"ตอนนี้ตกลงร่วมมือกับเอฟแอลกรุ๊ปแล้ว ในช่วงแรกของโครงการ ฉันจะไปดูแลด้วยตัวเอง""คุณหลี ผมต้องไปกับคุณด้วยไหมครับ?"หลีเกอพยักหน้า "เตรียมตัวไว้ก็ดี เมื่อถึงเวลาจะได้ไปพร้อมกับเอฟแอลกรุ๊ปเลย อย่าลืมพาหัวหน้าทีมงานหลักไปด้วย""ได้ครับ คุณหลี ผมจะจัดการให้..."หลังจากตกลงเรื่องงานเรียบร้อย หลีเกอก็ส่งข้อความหาฟู่ซิวเป่ย แต่ไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวหลีเกอมองหมายเลขที่ปรากฏบนหน้าจอ แล้วรับสายด้วยสีหน้าเรียบเฉย"...หลีเกอ ได้ยินว่าคุณตกลงร่วมมือกับเอฟแอลกรุ๊ปแล้วเหรอ?"เสียงของฮั่วจิ้นเฉิงดังมาจากหูโทรศัพท์หลีเกอกลอกตามองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วพูดว่า "คุณฮั่วได้ข่าวไวจังนะคะ...""หลีเกอ แน่ใจแล้วเหรอที่จะเลือกเขาแต่ไม่เลือกผม ถ้าร่วมมือกับตระกูลฮั่วยังพอมีโอกาสมากกว่าอีกนะ"แต่หลีเกอกลับพูดว่า "คุณฮั่ว เรื่องนี้ฉันตัดสินใจไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงอีก"ฮั่วจิ้นเฉิงยังไม่ยอมแพ้!ตั้งแต่เด็กจนโต ฮั่วจิ้นเฉิงเคยแพ้ใครบ้าง"โครงการตานตงไม่ง่ายอย่างที่คิด ถ้าคุณจะไปตานตง ต้องระวังตัวให้มาก ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ตระกูลฮั่ว...""พอเถอะค่ะ คุณฮั่ว สิ่งที่ตี้เซ
ในโรงแรมหรูเสียงชายหญิงครวญครางกระเส่าดังออกมาไม่ขาดสายหลังจากเสร็จกิจ เฉียวซีอวิ๋นก็นั่งพิงอยู่ที่หัวเตียง จุดบุหรี่สูบเข้าปอดเต็มแรงชายที่นอนอยู่ข้าง ๆ เปลือยเปล่า ตระกองกอดเธอไว้ในอ้อมแขน พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย"...ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ลีลาแย่ลงเยอะเลยนะ ดูเหมือนชีวิตในคุกคงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่"เฉียวซีอวิ๋นพ่นควันบุหรี่ออกมา "อย่าพูดมาก! วันนี้ที่เรียกคุณมาเพราะมีเรื่องสำคัญ"ชายคนนั้นหัวเราะ"รู้น่า! เมื่อกี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญเหรอ?"เฉียวซีอวิ๋นมีสีหน้าเคร่งเครียด "ฮั่วจิ้นเฉิงน่าจะสงสัยฉันแล้ว แต่ตอนนี้เขายังไม่มีหลักฐานอะไร"ชายคนนั้นเริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอ แล้วพูดว่า "ไม่มีหลักฐานก็ไม่เห็นต้องกลัว ระวังตัวไว้ก็พอ"เฉียวซีอวิ๋นสะบัดมือออก "ยังไงฉันก็ต้องเป็นคุณผู้หญิงฮั่วให้ได้! ถ้าไม่ได้ ก็ต้องทำให้นังชั่วหลีเกอนั่นได้ลิ้มรสชีวิตในคุก"ชายคนนั้นยิ้มมุมปาก เชยคางเธอขึ้น "คิดถึงผู้ชายคนอื่นตอนนอนอยู่บนเตียงกับฉัน ไม่ดีเลยนะ""ตอนนั้นลงทุนไปตั้งเยอะ แต่ก็ไม่ได้ใจฮั่วจิ้นเฉิง แถมยังทำให้ตระกูลตัวเองพังพินาศอีก"ได้ยินอย่างนั้น เฉียวซีอวิ๋นก็รู้สึกหงุดหงิดเธอ
