[พี่สาวหลีฮวาเมา เรามาพบกันที่ประตูมหาวิทยาลัยปิงเฉิงโอเคไหม?]จากนั้นหลีเกอก็ชุกคิดได้ว่าเธอไม่เหมาะที่จะออกไปข้างนอกเร็วๆ นี้[เธออยู่ไหน ฉันจะส่งคนไปรับ]หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงใต้อาคารตี้เซิ่ง นักข่าวยังคงไม่จากไปไหน พวกเขาทั้งหมดเฝ้ารอให้หลีเกอปรากฏตัว และคิดว่าจะถ่ายรูปใหม่เวลานี้ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์คันหนึ่งหยุดลง และเด็กสาวสามคนที่มีสายตาสดใสก้าวลงจากรถนักข่าวตาแหลมจำหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าได้ทันทีว่าคือเซี่ยอีซิง ผู้ทำคะแนนสูงสุดในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยปิงเฉิงในปีนี้เด็กชายสองคนที่อยู่ข้างหลังเธอมีความโดดเด่นมากไม่แพ้กัน พวกเขาคือเฉิงเฉิงผู้ซึ่งทำคะแนนได้อันดับหนึ่งในสาขาวิทยาศาสตร์ และเจิ้งหรานผู้ชนะรางวัล New Concept Essay Awardพวกเขาทั้งหมดมีรอยแผลเป็นจาง ๆ จากการผ่าตัดที่ริมฝีปากบน ซึ่งเหลือจากการผ่าตัดในวัยเด็กที่มีปากแหว่งแต่กำเนิดเดือนมิถุนายนเป็นช่วงที่ผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้รับการเผยแพร่ นอกจากเรื่องอื้อฉาวของคนเด่นคนดังแล้ว หัวข้อการสอบเข้ามหาวิทยาลัยยังเป็นประเด็นร้อนในหมู่ชาวเน็ตอีกด้วยกล้องและไมโครโฟนหันมาที่เซี่ยอีซิงและคนอื่น ๆ“ก่อนอื่นเลย
หลีเกออมยิ้มเล็กน้อย “ใช่ เธอคนนั้นคือฉันเอง”“มากล่าวหาพี่สาวของเราแบบนี้ได้ยังไง! ฉันจะลงไปบอกความจริงพวกเขาเอง!” เจิ้งหรานนั้นเป็นคนใจร้อนที่สุดในสามคนนี้อย่างเห็นได้ชัด“ฉันก็จะไปเหมือนกัน!”“ฉันด้วย!”“ไม่ต้องหรอก คนที่บริสุทธิ์มีความใสสะอาดในตัวเองเสมอ” เมื่อหลีเกอเห็นท่าทีที่พวกเขาปกป้องเธอ รอยยิ้มก็เผยออกมา “ตราบใดคนที่ฉันห่วงใยไม่เห็นฉันแบบนั้น”หลีเกอถามคำถามอื่นอีกมากมายเช่น พวกเขาต้องการอะไรบ้างหลังจากลงทะเบียนเข้ามหาวิทาลัย แต่เธอสามารถบอกพวกเขาได้ว่าเธอโอนค่าครองชีพไว้ในบัตรของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นพวกเขาไม่จำเป็นต้องเกรงใจเธอเกินไปเธอนั้นขอไม่เปิดเผยตัวตนอย่างพี่สาวหลีหัวเมาของพวกเขา ก่อนจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยเพื่อส่งเด็กทั้งสามออกจากโรงรถชั้นใต้ดินหลังจากส่งเด็กทั้งสามกลับไปแล้ว ฉีอวิ๋นเทียนก็โทรเข้ามาเขาเดินทางไปทำธุรกิจบ่อยครั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับมอบหมายมาจากหลีเกอ ท้ายที่สุดแล้วเขารู้สึกผิดในใจและยินดีที่จะทำงานให้อันดับแรกเขาวิจารณ์สื่อทางโทรศัพท์ว่าสร้างพฤติกรรมที่มุ่งร้าย ก่อนปลอบใจหลีเกอและบอกเธอว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหน
