"ตอนนี้ตกลงร่วมมือกับเอฟแอลกรุ๊ปแล้ว ในช่วงแรกของโครงการ ฉันจะไปดูแลด้วยตัวเอง""คุณหลี ผมต้องไปกับคุณด้วยไหมครับ?"หลีเกอพยักหน้า "เตรียมตัวไว้ก็ดี เมื่อถึงเวลาจะได้ไปพร้อมกับเอฟแอลกรุ๊ปเลย อย่าลืมพาหัวหน้าทีมงานหลักไปด้วย""ได้ครับ คุณหลี ผมจะจัดการให้..."หลังจากตกลงเรื่องงานเรียบร้อย หลีเกอก็ส่งข้อความหาฟู่ซิวเป่ย แต่ไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวหลีเกอมองหมายเลขที่ปรากฏบนหน้าจอ แล้วรับสายด้วยสีหน้าเรียบเฉย"...หลีเกอ ได้ยินว่าคุณตกลงร่วมมือกับเอฟแอลกรุ๊ปแล้วเหรอ?"เสียงของฮั่วจิ้นเฉิงดังมาจากหูโทรศัพท์หลีเกอกลอกตามองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วพูดว่า "คุณฮั่วได้ข่าวไวจังนะคะ...""หลีเกอ แน่ใจแล้วเหรอที่จะเลือกเขาแต่ไม่เลือกผม ถ้าร่วมมือกับตระกูลฮั่วยังพอมีโอกาสมากกว่าอีกนะ"แต่หลีเกอกลับพูดว่า "คุณฮั่ว เรื่องนี้ฉันตัดสินใจไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงอีก"ฮั่วจิ้นเฉิงยังไม่ยอมแพ้!ตั้งแต่เด็กจนโต ฮั่วจิ้นเฉิงเคยแพ้ใครบ้าง"โครงการตานตงไม่ง่ายอย่างที่คิด ถ้าคุณจะไปตานตง ต้องระวังตัวให้มาก ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ตระกูลฮั่ว...""พอเถอะค่ะ คุณฮั่ว สิ่งที่ตี้เซ
ในโรงแรมหรูเสียงชายหญิงครวญครางกระเส่าดังออกมาไม่ขาดสายหลังจากเสร็จกิจ เฉียวซีอวิ๋นก็นั่งพิงอยู่ที่หัวเตียง จุดบุหรี่สูบเข้าปอดเต็มแรงชายที่นอนอยู่ข้าง ๆ เปลือยเปล่า ตระกองกอดเธอไว้ในอ้อมแขน พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย"...ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ลีลาแย่ลงเยอะเลยนะ ดูเหมือนชีวิตในคุกคงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่"เฉียวซีอวิ๋นพ่นควันบุหรี่ออกมา "อย่าพูดมาก! วันนี้ที่เรียกคุณมาเพราะมีเรื่องสำคัญ"ชายคนนั้นหัวเราะ"รู้น่า! เมื่อกี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญเหรอ?"เฉียวซีอวิ๋นมีสีหน้าเคร่งเครียด "ฮั่วจิ้นเฉิงน่าจะสงสัยฉันแล้ว แต่ตอนนี้เขายังไม่มีหลักฐานอะไร"ชายคนนั้นเริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอ แล้วพูดว่า "ไม่มีหลักฐานก็ไม่เห็นต้องกลัว ระวังตัวไว้ก็พอ"เฉียวซีอวิ๋นสะบัดมือออก "ยังไงฉันก็ต้องเป็นคุณผู้หญิงฮั่วให้ได้! ถ้าไม่ได้ ก็ต้องทำให้นังชั่วหลีเกอนั่นได้ลิ้มรสชีวิตในคุก"ชายคนนั้นยิ้มมุมปาก เชยคางเธอขึ้น "คิดถึงผู้ชายคนอื่นตอนนอนอยู่บนเตียงกับฉัน ไม่ดีเลยนะ""ตอนนั้นลงทุนไปตั้งเยอะ แต่ก็ไม่ได้ใจฮั่วจิ้นเฉิง แถมยังทำให้ตระกูลตัวเองพังพินาศอีก"ได้ยินอย่างนั้น เฉียวซีอวิ๋นก็รู้สึกหงุดหงิดเธอ
