“คุณอัคคี”
“พี่จำได้ว่าขอให้เรียกพี่ว่าพี่ไฟนะครับน้องอ้อน” เขากล่าวเสียงเรียบหากแววตาพราวระยับอย่างพึงพอใจเมื่อจับได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังตื่นตระหนก
“ดิฉันคงไม่กล้าตีตัวเสมอหรอกค่ะคุณอัคคี ฉันก็แค่คนธรรมดาไม่ได้มีอะไรน่าสนใจขนาดที่คุณต้องลดตัวมาสนิทสนมด้วย” หญิงสาวพูดอย่างไว้ตัวอย่างเปิดเผย ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจและขุ่นเคืองนิดๆ ที่หญิงสาวตรงหน้ากล้าพูดตรงๆ อย่างตัดไมตรีเขา ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่ากำลังฮอต เสน่ห์ร้อนแรงเป็นที่หมายปองของสาวๆ ค่อนประเทศ
“ใครว่าล่ะครับน้องอ้อนน่ะน่าสนใจสำหรับพี่สิครับ ไม่อย่างนั้นพี่คงไม่ต้องทำหน้าที่สารถีขับรถไปส่งน้องอ้อนที่โรงแรมแน่นอน” ชายหนุ่มพูดอย่างมั่นใจก็แน่ล่ะเขาอุตส่าห์ลงมาดักรอและสกัดดาวรุ่งคนขับรถของแม่เลี้ยงเกศราเพื่อจะหาโอกาสเข้าใกล้หญิงสาวตรงหน้านี่นา หญิงสาวทำหน้าเหวอเมื่อเจอมุกนี้เพราะไม่คิดว่าเพลย์บอยตัวอันตรายอย่างอัคคีจะกล้าลดตัวลงมาทำอะไรที่มันไม่ค่อยจะมีเหตุมีผลในสายตาและความคิดของเธอ
“แล้วคนขับรถที่พี่เกดบอกว่าจะไปส่งฉันล่ะคะ” หญิงสาวทำท่าระแวงแล้วมองซ้ายมองขวาหาคนขับรถที่เธอเดินตามมา แต่พอเผลอชื่นชมดอกไม้นิดเดียวเท่านั้นคนขับรถตัวดีก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“พอดีคำหล้าปวดท้องกะทันหันก็เลยวิ่งไปเข้าห้องน้ำ พี่เห็นท่าว่าไม่ดีกลัวว่าเขาจะนานก็เลยอาสาไปส่งน้องอ้อนเอง หรือว่าน้องอ้อนไม่ไว้ใจพี่ครับ” ชายหนุ่มต้อนหญิงสาวอย่างไม่ยอมให้หลีกเลี่ยงและนึกสนุกที่เห็นท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเธอ เหมือนลูกกวางที่พลัดตกหลุมนายพรานแล้วกระวนกระวายหาทางออกไม่เจอ สร้างความพอใจให้ชายหนุ่มยิ่งนัก
“อีกอย่างนี่ก็เริ่มดึกแล้ว พี่เกดกับพี่อินก็กำลังส่งแขกและเตรียมเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เห็นว่าจะไปรับตาสิงโตที่ไปเข้าค่ายลูกเสือ และก็จะไปเที่ยวเชียงรายด้วยเลยต้องเตรียมพักผ่อนเอาแรงไว้เที่ยว”
ชายหนุ่มอธิบายพร้อมกับผายมือไปที่รถคันหรูบอกกลายๆ ว่า เชิญครับคุณผู้หญิง ด้วยสีหน้าพราวยิ้มอย่างคนที่เหนือกว่า จนคนที่ทำท่าว่าจะหันหลังกลับขึ้นเรือนนั้นจำต้องก้าวขึ้นรถที่ชายหนุ่มเปิดประตูรอ
“ขอบคุณค่ะ”
สั้นๆ แค่นั้นที่หญิงสาวเอ่ยกับเขาและนิ่งเงียบมาตลอดเส้นทางจากคุ้มอินจำปามาถึงบ้านพักในโรงแรม หญิงสาวไม่ได้เอ่ยอะไรกับเขาเพียงนั่งเงียบๆ มือประสานกันไว้บนตักและหันหน้ามองข้างทางอย่างกับว่ามีอะไรน่าสนใจนักหนา ทั้งๆ ที่มันมืดมิด
“หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะครับน้องอ้อน”
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบเมื่อลงมาเปิดประตูให้หญิงสาวเมื่อเห็นท่าว่าเธอจะเปิดประตูลงมาเสียเองอย่างกับว่าเขาเป็นตัวอันตรายไม่น่าเข้าใกล้
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณอัคคี” เธอไหว้เขาตามมารยาทแล้วทำท่าว่าจะผละไปหากเสียงทุ้มนั้นไม่ทัดทานไว้เสียก่อน
“ไม่ต้องทำท่าว่ากลัวพี่จะกินขนาดนั้นก็ได้ครับ พี่เป็นคนที่มีความยับยั้งชั่งใจพอสมควรแม้ว่าตอนนี้มันจะน้อยนิดก็เถอะ”
“ดิฉันคิดว่าคุณอัคคีคงจะเข้าใจอะไรผิดไปนะคะ ที่ดิฉันแสดงออกว่าไม่อยากอยู่ใกล้คุณไม่ใช่เพราะกลัวหรือเรียกร้องความสนใจอะไรทั้งนั้น แต่เพราะฉันทำไปทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยของฉันเอง เพราะไม่อยากสู้รบปรบมือกับใครและไม่อยากเป็นของเล่นไฮโซอย่างคนอื่นๆ หวังว่าคุณคงเข้าใจและขอบคุณอีกครั้งที่มาส่ง ลาก่อนค่ะ คุณอัคคี จงบริบูรณ์ไพศาล”
หญิงสาวอธิบายอย่างพยายามระงับอารมณ์ แล้วเดินจากไปด้วยท่วงท่าที่มั่นคงสง่างาม ทิ้งให้เสือร้ายอย่างอัคคีมองตามอย่างมาดหมายในตัวเธอ
“เธอคิดว่าเธอจะรอดจากมือฉันไปได้หรืออโนมา อะไรที่ฉันอยากได้มันก็ต้องได้ ไม่นานหรอกเธอจะต้องเป็นของฉัน”
ชายหนุ่มมองตามร่างบางที่เดินจากไปจนเธอเข้าไปในบ้านหลังน้อยจึงขับรถกลับไปที่คุ้มอินจำปาและในใจก็คิดหาวิธีต่างๆ นานาเพื่อที่จะได้อโนมา มาดับไปที่ร้อนเร่าของตน แต่หากอัคคีจะมีโอกาสล่วงรู้อนาคตเขาจะรู้ว่า นอกจากอโนมาจะมาดับไฟเร่าร้อนในใจของเขาได้แล้ว ยังทำให้ไฟที่ว่าร้อนๆ เช่นเขากลายเป็นไฟที่ให้ความอบอุ่นและพร้อมจะแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่นได้เช่นกัน...
