแค่ไหน"เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ..." ม่านฟ้าเชิดหน้าพูดออกมาอย่างขึงขัง"ทานข้าวกับผมสักครั้งหน่อยเป็นไร...ม่านฟ้า""เอ๋...คุณรู้ชื่อฉันได้ยังไง " ดวงตาคมสีนิลเบิกกว้างทันใดเมื่อชื่อที่เธอไม่เคยบอกเขาสักครั้งแต่เขานั้นกลับพูดมันออกมา"ไม่มีอะไรที่ผมอยากรู้แล้ว
เสน่หามนตราบทที่ 5 - ปราบพยศ...ร่างกายสมส่วนเดินย่างกรายตามหลังราชิตตามคำเชิญของเชคฮบราฮิมที่ต้องการพบเธอ กว่าราชิตจะเอ่ยชวนได้ จนเธอนั้นยินยอมตามเขามา ตามที่นายเหนือหัวต้องการก็เล่นหมดน้ำลายไปหลายลิตร กว่าเธอนั้นจะยอมตามมาแต่โดยดีด้วยการยื่นข้อเสนอบางอย่างให้แก่เธอ นั่นคือค่าเสียเวลาต่อนาที แต่เธอคนนี้ก็แสนจะระวังตัวเองเป็นอย่างดี แต่เจตนาของราชิตแค่สนองให้นายเหนือหัวเท่านั้น ไม่ได้คิดปองร้ายเธอแม้แต่น้อย"นายท่านรอพบคุณด้านในครับ"ราชิตบอกทันทีเมื่อเดินมาหยุดตรงประตูห้องรับรองบานใหญ่สุดหรูภายในโรงแรมที่ตกแต่งสุดตระการตาระดับเจ็ดดาว"ฉันยังสงสัย...นายท่านของคุณต้องการพบฉันทำไม หรือโกรธที่ฉันเดินชน แต่ฉันก็ขอโทษไปแล้วนะ" ม่านฟ้ายืนกอดอกร่ายยาวอย่างหงุดหงิดแต่ก็จำยอมเดินเข้าไป เมื่อราชิตเปิดประตูให้ ไม่ได้เห็นแก่เงินค่าเสียเวลาหรอกนะ...ถ้าไม่มากพอ! ^○^"ชริ!...ไม่มีปากหรือไงนะ" ม่านฟ้าไม่วายหันไปแขวะราชิตด้วยคำพูดภาษาไทยอย่างอารมณ์เสียและหงุดหงิด ก่อนจะเดินผ่านหน้าราชิตเข้าไป...ห้องพักสุดหรูอลังการสีทอง เฟอร์นิเจอร์หรูหราตั้งตระหง่านจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ชายร่างสูงกำยำล่ำสันนั่งม
เสน่หามนตราบทที่ 4 - ต้องการ...สายตาคมที่ยืนมองเหตุการณ์ในมุมลับตา การเสวนาระหว่างหญิงสาวที่เขาเพิ่งชนอยู่ในสายตาของเชคฮบราฮิมตลอดหลังจากที่เขานั้นเดินออกมา เชคฮบราฮิมดั่งถูกสาปให้นิ่งดั่งหินเมื่อเห็นใบหน้าหวานเสลา ดุจนางพญา ดวงตาคมของม่านฟ้าที่มองหน้าสบตาเขามันตราตรึงติดในดวงตาอย่างน่าจดจำ...^นางฟ้าเดินดิน^ เขาตราหน้าเธอในใจ"มีอะไรพึงพอใจหรือครับท่าน" ราชิตเลขาคนสนิทเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าคนเป็นนายอมยิ้มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หากสิ่งนั้นไม่ถูกใจจริง ๆ"เราพอใจหญิงนางนั้น" เชคฮบราฮิมเอ่ยบอก"ท่านหมายถึงใครหรือครับ""นางฟ้าเดินดินคนนั้น" คำพูดที่ทำเอาเลขาอย่างราชิตถึงกับงวยงงเมื่อเจ้านายพร่ำบอก "คนที่ชนเราตอนเข้ามา" เชคฮบราฮิมขยายความเมื่อเห็นแล้วว่าคนสนิทไม่เข้าใจ "เราต้องการเธอคนนั้น!" เสียงเข้มแผดดังอย่างมุ่งมั่น"แต่กระผมเกรงว่า...""อยากได้ก็คืออยากได้!...ไปสืบมาว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน" เสียงราชิตต้องหลบคืนกลับสู่ลำคอเมื่อเจ้านายแผดเสียงกังวาลดังลั่นยิ่งกว่าระฆัง ทายาทท่านผู้นำแห่งรัฐชาร์จาห์ที่ใครต่อใครนั้นเกรงขาม ด้วยสมญานามที่ก้องไปทั่วว่าดุดันและเด็ดขาดที่สุด สิ่งไหนที่เชค
เสน่หามนตราบทที่ 3 - เชคฮบราฮิม"วันนี้เรามีภาระกิจที่ไหนบ้าง ราชิต" ทายาทผู้นำรัฐเอ่ยถามเลขาคนสนิทถึงภาระกิจที่ต้องทำ ตามที่ท่านผู้นำรัฐมอบหมายให้"ท่านจะต้องต้อนรับแขกคนสำคัญด้วยตนเองที่สนามบินครับ...และเลี้ยงรับรองในมื้อเย็น เป็นอันเสร็จภาระกิจของวันนี้ครับ" ราชิตร่ายยาวถึงภาระกิจที่เชคฮบราฮิมต้องทำ"ทานข้าวอย่างนั้นหรือ...