แฟ้มประวัติของหญิงสาวเกือบห้าสิบคนถูกวางลงบนโต๊ะของยานอฟนักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งไทยยูเครน ขณะที่เจ้าตัวนั้นเพิ่งคุยโทรศัพท์กับลูกค้าคนสำคัญเสร็จพอดี
“ผมคัดมาให้บอสมีห้าสิบคนครับ ที่เหลือดูแล้วไม่น่าจะถูกใจก็เลยไม่ได้เอาเข้ามาให้” กาซิมลูกน้องคนสนิทคัดเลือกแฟ้มผู้หญิงทั้งหมดที่ทางโมเดลลิงส่งมารวมร้อยกว่าคนเขาคัดออกจนเหลือแค่ห้าสิบคนที่คิดว่าตรงสเปกเจ้านายของตนเองมากที่สุด
“ครั้งนี้ส่งมาทั้งหมดเท่าไหร่เหรอกาซิม”
“เกือบร้อยห้าสิบครับ ถ้าบอสไม่สนใจห้าสิบคนตรงนี้ ผมค่อยเอาที่เหลือมาให้”
“ไม่เป็นไรฉันเชื่อใจนาย” ยานอฟทำงานร่วมกับกาซิมมาตั้งแต่เขาอายุสิบแปดปี จนถึงตอนนี้ก็สิบสองปีแล้ว กาซิมเป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งพี่และเป็นผู้ช่วยที่รู้ใจเขามากที่สุด ชายหนุ่มช่วยงานเขาได้ในทุกๆ เรื่องรวมถึงการจัดหาผู้หญิงมาให้เขาด้วย
ยานอฟมีคู่หมั้นอยู่แล้วเขากับเธอหมั้นกันมาได้เกือบห้าปีแต่ก็ยังไม่คิดจะแต่งงานกัน ทั้งสองต่างรู้ว่าการหมั้นหมายที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดจากความรัก ไลลาเองมีคนรักอยู่แล้วแต่ก็ขัดคำสั่งของบิดาไม่ได้ ยานอฟก็อยากจะถอนหมั้นแต่ตอนนี้บิดาของเธอกำลังป่วยหนัก เธอจึงขอร้องให้เขาอย่าพึ่งพูดเรื่องนี้กับบิดา แต่ก็สัญญากับชายหนุ่มว่าจะไม่ให้เกิดงานแต่งงานขึ้นอย่างแน่นอน
เขากับคู่หมั้นไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกายกันเลย ยานอฟมักจะหาผู้หญิงมานอนด้วย และก็จะมีคนที่เขาเรียกใช้ประจำอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เขาจะเดินทางไปพักผ่อนที่เมืองไทยจึงให้โมเดลลิงจัดหาผู้หญิงให้เขา
ชายหนุ่มวัยสามสิบใบหน้าผสมผสานระหว่างมารดาที่เป็นคนไทยกับบิดาชาวยุโรปอย่างลงตัว เขาจำหน้าบิดามารดาไม่ได้เพราะอายุได้เพียงห้าขวบทั้งสองเสียชีวิตและทิ้งเขาไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กซึ่งเขาก็เจอกับกาซิมที่นั่น
เขาอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กจนถึงอายุสิบห้าจากนั้นก็ออกมาหางานทำและเรียนไปด้วย กว่าเขาจะกลายเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงก็ล้มลุกคลุกคลานจนเกือบท้อ จนได้รับคำปรึกษาและความช่วยเหลือจากบิดาของไลลาทำเขาแข็งแกร่งขึ้นมาได้
ยานอฟพลิกดูแฟ้มประวัติด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย แต่ละคนแทบไม่มีอะไรต่างกันเลยใบหน้าสวยหุ่นดี เขาถอนหายใจเพราะตอนนี้เขาดูรูปมาสามสิบกว่าคนแล้วก็ยังไม่มีผู้ใหญ่ผู้หญิงคนไหนสวยถูกใจเขาเลยสักคน พวกเธอก็เหมือนๆ กันหมดจนเขามองไม่เห็นความแตกต่าง
ชายหนุ่มคิดว่าบางทีอาจจะสุ่มผู้หญิงคนใดคนหนึ่งจากในนี้ขึ้นมาก็ได้ เขาพลิกมาจนเกือบจะถึงหน้าสุดท้ายก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นรูปผู้หญิงตรงหน้า เธอไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงที่เขาดูรูปผ่านผ่านมาเลยแต่มีสิ่งหนึ่งที่สะดุดตานักธุรกิจหนุ่มอย่างเขามากก็คือรอยยิ้มของเธอ ที่ดูมีเสน่ห์เอามากๆ เพียงแค่เขาเห็นก็อยากจะยิ้มตามเธอไปด้วย
“คนนี้แหละกาซิมไปสืบประวัติให้หน่อยนะขอเย็นนี้” เขาส่งประวัติของหญิงสาวคนหนึ่งให้กับผู้ช่วยที่ยืนรออยู่
“ได้ครับบอส” เมื่อรับแฟ้มมาจากเจ้านายแล้วกาซิมก็รีบออกจากห้องเพื่อทำตามคำสั่ง เขาเดาเอาไว้แล้วว่าเจ้านายจะต้องเลือกเธอเพราะรู้ว่ายานอฟชอบผู้หญิงที่ยิ้มสวยและมีเสน่ห์
ยานอฟนั่งทำงานต่ออีกเกือบสองชั่วโมง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อนที่กาซิมจะเข้าพร้อมรูปถ่ายและประวัติของหญิงสาวที่เขาตัดสินใจเลือกไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน
“เธอชื่อมนต์มีนาครับ อายุยี่สิบเอ็ดครับ เรียนอยู่ชั้นปีสามกำลังจะขึ้นปีสี่ อยู่บ้านคนเดียวมารดาเพิ่งเสียชีวิตไปหลายเดือนก่อนเหตุผลที่มารับงานนี้เพราะจะหาเงินมาใช้หนี้และจ่ายเงินค่าบ้านให้กับธนาคารครับ”
“ผู้หญิงตัวคนเดียวแบบนี้ทำไมถึงมีหนี้สินเยอะล่ะ”
“จากที่ผมซื้อมากู้เงินมารักษาแม่ครับ”
“แล้วเธอไม่มีพ่อหรือญาติที่ไหนเหรอ”
“ไม่มีครับเธออาศัยอยู่กับแม่สองคนตั้งแต่เด็กทางโมเดลลิงยืนยันว่ามนต์มีนาเป็นเด็กนิสัยดีเธอขยันทำงานมากๆ ครับ”
“เธอมีแฟนหรือเพื่อนผู้ชายบ้างไหม” เขาอยากถามเรื่องนี้ให้แน่ใจเพราะไม่อยากให้มีปัญหาตามมาทีหลัง
“เพื่อนผู้ชายพอมีครับแต่ไม่เคยคบใครอย่างจริงจัง”
“ฉันว่าครั้งนี้จะไปอยู่ที่เกาะนายช่วยจัดการให้แม่บ้านทำความสะอาดและเตรียมของให้พร้อมด้วย แล้วก็อย่าลืมบอกเธอด้วยนะว่าที่นั่นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ฉันอยากให้เธอเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะไปอยู่ที่เกาะเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม”
“ครับบอส ผมร่างสัญญาไว้แล้วและจะส่งสัญญาให้ทางนั้นเซ็นวันจันทร์”
“ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยนะกาซิมว่าทางโมเดลลิงหักค่าหัวคิวเธออีกหรือเปล่าและก็ถามด้วยว่าเธอเต็มใจทำงานนี้จริงๆ หรือเปล่าไม่ใช่ถูกบังคับ” แม้จะรู้สึกถูกชะตาและพอใจกับมนต์มีนามากแค่ไหนแต่ยานอฟก็ไม่อยากฝืนใจใคร
การหาผู้หญิงสักคนมานอนสำหรับยานอฟไม่ใช่เรื่องยากเลยแต่ที่เขาต้องทำแบบนี้เพราะอยากให้ทุกอย่างมันจบอยู่ที่นั่น เขาไม่อยากมีภาระรับผิดชอบหรือต้องมีใครมาตามหึงหวงทีหลัง
ผู้หญิงที่เขานอนด้วยทุกคนจะต้องเชื่อฟังเขาและถ้าเจอกันในสถานที่อื่นก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาทักทายหรือแสดงตัวออกว่าเคยรู้จักเขามาก่อน
ชายหนุ่มเป็นคนค่อนข้างระวังตัวมากเขามีธุรกิจหลายอย่างที่ต้องดูแลเลยการจะนอนกับผู้หญิงสักคนเขาต้องเช็กให้แน่ใจว่าพวกเธอจะไม่ใช่คนของฝ่ายตรงข้าม
เมื่อกาซิมออกไปจากห้องแล้วยานอฟก็หยิบรูปถ่ายของมนต์มีนาขึ้นมาดูเขา กระตุกยิ้มร่างกายรู้สึกตื่นตัวเมื่อคิดว่าอีกไม่นานจะได้เจอผู้หญิงที่มีรอยยิ้มดึงดูดใจเขามากเช่นนี้
เสียงเคาะประตูห้องทำงานได้อีกครั้งยานอฟเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มเมื่อเห็นว่าเป็นคู่หมั้น เขารีบหยิบรูปภาพผู้หญิงทั้งหมดลงลิ้นชัก
“ไลลามีอะไรหรือเปล่า จะเข้ามาทำไมไม่โทรมาบอกผมก่อน”
“พ่ออาการไม่ดีเลยค่ะฉันอยากพาคุณไปเยี่ยมพ่อด้วยกัน” หญิงสาวเดินมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานและเห็นว่าเขาเพิ่งจะเก็บรูปผู้หญิงลงลิ้นชัก แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร
“คุณมายังไงไลลา เอารถมาหรือเปล่า”
“ฉันให้คนขับรถมาส่งค่ะตอนนี้เขาน่าจะกลับไปแล้ว” หญิงสาวตอบพลางคล้องแขนชายเดินออกมาจากห้องทำงาน ออกไปยังหน้าบริษัทซึ่งตอนนี้คนขับรถของยานอฟมาจอดรออยู่แล้ว
หญิงสาวขึ้นไปนั่งก่อนจากนั้นยานอฟก็ขึ้นไปนั่งก่อนจะปิดกระจกกั้นระหว่างคนขับกับผู้โดยสาร
“หมอว่ายังไงบ้างไลลา” เขาถามหลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อย
“พ่อเหนื่อยมากค่ะ ตอนนี้มีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดด้วยฉันไม่แน่ใจว่าพอจะอยู่ได้นานแค่ไหน” ไลลารู้สึกใจคอไม่ดี ยิ่งตอนที่มารดาโทรศัพท์มาบอกเธอให้รีบพายานอฟไปเจอกับบิดาเพราะท่านมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย
“อย่าห่วงไปเลยไลลา หมอที่นี่เก่งยังไงคุณลุงก็จะต้องดีขึ้นและท่านจะอยู่กับเราไปอีกนาน”
