ฟู่ซิวเป่ยกลับหัวเราะเสียงเย็น พูดชัดถ้อยชัดคำกลับไป "ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมาดูกัน ว่าใครมาก่อน แล้วใครกันแน่ที่มาทีหลัง!"ดวงตาของฮั่วจิ้นเฉิงไหววูบด้วยความสงสัย!"คุณฟู่ คำพูดของคุณหมายความว่ายังไง?"ฟู่ซิวเป่ยไม่คิดจะปิดบังเลย พูดตรงไปตรงมา "สามปีมันนานพอแล้ว ฮั่วจิ้นเฉิง ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมยกหลีเกอให้คุณอีก"คำพูดของฟู่ซิวเป่ยชัดเจนทุกคำ หลีเกอเงยหน้าขึ้นมองเขา รู้สึกเหมือนตัวเองพลาดอะไรบางอย่างไปฮั่วจิ้นเฉิงนิ่งฟังคำพูดของเขาจากนั้นก็ยิ้มหยัน"คุณน่ะเหรอ? คนแซ่ฟู่ อย่าลืมสิว่าที่นี่เป็นอาณาจักรของใคร?"ฟู่ซิวเป่ยตอบกลับอย่างไม่รีบร้อน "ถ้าพูดถึงเมื่อก่อน อำนาจทั้งหมดอาจจะเป็นของตระกูลฮั่ว""แต่ตอนนี้และในอนาคต คุณชายฮั่ว ลองวัดกันได้เลย!"บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นดินปืนมาคุพร้อมจะปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ!ฮั่วจิ้นเฉิงพยักหน้าเล็กน้อย ความรู้สึกเมื่อได้พบกับศัตรูที่สูสีกันนั้นเป็นอะไรที่ชวนให้เอาชนะมาก! เขาไม่ได้ต่อสู้กับใครที่แข็งแกร่งขนาดนี้มานานแล้ว"อยากแข่งกับผมงั้นเหรอ? ผม ฮั่วจิ้นเฉิง ไม่เคยแพ้ใครตั้งแต่เด็กจนโต...""หลีเกอ ผมจะต้องได้คุณคืนมา""ฟู่ซิวเป่ย ผมจะทำให้ค
ฟู่ซิวเป่ยจ้องมองตรงไปข้างหน้า สองมือจับพวงมาลัยแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งที่สุด"ทำตามหัวใจตัวเองเถอะ ต่อให้ในใจคุณไม่มีผม จะมองว่าผมเป็นพี่ชายตลอดไปก็ได้!""ไม่ต้องฝืนความรู้สึกตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ"หลีเกอรู้ดี ในโลกนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่เข้าใจเธอมากที่สุดเธอไม่อยากทำให้ความรู้สึกนี้ต้องสูญเปล่าดังนั้น เธอลองกล้าก้าวออกไปสักก้าวหนึ่งดีไหม?"...เข้าใจแล้วค่ะ พี่ซิวเป่ย"ฟู่ซิวเป่ยยิ้มปลอบ"...พรุ่งนี้ ผมจะให้ผู้รับผิดชอบโครงการตานตงของบริษัทมาที่ตี้เซิ่ง แล้วเราค่อยเซ็นสัญญากัน"หลีเกอเห็นว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างรวดเร็ว ครึ่งจังหวะหลังเธอถึงได้สติตอบสนอง"ได้สิคะ ประธานฟู่ ขอให้ความร่วมมือระหว่างเราราบรื่น"วันรุ่งขึ้นตัวแทนของบริษัทเอฟแอลกรุ๊ปก็มาที่บริษัทตี้เซิ่งแต่เช้าสิบโมงตรงผู้รับผิดชอบโครงการของทั้งสองบริษัทก็ลงนามในสัญญา"ประธานฟู่ ต่อจากนี้ไป สองบริษัทของเราถือเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ในด้านธุรกิจคงต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันไม่น้อยเลย" หลีเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม ฟู่ซิวเป่ยจ้องมองเธอ แล้วพูดว่า
