แฟ้มประวัติของหญิงสาวเกือบห้าสิบคนถูกวางลงบนโต๊ะของยานอฟนักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งไทยยูเครน ขณะที่เจ้าตัวนั้นเพิ่งคุยโทรศัพท์กับลูกค้าคนสำคัญเสร็จพอดี
“ผมคัดมาให้บอสมีห้าสิบคนครับ ที่เหลือดูแล้วไม่น่าจะถูกใจก็เลยไม่ได้เอาเข้ามาให้” กาซิมลูกน้องคนสนิทคัดเลือกแฟ้มผู้หญิงทั้งหมดที่ทางโมเดลลิงส่งมารวมร้อยกว่าคนเขาคัดออกจนเหลือแค่ห้าสิบคนที่คิดว่าตรงสเปกเจ้านายของตนเองมากที่สุด
“ครั้งนี้ส่งมาทั้งหมดเท่าไหร่เหรอกาซิม”
“เกือบร้อยห้าสิบครับ ถ้าบอสไม่สนใจห้าสิบคนตรงนี้ ผมค่อยเอาที่เหลือมาให้”
“ไม่เป็นไรฉันเชื่อใจนาย” ยานอฟทำงานร่วมกับกาซิมมาตั้งแต่เขาอายุสิบแปดปี จนถึงตอนนี้ก็สิบสองปีแล้ว กาซิมเป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งพี่และเป็นผู้ช่วยที่รู้ใจเขามากที่สุด ชายหนุ่มช่วยงานเขาได้ในทุกๆ เรื่องรวมถึงการจัดหาผู้หญิงมาให้เขาด้วย
ยานอฟมีคู่หมั้นอยู่แล้วเขากับเธอหมั้นกันมาได้เกือบห้าปีแต่ก็ยังไม่คิดจะแต่งงานกัน ทั้งสองต่างรู้ว่าการหมั้นหมายที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดจากความรัก ไลลาเองมีคนรักอยู่แล้วแต่ก็ขัดคำสั่งของบิดาไม่ได้ ยานอฟก็อยากจะถอนหมั้นแต่ตอนนี้บิดาของเธอกำลังป่วยหนัก เธอจึงขอร้องให้เขาอย่าพึ่งพูดเรื่องนี้กับบิดา แต่ก็สัญญากับชายหนุ่มว่าจะไม่ให้เกิดงานแต่งงานขึ้นอย่างแน่นอน
เขากับคู่หมั้นไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกายกันเลย ยานอฟมักจะหาผู้หญิงมานอนด้วย และก็จะมีคนที่เขาเรียกใช้ประจำอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เขาจะเดินทางไปพักผ่อนที่เมืองไทยจึงให้โมเดลลิงจัดหาผู้หญิงให้เขา
ชายหนุ่มวัยสามสิบใบหน้าผสมผสานระหว่างมารดาที่เป็นคนไทยกับบิดาชาวยุโรปอย่างลงตัว เขาจำหน้าบิดามารดาไม่ได้เพราะอายุได้เพียงห้าขวบทั้งสองเสียชีวิตและทิ้งเขาไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กซึ่งเขาก็เจอกับกาซิมที่นั่น
เขาอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กจนถึงอายุสิบห้าจากนั้นก็ออกมาหางานทำและเรียนไปด้วย กว่าเขาจะกลายเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงก็ล้มลุกคลุกคลานจนเกือบท้อ จนได้รับคำปรึกษาและความช่วยเหลือจากบิดาของไลลาทำเขาแข็งแกร่งขึ้นมาได้
ยานอฟพลิกดูแฟ้มประวัติด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย แต่ละคนแทบไม่มีอะไรต่างกันเลยใบหน้าสวยหุ่นดี เขาถอนหายใจเพราะตอนนี้เขาดูรูปมาสามสิบกว่าคนแล้วก็ยังไม่มีผู้ใหญ่ผู้หญิงคนไหนสวยถูกใจเขาเลยสักคน พวกเธอก็เหมือนๆ กันหมดจนเขามองไม่เห็นความแตกต่าง
ชายหนุ่มคิดว่าบางทีอาจจะสุ่มผู้หญิงคนใดคนหนึ่งจากในนี้ขึ้นมาก็ได้ เขาพลิกมาจนเกือบจะถึงหน้าสุดท้ายก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นรูปผู้หญิงตรงหน้า เธอไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงที่เขาดูรูปผ่านผ่านมาเลยแต่มีสิ่งหนึ่งที่สะดุดตานักธุรกิจหนุ่มอย่างเขามากก็คือรอยยิ้มของเธอ ที่ดูมีเสน่ห์เอามากๆ เพียงแค่เขาเห็นก็อยากจะยิ้มตามเธอไปด้วย
“คนนี้แหละกาซิมไปสืบประวัติให้หน่อยนะขอเย็นนี้” เขาส่งประวัติของหญิงสาวคนหนึ่งให้กับผู้ช่วยที่ยืนรออยู่
“ได้ครับบอส” เมื่อรับแฟ้มมาจากเจ้านายแล้วกาซิมก็รีบออกจากห้องเพื่อทำตามคำสั่ง เขาเดาเอาไว้แล้วว่าเจ้านายจะต้องเลือกเธอเพราะรู้ว่ายานอฟชอบผู้หญิงที่ยิ้มสวยและมีเสน่ห์
ยานอฟนั่งทำงานต่ออีกเกือบสองชั่วโมง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อนที่กาซิมจะเข้าพร้อมรูปถ่ายและประวัติของหญิงสาวที่เขาตัดสินใจเลือกไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน
“เธอชื่อมนต์มีนาครับ อายุยี่สิบเอ็ดครับ เรียนอยู่ชั้นปีสามกำลังจะขึ้นปีสี่ อยู่บ้านคนเดียวมารดาเพิ่งเสียชีวิตไปหลายเดือนก่อนเหตุผลที่มารับงานนี้เพราะจะหาเงินมาใช้หนี้และจ่ายเงินค่าบ้านให้กับธนาคารครับ”
“ผู้หญิงตัวคนเดียวแบบนี้ทำไมถึงมีหนี้สินเยอะล่ะ”
“จากที่ผมซื้อมากู้เงินมารักษาแม่ครับ”
“แล้วเธอไม่มีพ่อหรือญาติที่ไหนเหรอ”
“ไม่มีครับเธออาศัยอยู่กับแม่สองคนตั้งแต่เด็กทางโมเดลลิงยืนยันว่ามนต์มีนาเป็นเด็กนิสัยดีเธอขยันทำงานมากๆ ครับ”
“เธอมีแฟนหรือเพื่อนผู้ชายบ้างไหม” เขาอยากถามเรื่องนี้ให้แน่ใจเพราะไม่อยากให้มีปัญหาตามมาทีหลัง
“เพื่อนผู้ชายพอมีครับแต่ไม่เคยคบใครอย่างจริงจัง”
“ฉันว่าครั้งนี้จะไปอยู่ที่เกาะนายช่วยจัดการให้แม่บ้านทำความสะอาดและเตรียมของให้พร้อมด้วย แล้วก็อย่าลืมบอกเธอด้วยนะว่าที่นั่นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ฉันอยากให้เธอเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะไปอยู่ที่เกาะเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม”
“ครับบอส ผมร่างสัญญาไว้แล้วและจะส่งสัญญาให้ทางนั้นเซ็นวันจันทร์”
“ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยนะกาซิมว่าทางโมเดลลิงหักค่าหัวคิวเธออีกหรือเปล่าและก็ถามด้วยว่าเธอเต็มใจทำงานนี้จริงๆ หรือเปล่าไม่ใช่ถูกบังคับ” แม้จะรู้สึกถูกชะตาและพอใจกับมนต์มีนามากแค่ไหนแต่ยานอฟก็ไม่อยากฝืนใจใคร
การหาผู้หญิงสักคนมานอนสำหรับยานอฟไม่ใช่เรื่องยากเลยแต่ที่เขาต้องทำแบบนี้เพราะอยากให้ทุกอย่างมันจบอยู่ที่นั่น เขาไม่อยากมีภาระรับผิดชอบหรือต้องมีใครมาตามหึงหวงทีหลัง
ผู้หญิงที่เขานอนด้วยทุกคนจะต้องเชื่อฟังเขาและถ้าเจอกันในสถานที่อื่นก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาทักทายหรือแสดงตัวออกว่าเคยรู้จักเขามาก่อน
ชายหนุ่มเป็นคนค่อนข้างระวังตัวมากเขามีธุรกิจหลายอย่างที่ต้องดูแลเลยการจะนอนกับผู้หญิงสักคนเขาต้องเช็กให้แน่ใจว่าพวกเธอจะไม่ใช่คนของฝ่ายตรงข้าม
เมื่อกาซิมออกไปจากห้องแล้วยานอฟก็หยิบรูปถ่ายของมนต์มีนาขึ้นมาดูเขา กระตุกยิ้มร่างกายรู้สึกตื่นตัวเมื่อคิดว่าอีกไม่นานจะได้เจอผู้หญิงที่มีรอยยิ้มดึงดูดใจเขามากเช่นนี้
เสียงเคาะประตูห้องทำงานได้อีกครั้งยานอฟเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มเมื่อเห็นว่าเป็นคู่หมั้น เขารีบหยิบรูปภาพผู้หญิงทั้งหมดลงลิ้นชัก
“ไลลามีอะไรหรือเปล่า จะเข้ามาทำไมไม่โทรมาบอกผมก่อน”
“พ่ออาการไม่ดีเลยค่ะฉันอยากพาคุณไปเยี่ยมพ่อด้วยกัน” หญิงสาวเดินมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานและเห็นว่าเขาเพิ่งจะเก็บรูปผู้หญิงลงลิ้นชัก แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร
“คุณมายังไงไลลา เอารถมาหรือเปล่า”
“ฉันให้คนขับรถมาส่งค่ะตอนนี้เขาน่าจะกลับไปแล้ว” หญิงสาวตอบพลางคล้องแขนชายเดินออกมาจากห้องทำงาน ออกไปยังหน้าบริษัทซึ่งตอนนี้คนขับรถของยานอฟมาจอดรออยู่แล้ว
หญิงสาวขึ้นไปนั่งก่อนจากนั้นยานอฟก็ขึ้นไปนั่งก่อนจะปิดกระจกกั้นระหว่างคนขับกับผู้โดยสาร
“หมอว่ายังไงบ้างไลลา” เขาถามหลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อย
“พ่อเหนื่อยมากค่ะ ตอนนี้มีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดด้วยฉันไม่แน่ใจว่าพอจะอยู่ได้นานแค่ไหน” ไลลารู้สึกใจคอไม่ดี ยิ่งตอนที่มารดาโทรศัพท์มาบอกเธอให้รีบพายานอฟไปเจอกับบิดาเพราะท่านมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย
“อย่าห่วงไปเลยไลลา หมอที่นี่เก่งยังไงคุณลุงก็จะต้องดีขึ้นและท่านจะอยู่กับเราไปอีกนาน”
“ยานอฟคะ บางทีฉันก็คิดว่าตอนนี้คุณพ่อทรมานมากๆ แล้วฉันคุยกับคุณแม่แล้วค่ะถ้าท่านเป็นอะไรไป เราจะไม่ให้หมอปั๊มหัวใจท่านเพราะท่านเหนื่อยมามากจริงๆ”
“อย่าพึ่งคิดไปไกลขนาดนั้นเลยนะไลลา” เขาจับมือคู่หมั้นสาวอย่างให้กำลังใจ