“ยานอฟคะ บางทีฉันก็คิดว่าตอนนี้คุณพ่อทรมานมากๆ แล้วฉันคุยกับคุณแม่แล้วค่ะถ้าท่านเป็นอะไรไป เราจะไม่ให้หมอปั๊มหัวใจท่านเพราะท่านเหนื่อยมามากจริงๆ”
“อย่าพึ่งคิดไปไกลขนาดนั้นเลยนะไลลา” เขาจับมือคู่หมั้นสาวอย่างให้กำลังใจ
ยานอฟกับไลลามาถึงโรงพยาบาลก็รีบวิ่งขึ้นไปบนแผนกของผู้ป่วยซึ่งตอนนี้บิดาของหญิงสาวนอนรักษาอยู่ตอนนี้ข้างเตียงบิดามีมารดาและพี่ชายของเธออีกสองคนยืนอยู่ข้างๆ“พ่อเป็นยังไงบ้างคะ”“พ่อบ่นว่าเหนื่อย”“พ่อขาหนูมาแล้วค่ะ หนูพายานอฟมาด้วยนะคะ”ชายชราที่นอนอยู่บนเตียงพยายามจะอ้าปากพูด ไลลาขยับเข้าไปใกล้ท่านมากขึ้น หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้ กุมมือของท่านไว้แน่น เขาจับมือของไลลาแน่นและหันไปมองหน้ายานอฟที่ยืนอยู่ปลายเตียง พอชายหนุ่มเห็นสายตานั้นก็รีบเข้ามาใกล้และนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับไลลา“ฝากไลลาด้วยนะยานอฟ” เสียงอันแผ่วเบาออกมาจากปากของชายสูงวัยเขาเหนื่อยล้ามากกว่าทุกครั้งที่ยานอฟเคยมาเยี่ยม“ไม่ต้องห่วงผมจะดูแลไลลาอย่างดี” ยานอฟรีบรับปากเพราะเห็นนะว่าตอนนี้คนป่วยอาการเริ่มจะแย่ลงแล้วหลังจากฝากลูกสาวกับคู่หมั้นแล้วชายชราก็หายใจแรงขึ้นและถี่ขึ้นจนหมอและพยาบาลต้องพากันวิ่งเข้ามาดูชายชรามองหน้าทุกคนแล้วยิ้มก่อนที่ลมหายใจของเขาจากแผ่วลง จนในที่สุดท่านก็ไม่หายใจ ตัวเลขอัตราการเต้นหัวใจบนมอนิเตอร์ที่ติดไว้ค่อยๆ ลดลงจนเหลือศูนย์ไลลาและพี่ชายทั้งสองคนจับมือชายชราแน่นขณะที่มารดาก็กำลังจะล้มลงยานอฟที
มนต์มีนาได้รับโทรศัพท์จากพี่ปานทิพย์แจ้งเรื่องงานที่เธอส่งใบสมัครไว้ตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ พี่ปานทิพย์นัดให้หญิงสาวไปเจอเช้าวันจันทร์เพื่อจะคุยรายละเอียดเรื่องสัญญาต่างๆ และมนต์มีนาจะตัดสินใจอีกครั้งได้อีกครั้งหลังจากอ่านสัญญาทั้งหมดอย่างเข้าใจแล้วพี่ปานทิพย์บอกอีกว่าให้เธอมาคนเดียวและสถานที่นัดครั้งนี้ไม่ใช่ที่โมเดลลิงแต่เป็นอาคารสำนักงานหญิงสาวอยากบอกเรื่องนี้กับชาลิดาเพื่อนสนิทแต่ก็ไม่สามารถบอกกับใครได้ เธอตื่นตั้งแต่เช้าแต่งตัวด้วยชุดสบายๆ กางเกงยีนรองเท้าผ้าใบกับเสื้อยืดสีขาวจากนั้นก็ใส่เสื้อแขนยาวทับ ก่อนจะเดินออกไปยังปากซอยและนั่งรถเมล์ไปยังสำนักงานที่พี่ปานทิพย์ส่งโลเคชันมาให้หญิงสาวมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย เธอเข้านั่งรอด้านล่างของอาคารแห่งหนึ่งไม่นานนักพี่ปานทิพย์ก็เดินตามเข้ามา“มีนมาถึงนานหรือยัง”“เกือบสิบนาทีแล้วค่ะ ทำไมเราต้องมาที่นี่ด้วยคะพี่ปาน”“เขาให้เรามาเจอตัวแทนของเขาก่อน จะได้อ่านสัญญากัน ไปกันเถอะเขาน่าจะรออยู่แล้ว”ปานทิพย์กดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้น 23 ซึ่งเธอนัดกับตัวแทนของผู้ว่าจ้างไว้ที่นี่“เชิญด้านไหนเลยครับ” พนักงานต้อนรับที่อยู่หน้าลิฟต์บอกให้หญิงสาวสองคนเดินเข
มนต์มีนานั่งรถปานทิพย์มาที่โมเดลลิงของเธอก่อนเพราะที่นี่อยู่ใกล้บ้านของหญิงสาวมากกว่าอาคารที่เพิ่งไปเซ็นสัญญามา เธอเดินตามเจ้าของโมเดลลิงเข้าไปนั่งข้างในห้องทำงานซึ่งตอนนี้ผู้ช่วยของพี่ปานทิพย์ไม่ได้อยู่ในห้อง“พี่เห็นสัญญาแล้วพี่ว่ามันก็ค่อนข้างโอเคนะ เรื่องนี้จะมีคนรู้แค่พี่มีนแล้วก็ออยเท่านั้น ถ้ามีคนถามถึงมีนพี่จะบอกว่ามีนไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัดดีไหม คนอื่นจะได้ไม่สงสัย”“ได้ค่ะ หนูก็จะบอกออยให้บอกคนอื่นไปแบบนั้นเหมือนกัน”“ถ้าไปอยู่ที่นู่นอาจจะติดต่อกันลำบากแต่ถ้ามีนมีเรื่องด่วนก็อย่าลืมขอใช้โทรศัพท์ของเจ้านายโทรมาหาพี่ได้ทุกเมื่อ” เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ส่งเด็กไปทานแบบนี้ปานทิพย์เลยค่อนข้างจะห่วง“ค่ะพี่ปาน”ขณะที่มนต์มีนากำลังนั่งคุยอยู่กับปานทิพย์เสียงแจ้งจากแอพพลิเคชันธนาคารก็ดังขึ้นยอดเงินที่โอนเข้ามาให้หญิงสาวคือห้าแสน บาทถ้วน มนต์มีนาไม่เคยมีเงินแบบนี้มากมายในบัญชีแบบนี้มาก่อน หญิงสาวมองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง“พี่ปานคะเขาโอนมาให้หนูจริงๆ ค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยความตื่นเต้น“เมื่อกี้เขาก็บอกแล้วว่าเขาจะโอนเงินงวดแรกให้ก่อนครึ่งหนึ่งของพี่เองก็ได้มาแล้วแสนห้าจบงานก็คงได้แส
