“อ้อนถอยไป ไม่ต้องยุ่งแล้วถ้าเป็นไปได้อย่าเข้าใกล้นนท์เป็นอันขาด เข้าใจมั้ย!”
ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้มแล้วพยายามกดหมายเลขชั้นที่ตนเองพักอยู่อย่างทุลักทุเล อโนมาค่อยๆ เดินตามร่างสูงที่โงนเงนกอดตัวเองพลางรูดการ์ดห้องพักมือไม้สั่น เมื่อสามารถเข้าห้องพักได้เขาก็ถลันเข้าห้องน้ำทันทีเพื่อใช้น้ำเย็นๆ ดับความร้อนรุ่มที่สุมอยู่ในอก
“นนท์ นนท์ เป็นไรมากมั้ย”
อโนมาเคาะประตูห้องน้ำอย่างอ่อนแรง แต่คนในห้องน้ำกลับเงียบจนน่าใจหายแล้วจู่ๆ ประตูห้องน้ำก็เปิดออกโดยไม่ทันตั้งตัวร่างบางที่ยืนพิงประตูอยู่เซถลาเข้าไปนอนแผ่อยู่บนพื้นห้องน้ำที่เปียกลื่นและเย็นเฉียบ
“ฮึ! นังแพศยาในที่สุดก็ทนไม่ไหวสินะ ถึงได้แล่นมาที่นี่ อยากมีผัวจนตัวสั่นล่ะสิ”
เสียงแหบห้าวเอ่ยกระด้างพร้อมกับมือหนาคว้าไหล่มนกระชากอย่างแรงจนร่างบางปลิวถลากระแทกกับอกแกร่งจนรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก อโนมาได้แต่นิ่งงันอย่างตกใจและคาดไม่ถึงกับเหตุการณ์ที่ได้เจอทำได้เพียงแค่มองชายหนุ่มที่มีดวงตาแดงฉานด้วยอารมณ์หลากหลายจนแยกแทบไม่ออกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน รักใคร่หรือคลั่งแค้น แววตาลุกโชนดูกราดเกรี้ยวน่าหวาดกลัวต่างจากชายหนุ่มที่แสนสุภาพและอ่อนโยนของรัชชานนท์ ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรร่างที่อ่อนแรงอยู่แล้วก็ถูกกระชากอย่างไม่ปราณีจากเทพบุตรซึ่งกลายร่างเป็นซาตาน เขาจับร่างเล็กๆ ของเธอโยนโครมลงบนเตียงแล้วทาบทับลงมาอย่างไร้ซึ่งความอ่อนโยน มือหนาฉีกกระชากเสื้อผ้าออกจากร่างบางอย่างไม่สนใจว่ามันจะขาดหรือร่างที่อยู่เบื้องล่างได้รับความเจ็บปวดเพียงใดยามมือร้อนๆ นั่นโลมลูบอย่างหยาบคาย ปากร้อนผ่าวบดขยี้ปากบางสวยอย่างไร้ความปราณีบดขยี้ราวจะให้มอดไหม้จนรับรู้ถึงความเค็มปร่าทั้งจากน้ำตาและเลือดในริมฝีปากบาง
“นนท์ นนท์หยุดเถอะ...นี่อ้อนนะนนท์ นนท์ได้โปรดหยุด นนท์ หยุดซะทีนี่อ้อนนะ”
แม้จะเจ็บน้ำตาร่วงจากการกระทำที่แสนอุกอาจโหดร้ายแต่สติที่ลางเลือนบอกเธอว่าเขาทำไปเพราะขาดสติเธอต้องช่วยเขาทั้งที่ตัวเองเจ็บร้าวระบมแต่ชายหนุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่บนร่างหาได้ใส่ใจไม่
“แกอยากนักใช่มั้ยทนไม่ได้ถึงกับร้องขอเลยรึ...ได้ฉันจะจัดให้หนักเลย ฮ่าๆๆ”
ชายหนุ่มหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิมฝ่ามือหนาฟาดลงบนใบหน้าหวานเต็มแรงจนหน้าหันรอยฝ่ามือแดงๆ ปรากฏทันทีบนหน้าสวย อโนมาตกใจจากการกระทำนั้นแทบสิ้นสติ แม้สติลางเลือนแต่เธอมั่นใจว่าเห็นแววตาที่แวบหนึ่งส่งมาอย่างรู้สึกผิดและเจ็บปวดจากรัชชานนท์เหมือนว่าเขากำลังต่อสู้กับอารมณ์ที่โหดร้ายของตัวเอง แม้มันจะเป็นแค่ชั่วแวบเดียวก็ตาม แล้วร่างกายที่อ่อนแอกว่าก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ร่างบางนิ่งสนิทไร้สติก่อนที่จะได้รับรู้ถึงความอัปยศและเจ็บร้าวของร่างสาวที่ถูกฟอนเฟ้นอย่างหยาบคาย บ้าคลั่งด้วยอารมณ์ของอสูรร้าย ย่ำยีหญิงสาวอันเป็นที่รักของตัวเองอย่างไม่น่าให้อภัย...
ร่างสูงคลุ้มคลั่งถาโถมใส่ร่างบางที่แน่นิ่งเริ่มได้สติหลังจากได้ปลดปล่อยความทรมานที่ร้อนรุ่มนั้นออกไป... ความรู้สึกอดสู เสียใจ กับการกระทำของตนเองไหลบ่าเข้าเกาะกุมหัวใจที่แตกสลายไม่มีชิ้นดี
รัชชานนท์ผละจากร่างบางอย่างรู้สึกผิด น้ำตาลูกผู้ชายไหลหลั่งเมื่อเห็นสภาพยับเยินของอโนมาซึ่งตอนนี้แทบไม่เหลือเค้าความอ่อนหวานสดใส ตามร่างกายเหมือนถูกสัตว์ร้ายขย้ำ เพราะมันทั้งเขียวช้ำและมีบาดแผลเล็กๆ จากคมเล็บและรอยฟันขบกัด คราบเลือดเกรอะกรังและแปดเปื้อนบนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตาทำให้เขารู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือความจริงที่แสนโหดร้าย... ด้วยเขาเองที่เป็นผู้กระทำ
“โธ่...อ้อน นนท์ขอโทษ นนท์ช่างเลวร้ายเหลืเกิน เลวมาก อ้อน...อ้อน” ชายหนุ่มไล้แก้มช้ำเบาๆ ปัดปอยผมนุ่มที่ปิดใบหน้าหวานอย่างอ่อนโยนราวกับจะถ่ายทอดความรักทั้งหมดที่มีขออภัยในสิ่งที่ได้ทำลงไปแต่เธอคงไม่สามารถรับรู้ได้ในตอนนี้...
