หลีเจิ้งเฟยและพี่ชายทั้งสามของเธอรออยู่ในห้องนั่งเล่นเป็นเวลานานเมื่อทุกคนเห็นข่าว ตอนแรกดีใจที่ลูกสาวสุดที่รักยังสบายดี แต่ยิ่งคิดมากก็ยิ่งรู้สึกทะแม่ง ๆ ทำไมสองคนนี้ถึงมีโพสต์สื่อไปทางว่าเป็นคู่รักกันในอินเตอร์เน็ต?หลีหรานรู้สึกเสียใจมากที่เขาไม่ควรรีบร้อนไปหาเพื่อน เขานั่งเครื่องบินกลับไปดูไบก่อนหลีเกอ ทิ้งน้องสาวของเขาไว้ที่สนามบินตามลำพังเวลานี้ฟู่ลี่กั๋วเห็นลูกชายและภรรยาของเขามาพอดี จึงรีบช่วยเริ่มบทสนทนาให้“ซิวเป่ย ทักทายคุณปู่หลีของลูกเร็ว ๆ สิ”ฟู่ซิวเป่ยก้าวไปข้างหน้าและก้มศีรษะลงอย่างสุภาพ “สวัสดีครับคุณปู่หลี”“อืม”หลีเจิ้งเฟยสวมชุดสูทสีคราม แม้เส้นผมของเขาเกือบจะหงอกไปทั้งหมด แต่เขายังดูแข็งแรงมากหลีหานและฟู่ซิวเป่ยมองหน้ากันและกล่าวสวัสดี พวกเขาต่างเป็นเพื่อนร่วมชั้นและมีความสัมพันธ์ที่ดีหลีลั่วมองไปยังฟู่ซิวเป่ยพลางวิเคราะห์ไปด้วย โดยคิดว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องแฮ็กเข้าคอมพิวเตอร์ของอีกฝ่าย เพื่อสืบสาวเบื้องหลังอีกฝ่ายในทางกลับกัน หลีหรานกุมมือตัวเองไว้และสีหน้าเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ถ้ามีใครมาแข่งขันกับเขาเพื่อชิงเสี่ยวเกอเกอ... จะต้องผ่านเขาไปให้ได้ก่
โดนบล็อกเหมือนกัน...เมื่อเห็นข่าวที่ฟู่ซิวเป่ยพาหลีเกอไป ความหึงหวงในอกก็เดือดพล่านจนไม่สามารถระงับไว้ได้ผู้หญิงคนนี้ไม่เหลือเยื่อใยใด ๆ กับสามีเก่าจริงเหรอ?ทันใดนั้นฮั่วจิ้นเฉิงก็กวาดแฟ้มบนโต๊ะตกลงพื้น ใบหน้าของเขามืดมนจนเหมือนมีน้ำหมีกหยดลงมา“คุณฮั่วคะ หลีเจิ้งเฟย ประธานหลีกรุ๊ปจะจัดงานฉลองวันเกิดครบรอบ 70 ปีของเขาที่บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ในวันมะรืนนี้ เราอยู่ในรายชื่อคำเชิญเหมือนกัน ให้ฉันจองเที่ยวบินตอนนี้เลยไหมคะ?” หลานหนีถามด้วยเสียงต่ำ“ไป!”…บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ยามค่ำคืนเวลานี้ ดาดฟ้าชั้นบนสุดเนืองแน่นไปด้วยดารานักแสดง งานฉลองวันเกิดปีที่ 70 ของชายชราผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกอย่างหลีเจิ้งเฟยถูกจัดขึ้นเหล่าเศรษฐีและนักธุรกิจพันล้านที่ติดอันดับความร่ำรวยระดับโลกต่างมารวมตัวอยู่ที่นี่วัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้ในการปรุงอาหารจัดเลี้ยงล้วนนำเข้ามาจากต่างประเทศ เชฟชาวฝรั่งเศสชื่อดังของโลกได้รับคำเชิญให้มารังสรรค์เมนูโดยเฉพาะ วงดนตรีระดับโลกบรรเลงเพลงในงานเลี้ยง รับรองประสบการณ์อันยอดเยี่ยมในการจัดเลี้ยงแขกผู้มีเกียรติได้เป็นอย่างดีนี่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญอันยิ่งยวดของงานเลี้ยงครั้งน