จู่ ๆ เฉียวซีอวิ๋นก็มีหนทาง"พูดมาซิว่ามีแผนดี ๆ อะไรบ้าง?"ชายหนุ่มขยับขึ้นไปหาเธอโดยตรง กดร่างเธอลงนอน แล้วกระซิบข้างหูอย่างยั่วยวน "อยากรู้ก็ต้องปรนเปรอฉันให้เต็มอิ่มก่อน"สิ้นคำพูด อากาศภายในห้องก็เริ่มอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความเร่าร้อนอีกครั้ง......เช้าวันรุ่งขึ้นหลีเกอจัดกระเป๋าเสร็จตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนออกเดินทาง เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากหลีหาน "น้องสี่ ได้ยินว่าเธอกำลังจะไปตานตงเหรอ?"หลีเกอรู้ว่าไม่มีอะไรปิดบังหลีหานได้ จึงตอบตามตรง "ค่ะ ไปกับพี่ซิวเป่ย""พี่มีเพื่อนอยู่ที่ตานตงพอดี ถ้ามีเรื่องอะไรก็ไปหาเขาได้"หลีเกอพยักหน้า "รู้แล้วค่ะพี่ใหญ่! ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ไม่ต้องห่วงฉันหรอก"หลีหานยังไม่วางใจ "ผู้ช่วยเจิ้งไปด้วยไหม?""เพื่อนร่วมงานที่บริษัทจะตามไปทีหลังในวันพรุ่งนี้ค่ะ นัดเจอกันที่ตานตง"เมื่อได้ยินหลีเกอพูดแบบนั้น หลีหานก็วางใจขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยก็มีเจิ้งหลิ่วและฟู่ซิวเป่ยคอยดูแลอีกแรง คงไม่เกิดปัญหาอะไรใหญ่โตเขากำชับเพิ่มเติมอีกสองสามประโยค"เธอเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก พี่ไม่ก้าวก่ายอะไร แต่เวลาออกไปข้างนอก ความปลอดภัยต้องมาก่อน""
วิเวียนยิ้มให้หลีเกอ แต่ความสนใจทั้งหมดของเธอกลับอยู่ที่ฟู่ซิวเป่ย "ไม่คิดว่าประธานฟู่จะมาด้วยตัวเองในครั้งนี้ บริษัทมีเดียเอเชียของเรายินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่งค่ะ การเดินทางคงเหนื่อยล้าน่าดู ฉันจะพาคุณไปที่โรงแรมก่อนนะคะ"ดวงตาของฟู่ซิวเป่ยหรี่ลงเล็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงรักษาระยะห่าง "ขอบคุณครับ ผู้จัดการวิเวียน"แต่พอเดินไปถึงรถตู้สองคันที่จอดอยู่ข้างหน้า วิเวียนก็หันไปบอกหลีเกอ"ประธานหลี เชิญขึ้นรถค่ะ"หลีเกอพยักหน้าเล็กน้อย เพิ่งจะนั่งลงบนรถได้ไม่นาน ฟู่ซิวเป่ยก็ตามเข้ามาแล้วนั่งลงข้าง ๆ หลีเกอทันทีแล้วหันไปบอกวิเวียนว่า "ผู้จัดการวิเวียน ผมกับประธานหลีนั่งรถคันเดียวกันได้ครับ"วิเวียนโกรธ!สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงระงับอารมณ์ของตัวเองเอาไว้"ได้ค่ะ ประธานฟู่ งั้นฉันจะนั่งรถอีกคันตามไป"ประตูรถปิดลง รถก็ค่อย ๆ เคลื่อนออกไป หลีเกอเม้มปาก พูดด้วยน้ำเสียงประชดเล็กน้อย "พี่ซิวเป่ย ผู้จัดการวิเวียนอยากนั่งรถคันเดียวกับคุณนะ ทำแบบนี้ไม่กลัวว่าจะทำให้สาวสวยเสียหน้าแย่เหรอ?"ฟู่ซิวเป่ยหันมองเธอแล้วเอื้อมมือไปลูบหัว“ในหัวน้อย ๆ นั่นคิดอะไรอยู่! อย่าเอาแต่คิดไปเอ
