“คุณอัคคี”
“พี่จำได้ว่าขอให้เรียกพี่ว่าพี่ไฟนะครับน้องอ้อน” เขากล่าวเสียงเรียบหากแววตาพราวระยับอย่างพึงพอใจเมื่อจับได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังตื่นตระหนก
“ดิฉันคงไม่กล้าตีตัวเสมอหรอกค่ะคุณอัคคี ฉันก็แค่คนธรรมดาไม่ได้มีอะไรน่าสนใจขนาดที่คุณต้องลดตัวมาสนิทสนมด้วย” หญิงสาวพูดอย่างไว้ตัวอย่างเปิดเผย ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจและขุ่นเคืองนิดๆ ที่หญิงสาวตรงหน้ากล้าพูดตรงๆ อย่างตัดไมตรีเขา ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่ากำลังฮอต เสน่ห์ร้อนแรงเป็นที่หมายปองของสาวๆ ค่อนประเทศ
“ใครว่าล่ะครับน้องอ้อนน่ะน่าสนใจสำหรับพี่สิครับ ไม่อย่างนั้นพี่คงไม่ต้องทำหน้าที่สารถีขับรถไปส่งน้องอ้อนที่โรงแรมแน่นอน” ชายหนุ่มพูดอย่างมั่นใจก็แน่ล่ะเขาอุตส่าห์ลงมาดักรอและสกัดดาวรุ่งคนขับรถของแม่เลี้ยงเกศราเพื่อจะหาโอกาสเข้าใกล้หญิงสาวตรงหน้านี่นา หญิงสาวทำหน้าเหวอเมื่อเจอมุกนี้เพราะไม่คิดว่าเพลย์บอยตัวอันตรายอย่างอัคคีจะกล้าลดตัวลงมาทำอะไรที่มันไม่ค่อยจะมีเหตุมีผลในสายตาและความคิดของเธอ
“แล้วคนขับรถที่พี่เกดบอกว่าจะไปส่งฉันล่ะคะ” หญิงสาวทำท่าระแวงแล้วมองซ้ายมองขวาหาคนขับรถที่เธอเดินตามมา แต่พอเผลอชื่นชมดอกไม้นิดเดียวเท่านั้นคนขับรถตัวดีก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“พอดีคำหล้าปวดท้องกะทันหันก็เลยวิ่งไปเข้าห้องน้ำ พี่เห็นท่าว่าไม่ดีกลัวว่าเขาจะนานก็เลยอาสาไปส่งน้องอ้อนเอง หรือว่าน้องอ้อนไม่ไว้ใจพี่ครับ” ชายหนุ่มต้อนหญิงสาวอย่างไม่ยอมให้หลีกเลี่ยงและนึกสนุกที่เห็นท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเธอ เหมือนลูกกวางที่พลัดตกหลุมนายพรานแล้วกระวนกระวายหาทางออกไม่เจอ สร้างความพอใจให้ชายหนุ่มยิ่งนัก
“อีกอย่างนี่ก็เริ่มดึกแล้ว พี่เกดกับพี่อินก็กำลังส่งแขกและเตรียมเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เห็นว่าจะไปรับตาสิงโตที่ไปเข้าค่ายลูกเสือ และก็จะไปเที่ยวเชียงรายด้วยเลยต้องเตรียมพักผ่อนเอาแรงไว้เที่ยว”
ชายหนุ่มอธิบายพร้อมกับผายมือไปที่รถคันหรูบอกกลายๆ ว่า เชิญครับคุณผู้หญิง ด้วยสีหน้าพราวยิ้มอย่างคนที่เหนือกว่า จนคนที่ทำท่าว่าจะหันหลังกลับขึ้นเรือนนั้นจำต้องก้าวขึ้นรถที่ชายหนุ่มเปิดประตูรอ
“ขอบคุณค่ะ”
สั้นๆ แค่นั้นที่หญิงสาวเอ่ยกับเขาและนิ่งเงียบมาตลอดเส้นทางจากคุ้มอินจำปามาถึงบ้านพักในโรงแรม หญิงสาวไม่ได้เอ่ยอะไรกับเขาเพียงนั่งเงียบๆ มือประสานกันไว้บนตักและหันหน้ามองข้างทางอย่างกับว่ามีอะไรน่าสนใจนักหนา ทั้งๆ ที่มันมืดมิด
“หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะครับน้องอ้อน”
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบเมื่อลงมาเปิดประตูให้หญิงสาวเมื่อเห็นท่าว่าเธอจะเปิดประตูลงมาเสียเองอย่างกับว่าเขาเป็นตัวอันตรายไม่น่าเข้าใกล้
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณอัคคี” เธอไหว้เขาตามมารยาทแล้วทำท่าว่าจะผละไปหากเสียงทุ้มนั้นไม่ทัดทานไว้เสียก่อน
“ไม่ต้องทำท่าว่ากลัวพี่จะกินขนาดนั้นก็ได้ครับ พี่เป็นคนที่มีความยับยั้งชั่งใจพอสมควรแม้ว่าตอนนี้มันจะน้อยนิดก็เถอะ”
“ดิฉันคิดว่าคุณอัคคีคงจะเข้าใจอะไรผิดไปนะคะ ที่ดิฉันแสดงออกว่าไม่อยากอยู่ใกล้คุณไม่ใช่เพราะกลัวหรือเรียกร้องความสนใจอะไรทั้งนั้น แต่เพราะฉันทำไปทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยของฉันเอง เพราะไม่อยากสู้รบปรบมือกับใครและไม่อยากเป็นของเล่นไฮโซอย่างคนอื่นๆ หวังว่าคุณคงเข้าใจและขอบคุณอีกครั้งที่มาส่ง ลาก่อนค่ะ คุณอัคคี จงบริบูรณ์ไพศาล”
หญิงสาวอธิบายอย่างพยายามระงับอารมณ์ แล้วเดินจากไปด้วยท่วงท่าที่มั่นคงสง่างาม ทิ้งให้เสือร้ายอย่างอัคคีมองตามอย่างมาดหมายในตัวเธอ
“เธอคิดว่าเธอจะรอดจากมือฉันไปได้หรืออโนมา อะไรที่ฉันอยากได้มันก็ต้องได้ ไม่นานหรอกเธอจะต้องเป็นของฉัน”
ชายหนุ่มมองตามร่างบางที่เดินจากไปจนเธอเข้าไปในบ้านหลังน้อยจึงขับรถกลับไปที่คุ้มอินจำปาและในใจก็คิดหาวิธีต่างๆ นานาเพื่อที่จะได้อโนมา มาดับไปที่ร้อนเร่าของตน แต่หากอัคคีจะมีโอกาสล่วงรู้อนาคตเขาจะรู้ว่า นอกจากอโนมาจะมาดับไฟเร่าร้อนในใจของเขาได้แล้ว ยังทำให้ไฟที่ว่าร้อนๆ เช่นเขากลายเป็นไฟที่ให้ความอบอุ่นและพร้อมจะแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่นได้เช่นกัน...