จู่ ๆ เฉียวซีอวิ๋นก็มีหนทาง"พูดมาซิว่ามีแผนดี ๆ อะไรบ้าง?"ชายหนุ่มขยับขึ้นไปหาเธอโดยตรง กดร่างเธอลงนอน แล้วกระซิบข้างหูอย่างยั่วยวน "อยากรู้ก็ต้องปรนเปรอฉันให้เต็มอิ่มก่อน"สิ้นคำพูด อากาศภายในห้องก็เริ่มอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความเร่าร้อนอีกครั้ง......เช้าวันรุ่งขึ้นหลีเกอจัดกระเป๋าเสร็จตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนออกเดินทาง เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากหลีหาน "น้องสี่ ได้ยินว่าเธอกำลังจะไปตานตงเหรอ?"หลีเกอรู้ว่าไม่มีอะไรปิดบังหลีหานได้ จึงตอบตามตรง "ค่ะ ไปกับพี่ซิวเป่ย""พี่มีเพื่อนอยู่ที่ตานตงพอดี ถ้ามีเรื่องอะไรก็ไปหาเขาได้"หลีเกอพยักหน้า "รู้แล้วค่ะพี่ใหญ่! ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ไม่ต้องห่วงฉันหรอก"หลีหานยังไม่วางใจ "ผู้ช่วยเจิ้งไปด้วยไหม?""เพื่อนร่วมงานที่บริษัทจะตามไปทีหลังในวันพรุ่งนี้ค่ะ นัดเจอกันที่ตานตง"เมื่อได้ยินหลีเกอพูดแบบนั้น หลีหานก็วางใจขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยก็มีเจิ้งหลิ่วและฟู่ซิวเป่ยคอยดูแลอีกแรง คงไม่เกิดปัญหาอะไรใหญ่โตเขากำชับเพิ่มเติมอีกสองสามประโยค"เธอเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก พี่ไม่ก้าวก่ายอะไร แต่เวลาออกไปข้างนอก ความปลอดภัยต้องมาก่อน""
วิเวียนยิ้มให้หลีเกอ แต่ความสนใจทั้งหมดของเธอกลับอยู่ที่ฟู่ซิวเป่ย "ไม่คิดว่าประธานฟู่จะมาด้วยตัวเองในครั้งนี้ บริษัทมีเดียเอเชียของเรายินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่งค่ะ การเดินทางคงเหนื่อยล้าน่าดู ฉันจะพาคุณไปที่โรงแรมก่อนนะคะ"ดวงตาของฟู่ซิวเป่ยหรี่ลงเล็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงรักษาระยะห่าง "ขอบคุณครับ ผู้จัดการวิเวียน"แต่พอเดินไปถึงรถตู้สองคันที่จอดอยู่ข้างหน้า วิเวียนก็หันไปบอกหลีเกอ"ประธานหลี เชิญขึ้นรถค่ะ"หลีเกอพยักหน้าเล็กน้อย เพิ่งจะนั่งลงบนรถได้ไม่นาน ฟู่ซิวเป่ยก็ตามเข้ามาแล้วนั่งลงข้าง ๆ หลีเกอทันทีแล้วหันไปบอกวิเวียนว่า "ผู้จัดการวิเวียน ผมกับประธานหลีนั่งรถคันเดียวกันได้ครับ"วิเวียนโกรธ!สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงระงับอารมณ์ของตัวเองเอาไว้"ได้ค่ะ ประธานฟู่ งั้นฉันจะนั่งรถอีกคันตามไป"ประตูรถปิดลง รถก็ค่อย ๆ เคลื่อนออกไป หลีเกอเม้มปาก พูดด้วยน้ำเสียงประชดเล็กน้อย "พี่ซิวเป่ย ผู้จัดการวิเวียนอยากนั่งรถคันเดียวกับคุณนะ ทำแบบนี้ไม่กลัวว่าจะทำให้สาวสวยเสียหน้าแย่เหรอ?"ฟู่ซิวเป่ยหันมองเธอแล้วเอื้อมมือไปลูบหัว“ในหัวน้อย ๆ นั่นคิดอะไรอยู่! อย่าเอาแต่คิดไปเอ