"เหลือห้องนี้ห้องเดียวแล้วค่ะ เราเลยจัดไว้ให้คุณฟู่"พูดจบ วิเวียนก็หยิบคีย์การ์ดห้องออกมาจากกระเป๋า สายตาอันเย้ายวนจับจ้องใบหน้าด้านข้างของเขา แล้วก็ยัดคีย์การ์ดใส่ในมือของฟู่ซิวเป่ยขณะที่ส่งสายตาเย้ายวนก็พูดจาล่อลวง"คุณฟู่ ฉันพักอยู่ห้องข้าง ๆ คุณนะคะ ยินดีต้อนรับถ้าคุณอยากแวะมาเยี่ยมเยียนทุกเมื่อ เผื่อเราจะได้แลกเปลี่ยนแนวคิดทางธุรกิจกันอย่างลึกซึ้ง..."พูดจบก็ไม่รอให้ฟู่ซิวเป่ยตอบ วิเวียนเดินส่ายสะโพกงอนงามจากไปฟู่ซิวเป่ยมองคีย์การ์ด วินาทีต่อมาก็โยนทิ้งลงถังขยะโดยไม่ลังเล เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กำลังจะโทรหาหลีเกอแต่ว่าหลีเกอลากกระเป๋าเดินทางวิ่งขึ้นมาชั้นบนพอดี เมื่อเห็นฟู่ซิวเป่ย หลีเกอก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น โยนกระเป๋าเดินทางทิ้งแล้วตรงเข้ามากอดฟู่ซิวเป่ย เสียงของเธอสั่นเทา "พี่ซิวเป่ย มี...มีหนู หนูตัวใหญ่..."หลีเกอกลัวจนหน้าซีดไปหมดตัวสั่นสะท้านฟู่ซิวเป่ยเห็นเธอทำท่าทางเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่ตกใจกลัว ก็อดไม่ได้ที่จะขำ"งั้นเข้าทางเลย คืนนี้พักที่ห้องผมดีกว่า"หลีเกอพยักหน้ารัว ๆ เหมือนลูกไก่จิกข้าว ไม่ลังเลเลยฟู่ซิวเป่ยปลอบเธอ "แค่หนูตัวเดียวเอง ไม่มีอะไรหรอก
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าในห้องนี้มีแค่เธอและฟู่ซิวเป่ยสองคน ใบหน้าของหลีเกอก็แดงเรื่อขึ้นมาในทันที ไม่ต้องคิดก็เดาออกฟู่ซิวเป่ยต้องเป็นคนอุ้มเธอเข้าไปนอนในห้องแน่ ๆ"โอ๊ย ยัยหลีเกอ เธอนี่มันแย่จริง ๆ..." หลีเกอพูดกับตัวเองด้วยความหงุดหงิด ไม่สนใจฟู่ซิวเป่ยที่อยู่ข้าง ๆ เลย ไล่เขาออกไปโดยตรงฟู่ซิวเป่ยงุนงง แต่ก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้เมื่อหลีเกอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ ฟู่ซิวเป่ยก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว หลีเกอถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วมานั่งที่โต๊ะอาหาร เริ่มกินอาหารเช้าอย่างจริงจังแต่เธอกินอาหารเช้าไปได้แค่ครึ่งทาง เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นหลีเกอนึกว่าเป็นฟู่ซิวเป่ยที่กลับมาแล้ว จึงลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู "พี่ซิวเป่ย ไม่ได้พกกุญแจออกไปเหรอคะ?"เสียงพูดหยุดชะงักลงทันทีเพราะคนที่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอไม่ใช่ฟู่ซิวเป่ย แต่เป็นวิเวียนที่ทำหน้าตาประหลาดใจเธอชี้ไปที่หลีเกอ สีหน้าโกรธจัด"คุณ… เมื่อคืนคุณพักที่นี่เหรอ?"หลีเกอทำหน้าไร้เดียงสา ถามกลับว่า “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?"วิเวียนโกรธจนพูดไม่ออก "คุณฟู่ล่ะ? เขาอยู่ไหน?"หลีเกอทำเหมือนไม่รู้เรื่อง "คุณฟู่ไม่อยู่ค่ะ ผู้จัดการวิเวียนมีอะไรคะ?"
"อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ แค่บังเอิญไปนามสกุลพ้องกันกับตระกูลหลี""ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ ดูจากลักษณะภายนอกของเธอสิ เหมือนคุณหนูไฮโซตรงไหน"วิเวียนหันไปมองตามที่เลขาฯ พูดเธอเห็นด้วยว่าเลขาฯ พูดถูก"ช่างเถอะ เป้าหมายของเราในวันนี้ไม่ใช่เธอ"ผู้ช่วยเข้าใจความหมาย "วางใจได้เลยค่ะ ผู้จัดการวิเวียน ฉันรู้ว่าเป้าหมายของคุณคือคุณฟู่ซิวเป่ย ประธานฟู่"วิเวียนพยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธเลขาฯ พูดต่อ "คุณฟู่ซิวเป่ย ประธานฟู่ยังเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมแบบนี้ ผู้จัดการวิเวียนต้องคว้าเอาไว้ให้อยู่หมัดเลยนะคะ ผู้ชายแบบนี้หายากมากเลยนะ เจอแล้วต้องรีบจับให้มั่น เพราะถ้าได้มาแล้ว ชีวิตจะก้าวกระโดดเลยล่ะค่ะ..."วิเวียนทำหน้าเย่อหยิ่ง"นั่นสิ ผู้ชายบางคนอาจกินโจ๊กหรือกับข้าวธรรมดาได้ แต่โดยเฉลี่ยก็ยังชอบผู้หญิงเซ็กซี่เย้ายวนอยู่ดี ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะเอาชนะเขาไม่ได้"พูดจบ วิเวียนก็เดินตามไปด้วยสีหน้ามั่นใจคณะเดินทางโดยรถตู้ไปที่บริษัทมีเดียเอเชีย ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในตานตง ภายในอาคารที่ทำการของบริษัทมีเดียเอเชียตกแต่งอย่างหรูหราหน้าประตูทางเข้ามีการติดป้ายไว้ว่า "ยินดีต้อนรับประธานหลี
หลีเกอหัวเราะเยาะ ความเย็นชาในดวงตาเต็มเปี่ยม"เป็นแค่เลขายังหยิ่งขนาดนี้ ฉันแทบมองไม่เห็นความจริงใจของบริษัทมีเดียเอเชียเลย""แต่ขอเตือนคุณสักหน่อยแล้วกัน ในเมื่อกล้าทำ ก็ต้องกล้ารับผิดชอบด้วย"หลีเกอพูดจบก็หันหลังเดินจากไปเลขาไม่สนใจเลยในสายตาเธอ หลีเกอก็แค่ขู่ไปอย่างนั้นอยู่ในแวดวงธุรกิจมานานขนาดนี้ เธอเจออะไรมาเยอะแยะถมเถ จึงไม่ได้ใส่ใจคำพูดของหลีเกอหลีเกอลงบันไดจากตึกมีเดียเอเชียโดยตรง กลับไปที่รถ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าแอปเล่นเกมภายในห้องประชุมทุกคนเงียบกริบฟู่ซิวเป่ยนั่งอยู่ที่ตำแหน่งประธาน ขมวดคิ้วไม่ยอมพูดอะไร บรรยากาศในห้องเย็นลงอย่างฉับพลันประธานบริษัทมีเดียเอเชียเช็ดเหงื่อบนหน้าผากถามอย่างระมัดระวัง "ประธานฟู่ คุณคิดว่าความร่วมมือระหว่างเราติดปัญหาตรงไหนหรือเปล่าครับ?"ฟู่ซิวเป่ยไม่ตอบแต่ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาผ่านไปยี่สิบนาทีแล้ว หลีเกอก็ยังมาไม่ถึงห้องประชุมอีกเหรอ?ทันใดนั้นเจิ้งหลิ่วก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว สีหน้าแตกตื่น "ประธานฟู่ครับ ผมไม่เห็นประธานหลีเลย"ฟู่ซิวเป่ยลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกแล้วเดินพรวดพราดออก
เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างกายของผู้หญิงกลุ่มนี้ก็สั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเคยลิ้มรสความโหดเหี้ยมของแส้มาก่อนในเวลานี้ เฉวียนเย๋ หัวหน้ากลุ่มก็เดินออกมาดวงตาไร้ความรู้สึกจ้องมองหลีเกอ "ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะเก่งขนาดนี้… ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็หนีออกมาได้แล้ว"หลีเกอมองเขาอย่างเย็นชา น้ำเสียงไร้ความอบอุ่น"ปล่อยเราไป ไม่งั้นฉันจะถล่มที่นี่ให้ราบเป็นหน้ากลอง"ชายคนนั้นกลับหัวเราะราวกับได้ยินเรื่องตลก แล้วก็ตบมือ เดินเข้ามาหาหลีเกอต้องยอมรับว่าหลีเกอมีเครื่องหน้าที่สวยมาก แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมสมบุกสมบันแบบนี้ แต่ก็ยังคงมีความสวยที่แตกต่างออกไป นางฟ้านางสวรรค์แบบนี้ ถ้าพาไปขายในตลาดมืดคงจะได้ราคาดีไม่น้อยแต่ก็เท่านั้นแหละ สวยก็ส่วนสวย แต่กลับเป็นกุหลาบมีหนาม"ปล่อยพวกเธอไปเหรอ ฝันไปเถอะ"พูดจบ เขาก็โบกมือให้บอดี้การ์ดสองสามคนเดินเข้าไปแต่ในเวลานี้ลูกน้องอีกคนก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา "พี่เฉวียน ไม่ดีแล้ว บาร์ของเราถูกปิดล้อมแล้ว"สีหน้าของพี่เฉวียนเปลี่ยนไปทันที ตะโกนด้วยความโกรธ “ได้ยังไงวะ?!""คำสั่งของตระกูลหลี ตระกูลหลีมหาเศรษฐีครับ"พี่เฉวียนคว้าค
"จะทำยังไงดี พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะถูกส่งตัวออกไปแล้ว… จะไม่มีวันได้เจอครอบครัวอีกแล้วใช่ไหม?""ฮือฮือฮือ ฉันไม่อยากตาย ใครก็ได้ช่วยเราที""..."พูดจบก็มีเสียงสะอื้นดังระงมหลีเกอเห็นภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าท่ามกลางสังคมที่เจริญแล้วเช่นนี้ จะยังมีเรื่องราวมืดดำแบบนี้ซุกซ่อนอยู่สายตาของเธอเหลือบมองไปตามเสียงสะอื้นแต่ในวินาทีถัดมา เธอกลับสบเข้ากับดวงตาคู่หนึ่งที่เย็นชาอย่างมาก ซึ่งขัดกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าหญิงสาวดังกล่าวดูอายุประมาณสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี แต่กลับมีความเยือกเย็นและเฉลียวฉลาดเหมือนผู้ใหญ่ใบหน้าของเธอไร้อารมณ์ แต่ดวงตากลับจ้องมองหลีเกอราวกับต้องการจะมองให้ทะลุปรุโปร่งทั้งสองฝ่ายต่างเงียบ ไม่พูดอะไรผ่านไปครึ่งชั่วโมงหญิงสาวจึงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจนัก "คุณจะช่วยเราออกไปได้จริง ๆ เหรอ?"หลีเกอตอบอย่างมั่นใจ "เชื่อฉันสิ เราต้องออกไปได้แน่นอน"ประโยคนี้เปรียบเสมือนผู้ไถ่บาปที่ทำให้บรรดาหญิงสาวมีความหวัง แต่ในวินาทีถัดมา หญิงสาวก็เห็นว่าหลีเกอถูกมัดมือมัดเท้าอยู่ความหวังที่เพิ่งผุดขึ้นดับวูบลงไปหลีเกอลดสายตาลง