งานเลี้ยงกำลังดำเนินไปหลีเจิ้งเฟยและหลีหานกำลังทักทายแขกอยู่ตรงกลาง คุณปู่และหลานชายทั้งสองมีออร่าที่แข็งแกร่ง เฉียวเจิ้นสยงเดินเข้ามาจากด้านหลังพร้อมกับเฉียวซีอวิ๋น“ประธานหลี” เฉียวเจิ้นสยงทักทายด้วยเสียงต่ำ แสดงความเคารพต่อหลีเจิ้งเฟยหลีเจิ้งเฟยยังคงแสดงความสุภาพในการทักทาย แต่แววตาของเขากลับเย็นลง “ประธานเฉียว คุณกลับมาอยู่ในหนึ่งร้อยอันดับแรกของเศรษฐีรุ่นใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่”ผู้มีอำนาจเหนือกว่าแสดงท่าทีเยาะเย้ยอย่างชัดเจนเฉียวเจิ้นสยงรู้สึกอับอายจากคำพูดนี้ เขาหัวเราะอย่างรู้สึกกระดากเล็กน้อย “รั้งอันดับที่หนึ่งร้อยพอดีครับ”อิทธิพลของตระกูลเฉียวและตระกูลหลีแตกต่างกันมาก ครั้งนี้เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อไต่ขึ้นมาอยู่ในหนึ่งร้อยอันดับแรก“ได้ยินมาว่าคืนนี้คุณจะแนะนำหลานสาวให้ทุกคนรู้จัก” เฉียวเจิ้นสยงหันไปมองเฉียวซีอวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดต่อไป “หลานสาวของผมเป็นคนเข้ากับคนง่าย ผมคิดว่าเธอคงจะเป็นเพื่อนที่ดีกับหลานสาวของคุณได้น่ะครับ”เฉียวซีอวิ๋นคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ประธานหลี ประธานหลีหานคะ ยินดีที่ได้พบทั้งสองท่านค่ะ”หลีหานเหลือบมองเฉียวซีอวิ๋นแล้วพูดด้วยน
สำหรับวันนี้ เฉียวซีอวิ๋นได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ชุดที่เธอสวมใส่นั้นเป็นชุดที่สั่งตัดพิเศษจากแบรนด์หรูเมื่อเดือนที่แล้ว แม้ว่าเธอจะตั้งท้องได้ห้าเดือน แต่กระโปรงฟูฟ่องก็ช่วยปกปิดส่วนโค้งของเอวไว้ได้ดูเผิน ๆ… ก็ถือว่าสวยในระดับปานกลางหลีเกอล้างมืออย่างใจเย็น แล้วพูดทิ้งท้ายว่า “คุณยังมาได้ ทำไมฉันจะมาไม่ได้”พูดจบก็เดินออกมาอย่างสง่างาม“หยุดนะ ฉันยังพูดไม่จบ!” เฉียวซีอวิ๋นตามออกมาบนพื้นมีน้ำเจิ่งนอง เธอสวมรองเท้าส้นสูงเพื่อให้ดูสวยงาม เท้าของเธอจึงลื่นและล้มคะมำไปข้างหน้า“กรี๊ด!”เธอเพิ่งนึกถึงเด็กในท้องขึ้นมาได้ เมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังจะล้มลง จู่ ๆ ก็ถูกมือที่แข็งแรงคว้าไว้และพาเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเฉียวซีอวิ๋นหายใจไม่ทั่วท้อง “ขอบคุณนะคะ”“ไม่เป็นไรครับ”เสียงของชายคนนั้นดังเข้ามาในหู เฉียวซีอวิ๋นเปลี่ยนสีหน้าทันที แล้วผลักคนที่ช่วยชีวิตเธอออกไปเธอไม่เงยหน้าขึ้นมองด้วยซ้ำ จัดกระโปรงตัวเองแล้ววิ่งหนีไปชายคนนั้นก็จากไปเช่นกัน เดินหายเข้าไปในงานเลี้ยงหลีเกอมองเหตุการณ์เมื่อกี้นี้แล้วรู้สึกแปลกใจมากเฉียวซีอวิ๋นดูจะกลัวชายหนุ่มที่สวมสูทสีเทาคนนั้นมาก ปกติแล้วหล่อนไม