ภายในบ้านพักหลังน้อย อโนมาปิดม่านลูกไม้สีขาวแสนสวยลงแล้วถอนใจเบาๆ อย่างหนักใจกับการที่ได้เจอผู้ชายที่รังสีอันตรายแผ่กระจายอยู่รอบตัว ใครบ้างไม่รู้จัก อัคคี จงบริบูรณ์ไพศาล คนนี้ และเธอเองก็รู้จักเขาดีทีเดียว เขาอาจจะจำเธอไม่ได้แต่เธอกลับจำเขาได้ขึ้นใจแต่มันไม่ใช่ความประทับใจแต่มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เธอต้องจดจำเขาจนวันตายด้วยวาจาที่ร้ายๆ ของเขาในวันวาน และเพราะคำพูดของเขาในวันนั้นมันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเข้มแข็งจนวันนี้เช่นกัน
หญิงสาวหลับตาลงใบหน้าสวยหวานนั้นเศร้าหมองเมื่อนึกถึงวันวานที่แสนจะเจ็บปวดเธอมักจะเป็นอย่างนี้เสมอเมื่ออยู่คนเดียวชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยวกวนอยู่แต่ในอดีตที่หวนกลับไปแก้ไขไม่ได้ยิ่งช่วงแรกๆ ที่เธอเริ่มตั้งท้องเธอยิ่งเครียดและเงียบงันจนเดือดร้อนเพื่อนรักทั้งสองต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะกลัวว่าเธอจะทำอะไรโง่ๆ หรือเครียดจนทำให้สุขภาพย่ำแย่มากกว่าเดิมเมื่อนึกถึงเพื่อนแล้วเธอก็รีบโทรถึงเพื่อนสาวแสนดีทั้งสองทันทีโดยเริ่มที่แม่แมงปอตัวน้อย
“ไงแม่แมงปอทำอะไรอยู่จ๊ะ” เธอถามปลายสายได้ยินเสียงดนตรีแว่วๆ
“กำลังเล่นเพลงใหม่ๆ อยู่น่ะแก พรุ่งนี้มีสอนเด็กๆ แทนแม่น่ะ” เสียงใสๆ ของอรุณนารีส่งมาตามสาย
“แล้วลูกสาวเป็นไงบ้างซนรึเปล่าวันนี้”
น้ำเสียงเมื่อพูดถึงลูกสาวตัวน้อยที่เมื่อนึกถึงลูกทีไรจิตใจที่ห่อเหี่ยวพลันชุ่มฉ่ำเหมือนได้น้ำทิพย์ชโลมใจ และเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้เธอมีแรงที่จะสู้กับทุกๆ อย่าง
“ไม่ซนแล้วเดี๋ยวนี้ลูกสาวเราเขาเป็นสาวแล้ว วันนี้เห็นกำลังหัดเล่นเพลงวิมานดินกับคุณตาคุณยาย ชีบอกว่าจะเอาไว้ไปเล่นให้พี่ซันฟัง แล้วหล่อนเชื่อไหมว่าโลกมันกลมจริงๆ” อรุณนารีบอกอย่างอารมณ์ดี
“ทำไมถึงว่าอย่างนั้นล่ะแก”
“ก็พี่ซันที่ลูกสาวสุดสวยของเราพูดถึงน่ะเป็นน้องชายต่างแม่ของยัยเนตร ลูกยัยมิรันตีสุดแสบคู่ปรับเก่าเราไงแก ทีนี้เชื่อรึยังล่ะว่าโลกกลมจริงๆ” เสียงใสนั้นเล่าอย่างนึกสนุกเมื่อนึกถึงหญิงสาวที่ชื่อ มิรันตี...
“ใช่แก โลกกลมจริงๆ กลมมากๆ ด้วย”
ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกินที่เธอกับลูกสาวได้พบเจอกับบุคคลที่ไม่พึงประสงค์พร้อมๆ กัน
“ยังไงก็ช่วยดูๆ ให้หน่อยละกัน แค่นี้นะแก”
ว่าแล้วเธอก็วางสายแล้วยกมือเรียวลูบหน้าอย่างคนที่กำลังครุ่นคิด และแล้วภาพในอดีตที่อยากจะลืมก็ลอยเข้ามาอย่างไม่ได้รับเชิญ
ตอนที่9หกปีก่อนเสียงดนตรีกระหึ่มทั่วบริเวณบ้านหลังใหญ่ที่จะเรียกว่าเป็นคฤหาสน์ได้นั้นก็ไม่ผิดนัก สวนสวยถูกตกแต่งอย่างงดงามลงตัว ตอนนี้ประดับประดาด้วยไฟแฟนซีดวงเล็กๆ หลากสีส่องสว่างทั่วบริเวณบ้านหลังงามของไฮโซคนดังสาวน้อยร่างบางผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียน ใบหน้าสวยหวาน ประดับด้วยดวงตาสีน้ำตาลกลมโตหลังกรอบเลนน์สายตาที่ค่อนข้างหนานั้นนั่งตัวลีบอยู่บนโซฟามองบรรดาหนุ่มสาวที่กำลังเต้นรำ ดื่มกินกันอย่างเมามันด้วยความเบื่อหน่ายแกมหวาดหวั่น วันนี้เป็นวันที่ รัชชานนท์ เดชาวัชรา ชายหนุ่มซึ่งเธอกำลังคบหาอยู่เมื่อสองปีก่อนได้เรียนจบในมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งและมีแผนการจะไปเรียนต่อต่างประเทศในเร็ววันนี้“ไงอ้อนไม่สนุกเหรอครับ เบื่อรึเปล่า” ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลากุมมือบางของอโนมาไว้ในอุ้งมือหนาของตนเองอย่างเห็นใจเพราะรู้ว่าเธอไม่ชอบงานแบบนี้นักรัชชานนท์ บุตรชายคนสุดท้องของ ตระกูลเดชาวัชรา ผู้มั่งคั่งด้วยกิจการมากมาย เขามีรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าขาวใสด้วยความเอาใจใส่ของเจ้าตัวประกอบด้วยดวงตาคมใหญ่ จมูกโด่งสวย ริมฝีปากสีสดอย่างที่ผู้หญิงยังต้องอิจฉา เขาเพียบพร้อมจนเหมือนจะเดินเอื้อมครั้งแรกที่ชายหน
ตอนที่10.เมื่อเถ้าแก่หยงตัดเป็นตัดตายกับเธอทำให้เธอต้องประชดโดยการทำตัวแหลกเหลวให้คนเป็นพ่อได้อับอายแต่มันกลับทำให้เถ้าแก่หยงยิ่งระอา และแสนเสียใจ แม้จะเสียเรื่องลูก แต่เถ้าแก่หยงซึ่งเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารีก็ยังทำความดี ทำบุญทำทานอยู่เสมอ เขายังทำบุญสร้างวัดวา สร้างโรงเรียน ให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนนั่นก็รวมถึงเด็กหญิงอโนมาในตอนนั้นด้วย หนำซ้ำเถ้าแก่หยงยังชอบเปรียบเธอกับอโนมาอยู่บ่อยๆ ว่าต่างกันราวฟ้ากับเหวอโนมานั้นรักดีน่าชื่นชมยกย่องผิดกับตนที่ไม่เอาไหนแล้วยังทำให้ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งนั่นยิ่งเป็นการฝังรอยริษยาให้หยั่งลึกในใจที่มืดบอดของมิรันตีเรื่อยมาและนานวันมันยิ่งฝังลึกเกินเยียวยา“นังนี่น่ะมันช่างออดอ้อนสมชื่อมันค่ะน้องริต้าพี่มิรันรู้จักมันดีเพราะถ้ามันไม่ได้พ่อพี่ส่งเสียให้ทุนเรียนน้ำหน้าอย่างมันคงไม่ได้เรียนโรงเรียนดีประจำจังหวัดและสอบติดมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของเมืองไทยได้หรอกค่ะ นังนี่น่ะมันร้าย” มิรันตีรีบใส่ไฟ“พี่มิรันบอกว่ารู้จักมันจริงๆ ใช่ไหมคะ”“จริงสิคะมันเป็นคนเชียงรายบ้านเดียวกับพี่มิรัน แต่พี่ไม่ค่อยอยากบอกใครว่ารู้จักมันหรอกค่ะน้องริต้า พี่อายเพราะถ้า
ตอนที่11.“เราไม่รู้จริงๆ นะนนท์ว่าน้องอ้อนเขาแพ้แอลกอฮอล์ ก็เห็นพี่มิรันเขาบอกว่าน้องอ้อนอยากดื่มฉลองให้นนท์ พวกเราก็เลยให้น้องเขาดื่ม เราไม่รู้จริงๆ สาบานได้” เสียงของสาวๆ ในกลุ่มอธิบายยืดยาวพร้อมโบ้ยมาทางมิรันตีที่ยืนหน้าบิดเบ้ด้วยความกราดเกรี้ยวเมื่อเห็นว่าพวกที่หาได้เริ่มแปรพรรค“ใช่ เราไม่รู้จริงๆ เอ่อ...ฉันว่ากลับก่อนนะนี่เริ่มดึกแล้วเดี๋ยวมาม้าเป็นห่วงไปๆ พวกเรากลับดีกว่าดึกแล้ว ใครจะกลับพร้อมฉันบ้าง มาๆๆ” แล้วเพื่อนๆ ที่เพิ่งจะนึกได้ว่าต้องทำตัวเป็นลูกที่ดีก็เริ่มทยอยเอาตัวรอดเมื่อเห็นว่ารังสีอำมหิตเริ่มแผ่กระจายจนร้อนระอุ“พี่ไม่รู้เหมือนกันนะคะน้องนนท์ ก็อ้อนเขาอยากดื่มเองพี่ก็แค่ทำตามความต้องการของอ้อนเขา แล้วแก้วนี้ก็สุดท้ายแล้วด้วย” มิรันตีบอกเสียงสะบัดนิดๆ เมื่อเห็นว่าแผนการของตนเริ่มจะผิดแผนเสียแล้ว“เราก็แค่อยากให้น้องอ้อนสนุกเท่านั้น ก็พวกเราไม่เคยเห็นน้องอ้อนเขาเข้ากลุ่มกับพวกเราเลย” เธอรีบหาข้ออ้างที่พอจะได้พรรคพวกที่มีคนหมั่นไส้สาวน้อยที่เริ่มจะยืนไม่อยู่ตรงหน้า“อ้อนไม่ดื่มเหล้า ผมรู้ดีและไม่มีทางที่จะทำแบบนี้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น เว้นแต่ว่าจะมีคนจงใจให้อ้