เมื่อทานอาหารไปได้สักพักมนต์มีนาก็เริ่มเกริ่นเรื่องที่ตัวเองได้รับเลือกให้กับชาลิดาฟัง“ออยมีนมีเรื่องจะบอกออย”“เรื่องอะไรล่ะ พูดมาเลย” ชาลิดาหยิบไก่ย่างเข้าปากแล้วเคี้ยวด้วยความเอร็ดอร่อย“ก็เรื่องที่พี่ปานพูดวันก่อน”“วันนี้วันจันทร์แล้วนี่ พี่ปานยังไม่ได้แจ้งข่าวมาเลยไม่รู้ว่าใครได้รับเลือก มีนรู้แล้วใช่ไหมว่าใครได้รับเลือก”“จริงๆ เขาแจ้งมาตั้งแต่เมื่อวาน”“อะไรนะทำไมออยไม่เห็นรู้เลยล่ะ”“พี่ปานเขาโทรมาแจ้งที่มีนน่ะ”“มีนได้งานนี้ใช่ไหม เขาถึงแจ้งที่มีนคนเดียว”“อือ มีนได้งานนี้แล้ว วันนี้ก็เพิ่งไปเซ็นสัญญามา”“อะไรนะมีนทำไมมันเร็วจังล่ะ ออยขอดูสัญญาด้วยได้ไหม เผื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากลจะได้ยกเลิกทัน”“ได้สิ” มนต์มีนาหยิบสัญญาในกระเป๋าผ้าส่งให้เพื่อน ชาลิดาตั้งใจอ่านบรรทัดด้วยความตั้งใจ ก่อนจะวางกระดาษลงเมื่ออ่านถึงบรรทัดสุดท้าย“ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงนะ ออยว่าดีด้วยซ้ำ คนอื่นก็จะได้ไม่รู้เรื่องนี้ด้วย แล้วมีนมาบอกแบบนี้จะไม่เป็นการผิดสัญญาเหรอ”“ไม่หรอกมีนขอเขาแล้วว่าขอบอกเพื่อนสนิทคนหนึ่งถ้ามีนหายไปเฉยๆ ออยก็ต้องสงสัยแน่ๆ และถ้าไปถามเอาจากคนอื่นเรื่องมันก็จะบานปลาย”“แล้วมีนต้องไปอยู
เช้าวันใหม่มนต์มีนาเดินไปซื้อข้าวเหนียวหน้าปากซอยพอกลับมาถึงบ้านชาลิดาก็อุ่นไส้อั่วกับไก่ย่างที่เหลือเมื่อวานไว้รออยู่แล้วทั้งสองทานอาหารเช้าด้วยกันจากนั้นก็ช่วยกันเก็บล้างทำความสะอาดก่อนจะนั่งดูทีวีเพื่อรอเวลาให้คนของเจ้านายมารับรถตู้คันหรูจอดที่หน้าบ้านพร้อมกับชายฉกรรจ์สวมสูทเดินลงมาจากรถ เขากดออดและยืนรอไม่นานเจ้าของบ้านก็เดินมาเปิด“คุณสุทัศน์คะมีนมีอะไรจะขออย่างหนึ่งได้ไหม”“เรื่องอะไรครับ” เขาถามหญิงเจ้านายอย่างสุภาพ“เรื่องที่มีนบอกว่ามีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งแล้วขาบอกความจริงกับเขา”“ถ้าเป็นเรื่องนั้นเจ้านายผมบอกว่าไม่มีปัญหา”“คือวันนี้เขาก็อยู่ที่นี่ด้วยมีนอยากให้เขาไปด้วยตอนเราไปตรวจร่างกายได้ไหมคะ”“รอสักครู่นะครับ” คุณสุทัศน์เดินหลบไปบริเวณหลังรถตู้ไม่นานก็กลับออกมาพยักหน้าให้กับหญิงสาว“เจ้านายบอกว่าไม่มีปัญหา”“งั้นคุณรอตรงนี้นะคะมีนขอไปตามเพื่อนก่อน” มนต์มีนารีบวิ่งเข้ามาในบ้านและชวนชาลิดาที่ตอนนี้เตรียมตัวพร้อมอยู่ก่อนแล้ว“ว่าไงมีนเขาให้ออยไปด้วยได้ใช่ไหม”“เขาบอกว่าได้ เราไปกันเถอะเพื่อทำธุระเสร็จเร็วมีนจะได้เบิกเงินไปจ่ายหนี้เจ๊ที่ตลาดด้วย มีนจะรีบทำธุระทุกอย่างให้
มนต์มีนากำลังจัดเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นลงกระเป๋าเดินทางสองใบที่คุณสุทัศน์ซื้อมาให้ เมื่อตรวจดูจนแน่ใจว่าไม่ลืมอะไรแล้วก็รูดซิปปิดก่อนจะลากมารอที่ห้องรับแขก“ไม่ลืมอะไรแน่นะมีน” ชาลิดาที่ช่วยเพื่อนจัดกระเป๋าตั้งแต่บ่ายเมื่อวานมองกระเป๋าใบใหญ่หนึ่งใบและใบขนาดกลางอีกหนึ่งใบด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล“ไม่หรอกน่าจะลืมอะไรแล้ว”“ใจหายเหมือนกันนะจะไม่ได้ติดต่อกันตั้งหนึ่งเดือน”“ถ้าไปถึงที่นู่นแล้วมีนจะพยายามหาทางติดต่อมานะ บางที่เกาะที่เราไปมันอาจจะพอมีสัญญาณมือถืออยู่บ้างแต่อาจไม่แรงเท่าในเมือง”“ออยก็ขอให้เป็นแบบนั้น ดูแลตัวเองด้วยนะมีน”“ออยก็เหมือนกันนะ อย่าหักโหมงานมาก”“ขอให้มีนเจอนายจ้างที่ใจดี หล่อๆ หุ่นเหมือนนายแบบนะ”“ขอบใจนะออย”พอถึงเวลานัดคุณสุทัศน์ก็มารักเธอเพื่อไปยังสนามบินและบินบินจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังสนามบินภูเก็ต จากนั้นก็ขึ้นรถไปยังท่าเรือแห่งหนึ่งและก็นั่งเรืออีกเกือบสองชั่วโมงกว่าจะมาถึงเกาะแห่งหนึ่งเรือจอดเทียบท่าบริเวณด้านหน้าของเกาะมนต์มีนาเห็นว่ามีร้านอาหารและโรงแรมตั้งอยู่แต่คุณสุทัศน์บอกว่าบ้านพักของเจ้านายจะต้องอ้อมไปอีกด้านหนึ่งของเกาะซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวหญิ
“ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ ขอให้ทุกท่านเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพแล้วเจอกันใหม่โอกาสหน้านะคะ ขอบคุณทุกท่านมากๆ ค่ะ สวัสดีค่ะ”เสียงปรบมือดังขึ้นและค่อยๆ เงียบหายพร้อมกับไฟบนเวทีดับลง มนต์มีนาถอนหายใจและเดินลงมาด้านหลังเวทีไหล่ผึ่งผายด้วยความสง่างามยามเมื่ออยู่กลางแสงไฟลู่ลงใบหน้าสวยไร้รอยยิ้ม“ไหวมั้ยมีน” ชาลิดาเดินมาประคองเพื่อนให้นั่งลงบนเก้าอี้“ไม่ไหวก็ต้องไหวแหละออย” มนต์มีนายิ้มอ่อน“ออยว่าช่วงนี้มีนรับงานหนักมากเกินไปแล้วนะ วันนี้ก็ตั้งสามงาน” หญิงสาวพูดด้วยความเป็นห่วงเพราะแต่ละงานก็ใช้พลังงานค่อนข้างเยอะและต้องยื่นนานๆ ขนาดตัวเองรับแค่งานเดียวยังเหนื่อยแทบแย่“ขนาดมีนรับงานเยอะอย่างนี้ เงินยังไม่พอใช้หนี้เลยนะออย ตอนนี้บ้านก็กำลังจะถูกยึดแล้ว ส่วนเงินที่ไปกู้มาตอนรักษาแม่ดอกเบี้ยก็โหดเหลือเกินที่ทำทุกวันนี้แทบจะไม่ได้ส่งเงินต้นด้วยซ้ำ”“เงินตั้งมากมายขนาดนั้นออยก็ไม่รู้จะช่วยมีนยังไงนะเหมือนกันนะเฮ้อ...” เพราะทางบ้านของชาลิดาเองก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไรมากนัก ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันและวันนี้มนต์มีนาก็มาทำงานพิธีกรให้กับผลิตภัณฑ์แห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้
มนต์มีนาและชาลิดามาถึงโมเดลลิงเกือบจะสิบนาฬิกา ตอนนี้พี่ปานทิพย์เจ้าของโมเดลลิงยังไม่ได้เข้ามา ด้านในจึงมีแค่ลูกน้องของเธอเด็กในสังกัดคนอื่นๆ ที่มานั่งรออยู่มนต์มีนายิ้มทักทายให้กับทุกคนก่อนจะเข้าไปนั่งรอทางด้านใน ซึ่งตอนนี้มีเด็กในสังกัดของพี่ปานทิพย์มารออยู่เกือบสามสิบคน“ทำไมวันนี้คนมาเยอะจังมีอะไรกันเหรอ” ชาลิดาสะกิดถามเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ“ไม่ได้อ่านไลน์กลุ่มเหรอออยหรือวันนี้พี่ปานทิพย์เขาเรียกให้ทุกคนมาประชุมกันที่นี่เห็นว่ามีงานใหญ่จะให้ทำ”“อ้าวเหรอเราไม่รู้เลยมัวแต่ทำงานหนัก”“เราก็นึกว่ารู้แล้วก็เลยไม่ได้ไลน์ส่วนตัวไปบอก”“มีนรู้ไหม” ชาลิดากันไปถามมนต์มีนา“มีนก็ไม่รู้เหมือนกันมัวแต่ยุ่งๆ ไม่ได้อ่านไลน์กลุ่มเลย แต่ก็ดีนะที่วันนี้เรานัดกันจะมาหาพี่ปานอยู่พอดี”“นั่นสิไม่รู้พี่เขามีงานอะไรจะคุยนะ ถึงเรียกมากันเยอะขนาดนี้ขอให้เป็นงานใหญ่ทีเถอะ พวกเราจะได้งานกันทุกคน”“นั่นสิช่วงนี้ปิดเทอมด้วยใครๆ ก็ว่างกันทั้งนั้นถ้างานเล็กๆ ก็คงต้องแย่งกันอีกตามเคย” มนต์มีนาหวังว่างานวันนี้คงจะใหญ่มากพอที่พวกเธอจะได้ไม่ต้องแย่งกัน“เห็นว่าช่วงนี้งานจากต่างประเทศค่อนข้างเยอะ นี่เราว่าจะลงเรี
