“มาแล้วจ้า” เสียงใสๆ จากหญิงสาวร่างเล็กบอบบางนามว่า อรุณนารี ผู้มีใบหน้ารูปหัวใจน่ารัก ดวงตากลมโตสดใสเปล่งประกายดุจยามเช้า จมูกเล็กๆ นั้นมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายริมฝีปากบางน่ารักจิ้มลิ้มยิ้มแย้มอย่างคนอารมณ์ดีเป็นนิจนั้นส่งยิ้มหวานหยดให้หญิงสาวร่างสูงระเหิดระหงตรงหน้าที่บัดนี้หน้าสวยเริ่มหงิกงอ
“ไงแม่แมงปอทำไมวันนี้มาช้านักล่ะ แกรู้มั้ยวันนี้ฉันต้องเป็นแม่ค้าขายต้นไม้ให้หล่อนจนเมื่อยไปหมดแล้วนะเนี่ย”
เสียงบ่นกระปอดกระแปดดังมาจากปากของหญิงสาวร่างสูงโปร่งสมส่วน ใบหน้ารูปไข่นวลเนียนนั้นประดับด้วยดวงตากลมโตดำขลับวาววับจมูกโด่งเชิดอย่างคนดื้อรั้น ริมฝีปากรูปกระจับอิ่มแดงเรื่ออย่างคนสุขภาพดีล้อมกรอบหน้าสวยด้วยผมซอยสั้นทันสมัยรับรูปหน้าคล้ายดาราเกาหลีที่กำลังฮิตเธอคือ เนตรนารา สาวสวยสุดเท่อารมณ์ติสต์ ซึ่งตอนนี้หน้าสวยเริ่มหงิกงอเพราะวันนี้ลูกค้าเข้าร้านแต่เช้าทั้งร้านกาแฟและร้านต้นไม้จนเธอหัวหมุน
“ทำไมน้า...ฉันต้องมาช่วยแกด้วย ทั้งๆ ที่วันนี้มันวันหยุดฉันน่ะ”
“ฉันแวะไปส่งน้องอิ่มอุ่นแล้วก็เอาไอ้สีเทาเข้าอู่น่ะแก ขอโทษจริงๆ ว่ะ” อรุณนารีตอบเพื่อนสาวคนสวยพลางยิ้มให้อย่างน่ารักแบบว่าขอโทษนะจ๊ะเพื่อนสาว “ยัยอ้อนไปเชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว ไปตั้งอาทิตย์แน่ะแก ฉันก็ต้องดูลูกน่ะ” เธอบอกเพื่อนซึ่งก็พยักหน้าเข้าใจในเหตุผล
ลูกสาวที่พูดถึงนั้นคือ น้องอิ่มอุ่น เด็กหญิงอัจฉรียาพร เด็กหญิงตัวกลมป้อมตาโตปากนิด จมูกหน่อยแก้มแดงเหมือนเชอร์รี่ ผมหยิกสลวยวัยห้าขวบซึ่งเป็นแก้วตาดวงใจของคนทั้งบ้านลูกสาวของ อโนมา หรือ อ้อน คุณแม่ยังสาวซึ่งไปเป็นวิทยากรพิเศษในงานเทศกาลอาหารไทยพื้นเมืองที่เชียงใหม่ เนื่องจากหญิงสาวเป็นอาจารย์สอนทำอาหารแสนสวยที่มีลูกศิษย์มากมายโดยเฉพาะลูกศิษย์ที่เป็นชายทั้งที่โสดไม่โสดพ่อบ้านเมียเผลอและไม่เผลอที่ขยันมาสมัครเรียนกันไม่เว้นแต่ละวัน
อโนมานั้นเป็นสาวน้อยจากภาคเหนือ พ่อแม่รับราชการตำแหน่งเล็กๆ อยู่ในส่วนราชการของจังหวัด แต่ด้วยความที่รักดีเรียนเก่งเธอจึงสามารถสอบชิงทุนจากรัฐบาลได้เรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐบาลและได้มาเจอกันในวันรับน้องถึงแม้เรียนคนละคณะแต่ด้วยชะตาต้องกันและนิสัยความชอบที่เหมือนกันทำให้ทั้งสองเข้ากันได้ง่ายและด้วยวาทศิลป์และรอยยิ้มอันแจ่มใสจริงใจของอรุณนารีที่ชักชวนอโนมาให้มาอยู่ด้วยกันที่บ้านสวนย่านชานเมืองได้ไม่ยาก เพราะใครๆ ก็หลงรักรอยยิ้มพิมพ์ใจของแม่แมงปอตัวน้อยที่ขยันยิ้มประจบอยู่ทุกวัน
“ไม่คิดบ้างหรือว่านี่คือฟ้าลิขิตให้เรามาเจอกันและใช้ชีวิตร่วมกัน คิดดูสิขนาดชื่อเรายังขึ้นต้นด้วย อ.อ่างเหมือนกันเลย อโนมา อรุณนารี” คือคำพูดชักชวนของอรุณนารีซึ่งชวนให้อโนมา มาพักอยู่ด้วยกันและอโนมาจะกล่าวล้อเลียนทุกครั้ง
“นี่แมงปอชวนเพื่อนไปอยู่ด้วยที่บ้านเหมือนหนุ่มขอสาวแต่งงานเลย แกแอบรักฉันแบบนั้นรึเปล่าเนี่ย” แล้วคนใจอ่อนอย่างอโนมาก็ได้เข้ามาเป็นสมาชิกของบ้านนับแต่นั้นมาก็เกือบสิบปีแล้ว