ภายในบ้านพักหลังน้อย อโนมาปิดม่านลูกไม้สีขาวแสนสวยลงแล้วถอนใจเบาๆ อย่างหนักใจกับการที่ได้เจอผู้ชายที่รังสีอันตรายแผ่กระจายอยู่รอบตัว ใครบ้างไม่รู้จัก อัคคี จงบริบูรณ์ไพศาล คนนี้ และเธอเองก็รู้จักเขาดีทีเดียว เขาอาจจะจำเธอไม่ได้แต่เธอกลับจำเขาได้ขึ้นใจแต่มันไม่ใช่ความประทับใจแต่มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เธอต้องจดจำเขาจนวันตายด้วยวาจาที่ร้ายๆ ของเขาในวันวาน และเพราะคำพูดของเขาในวันนั้นมันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเข้มแข็งจนวันนี้เช่นกัน
หญิงสาวหลับตาลงใบหน้าสวยหวานนั้นเศร้าหมองเมื่อนึกถึงวันวานที่แสนจะเจ็บปวดเธอมักจะเป็นอย่างนี้เสมอเมื่ออยู่คนเดียวชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยวกวนอยู่แต่ในอดีตที่หวนกลับไปแก้ไขไม่ได้ยิ่งช่วงแรกๆ ที่เธอเริ่มตั้งท้องเธอยิ่งเครียดและเงียบงันจนเดือดร้อนเพื่อนรักทั้งสองต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะกลัวว่าเธอจะทำอะไรโง่ๆ หรือเครียดจนทำให้สุขภาพย่ำแย่มากกว่าเดิมเมื่อนึกถึงเพื่อนแล้วเธอก็รีบโทรถึงเพื่อนสาวแสนดีทั้งสองทันทีโดยเริ่มที่แม่แมงปอตัวน้อย
“ไงแม่แมงปอทำอะไรอยู่จ๊ะ” เธอถามปลายสายได้ยินเสียงดนตรีแว่วๆ
“กำลังเล่นเพลงใหม่ๆ อยู่น่ะแก พรุ่งนี้มีสอนเด็กๆ แทนแม่น่ะ” เสียงใสๆ ของอรุณนารีส่งมาตามสาย
“แล้วลูกสาวเป็นไงบ้างซนรึเปล่าวันนี้”
น้ำเสียงเมื่อพูดถึงลูกสาวตัวน้อยที่เมื่อนึกถึงลูกทีไรจิตใจที่ห่อเหี่ยวพลันชุ่มฉ่ำเหมือนได้น้ำทิพย์ชโลมใจ และเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้เธอมีแรงที่จะสู้กับทุกๆ อย่าง
“ไม่ซนแล้วเดี๋ยวนี้ลูกสาวเราเขาเป็นสาวแล้ว วันนี้เห็นกำลังหัดเล่นเพลงวิมานดินกับคุณตาคุณยาย ชีบอกว่าจะเอาไว้ไปเล่นให้พี่ซันฟัง แล้วหล่อนเชื่อไหมว่าโลกมันกลมจริงๆ” อรุณนารีบอกอย่างอารมณ์ดี
“ทำไมถึงว่าอย่างนั้นล่ะแก”
“ก็พี่ซันที่ลูกสาวสุดสวยของเราพูดถึงน่ะเป็นน้องชายต่างแม่ของยัยเนตร ลูกยัยมิรันตีสุดแสบคู่ปรับเก่าเราไงแก ทีนี้เชื่อรึยังล่ะว่าโลกกลมจริงๆ” เสียงใสนั้นเล่าอย่างนึกสนุกเมื่อนึกถึงหญิงสาวที่ชื่อ มิรันตี...