จากที่ที่เฉียวซีอวิ๋นยืนไปยังเวทีนั้นห่างเพียงสิบก้าว แต่สำหรับเธอแล้วมันช่างไกลราวฟ้ากับเหวสถานะคุณหนูผู้สูงส่งของเธอจะเทียบเท่ากับสถานะของหลีเกอได้อย่างไร...ไม่คู่ควรเลยสักนิด“สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่านค่ะ ฉันยินดีใจที่ได้รู้จักกับทุกท่านที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของคุณปู่” หลีเกอพูดพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ“ไม่นานมานี้มีข่าวลือเกี่ยวกับฉันมากมาย ฉันคิดว่าทุกท่านน่าจะทราบกันอยู่แล้ว”ประโยคนี้ดึงสติของนักข่าวที่กำลังตกใจให้กลับคืนมา พวกเขารีบกดชัตเตอร์บันทึกข่าวใหญ่ครั้งนี้หลีเกอ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทตี้เชิ่ง สาขาเมืองปินเฉิง กลับกลายเป็นหลานสาวของหลีเจิ้งเฟย!ก่อนหน้านี้ทุกคนคิดว่าหลีหานและเธอมีสัมพันธ์รักกัน ไม่คาดคิดว่าที่แท้แล้วจะเป็นพี่น้องกันไปซะได้ตอนนี้ดูเหมือนว่า... พี่น้องทั้งสองหน้าคล้ายกันจริง ๆหลีเกอยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดอย่างจริงจัง “ฉันขอพูดตรงนี้เลยว่าสถานะระหว่างฉันกับไซมอนเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น และรู้จักกันมานานกว่าที่ฉันรู้จักกับคุณฮั่วซะอีก”“นี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันจะตอบโต้ข่าวเล็กน้อยนี้”“และ…” หลีเกอมองไปที่ฮั่วจิ้นเฉิงและเฉียวซีอ
“ต่อไปนี้ หลีกรุ๊ปจะดำเนินคดีกับสื่อบันเทิงทั้งหมดที่ร่วมกันเผยแพร่ข่าวลือ”“และหลังจากนี้ เราจะไม่ลังเลที่จะกว้านซื้อกิจการเหล่านี้เช่นกัน” หลีหานพูดพร้อมกับมองไปที่เฉียวเจิ้นสยงด้วยสายตาเย็นชาเฉียวเจิ้นสยงที่ถือแก้วแชมเปญอยู่ในฝูงชน สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก และรู้สึกใจคอไม่ดีเขาคิดไม่ถึงว่าคนที่เขาพยายามยัดเงินวงการบันเทิงส่วนใหญ่ในเมืองปินเฉิงเพื่อทำลายล้างชื่อเสียง จะมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้นักข่าวที่อยู่ในงานต่างตกใจนี่ไม่ใช่การแทรกแซงสื่ออย่างโจ่งแจ้งหรอกเหรอ!วงการบันเทิงในเมืองปินเฉิงจะต้องเกิดความโกลาหลและการแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตายแน่นอนในเวลาเดียวกัน บริษัทสื่อบันเทิงระดับโลกที่นำโดยจู้หว่านอี้ ก็เผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับตัวตนของหลีเกอและความใจบุญสุนทานของคุณหนูหลีฮวาเมาในทันที ทำให้ชาวเน็ตต่างพูดคุยกันอย่างดุเดือด“โอ้โฮ! ฉันต้องทำบุญกี่ชาติถึงจะได้เป็นหลานสาวของมหาเศรษฐี น่าอิจฉาจัง…”"รวย ใจบุญ แถมยังสวยอีก คุณฮั่วอะไรนั่นโง่หรือเปล่า ถึงได้หย่ากับเธอ!”“แหงสิ เขาต้องตาบอดแน่ ๆ ไม่งั้นคงไม่มีเมียน้อยที่หน้าตาจืดชืดธรรมดามาควงหรอก”“ฉันบอกแล้วว่าเรื่