ตอนที่ 12.“อ้อนถอยไป ไม่ต้องยุ่งแล้วถ้าเป็นไปได้อย่าเข้าใกล้นนท์เป็นอันขาด เข้าใจมั้ย!”ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้มแล้วพยายามกดหมายเลขชั้นที่ตนเองพักอยู่อย่างทุลักทุเล อโนมาค่อยๆ เดินตามร่างสูงที่โงนเงนกอดตัวเองพลางรูดการ์ดห้องพักมือไม้สั่น เมื่อสามารถเข้าห้องพักได้เขาก็ถลันเข้าห้องน้ำทันทีเพื่อใช้น้ำเย็นๆ ดับความร้อนรุ่มที่สุมอยู่ในอก“นนท์ นนท์ เป็นไรมากมั้ย”อโนมาเคาะประตูห้องน้ำอย่างอ่อนแรง แต่คนในห้องน้ำกลับเงียบจนน่าใจหายแล้วจู่ๆ ประตูห้องน้ำก็เปิดออกโดยไม่ทันตั้งตัวร่างบางที่ยืนพิงประตูอยู่เซถลาเข้าไปนอนแผ่อยู่บนพื้นห้องน้ำที่เปียกลื่นและเย็นเฉียบ“ฮึ! นังแพศยาในที่สุดก็ทนไม่ไหวสินะ ถึงได้แล่นมาที่นี่ อยากมีผัวจนตัวสั่นล่ะสิ”เสียงแหบห้าวเอ่ยกระด้างพร้อมกับมือหนาคว้าไหล่มนกระชากอย่างแรงจนร่างบางปลิวถลากระแทกกับอกแกร่งจนรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก อโนมาได้แต่นิ่งงันอย่างตกใจและคาดไม่ถึงกับเหตุการณ์ที่ได้เจอทำได้เพียงแค่มองชายหนุ่มที่มีดวงตาแดงฉานด้วยอารมณ์หลากหลายจนแยกแทบไม่ออกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน รักใคร่หรือคลั่งแค้น แววตาลุกโชนดูกราดเกรี้ยวน่าหวาดกลัวต่างจากชายหนุ่มที่แสนสุภาพและอ่อนโยนข
ตอนที่13. “อ้อน มิรันตีเขาเป็นอดีตพี่สะใภ้ของริต้าแล้วเขาก็สนิทกันมาก”“แล้วมันเกี่ยวกับอ้อนตรงไหน” สาวน้อยฉงนใจเพราะไม่เห็นว่าเรื่องนั้นมันเกี่ยวกับเธอตรงไหนแม้เธอจะรู้จักกับมิรันตีมาก่อน แต่เมื่อมิรันตีทำท่าเหมือนไม่อยากรู้จักหรือเสวนากับเธอ เธอจึงไม่แสดงอาการหรือพูดอะไรออกมา“มันไม่เกี่ยวแน่ ถ้าริต้าเขาไม่ได้รักนนท์” ชายหนุ่มบอกเสียงเครียดและเอื้อมมือหนามาปัดปอยผมนุ่มออกจากวงหน้าหวานที่บวมช้ำจากฝีมือของเขายิ่งเห็นใบหน้าหวานบวมช้ำเขายิ่งเกลียดตัวเองนัก“ริต้าเขาบอกกับนนท์ว่าเขารักนนท์ และเขายังพูดทำนองว่าเขาจะไม่ยอมเสียนนท์ให้ใครเขาบอกว่าอ้อนไม่ได้แสนดีอ่อนหวานอย่างที่เห็นแต่เป็นสาวร่านรักนอนกับใครไม่เลือก” ชายหนุ่มเช็ดน้ำตาที่รื้นนัยน์ตาสวยโศกแผ่วเบา“แต่นนท์รู้ว่ามันไม่ใช่ แม้นนท์จะขาดสติแต่นนท์รู้ว่าอ้อนเป็นของนนท์คนเดียว คนเดียวเท่านั้น”“นนท์...” สาวน้อยเอ่ยเสียงแผ่วกอดกระชับวงแขนรัดร่างสูงแนบแน่น ชายหนุ่มลูบผมสลวยอย่างปลอบโยน เขารู้ว่าเขาได้ทำร้ายร่างกายและจิตใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่องนี้อย่างโหดร้ายเพราะขาดสติไม่สามารถควบคุมอารมณ์ดิบเถื่อนที่เกาะกินในใจ และเป็นมุมอันมืดบอดของเขาม
ตอนที่ 14.หลังจากที่คลอดรัชชานนท์ อรชุมาไม่ยอมให้นมลูกตามที่หมอแนะนำ เริ่มทำตัวเป็นสาวสังคม แต่งตัวออกงานบ่อยและชอบไปเที่ยวดึกๆ บางครั้งก็ไม่กลับบ้าน คุณรัชชุซึ่งเคยเป็นคนชอบเที่ยวกลับเปลี่ยนเป็นคนที่อยู่ติดบ้านมากขึ้นเพราะลูกชายที่เพิ่งคลอดนั้นน่ารักน่าชังอีกทั้งสุขภาพร่างกายเริ่มจะอ่อนแอไม่แข็งแรงเหมือนเก่า ทุกอย่างเปลี่ยนไปในทางตรงกันข้ามและเริ่มเลวร้ายลงเมื่ออีกคนเริ่มสำนึกผิดแต่อีกคนเริ่มสนุกกับการใช้ชีวิตที่รื่นเริงมัวเมา อรชุมาเริ่มคบเพื่อนชายวัยไล่เลี่ยกันและออกไปเที่ยวด้วยกันบ่อยขึ้น ทั้งสองแอบมีความสัมพันธ์กันลับๆ อรชุมาก็ไม่สนใจลูกน้อย คุณรัชชุเริ่มดุด่าอรชุมา คนทั้งสองคนก็เริ่มมีปากเสียงกันบ่อยขึ้น ใครขัดก็ไม่ได้ ทุกคนได้แต่เฝ้าดูห่างๆ ด้วยจิตใจหวั่นไหวกับความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คุณเสาวลักษณ์จึงรับรัชชานนท์มาเลี้ยงดูบนเรือนใหญ่เพราะกลัวว่าเด็กจะได้รับผลกระทบจากการทะเลาะกันของพ่อแม่เนื่องจากคุณเสาวลักษณ์ไม่มีลูกกับคุณรัชชุ และลูกๆ ที่เกิดกับคุณผกามาศเริ่มโตและเข้าเรียนโรงเรียนประจำคุณเสาวลักษณ์จึงค่อนข้างที่จะเหงา การได้เลี้ยงลูกเล็กๆ อีกคนมันทำให้เธอมีความสุข นา
ตอนที่ 15.หลังจากนั้นไม่นานคุณเสาวลักษณ์ก็ได้ยกขันหมากไปสู่ขออโนมาตามประเพณี แต่ด้วยความที่ครอบครัวของเธอมีอัธยาศัยรักสงบเรียบง่ายและเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้ดี งานแต่งของเธอจึงมีแค่การจดทะเบียนกันเงียบๆ โดยที่อโนมาขอใช้นามสกุลเดิมเพราะไม่อยากให้ใครตราหน้าว่าอยากจับรัชชานนท์หรืออยากเข้าร่วมสกุลเดชาวัชราจนตัวสั่น คุณเสาวลักษณ์กับรัชชานนท์ก็เคารพการตัดสินใจของเธอ แต่ก็มีข้อแม้ว่าหากเธอตั้งท้องอย่างน้อยลูกของเธอจะต้องใช้นามสกุลเดชาวัชรางานเลี้ยงฉลองสมรสของอโนมาและรัชชานนท์นั้นก็จัดแค่เล็กๆ ภายในครอบครัว มีเพียงเพื่อนๆ และคนสนิทเท่านั้น งานเลี้ยงฉลองเล็กๆ แต่กรุ่นไอแห่งความรักและความสุข ภาพความสุขต่างๆ ซึ่งเนตรนาราอาสาเป็นตากล้องถูกทำเป็นอัลบั้มไว้อย่างสวยงามแล้วแจกจ่ายให้ทุกนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขหลังจากเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้น ทำให้รัชชานนท์ไม่กล้าที่จะทำอะไรที่ล่วงเกินเธออีกเพราะรู้ตัวเองว่าคนรักจะต้องเจ็บปวดอย่างแน่นอนแล้วหลังจากนั้นไม่นานโนมาตั้งท้อง และจำเป็นต้องหยุดเรียนกลางคันทำให้เธอถูกกล่าวหาและดูถูกเหยียดหยามจากเพื่อนๆ โดยเฉพาะภูริตาที่ป่าวประกาศถึงความผิดปรกติของอ
ตอนที่ 16. “โธ่...เก่งๆ อย่างฉันไม่จำเป็นต้องเข้าทุกชั่วโมงหรอกบอกให้ ระดับนี้แล้ว อีกอย่างช่วงนี้เขาก็สอบกันแล้วย่ะ และฉันก็สอบเสร็จแล้วด้วย”“ได้ข่าวว่ากำลังหาที่ฝึกงานไม่ใช่หรือ แล้วไถมาแถวนี้จะชวนอ้อนไปไหน”“นี่นายตกข่าวเพราะมัวแต่หวานกันล่ะสิ ฉันน่ะนะได้ฝึกงานที่ อาร์แอนด์อาร์ คอนสทรักชั่น เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนหมวยกบฏไปแล้วย่ะ”“จริงเหรอเนตร ดีใจด้วยนะ” อโนมากล่าวแสดงความยินดีกับเพื่อนสาวคนสวยอย่างจริงใจเพราะเนตรนาราหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องได้ฝึกงานที่นี่ “อย่างฉันน่ะใครๆ ก็ต้องการ ฮ่าๆ” สาวสวยเอ่ยอย่างอารมณ์ดี “เออนี่นนท์วันนี้เราขอตัวว่าที่คุณแม่แสนสวยไปชอปปิงหน่อยนะ เราไม่มีเพื่อนเดินน่ะ”“หึ อย่างเธอนี่ต้องการเพื่อนเดินด้วยเหรอน้ำ ฉันเห็นทุกทีไปคนเดียวได้ไม่มีปัญหานี่” รัชชานนท์มักเรียกชื่อเล่นของเธอว่าน้ำตามความเคยชิน แม้ว่าเธอจะขอให้เพื่อนรักทั้งสองเรียกว่าเนตรมากกว่าน้ำด้วยเหตุผลส่วนตัว“แหม วันนี้มันไม่เหมือนกันนี่ แล้ววันนี้เธอก็ต้องเข้าประชุมหุ้นส่วนโรงแรมนนนที ด้วยนี่เฮียยังฝากบอกเลยว่าให้เธอเข้าประชุมด้วยอย่ามัวแต่หลงเมีย”“อืม...ก็ว่าจะเข้าไปอยู่ ถ้างั้นยังไงก็
ตอนที่ 130.