“ถึงเชียงใหม่แล้วนะดูแลลูกสาวดีๆ ล่ะแม่แมงปอ แล้วจะเอาขนมอร่อยๆ กลับมาฝาก” อรุณนารีกดดูข้อความในโทรศัพท์เครื่องเล็กของตัวเองแล้วถอนใจ กังวลว่าเย็นนี้รถคันเก่งของเธอจะซ่อมเสร็จทันไปรับลูกสาวตัวน้อยหรือไม่
“วันนี้ไอ้สีเทามันรวนอีกแล้วล่ะแก ไม่รู้จะซ่อมทันไปรับน้องอิ่มอุ่นรึเปล่า” เธอบ่นถึงรถโฟล์คสีเทาคันเก่งของเธอซึ่งเป็นเพื่อนเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคุณแม่ยังสาวจนเป็นสมบัติตกทอดมาถึงเธอและก็เป็นพาหนะที่ใช้ดีใช้ทน แต่มาช่วงหลังๆ ขยันรวนบ่อยเหลือเกินเหมือนจะบอกว่ามันแก่เกินไปเสียแล้ว
“เฮ้อ...ทำไงดีเนี่ย”
“เฮ้ย! แก บ่นเป็นยายแก่ไปได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย เดี๋ยวฉันไปรับน้องอิ่มอุ่นเป็นเพื่อนแกก็ได้ เพราะเย็นนี้จะไปธุระแถวนั้นอยู่พอดี”
“จริงเหรอเนตร โห...โชคดีจังเลย ขอบใจแกมากเพื่อนสาว น่ารักมากๆ เลยแก” คนเล็กพูดพลางหยิกแก้มเพื่อนสาวอย่างหยอกเย้าพลางทำหน้าตาให้น่ารักสุดๆ
“ไม่ต้องทำมาประจบเลยแก ไหนล่ะข้าวกะเพราทะเลสุดแซบของฉันน่ะ”
“งกซะไม่มีนังหมวยกบฏ เห็นแก่กินชะมัดเลย” หญิงสาวบ่นแต่ก็เอาข้าวออกจากปิ่นโตใส่จานจัดให้เพื่อนเรียบร้อย เนตรนาราพอเห็นของโปรด ก็รีบล้างมือนั่งลงตักข้าวเข้าปากคำโตจนคนเป็นเพื่อนรีบท้วง
“เฮ้ย! ไอ้เนตร แกจะรีบกินไปไหนเนี่ย ไม่มีใครแย่งหรอกน่า นี่พอแม่ฉันรู้ว่าแกมาเป็นยามเฝ้าร้านให้ก็รีบทำของโปรดแกไว้ซะเต็มปิ่นโต แถมยังทำน้ำพริกอ่องใส่กระปุกไว้ให้แกเอากลับบ้านอีกแน่ะ”
“จริงดิ แหม แม่แกนี่ช่างรู้ใจลูกสาวคนสวยอย่างฉันจัง เดี๋ยววันหลังฉันจะเอาภาพเขียนสวยๆ ไปฝากซะหน่อยแล้ว” สาวสวยพูดทั้งๆ ที่ยังเคี้ยวข้าวในปาก มันเป็นภาพซึ่งขัดกันเหลือเกินกับหน้าตาสวยโฉบเฉี่ยวกับผิวพรรณขาวผ่องอย่างลูกผู้ดีของเธอ
“นี่ยัยเนตรหน้าตาก็ดีแต่ทำตัวโคตะระซกมกเลยว่ะไม่สมกับหน้าตาเล้ย”
“แกไม่เคยได้ยินเหรอ คนสวยทำอะไรไม่น่าเกลียดน่ะ” คนที่ถูกว่ายังทำหน้าทะเล้นใส่
“เออ...สวยตายแหละกินก็ตะกละดูซิเลอะปากหมดแล้วเช็ดเดี๋ยวนี้เลยแกเดี๋ยวใครมาเห็นแล้วคิดว่าฉันมีเพื่อนเป็นดาวน์” คนตัวเล็กบ่นเพื่อนพลางยื่นกระดาษให้เพื่อน
“เป็นดาวมหา’ลัยหรือแก”
“ดาวน์ซินโดรมน่ะสิไอ้บ้า อย่างแกน่ะนะจะเป็นดาวมหา’ลัย อย่างแกน่ะเป็นอุกาบาตมหาประลัยจะเหมาะมากกว่า” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับเช็ดปากให้เพื่อนคนสวยอย่างกระแทกกระทั้นราวกับจะแกล้ง
“โอ๊ยๆ เบาๆ ซิแก หน้าคนนะไม่ใช่หน้าอูฐ เช็ดซะหนังหน้าแทบหลุด” สาวสวยบ่นกระเง้ากระงอดแล้วตักข้าวคำใหญ่ใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย
ภายในโรงแรมหรูหราระดับห้าดาวของเมืองเชียงใหม่ บริเวณลานกว้างที่จัดตกแต่งอย่างงดงามอลังการเพื่อจัดงานนิทรรศการอาหารไทยพื้นเมืองและอาหารนานาชาติ คลาคล่ำด้วยผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งต่างให้ความสนใจในบู๊ทจัดงานต่างๆ ซึ่งมีอาหารมากมายหลากหลายสีสันและรสชาติให้ชมและชิม จับจ่ายเพื่อเป็นของฝากแก่พ่อแม่เพื่อนฝูง ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างอิ่มเอมมีความสุขทั้งเจ้าของร้านและลูกค้าบ่งบอกได้อย่างดีว่าการจัดงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเพียงใดด้านหลังเวทีสัมมนากลางลานจัดงาน หญิงสาวร่างระหงแต่งกายด้วยชุดไทยล้านนาซึ่งตัดเย็บอย่างประณีตงดงามสีงาช้างขับผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนให้ผุดผ่องน่ามอง ผมยาวสลวยเกล้ามวยสูงแซมดอกกล้วยไม้เผยใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลประกายวาวหวาน ขนตายาวงอนโดยไม่ต้องดัด จมูกโด่งเชิดสวยคม ริมฝีปากรูปกระจับอิ่มระเรื่อเคลือบสีชมพูอ่อนใสน่ามองความงดงามดูชดช้อยอ่อนหวานของหญิงสาวทำให้คนมองนึกถึงภาพของสาวเครือฟ้าขึ้นมาครามครันนั้น ร่างบางกำลังก้าวลงเวทีด้วยใบหน้าแย้มยิ้มอ่อนหวานให้กับผู้ร่วมงานอื่นที่ส่งยิ้มทักทาย“ขอบคุณมากๆ เลยค่ะคุณอ้อนที่ให้เกียรติมาร่วมงานกับโรงแรมแล
ตอนที่3.เธองดงามจนแทบลืมหายใจ โอ...หรือมันเป็นเพียงภาพลวงตา ชายหนุ่มบอกตัวเอง แม้แค่ได้เห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างของเธอแค่นั้นก็ทำอัคคีรู้ว่าใบหน้านั้นต้องงดงามอย่างแน่นอน เธอทำให้ใจของชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเพลย์บอยตัวฉกาจสั่นไหวอย่างรุนแรง ดุจว่าโดนช็อตด้วยไฟฟ้าแรงสูงกระนั้นหัวใจหนุ่มที่ไม่เคยต้องหวั่นไหวเพราะหญิงใด เต้นแรงเหมือนหนุ่มน้อยแรกริรัก ทั้งๆ ที่ตลอดระยะเวลาสามสิบสามปีในชีวิตของอัคคี มีหญิงงามมากหน้าหลายตาผ่านเข้ามาให้เชยชมอยู่มิได้ขาด และแต่ละนางก็ได้ชื่อว่าสวยบาดใจ ทั้งดารานางแบบ ทั้งในและต่างประเทศ เขาก็ได้เชยชมมาแล้วทั้งสิ้น แต่คราวนี้อัคคี กลับหวั่นไหวรุนแรง และหัวใจยิ่งเต้นกระหน่ำเหมือนกลองศึกเมื่อใบหน้าของเธอค่อยๆ หันมาทางด้านที่เขายืนอยู่ คล้ายกับว่าเจ้าตัวเริ่มรู้สึกว่ามีคนมองอยู่... อัคคีตื่นเต้นจนแทบลืมหายใจเมื่อเห็นดวงหน้านั้นชัดๆ...ดวงตาทั้งสองคู่สบกันโดยไม่ตั้งใจ แต่กระนั้นก็ได้ทำให้ดวงใจสองดวงเต้นแรงแทบประทุโดยไม่รู้สาเหตุ ดวงตาสวยซึ้งดูตระหนกระคนตื่นเต้น ร่างกายชาวาบร้อนสลับหนาว จนเธอรู้สึกสับสนกับตนเอง ริมฝีปากอวบอิ่มเผยออย่างลืมตัว มองชายหนุ่มร่างสูงคนน
ตอนที่4.“นี่เราเป็นบ้าอะไร” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง การได้เห็นหน้าหวานสวยซึ้งของแม่เอื้องเหนือนั่นแค่ชั่วแวบเดียวถึงกับทำให้เขาเป็นเอามากขนาดนี้เลยหรือ ภาพที่ทับซ้อนเข้ามาในหัวสมองเขาอีกภาพก็คือภาพร่างของแม่เอื้องงามที่ทอดกายระทวยส่งเสียงครางกระเส่าเร่าร้อนอยู่ใต้ร่างของเขายิ่งทำให้ชายหนุ่มพลุ่งพล่านหนักกว่าเดิมเหมือนเติมเชื้อเพลิงพิศวาสร้อนแรงเกินกว่าจะดับลงได้ อัคคีพลุ่งพล่านเดือดดาลในใจ จนหลงลืมไปว่าเขาได้ทำให้แม่ดอกแคเธอรีนที่เบ่งบานพรักพร้อมเหี่ยวเฉาลงอย่างแรง“กรี๊ด...บ้าๆ นี่มันบ้าบอที่สุด อาร์ตี้คุณทำแบบนี้กับแคทได้ยังไง คนบ้า” ร่างเย้ายวนของเธอเต้นเหยงๆ อยู่ข้างเตียงกว้างเมื่อเห็นว่าร่างสูงสมาร์ตนั่นไม่แม้แต่จะชายตามองเธอที่อารมณ์ค้างอยู่“เอาเป็นว่าไว้เมื่อไรที่ผมอารมณ์ดีกว่านี้เราค่อยเจอกันใหม่ละกัน ส่วนเรื่องนั้นเดี๋ยวคนของผมจะจัดการให้พรุ่งนี้ ไม่เกินเก้าโมงเช้าแน่นอน”อัคคีหันมาบอกแก่คู่ควงคนล่าสุดด้วยใบหน้าและแววตาเฉยชาแต่น้ำเสียงห้าวๆ นั้นบอกได้อย่างดีว่าบัดนี้ชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ในอารมณ์ไหน และถ้าหากเธอยังอยากจะเอาแต่ใจหรือเรียกร้องอะไรที่มากกว่านี้มันจะเป็นการกระทำที่