ชายในห้องเดินออกมาหลังจากนั้น เมื่อเห็นหลีเกอก็ตาเป็นประกาย "โอ้โห นี่มันของดีจากไหนกัน..."บางคนจำหลีเกอได้ว่าเป็นคนที่เข้ามาพร้อมกับฉีอวิ๋นเทียน จึงกระซิบบอกชายคนนั้นว่า "พี่เฉวียน คนนี้เป็นแขกที่คุณชายฉีพามาครับ"เมื่อชายคนนั้นได้ยินชื่อฉีอวิ๋นเทียน สีหน้าก็เปลี่ยนไปแล้วก็เดินเข้ามาหาหลีเกอ "เมื่อกี้เธอเห็นอะไร ได้ยินอะไรบ้าง?"หลีเกอจ้องเขม็งมองเขา ไม่มีแววความกลัวในดวงตา "พวกคุณทำธุรกิจอย่างเปิดเผย แต่ที่ไหนได้ กลับมีธุรกิจมืดอีกอย่างหนึ่งซ่อนอยู่ ผู้หญิงในห้องนั้น พวกคุณลักพาตัวมาใช่ไหม?"ชายคนนั้นยิ้ม แววตาแฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม "ดูเหมือนวันนี้เธอคงไม่อยากออกไปจากที่นี่แล้ว...แต่ก็ดี ของดีแบบเธอน่ะหายาก"พูดจบก็โบกมือให้ลูกน้องเดินเข้ามาหลีเกอหัวเราะเยาะ "อยากจับฉัน ก็ลองดูสิว่าพวกนายมีปัญญาหรือเปล่า"ทันทีที่พูดจบ ชายร่างกำยำหลายคนก็กรูเข้ามา หลีเกอมีสีหน้าเคร่งขรึม ลงมือสวนกลับอย่างรวดเร็วและแม่นยำ เตะตัดขาของคู่ต่อสู้ทุกการออกแรงไม่มีความลังเลเลย เตะจนคู่ต่อสู้ถอยหลังไปหลายก้าวชายที่ถูกเรียกว่าพี่เฉวียนรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที "ดูเหมือนตั้งใจมาหาเรื่องสินะ"พูดจบ
ฉีอวิ๋นเทียนพยักหน้ารัวเร็ว "แหงสิ นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญ""แต่ฉันสังหรณ์ใจว่าคุณน่าจะได้เจอกับเนื้อคู่ของคุณเร็ว ๆ นี้"เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉีอวิ๋นเทียนก็ตกใจ "เทพธิดา ล้อกันเล่นหรือเปล่า?"หลีเกอขมวดคิ้ว "ทำไม ไม่เชื่อเหรอ?""ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ในโลกนี้ นอกจากคุณแล้ว หายากมากที่จะมีใครทำให้หัวใจผมสั่นไหวอีก"ฉีอวิ๋นเทียนพูดจบก็ถอนหายใจ "แต่เมื่อเทียบกับตัวผมแล้ว ความสุขของเทพธิดาสำคัญกว่า..."เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ตัดสินใจลาออกจากตี้เซิ่งโดยไม่ลังเล เพื่อให้เธอมีความสุขส่วนความสุขของตัวเขาเองนั้นไม่สำคัญเลย"คืนนี้มีงานเลี้ยง คุณก็อยู่ร่วมด้วยสิ"หลีเกอเพิ่งจะปฏิเสธ ฉีอวิ๋นเทียนกลับทำหน้าตาอ้อนวอน "เทพธิดา มาเถอะนะ ไม่งั้นปู่ผมไม่ยอมปล่อยผมไปแน่ ๆ เลย..."หลีเกอหัวเราะคิกคัก เมื่อนึกว่าฉีอวิ๋นเทียนผู้ไม่เคยหวาดกลัวอะไรเลย กลับมีลาสบอสที่ทำให้เขากลัวหัวหดนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ดี ในที่สุดเธอก็ตอบตกลง "ได้"ฉีอวิ๋นเทียนดีใจมาก "ตกลงตามนั้นนะ ไว้เจอกันตอนเย็น"...ตกเย็นหลีเกอเปลี่ยนไปสวมชุดลำลองสบาย ๆ แล้วก็ออกจากบ้าน สถานที่ที่ฉีอวิ๋นเทียนจั