สมบัติชิ้นนี้ของเขาเป็นสิ่งที่เขาหวงแหนมากตลอดทั้งชีวิต เขาเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี และวางไว้ในที่ปลอดภัยเสมอ แต่ตอนนี้หลีเกอกลับใส่ไว้ในถุงพลาสติกโง่ ๆ เฉียวเจิ้นสยงรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขากำลังจะแตกสลาย“คุณหนู…”หลีเกอพยักหน้าเล็กน้อย เจิ้งหลิ่วจึงส่งแหวนวงนั้นไปให้เฉียวเจิ้นสยงเฉียวเจิ้นสยงดีใจมาก คิดว่าหลีเกอใจกว้างเหลือเกินที่ยอมคืนแหวนวงนี้ให้กับเขาโดยดี“...คุณหนูหลีเกอ ไม่คิดว่าคุณจะใจดีและมีเมตตาขนาดนี้” มือขวายื่นออกไปอย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอรับแหวนหยกขาวของตนเองแต่ในวินาทีถัดไป เสียงของหลีเกอก็ลอยมา “ในเมื่อคุณจริงใจที่จะแก้ไข งั้นก็แสดงความจริงใจของคุณให้ฉันเห็นหน่อย เอาค้อนมาทุบมันทิ้งซะ”“อะไรนะ?”ทุบ!เฉียวเจิ้นสยงคิดว่าตัวเองคงหูฝาดไปสมบัติแสนรักของเขาที่มีมูลค่ามหาศาลจะถูกทุบทิ้งทั้งแบบนี้เหรอ เฉียวเจิ้นสยงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาแทบหายใจไม่ออกอยู่แล้ว“แหวนวงนี้ ถ้าขายออกไปจะได้เงินไม่ต่ำกว่าพันล้าน จะให้ผมทุบดื้อ ๆ แบบนี้เหรอครับ” เฉียวเจิ้นสยงยังไม่หายจากอาการตกใจ“คุณไม่ได้พูดเองว่าอยากจะชดใช้ให้ฉันหรอกเหรอ ฉันว่าแหวนวงนี้ก็พอใช้ได้นะ หรือว่า... คุณเฉี
ท่ามกลางฝูงชน เฉียวซีอวิ๋นรู้สึกใจหายวูบ เธอรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก ปลายเล็บจิกเกร็งชายเสื้อแน่น สีหน้าแตกตื่นปรากฏเด่นชัด“คุณปู่” เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน กลัวว่าเฉียวเจิ้นสยงจะทอดทิ้งเธอต่อหน้าสาธารณชนแต่ในขณะนี้ หัวใจของเฉียวเจิ้นสยงได้ตัดสินไปแล้วบริษัทคือหัวใจและจิตวิญญาณของเขาที่สร้างสมมาทั้งชีวิต เขาตัดสินใจได้ไม่ยากว่าอะไรสำคัญกว่า“คุณหนูหลีวางใจได้ ผมจะให้ซีอวิ๋นรับผิดชอบต่อการกระทำของเธอ” เฉียวเจิ้นสยงพูดต่อหน้าทุกคนในเวลานี้ ต่อหน้าหลีเกอ เขาก้มหัวลงอย่างนอบน้อม ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความสง่างามเช่นในอดีตหลีเกอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้ตอบกลับอะไรเฉียวเจิ้นสยงไม่พูดอะไร เดินตรงไปหาเฉียวซีอวิ๋นแล้วดุว่า “รีบไปขอโทษคุณหนูหลีเดี๋ยวนี้…”“คุณปู่…” เฉียวซีอวิ๋นยังคงดื้อรั้นเมื่อเผชิญหน้ากับผู้คนมากมายขนาดนี้ ถ้าเธอยอมขอโทษหลีเกอ จากนี้จะยังสามารถเชิดหน้าชูตาในแวดวงสังคมชั้นสูงได้อย่างไร“ขอโทษเดี๋ยวนี้” ความอดทนของเฉียวเจิ้นสยงใกล้จะหมดลงแล้วเฉียวซีอวิ๋นรู้ว่าหากเธอไม่ขอโทษตอนนี้ เธออาจจะถูกเฉียวเจิ้นสยงตัดขาด ลูกหลานที่ถูกตระกูลทอดทิ้งไม่มีสถานะทา