ตอนที่5.“อ้าว ไงอัคคีพี่นึกว่าเราจะไม่มาซะแล้ว มาๆ นั่งด้วยกันตรงนี้” แล้วพ่อเลี้ยงอินคำก็ยืนขึ้นเพื่อต้อนรับผู้มาใหม่ที่กำลังเดินเยื้องย่างเข้ามาช้าๆ ด้วยสายตาหมายมาดอะไรบางอย่างซึ่งมีเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้“สวัสดีครับพี่อิน พี่เกด” อัคคีทำความเคารพสองสามีภรรยาที่เขาให้ความเคารพดุจพี่น้องมาเนิ่นนาน นับแต่เริ่มแตกเนื้อหนุ่มเพราะว่าทั้งตระกูลของแม่เลี้ยงเกศราและตระกูลของเขานั้น ทำธุรกิจร่วมกันมานานและผูกพันกันมาหลายชั่วอายุคน แต่สิ่งที่ทำให้เขาตรงดิ่งมาที่นี่ไม่ใช่แค่จะมาคุยธุรกิจกับสองสามีภรรยา แต่มันมีสาเหตุมาจากหญิงสาวร่างบางซึ่งนั่งหันหลังให้เขาคนนั้นต่างหากที่ทำให้เขาต้องเอาเวลาที่จะได้พักผ่อนหาความสำราญกับแม่สาวๆ นั้นทิ้งไปอย่างไม่ไยดีอัคคีมองแผ่นหลังสีน้ำผึ้งนวลเนียนไม่วางตา นับตั้งแต่แรกก้าวขึ้นเรือนมาเจ้าของแผ่นหลังงดงามที่ตรึงตาตรึงใจเขาตั้งแต่ตอนเย็นที่โรงแรม สีผิวที่เขาเห็นไกลๆ ว่าดูสวยน่าสัมผัสแล้วเมื่อมองใกล้ๆ กลับพบว่ามันยิ่งสวยนวลเนียนเย้ายวนน่าสัมผัสกว่าเป็นไหนๆ ยิ่งสายลมที่พัดผ่านแผ่วเบาก็พาเอากลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนร่างบางอรชรมาแตะจมูกยิ่งทำให้เลือดในกายหนุ่มร้อนรุ่ม
ตอนที่6.“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันหยิบเองได้ ขอบคุณค่ะ”หญิงสาวตอบสั้นๆ อย่างมีมารยาทแล้วเลือกที่จะหยิบขวดน้ำเปล่าที่เป็นขวดแก้วและยังไม่มีการเปิดดื่มกินซึ่งปฏิกิริยาของเธอก็สร้างความขุ่นเคืองในใจของชายหนุ่มผู้มีความมั่นใจในเสน่ห์ของตนอย่างอัคคีมากทีเดียวแต่เขาเลือกที่จะข่มมันไว้“ไงล่ะพ่อรูปหล่อน้องสาวคนสวยของเราไม่เล่นด้วยล่ะสิหน้าหงิกเหมือนหมาเห็นปลากระป๋อง” แม่เลี้ยงกล่าวตอกย้ำ“อะไรที่นายอัคคีอยากได้มันก็ต้องได้เสมอแหละ พี่เกดอย่าเพิ่งได้ใจไป” แม้จะตอบอย่างคนที่มั่นใจแต่ในใจกลับร้อนรุ่มเพราะเหมือนเขาโดนลบเหลี่ยม“ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ละมั้ง เพราะน้องอ้อนเขาไม่ใช่สาวๆ อย่างที่นายเคยควง เขาดีกว่านั้นเยอะ แม้ว่าเขาจะเป็นม่ายสาวลูกหนึ่งก็เถอะ แต่บอกได้คำเดียวว่ามีหนุ่มๆ คอยรุมแจกขนมจีบเพียบทั้งนิสัยดี เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติมากมายไม่แพ้นายเลยสักคน”“ถ้านายไม่คิดจะจริงจังก็อย่างไปให้ความหวังหรือแสดงออกว่าสนใจน้องอ้อนเขาดีกว่า พี่ว่าปล่อยให้น้องเขาไปเจอคนที่ดีๆ จะดีกว่าเจอคนอย่างนายนะ” คราวนี้เป็นเสียงของคนที่เขาเคารพรักเหมือนพี่ชายเอ่ยออกมาสร้างความไม่พอใจให้ชายหนุ่มอย่างมาก“โห...