สายตาของฟู่ซิวเป่ยมืดลงเขากำชับให้หลีเกอหยุดยืนอยู่เฉย ๆแล้วก็เดินอ้อมไปที่เบาะฝั่งคนขับคนขับสวมชุดผู้ป่วยในของโรงพยาบาลสักแห่ง ร่างกายผอมแห้ง เป็นผู้หญิง เลือดไหลออกมาจากบริเวณศีรษะ คว่ำหน้าฟุบพวงมาลัยอยู่ที่เบาะคนขับ ไม่ขยับเขยื้อนจนกระทั่งฟู่ซิวเป่ยผลักเธอให้หงายไปด้านหลัง ถึงมองเห็นใบหน้าของเธอ"เธอนั่นเอง..."หลีเกอก็มองเห็นคนที่อยู่บนเบาะคนขับเช่นเดียวกันฮั่วอวิ๋นเจิน"...เธอออกมาได้ยังไง แล้วเมื่อกี้เธอ…??"ความคิดร้ายแรงผุดขึ้นมาในหัว!"เธอถึงกับจะฆ่าฉันเลยเหรอ?" หลีเกอพึมพำเธอเพิ่งจะรู้ตัวก็ตอนนี้ทั้งหมดนี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ!มีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นการฆาตกรรม!ฮั่วอวิ๋นเจินอยากฆ่าเธอ?หัวใจหลีเกอเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว เสี้ยววินาทีเมื่อกี้นี้เธอเกือบ...ถ้าเมื่อกี้ฟู่ซิวเป่ยไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วช่วยผลักเธอออกไป ปกป้องเธอเอาไว้เธอคงจะ...หลีเกอไม่กล้าคิดฉากต่อจากนั้นแต่หัวใจของเธอกลับเต้นแรงเพราะอกสั่นขวัญแขวน!ฟู่ซิวเป่ยเข้าใจอารมณ์เธอดี เขาเดินไปโอบไหล่พร้อมกับปลอบโยนเธอ "ไม่เป็นไรนะ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว!"จังหวะนั้นเธอรู้สึกสบายใจขึ้นทันทีเจ้าหน้าที
หลังจากเขาแนะนำ หลีเกอก็รีบกล่าวทักทาย "สวัสดีค่ะ คุณหมอลู่"ลู่จื่อหมิงยิ้มแย้ม "โอ้โฮ ซิวเป่ย! แผลนายไม่ถึงกับร้ายแรงอะไรเลย แต่กลับมาใช้บริการห้องฉุกเฉิน! คนที่ไม่รู้เขาคงคิดว่านายเป็นอะไรไปแล้ว"เมื่อได้ยินว่าฟู่ซิวเป่ยไม่เป็นอะไร หลีเกอก็โล่งใจ"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ คุณหมอลู่ ขอบคุณมากนะคะ"ลู่จื่อหมิงหยิบผ้าก็อซและน้ำยาไอโอดีนมาทำแผลให้เขา "ถลอกนิดหน่อยครับ แต่คราวหน้าต้องระวังหน่อยนะ อย่าซุ่มซ่ามล้มวัดถนนอีก"หลังจากทำแผลเสร็จ ลู่จื่อหมิงก็พูดกับหลีเกอ"เสร็จแล้วครับ คุณหนูหลี เชิญไปชำระเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ได้เลย""ได้ค่ะ"หลีเกอเดินออกไป!ลู่จื่อหมิงมองตามแผ่นหลังเธอที่เดินออกไปไกลแล้ว จากนั้นก็พูดแซว "คุณชายฟู่ ถ้าฉันจำไม่ผิด เธอคือคุณหนูหลีเกอที่นายคิดถึงสุดหัวใจใช่ไหม?"ลู่จื่อหมิงพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ราวกับว่าได้รับรู้เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่จากนั้นก็พูดต่อ "ดูนายสิ ที่แท้ก็ขาดประสบการณ์เรื่องความรักนี่เอง สมควรแล้วที่ตามจีบมาหลายปีก็ยังไม่สำเร็จ จะจีบสาวทั้งที อย่าทำอะไรโง่ ๆ แบบนี้สิ"ฟู่ซิวเป่ยกระแอมไอเบา ๆ แล้วถามด้วยความอดทน"งั้นนายมีคำแนะนำดี ๆ บ้างไหมล