ยานอฟกับไลลามาถึงโรงพยาบาลก็รีบวิ่งขึ้นไปบนแผนกของผู้ป่วยซึ่งตอนนี้บิดาของหญิงสาวนอนรักษาอยู่ตอนนี้ข้างเตียงบิดามีมารดาและพี่ชายของเธออีกสองคนยืนอยู่ข้างๆ“พ่อเป็นยังไงบ้างคะ”“พ่อบ่นว่าเหนื่อย”“พ่อขาหนูมาแล้วค่ะ หนูพายานอฟมาด้วยนะคะ”ชายชราที่นอนอยู่บนเตียงพยายามจะอ้าปากพูด ไลลาขยับเข้าไปใกล้ท่านมากขึ้น หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้ กุมมือของท่านไว้แน่น เขาจับมือของไลลาแน่นและหันไปมองหน้ายานอฟที่ยืนอยู่ปลายเตียง พอชายหนุ่มเห็นสายตานั้นก็รีบเข้ามาใกล้และนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับไลลา“ฝากไลลาด้วยนะยานอฟ” เสียงอันแผ่วเบาออกมาจากปากของชายสูงวัยเขาเหนื่อยล้ามากกว่าทุกครั้งที่ยานอฟเคยมาเยี่ยม“ไม่ต้องห่วงผมจะดูแลไลลาอย่างดี” ยานอฟรีบรับปากเพราะเห็นนะว่าตอนนี้คนป่วยอาการเริ่มจะแย่ลงแล้วหลังจากฝากลูกสาวกับคู่หมั้นแล้วชายชราก็หายใจแรงขึ้นและถี่ขึ้นจนหมอและพยาบาลต้องพากันวิ่งเข้ามาดูชายชรามองหน้าทุกคนแล้วยิ้มก่อนที่ลมหายใจของเขาจากแผ่วลง จนในที่สุดท่านก็ไม่หายใจ ตัวเลขอัตราการเต้นหัวใจบนมอนิเตอร์ที่ติดไว้ค่อยๆ ลดลงจนเหลือศูนย์ไลลาและพี่ชายทั้งสองคนจับมือชายชราแน่นขณะที่มารดาก็กำลังจะล้มลงยานอฟที
มนต์มีนาได้รับโทรศัพท์จากพี่ปานทิพย์แจ้งเรื่องงานที่เธอส่งใบสมัครไว้ตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ พี่ปานทิพย์นัดให้หญิงสาวไปเจอเช้าวันจันทร์เพื่อจะคุยรายละเอียดเรื่องสัญญาต่างๆ และมนต์มีนาจะตัดสินใจอีกครั้งได้อีกครั้งหลังจากอ่านสัญญาทั้งหมดอย่างเข้าใจแล้วพี่ปานทิพย์บอกอีกว่าให้เธอมาคนเดียวและสถานที่นัดครั้งนี้ไม่ใช่ที่โมเดลลิงแต่เป็นอาคารสำนักงานหญิงสาวอยากบอกเรื่องนี้กับชาลิดาเพื่อนสนิทแต่ก็ไม่สามารถบอกกับใครได้ เธอตื่นตั้งแต่เช้าแต่งตัวด้วยชุดสบายๆ กางเกงยีนรองเท้าผ้าใบกับเสื้อยืดสีขาวจากนั้นก็ใส่เสื้อแขนยาวทับ ก่อนจะเดินออกไปยังปากซอยและนั่งรถเมล์ไปยังสำนักงานที่พี่ปานทิพย์ส่งโลเคชันมาให้หญิงสาวมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย เธอเข้านั่งรอด้านล่างของอาคารแห่งหนึ่งไม่นานนักพี่ปานทิพย์ก็เดินตามเข้ามา“มีนมาถึงนานหรือยัง”“เกือบสิบนาทีแล้วค่ะ ทำไมเราต้องมาที่นี่ด้วยคะพี่ปาน”“เขาให้เรามาเจอตัวแทนของเขาก่อน จะได้อ่านสัญญากัน ไปกันเถอะเขาน่าจะรออยู่แล้ว”ปานทิพย์กดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้น 23 ซึ่งเธอนัดกับตัวแทนของผู้ว่าจ้างไว้ที่นี่“เชิญด้านไหนเลยครับ” พนักงานต้อนรับที่อยู่หน้าลิฟต์บอกให้หญิงสาวสองคนเดินเข
มนต์มีนานั่งรถปานทิพย์มาที่โมเดลลิงของเธอก่อนเพราะที่นี่อยู่ใกล้บ้านของหญิงสาวมากกว่าอาคารที่เพิ่งไปเซ็นสัญญามา เธอเดินตามเจ้าของโมเดลลิงเข้าไปนั่งข้างในห้องทำงานซึ่งตอนนี้ผู้ช่วยของพี่ปานทิพย์ไม่ได้อยู่ในห้อง“พี่เห็นสัญญาแล้วพี่ว่ามันก็ค่อนข้างโอเคนะ เรื่องนี้จะมีคนรู้แค่พี่มีนแล้วก็ออยเท่านั้น ถ้ามีคนถามถึงมีนพี่จะบอกว่ามีนไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัดดีไหม คนอื่นจะได้ไม่สงสัย”“ได้ค่ะ หนูก็จะบอกออยให้บอกคนอื่นไปแบบนั้นเหมือนกัน”“ถ้าไปอยู่ที่นู่นอาจจะติดต่อกันลำบากแต่ถ้ามีนมีเรื่องด่วนก็อย่าลืมขอใช้โทรศัพท์ของเจ้านายโทรมาหาพี่ได้ทุกเมื่อ” เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ส่งเด็กไปทานแบบนี้ปานทิพย์เลยค่อนข้างจะห่วง“ค่ะพี่ปาน”ขณะที่มนต์มีนากำลังนั่งคุยอยู่กับปานทิพย์เสียงแจ้งจากแอพพลิเคชันธนาคารก็ดังขึ้นยอดเงินที่โอนเข้ามาให้หญิงสาวคือห้าแสน บาทถ้วน มนต์มีนาไม่เคยมีเงินแบบนี้มากมายในบัญชีแบบนี้มาก่อน หญิงสาวมองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง“พี่ปานคะเขาโอนมาให้หนูจริงๆ ค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยความตื่นเต้น“เมื่อกี้เขาก็บอกแล้วว่าเขาจะโอนเงินงวดแรกให้ก่อนครึ่งหนึ่งของพี่เองก็ได้มาแล้วแสนห้าจบงานก็คงได้แส