“ใช่แก โลกกลมจริงๆ กลมมากๆ ด้วย”
ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกินที่เธอกับลูกสาวได้พบเจอกับบุคคลที่ไม่พึงประสงค์พร้อมๆ กัน
“ยังไงก็ช่วยดูๆ ให้หน่อยละกัน แค่นี้นะแก”
ว่าแล้วเธอก็วางสายแล้วยกมือเรียวลูบหน้าอย่างคนที่กำลังครุ่นคิด และแล้วภาพในอดีตที่อยากจะลืมก็ลอยเข้ามาอย่างไม่ได้รับเชิญ
ตอนที่1“มาแล้วจ้า” เสียงใสๆ จากหญิงสาวร่างเล็กบอบบางนามว่า อรุณนารี ผู้มีใบหน้ารูปหัวใจน่ารัก ดวงตากลมโตสดใสเปล่งประกายดุจยามเช้า จมูกเล็กๆ นั้นมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายริมฝีปากบางน่ารักจิ้มลิ้มยิ้มแย้มอย่างคนอารมณ์ดีเป็นนิจนั้นส่งยิ้มหวานหยดให้หญิงสาวร่างสูงระเหิดระหงตรงหน้าที่บัดนี้หน้าสวยเริ่มหงิกงอ“ไงแม่แมงปอทำไมวันนี้มาช้านักล่ะ แกรู้มั้ยวันนี้ฉันต้องเป็นแม่ค้าขายต้นไม้ให้หล่อนจนเมื่อยไปหมดแล้วนะเนี่ย”เสียงบ่นกระปอดกระแปดดังมาจากปากของหญิงสาวร่างสูงโปร่งสมส่วน ใบหน้ารูปไข่นวลเนียนนั้นประดับด้วยดวงตากลมโตดำขลับวาววับจมูกโด่งเชิดอย่างคนดื้อรั้น ริมฝีปากรูปกระจับอิ่มแดงเรื่ออย่างคนสุขภาพดีล้อมกรอบหน้าสวยด้วยผมซอยสั้นทันสมัยรับรูปหน้าคล้ายดาราเกาหลีที่กำลังฮิตเธอคือ เนตรนารา สาวสวยสุดเท่อารมณ์ติสต์ ซึ่งตอนนี้หน้าสวยเริ่มหงิกงอเพราะวันนี้ลูกค้าเข้าร้านแต่เช้าทั้งร้านกาแฟและร้านต้นไม้จนเธอหัวหมุน“ทำไมน้า...ฉันต้องมาช่วยแกด้วย ทั้งๆ ที่วันนี้มันวันหยุดฉันน่ะ”“ฉันแวะไปส่งน้องอิ่มอุ่นแล้วก็เอาไอ้สีเทาเข้าอู่น่ะแก ขอโทษจริงๆ ว่ะ” อรุณนารีตอบเพื่อนสาวคนสวยพลางยิ้มให้อย่างน่ารักแบบว่าขอโท
ภายในโรงแรมหรูหราระดับห้าดาวของเมืองเชียงใหม่ บริเวณลานกว้างที่จัดตกแต่งอย่างงดงามอลังการเพื่อจัดงานนิทรรศการอาหารไทยพื้นเมืองและอาหารนานาชาติ คลาคล่ำด้วยผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งต่างให้ความสนใจในบู๊ทจัดงานต่างๆ ซึ่งมีอาหารมากมายหลากหลายสีสันและรสชาติให้ชมและชิม จับจ่ายเพื่อเป็นของฝากแก่พ่อแม่เพื่อนฝูง ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างอิ่มเอมมีความสุขทั้งเจ้าของร้านและลูกค้าบ่งบอกได้อย่างดีว่าการจัดงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเพียงใดด้านหลังเวทีสัมมนากลางลานจัดงาน หญิงสาวร่างระหงแต่งกายด้วยชุดไทยล้านนาซึ่งตัดเย็บอย่างประณีตงดงามสีงาช้างขับผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนให้ผุดผ่องน่ามอง ผมยาวสลวยเกล้ามวยสูงแซมดอกกล้วยไม้เผยใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลประกายวาวหวาน ขนตายาวงอนโดยไม่ต้องดัด จมูกโด่งเชิดสวยคม ริมฝีปากรูปกระจับอิ่มระเรื่อเคลือบสีชมพูอ่อนใสน่ามองความงดงามดูชดช้อยอ่อนหวานของหญิงสาวทำให้คนมองนึกถึงภาพของสาวเครือฟ้าขึ้นมาครามครันนั้น ร่างบางกำลังก้าวลงเวทีด้วยใบหน้าแย้มยิ้มอ่อนหวานให้กับผู้ร่วมงานอื่นที่ส่งยิ้มทักทาย“ขอบคุณมากๆ เลยค่ะคุณอ้อนที่ให้เกียรติมาร่วมงานกับโรงแรมแล