“พี่ดูหมดแล้ว มีไดอะรีด้วยนะ แหมไม่ยักรู้ว่ามีคนแอบรักเราขนาดนี้ ยังกะแฟนพันธุ์แท้แน่ะ”“หยุดพูดเลยพี่กันต์ขี้โกง มาล้อเขาไม่คุยด้วยแล้วคนบ้าชอบล้อคนอื่น” คราวนี้สาวน้อยหน้าซีดอย่างอับอายและเริ่มโกรธและน้อยใจที่เขาเอาเรื่องของเธอมาล้อเลียน จนชายหนุ่มที่ยิ้มกริ่มด้วยความภาคภูมิใจก็เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองล้อเธอมากเกินไปรีบเข้ามาโอบร่างบางในม้วนผ้าห่มหนาที่เริ่มทำตาแดงๆ อย่างแสนงอนนั้นอย่างเอาใจทันที “โอ๋ๆ คนดีพี่ไม่ล้อแล้วเราดีกันนะ ไม่เอาตื่นมาแล้วต้องอารมณ์ดีนะคะ”“ก็แล้วใครล่ะมาล้อน้ำแข็งจนน้ำแข็งอาย นี่แน่ะคนขี้แกล้งๆ เขาดีนักนี่ๆ” สาวน้อยทุบอกกว้างอย่างแค้นใจ“พี่ขอโทษคนดี ก็คนมันดีใจนี่นาที่เมียเรารักเราขนาดนี้”“หลอกให้คนแก่ตายใจไปงั้นแหละจริงๆ แล้วไม่มีอะไรสักหน่อย”“จริงเหรอแต่ดูจากรูปนี้มันเก่ามากนะพี่จำได้ว่ารูปนี้พี่ถ่ายตอนสมัยเรียนอยู่อังกฤษกับไอ้ไฟ แล้วพี่ส่งมาให้แม่ของพี่แล้วมันมาอยู่ที่นี่ได้ไงน้า แล้วรูปนี้อีกเหมือนตัดมาจากนิตยสารที่พี่เคยให้สัมภาษณ์เมื่อสมัยกลับมาเมืองไทยใหม่ๆ เอแล้วอย่างนี้มันหมายความว่า เมียเด็กคนนี้แอบรักสามีแก่ๆ คนนี้มานานแล้วสิ”“ก็
ตอนที่ 129.ริมฝีปากร้ายกาจยังไม่หยุดโจมตีร่างสาวเมื่อร่างบางเปลือยเปล่าอัคคีตะลึงมองความงดงามไร้ที่ติตรงหน้าไม่ว่าจะเป็นอกอิ่มชูชนเรือนร่างสีน้ำผึ้งนวลเนียน เอวคอดบางรับกับสะโพกกลมกลึงและหน้าท้องเนียนมีเพียงรอยผ่าตัดจางๆ ที่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นว่ามันมี เรียวขาเรียวเสลาที่เขาคิดว่ามันสวยกว่าเรียวขาของหญิงสาวคนใด วันนี้มันสวยยิ่งกว่าและเมื่อได้สัมผัสร่างงามเขาก็รู้ว่าเธอสวยหวานฉ่ำไปทั้งเนื้อทั้งตัว หญิงสาวเขินอายต่อสายตาคมที่จับจ้องราวจะกลืนกินมือบางยกปิดบังทรวงสาวของตนแต่ก็ไม่ทันมือหนาที่คว้าไว้ก่อน ก่อนจะลดมือบางลงข้างๆ ตัวและค่อยๆ ผ่อนร่างบางลงบนที่นอนนุ่มอย่างอ่อนโยน มือหนาลูบไล้ใบหน้าหวานด้วยความรักและคลายความหวาดกลัวในใจของเธอ“อ้อนจ๋าอย่าอายพี่ อย่าเกร็ง เราเป็นคนๆ เดียวกันแล้วที่รัก ถ้าอ้อนอายที่พี่มองอ้อน อ้อนก็มองพี่คืนก็ได้คนดี เห็นไหมเราก็เสมอกันแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยเย้าแหบพร่าตามแรงปรารถนาและเมื่อหญิงสาวมองร่างเปลือยเปล่าไม่แพ้กันของอัคคีก็ต้องรีบหลับตาลงอย่างขัดเขินเมื่อร่างแกร่งของเขาที่เธอเห็นนั้นช่างงดงามและน่าหวาดหวั่นเช่นเดียวกันโดยเฉพาะส่วนนั้นของเขามันแข็งขึงใหญ่โตจน
ตอนที่ 128.“อ้อนรู้ไหมว่าพี่รู้สึกผิดตลอดมาตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันวันที่อ้อนไปที่ทำงานของพี่พร้อมกับน้ำแล้วก็ทะเลาะกับริต้า แต่พี่ไม่รู้จริงๆ ว่านนท์เขาแต่งงานและจดทะเบียนเงียบๆ กับอ้อนแล้ว พี่รู้สึกผิดที่ทำให้ผู้หญิงท้องคนหนึ่งร้องไห้เสียใจ และแววตาที่เจ็บปวดของเธอก็หลอกหลอนพี่มาตลอดกว่าหกปี แม้ว่าพี่จะไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยตลอดและไม่ได้มาร่วมงานศพของนนท์ แต่พี่ก็รู้ว่านนท์นั้นมีเมียมีลูกสาวที่น่ารัก พี่ทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายและงานที่สาขาก็มีปัญหาอยู่ช่วงหนึ่งพี่ก็เลือนๆ เรื่องของนนท์ไปจนเมื่อพี่มาเจออ้อนที่เชียงใหม่ทำให้พี่รู้สึกคุ้นแววตาคู่นั้น เมื่อได้รู้ว่าอ้อนคือคนๆ เดียวกัน แต่ด้วยความเห็นแก่ตัวและความอยากเอาชนะ พี่ก็เลยอยากลองจีบอ้อนเล่นๆ ดู แต่ยิ่งเข้าใกล้อ้อน พี่ก็ยิ่งถลำลึกจนมันผูกพี่ไว้กับอ้อนด้วยความรักไม่ใช่ความใคร่เหมือนในคราวแรก” อัคคีถอนหายใจออกมาเมื่อพูดจบ ความในใจที่เขามีต่อเธอมาแสนนาน อย่างที่เขานึกอยากจะบอกเธออยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่กล้าพูดไปแต่เมื่อวันนี้ได้พูดไป ก็เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกความรู้สึกหนักอึ้งในใจได้มลายหายไปอย่างน่าอัศจรรย์“อ้อน พี่ไม่รู้ว่าอ้อนยั