ตอนที่7.เมื่อเพลงบรรเลงจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นด้วยความชื่นชม หญิงสาวผู้เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของงานพนมมือไหว้ขอบคุณทุกคนอย่างงดงามสร้างความปลาบปลื้มชื่นชมแด่แม่เลี้ยง พ่อเลี้ยงแห่งคุ้มอินจำปายิ่งนัก“อัคคี นายอัคคีภัย นี่เพลงจบแล้วยืนบื้ออยู่ได้” แม่เลี้ยงเกศราใช้ข้อศอกกระทุ้งสีข้างของอัคคีเบาๆ ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งนิดๆ แล้วรีบกะพริบตากลบเกลื่อนพิรุธ“ครับก็เพราะดีนะครับ” ชายหนุ่มกระแอมในลำคอเล็กน้อยแก้เก้อ“ก็แหงล่ะ น้องอ้อนของพี่ทำอะไรก็ดี ก็เด่นเข้าตาหนุ่มๆ เสมอแหละ ดูสิสงสัยหนุ่มๆ แถวนี้เป็นแฟนคลับของน้องอ้อนกันหมดแล้ว” พ่อเลี้ยงบุ้ยใบ้ไปทางด้านอโนมาซึ่งได้รับความสนใจจากหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่ล้อมหน้าล้อมหลังแย่งกันพูดคุยกับสาวสวยของงานในค่ำคืนนี้เพื่อจะได้มีโอกาสสานต่อความสัมพันธ์ในอนาคต แต่ภาพนั้นกลับทำให้อัคคีร้อนรุ่มนัยน์ตาร้อนผ่าวด้วยความขัดเคืองทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกแบบนั้นแต่อาการที่คันยุบยิบเจ็บจี๊ดๆ ในหัวใจโดยไม่รู้สาเหตุแค่ได้เห็นชายคนอื่นอยู่ใกล้หรือพูดคุยกับเธอ“ก็เป็นธรรมดาแหละครับเขาสวยก็ไม่แปลกที่มีคนสนใจเขา” ชายหนุ่มพยายามซ่อนความขัดเคืองจากน้ำเสียงแ
ตอนที่8.“คุณอัคคี”“พี่จำได้ว่าขอให้เรียกพี่ว่าพี่ไฟนะครับน้องอ้อน” เขากล่าวเสียงเรียบหากแววตาพราวระยับอย่างพึงพอใจเมื่อจับได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังตื่นตระหนก“ดิฉันคงไม่กล้าตีตัวเสมอหรอกค่ะคุณอัคคี ฉันก็แค่คนธรรมดาไม่ได้มีอะไรน่าสนใจขนาดที่คุณต้องลดตัวมาสนิทสนมด้วย” หญิงสาวพูดอย่างไว้ตัวอย่างเปิดเผย ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจและขุ่นเคืองนิดๆ ที่หญิงสาวตรงหน้ากล้าพูดตรงๆ อย่างตัดไมตรีเขา ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่ากำลังฮอต เสน่ห์ร้อนแรงเป็นที่หมายปองของสาวๆ ค่อนประเทศ “ใครว่าล่ะครับน้องอ้อนน่ะน่าสนใจสำหรับพี่สิครับ ไม่อย่างนั้นพี่คงไม่ต้องทำหน้าที่สารถีขับรถไปส่งน้องอ้อนที่โรงแรมแน่นอน” ชายหนุ่มพูดอย่างมั่นใจก็แน่ล่ะเขาอุตส่าห์ลงมาดักรอและสกัดดาวรุ่งคนขับรถของแม่เลี้ยงเกศราเพื่อจะหาโอกาสเข้าใกล้หญิงสาวตรงหน้านี่นา หญิงสาวทำหน้าเหวอเมื่อเจอมุกนี้เพราะไม่คิดว่าเพลย์บอยตัวอันตรายอย่างอัคคีจะกล้าลดตัวลงมาทำอะไรที่มันไม่ค่อยจะมีเหตุมีผลในสายตาและความคิดของเธอ“แล้วคนขับรถที่พี่เกดบอกว่าจะไปส่งฉันล่ะคะ” หญิงสาวทำท่าระแวงแล้วมองซ้ายมองขวาหาคนขับรถที่เธอเดินตามมา แต่พอเผลอชื่นชมดอกไม้นิดเดียวเท่า
ตอนที่8.“คุณอัคคี”“พี่จำได้ว่าขอให้เรียกพี่ว่าพี่ไฟนะครับน้องอ้อน” เขากล่าวเสียงเรียบหากแววตาพราวระยับอย่างพึงพอใจเมื่อจับได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังตื่นตระหนก“ดิฉันคงไม่กล้าตีตัวเสมอหรอกค่ะคุณอัคคี ฉันก็แค่คนธรรมดาไม่ได้มีอะไรน่าสนใจขนาดที่คุณต้องลดตัวมาสนิทสนมด้วย” หญิงสาวพูดอย่างไว้ตัวอย่างเปิดเผย ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจและขุ่นเคืองนิดๆ ที่หญิงสาวตรงหน้ากล้าพูดตรงๆ อย่างตัดไมตรีเขา ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่ากำลังฮอต เสน่ห์ร้อนแรงเป็นที่หมายปองของสาวๆ ค่อนประเทศ “ใครว่าล่ะครับน้องอ้อนน่ะน่าสนใจสำหรับพี่สิครับ ไม่อย่างนั้นพี่คงไม่ต้องทำหน้าที่สารถีขับรถไปส่งน้องอ้อนที่โรงแรมแน่นอน” ชายหนุ่มพูดอย่างมั่นใจก็แน่ล่ะเขาอุตส่าห์ลงมาดักรอและสกัดดาวรุ่งคนขับรถของแม่เลี้ยงเกศราเพื่อจะหาโอกาสเข้าใกล้หญิงสาวตรงหน้านี่นา หญิงสาวทำหน้าเหวอเมื่อเจอมุกนี้เพราะไม่คิดว่าเพลย์บอยตัวอันตรายอย่างอัคคีจะกล้าลดตัวลงมาทำอะไรที่มันไม่ค่อยจะมีเหตุมีผลในสายตาและความคิดของเธอ“แล้วคนขับรถที่พี่เกดบอกว่าจะไปส่งฉันล่ะคะ” หญิงสาวทำท่าระแวงแล้วมองซ้ายมองขวาหาคนขับรถที่เธอเดินตามมา แต่พอเผลอชื่นชมดอกไม้นิดเดียวเท่า
ตอนที่7.เมื่อเพลงบรรเลงจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นด้วยความชื่นชม หญิงสาวผู้เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของงานพนมมือไหว้ขอบคุณทุกคนอย่างงดงามสร้างความปลาบปลื้มชื่นชมแด่แม่เลี้ยง พ่อเลี้ยงแห่งคุ้มอินจำปายิ่งนัก“อัคคี นายอัคคีภัย นี่เพลงจบแล้วยืนบื้ออยู่ได้” แม่เลี้ยงเกศราใช้ข้อศอกกระทุ้งสีข้างของอัคคีเบาๆ ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งนิดๆ แล้วรีบกะพริบตากลบเกลื่อนพิรุธ“ครับก็เพราะดีนะครับ” ชายหนุ่มกระแอมในลำคอเล็กน้อยแก้เก้อ“ก็แหงล่ะ น้องอ้อนของพี่ทำอะไรก็ดี ก็เด่นเข้าตาหนุ่มๆ เสมอแหละ ดูสิสงสัยหนุ่มๆ แถวนี้เป็นแฟนคลับของน้องอ้อนกันหมดแล้ว” พ่อเลี้ยงบุ้ยใบ้ไปทางด้านอโนมาซึ่งได้รับความสนใจจากหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่ล้อมหน้าล้อมหลังแย่งกันพูดคุยกับสาวสวยของงานในค่ำคืนนี้เพื่อจะได้มีโอกาสสานต่อความสัมพันธ์ในอนาคต แต่ภาพนั้นกลับทำให้อัคคีร้อนรุ่มนัยน์ตาร้อนผ่าวด้วยความขัดเคืองทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกแบบนั้นแต่อาการที่คันยุบยิบเจ็บจี๊ดๆ ในหัวใจโดยไม่รู้สาเหตุแค่ได้เห็นชายคนอื่นอยู่ใกล้หรือพูดคุยกับเธอ“ก็เป็นธรรมดาแหละครับเขาสวยก็ไม่แปลกที่มีคนสนใจเขา” ชายหนุ่มพยายามซ่อนความขัดเคืองจากน้ำเสียงแ
ตอนที่6.“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันหยิบเองได้ ขอบคุณค่ะ”หญิงสาวตอบสั้นๆ อย่างมีมารยาทแล้วเลือกที่จะหยิบขวดน้ำเปล่าที่เป็นขวดแก้วและยังไม่มีการเปิดดื่มกินซึ่งปฏิกิริยาของเธอก็สร้างความขุ่นเคืองในใจของชายหนุ่มผู้มีความมั่นใจในเสน่ห์ของตนอย่างอัคคีมากทีเดียวแต่เขาเลือกที่จะข่มมันไว้“ไงล่ะพ่อรูปหล่อน้องสาวคนสวยของเราไม่เล่นด้วยล่ะสิหน้าหงิกเหมือนหมาเห็นปลากระป๋อง” แม่เลี้ยงกล่าวตอกย้ำ“อะไรที่นายอัคคีอยากได้มันก็ต้องได้เสมอแหละ พี่เกดอย่าเพิ่งได้ใจไป” แม้จะตอบอย่างคนที่มั่นใจแต่ในใจกลับร้อนรุ่มเพราะเหมือนเขาโดนลบเหลี่ยม“ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ละมั้ง เพราะน้องอ้อนเขาไม่ใช่สาวๆ อย่างที่นายเคยควง เขาดีกว่านั้นเยอะ แม้ว่าเขาจะเป็นม่ายสาวลูกหนึ่งก็เถอะ แต่บอกได้คำเดียวว่ามีหนุ่มๆ คอยรุมแจกขนมจีบเพียบทั้งนิสัยดี เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติมากมายไม่แพ้นายเลยสักคน”“ถ้านายไม่คิดจะจริงจังก็อย่างไปให้ความหวังหรือแสดงออกว่าสนใจน้องอ้อนเขาดีกว่า พี่ว่าปล่อยให้น้องเขาไปเจอคนที่ดีๆ จะดีกว่าเจอคนอย่างนายนะ” คราวนี้เป็นเสียงของคนที่เขาเคารพรักเหมือนพี่ชายเอ่ยออกมาสร้างความไม่พอใจให้ชายหนุ่มอย่างมาก“โห...