"ตอนนี้ตกลงร่วมมือกับเอฟแอลกรุ๊ปแล้ว ในช่วงแรกของโครงการ ฉันจะไปดูแลด้วยตัวเอง""คุณหลี ผมต้องไปกับคุณด้วยไหมครับ?"หลีเกอพยักหน้า "เตรียมตัวไว้ก็ดี เมื่อถึงเวลาจะได้ไปพร้อมกับเอฟแอลกรุ๊ปเลย อย่าลืมพาหัวหน้าทีมงานหลักไปด้วย""ได้ครับ คุณหลี ผมจะจัดการให้..."หลังจากตกลงเรื่องงานเรียบร้อย หลีเกอก็ส่งข้อความหาฟู่ซิวเป่ย แต่ไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวหลีเกอมองหมายเลขที่ปรากฏบนหน้าจอ แล้วรับสายด้วยสีหน้าเรียบเฉย"...หลีเกอ ได้ยินว่าคุณตกลงร่วมมือกับเอฟแอลกรุ๊ปแล้วเหรอ?"เสียงของฮั่วจิ้นเฉิงดังมาจากหูโทรศัพท์หลีเกอกลอกตามองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วพูดว่า "คุณฮั่วได้ข่าวไวจังนะคะ...""หลีเกอ แน่ใจแล้วเหรอที่จะเลือกเขาแต่ไม่เลือกผม ถ้าร่วมมือกับตระกูลฮั่วยังพอมีโอกาสมากกว่าอีกนะ"แต่หลีเกอกลับพูดว่า "คุณฮั่ว เรื่องนี้ฉันตัดสินใจไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงอีก"ฮั่วจิ้นเฉิงยังไม่ยอมแพ้!ตั้งแต่เด็กจนโต ฮั่วจิ้นเฉิงเคยแพ้ใครบ้าง"โครงการตานตงไม่ง่ายอย่างที่คิด ถ้าคุณจะไปตานตง ต้องระวังตัวให้มาก ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ตระกูลฮั่ว...""พอเถอะค่ะ คุณฮั่ว สิ่งที่ตี้เซ
ในโรงแรมหรูเสียงชายหญิงครวญครางกระเส่าดังออกมาไม่ขาดสายหลังจากเสร็จกิจ เฉียวซีอวิ๋นก็นั่งพิงอยู่ที่หัวเตียง จุดบุหรี่สูบเข้าปอดเต็มแรงชายที่นอนอยู่ข้าง ๆ เปลือยเปล่า ตระกองกอดเธอไว้ในอ้อมแขน พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย"...ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ลีลาแย่ลงเยอะเลยนะ ดูเหมือนชีวิตในคุกคงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่"เฉียวซีอวิ๋นพ่นควันบุหรี่ออกมา "อย่าพูดมาก! วันนี้ที่เรียกคุณมาเพราะมีเรื่องสำคัญ"ชายคนนั้นหัวเราะ"รู้น่า! เมื่อกี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญเหรอ?"เฉียวซีอวิ๋นมีสีหน้าเคร่งเครียด "ฮั่วจิ้นเฉิงน่าจะสงสัยฉันแล้ว แต่ตอนนี้เขายังไม่มีหลักฐานอะไร"ชายคนนั้นเริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอ แล้วพูดว่า "ไม่มีหลักฐานก็ไม่เห็นต้องกลัว ระวังตัวไว้ก็พอ"เฉียวซีอวิ๋นสะบัดมือออก "ยังไงฉันก็ต้องเป็นคุณผู้หญิงฮั่วให้ได้! ถ้าไม่ได้ ก็ต้องทำให้นังชั่วหลีเกอนั่นได้ลิ้มรสชีวิตในคุก"ชายคนนั้นยิ้มมุมปาก เชยคางเธอขึ้น "คิดถึงผู้ชายคนอื่นตอนนอนอยู่บนเตียงกับฉัน ไม่ดีเลยนะ""ตอนนั้นลงทุนไปตั้งเยอะ แต่ก็ไม่ได้ใจฮั่วจิ้นเฉิง แถมยังทำให้ตระกูลตัวเองพังพินาศอีก"ได้ยินอย่างนั้น เฉียวซีอวิ๋นก็รู้สึกหงุดหงิดเธอ