ตอนที่ 127. “พี่อัคคีไปอาบน้ำสิคะดูสิเหนียวตัวไปหมดแล้ว เดี๋ยวอ้อนเตรียมอาหารไว้รอ” หญิงสาวบอกอายๆ เมื่อร่างสูงนั้นไม่มีทีท่าว่าจะคลายอ้อมกอดนั้นเสียทีซ้ำยังคอยวนเวียนจุมพิตริมฝีปากบางจนแทบช้ำร่างสาวสั่นระริกแทบทรงตัวไม่อยู่แต่ยังฝืนร่างออกจากอกแกร่ง“ไม่เอายังไม่อยากอาบ อยากจูบอ้อนอย่างนี้ นะคะคนดีขอพี่นิดนึงแล้วพี่จะไปอาบน้ำ”“ไม่ได้ค่ะคนเอาแต่ใจอ้อนช้ำหมดแล้ว ไปเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวอ้อนก็ไม่ให้จูบอีกต่อไปคนเจ้าเล่ห์” อโนมาเบี่ยงร่างหนีมาได้ก็ยืนหน้าแดง มองอกเปลือยที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสวยงามเพราะเขาจงใจปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีสันสดใสนั้นเพื่อหลอกล่อเธอให้หลงใหลและมันก็ได้ผลเมื่อเธอใจสั่นเต้นตุ้บๆ แทบเป็นลมยิ่งเมื่อเขาคลุกเคล้าสัมผัสเธออย่างวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่า“โอเค พี่อาบน้ำเดี๋ยวเดียวแล้วอ้อนค่อยอาบนะจ๊ะส่วนเรื่องอาหารไม่ต้องแล้วเพราะพี่เตรียมไว้หมดแล้วที่ระเบียง” พูดจบร่างสูงก็ก้มลงจุ๊บมุมปากเธอเบาๆ ก่อนเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไปอย่างอารมณ์ดีปล่อยให้อโนมายืนแก้มแดงปลั่งอยู่กลางห้องมองตามเขาไปอย่างรักใคร่และเมื่อเดินมาที่ระเบียงก็พบอาหารที่จัดตกแต่งสวยงามพร้อมกับเทียนไขเล่มงามที่รอใ
ตอนที่ 126.ริมฝีปากหนาไล้เลียลำตัวขาวนวลเนียนนุ่มอย่างหลงใหลดื่มชิมความหวานด้วยความรักและเสน่หาที่เขาไม่เคยมีให้ใครและจูบไซร้ต่ำลงมาที่แอ่งสะดือน่ารักจนหน้าท้องเนียนหดเกร็งด้วยความเสียวกระสันและเริ่มต่อต้านถอยหนีด้วยความหวาดหวั่นเมื่อริมฝีปากร้ายร้อนนั้นเลื่อนต่ำลงจนน่าใจหาย แต่กันต์ก็ยึดสะโพกมนไว้แน่นและก้มลงดื่มชิมความสาวสวยสดที่ล่อให้เขาหลงใหลในความงามของกลีบสาวที่ฉ่ำชื้นเพื่อเขาและดื่มกินน้ำหวานจากร่างสาวอย่างไม่รังเกียจ ลิ้นหนาหยอกเอินจนสาวน้อยร้องครางด้วยความอ่อนเดียงสาแต่เสียงครางน่ารักนั้นกลับทำให้ผู้แก่ประสบการณ์ถึงกับร้อนรนอยากกระโจนเข้าร่างงาม ด้วยตัวตนที่แข็งขึงปวดร้าวต้องการการปลดปล่อย“พะ พี่กันต์ขา น้ำแข็ง...”“น้ำแข็งเป็นอะไรจ๊ะ บอกพี่ซิคนดี”ชายหนุ่มกระซิบชิดความสาวที่หวานหอมและเขาก็เฝ้าดอมดมกลิ่นสาบสาวนั้นด้วยความหลงเมามัวจนแทบระเบิด แต่ก็ต้องอดทนไว้เพื่อให้คุมค่าแก่การรอคอย“มะ ไม่รู้ค่ะ ช่วยน้ำแข็งด้วย น้ำแข็งๆ ไม่ไหวแล้ว พี่กันต์ขา”ใบหน้าสวยน่ารักแดงก่ำ ดวงตากลมโตหลับพริ้ม ริมฝีปากเห่อบวมด้วยแรงจุมพิตเผยอส่งเสียงครางน่ารักจนเขาแทบทนไม่ได้“โอ้ น้ำแข็งจ๋า พี่กันต
ตอนที่ 125.“เอาล่ะเสร็จแล้ว พี่ไปอาบน้ำก่อนนะคะคนดี” กันต์ดึงกิ๊บตัวสุดท้ายออกจากเรือนผมสวย ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปปล่อยให้เจ้าสาวที่เอาแต่ขัดเขินจนตัวสั่นได้มีเวลาถอดเครื่องประดับและชุดเจ้าสาวที่รัดรึงนั้นออกจากกายสาวงามสะพรั่ง สาวน้อยรีบถอดชุดและสวมเสื้อคลุมที่เตรียมไว้ ดวงตากลมโตก็คอยมองประตูห้องน้ำจะเปิดออกมาในขณะที่เธอกำลังถอดชุดเจ้าสาวและเมื่อเห็นว่าเขาออกมาในขณะที่เธอสวมเสื้อคลุมและเก็บชุดและเครื่องประดับเรียบร้อยแล้ว ไอรดาก็รีบก้มหน้าหลบสายตาคมๆ วาวๆ ของสามีเข้าห้องน้ำทันทีเพราะขัดเขินต่อร่างแกร่งที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนใหญ่ขาวสะอาดพันท่อนล่างไว้อย่างหมิ่นเหม่ และเรือนผมดกดำก็ชื้นหมาดๆ ดูเซ็กซี่เร้าใจ กล้ามเนื้อเป็นลอนสวยงามก็พาลทำให้สาวน้อยใจหวิวๆ เหมือนจะเป็นลม จึงได้แต่ยืนหอบหน้าแดงคนเดียวหลังประตูห้องน้ำ ในใจก็คิดหาทางรอดจากเจ้าบ่าวผู้กระหายหิวที่มองเธอแบบแทบจะกลืนกินมาตลอดวันกันต์มองประตูห้องน้ำยิ้มๆ อย่างรู้ทันเจ้าสาวผู้กลัวฝนของเขา สายตาเธอเปิดเปลือยความรู้สึกขนาดนั้นทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร แต่ก็ไม่อยากทำให้เธอตกใจตื่นกลัว ชายหนุ่มก้มมองเจ้าสิ่งที่ทำให้สาวน้อยแตกตื่