ตอนที่5.“อ้าว ไงอัคคีพี่นึกว่าเราจะไม่มาซะแล้ว มาๆ นั่งด้วยกันตรงนี้” แล้วพ่อเลี้ยงอินคำก็ยืนขึ้นเพื่อต้อนรับผู้มาใหม่ที่กำลังเดินเยื้องย่างเข้ามาช้าๆ ด้วยสายตาหมายมาดอะไรบางอย่างซึ่งมีเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้“สวัสดีครับพี่อิน พี่เกด” อัคคีทำความเคารพสองสามีภรรยาที่เขาให้ความเคารพดุจพี่น้องมาเนิ่นนาน นับแต่เริ่มแตกเนื้อหนุ่มเพราะว่าทั้งตระกูลของแม่เลี้ยงเกศราและตระกูลของเขานั้น ทำธุรกิจร่วมกันมานานและผูกพันกันมาหลายชั่วอายุคน แต่สิ่งที่ทำให้เขาตรงดิ่งมาที่นี่ไม่ใช่แค่จะมาคุยธุรกิจกับสองสามีภรรยา แต่มันมีสาเหตุมาจากหญิงสาวร่างบางซึ่งนั่งหันหลังให้เขาคนนั้นต่างหากที่ทำให้เขาต้องเอาเวลาที่จะได้พักผ่อนหาความสำราญกับแม่สาวๆ นั้นทิ้งไปอย่างไม่ไยดีอัคคีมองแผ่นหลังสีน้ำผึ้งนวลเนียนไม่วางตา นับตั้งแต่แรกก้าวขึ้นเรือนมาเจ้าของแผ่นหลังงดงามที่ตรึงตาตรึงใจเขาตั้งแต่ตอนเย็นที่โรงแรม สีผิวที่เขาเห็นไกลๆ ว่าดูสวยน่าสัมผัสแล้วเมื่อมองใกล้ๆ กลับพบว่ามันยิ่งสวยนวลเนียนเย้ายวนน่าสัมผัสกว่าเป็นไหนๆ ยิ่งสายลมที่พัดผ่านแผ่วเบาก็พาเอากลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนร่างบางอรชรมาแตะจมูกยิ่งทำให้เลือดในกายหนุ่มร้อนรุ่ม
ตอนที่4.“นี่เราเป็นบ้าอะไร” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง การได้เห็นหน้าหวานสวยซึ้งของแม่เอื้องเหนือนั่นแค่ชั่วแวบเดียวถึงกับทำให้เขาเป็นเอามากขนาดนี้เลยหรือ ภาพที่ทับซ้อนเข้ามาในหัวสมองเขาอีกภาพก็คือภาพร่างของแม่เอื้องงามที่ทอดกายระทวยส่งเสียงครางกระเส่าเร่าร้อนอยู่ใต้ร่างของเขายิ่งทำให้ชายหนุ่มพลุ่งพล่านหนักกว่าเดิมเหมือนเติมเชื้อเพลิงพิศวาสร้อนแรงเกินกว่าจะดับลงได้ อัคคีพลุ่งพล่านเดือดดาลในใจ จนหลงลืมไปว่าเขาได้ทำให้แม่ดอกแคเธอรีนที่เบ่งบานพรักพร้อมเหี่ยวเฉาลงอย่างแรง“กรี๊ด...บ้าๆ นี่มันบ้าบอที่สุด อาร์ตี้คุณทำแบบนี้กับแคทได้ยังไง คนบ้า” ร่างเย้ายวนของเธอเต้นเหยงๆ อยู่ข้างเตียงกว้างเมื่อเห็นว่าร่างสูงสมาร์ตนั่นไม่แม้แต่จะชายตามองเธอที่อารมณ์ค้างอยู่“เอาเป็นว่าไว้เมื่อไรที่ผมอารมณ์ดีกว่านี้เราค่อยเจอกันใหม่ละกัน ส่วนเรื่องนั้นเดี๋ยวคนของผมจะจัดการให้พรุ่งนี้ ไม่เกินเก้าโมงเช้าแน่นอน”อัคคีหันมาบอกแก่คู่ควงคนล่าสุดด้วยใบหน้าและแววตาเฉยชาแต่น้ำเสียงห้าวๆ นั้นบอกได้อย่างดีว่าบัดนี้ชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ในอารมณ์ไหน และถ้าหากเธอยังอยากจะเอาแต่ใจหรือเรียกร้องอะไรที่มากกว่านี้มันจะเป็นการกระทำที่
ตอนที่3.เธองดงามจนแทบลืมหายใจ โอ...หรือมันเป็นเพียงภาพลวงตา ชายหนุ่มบอกตัวเอง แม้แค่ได้เห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างของเธอแค่นั้นก็ทำอัคคีรู้ว่าใบหน้านั้นต้องงดงามอย่างแน่นอน เธอทำให้ใจของชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเพลย์บอยตัวฉกาจสั่นไหวอย่างรุนแรง ดุจว่าโดนช็อตด้วยไฟฟ้าแรงสูงกระนั้นหัวใจหนุ่มที่ไม่เคยต้องหวั่นไหวเพราะหญิงใด เต้นแรงเหมือนหนุ่มน้อยแรกริรัก ทั้งๆ ที่ตลอดระยะเวลาสามสิบสามปีในชีวิตของอัคคี มีหญิงงามมากหน้าหลายตาผ่านเข้ามาให้เชยชมอยู่มิได้ขาด และแต่ละนางก็ได้ชื่อว่าสวยบาดใจ ทั้งดารานางแบบ ทั้งในและต่างประเทศ เขาก็ได้เชยชมมาแล้วทั้งสิ้น แต่คราวนี้อัคคี กลับหวั่นไหวรุนแรง และหัวใจยิ่งเต้นกระหน่ำเหมือนกลองศึกเมื่อใบหน้าของเธอค่อยๆ หันมาทางด้านที่เขายืนอยู่ คล้ายกับว่าเจ้าตัวเริ่มรู้สึกว่ามีคนมองอยู่... อัคคีตื่นเต้นจนแทบลืมหายใจเมื่อเห็นดวงหน้านั้นชัดๆ...