เมื่อได้ยินคำพูดของคุณนายคนนั้น นิ้วของซ่งเซียงเซียงก็จิกเข้าไปในเนื้ออย่างเงียบ ๆ แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเอาซะเลยในเวลานี้ ซ่งฟู่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน เดินตรงมาหาซ่งเซียงเซียงได้ยินเสียงตบดัง ‘เผียะ’ ซ่งเซียงเซียงเอามือปิดหน้าตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา ปากก็พูดด้วยความน้อยใจ "พ่อ ตบฉันทำไมคะ!"ซ่งฟู่โกรธมากเมื่อครู่หลี่หานได้ส่งคนมาเตือนเขาแล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะซ่งเซียงเซียงพยายามกลั่นแกล้งหลีเกอ"ซ่งเซียงเซียง แกนี่ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ก่อนมาฉันเคยเตือนแกว่ายังไง? กล้าดียังไงถึงกล้าไปยุ่งกับคุณหนูหลี!"ซ่งเซียงเซียงปิดหน้าไม่น่าเชื่อว่าพ่อที่รักเธออย่างสุดหัวใจ กลับลงมือตบหน้าเธอต่อหน้าคนอื่นเพราะหลีเกอคนเดียวเธอหลุบตาลง ไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับโทษทุกอย่างว่าเป็นความผิดของหลีเกอซ่งฟู่จ้องเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวสุดขีด แล้วพูดต่อว่า "ถ้าแกทำให้คุณหนูหลีขุ่นเคือง บริษัทเหม่ยห่าวอิเล็กทริคของเราต้องล่มสลายแน่ รู้ตัวไหมว่าแกทำอะไรลงไป!"ซ่งเซียงเซียงกัดริมฝีปากแน่น ไม่ยอมพูดอะไรซ่งฟู่เห็นว่าเธอยังไม่สำนึก จึงพูดตรง ๆ "อย่ามาทำให้ฉันขายหน้าอยู่ที่นี่ รีบกลับไปเดี๋ยวน
ในทันใดนั้นเอง หลีเกอก็เริ่มบอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การบริหารของตัวเองอย่างคล่องแคล่วคำพูดของเธอทั้งแฝงอารมณ์ขันและดึงดูดความสนใจ ไม่โอ้อวดมากเกินไปและไม่ถ่อมตัวจนน่ารำคาญ จับจุดได้อย่างเหมาะเจาะการอธิบายง่าย ๆ สิบนาที ทุกคนในที่นั้นกลับพร้อมใจกันตั้งใจฟัง จนกระทั่งจบลง ห้องประชุมก็เงียบไปหลายวินาที ก่อนที่จะปรบมือกันอย่างกึกก้อง"คุณหนูหลีเป็นอัจฉริยะทางธุรกิจจริง ๆ!""มีหลักแนวคิดที่ชัดเจน ผ่อนคลายและเข้มงวดในเวลาเดียวกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอบริหารตี้เซิ่งให้เจริญรุ่งเรืองได้""คุณหนูหลีเป็นคนที่เราควรเรียนรู้เอาเป็นเยี่ยงอย่างจริง ๆ! ถึงเธอจะยังอายุน้อย แต่แนวคิดทางธุรกิจของเธอก็มมมีความเป็นปัจเจกสูงมาก""ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกับคุณหนูหลี จะถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยล่ะสำหรับพวกเรา!""..."เมื่อได้ยินเสียงสรรเสริญรอบข้าง ซ่งเซียงเซียงก็อึ้งงันไปเดิมทีเธอต้องการหาทางโจมตีหลีเกอแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่คาดคิดว่าจะทำให้เธอโด่งดังในครั้งนี้เป็นไปไม่ได้!เป็นไปได้ยังไงเนี่ย?"เดี๋ยวก่อน..."ซ่งเซียงเซียงส่งเสียงเรียกหลีเกอที่กำลังจะลงจากเวทีไว้ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรทั้งน