ตอนที่3.เธองดงามจนแทบลืมหายใจ โอ...หรือมันเป็นเพียงภาพลวงตา ชายหนุ่มบอกตัวเอง แม้แค่ได้เห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างของเธอแค่นั้นก็ทำอัคคีรู้ว่าใบหน้านั้นต้องงดงามอย่างแน่นอน เธอทำให้ใจของชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเพลย์บอยตัวฉกาจสั่นไหวอย่างรุนแรง ดุจว่าโดนช็อตด้วยไฟฟ้าแรงสูงกระนั้นหัวใจหนุ่มที่ไม่เคยต้องหวั่นไหวเพราะหญิงใด เต้นแรงเหมือนหนุ่มน้อยแรกริรัก ทั้งๆ ที่ตลอดระยะเวลาสามสิบสามปีในชีวิตของอัคคี มีหญิงงามมากหน้าหลายตาผ่านเข้ามาให้เชยชมอยู่มิได้ขาด และแต่ละนางก็ได้ชื่อว่าสวยบาดใจ ทั้งดารานางแบบ ทั้งในและต่างประเทศ เขาก็ได้เชยชมมาแล้วทั้งสิ้น แต่คราวนี้อัคคี กลับหวั่นไหวรุนแรง และหัวใจยิ่งเต้นกระหน่ำเหมือนกลองศึกเมื่อใบหน้าของเธอค่อยๆ หันมาทางด้านที่เขายืนอยู่ คล้ายกับว่าเจ้าตัวเริ่มรู้สึกว่ามีคนมองอยู่... อัคคีตื่นเต้นจนแทบลืมหายใจเมื่อเห็นดวงหน้านั้นชัดๆ...ดวงตาทั้งสองคู่สบกันโดยไม่ตั้งใจ แต่กระนั้นก็ได้ทำให้ดวงใจสองดวงเต้นแรงแทบประทุโดยไม่รู้สาเหตุ ดวงตาสวยซึ้งดูตระหนกระคนตื่นเต้น ร่างกายชาวาบร้อนสลับหนาว จนเธอรู้สึกสับสนกับตนเอง ริมฝีปากอวบอิ่มเผยออย่างลืมตัว มองชายหนุ่มร่างสูงคนน
ตอนที่4.“นี่เราเป็นบ้าอะไร” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง การได้เห็นหน้าหวานสวยซึ้งของแม่เอื้องเหนือนั่นแค่ชั่วแวบเดียวถึงกับทำให้เขาเป็นเอามากขนาดนี้เลยหรือ ภาพที่ทับซ้อนเข้ามาในหัวสมองเขาอีกภาพก็คือภาพร่างของแม่เอื้องงามที่ทอดกายระทวยส่งเสียงครางกระเส่าเร่าร้อนอยู่ใต้ร่างของเขายิ่งทำให้ชายหนุ่มพลุ่งพล่านหนักกว่าเดิมเหมือนเติมเชื้อเพลิงพิศวาสร้อนแรงเกินกว่าจะดับลงได้ อัคคีพลุ่งพล่านเดือดดาลในใจ จนหลงลืมไปว่าเขาได้ทำให้แม่ดอกแคเธอรีนที่เบ่งบานพรักพร้อมเหี่ยวเฉาลงอย่างแรง“กรี๊ด...บ้าๆ นี่มันบ้าบอที่สุด อาร์ตี้คุณทำแบบนี้กับแคทได้ยังไง คนบ้า” ร่างเย้ายวนของเธอเต้นเหยงๆ อยู่ข้างเตียงกว้างเมื่อเห็นว่าร่างสูงสมาร์ตนั่นไม่แม้แต่จะชายตามองเธอที่อารมณ์ค้างอยู่“เอาเป็นว่าไว้เมื่อไรที่ผมอารมณ์ดีกว่านี้เราค่อยเจอกันใหม่ละกัน ส่วนเรื่องนั้นเดี๋ยวคนของผมจะจัดการให้พรุ่งนี้ ไม่เกินเก้าโมงเช้าแน่นอน”อัคคีหันมาบอกแก่คู่ควงคนล่าสุดด้วยใบหน้าและแววตาเฉยชาแต่น้ำเสียงห้าวๆ นั้นบอกได้อย่างดีว่าบัดนี้ชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ในอารมณ์ไหน และถ้าหากเธอยังอยากจะเอาแต่ใจหรือเรียกร้องอะไรที่มากกว่านี้มันจะเป็นการกระทำที่
ตอนที่5.“อ้าว ไงอัคคีพี่นึกว่าเราจะไม่มาซะแล้ว มาๆ นั่งด้วยกันตรงนี้” แล้วพ่อเลี้ยงอินคำก็ยืนขึ้นเพื่อต้อนรับผู้มาใหม่ที่กำลังเดินเยื้องย่างเข้ามาช้าๆ ด้วยสายตาหมายมาดอะไรบางอย่างซึ่งมีเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้“สวัสดีครับพี่อิน พี่เกด” อัคคีทำความเคารพสองสามีภรรยาที่เขาให้ความเคารพดุจพี่น้องมาเนิ่นนาน นับแต่เริ่มแตกเนื้อหนุ่มเพราะว่าทั้งตระกูลของแม่เลี้ยงเกศราและตระกูลของเขานั้น ทำธุรกิจร่วมกันมานานและผูกพันกันมาหลายชั่วอายุคน แต่สิ่งที่ทำให้เขาตรงดิ่งมาที่นี่ไม่ใช่แค่จะมาคุยธุรกิจกับสองสามีภรรยา แต่มันมีสาเหตุมาจากหญิงสาวร่างบางซึ่งนั่งหันหลังให้เขาคนนั้นต่างหากที่ทำให้เขาต้องเอาเวลาที่จะได้พักผ่อนหาความสำราญกับแม่สาวๆ นั้นทิ้งไปอย่างไม่ไยดีอัคคีมองแผ่นหลังสีน้ำผึ้งนวลเนียนไม่วางตา นับตั้งแต่แรกก้าวขึ้นเรือนมาเจ้าของแผ่นหลังงดงามที่ตรึงตาตรึงใจเขาตั้งแต่ตอนเย็นที่โรงแรม สีผิวที่เขาเห็นไกลๆ ว่าดูสวยน่าสัมผัสแล้วเมื่อมองใกล้ๆ กลับพบว่ามันยิ่งสวยนวลเนียนเย้ายวนน่าสัมผัสกว่าเป็นไหนๆ ยิ่งสายลมที่พัดผ่านแผ่วเบาก็พาเอากลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนร่างบางอรชรมาแตะจมูกยิ่งทำให้เลือดในกายหนุ่มร้อนรุ่ม