มนต์มีนากำลังจัดเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นลงกระเป๋าเดินทางสองใบที่คุณสุทัศน์ซื้อมาให้ เมื่อตรวจดูจนแน่ใจว่าไม่ลืมอะไรแล้วก็รูดซิปปิดก่อนจะลากมารอที่ห้องรับแขก“ไม่ลืมอะไรแน่นะมีน” ชาลิดาที่ช่วยเพื่อนจัดกระเป๋าตั้งแต่บ่ายเมื่อวานมองกระเป๋าใบใหญ่หนึ่งใบและใบขนาดกลางอีกหนึ่งใบด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล“ไม่หรอกน่าจะลืมอะไรแล้ว”“ใจหายเหมือนกันนะจะไม่ได้ติดต่อกันตั้งหนึ่งเดือน”“ถ้าไปถึงที่นู่นแล้วมีนจะพยายามหาทางติดต่อมานะ บางที่เกาะที่เราไปมันอาจจะพอมีสัญญาณมือถืออยู่บ้างแต่อาจไม่แรงเท่าในเมือง”“ออยก็ขอให้เป็นแบบนั้น ดูแลตัวเองด้วยนะมีน”“ออยก็เหมือนกันนะ อย่าหักโหมงานมาก”“ขอให้มีนเจอนายจ้างที่ใจดี หล่อๆ หุ่นเหมือนนายแบบนะ”“ขอบใจนะออย”พอถึงเวลานัดคุณสุทัศน์ก็มารักเธอเพื่อไปยังสนามบินและบินบินจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังสนามบินภูเก็ต จากนั้นก็ขึ้นรถไปยังท่าเรือแห่งหนึ่งและก็นั่งเรืออีกเกือบสองชั่วโมงกว่าจะมาถึงเกาะแห่งหนึ่งเรือจอดเทียบท่าบริเวณด้านหน้าของเกาะมนต์มีนาเห็นว่ามีร้านอาหารและโรงแรมตั้งอยู่แต่คุณสุทัศน์บอกว่าบ้านพักของเจ้านายจะต้องอ้อมไปอีกด้านหนึ่งของเกาะซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวหญิ
เช้าวันใหม่มนต์มีนาเดินไปซื้อข้าวเหนียวหน้าปากซอยพอกลับมาถึงบ้านชาลิดาก็อุ่นไส้อั่วกับไก่ย่างที่เหลือเมื่อวานไว้รออยู่แล้วทั้งสองทานอาหารเช้าด้วยกันจากนั้นก็ช่วยกันเก็บล้างทำความสะอาดก่อนจะนั่งดูทีวีเพื่อรอเวลาให้คนของเจ้านายมารับรถตู้คันหรูจอดที่หน้าบ้านพร้อมกับชายฉกรรจ์สวมสูทเดินลงมาจากรถ เขากดออดและยืนรอไม่นานเจ้าของบ้านก็เดินมาเปิด“คุณสุทัศน์คะมีนมีอะไรจะขออย่างหนึ่งได้ไหม”“เรื่องอะไรครับ” เขาถามหญิงเจ้านายอย่างสุภาพ“เรื่องที่มีนบอกว่ามีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งแล้วขาบอกความจริงกับเขา”“ถ้าเป็นเรื่องนั้นเจ้านายผมบอกว่าไม่มีปัญหา”“คือวันนี้เขาก็อยู่ที่นี่ด้วยมีนอยากให้เขาไปด้วยตอนเราไปตรวจร่างกายได้ไหมคะ”“รอสักครู่นะครับ” คุณสุทัศน์เดินหลบไปบริเวณหลังรถตู้ไม่นานก็กลับออกมาพยักหน้าให้กับหญิงสาว“เจ้านายบอกว่าไม่มีปัญหา”“งั้นคุณรอตรงนี้นะคะมีนขอไปตามเพื่อนก่อน” มนต์มีนารีบวิ่งเข้ามาในบ้านและชวนชาลิดาที่ตอนนี้เตรียมตัวพร้อมอยู่ก่อนแล้ว“ว่าไงมีนเขาให้ออยไปด้วยได้ใช่ไหม”“เขาบอกว่าได้ เราไปกันเถอะเพื่อทำธุระเสร็จเร็วมีนจะได้เบิกเงินไปจ่ายหนี้เจ๊ที่ตลาดด้วย มีนจะรีบทำธุระทุกอย่างให้
เมื่อทานอาหารไปได้สักพักมนต์มีนาก็เริ่มเกริ่นเรื่องที่ตัวเองได้รับเลือกให้กับชาลิดาฟัง“ออยมีนมีเรื่องจะบอกออย”“เรื่องอะไรล่ะ พูดมาเลย” ชาลิดาหยิบไก่ย่างเข้าปากแล้วเคี้ยวด้วยความเอร็ดอร่อย“ก็เรื่องที่พี่ปานพูดวันก่อน”“วันนี้วันจันทร์แล้วนี่ พี่ปานยังไม่ได้แจ้งข่าวมาเลยไม่รู้ว่าใครได้รับเลือก มีนรู้แล้วใช่ไหมว่าใครได้รับเลือก”“จริงๆ เขาแจ้งมาตั้งแต่เมื่อวาน”“อะไรนะทำไมออยไม่เห็นรู้เลยล่ะ”“พี่ปานเขาโทรมาแจ้งที่มีนน่ะ”“มีนได้งานนี้ใช่ไหม เขาถึงแจ้งที่มีนคนเดียว”“อือ มีนได้งานนี้แล้ว วันนี้ก็เพิ่งไปเซ็นสัญญามา”“อะไรนะมีนทำไมมันเร็วจังล่ะ ออยขอดูสัญญาด้วยได้ไหม เผื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากลจะได้ยกเลิกทัน”“ได้สิ” มนต์มีนาหยิบสัญญาในกระเป๋าผ้าส่งให้เพื่อน ชาลิดาตั้งใจอ่านบรรทัดด้วยความตั้งใจ ก่อนจะวางกระดาษลงเมื่ออ่านถึงบรรทัดสุดท้าย“ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงนะ ออยว่าดีด้วยซ้ำ คนอื่นก็จะได้ไม่รู้เรื่องนี้ด้วย แล้วมีนมาบอกแบบนี้จะไม่เป็นการผิดสัญญาเหรอ”“ไม่หรอกมีนขอเขาแล้วว่าขอบอกเพื่อนสนิทคนหนึ่งถ้ามีนหายไปเฉยๆ ออยก็ต้องสงสัยแน่ๆ และถ้าไปถามเอาจากคนอื่นเรื่องมันก็จะบานปลาย”“แล้วมีนต้องไปอยู