หลีหรานโทรศัพท์ไปต่างประเทศ“ตื่นได้แล้วทุกคน มาออนไลน์เล่นเกมกับน้องสาวฉันกันเถอะ”จากนั้นเขาก็ยื่นค็อกเทลให้หลีเกอซึ่งเตรียมโดยบาร์เทนเดอร์มืออาชีพ “รอสักครู่ พวกเขากำลังจะออนไลน์ในไม่ช้า”หลีเกอนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้เล่นเกมอย่างเกียจคร้าน พลางตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจเป็นเวลาเช้าตรู่ในประเทศ G ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรจอห์น หัวหน้าชมรมอีสปอร์ตของ EDF ตื่นขึ้นทันทีหลังจากได้รับโทรศัพท์ เขารีบวิ่งไปยังประตูห้องสมาชิกในทีม โดยสวมรองเท้าแตะแล้วเรียกประชุมทีมอย่างบ้าคลั่งสามนาทีต่อมา สมาชิกในทีมที่ง่วงนอนก็ถูกถกผ้าห่มและหาวนอนกันล้นหลาม“จอห์น ตอนนี้ยังเช้าอยู่และเราไม่มีนิสัยชอบฝึกซ้อมตอนเช้านี่!”จอห์นมีดวงตาสีดำคล้ำเช่นกัน แต่เขาบังคับตัวเองให้ร่าเริงขึ้น“ทุกคนฟังนะ! บอสของเราที่อยู่เบื้องหลังเพิ่งโทรมา”เมื่อสมาชิกในทีมได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็กระตือรือร้นขึ้นทันทีมีข่าวลือว่าหัวเรือใหญ่ที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน เป็นผู้ประกอบการที่พูดน้อยและทำเงินได้มาก ทั้งยังให้โบนัส EDF ถึงสามร้อยล้านทุกไตรมาส ถ้าพวกเขาชนะงานแข่งสำคัญ เงินตอบแทนก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกไม่นานมานี้ EDF ชนะการ
หลีหรานบอกจอห์นอย่างเงียบ ๆ ว่า “กำชับให้พวกเขาแข่งกันให้ดี แล้วในคราวหน้าเงินรางวัลจะมากขึเนอีก”จากนั้นก็วางสายโทรศัพท์ไป“พี่สาม พี่ลงทุนกับทีมเล่นเกมตั้งแต่เมื่อไหร่?”หลีเกอจิบค็อกเทลพลางนึกสงสัย“ฉันเล่นเกมคนเดียวไม่เก่งและไม่เคยชนะใคร แถมถูกเพื่อนร่วมทีมพากันไม่ชอบไปด้วย ฉันโกรธมากเลยใช้เงินสองพันล้านเพื่อหาคนมาตั้งทีมใหม่ แต่ฉันเองไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการใช้เงินไม่สามารถสร้างพรสวรรค์ตัวเองได้”หลีหรานเขย่าเก้าอี้อีสปอร์ตและยิ้มอย่างดุเดือด “จากนี้ไป ทีมนี้จะเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว พี่สามคนนี้จะมอบมันให้กับเธอในวันนี้”หลีเกอขยิบตาแล้วพูดว่า “ขอบใจมาก!”หมายเลขที่ไม่คุ้นเคยโทรเข้ามาทางโทรศัพท์มือถือของเธอ หลีเกอปฏิเสธที่จะรับสายโดยไม่คิด แต่อีกฝ่ายโทรหาเธอเป็นครั้งที่สองอย่างไม่ยอมแพ้“ฮัลโหล”“หลีเกอ ตอนนี้คุณรู้ว่าผมใหญ่แค่ไหน ผมต้องการของของตัวเองกลับมา แล้วผมจะให้ซีอวิ๋นขอโทษคุณอย่างเต็มใจ” น้ำเสียงของเฉียวเจิ้นสยงหยิ่งผยองถึงที่สุด “แล้วรู้สึกยังไงที่ถูกชาวเน็ตรุมด่า?”คิ้วของหลีเกอขมวดจนเสียดสีกัน ริมฝีปากสีแดงขดชี้ขึ้น “ทำได้แค่นี้เหรอ?”หลีเกอพูดอย่างใจเย็น
เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งแรก เธอจำผู้ชายคนนั้น ฮั่วจิ้นเฉิงได้อย่างชัดเจน เหมือนได้ค้นพบความจริงเกี่ยวกับการแต่งงานครั้งนั้น และตื่นจากความฝันซึ่งเธอคิดว่าจะได้รับคำตอบหากเธอยอมรับมันแต่ครั้งที่สองนี้?ได้แต่คิดวนไปวนมายังคงไม่มีใครอยู่รอบตัวเธอเมื่อจ้องมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่พัง หลีเกอรู้สึกเศร้าหงอยอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาของเธอเริ่มเปียกโดยไม่รู้ตัวเวลานี้มีลมแรงข้างนอก เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งลงจอดอย่างช้า ๆ จากนั้นชายร่างสูงในชุดสูทและรองเท้าหนัง ท่วงท่าสง่างามก้าวลงมาใบหน้าของเขาเคร่งขรึม ดวงตาของเขาเหมือนจะจดจำคนที่เขากำลังมองหาได้ทันทีที่ก้าวลงบนพื้น แล้วเดินเข้ามาด้วยก้าวขายาวเหยียดเฮลิคอปเตอร์ส่งเสียงดังมาก จนผู้โดยสารคนอื่นที่ได้รับการช่วยเหลือต่างหันมองอย่างอยากรู้อยากเห็นไปยังชายที่เข้ามาใกล้ ทุกคนต่างสงสัยว่าชายคนนั้นกำลังไปรับใคร“หล่อมาก เขามารับเจ้าหญิงที่บาดเจ็บของเขารึเปล่า?”หลีเกอไม่มีอารมณ์ที่จะมองไปในทิศทางที่คนเหล่านั้นพูดถึงเลย แต่หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ น้ำตาก็ไหลเอ่อออกมาอย่างดุเดือด และเธอไม่สามารถหักห้ามเอาไว้ได้คนอื่นต่างมีคนของตัวเองมาร
หลีเจิ้งเฟยและพี่ชายทั้งสามของเธอรออยู่ในห้องนั่งเล่นเป็นเวลานานเมื่อทุกคนเห็นข่าว ตอนแรกดีใจที่ลูกสาวสุดที่รักยังสบายดี แต่ยิ่งคิดมากก็ยิ่งรู้สึกทะแม่ง ๆ ทำไมสองคนนี้ถึงมีโพสต์สื่อไปทางว่าเป็นคู่รักกันในอินเตอร์เน็ต?หลีหรานรู้สึกเสียใจมากที่เขาไม่ควรรีบร้อนไปหาเพื่อน เขานั่งเครื่องบินกลับไปดูไบก่อนหลีเกอ ทิ้งน้องสาวของเขาไว้ที่สนามบินตามลำพังเวลานี้ฟู่ลี่กั๋วเห็นลูกชายและภรรยาของเขามาพอดี จึงรีบช่วยเริ่มบทสนทนาให้“ซิวเป่ย ทักทายคุณปู่หลีของลูกเร็ว ๆ สิ”ฟู่ซิวเป่ยก้าวไปข้างหน้าและก้มศีรษะลงอย่างสุภาพ “สวัสดีครับคุณปู่หลี”“อืม”หลีเจิ้งเฟยสวมชุดสูทสีคราม แม้เส้นผมของเขาเกือบจะหงอกไปทั้งหมด แต่เขายังดูแข็งแรงมากหลีหานและฟู่ซิวเป่ยมองหน้ากันและกล่าวสวัสดี พวกเขาต่างเป็นเพื่อนร่วมชั้นและมีความสัมพันธ์ที่ดีหลีลั่วมองไปยังฟู่ซิวเป่ยพลางวิเคราะห์ไปด้วย โดยคิดว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องแฮ็กเข้าคอมพิวเตอร์ของอีกฝ่าย เพื่อสืบสาวเบื้องหลังอีกฝ่ายในทางกลับกัน หลีหรานกุมมือตัวเองไว้และสีหน้าเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ถ้ามีใครมาแข่งขันกับเขาเพื่อชิงเสี่ยวเกอเกอ... จะต้องผ่านเขาไปให้ได้ก่