จู่ ๆ เฉียวซีอวิ๋นก็มีหนทาง"พูดมาซิว่ามีแผนดี ๆ อะไรบ้าง?"ชายหนุ่มขยับขึ้นไปหาเธอโดยตรง กดร่างเธอลงนอน แล้วกระซิบข้างหูอย่างยั่วยวน "อยากรู้ก็ต้องปรนเปรอฉันให้เต็มอิ่มก่อน"สิ้นคำพูด อากาศภายในห้องก็เริ่มอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความเร่าร้อนอีกครั้ง......เช้าวันรุ่งขึ้นหลีเกอจัดกระเป๋าเสร็จตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนออกเดินทาง เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากหลีหาน "น้องสี่ ได้ยินว่าเธอกำลังจะไปตานตงเหรอ?"หลีเกอรู้ว่าไม่มีอะไรปิดบังหลีหานได้ จึงตอบตามตรง "ค่ะ ไปกับพี่ซิวเป่ย""พี่มีเพื่อนอยู่ที่ตานตงพอดี ถ้ามีเรื่องอะไรก็ไปหาเขาได้"หลีเกอพยักหน้า "รู้แล้วค่ะพี่ใหญ่! ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ไม่ต้องห่วงฉันหรอก"หลีหานยังไม่วางใจ "ผู้ช่วยเจิ้งไปด้วยไหม?""เพื่อนร่วมงานที่บริษัทจะตามไปทีหลังในวันพรุ่งนี้ค่ะ นัดเจอกันที่ตานตง"เมื่อได้ยินหลีเกอพูดแบบนั้น หลีหานก็วางใจขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยก็มีเจิ้งหลิ่วและฟู่ซิวเป่ยคอยดูแลอีกแรง คงไม่เกิดปัญหาอะไรใหญ่โตเขากำชับเพิ่มเติมอีกสองสามประโยค"เธอเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก พี่ไม่ก้าวก่ายอะไร แต่เวลาออกไปข้างนอก ความปลอดภัยต้องมาก่อน""
วิเวียนยิ้มให้หลีเกอ แต่ความสนใจทั้งหมดของเธอกลับอยู่ที่ฟู่ซิวเป่ย "ไม่คิดว่าประธานฟู่จะมาด้วยตัวเองในครั้งนี้ บริษัทมีเดียเอเชียของเรายินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่งค่ะ การเดินทางคงเหนื่อยล้าน่าดู ฉันจะพาคุณไปที่โรงแรมก่อนนะคะ"ดวงตาของฟู่ซิวเป่ยหรี่ลงเล็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงรักษาระยะห่าง "ขอบคุณครับ ผู้จัดการวิเวียน"แต่พอเดินไปถึงรถตู้สองคันที่จอดอยู่ข้างหน้า วิเวียนก็หันไปบอกหลีเกอ"ประธานหลี เชิญขึ้นรถค่ะ"หลีเกอพยักหน้าเล็กน้อย เพิ่งจะนั่งลงบนรถได้ไม่นาน ฟู่ซิวเป่ยก็ตามเข้ามาแล้วนั่งลงข้าง ๆ หลีเกอทันทีแล้วหันไปบอกวิเวียนว่า "ผู้จัดการวิเวียน ผมกับประธานหลีนั่งรถคันเดียวกันได้ครับ"วิเวียนโกรธ!สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงระงับอารมณ์ของตัวเองเอาไว้"ได้ค่ะ ประธานฟู่ งั้นฉันจะนั่งรถอีกคันตามไป"ประตูรถปิดลง รถก็ค่อย ๆ เคลื่อนออกไป หลีเกอเม้มปาก พูดด้วยน้ำเสียงประชดเล็กน้อย "พี่ซิวเป่ย ผู้จัดการวิเวียนอยากนั่งรถคันเดียวกับคุณนะ ทำแบบนี้ไม่กลัวว่าจะทำให้สาวสวยเสียหน้าแย่เหรอ?"ฟู่ซิวเป่ยหันมองเธอแล้วเอื้อมมือไปลูบหัว“ในหัวน้อย ๆ นั่นคิดอะไรอยู่! อย่าเอาแต่คิดไปเอ