เมื่อทานอาหารไปได้สักพักมนต์มีนาก็เริ่มเกริ่นเรื่องที่ตัวเองได้รับเลือกให้กับชาลิดาฟัง“ออยมีนมีเรื่องจะบอกออย”“เรื่องอะไรล่ะ พูดมาเลย” ชาลิดาหยิบไก่ย่างเข้าปากแล้วเคี้ยวด้วยความเอร็ดอร่อย“ก็เรื่องที่พี่ปานพูดวันก่อน”“วันนี้วันจันทร์แล้วนี่ พี่ปานยังไม่ได้แจ้งข่าวมาเลยไม่รู้ว่าใครได้รับเลือก มีนรู้แล้วใช่ไหมว่าใครได้รับเลือก”“จริงๆ เขาแจ้งมาตั้งแต่เมื่อวาน”“อะไรนะทำไมออยไม่เห็นรู้เลยล่ะ”“พี่ปานเขาโทรมาแจ้งที่มีนน่ะ”“มีนได้งานนี้ใช่ไหม เขาถึงแจ้งที่มีนคนเดียว”“อือ มีนได้งานนี้แล้ว วันนี้ก็เพิ่งไปเซ็นสัญญามา”“อะไรนะมีนทำไมมันเร็วจังล่ะ ออยขอดูสัญญาด้วยได้ไหม เผื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากลจะได้ยกเลิกทัน”“ได้สิ” มนต์มีนาหยิบสัญญาในกระเป๋าผ้าส่งให้เพื่อน ชาลิดาตั้งใจอ่านบรรทัดด้วยความตั้งใจ ก่อนจะวางกระดาษลงเมื่ออ่านถึงบรรทัดสุดท้าย“ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงนะ ออยว่าดีด้วยซ้ำ คนอื่นก็จะได้ไม่รู้เรื่องนี้ด้วย แล้วมีนมาบอกแบบนี้จะไม่เป็นการผิดสัญญาเหรอ”“ไม่หรอกมีนขอเขาแล้วว่าขอบอกเพื่อนสนิทคนหนึ่งถ้ามีนหายไปเฉยๆ ออยก็ต้องสงสัยแน่ๆ และถ้าไปถามเอาจากคนอื่นเรื่องมันก็จะบานปลาย”“แล้วมีนต้องไปอยู
เช้าวันใหม่มนต์มีนาเดินไปซื้อข้าวเหนียวหน้าปากซอยพอกลับมาถึงบ้านชาลิดาก็อุ่นไส้อั่วกับไก่ย่างที่เหลือเมื่อวานไว้รออยู่แล้วทั้งสองทานอาหารเช้าด้วยกันจากนั้นก็ช่วยกันเก็บล้างทำความสะอาดก่อนจะนั่งดูทีวีเพื่อรอเวลาให้คนของเจ้านายมารับรถตู้คันหรูจอดที่หน้าบ้านพร้อมกับชายฉกรรจ์สวมสูทเดินลงมาจากรถ เขากดออดและยืนรอไม่นานเจ้าของบ้านก็เดินมาเปิด“คุณสุทัศน์คะมีนมีอะไรจะขออย่างหนึ่งได้ไหม”“เรื่องอะไรครับ” เขาถามหญิงเจ้านายอย่างสุภาพ“เรื่องที่มีนบอกว่ามีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งแล้วขาบอกความจริงกับเขา”“ถ้าเป็นเรื่องนั้นเจ้านายผมบอกว่าไม่มีปัญหา”“คือวันนี้เขาก็อยู่ที่นี่ด้วยมีนอยากให้เขาไปด้วยตอนเราไปตรวจร่างกายได้ไหมคะ”“รอสักครู่นะครับ” คุณสุทัศน์เดินหลบไปบริเวณหลังรถตู้ไม่นานก็กลับออกมาพยักหน้าให้กับหญิงสาว“เจ้านายบอกว่าไม่มีปัญหา”“งั้นคุณรอตรงนี้นะคะมีนขอไปตามเพื่อนก่อน” มนต์มีนารีบวิ่งเข้ามาในบ้านและชวนชาลิดาที่ตอนนี้เตรียมตัวพร้อมอยู่ก่อนแล้ว“ว่าไงมีนเขาให้ออยไปด้วยได้ใช่ไหม”“เขาบอกว่าได้ เราไปกันเถอะเพื่อทำธุระเสร็จเร็วมีนจะได้เบิกเงินไปจ่ายหนี้เจ๊ที่ตลาดด้วย มีนจะรีบทำธุระทุกอย่างให้
มนต์มีนากำลังจัดเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นลงกระเป๋าเดินทางสองใบที่คุณสุทัศน์ซื้อมาให้ เมื่อตรวจดูจนแน่ใจว่าไม่ลืมอะไรแล้วก็รูดซิปปิดก่อนจะลากมารอที่ห้องรับแขก“ไม่ลืมอะไรแน่นะมีน” ชาลิดาที่ช่วยเพื่อนจัดกระเป๋าตั้งแต่บ่ายเมื่อวานมองกระเป๋าใบใหญ่หนึ่งใบและใบขนาดกลางอีกหนึ่งใบด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล“ไม่หรอกน่าจะลืมอะไรแล้ว”“ใจหายเหมือนกันนะจะไม่ได้ติดต่อกันตั้งหนึ่งเดือน”“ถ้าไปถึงที่นู่นแล้วมีนจะพยายามหาทางติดต่อมานะ บางที่เกาะที่เราไปมันอาจจะพอมีสัญญาณมือถืออยู่บ้างแต่อาจไม่แรงเท่าในเมือง”“ออยก็ขอให้เป็นแบบนั้น ดูแลตัวเองด้วยนะมีน”“ออยก็เหมือนกันนะ อย่าหักโหมงานมาก”“ขอให้มีนเจอนายจ้างที่ใจดี หล่อๆ หุ่นเหมือนนายแบบนะ”“ขอบใจนะออย”พอถึงเวลานัดคุณสุทัศน์ก็มารักเธอเพื่อไปยังสนามบินและบินบินจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังสนามบินภูเก็ต จากนั้นก็ขึ้นรถไปยังท่าเรือแห่งหนึ่งและก็นั่งเรืออีกเกือบสองชั่วโมงกว่าจะมาถึงเกาะแห่งหนึ่งเรือจอดเทียบท่าบริเวณด้านหน้าของเกาะมนต์มีนาเห็นว่ามีร้านอาหารและโรงแรมตั้งอยู่แต่คุณสุทัศน์บอกว่าบ้านพักของเจ้านายจะต้องอ้อมไปอีกด้านหนึ่งของเกาะซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวหญิ
เมื่อโทรศัพท์บอกชาลิดาแล้วว่าตนเองหมายถึงที่พักอย่างปลอดภัย มนต์มีนาก็เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ เลือกซื้อน้ำดื่มกับขนมและแซนด์วิชมาทานรองท้องเพราะคุณสุทัศน์บอกว่ากว่าเจ้านายของเธอจะมาถึงเกาะก็เกือบจะหนึ่งทุ่ม ถ้าให้เธอรอทานอาหารตอนนั้นก็คงจะต้องหิวแน่ๆชำระเงินแล้วเธอก็เลือกมานั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ กลับบริเวณท่าเรือซึ่งตอนนี้มีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งกำลังลงจากเรือส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ชาวต่างชาติเท่านั้นขณะกำลังนั่งมองอะไรเพลินๆ ก็เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินลับๆ ล่อๆ มาทางกลุ่มนักท่องเที่ยวเขาเดินตามนักท่องเที่ยวชายคนหนึ่งและทำทีเป็นชนก่อนที่จะเอามือล้วงไปยังกระเป๋ากางเกงมนต์มีนาเห็นเต็มสองตาหญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้วตะโกน“หยุดนะน้องจะทำอะไร”เด็กชายตกใจที่มีคนเห็นเขารีบวิ่งออกจากตรงนั้นโดยหยิบเอากระเป๋าสตางค์ของชายคนนั้นไปด้วย มนต์มีนาอาศัยช่วงขาที่ยาวกว่าเด็กชายคนนั้นวิ่งไปดักหน้าโดยมีเจ้าของกระเป๋าที่เพิ่งรู้ตัววิ่งตามมาติดๆ“ทำแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ พี่ว่าน้องคืนกระเป๋าเขาไปเถอะ”เด็กผู้ชายเห็นว่าตัวเองกำลังจวนตัวก็หันไปมองเจ้าของกระเป๋าที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เขาโยนกระเป๋าลงพื้นและวิ่งหน
เสียงฝีเท้าที่ดังมาจากด้านหลังทำให้มนต์มีนาใจเต้นแรงเธอลุ้นว่าเจ้านายจะหน้าตาเป็นยังไงหญิงสาวหันหน้าไปช้าๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยเมื่อพบว่าเจ้านาย ของเธอก็คือผู้ชายที่เธอเจอบริเวณท่าเรือ“คุณนั่นเอง”“สวัสดีมนต์มีนา” เขากล่าวทักทาย“สวัสดีค่ะเจ้านาย” หญิงสาวรีบยกมือไหว้เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ในสถานะอะไร“เราเจอกันอีกแล้วนะ”“เจ้านายเจอกับมีนแล้วเหรอครับ” สุทัศน์แปลกใจ“ใช่ เมื่อกี้ฉันเจอเธอที่ท่าเรือ”“ถ้าอย่างนั้นผมคงไม่ต้องแนะนำอะไรมาก”“ขอบคุณมากที่ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้”“ไม่เป็นไรครับ”“แล้วคุณจะอยู่ที่นี่กี่วันล่ะ”“ผมว่าจะกลับขึ้นฝั่งเย็นนี้แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยบินกลับกรุงเทพ”“อ้าว นึกว่าจะอยู่ดื่มด้วยกันสักคืน”“คืนผมมีงานต้องทำต่อครับ”“โอกาสหน้าหาเวลามาดื่มด้วยกันนะ ถ้าจะให้ดีลงมาที่นี่อาทิตย์หน้าก็ได้เพราะกาซิมก็จะมาที่นี่เหมือนกัน”“ได้ครับเดี๋ยวผมจะประสานกับกาซิมอีกทีว่าจะลงมาวันไหน”“คุณมีนครับผมไปก่อนนะ ถ้ามีอะไรก็โทรหาผมตามเบอร์นั้นเจ้านายเป็นคนใจดีมาก คุณต้องการอะไรก็บอกเขาได้เลย ส่วนมอเตอร์ไซค์ก็เอาไว้ใช้ก่อนถ้าจะกลับผมจะเอาไปคืนเองครับ”“ขอบคุณค่ะ
มนต์มีนากลับบ้านมาอีกครั้งในเวลาหนึ่งทุ่ม รู้สึกโล่งใจและใจหายไปในคราเดียวกันเมื่อเปิดประตูบ้านเข้ามาแล้วไปเจอกับยานอฟ เขาคงไปจากเธอแล้วจริงๆ เธอคงเป็นผู้หญิงที่โง่มากคนหนึ่งเลือกความรักและทิ้งเงินสามสิบล้านให้หลุดมือไปแต่เธอคิดว่าตนเองเลือกถูกแล้วเพราะถ้ามีเงินแต่อยู่กับคนที่ไม่รักชีวิตก็คงจะไม่มีความสุขเลยเมื่อเขาไปแล้วเธอก็ใช้ชีวิตตามปกติและกำลังจะลืมเขา แต่ดูเหมือนว่าชีวิตของเธอมันจะไม่ปกติตอนนี้ข้างบ้านของเธอ ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างกำลังมีการปรับปรุงพื้นที่และเธอรู้จากเจ้าของร้านอาหารตามสั่งหน้าปากซอยว่าข้างๆ บ้านของเธอถูกนักธุรกิจคนหนึ่งซื้อไปบ้านหลังใหญ่ริมรั้วของมนต์มีนาถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วคนงานเกือบครึ่งร้อยทำงานกันอย่างขยันขันแข็งเพียงแค่สามเดือนบ้านหลังนั้นก็เสร็จตกแต่งสวยงามและพร้อมเข้าอยู่เธอไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านหลังนั้นเป็นใครเพราะไม่เคยเห็นเขาเลยหญิงสาวเลยได้แต่แอบมองเพราะบ้านหลังนั้นมันสวยและน่าอยู่มากเทียบกับบ้านของเธอไม่ติดเลยสักนิด แต่มนต์มีนาคิดว่าจะมีบ้านหลังใหญ่ไปทำไมล่ะในเมื่ออยู่บ้านหลังเล็กเธอก็มีความสุขมากมายอยู่แล้วหญิงสาวมองไปในบ้านหลังนั้นก่อนจะเดินออกจ
ยานอฟเก็บคำพูดของกาซิมมานั่งคิดมันก็เป็นอย่างที่ผู้ช่วยของเขาพูดจริงๆ เขาเองสนิทกับมนต์มีนามากกว่าใคร ก็น่าจะรู้ดีกว่าใครว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่หิวเงินบางทีเขาอาจจะต้องบินไปเมืองไทยอีกครั้งและคุยกับเธอให้รู้เรื่อง“เฮ้อ...ทำไมเรื่องความรักมันยากจังนะ” เขาถอนหายใจก่อนจะนั่งทำงานต่อช่วงนี้งานค่อนข้างยุ่งเขาอยากจะบินไปหามนต์มีนามากแค่ไหนแต่ก็ยังปลีกตัวไม่ได้เลยยานอฟใช้เวลาเคลียร์งานที่คั่งค้างเกือบสองอาทิตย์จากนั้นเขาก็บินมาประเทศไทยและให้สุทัศน์พามารอที่หน้าบ้านของเธอมนต์มีนาเลิกงานมาในเวลาหนึ่งทุ่มรู้สึกแปลกใจที่เห็นรถของคุณสุทัศน์จอดอยู่หน้าบ้าน“สวัสดีค่ะคุณสุทัศน์ ธุระอะไรคะมาหามีนถึงที่นี่เลย” มนต์มีนายกมือไหว้เหมือนทุกครั้ง“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณมีนนิดหน่อยครับ ขอเข้าไปนั่งคุยในบ้านในบ้านได้ไหมตรงนี้ยุงมันเยอะ”“ได้ค่ะ” หญิงสาวเปิดประตูรั้วแล้วเดินนำสุทัศน์เข้าไปในบ้านเธอเอาน้ำมาวางไว้ให้เขาจากนั้นก็หยิบผลไม้เตรียมจะเอาไปปอก“เดี๋ยวมีนปอกผลไม้ให้นะคะ”“ผมเกรงใจจังเลยครับ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณนั่งรอในห้องรับแขกแป๊บหนึ่งนะคะเดี๋ยวมีนปอกผลไม้แป๊บเดียว”“ได้ครับ” หญิงสาวหายเข้าไปปอก
มนต์มีนาตื่นเช้ามาด้วยศีรษะที่หนักอึ้งขณะที่นึกทบทวนเรื่องราวของเมื่อคืนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเธอกับเขาร่วมรักกันกี่ครั้ง รู้แต่ทุกครั้งมันก็เต็มไปด้วยความสุขหญิงสาวมองไปรอบๆ ห้องก็ไม่เห็นยานอฟไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วเธอเจ็บระบมจนก้าวขาแทบไม่ออกแต่ก็พยายามเก็บของลงกระเป๋าและไม่ลืมที่จะโทรไปบอกรอยด์ว่าตนเองตัวเองเจอเพื่อนที่นี่และคงไปเที่ยวกับเขาไม่ได้ฝ่ายนั้นโอดครวญเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรมากเมื่อคุยกับรอยด์เสร็จเธอก็สั่งอาหารขึ้นมาทานบนห้องเพื่อรอเวลาที่จะไปสนามบินแม้รู้ว่าคิดว่าจะไม่ได้เจอยานอฟอีก แต่ในใจของหญิงสาวกลับรู้สึกสบายเพราะเธอได้บอกความรู้สึกของตนเองให้เขารับรู้แล้ว มันก็เหมือนกับไม่มีอะไรติดค้างในหัวใจ จากนี้เธอจะใช้ชีวิตของเธออย่างมีความสุขเธอจะไม่ลืมเขาแต่จะเก็บเขาไว้เป็นความทรงจำที่ดีเธอกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติและเรียนจนจบระหว่างที่รอสอบบรรจุเป็นครูหญิงสาวก็สมัครเป็นครูอัตราจ้างที่โรงเรียนแห่งหนึ่งและเขาก็ตอบรับเธอแล้ว แต่จะไปเริ่มงานอีกครั้งก็ตอนเปิดเทอมในช่วงปิดเทอมประมาณสามเดือนมนต์มีนาก็เลยว่างหญิงสาวก็เลยไปสมัครงานที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งเธอได้เป็นผู้ช่วยอาจาร