"เหลือห้องนี้ห้องเดียวแล้วค่ะ เราเลยจัดไว้ให้คุณฟู่"พูดจบ วิเวียนก็หยิบคีย์การ์ดห้องออกมาจากกระเป๋า สายตาอันเย้ายวนจับจ้องใบหน้าด้านข้างของเขา แล้วก็ยัดคีย์การ์ดใส่ในมือของฟู่ซิวเป่ยขณะที่ส่งสายตาเย้ายวนก็พูดจาล่อลวง"คุณฟู่ ฉันพักอยู่ห้องข้าง ๆ คุณนะคะ ยินดีต้อนรับถ้าคุณอยากแวะมาเยี่ยมเยียนทุกเมื่อ เผื่อเราจะได้แลกเปลี่ยนแนวคิดทางธุรกิจกันอย่างลึกซึ้ง..."พูดจบก็ไม่รอให้ฟู่ซิวเป่ยตอบ วิเวียนเดินส่ายสะโพกงอนงามจากไปฟู่ซิวเป่ยมองคีย์การ์ด วินาทีต่อมาก็โยนทิ้งลงถังขยะโดยไม่ลังเล เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กำลังจะโทรหาหลีเกอแต่ว่าหลีเกอลากกระเป๋าเดินทางวิ่งขึ้นมาชั้นบนพอดี เมื่อเห็นฟู่ซิวเป่ย หลีเกอก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น โยนกระเป๋าเดินทางทิ้งแล้วตรงเข้ามากอดฟู่ซิวเป่ย เสียงของเธอสั่นเทา "พี่ซิวเป่ย มี...มีหนู หนูตัวใหญ่..."หลีเกอกลัวจนหน้าซีดไปหมดตัวสั่นสะท้านฟู่ซิวเป่ยเห็นเธอทำท่าทางเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่ตกใจกลัว ก็อดไม่ได้ที่จะขำ"งั้นเข้าทางเลย คืนนี้พักที่ห้องผมดีกว่า"หลีเกอพยักหน้ารัว ๆ เหมือนลูกไก่จิกข้าว ไม่ลังเลเลยฟู่ซิวเป่ยปลอบเธอ "แค่หนูตัวเดียวเอง ไม่มีอะไรหรอก
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าในห้องนี้มีแค่เธอและฟู่ซิวเป่ยสองคน ใบหน้าของหลีเกอก็แดงเรื่อขึ้นมาในทันที ไม่ต้องคิดก็เดาออกฟู่ซิวเป่ยต้องเป็นคนอุ้มเธอเข้าไปนอนในห้องแน่ ๆ"โอ๊ย ยัยหลีเกอ เธอนี่มันแย่จริง ๆ..." หลีเกอพูดกับตัวเองด้วยความหงุดหงิด ไม่สนใจฟู่ซิวเป่ยที่อยู่ข้าง ๆ เลย ไล่เขาออกไปโดยตรงฟู่ซิวเป่ยงุนงง แต่ก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้เมื่อหลีเกอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ ฟู่ซิวเป่ยก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว หลีเกอถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วมานั่งที่โต๊ะอาหาร เริ่มกินอาหารเช้าอย่างจริงจังแต่เธอกินอาหารเช้าไปได้แค่ครึ่งทาง เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นหลีเกอนึกว่าเป็นฟู่ซิวเป่ยที่กลับมาแล้ว จึงลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู "พี่ซิวเป่ย ไม่ได้พกกุญแจออกไปเหรอคะ?"เสียงพูดหยุดชะงักลงทันทีเพราะคนที่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอไม่ใช่ฟู่ซิวเป่ย แต่เป็นวิเวียนที่ทำหน้าตาประหลาดใจเธอชี้ไปที่หลีเกอ สีหน้าโกรธจัด"คุณ… เมื่อคืนคุณพักที่นี่เหรอ?"หลีเกอทำหน้าไร้เดียงสา ถามกลับว่า “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?"วิเวียนโกรธจนพูดไม่ออก "คุณฟู่ล่ะ? เขาอยู่ไหน?"หลีเกอทำเหมือนไม่รู้เรื่อง "คุณฟู่ไม่อยู่ค่ะ ผู้จัดการวิเวียนมีอะไรคะ?"
"อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ แค่บังเอิญไปนามสกุลพ้องกันกับตระกูลหลี""ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ ดูจากลักษณะภายนอกของเธอสิ เหมือนคุณหนูไฮโซตรงไหน"วิเวียนหันไปมองตามที่เลขาฯ พูดเธอเห็นด้วยว่าเลขาฯ พูดถูก"ช่างเถอะ เป้าหมายของเราในวันนี้ไม่ใช่เธอ"ผู้ช่วยเข้าใจความหมาย "วางใจได้เลยค่ะ ผู้จัดการวิเวียน ฉันรู้ว่าเป้าหมายของคุณคือคุณฟู่ซิวเป่ย ประธานฟู่"วิเวียนพยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธเลขาฯ พูดต่อ "คุณฟู่ซิวเป่ย ประธานฟู่ยังเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมแบบนี้ ผู้จัดการวิเวียนต้องคว้าเอาไว้ให้อยู่หมัดเลยนะคะ ผู้ชายแบบนี้หายากมากเลยนะ เจอแล้วต้องรีบจับให้มั่น เพราะถ้าได้มาแล้ว ชีวิตจะก้าวกระโดดเลยล่ะค่ะ..."วิเวียนทำหน้าเย่อหยิ่ง"นั่นสิ ผู้ชายบางคนอาจกินโจ๊กหรือกับข้าวธรรมดาได้ แต่โดยเฉลี่ยก็ยังชอบผู้หญิงเซ็กซี่เย้ายวนอยู่ดี ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะเอาชนะเขาไม่ได้"พูดจบ วิเวียนก็เดินตามไปด้วยสีหน้ามั่นใจคณะเดินทางโดยรถตู้ไปที่บริษัทมีเดียเอเชีย ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในตานตง ภายในอาคารที่ทำการของบริษัทมีเดียเอเชียตกแต่งอย่างหรูหราหน้าประตูทางเข้ามีการติดป้ายไว้ว่า "ยินดีต้อนรับประธานหลี
หลีเกอหัวเราะเยาะ ความเย็นชาในดวงตาเต็มเปี่ยม"เป็นแค่เลขายังหยิ่งขนาดนี้ ฉันแทบมองไม่เห็นความจริงใจของบริษัทมีเดียเอเชียเลย""แต่ขอเตือนคุณสักหน่อยแล้วกัน ในเมื่อกล้าทำ ก็ต้องกล้ารับผิดชอบด้วย"หลีเกอพูดจบก็หันหลังเดินจากไปเลขาไม่สนใจเลยในสายตาเธอ หลีเกอก็แค่ขู่ไปอย่างนั้นอยู่ในแวดวงธุรกิจมานานขนาดนี้ เธอเจออะไรมาเยอะแยะถมเถ จึงไม่ได้ใส่ใจคำพูดของหลีเกอหลีเกอลงบันไดจากตึกมีเดียเอเชียโดยตรง กลับไปที่รถ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าแอปเล่นเกมภายในห้องประชุมทุกคนเงียบกริบฟู่ซิวเป่ยนั่งอยู่ที่ตำแหน่งประธาน ขมวดคิ้วไม่ยอมพูดอะไร บรรยากาศในห้องเย็นลงอย่างฉับพลันประธานบริษัทมีเดียเอเชียเช็ดเหงื่อบนหน้าผากถามอย่างระมัดระวัง "ประธานฟู่ คุณคิดว่าความร่วมมือระหว่างเราติดปัญหาตรงไหนหรือเปล่าครับ?"ฟู่ซิวเป่ยไม่ตอบแต่ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาผ่านไปยี่สิบนาทีแล้ว หลีเกอก็ยังมาไม่ถึงห้องประชุมอีกเหรอ?ทันใดนั้นเจิ้งหลิ่วก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว สีหน้าแตกตื่น "ประธานฟู่ครับ ผมไม่เห็นประธานหลีเลย"ฟู่ซิวเป่ยลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกแล้วเดินพรวดพราดออก