แสงแดดยามอรุณรุ่งส่องสว่างทั่วท้องฟ้า แสงสายอ่อนๆ ลอดผ่านม่านสวยส่งผลให้ร่างบางที่นอนอ่อนล้าหลับไหลอยู่บนเตียงกว้างถึงสองวันนั้นขยับตัวอย่างงัวเงีย แต่เพียงขยับน้อยนิดความเจ็บร้าวของร่างกายก็ฟ้องว่าร่างกายนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
“โอ๊ย...” เสียงหวานแหบพร่าอย่างเจ็บปวดส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลาที่ฟุบอยู่ข้างเตียงผุดลุกขึ้นแล้วเอื้อมมือหนาประคองร่างบางอย่างห่วงใย
“อ้อนเป็นไงบ้าง เจ็บมากไหม”
“นนท์...น้ำ...หิวน้ำ...”
“อ้อนอยากดื่มน้ำใช่ไหม รอแป๊บนึงนะ” ร่างสูงผละไปอย่างรวดเร็วและกลับมาพร้อมน้ำสะอาดแล้วประคองร่างบางให้ดื่มน้ำอย่างอ่อนโยน
“ค่อยๆ ดื่มนะจ๊ะ” เสียงนั้นปลอบประโลมเอาใจจนคนฟังน้ำตาซึม รัชชานนท์คนเดิมกลับมาแล้ว...
“นนท์ นนท์เป็นอะไรมากมั้ย?” พอมีเรี่ยวแรงและได้ดื่มน้ำบรรเทาอาการคอแห้งเพราะเธอหลับไปถึงสองวันเต็มๆ คำถามแรกของเธอก็ทำให้น้ำตาลูกผู้ชายรินไหลอย่างน่าละอาย
“โธ่...อ้อน” เสียงห้าวสั่นสะท้านอย่างอดสู นี่ขนาดเธอเป็นฝ่ายถูกเขากระทำย่ำยีแต่เธอกลับถามไถ่เขาอย่างห่วงใยไม่มีแววของความโกรธเกรี้ยวใส่เขาเลยสักนิด
“นนท์เป็นอะไรไป นนท์หายรึยัง นนท์อย่าเป็นแบบนั้นอีกนะอ้อนกลัว”
“ไม่...อ้อน นนท์จะไม่มีวันทำร้ายอ้อนแบบนั้นอีกแล้ว นนท์ขอโทษ อ้อน นนท์...” ชายหนุ่มโถมตัวกอดเธอด้วยความรักล้นหัวใจ ร่างสูงที่สะท้านด้วยแรงสะอื้นอย่างห้ามไม่อยู่ อโนมาลูบแผ่นหลังกว้างอย่างปลอบประโลม
“อ้อนไม่เป็นไรแล้วนนท์ มันผ่านไปแล้ว”
“นนท์น่าจะต้องพูดคำนี้มากกว่านะ” เขาบอกเสียงพร่ากอดร่างบางแน่น”
“นนท์ มันเกิดขึ้นได้ยังไง ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมอยู่ๆ นนท์ถึงได้เป็นแบบเมื่อคืนแล้วนนท์ถูกวางยาได้ยังไง” อโนมาถามอย่างคนที่มีสติและมีเหตุผล เธอไม่ใช่คน เธอไม่โวยวายร้องไห้เสียสติหรือคร่ำครวญเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ใช่ว่าจะไม่เสียใจกับสิ่งที่เสียไปแต่เธอเป็นคนมีเหตุผลเพียงพอ และเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นไปเกินกว่าจะคร่ำครวญถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้วเพราะรู้ว่ามันไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ต่างหาก
“ต้องมีสักคนตั้งใจทำให้เกิดเรื่องบัดสีนี้ และมันต้องรับผิดชอบ”
“นนท์รู้หรือว่าใครและมีเจตนาอะไร”
“รู้สิอ้อน จะมีใคร ก็แก้วเหล้าแก้วสุดท้ายที่นนท์ดื่มมันมาจากมือของ แววตาบางอย่างที่เขามองอ้อนมันไม่ธรรมดามันมีแววประหลาดๆ ที่ไม่ค่อยหวังดี”
“แต่พี่มิรันเขาไม่มีเรื่องอะไรกับอ้อน เขาจะทำแบบนั้นทำไม”
ตอนที่13. “อ้อน มิรันตีเขาเป็นอดีตพี่สะใภ้ของริต้าแล้วเขาก็สนิทกันมาก”“แล้วมันเกี่ยวกับอ้อนตรงไหน” สาวน้อยฉงนใจเพราะไม่เห็นว่าเรื่องนั้นมันเกี่ยวกับเธอตรงไหนแม้เธอจะรู้จักกับมิรันตีมาก่อน แต่เมื่อมิรันตีทำท่าเหมือนไม่อยากรู้จักหรือเสวนากับเธอ เธอจึงไม่แสดงอาการหรือพูดอะไรออกมา“มันไม่เกี่ยวแน่ ถ้าริต้าเขาไม่ได้รักนนท์” ชายหนุ่มบอกเสียงเครียดและเอื้อมมือหนามาปัดปอยผมนุ่มออกจากวงหน้าหวานที่บวมช้ำจากฝีมือของเขายิ่งเห็นใบหน้าหวานบวมช้ำเขายิ่งเกลียดตัวเองนัก“ริต้าเขาบอกกับนนท์ว่าเขารักนนท์ และเขายังพูดทำนองว่าเขาจะไม่ยอมเสียนนท์ให้ใครเขาบอกว่าอ้อนไม่ได้แสนดีอ่อนหวานอย่างที่เห็นแต่เป็นสาวร่านรักนอนกับใครไม่เลือก” ชายหนุ่มเช็ดน้ำตาที่รื้นนัยน์ตาสวยโศกแผ่วเบา“แต่นนท์รู้ว่ามันไม่ใช่ แม้นนท์จะขาดสติแต่นนท์รู้ว่าอ้อนเป็นของนนท์คนเดียว คนเดียวเท่านั้น”“นนท์...” สาวน้อยเอ่ยเสียงแผ่วกอดกระชับวงแขนรัดร่างสูงแนบแน่น ชายหนุ่มลูบผมสลวยอย่างปลอบโยน เขารู้ว่าเขาได้ทำร้ายร่างกายและจิตใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่องนี้อย่างโหดร้ายเพราะขาดสติไม่สามารถควบคุมอารมณ์ดิบเถื่อนที่เกาะกินในใจ และเป็นมุมอันมืดบอดของเขาม