ตอนที่6.“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันหยิบเองได้ ขอบคุณค่ะ”หญิงสาวตอบสั้นๆ อย่างมีมารยาทแล้วเลือกที่จะหยิบขวดน้ำเปล่าที่เป็นขวดแก้วและยังไม่มีการเปิดดื่มกินซึ่งปฏิกิริยาของเธอก็สร้างความขุ่นเคืองในใจของชายหนุ่มผู้มีความมั่นใจในเสน่ห์ของตนอย่างอัคคีมากทีเดียวแต่เขาเลือกที่จะข่มมันไว้“ไงล่ะพ่อรูปหล่อน้องสาวคนสวยของเราไม่เล่นด้วยล่ะสิหน้าหงิกเหมือนหมาเห็นปลากระป๋อง” แม่เลี้ยงกล่าวตอกย้ำ“อะไรที่นายอัคคีอยากได้มันก็ต้องได้เสมอแหละ พี่เกดอย่าเพิ่งได้ใจไป” แม้จะตอบอย่างคนที่มั่นใจแต่ในใจกลับร้อนรุ่มเพราะเหมือนเขาโดนลบเหลี่ยม“ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ละมั้ง เพราะน้องอ้อนเขาไม่ใช่สาวๆ อย่างที่นายเคยควง เขาดีกว่านั้นเยอะ แม้ว่าเขาจะเป็นม่ายสาวลูกหนึ่งก็เถอะ แต่บอกได้คำเดียวว่ามีหนุ่มๆ คอยรุมแจกขนมจีบเพียบทั้งนิสัยดี เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติมากมายไม่แพ้นายเลยสักคน”“ถ้านายไม่คิดจะจริงจังก็อย่างไปให้ความหวังหรือแสดงออกว่าสนใจน้องอ้อนเขาดีกว่า พี่ว่าปล่อยให้น้องเขาไปเจอคนที่ดีๆ จะดีกว่าเจอคนอย่างนายนะ” คราวนี้เป็นเสียงของคนที่เขาเคารพรักเหมือนพี่ชายเอ่ยออกมาสร้างความไม่พอใจให้ชายหนุ่มอย่างมาก“โห...
ตอนที่7.เมื่อเพลงบรรเลงจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นด้วยความชื่นชม หญิงสาวผู้เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของงานพนมมือไหว้ขอบคุณทุกคนอย่างงดงามสร้างความปลาบปลื้มชื่นชมแด่แม่เลี้ยง พ่อเลี้ยงแห่งคุ้มอินจำปายิ่งนัก“อัคคี นายอัคคีภัย นี่เพลงจบแล้วยืนบื้ออยู่ได้” แม่เลี้ยงเกศราใช้ข้อศอกกระทุ้งสีข้างของอัคคีเบาๆ ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งนิดๆ แล้วรีบกะพริบตากลบเกลื่อนพิรุธ“ครับก็เพราะดีนะครับ” ชายหนุ่มกระแอมในลำคอเล็กน้อยแก้เก้อ“ก็แหงล่ะ น้องอ้อนของพี่ทำอะไรก็ดี ก็เด่นเข้าตาหนุ่มๆ เสมอแหละ ดูสิสงสัยหนุ่มๆ แถวนี้เป็นแฟนคลับของน้องอ้อนกันหมดแล้ว” พ่อเลี้ยงบุ้ยใบ้ไปทางด้านอโนมาซึ่งได้รับความสนใจจากหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่ล้อมหน้าล้อมหลังแย่งกันพูดคุยกับสาวสวยของงานในค่ำคืนนี้เพื่อจะได้มีโอกาสสานต่อความสัมพันธ์ในอนาคต แต่ภาพนั้นกลับทำให้อัคคีร้อนรุ่มนัยน์ตาร้อนผ่าวด้วยความขัดเคืองทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกแบบนั้นแต่อาการที่คันยุบยิบเจ็บจี๊ดๆ ในหัวใจโดยไม่รู้สาเหตุแค่ได้เห็นชายคนอื่นอยู่ใกล้หรือพูดคุยกับเธอ“ก็เป็นธรรมดาแหละครับเขาสวยก็ไม่แปลกที่มีคนสนใจเขา” ชายหนุ่มพยายามซ่อนความขัดเคืองจากน้ำเสียงแ
ตอนที่8.“คุณอัคคี”“พี่จำได้ว่าขอให้เรียกพี่ว่าพี่ไฟนะครับน้องอ้อน” เขากล่าวเสียงเรียบหากแววตาพราวระยับอย่างพึงพอใจเมื่อจับได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังตื่นตระหนก“ดิฉันคงไม่กล้าตีตัวเสมอหรอกค่ะคุณอัคคี ฉันก็แค่คนธรรมดาไม่ได้มีอะไรน่าสนใจขนาดที่คุณต้องลดตัวมาสนิทสนมด้วย” หญิงสาวพูดอย่างไว้ตัวอย่างเปิดเผย ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจและขุ่นเคืองนิดๆ ที่หญิงสาวตรงหน้ากล้าพูดตรงๆ อย่างตัดไมตรีเขา ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่ากำลังฮอต