ใครกันแขกสำคัญ เรื่องนี้เราไม่เห็นรู้ล่วงหน้า""ท่านผู้นำสั่งมาแบบกระทันหันครับ ต้องขออภัยที่รายงานช้า" ราชิตเลขาคนสนิทโค้งคำนับอย่างนอบน้อมเป็นการขอโทษขอโพย แต่แท้จริงแล้วราชิตทำโดยคำสั่งท่านผู้นำรัฐต่างหากที่สั่งเข้มไว้ เพราะหากบอกกล่าวล่วงหน้าบุตรชายทายาทคงปฏิเสธภาระกิจนี้เป็นแน่เชคฮบราฮิม ทายาทลำดับต่อไปต่อจากท่านผู้นำแห่งรัฐชาร์จาห์ ที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอาหรับบนอ่าวเปอร์เซีย ที่มีประชากรนับหลายแสนคน เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมที่มั่งคั่ง ผู้คนมากมายทั้งนักธุรกิจชาวต่างชาติและนักธุรกิจในอาหรับ ที่ต้องการร่วมลงทุนกับธุรกิจของชาร์จาห์ แต่ก็ไม่ง่ายนักเลยที่เชคฮบราฮิมผู้เคร่งครัดและมีแบบแผนจะยอมร่วมลงทุนด้วยง่าย ๆ หากผลที่ได้นั้นไม่มากพอจนเป็นท
บทที่ 2 - ครรชิตท้องฟ้าที่แสนสดใส แสงแดดเจิดจ้าร้อนระอุจนแสบผิวของเมืองไทย สาวไทยผิวสองสีกำลังย่างกรายเรียวขายาวสวยเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้เธอจะไปทำตามฝันที่ตั้งใจ ม่านฟ้าทำการลาพักร้อนด้วยสิทธิ์ที่เธอนั้นมี วันนี้เธอจะได้เหยียบผืนดินที่ใฝ่ฝันมานาน"เดินทางดีๆ นะแก" เอยเพื่อนสนิทมาส่งม่านฟ้ายังสนามบินเพื่อเดินทางไปยังที่หมาย สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์"ขอบใจนะเอย...ที่มาส่ง" ม่านฟ้าขยับเข้าไปกอดเอยอย่างขอบคุณ"เที่ยวให้สนุกนะแก...ฝันกำลังเป็นจริงแล้ว""อืม...ฝากดูแลบ้านด้วยนะ รดน้ำต้นไม้ให้ด้วย" ม่านฟ้าละกอดจากเอย และเอ่ยฝากฝังดูแลบ้านที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ยายทิ้งไว้ให้ก่อนลาลับจากโลกไปเสียงเครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าที่แสนกว้างใหญ่ไพศาล แพก้อนเมมฆสีขาวสะอาดตาหนากระทบกับแสงแดดจ้า ส่องประกายระยิบระยับ เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติช่างสรรค์สร้างขึ้นมาเสียจริง สายตาคมจ้องมองความงามบนท้องฟ้ารอยยิ้มและหัวใจเต้นตุบ ๆ...บริษัททัวร์ที่ม่านฟ้าเลือกใช้บริการก็ดูแลดีเสียจริง การเดินทางที่ไร้คนรู้จัก ก็ไม่ยักจะเป็นอุปสรรคต่อม่านฟ้าเลยสักนิด"สวัสดีครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้นจนเธอต้องละ
บทที่ 1สาธารณะรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาณาเขตดินแดนในฝันที่ใครหลายคนนั้นอยากไปเหยียบสักครั้งในชีวิต ด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ความมั่งคั่งของผู้คนและเศรษฐกิจที่รุ่งเรือง ความตระการตาของตึกราบ้านช่อง วัฒนธรรมที่น่าศึกษาและสิ่งสวยงามของประเทศนี้ที่แตกต่างและหรูหรา"สวยจัง" เสียงหวานของม่านฟ้าหญิงสาววัยสร้างตัวที่ได้แต่นั่งมองรูปภาพ ชื่นชมทัศนียภาพแค่ภาพนิ่ง อยากให้สักวันมันเป็นความจริง ว่าเธอนั้นจะได้มีโอกาสสัมผัส ผืนทะเลทราย ที่ร้อนระอุแต่มันก็มีความงามในแบบของตัวมันเอง ที่ทำให้ม่านฟ้านั้นหลงใหล อยากจะไปสักครั้งม่านฟ้า เป็นสาวโสดตัวคนเดียว ไร้ญาติพี่น้อง พ่อแม่ตายจากตั้งแต่เธอยังเด็ก มีเพียงยายคนเดียวที่ชุบเลี้ยงเธอมา แต่ต้องมาจากลาไปอย่างไม่มีวันกลับเมื่อปีที่แล้วด้วยโรคชรา ม่านฟ้าเป็นคนใจแข็ง เธอเลือกคบคน น้อยนักที่ใครจะกล้าเข้าหาเพราะหน้าตา ท่าทางเธอนั้นดูเย็นชา ม่านฟ้าชอบอิสระ ชอบท่องเที่ยว ชอบถ่ายรูป มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่แอบดื้อเงียบ มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าได้กล้าเสียม่านฟ้าทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีเพื่อนที่สนิทกันแค่ไม่กี่คน เพราะเธอนั้นเลือกที่คบ มันมีสาเหตุให้เธอเป็น