ตอนที่ 14.หลังจากที่คลอดรัชชานนท์ อรชุมาไม่ยอมให้นมลูกตามที่หมอแนะนำ เริ่มทำตัวเป็นสาวสังคม แต่งตัวออกงานบ่อยและชอบไปเที่ยวดึกๆ บางครั้งก็ไม่กลับบ้าน คุณรัชชุซึ่งเคยเป็นคนชอบเที่ยวกลับเปลี่ยนเป็นคนที่อยู่ติดบ้านมากขึ้นเพราะลูกชายที่เพิ่งคลอดนั้นน่ารักน่าชังอีกทั้งสุขภาพร่างกายเริ่มจะอ่อนแอไม่แข็งแรงเหมือนเก่า ทุกอย่างเปลี่ยนไปในทางตรงกันข้ามและเริ่มเลวร้ายลงเมื่ออีกคนเริ่มสำนึกผิดแต่อีกคนเริ่มสนุกกับการใช้ชีวิตที่รื่นเริงมัวเมา อรชุมาเริ่มคบเพื่อนชายวัยไล่เลี่ยกันและออกไปเที่ยวด้วยกันบ่อยขึ้น ทั้งสองแอบมีความสัมพันธ์กันลับๆ อรชุมาก็ไม่สนใจลูกน้อย คุณรัชชุเริ่มดุด่าอรชุมา คนทั้งสองคนก็เริ่มมีปากเสียงกันบ่อยขึ้น ใครขัดก็ไม่ได้ ทุกคนได้แต่เฝ้าดูห่างๆ ด้วยจิตใจหวั่นไหวกับความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คุณเสาวลักษณ์จึงรับรัชชานนท์มาเลี้ยงดูบนเรือนใหญ่เพราะกลัวว่าเด็กจะได้รับผลกระทบจากการทะเลาะกันของพ่อแม่เนื่องจากคุณเสาวลักษณ์ไม่มีลูกกับคุณรัชชุ และลูกๆ ที่เกิดกับคุณผกามาศเริ่มโตและเข้าเรียนโรงเรียนประจำคุณเสาวลักษณ์จึงค่อนข้างที่จะเหงา การได้เลี้ยงลูกเล็กๆ อีกคนมันทำให้เธอมีความสุข นา
ตอนที่ 15.หลังจากนั้นไม่นานคุณเสาวลักษณ์ก็ได้ยกขันหมากไปสู่ขออโนมาตามประเพณี แต่ด้วยความที่ครอบครัวของเธอมีอัธยาศัยรักสงบเรียบง่ายและเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้ดี งานแต่งของเธอจึงมีแค่การจดทะเบียนกันเงียบๆ โดยที่อโนมาขอใช้นามสกุลเดิมเพราะไม่อยากให้ใครตราหน้าว่าอยากจับรัชชานนท์หรืออยากเข้าร่วมสกุลเดชาวัชราจนตัวสั่น คุณเสาวลักษณ์กับรัชชานนท์ก็เคารพการตัดสินใจของเธอ แต่ก็มีข้อแม้ว่าหากเธอตั้งท้องอย่างน้อยลูกของเธอจะต้องใช้นามสกุลเดชาวัชรางานเลี้ยงฉลองสมรสของอโนมาและรัชชานนท์นั้นก็จัดแค่เล็กๆ ภายในครอบครัว มีเพียงเพื่อนๆ และคนสนิทเท่านั้น งานเลี้ยงฉลองเล็กๆ แต่กรุ่นไอแห่งความรักและความสุข ภาพความสุขต่างๆ ซึ่งเนตรนาราอาสาเป็นตากล้องถูกทำเป็นอัลบั้มไว้อย่างสวยงามแล้วแจกจ่ายให้ทุกนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขหลังจากเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้น ทำให้รัชชานนท์ไม่กล้าที่จะทำอะไรที่ล่วงเกินเธออีกเพราะรู้ตัวเองว่าคนรักจะต้องเจ็บปวดอย่างแน่นอนแล้วหลังจากนั้นไม่นานโนมาตั้งท้อง และจำเป็นต้องหยุดเรียนกลางคันทำให้เธอถูกกล่าวหาและดูถูกเหยียดหยามจากเพื่อนๆ โดยเฉพาะภูริตาที่ป่าวประกาศถึงความผิดปรกติของอ
ตอนที่ 16. “โธ่...เก่งๆ อย่างฉันไม่จำเป็นต้องเข้าทุกชั่วโมงหรอกบอกให้ ระดับนี้แล้ว อีกอย่างช่วงนี้เขาก็สอบกันแล้วย่ะ และฉันก็สอบเสร็จแล้วด้วย”“ได้ข่าวว่ากำลังหาที่ฝึกงานไม่ใช่หรือ แล้วไถมาแถวนี้จะชวนอ้อนไปไหน”“นี่นายตกข่าวเพราะมัวแต่หวานกันล่ะสิ ฉันน่ะนะได้ฝึกงานที่ อาร์แอนด์อาร์ คอนสทรักชั่น เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนหมวยกบฏไปแล้วย่ะ”“จริงเหรอเนตร ดีใจด้วยนะ” อโนมากล่าวแสดงความยินดีกับเพื่อนสาวคนสวยอย่างจริงใจเพราะเนตรนาราหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องได้ฝึกงานที่นี่ “อย่างฉันน่ะใครๆ ก็ต้องการ ฮ่าๆ” สาวสวยเอ่ยอย่างอารมณ์ดี “เออนี่นนท์วันนี้เราขอตัวว่าที่คุณแม่แสนสวยไปชอปปิงหน่อยนะ เราไม่มีเพื่อนเดินน่ะ”“หึ อย่างเธอนี่ต้องการเพื่อนเดินด้วยเหรอน้ำ ฉันเห็นทุกทีไปคนเดียวได้ไม่มีปัญหานี่” รัชชานนท์มักเรียกชื่อเล่นของเธอว่าน้ำตามความเคยชิน แม้ว่าเธอจะขอให้เพื่อนรักทั้งสองเรียกว่าเนตรมากกว่าน้ำด้วยเหตุผลส่วนตัว“แหม วันนี้มันไม่เหมือนกันนี่ แล้ววันนี้เธอก็ต้องเข้าประชุมหุ้นส่วนโรงแรมนนนที ด้วยนี่เฮียยังฝากบอกเลยว่าให้เธอเข้าประชุมด้วยอย่ามัวแต่หลงเมีย”“อืม...ก็ว่าจะเข้าไปอยู่ ถ้างั้นยังไงก็
ตอนที่ 17.“แกนี่ปากดีทุกสถานการณ์จริงๆ เลยเนตร”“แล้วแกจะเอาไงน่ะอ้อน แต่ฉันว่าแสดงตัวให้ยัยนั่นรู้ตัวหน่อยก็ดีนะว่าใครกันแน่ที่เป็นชู้แถมมาทีหลังน่ะจะได้เลิกซ่าซะที เวลาฉันไปหาเฮียไฟที่โรงแรมทีไร แม่อยากจะชกให้ซิลิโนที่ยัดนมกับจมูกทะลุออกมาอวดประชาชีซะจริง”เนตรนาราพูดพลางชูกำปั้นทำท่าชกอย่างที่อยากทำจนเพื่อนๆ ส่ายหน้าในความห้าวห่ามของเธอ“น้อยๆ หน่อยยัยเนตรทำท่ายังกับนักเลงหัวไม้ แต่ว่าที่เนตรมันพูดก็จริงนะอ้อนถ้าเราเงียบเฉยอย่างนี้พวกนั้นต้องได้ใจแน่ๆ เราน่าจะทำอะไรสักอย่าง”“ไม่ดีกว่า ฉันไม่อยากวุ่นวายกับพวกนั้น”“แต่ฉันว่าถึงเราไม่ไปวุ่นวายพวกนั้นต้องมาวุ่นวายกับเราแน่นอน เพราะยัยมารสองตนนั่นมาโน้นแล้ว... ใครเชิญมากันล่ะเนี่ย...”เนตรนาราบ่นงึมงำ เมื่อเห็นว่านางมารที่ตนกำลังพูดถึงเดินนวยนาดเข้ามาในร้านของพวกเธอ “สวัสดีค่ะคุณน้ำไม่นึกว่าจะเจอกันที่นี่นะคะ” มิรันตีกล่าวทักทายเธอด้วยชื่อที่เธอไม่อยากใช้และด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มดูจริงใจแต่เธอทั้งสามคนรู้ดีว่ามันไม่ใช่ใบหน้าสวยหวานชนิดหาตัวจับยากของผู้หญิงตรงหน้ามันช่างตรงกันข้ามกับจิตใจที่แสนจะร้ายกาจยิ่งนัก“อ้าวน้ำ มาอยู่แต่กับพวก
ตอนที่ 18“นี่แกฉันว่ายัยมิรันตีนี่มันแค้นฝังหุ่นแกมากเลยนะเรื่องอะไรๆ มันก็นานมาแล้วยังจะเจ้าคิดเจ้าแค้นอยู่ได้” เนตรนาราเอ่ยพร้อมกับทำหน้าเซ็งจัด“ไม่น่าเชื่อนะอ้อนว่าแกเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน นิสัยต่างกันมากๆ”“เขาไม่เคยคิดว่าฉันเป็นน้องเลยต่างหาก เพราะตั้งแต่แม่ฉันหนีการแต่งงานกับคนที่ทางบ้านหาให้ ตากับยายก็ตัดขาดแม่ออกจากตระกูล แต่โชคดีที่คุณลุงเขารู้จักแยกแยะและให้อภัย ฉันกับครอบครัวจึงได้รับการช่วยเหลือจากครอบครัวของคุณลุงแทบทุกอย่างแบบเงียบๆ จนเป็นที่ครหาเพราะน้อยคนนักจะรู้ว่าแม่เป็นน้องเถ้าแก่หยงส่วนมากจะคิดว่าแม่เป็นเมียน้อยคุณลุงซะมากกว่าแม้แต่คุณป้าเองมารู้ก็ตอนก่อนท่านจะเสียไม่นานมันเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่พี่มิรันจะเกลียดฉัน” อโนมากล่าว“ฉันว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่ประเด็นว่ะแก ฉันว่าที่ยัยมารร้ายนั่นเกลียดแกเพราะเรื่องพี่อะไรน้า อ๋อพี่โชคใช่ๆ รุ่นพี่ที่ยัยนั่นแอบรักแล้วก็เผลอปล่อยตัวจนตัวเองท้องตั้งแต่วัยเรียนแล้วไม่รับผิดชอบแต่ไอ้พี่บ้านั่นกลับมารักมาชอบแกมากกว่าว่ะ ยัยนี่ก็เลยฝังใจ” เนตรนาราตั้งข้อสังเกตเพราะพอรู้ประวัติความเป็นมาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงเพราะเธอเองก็จ้าง