มนต์มีนานั่งรถปานทิพย์มาที่โมเดลลิงของเธอก่อนเพราะที่นี่อยู่ใกล้บ้านของหญิงสาวมากกว่าอาคารที่เพิ่งไปเซ็นสัญญามา เธอเดินตามเจ้าของโมเดลลิงเข้าไปนั่งข้างในห้องทำงานซึ่งตอนนี้ผู้ช่วยของพี่ปานทิพย์ไม่ได้อยู่ในห้อง“พี่เห็นสัญญาแล้วพี่ว่ามันก็ค่อนข้างโอเคนะ เรื่องนี้จะมีคนรู้แค่พี่มีนแล้วก็ออยเท่านั้น ถ้ามีคนถามถึงมีนพี่จะบอกว่ามีนไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัดดีไหม คนอื่นจะได้ไม่สงสัย”“ได้ค่ะ หนูก็จะบอกออยให้บอกคนอื่นไปแบบนั้นเหมือนกัน”“ถ้าไปอยู่ที่นู่นอาจจะติดต่อกันลำบากแต่ถ้ามีนมีเรื่องด่วนก็อย่าลืมขอใช้โทรศัพท์ของเจ้านายโทรมาหาพี่ได้ทุกเมื่อ” เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ส่งเด็กไปทานแบบนี้ปานทิพย์เลยค่อนข้างจะห่วง“ค่ะพี่ปาน”ขณะที่มนต์มีนากำลังนั่งคุยอยู่กับปานทิพย์เสียงแจ้งจากแอพพลิเคชันธนาคารก็ดังขึ้นยอดเงินที่โอนเข้ามาให้หญิงสาวคือห้าแสน บาทถ้วน มนต์มีนาไม่เคยมีเงินแบบนี้มากมายในบัญชีแบบนี้มาก่อน หญิงสาวมองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง“พี่ปานคะเขาโอนมาให้หนูจริงๆ ค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยความตื่นเต้น“เมื่อกี้เขาก็บอกแล้วว่าเขาจะโอนเงินงวดแรกให้ก่อนครึ่งหนึ่งของพี่เองก็ได้มาแล้วแสนห้าจบงานก็คงได้แส
มนต์มีนาได้รับโทรศัพท์จากพี่ปานทิพย์แจ้งเรื่องงานที่เธอส่งใบสมัครไว้ตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ พี่ปานทิพย์นัดให้หญิงสาวไปเจอเช้าวันจันทร์เพื่อจะคุยรายละเอียดเรื่องสัญญาต่างๆ และมนต์มีนาจะตัดสินใจอีกครั้งได้อีกครั้งหลังจากอ่านสัญญาทั้งหมดอย่างเข้าใจแล้วพี่ปานทิพย์บอกอีกว่าให้เธอมาคนเดียวและสถานที่นัดครั้งนี้ไม่ใช่ที่โมเดลลิงแต่เป็นอาคารสำนักงานหญิงสาวอยากบอกเรื่องนี้กับชาลิดาเพื่อนสนิทแต่ก็ไม่สามารถบอกกับใครได้ เธอตื่นตั้งแต่เช้าแต่งตัวด้วยชุดสบายๆ กางเกงยีนรองเท้าผ้าใบกับเสื้อยืดสีขาวจากนั้นก็ใส่เสื้อแขนยาวทับ ก่อนจะเดินออกไปยังปากซอยและนั่งรถเมล์ไปยังสำนักงานที่พี่ปานทิพย์ส่งโลเคชันมาให้หญิงสาวมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย เธอเข้านั่งรอด้านล่างของอาคารแห่งหนึ่งไม่นานนักพี่ปานทิพย์ก็เดินตามเข้ามา“มีนมาถึงนานหรือยัง”“เกือบสิบนาทีแล้วค่ะ ทำไมเราต้องมาที่นี่ด้วยคะพี่ปาน”“เขาให้เรามาเจอตัวแทนของเขาก่อน จะได้อ่านสัญญากัน ไปกันเถอะเขาน่าจะรออยู่แล้ว”ปานทิพย์กดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้น 23 ซึ่งเธอนัดกับตัวแทนของผู้ว่าจ้างไว้ที่นี่“เชิญด้านไหนเลยครับ” พนักงานต้อนรับที่อยู่หน้าลิฟต์บอกให้หญิงสาวสองคนเดินเข
ยานอฟกับไลลามาถึงโรงพยาบาลก็รีบวิ่งขึ้นไปบนแผนกของผู้ป่วยซึ่งตอนนี้บิดาของหญิงสาวนอนรักษาอยู่ตอนนี้ข้างเตียงบิดามีมารดาและพี่ชายของเธออีกสองคนยืนอยู่ข้างๆ“พ่อเป็นยังไงบ้างคะ”“พ่อบ่นว่าเหนื่อย”“พ่อขาหนูมาแล้วค่ะ หนูพายานอฟมาด้วยนะคะ”ชายชราที่นอนอยู่บนเตียงพยายามจะอ้าปากพูด ไลลาขยับเข้าไปใกล้ท่านมากขึ้น หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้ กุมมือของท่านไว้แน่น เขาจับมือของไลลาแน่นและหันไปมองหน้ายานอฟที่ยืนอยู่ปลายเตียง พอชายหนุ่มเห็นสายตานั้นก็รีบเข้ามาใกล้และนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับไลลา“ฝากไลลาด้วยนะยานอฟ” เสียงอันแผ่วเบาออกมาจากปากของชายสูงวัยเขาเหนื่อยล้ามากกว่าทุกครั้งที่ยานอฟเคยมาเยี่ยม“ไม่ต้องห่วงผมจะดูแลไลลาอย่างดี” ยานอฟรีบรับปากเพราะเห็นนะว่าตอนนี้คนป่วยอาการเริ่มจะแย่ลงแล้วหลังจากฝากลูกสาวกับคู่หมั้นแล้วชายชราก็หายใจแรงขึ้นและถี่ขึ้นจนหมอและพยาบาลต้องพากันวิ่งเข้ามาดูชายชรามองหน้าทุกคนแล้วยิ้มก่อนที่ลมหายใจของเขาจากแผ่วลง จนในที่สุดท่านก็ไม่หายใจ ตัวเลขอัตราการเต้นหัวใจบนมอนิเตอร์ที่ติดไว้ค่อยๆ ลดลงจนเหลือศูนย์ไลลาและพี่ชายทั้งสองคนจับมือชายชราแน่นขณะที่มารดาก็กำลังจะล้มลงยานอฟที