เสน่ห์ร้อนแรงเป็นที่หมายปองของสาวๆ ค่อนประเทศ “ใครว่าล่ะครับน้องอ้อนน่ะน่าสนใจสำหรับพี่สิครับ ไม่อย่างนั้นพี่คงไม่ต้องทำหน้าที่สารถีขับรถไปส่งน้องอ้อนที่โรงแรมแน่นอน” ชายหนุ่มพูดอย่างมั่นใจก็แน่ล่ะเขาอุตส่าห์ลงมาดักรอและสกัดดาวรุ่งคนขับรถของแม่เลี้ยงเกศราเพื่อจะหาโอกาสเข้าใกล้หญิงสาวตรงหน้านี่นา หญิงสาวทำหน้าเหวอเมื่อเจอมุกนี้เพราะไม่คิดว่าเพลย์บอยตัวอันตรายอย่างอัคคีจะกล้าลดตัวลงมาทำอะไรที่มันไม่ค่อยจะมีเหตุมีผลในสายตาและความคิดของเธอ“แล้วคนขับรถที่พี่เกดบอกว่าจะไปส่งฉันล่ะคะ” หญิงสาวทำท่าระแวงแล้วมองซ้ายมองขวาหาคนขับรถที่เธอเดินตามมา แต่พอเผลอชื่นชมดอกไม้นิดเดียวเท่า
ตอนที่7.เมื่อเพลงบรรเลงจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นด้วยความชื่นชม หญิงสาวผู้เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของงานพนมมือไหว้ขอบคุณทุกคนอย่างงดงามสร้างความปลาบปลื้มชื่นชมแด่แม่เลี้ยง พ่อเลี้ยงแห่งคุ้มอินจำปายิ่งนัก“อัคคี นายอัคคีภัย นี่เพลงจบแล้วยืนบื้ออยู่ได้” แม่เลี้ยงเกศราใช้ข้อศอกกระทุ้งสีข้างของอัคคีเบาๆ ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งนิดๆ แล้วรีบกะพริบตากลบเกลื่อนพิรุธ“ครับก็เพราะดีนะครับ” ชายหนุ่มกระแอมในลำคอเล็กน้อยแก้เก้อ“ก็แหงล่ะ น้องอ้อนของพี่ทำอะไรก็ดี ก็เด่นเข้าตาหนุ่มๆ เสมอแหละ ดูสิสงสัยหนุ่มๆ แถวนี้เป็นแฟนคลับของน้องอ้อนกันหมดแล้ว” พ่อเลี้ยงบุ้ยใบ้ไปทางด้านอโนมาซึ่งได้รับความสนใจจากหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่ล้อมหน้าล้อมหลังแย่งกันพูดคุยกับสาวสวยของงานในค่ำคืนนี้เพื่อจะได้มีโอกาสสานต่อความสัมพันธ์ในอนาคต แต่ภาพนั้นกลับทำให้อัคคีร้อนรุ่มนัยน์ตาร้อนผ่าวด้วยความขัดเคืองทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกแบบนั้นแต่อาการที่คันยุบยิบเจ็บจี๊ดๆ ในหัวใจโดยไม่รู้สาเหตุแค่ได้เห็นชายคนอื่นอยู่ใกล้หรือพูดคุยกับเธอ“ก็เป็นธรรมดาแหละครับเขาสวยก็ไม่แปลกที่มีคนสนใจเขา” ชายหนุ่มพยายามซ่อนความขัดเคืองจากน้ำเสียงแ
ตอนที่6.“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันหยิบเองได้ ขอบคุณค่ะ”หญิงสาวตอบสั้นๆ อย่างมีมารยาทแล้วเลือกที่จะหยิบขวดน้ำเปล่าที่เป็นขวดแก้วและยังไม่มีการเปิดดื่มกินซึ่งปฏิกิริยาของเธอก็สร้างความขุ่นเคืองในใจของชายหนุ่มผู้มีความมั่นใจในเสน่ห์ของตนอย่างอัคคีมากทีเดียวแต่เขาเลือกที่จะข่มมันไว้“ไงล่ะพ่อรูปหล่อน้องสาวคนสวยของเราไม่เล่นด้วยล่ะสิหน้าหงิกเหมือนหมาเห็นปลากระป๋อง” แม่เลี้ยงกล่าวตอกย้ำ“อะไรที่นายอัคคีอยากได้มันก็ต้องได้เสมอแหละ พี่เกดอย่าเพิ่งได้ใจไป” แม้จะตอบอย่างคนที่มั่นใจแต่ในใจกลับร้อนรุ่มเพราะเหมือนเขาโดนลบเหลี่ยม“ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ละมั้ง เพราะน้องอ้อนเขาไม่ใช่สาวๆ อย่างที่นายเคยควง เขาดีกว่านั้นเยอะ แม้ว่าเขาจะเป็นม่ายสาวลูกหนึ่งก็เถอะ แต่บอกได้คำเดียวว่ามีหนุ่มๆ คอยรุมแจกขนมจีบเพียบทั้งนิสัยดี เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติมากมายไม่แพ้นายเลยสักคน”“ถ้านายไม่คิดจะจริงจังก็อย่างไปให้ความหวังหรือแสดงออกว่าสนใจน้องอ้อนเขาดีกว่า พี่ว่าปล่อยให้น้องเขาไปเจอคนที่ดีๆ จะดีกว่าเจอคนอย่างนายนะ” คราวนี้เป็นเสียงของคนที่เขาเคารพรักเหมือนพี่ชายเอ่ยออกมาสร้างความไม่พอใจให้ชายหนุ่มอย่างมาก“โห...