ตอนที่ 19.“ริต้า”“ใช่ฉันเอง แล้วจะบอกได้รึยังว่าแกมาที่นี่ทำไม ที่นี่ไม่ใช่ตลาดนัดนะที่แกจะมาเดินเล่นหัดเจียมตัวซะบ้าง นังไพร่” วาจาเผ็ดร้อนที่ออกจากปากอิ่มสวยที่เคลือบสีแดงสดนั้นช่างขัดกับใบหน้าสวยงามยิ่งนักและคนฟังก็ได้แต่ยืนหน้าชาอย่างทำอะไรไม่ถูก อโนมาก็คืออโนมา เธอเคยอ่อนโยนอ่อนหวานอย่างไร และแม้จะทำตัวว่าเข้มแข็งแค่ไหนเธอก็ยังไม่ทันเล่ห์ร้ายของภูริตาอยู่ดี“ฉันมาหานนท์” อโนมาสูดหายใจลึกๆ ก่อนตอบอย่างมั่นใจพร้อมเชิดคางขึ้นเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอไม่มีทางให้ใครมาข่มเหงได้ง่ายๆ แม้ว่าภายในใจจะแอบหวั่นกลัวภาวนาให้เพื่อนรักกลับมาเร็วๆ“มาหาทำไม อย่านึกว่าจะมาให้นนท์รับเป็นพ่อเด็กในท้องเธอล่ะเพราะไม่ว่ายังไงนนท์ก็ต้องแต่งงานกับฉัน และเธอคงต้องไปหาคนอื่นมาเป็นพ่อเด็กละกัน หรือว่าเยอะจนจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร”“คนที่จำไม่ได้ว่าใครเป็นใครน่าจะเป็นเธอมากกว่านะริต้า” อรุณนารีออกมาจากห้องน้ำทันที่จะได้ยินคำพูดแย่ๆ ที่ผู้หญิงเจ้ามารยาสวยแต่รูปอย่างภูริตาพอดี“นี่พวกแกยกโขยงมาทั้งสามคนเลยรึเปล่านี่ ก็ดีนะเฮียไฟจะได้รู้ซะทีว่าน้องสาวสุดที่รักน่ะคบอยู่กับพวกเพื่อนไพร่ๆ อย่างพวกแก”“อย่างน้อย
ตอนที่ 20.“ไม่มีค่ะ พวกน้ำยอมรับนะคะว่าทำแต่ถ้าเพราะไม่นังมารร้ายนี่มาทำร้ายยัยอ้อนทั้งๆ ที่เห็นว่าเขาท้องโตแล้วนี่ต่างหากที่ชั่วร้าย รังแกได้แม้กระทั่งคนท้องน่าไม่อาย”“ไม่จริงเธอเข้าข้างเพื่อนเธอน้ำ เฮียไฟดูสิคะริต้าสะบักสะบอมขนาดนี้ มีตัวคนเดียวจะไปสู้แม่สามสาวนี่ได้ยังไง แล้วอีกอย่างนะคะยัยอ้อนมันจะให้นนท์รับเป็นพ่อเด็กในท้องมัน ทั้งๆ ที่นนท์จะแต่งงานกับริต้าเร็วๆ นี้นะคะ คิดดูสิคะ แถมมันยังบอกว่าริต้าเป็นเมียน้อยมันอีก ฮือๆๆ ริต้ารับไม่ได้” ผู้เสียหายเช่นภูริตาคร่ำครวญอย่างน่าสงสารแต่น่าหมั่นไส้ในสายตาของเนตรนารานัก“หุบปากเน่าๆ ของเธอไปเลยริต้า นึกว่ามีเฮียถือหางนึกอยากจะว่าใครก็ได้รึไง เธอน่ะมันมารร้ายชัดๆ มันน่านัก” ว่าแล้วร่างโปร่งบางของเนตรนาราทำท่าจะปรี่เข้าทำร้ายคนที่ฉอเลาะอยู่ข้างพี่ชายแต่อรุณนารีรีบรั้งเพื่อนไว้ก่อนเพราะเห็นแววตาของพี่ชายเพื่อนรักเริ่มคุโชนด้วยโทสะ“หยุดก้าวร้าวเดี๋ยวนี้นะน้ำ อย่ามาแสดงกิริยาแบบนี้กับเฮียนะ ไม่นึกว่าแค่ปีสองปีที่ออกไปอยู่ข้างนอกแล้วคบเพื่อนแบบนี้ น้ำจะกลายเป็นคนที่มีกิริยาหยาบกระด้างขนาดนี้ นี่ถ้าแม่ยังอยู่คงเสียใจน่าดู” อัคคีตวาดน้องสา
ตอนที่ 140. อวสาน“มันผ่านไปแล้วริต้าตอนนี้เธอมีชีวิตที่สดใส และมีพวกเราอยู่ข้างๆ และตอนนี้เธอก็ได้ชดใช้มันแล้ว ไม่เอาไม่พูดถึงเรื่องเก่าๆ แบบนั้นอีก” เนตรนาราปลอบ“นั่นสิริต้า ตอนนี้พวกเราผ่านพ้นเรื่องร้ายนั้นมาแล้วอย่าคิดมากนะยังไงเราก็ยังคงอยู่ด้วยกันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ปล่อยวางความเจ็บปวด ความอาฆาตพยาบาทที่มันไม่เคยให้คุณแก่ใคร” อโนมากุมมือผอมบางนั้นอย่างจริงใจทั้งน้ำเสียงและแววตาจนภูริต้าน้ำตาซึมด้วยความตื้นตันใจที่เธอโชคดีเหลือเกินที่พบเจอและได้หญิงสาวทั้งสามคนนี้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาจิตใจที่กระเจิดกระเจิงและเคยสกปรกของเธอด้วยความรักและจริงใจอย่างสม่ำเสมอ“ริต้าดีใจจัง”“พวกเราก็ดีใจที่ริต้ามีความสุขและหายดีแล้ว แล้วนี่ริต้าอยากจะออกไปอยู่กับพวกเราไหม” อโนมาถามด้วยความเป็นห่วงเธออยากให้ภูริตาไปอยู่ที่บ้านด้วยเพราะเห็นว่าภูริตาหายดีแล้ว“ไม่หรอกอ้อนขอบใจมากนะ ริต้าอยากอยู่ที่นี่ อยากช่วยเหลืออยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นบ้าง ที่นี่ต้องการริต้า ริต้ารู้สึกอย่างนั้น เพราะมีหลายๆ คนที่เคยเป็นเหมือนริต้าหรือบางคนอาจเป็นมากกว่าด้วยซ้ำไป และบางทีเคยมีคนที่เคยเข้ารับการรัก