แฟ้มประวัติของหญิงสาวเกือบห้าสิบคนถูกวางลงบนโต๊ะของยานอฟนักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งไทยยูเครน ขณะที่เจ้าตัวนั้นเพิ่งคุยโทรศัพท์กับลูกค้าคนสำคัญเสร็จพอดี“ผมคัดมาให้บอสมีห้าสิบคนครับ ที่เหลือดูแล้วไม่น่าจะถูกใจก็เลยไม่ได้เอาเข้ามาให้” กาซิมลูกน้องคนสนิทคัดเลือกแฟ้มผู้หญิงทั้งหมดที่ทางโมเดลลิงส่งมารวมร้อยกว่าคนเขาคัดออกจนเหลือแค่ห้าสิบคนที่คิดว่าตรงสเปกเจ้านายของตนเองมากที่สุด“ครั้งนี้ส่งมาทั้งหมดเท่าไหร่เหรอกาซิม”“เกือบร้อยห้าสิบครับ ถ้าบอสไม่สนใจห้าสิบคนตรงนี้ ผมค่อยเอาที่เหลือมาให้”“ไม่เป็นไรฉันเชื่อใจนาย” ยานอฟทำงานร่วมกับกาซิมมาตั้งแต่เขาอายุสิบแปดปี จนถึงตอนนี้ก็สิบสองปีแล้ว กาซิมเป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งพี่และเป็นผู้ช่วยที่รู้ใจเขามากที่สุด ชายหนุ่มช่วยงานเขาได้ในทุกๆ เรื่องรวมถึงการจัดหาผู้หญิงมาให้เขาด้วย ยานอฟมีคู่หมั้นอยู่แล้วเขากับเธอหมั้นกันมาได้เกือบห้าปีแต่ก็ยังไม่คิดจะแต่งงานกัน ทั้งสองต่างรู้ว่าการหมั้นหมายที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดจากความรัก ไลลาเองมีคนรักอยู่แล้วแต่ก็ขัดคำสั่งของบิดาไม่ได้ ยานอฟก็อยากจะถอนหมั้นแต่ตอนนี้บิดาของเธอกำลังป่วยหนัก เธอจึงขอร้องให้เขาอย่าพึ่งพูดเรื
เมื่อทุกคนทยอยกันออกไปจัดห้องจนหมด ตอนนี้ในห้องก็เหลือแค่มนต์มีนากับชาลิดาเท่านั้น“มีนกับออยมีอะไรจะคุยกับพี่ใช่ไหม”“ค่ะพี่ปาน”“มีอะไรว่ามาเลยจ้ะ ใช่เรื่องเมื่อกี้หรือเปล่า”“ไม่ใช่ค่ะคือมีนกับออยอยากจะมาถามพี่ปานว่าช่วงนี้มีงานอะไรให้เราสองคนทำเพิ่มไหม เรากำลังร้อนเงินค่ะ”“เดี๋ยวพี่จะดูให้นะ ช่วงนี้มันเป็นช่วงปิดเทอมคนก็ว่างกันเยอะลูกค้าก็เลยมีโอกาสที่จะเลือก จริงๆพี่อยากจะช่วยให้เราทุกคนได้งาน ได้เงินแต่บางครั้งโมเดลลิงอื่นเขาก็สู้ไม่ถอยเหมือนกัน ช่วงนี้มันก็เลยมีการตัดราคากันบ้าง” ปานทิพย์ก็หนักใจเรื่องนี้อยู่มาก“ออยเข้าใจค่ะพี่ปาน”“แล้วเราสองคนไม่สนใจจะส่งใบสมัครให้พี่บ้างเหรอ หน้าตาก็สวยหุ่นก็ดีแบบนี้เผื่อจะได้รับเลือกขึ้นมาเงินตั้งหนึ่งล้าน มันเยอะมากพี่ ก็ไม่เห็นด้วยหรอกนะที่จะทำเรื่องแบบนี้แต่เงินมันก็ล่อตาล่อใจจริง”“หนูขอถามอีกนิดได้ไหมค่ะพี่ปาน”“ถามได้เลยจ้ะออย”“ผู้ชายที่เขามาจ้างเราเขาไม่ได้เป็นพวกซาดิสต์อะไรแบบในหนังใช่ไหมคะ”“ไม่หรอกจ้ะ เพราะครั้งที่แล้วเขามาเมืองไทยก็มีเด็กจากโมเดลลิงอื่นไปรับงาน ก็ไม่เห็นมีความผิดปกติอะไร เขาก็แค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่อยากจะมาห
มนต์มีนาและชาลิดามาถึงโมเดลลิงเกือบจะสิบนาฬิกา ตอนนี้พี่ปานทิพย์เจ้าของโมเดลลิงยังไม่ได้เข้ามา ด้านในจึงมีแค่ลูกน้องของเธอเด็กในสังกัดคนอื่นๆ ที่มานั่งรออยู่มนต์มีนายิ้มทักทายให้กับทุกคนก่อนจะเข้าไปนั่งรอทางด้านใน ซึ่งตอนนี้มีเด็กในสังกัดของพี่ปานทิพย์มารออยู่เกือบสามสิบคน“ทำไมวันนี้คนมาเยอะจังมีอะไรกันเหรอ” ชาลิดาสะกิดถามเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ“ไม่ได้อ่านไลน์กลุ่มเหรอออยหรือวันนี้พี่ปานทิพย์เขาเรียกให้ทุกคนมาประชุมกันที่นี่เห็นว่ามีงานใหญ่จะให้ทำ”“อ้าวเหรอเราไม่รู้เลยมัวแต่ทำงานหนัก”“เราก็นึกว่ารู้แล้วก็เลยไม่ได้ไลน์ส่วนตัวไปบอก”“มีนรู้ไหม” ชาลิดากันไปถามมนต์มีนา“มีนก็ไม่รู้เหมือนกันมัวแต่ยุ่งๆ ไม่ได้อ่านไลน์กลุ่มเลย แต่ก็ดีนะที่วันนี้เรานัดกันจะมาหาพี่ปานอยู่พอดี”“นั่นสิไม่รู้พี่เขามีงานอะไรจะคุยนะ ถึงเรียกมากันเยอะขนาดนี้ขอให้เป็นงานใหญ่ทีเถอะ พวกเราจะได้งานกันทุกคน”“นั่นสิช่วงนี้ปิดเทอมด้วยใครๆ ก็ว่างกันทั้งนั้นถ้างานเล็กๆ ก็คงต้องแย่งกันอีกตามเคย” มนต์มีนาหวังว่างานวันนี้คงจะใหญ่มากพอที่พวกเธอจะได้ไม่ต้องแย่งกัน“เห็นว่าช่วงนี้งานจากต่างประเทศค่อนข้างเยอะ นี่เราว่าจะลงเรี