ดวงตาทั้งสองคู่สบกันโดยไม่ตั้งใจ แต่กระนั้นก็ได้ทำให้ดวงใจสองดวงเต้นแรงแทบประทุโดยไม่รู้สาเหตุ ดวงตาสวยซึ้งดูตระหนกระคนตื่นเต้น ร่างกายชาวาบร้อนสลับหนาว จนเธอรู้สึกสับสนกับตนเอง ริมฝีปากอวบอิ่มเผยออย่างลืมตัว มองชายหนุ่มร่างสูงคนน
ภายในโรงแรมหรูหราระดับห้าดาวของเมืองเชียงใหม่ บริเวณลานกว้างที่จัดตกแต่งอย่างงดงามอลังการเพื่อจัดงานนิทรรศการอาหารไทยพื้นเมืองและอาหารนานาชาติ คลาคล่ำด้วยผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งต่างให้ความสนใจในบู๊ทจัดงานต่างๆ ซึ่งมีอาหารมากมายหลากหลายสีสันและรสชาติให้ชมและชิม จับจ่ายเพื่อเป็นของฝากแก่พ่อแม่เพื่อนฝูง ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างอิ่มเอมมีความสุขทั้งเจ้าของร้านและลูกค้าบ่งบอกได้อย่างดีว่าการจัดงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเพียงใดด้านหลังเวทีสัมมนากลางลานจัดงาน หญิงสาวร่างระหงแต่งกายด้วยชุดไทยล้านนาซึ่งตัดเย็บอย่างประณีตงดงามสีงาช้างขับผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนให้ผุดผ่องน่ามอง ผมยาวสลวยเกล้ามวยสูงแซมดอกกล้วยไม้เผยใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลประกายวาวหวาน ขนตายาวงอนโดยไม่ต้องดัด จมูกโด่งเชิดสวยคม ริมฝีปากรูปกระจับอิ่มระเรื่อเคลือบสีชมพูอ่อนใสน่ามองความงดงามดูชดช้อยอ่อนหวานของหญิงสาวทำให้คนมองนึกถึงภาพของสาวเครือฟ้าขึ้นมาครามครันนั้น ร่างบางกำลังก้าวลงเวทีด้วยใบหน้าแย้มยิ้มอ่อนหวานให้กับผู้ร่วมงานอื่นที่ส่งยิ้มทักทาย“ขอบคุณมากๆ เลยค่ะคุณอ้อนที่ให้เกียรติมาร่วมงานกับโรงแรมแล
ตอนที่1“มาแล้วจ้า” เสียงใสๆ จากหญิงสาวร่างเล็กบอบบางนามว่า อรุณนารี ผู้มีใบหน้ารูปหัวใจน่ารัก ดวงตากลมโตสดใสเปล่งประกายดุจยามเช้า จมูกเล็กๆ นั้นมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายริมฝีปากบางน่ารักจิ้มลิ้มยิ้มแย้มอย่างคนอารมณ์ดีเป็นนิจนั้นส่งยิ้มหวานหยดให้หญิงสาวร่างสูงระเหิดระหงตรงหน้าที่บัดนี้หน้าสวยเริ่มหงิกงอ“ไงแม่แมงปอทำไมวันนี้มาช้านักล่ะ แกรู้มั้ยวันนี้ฉันต้องเป็นแม่ค้าขายต้นไม้ให้หล่อนจนเมื่อยไปหมดแล้วนะเนี่ย”เสียงบ่นกระปอดกระแปดดังมาจากปากของหญิงสาวร่างสูงโปร่งสมส่วน ใบหน้ารูปไข่นวลเนียนนั้นประดับด้วยดวงตากลมโตดำขลับวาววับจมูกโด่งเชิดอย่างคนดื้อรั้น ริมฝีปากรูปกระจับอิ่มแดงเรื่ออย่างคนสุขภาพดีล้อมกรอบหน้าสวยด้วยผมซอยสั้นทันสมัยรับรูปหน้าคล้ายดาราเกาหลีที่กำลังฮิตเธอคือ เนตรนารา สาวสวยสุดเท่อารมณ์ติสต์ ซึ่งตอนนี้หน้าสวยเริ่มหงิกงอเพราะวันนี้ลูกค้าเข้าร้านแต่เช้าทั้งร้านกาแฟและร้านต้นไม้จนเธอหัวหมุน“ทำไมน้า...ฉันต้องมาช่วยแกด้วย ทั้งๆ ที่วันนี้มันวันหยุดฉันน่ะ”“ฉันแวะไปส่งน้องอิ่มอุ่นแล้วก็เอาไอ้สีเทาเข้าอู่น่ะแก ขอโทษจริงๆ ว่ะ” อรุณนารีตอบเพื่อนสาวคนสวยพลางยิ้มให้อย่างน่ารักแบบว่าขอโท