โดนบล็อกเหมือนกัน...เมื่อเห็นข่าวที่ฟู่ซิวเป่ยพาหลีเกอไป ความหึงหวงในอกก็เดือดพล่านจนไม่สามารถระงับไว้ได้ผู้หญิงคนนี้ไม่เหลือเยื่อใยใด ๆ กับสามีเก่าจริงเหรอ?ทันใดนั้นฮั่วจิ้นเฉิงก็กวาดแฟ้มบนโต๊ะตกลงพื้น ใบหน้าของเขามืดมนจนเหมือนมีน้ำหมีกหยดลงมา“คุณฮั่วคะ หลีเจิ้งเฟย ประธานหลีกรุ๊ปจะจัดงานฉลองวันเกิดครบรอบ 70 ปีของเขาที่บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ในวันมะรืนนี้ เราอยู่ในรายชื่อคำเชิญเหมือนกัน ให้ฉันจองเที่ยวบินตอนนี้เลยไหมคะ?” หลานหนีถามด้วยเสียงต่ำ“ไป!”…บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ยามค่ำคืนเวลานี้ ดาดฟ้าชั้นบนสุดเนืองแน่นไปด้วยดารานักแสดง งานฉลองวันเกิดปีที่ 70 ของชายชราผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกอย่างหลีเจิ้งเฟยถูกจัดขึ้นเหล่าเศรษฐีและนักธุรกิจพันล้านที่ติดอันดับความร่ำรวยระดับโลกต่างมารวมตัวอยู่ที่นี่วัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้ในการปรุงอาหารจัดเลี้ยงล้วนนำเข้ามาจากต่างประเทศ เชฟชาวฝรั่งเศสชื่อดังของโลกได้รับคำเชิญให้มารังสรรค์เมนูโดยเฉพาะ วงดนตรีระดับโลกบรรเลงเพลงในงานเลี้ยง รับรองประสบการณ์อันยอดเยี่ยมในการจัดเลี้ยงแขกผู้มีเกียรติได้เป็นอย่างดีนี่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญอันยิ่งยวดของงานเลี้ยงครั้งน
งานเลี้ยงกำลังดำเนินไปหลีเจิ้งเฟยและหลีหานกำลังทักทายแขกอยู่ตรงกลาง คุณปู่และหลานชายทั้งสองมีออร่าที่แข็งแกร่ง เฉียวเจิ้นสยงเดินเข้ามาจากด้านหลังพร้อมกับเฉียวซีอวิ๋น“ประธานหลี” เฉียวเจิ้นสยงทักทายด้วยเสียงต่ำ แสดงความเคารพต่อหลีเจิ้งเฟยหลีเจิ้งเฟยยังคงแสดงความสุภาพในการทักทาย แต่แววตาของเขากลับเย็นลง “ประธานเฉียว คุณกลับมาอยู่ในหนึ่งร้อยอันดับแรกของเศรษฐีรุ่นใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่”ผู้มีอำนาจเหนือกว่าแสดงท่าทีเยาะเย้ยอย่างชัดเจนเฉียวเจิ้นสยงรู้สึกอับอายจากคำพูดนี้ เขาหัวเราะอย่างรู้สึกกระดากเล็กน้อย “รั้งอันดับที่หนึ่งร้อยพอดีครับ”อิทธิพลของตระกูลเฉียวและตระกูลหลีแตกต่างกันมาก ครั้งนี้เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อไต่ขึ้นมาอยู่ในหนึ่งร้อยอันดับแรก“ได้ยินมาว่าคืนนี้คุณจะแนะนำหลานสาวให้ทุกคนรู้จัก” เฉียวเจิ้นสยงหันไปมองเฉียวซีอวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดต่อไป “หลานสาวของผมเป็นคนเข้ากับคนง่าย ผมคิดว่าเธอคงจะเป็นเพื่อนที่ดีกับหลานสาวของคุณได้น่ะครับ”เฉียวซีอวิ๋นคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ประธานหลี ประธานหลีหานคะ ยินดีที่ได้พบทั้งสองท่านค่ะ”หลีหานเหลือบมองเฉียวซีอวิ๋นแล้วพูดด้วยน