ตอนที่5.“อ้าว ไงอัคคีพี่นึกว่าเราจะไม่มาซะแล้ว มาๆ นั่งด้วยกันตรงนี้” แล้วพ่อเลี้ยงอินคำก็ยืนขึ้นเพื่อต้อนรับผู้มาใหม่ที่กำลังเดินเยื้องย่างเข้ามาช้าๆ ด้วยสายตาหมายมาดอะไรบางอย่างซึ่งมีเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้“สวัสดีครับพี่อิน พี่เกด” อัคคีทำความเคารพสองสามีภรรยาที่เขาให้ความเคารพดุจพี่น้องมาเนิ่นนาน นับแต่เริ่มแตกเนื้อหนุ่มเพราะว่าทั้งตระกูลของแม่เลี้ยงเกศราและตระกูลของเขานั้น ทำธุรกิจร่วมกันมานานและผูกพันกันมาหลายชั่วอายุคน แต่สิ่งที่ทำให้เขาตรงดิ่งมาที่นี่ไม่ใช่แค่จะมาคุยธุรกิจกับสองสามีภรรยา แต่มันมีสาเหตุมาจากหญิงสาวร่างบางซึ่งนั่งหันหลังให้เขาคนนั้นต่างหากที่ทำให้เขาต้องเอาเวลาที่จะได้พักผ่อนหาความสำราญกับแม่สาวๆ นั้นทิ้งไปอย่างไม่ไยดีอัคคีมองแผ่นหลังสีน้ำผึ้งนวลเนียนไม่วางตา นับตั้งแต่แรกก้าวขึ้นเรือนมาเจ้าของแผ่นหลังงดงามที่ตรึงตาตรึงใจเขาตั้งแต่ตอนเย็นที่โรงแรม สีผิวที่เขาเห็นไกลๆ ว่าดูสวยน่าสัมผัสแล้วเมื่อมองใกล้ๆ กลับพบว่ามันยิ่งสวยนวลเนียนเย้ายวนน่าสัมผัสกว่าเป็นไหนๆ ยิ่งสายลมที่พัดผ่านแผ่วเบาก็พาเอากลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนร่างบางอรชรมาแตะจมูกยิ่งทำให้เลือดในกายหนุ่มร้อนรุ่ม
ตอนที่4.“นี่เราเป็นบ้าอะไร” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง การได้เห็นหน้าหวานสวยซึ้งของแม่เอื้องเหนือนั่นแค่ชั่วแวบเดียวถึงกับทำให้เขาเป็นเอามากขนาดนี้เลยหรือ ภาพที่ทับซ้อนเข้ามาในหัวสมองเขาอีกภาพก็คือภาพร่างของแม่เอื้องงามที่ทอดกายระทวยส่งเสียงครางกระเส่าเร่าร้อนอยู่ใต้ร่างของเขายิ่งทำให้ชายหนุ่มพลุ่งพล่านหนักกว่าเดิมเหมือนเติมเชื้อเพลิงพิศวาสร้อนแรงเกินกว่าจะดับลงได้ อัคคีพลุ่งพล่านเดือดดาลในใจ จนหลงลืมไปว่าเขาได้ทำให้แม่ดอกแคเธอรีนที่เบ่งบานพรักพร้อมเหี่ยวเฉาลงอย่างแรง“กรี๊ด...บ้าๆ นี่มันบ้าบอที่สุด อาร์ตี้คุณทำแบบนี้กับแคทได้ยังไง คนบ้า” ร่างเย้ายวนของเธอเต้นเหยงๆ อยู่ข้างเตียงกว้างเมื่อเห็นว่าร่างสูงสมาร์ตนั่นไม่แม้แต่จะชายตามองเธอที่อารมณ์ค้างอยู่“เอาเป็นว่าไว้เมื่อไรที่ผมอารมณ์ดีกว่านี้เราค่อยเจอกันใหม่ละกัน ส่วนเรื่องนั้นเดี๋ยวคนของผมจะจัดการให้พรุ่งนี้ ไม่เกินเก้าโมงเช้าแน่นอน”อัคคีหันมาบอกแก่คู่ควงคนล่าสุดด้วยใบหน้าและแววตาเฉยชาแต่น้ำเสียงห้าวๆ นั้นบอกได้อย่างดีว่าบัดนี้ชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ในอารมณ์ไหน และถ้าหากเธอยังอยากจะเอาแต่ใจหรือเรียกร้องอะไรที่มากกว่านี้มันจะเป็นการกระทำที่
ตอนที่3.เธองดงามจนแทบลืมหายใจ โอ...หรือมันเป็นเพียงภาพลวงตา ชายหนุ่มบอกตัวเอง แม้แค่ได้เห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างของเธอแค่นั้นก็ทำอัคคีรู้ว่าใบหน้านั้นต้องงดงามอย่างแน่นอน เธอทำให้ใจของชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเพลย์บอยตัวฉกาจสั่นไหวอย่างรุนแรง ดุจว่าโดนช็อตด้วยไฟฟ้าแรงสูงกระนั้นหัวใจหนุ่มที่ไม่เคยต้องหวั่นไหวเพราะหญิงใด เต้นแรงเหมือนหนุ่มน้อยแรกริรัก ทั้งๆ ที่ตลอดระยะเวลาสามสิบสามปีในชีวิตของอัคคี มีหญิงงามมากหน้าหลายตาผ่านเข้ามาให้เชยชมอยู่มิได้ขาด และแต่ละนางก็ได้ชื่อว่าสวยบาดใจ ทั้งดารานางแบบ ทั้งในและต่างประเทศ เขาก็ได้เชยชมมาแล้วทั้งสิ้น แต่คราวนี้อัคคี กลับหวั่นไหวรุนแรง และหัวใจยิ่งเต้นกระหน่ำเหมือนกลองศึกเมื่อใบหน้าของเธอค่อยๆ หันมาทางด้านที่เขายืนอยู่ คล้ายกับว่าเจ้าตัวเริ่มรู้สึกว่ามีคนมองอยู่... อัคคีตื่นเต้นจนแทบลืมหายใจเมื่อเห็นดวงหน้านั้นชัดๆ...