“ยานอฟคะ คุณอยากให้ฉันมีนคุณหรือเปล่า”มนต์มีนายิ้มยั่วแล้วเงยหน้าขึ้นมาถามขณะที่ตอนนี้มือของเธอกำลังจับมังกรของเขาและหมุนเบาๆ“ได้สิ ฉันอยากให้เธอกินฉัน”เมื่อได้รับคำตอบหญิงสาวก็คุมเข่าลงสัมผัสลิ้นลงบนส่วนปลาย สีชมพูเข้ม เพียงแค่ลิ้นเล็กสัมผัสโดน ยานอฟก็ครางลั่นห้อง เธอรู้สึกถึงกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดเนื้อตัวสั่นเทา ตั้งแต่กลับจากเกาะชายหนุ่มก็ไม่ได้นอนกับผู้หญิงคนไหน ในทุกคืนเขาจะจินตนาการถึงหญิงสาวตรงหน้าและปลดปล่อยด้วยมือของตนเองเท่านั้นมนต์มีนาใช้ปลายลิ้นของเธอเลียวนส่วนปลายหยัก ยกท่อนเอ็นขึ้นเก่อนจะลากลิ้นยาวลงมาหยอกล้อกับพวงสวรรค์และลากขึ้นกลับไปด้านบนอีกครั้งก่อนจะครอบครองมันเข้าปากเล็ก“ดีมาก เธอทำดีมาก”หญิงสาวรู้สึกพอใจที่ได้รับคำชมจากเขา ปากเล็กๆ ของเธอดูดส่วนปลายเข้าปากและพยายามเอาเข้ามันลึกจนสุดในคอหอยความเสียวซ่านกำลังมารวมกันตรงบริเวณส่วนปลายยานอฟคุมตัวเองไม่อยู่เขารวบผมหญิงสาวจากนั้นก็จับใบหน้าของเธอดึงเข้าออกขณะที่สะโพกของเขาก็ยกขึ้นสูงจากโซฟา เพื่อให้ตนเองของเธอเข้าไปลึกที่สุดในลำคอ แต่เมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะสำลักเขาก็รีบดึงใบหน้าเธอตนเองออกแล้วจับให้เธอลุกขึ้นมอบ
ยานอฟมองคนที่เมาแทบไม่ได้สติแล้วหน้า วันนี้เขามาร่วมงานแต่งงานของไลลา แต่พยายามเจอกับมนต์มีนา เพราะไม่อยากให้ความรู้สึกเดิมๆ กลับมาอีกหลายเดือนที่ไม่ได้เจอกันยานอฟยอมรับว่าคิดถึงเธอมากและไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกันในงานแต่งงานของไลลาแบบนี้ เขาเห็นเธอสนิทสนมกับรอยด์แล้วก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ ยิ่งตอนที่เห็นทั้งสองเดินออกมาจากผับด้วยกันเขารู้สึกเจ็บปวดที่เห็นเธอสนิทสนมกับชายคนอื่น แต่เมื่อเห็นรอยด์กลับไปที่ผับ อีกครั้งเขาเข้าไปให้ทักทายและรู้ว่าพี่ชายของไลลากำลังสนใจมนต์มีนา ยานอฟก็เกิดความรู้สึกหวงขึ้นมาและทำให้เขาตัดสินใจขึ้นมาเธออีกครั้งแต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอหญิงสาวเมาแล้วพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องแบบนี้“ฉันว่าเธอเมามากแล้วนะมีนพอได้แล้ว” เขาเดินตามเข้ามาและหยิบเบียร์ออกจากมือของหญิงสาว“ขอกินกระป๋องนี้ให้หมดได้ไหม”“ทำไมต้องดื่มมากขนาดนี้ล่ะ”“ดื่มเพื่อให้ลืมคุณไงล่ะ ยานอฟคุณมันผู้ชายไร้หัวใจ คุณทำให้ฉันตกหลุมรักแล้วก็เฉดหัวทิ้ง ให้ตายสิฉันไม่น่าไปรับเงินจากคุณเลย ฉันไม่น่าหลงรักคุณเลยนะยานอฟ ถ้ารู้ว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ฉันจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด ฉันจะยอมให้บ้านถูกยึดจะยอมหาเงินตัวเป็นเกลีย
ในดึกวันหนึ่งขณะที่มนต์มีนากำลังเตรียมแผนการสอนสำหรับวันรุ่งขึ้น เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากไลลา“สวัสดีจะมีน ฉันไลลานะ”“สวัสดีค่ะคุณไลลาสบายดีมั้ยคะ”“ฉันสบายดี แล้วมีนเป็นยังไงบ้างช่วงนี้ทำอะไรอยู่”“ช่วงนี้มีนไปฝึกสอนที่โรงเรียนค่ะ”“มีนจะปิดเทอมตอนไหน”“ปลายเดือนตุลาค่ะ”“เลยไลลาก็จะแต่งงานช่วงนั้นอยากชวนมีนมาร่วมงานด้วย”“มันจะดีเหรอคะ”“ดีสิ มางานแต่งงานไลลานะ งานจัดเล็กๆ มีแต่คนสนิทไม่กี่คนเอง”“จัดที่ไหนคะ”“ภูเก็ตจ้ะ มีนสะดวกไหม ไม่ไกลเลยนั่งเครื่องแป๊บเดียวเอง”“มีนอยากไปร่วมงานไปร่วมแสดงความยินดีกับคุณไลลาและคุณเจคอปนะคะแต่มีนคิดว่ามันไม่เหมาะสมเท่าไหร่เพราะมีนกับคุณไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้น”“พูดแบบนี้ไลลาเสียใจนะ อุตส่าห์ลิสต์รายชื่อมีนเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้วแท้ๆ มีนไม่มาใครจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ล่ะ”“คุณไลลาให้คนอื่นเป็นเพื่อนเจ้าสาวแทนได้ไหม”“เพื่อนส่วนใหญ่ไม่มีใครว่างมาที่เมืองไทยเลยน่ะสิ”“แล้วเพื่อนเจ้าบ่าวล่ะคะ” มนต์มีนาต้องถามให้แน่ใจเพราะกลัวว่าเพื่อนเจ้าบ่าวของคุณไลลาจะเป็นยานอฟ“เพื่อนเจ้าบ่าวก็เป็นเพื่อนของเจคอป ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอยานอฟหรอกเพราะช่วงที่ไลลาแต่งงานยานอ