ตอนที่ 124.ภาพชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาที่ขับรถมอเตอร์ไซค์คันเล็กลายคิตตี้สีชมพูทั้งคันยิ้มหน้าบานและร้องเพลงรักสลับกับผิวปากเป็นเพลงหวานไปตลอดทาง และสาวน้อยน่ารักที่โอบเอวหนาซ้อนท้ายก็ยิ้มไม่หุบ แก้มนวลด้วยวัยสาวแดงปลั่ง ความรักของหนุ่มสาวผลิบานท่ามกลางสวนผลไม้ที่ตอนนี้เงาะกำลังออกผลสุกปลั่งสีแดงสดบ้างสีแดงส้มบ้าง ประดับเต็มต้นดูงดงามราวจิตกรแต้มสีสวยลงบนกิ่งใบสีเขียวขจี สายลมบริสุทธิ์พัดเอื่อยๆ ราวขับกล่อมให้หนุ่มสาวเพลินไปกับความรักที่รายล้อม แสงอาทิตย์อัสดงทอแสงสีทองก่อนจะค่อยๆ ลับเหลี่ยมภูผา ความรักของกันต์และไอรดาก็เริ่มผูกพันรัดรึงหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ด้วยความรักกันต์ใช้เวลาเรียนรู้และศึกษาการใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านสวนของไอรดาอยู่เกือบเดือนเพื่อให้คุ้นชินกับครอบครัวและความเป็นอยู่ของคนบ้านสวน และชายหนุ่มก็ปรับตัวได้ดีจนน่าทึ่งไม่เหลือเค้าคราบของหนุ่มเจ้าสำอาง แสนสำราญอย่างที่ผ่านมา แล้วในที่สุดวันที่กันต์รอคอยก็มาถึงเมื่อขบวนขันหมากที่เขาเร่งให้คุณกานติมายกมานั้นก็มาถึงชานเรือนบ้านทรงไทยหลังงามพร้อมด้วยขบวนเจ้าบ่าว บรรดาญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ยกขบวนกันมาล้นหลามและเต็ม
ตอนที่ 123.“ปล่อยนะคนบ้าบอกให้ปล่อยคนเจ้าเล่ห์นี่แนะๆๆ” สาวน้อยที่ตั้งสติได้และยังคงแง่งอนอยู่ทุบอักๆ เข้าที่อกกว้างอย่างไม่ยั้งแต่ชายหนุ่มก็ยินยอมโดยดีจนสาวน้อยพอใจยืนหอบอยู่กับอกกว้างนั้น แต่เจ้าของอกแกร่งยิ้มหน้าเป็นอย่างไม่รู้สึกรู้สา“หายงอนรึยังจ๊ะเด็กดีของพี่กันต์”“ไม่หาย ไม่คิดจะหายงอนด้วย ไม่ต้องมาทำหน้าด้านเลยนะคนบ้า”สาวน้อยสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอน กันต์มองเสี้ยวหน้าหวานใสน่ารักนั้นด้วยความรักล้นใจ ความหวานหอมที่เขาได้รับก่อนหน้านี้มันคุ้มแสนคุ้มกับการถ่อสังขารมาที่นี่ น้ำแข็งไสแสนหวานของเขาละลายเป็นน้ำเชื่อมหวานฉ่ำจนเขาอยากเข้าหอเสียวันนี้“พี่กันต์คิดถึงน้ำแข็งที่สุด อยากมาหาเร็วๆ แต่ติดธุระมากมายเลย น้ำแข็งจ๋าอย่าโกรธพี่กันต์นะจ๊ะคนดี นะคะ นะนะนะ เราดีกันนะ”ชายหนุ่มออดอ้อนด้วยท่าทางที่คิดว่าทำแล้วมันจะน่ารัก ก็เขาเห็นเด็กๆ ทำกันมันน่ารักดีนี่นะ ทำตาแบ๊วๆ ปากจู๋ๆ ตาปริบๆ และชูนิ้วก้อยดิ๊กๆ แบบนี้เขาคิดว่าต้องง้อสาวน้อยแก้มแดงสำเร็จ ไอรดามองกันต์ที่ทำท่าได้ตลกอย่างระอา ดูสิทำไปได้ตัวเองก็ใช่ว่าจะเป็นเด็กอายุสิบสามขวบ แต่นี่ปาเข้าไปสามสิบสามแล้วยังจะมาง้อเธอด้วยท่าแบบเด็ก
ตอนที่ 122.แม้ทุกเรื่องร้ายๆ จะผ่านไปแล้ว มิรันตีถูกจับกุมในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา วางแผนไว้ล่วงหน้าและเป็นผู้จ้างวานก่อเหตุแม้เธอจะถูกตัดสินให้ถูกจำคุกตลอดชีวิต แต่เธอเป็นผู้ต้องหาที่มีอาการวิกลจริตจึงต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด แม้อยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชเพื่อรักษาตัวเธอก็ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่เพราะเธอก่อคดีไว้หลายคดี ส่วนอาคมนั้นยอมรับสารภาพและให้ความร่วมมือกับทางตำรวจในการสืบค้นคดีและช่วยในการติดตามเด็กทั้งสอง จากความผิดของเขาเองทั้งคดีใหม่และคดีเก่าก็ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต“แม่ครับผมจะไปจันท์นะครับ พ่อกับแม่เตรียมขันหมากไว้ให้พร้อมเลยนะครับ คราวนี้ผมไม่ปล่อยให้น้ำแข็งหลุดมือแน่ๆ” กันต์บอกบิดามารดาที่ทำตัวเย็นชาห่างเหินกับเขามาหลายวันนับแต่เรื่องยุ่งๆ ผ่านไป แม้เรื่องของเพื่อนรักจบลง แต่ทั้งเรื่องงานและความรักเขากลับมีปัญหา หลังจากที่ไปเขากลับจากไปช่วยอัคคีก็พบว่าไอรดานั้นงอนเขาจนหนีกลับบ้านสวนด้วยการช่วยเหลือจากพ่อแม่ของเขาที่งอนเขาด้วย“เชอะไปง้อเขาให้ได้ก่อนเถอะค่อยมาบอกฉันให้ยกขันหมากไป ขืนยกขันหมากไปเขาเกิดไม่อยากแต่งงานกับแกขึ้นมา ฉันกับพ่อแกก็แย่สิ ไม่อยากถูกเด