ดวงตาทั้งสองคู่สบกันโดยไม่ตั้งใจ แต่กระนั้นก็ได้ทำให้ดวงใจสองดวงเต้นแรงแทบประทุโดยไม่รู้สาเหตุ ดวงตาสวยซึ้งดูตระหนกระคนตื่นเต้น ร่างกายชาวาบร้อนสลับหนาว จนเธอรู้สึกสับสนกับตนเอง ริมฝีปากอวบอิ่มเผยออย่างลืมตัว มองชายหนุ่มร่างสูงคนน
ภายในโรงแรมหรูหราระดับห้าดาวของเมืองเชียงใหม่ บริเวณลานกว้างที่จัดตกแต่งอย่างงดงามอลังการเพื่อจัดงานนิทรรศการอาหารไทยพื้นเมืองและอาหารนานาชาติ คลาคล่ำด้วยผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งต่างให้ความสนใจในบู๊ทจัดงานต่างๆ ซึ่งมีอาหารมากมายหลากหลายสีสันและรสชาติให้ชมและชิม จับจ่ายเพื่อเป็นของฝากแก่พ่อแม่เพื่อนฝูง ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างอิ่มเอมมีความสุขทั้งเจ้าของร้านและลูกค้าบ่งบอกได้อย่างดีว่าการจัดงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเพียงใดด้านหลังเวทีสัมมนากลางลานจัดงาน หญิงสาวร่างระหงแต่งกายด้วยชุดไทยล้านนาซึ่งตัดเย็บอย่างประณีตงดงามสีงาช้างขับผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนให้ผุดผ่องน่ามอง ผมยาวสลวยเกล้ามวยสูงแซมดอกกล้วยไม้เผยใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลประกายวาวหวาน ขนตายาวงอนโดยไม่ต้องดัด จมูกโด่งเชิดสวยคม ริมฝีปากรูปกระจับอิ่มระเรื่อเคลือบสีชมพูอ่อนใสน่ามองความงดงามดูชดช้อยอ่อนหวานของหญิงสาวทำให้คนมองนึกถึงภาพของสาวเครือฟ้าขึ้นมาครามครันนั้น ร่างบางกำลังก้าวลงเวทีด้วยใบหน้าแย้มยิ้มอ่อนหวานให้กับผู้ร่วมงานอื่นที่ส่งยิ้มทักทาย“ขอบคุณมากๆ เลยค่ะคุณอ้อนที่ให้เกียรติมาร่วมงานกับโรงแรมแล
ตอนที่1“มาแล้วจ้า” เสียงใสๆ จากหญิงสาวร่างเล็กบอบบางนามว่า อรุณนารี ผู้มีใบหน้ารูปหัวใจน่ารัก ดวงตากลมโตสดใสเปล่งประกายดุจยามเช้า จมูกเล็กๆ นั้นมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายริมฝีปากบางน่ารักจิ้มลิ้มยิ้มแย้มอย่างคนอารมณ์ดีเป็นนิจนั้นส่งยิ้มหวานหยดให้หญิงสาวร่างสูงระเหิดระหงตรงหน้าที่บัดนี้หน้าสวยเริ่มหงิกงอ“ไงแม่แมงปอทำไมวันนี้มาช้านักล่ะ แกรู้มั้ยวันนี้ฉันต้องเป็นแม่ค้าขายต้นไม้ให้หล่อนจนเมื่อยไปหมดแล้วนะเนี่ย”เสียงบ่นกระปอดกระแปดดังมาจากปากของหญิงสาวร่างสูงโปร่งสมส่วน ใบหน้ารูปไข่นวลเนียนนั้นประดับด้วยดวงตากลมโตดำขลับวาววับจมูกโด่งเชิดอย่างคนดื้อรั้น ริมฝีปากรูปกระจับอิ่มแดงเรื่ออย่างคนสุขภาพดีล้อมกรอบหน้าสวยด้วยผมซอยสั้นทันสมัยรับรูปหน้าคล้ายดาราเกาหลีที่กำลังฮิตเธอคือ เนตรนารา สาวสวยสุดเท่อารมณ์ติสต์ ซึ่งตอนนี้หน้าสวยเริ่มหงิกงอเพราะวันนี้ลูกค้าเข้าร้านแต่เช้าทั้งร้านกาแฟและร้านต้นไม้จนเธอหัวหมุน“ทำไมน้า...ฉันต้องมาช่วยแกด้วย ทั้งๆ ที่วันนี้มันวันหยุดฉันน่ะ”“ฉันแวะไปส่งน้องอิ่มอุ่นแล้วก็เอาไอ้สีเทาเข้าอู่น่ะแก ขอโทษจริงๆ ว่ะ” อรุณนารีตอบเพื่อนสาวคนสวยพลางยิ้มให้อย่างน่ารักแบบว่าขอโท