“มีนทางนี้ ทางนี้” ชาลิดาโบกมือให้เพื่อนในวันเปิดเทอมวันแรกซึ่งหญิงสาวย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านของตนเองเพราะตอนนี้น้องชายจะให้ออกไปอยู่หอเธอเลยต้องช่วยมารดาดูแลน้องคนเล็ก“ไม่ได้เจอกันสองอาทิตย์คิดถึงจัง”“มีนก็คิดถึงออยเหมือนกัน เทอมนี้เราจะได้ฝึกงานโรงเรียนเดียวกันหรือเปล่าไม่รู้ เหมือนกันอาจารย์ยังไม่บอกเลยรีบไปกันเถอะนั่นอาจารย์เดินมาแล้ว”ทั้งสองคนรีบวิ่งเข้าไปในห้องเรียนก่อนที่อาจารย์ที่ปรึกษาจะเดินเข้ามาหลังจากอาจารย์ที่ปรึกษาแนะนำตัวแล้วก็บอกกำหนดการฝึกงานให้กับทุกคนได้รู้มนต์มีนาและชาลิดาโชคดีมากที่ได้ไปฝึกสอนโรงเรียนเดียวกันถึงแม้จะเป็นคนละระดับชั้นก็ตามมนต์มีนาได้สอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งส่วนชาลิดาได้สอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สอง ทั้งคนทั้งสองคนกุมขมับเพราะเด็กวัยนี้เป็นวัยที่กำลังต่อต้านและอายุเธอกับเด็กก็ห่างกันไม่“โอย...นึกว่าหนูจะได้สอนเด็กประถมน่ารักๆ เสียอีก”“นั่นสิไม่รู้ว่าทำไมอาจารย์ถึงส่งเราส่งคนไปสอนชั้นมัธยมก็ไม่รู้นะ”“ก็เธอสองคนคะแนนดีกว่าใคร อาจารย์ก็เลยอยากให้สอนระดับชั้นที่มันสูงๆ จะได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาได้อย่างเต็มที่”อาจารย์ที่ปรึกษาเดินผ่านมาได้ย
เวลาในแต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก พรุ่งนี้มนต์มีนาก็จะต้องเดินทางออกจากเกาะและกลับไปใช้ชีวิตของตนเองอีกครั้งคืนนี้ทั้งสองคนเลยออกมานอนดูดาวกันบริเวณข้างสระว่ายน้ำ“คุณจะกลับยูเครนเลยหรือเปล่าคะ”“ก็คงจะอย่างนั้น”มีหลายอย่างที่มนต์มีนาอยากบอกกับยานอฟแต่ก็ไม่อยาก ทำลายบรรยากาศตรงหน้า“ฉันมีความสุขมากนะที่เธอมาอยู่กับฉันที่นี่”“มีนก็มีความสุขทุก มีนจะเก็บทุกอย่างที่นี่ไว้เป็นความทรงจำที่ดี”“ฉันก็เหมือนกันนะ”ยานอฟกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาอยากจะต่อเวลาอยู่กับเธออีกนิด แต่ก็ไม่อยากทำลายกฎที่ตัวเองตั้งไว้ ระยะเวลาหนึ่งเดือนมันก็เพียงพอแล้วสำหรับความสุขที่เขาและเธอมีร่วมกัน จากนี้เธอและเขาต่างก็ต้องแยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ของเอง ชายหนุ่มหวังว่าในปีหน้าถ้าเธอยังไม่มีแฟนเขาจะเรียกเธอให้มาทำงานกับเขาอีก ความรู้สึกที่จะต้องลาจากมันทำให้เขาปวดหนึบในหัวใจอยากรั้งเธอไว้ให้อยู่กับเขานานที่สุด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เพราะความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขามันยากที่จะสานต่อไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขารู้สึกอาลัยอาวรณ์มากมายเท่ากับมนต์มีนามาก่อนเลย เขาคิดว่าถ้าหากไม่ได้เจอกันอีกความรู้สึกที่
คำพูดกับการกระทำของเขาไม่ได้หมายถึงสิ่งที่มนต์มีนาพูดเลยสักนิด สวรรค์ที่เขาว่ามันคือสวรรค์ที่เขากำลังจะพาเธอไปต่างหากล่ะเขากอดกระชับเธอแน่นขึ้นรั้งสะโพกของหญิงสาวให้แนบชิดกับท่อนเอ็นที่มันกำลังค่อยๆ ขยายตัวเพราะความอัดอั้นที่ไม่ได้ปลดปล่อยหลายคืนแล้วมือใหญ่เลื่อนจากเอวคอดขยับขึ้นสูง กอบกุมไปบนอกสวยบีบเบาๆ ปากร้อนก็ดูดเม้มท้ายทอยอย่างแผ่วเบา“ไม่เหนื่อยมากใช่ไหม ให้ฉันได้หรือเปล่า”เขาถามขณะที่มือก็เริ่มซุกซนไปตามหน้าท้องแบนราบ เขาอ้อนเสียงหวานแบบนี้มีหรือมนต์มีนาจะไม่ยอมหญิงสาวพยักหน้าและหันมามองเขาก็จูบบนปากเล็กอย่างอ่อนหวานมือใหญ่สอดใต้จีสตริงตัวบางปลายนิ้วกดเน้นบนกลีบกุหลาบกระตุ้นให้น้ำหวานค่อยๆไหลริน“อื้ม ยานอฟ”หญิงสาวครางแผ่วเบาเมื่อเขากดจุดกระสันด้านนอกซ้ำๆยานอฟสะกิดตะขอเสื้อบราเซียร์ของเธอและดึงมันออกพร้อมกับชุดนอนตัวบาง เขาจูบไปบนแผ่นหลังเนียนนุ่ม ขณะที่มือก็ยังคงกดย้ำอยู่ได้อยู่จุดเดิมปลุกความเร่าร้อนในตัวของหญิงสาวเรียวขาของมนต์มีนาสั่นระริกทรงตัวแทบไม่อยู่จนต้องใช้มือทาบไปบนกระจกเพื่อพยุงตัวไว้เขาจูบแผ่นหลังไล่ลงมายังสะโพกกลมกลึง ดึงจีสตริงออกจาก จับสะโพกให้แอ่นโค้ง