ตอนที่ 139.ไอรดาพูดยิ้มๆ และหัวเราะออกมาอย่างขบขันสามีที่ทำท่าราวน้องเก้าลูกชายชอบทำเวลาที่งอนง้อเธอ ไอ้ท่าชูนิ้วก้อยดุ๊กดิ๊ก ทำหน้าตาให้ดูเด็กและน่ารักอย่างที่สุด ถ้าน้องเก้าทำเธอคิดว่ามันก็น่ารักดี แต่พอสามีทำมันเหมือนตัวตลก แต่ก็น่ารักดีเหมือนกัน“นี่น้ำแข็งแกล้งพี่กันต์เหรอ” ชายหนุ่มร้องออกมาอย่างงอนๆ บ้างและทำหน้าบึ้งตึงจนดูตลก“โถๆๆ ก็สามีสุดหล่อน่ารักขนาดนี้น้ำแข็งจะใจร้ายแกล้ง หรือโกรธได้ยังไงล่ะคะ” ไอรดาหัวเราะท่าทางของสามีอย่างไม่เก็บอาการ“ว้าย! พี่กันต์บ้าทำอะไรคะ”แล้วเธอก็ต้องร้องเสียงดังอย่างตื่นตระหนกเมื่อร่างอวบอิ่มด้วยอายุครรภ์สี่เดือนในตอนนี้ถูกสามีอุ้มจนตัวลอย จนเธอเองต้องรีบโอบลำคอหนาด้วยกลัวตกแล้วหันมามองหน้าสามีอย่างตื่นตกใจ“พี่กันต์จะทำโทษคนเจ้าเล่ห์ขี้เกรงให้สามีน้อยใจ เสียใจ เพราะฉะนั้นเมียจ๋าต้องโดนทำโทษ หนักๆ”ชายหนุ่มเอ่ยชิดใบหน้างามที่ขึ้นสีเรื่ออย่างมีความหมาย ดวงตาคมกล้าเป็นประกายเต็มไปด้วยความต้องการปิดไม่มิด และคนที่จะถูกทำโทษรู้ดีว่าการลงโทษของสามีนั้นหวานฉ่ำและเร่าร้อนเพียงใด“บ้า คนหื่น ปล่อยน้ำแข็งเลยนะ น้ำแข็งจะไปดูน้องเก้า”“ไม่ต้องแล้วที่รัก
ตอนที่ 138.“ดูสิสองคนนี่ไม่รู้จักโตเล่นเป็นเด็กๆ ไปได้” อัคคีบ่นเบาๆ กับอโนมาอย่างระอาในความซุกซนและเล่นกันเหมือนเด็กของเนตรนารา ที่ในสายตาของผู้เป็นพี่ เนตรนาราไม่เคยโตเลยสักครั้ง“โธ่ยัยเนตรกับแมงปอน่ะเขาก็เล่นกันแบบนี้มานานแล้วล่ะคะพี่อัคคี”“ถึงว่าสิหาแฟนไม่ได้สักที เฮ้อนี่แล้วเมื่อไหร่สองคนนี่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กๆ เสียที” กันต์พลอยบ่นไปด้วย“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะพี่กันต์ ดูสิลูกตัวเองนั่นแหละเชียร์เขาเหย็งๆ อยู่นั่นๆ แล้วยังเอานวมมาให้อาน้ำเล่นชกมวยด้วยดูสิซนจริงๆ”“แล้วนั่นน้องกระต่ายก็เอากับเขาด้วย ดูสิคะพี่อินคำลูกสาวเราน่าตีจริงๆ เลย” แม่เลี้ยงเกศราบ่นเหมือนไอรดาเมื่อทั้งน้องกระต่ายและน้องเก้าล้อมหน้าล้อมหลังเนตรนาราและเล่นชกกันที่สนามหญ้านุ่มอย่างสนุกสนาน “แม่ครับ พ่อครับ เมียผมไปไหน” กันต์วิ่งหน้าตื่นเข้ามาคุณการันกับคุณกานติมาซึ่งกำลังนั่งดูหลานชายสุดที่รักวาดรูประบายสีอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างเพลิดเพลิน“อะไรของแกอีกล่ะกันต์” คุณกานติมาเงยหน้าขึ้นมองลูกชายที่หน้าตาตื่น เหงื่อแตกพลั่กอยู่ด้วยความระอา นับวันจะรักจะหวงภรรยาคนสวยจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน“ก็น้ำแข็งน่ะสิ หายไป
ตอนที่ 137.“ใช่ น่าเบื่อโดยเฉพาะยัยเด็กปลายฝนต้นหนาวนั่นน่าเบื่อมากๆ วันๆ ไม่พูดไม่จาเกาะแม่อ้อนแจ ประจบประแจงน่าดู ฉันไม่ชอบหน้าแม่นี่เลยนิสัยไม่ดี” อัคราเสริมคำพูดของสิงหราชเพื่อนรักที่ตอนนี้เขาทั้งสองกำลังจะไปเรียนเมืองนอกด้วยกัน อัคราเรียกอโนมาว่าแม่อ้อนตามน้องอิ่มอุ่นนับแต่อโนมาเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะของภรรยาของอัคคีอย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอาจเป็นเพราะเขาต้องการใครสักคนและยิ่งเมื่อแม่ของเขามาตายจากไปเมื่อหลายปีก่อนเขายิ่งต้องการความรักและความอบอุ่น และแม่อ้อนของเขาก็คือคนที่เติมเต็มความรักความอบอุ่นนั้นให้เขาแม้มันจะไม่เต็มร้อยเสียทีเดียวแต่ความรักและความเอาใจใส่ที่อโนมามีให้เขาก็ชดเชยสิ่งที่เขาขาดได้มากพอที่จะทำให้ใจที่ว่างเปล่าของเขาไม่ไร้ที่ยึดเหนี่ยวและไม่รู้สึกว่าเขาขาดความอบอุ่น“นายก็ว่าน้องฝนเขาเกินไป ฉันไม่เห็นว่าเขาจะเป็นอย่างที่นายว่า น้องฝนออกจะน่ารักและเรียบร้อยนิสัยดี พูดก็เพราะไม่เหมือนน้องอิ่มอุ่นเลยพูดก็ไม่เพราะซ้ำยังอวบระยะสุดท้ายด้วยโตขึ้นมีหวังเป็นโอ่งมังกรแหงๆ เลยฮ่าๆ”สิงหราชหนุ่มน้อยวัยสิบห้าตั้งใจเอ่ยเสียงดังให้สาวน้อยวัยเก้าขวบเศษตัวอ้วนกลมซึ่งนั่งหวีผมใ
ตอนที่ 136.“อ้าวไหงมาแขวะฉันได้ล่ะนี่เดี๋ยวไม่เป็นคนขับรถให้เลยนี่” เนตรนาราร้อนตัวทันทีสร้างความขบขันให้กับสองสามีภรรยาที่นั่งกอดกันกลมอยู่เบาะหลังปล่อยให้เธอทำหน้าที่คนขับรถ หญิงสาวมองภาพความสุขของเพื่อนรักกับพี่ชายคนเดียวของเธอด้วยความสุขเธอรู้สึกดีใจและปลื้มใจมากที่วันนี้คนที่เธอรักทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขซึ่งเธอเองก็ไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าพี่ชายกับเพื่อนของเธอจะมาลงเอยด้วยการรักกันและใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้อย่างในวันนี้ วันนี้ฟ้าใสแล้วไม่มืดมัวและเจ็บปวดอย่างที่ผ่านมา เนตรนาราขับรถไปด้วยรอยยิ้ม“อุ้ย พี่อัคคีคะอ้อนปวดท้อง” อยู่ๆ อโนมาก็รู้สึกปวดหน่วงๆ ที่ท้องและรู้สึกเหมือนมีน้ำคร่ำไหลซึมออกมาเล็กน้อย“จริงหรืออ้อน แล้วพี่จะทำไงดีล่ะ ยัยน้ำๆ” อัคคีตื่นเต้นและทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเป็นพ่อมาก่อน และตอนนี้เขาก็อยู่กลางถนนที่การจราจรคับคั่งเสียด้วย“ใจเย็นๆ เฮียไม่ต้องตื่นเต้น แหมไอ้ที่บวชๆ มาศึกษามากระเจิงเลยนะเฮียแค่เจอเมียเจ็บท้องเนี่ย” เนตรนาราไม่วายมีอารมณ์ขันแต่เธอก็พยายามหลบหลีกหาทางไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด“ยัยน้ำเรานี่มันจริงๆ เลยนะ เอ้ารีบเ
ตอนที่ 135.“ขอรับท่านประธานคนสวย เชิญขอรับกระผม...” เนตรนาราล้อเลียนเพื่อนรักด้วยรอยยิ้มทะเล้นอโนมายิ้มรับด้วยความสุข หญิงสาวตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว หลังจากที่อัคคีได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุและจำพรรษาอยู่ที่วัดประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอที่เชียงรายเธอก็ได้แต่เพียงส่งข่าวผ่านเนตรนาราซึ่งขึ้นเหนือไปทุกๆ เดือนเพื่อไปทำบุญและดูความเป็นอยู่ของพระอัคคีและเณรอัคราด้วย แต่สิ่งที่อโนมาบอกเพื่อนรักให้ปกปิดไว้คือเรื่องที่เธอตั้งครรภ์เพราะไม่อยากให้ผู้ที่ครองผ้าไตรจีวรนั้นเกิดความวิตกหรืออาจจะทำให้เสียสมาธิหรือเสียความตั้งใจที่ตั้งใจในคราแรกสายลมหนาวที่พัดโบกโบยหอบเอาความแห้งและเย็นมาสู่มหานครอันแสนวุ่นวายคลาคล่ำด้วยผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ หลากหลายจากที่มา และสาขาอาชีพ ผู้คนที่พเนจรร่อนเร่หรือแม้แต่เศรษฐีผู้มีสมบัติมากมายว่ายวนวุ่นวายอยู่ในเมืองแห่งนี้ บางชีวิตสุขสบายหรูหราแต่ในอีกมุมหนึ่งก็ยากไร้และแสนรำเค็ญ สถานที่บางแห่งสนุกสนานและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุขสม แต่ในอีกสถานที่หนึ่งเต็มไปด้วยอาชญากรรมและความขมขื่น แต่ไฉนหลายชีวิตจึงดั้นด้นมาที่เมืองแห่งนี้“วันนี้หนาวจ
ตอนที่ 134.“ผมจะบวชและจำวัดอยู่ที่นี่อีกสักระยะ ผมอยากสวดมนต์ภาวนาให้โยมแม่ โยมแม่จะได้ไม่ทุกข์ทรมาน โยมแม่อ้อนคงไม่ว่าใช่ไหม” เณรน้อยถามและมองอโนมาด้วยดวงตาที่ฉายประกายตาแน่วแน่จนเธอน้ำตาซึม“โยมแม่อ้อนอนุโมทนาบุญกับเณรด้วยค่ะ” ทุกคนก็ยอบกายลงไหว้เณรอัคราด้วยดวงใจพร้อมอนุโมทนาไปกับปณิธานอันแน่วแน่ของเณรน้อยที่จะทำให้มารดาของตน เณรน้อยยิ้มบางๆ รับการเคารพนั้นก่อนจะเดินไปหาหลวงตาที่ยืนรออยู่ใต้ต้นโพธิ์ต้นใหญ่ซึ่งมีอายุนับร้อยปีและอยู่คู่วัดแห่งนี้มาแสนนาน สายลมแผ่วๆ พัดกรูใบไม้แห้งปลิวลอยละลิ่วเหมือนคำขออโหสิกรรมจากดวงวิญญาณหนึ่งดวงเสียงกระซิบขออโหสิกรรมแว่วตามสายลมที่ทุกคนสามารถรับรู้ด้วยหัวใจที่เป็นอิสระจากการผูกใจเจ็บแค้นต่อกันหลังจากงานฌาปนกิจศพของมิรันตีผ่านพ้นไป อโนมาก็เตรียมของเพื่อจะกลับกรุงเทพพร้อมกับเนตรนาราและอรุณนารีส่วนคนอื่นๆ นั้นต่างก็ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว แต่ในขณะที่กำลังเก็บของเธอสังเกตใบหน้าที่เครียดเคร่งของสามีหลังจากคุยโทรศัพท์ได้สักพัก“มีอะไรหรือเปล่าคะทำไมทำหน้าเครียดจัง” หญิงสาวเอื้อมมือบางลูบตรงกลางระหว่างคิ้วเข้มแผ่วเบา“อ้อนถ้าพี่จะบอกอ้อนว่าพี่อยากจะขอบวชจำพร
ตอนที่ 133..“ไม่รู้สิ รู้แต่ว่าบทที่อ้อนหายตัวไปพี่ใจแทบขาด และเห็นอ้อนอยู่ใกล้ผู้ชายคนไหนพี่ก็ไม่ชอบ พี่พยายามบอกตัวเองว่ามันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ หรือแค่ชอบใจผู้หญิงคนหนึ่งไม่รู้ว่ารักหรือไม่รัก คงรักแล้วมั้ง” อัคคีเอ่ยอย่างอารมณ์ดีและจับมือบางที่ซุกซนของเธอไว้ ก่อนจะซุกไซร้จมูกคมกับเนื้อนวลอย่างหลงใหล“คนขี้โกงตอบอะไรก็ไม่รู้แล้วหยุดเลยนะ ไม่เอานะยังคุยไม่จบเลย”“คุยรู้เรื่องแล้วไง มาทำอย่างอื่นกันดีกว่า”“ไม่เอา เดี๋ยวก่อนค่ะ พี่แพ้ยัยเนตร เพราะไม่อยากรับผิดชอบอ้อนรึเปล่า”“ยัยบ๊องคนไม่อยากรับผิดชอบจะหน้าด้านไปขอตัวเองกับคุณเสาวลักษณ์อาได้ไง ถามอะไรแบบนั้นคนดีของพี่ พี่รักอ้อนครับคนดีถึงแม้ว่าพี่จะแพ้ยัยน้ำนั่นก็เพราะอ่อนซ้อม แต่มาตอนนี้เถอะยัยน้ำว่าเจ๋งๆ ต้องแพ้พี่แน่ๆ” ชายหนุ่มจุมพิตหนักๆ ที่แก้มนวลแรงๆ ด้วยความมันเขี้ยวในความช่างสงสัยในความรักของเขาที่มีต่อเธอและค่อยจูบคลอเคลียมาที่ริมฝีปากบางที่กำลังจะเผยอปากถาม ริมฝีปากบางสีเข้มบดเบียดกลีบปากอวบอิ่มระเรื่ออย่างเร่าร้อนลิ้นหนาเกี่ยวรัดดูดดื่มราวหิวกระหายทั้งๆ ที่เขาและเธอใกล้ชิดกันทุกวันมือหนาที่กำลังลูบไล้ร่างงามผ่านเนื้อผ้า
ตอนที่132.ในขณะที่ทุกคนต่างมีความสุขกับชีวิตเมื่อผ่านเรื่องราวเลวร้ายต่างๆ ไป แต่อีกมุมหนึ่งของโรงพยาบาลจิตเวชแห่งหนึ่งกลับมีอีกหนึ่งชีวิตที่ตอนนี้กำลังกรีดร้องโหยหวนด้วยความทุกข์ทรมาน“ออกไป นังสารเลว ไอ้คนชั่ว แกอย่าเข้าใกล้ลูกฉันนะ เอามือสกปรกของแกออกไป ลูกฉันยังไม่ตาย ยังไม่ตาย ซันๆ อาซันของแม่ ฮือๆๆ”เสียงกรีดร้องคร่ำครวญฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างเล็ดลอดออกมาจากห้องผู้ป่วยพิเศษที่มิรันตีรักษาตัวอยู่“แกไอ้โชค แกๆๆ เอามือสกปรกของแกออกจากลูกฉันนะ แกนังตัวดีแกจะมาแย่งอัคคีไปจากฉันตายซะเถอะ”มิรันตีซึ่งตอนนี้สูญสิ้นสติสัมปชัญญะโดยสิ้นเชิง กำลังเกรี้ยวกราดอาละวาดอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นั้นอย่างเอาเป็นเอาตายราวกับว่าเธอได้ต่อสู้และพูดคุยอยู่กับคนที่เธอเอ่ยชื่อออกมา ร่างโปร่งระหงงดงามนั้นซูบผอม ผมเผ้ารุงรังไม่เป็นรูปทรง ใบหน้าที่เคยสวยเย่อหยิ่งนั้นซีดหม่นและขอบตาดำคล้ำเพราะเธอไม่อาจข่มตาหลับลงได้มาหลายต่อหลายคืนเพราะเธอต้องคอยเฝ้าระวังไม่ให้พวกคนใจร้ายเข้าใกล้ลูกชายของเธอ ซึ่งก็คือตุ๊กตาผ้ารูปเด็กชายตัวโตซึ่งตอนนี้ในจินตนาการ ในโลกของเธอนั้นตุ๊กตาตัวนี้คืออัครา และเด็กน้อยกำลั