เธอเดินหลังตรงไปที่หลังเวทีไม่นานนัก พิธีเปิดการประชุมสุดยอดทางธุรกิจก็เริ่มขึ้น พิธีกรยืนอยู่บนเวทีแล้วกล่าวเปิดงานอย่างคล่องแคล่วในไม่ช้า บรรยากาศของการประชุมสุดยอดทางธุรกิจก็ถึงจุดพีคของงาน"ผมเชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้ล้วนเป็นสุดยอดของสุดยอดในแวดวงธุรกิจของเรา ตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิม เราจะสุ่มเลือกผู้โชคดีขึ้นมาแบ่งปันประสบการณ์การบริหารธุรกิจ"เมื่อพิธีกรพูดจบซ่งเซียงเซียงก็เดินออกมาจากหลังเวที หันไปมองหลีเกอด้วยสีหน้ามืดมนในใจก็คิดอะไรบางอย่างหลังจากนั้น เธอก็เดินไปหาคุณนายผู้ร่ำรวยกลุ่มนั้น แล้วก็แสดงสีหน้าเยาะเย้ย "เดี๋ยวรอดูได้เลย มีเรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นแน่"คุณนายผู้ร่ำรวยไม่เข้าใจว่าซ่งเซียงเซียงกำลังคิดจะทำอะไร จึงเตือนว่า "คุณหนูซ่ง อย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า"ซ่งเซียงเซียงเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยโสโดยไม่พูดอะไรในใจคิดว่าต้องทำให้หลีเกออับอายขายหน้าให้ได้แต่ในเวลานี้ พิธีกรบนเวทีกลับหันไปมองหลีเกอที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน"วันนี้เรามีบุคคลสำคัญผู้ทรงอิทธิพลมากท่านหนึ่งมาร่วมงานของเรา นั่นก็คือประธานบริษัทตี้เซิ่ง คุณหนูหลีเกอ ทางเราขอเชิญคุณหนูหลีเกอขึ้นมาแ
หลีเกอจ้องเขม็งมองเธอ ซ่งเซียงเซียงรู้สึกผิดจึงหดคอลงตีงูต้องตีที่หัวหลีเกอรู้ว่าซ่งเซียงเซียงกังวลสิ่งใดมากที่สุดดังนั้น เธอจึงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา"ถึงเวลาที่สมควรแก่การปฏิรูปบริษัทเหม่ยห่าวอิเล็กทริคแล้ว งานประชุมสุดยอดทางธุรกิจครั้งนี้ เธอถอนตัวไปเถอะ"เมื่อได้ยินแบบนั้นซ่งเซียงเซียงก็ร้อนรนขึ้นมาจริง ๆ"ไม่ได้"เธอโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว เหม่ยห่าวอิเล็กทริคเป็นความหวังเดียวของครอบครัว ถ้าเธอถอนตัวออกจากการประชุมทางธุรกิจครั้งนี้ บริษัทก็จะได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล"หลีเกอ ฉันจะยอมทำตามที่เธอต้องการทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้ ฉันให้ไม่ได้จริง ๆ"หลีเกอพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ตอนนี้ถ้าถอนตัวไปซะเราก็ยังพอจะประนีประนอมกันได้ แต่ถ้าไม่ยอม เมื่อถึงเวลาที่ต้องถูกบีบให้ถอนตัว คราวนี้เหม่ยห่าวอิเล็กทริคจะถึงคราวพินาศของจริง"ซ่งเซียงเซียงรู้สึกเข่าอ่อนความกลัวจากภายในจู่โจมทั่วทั้งร่าง ไม่คิดเลยว่าหลีเกอจะมีความคิดและกลยุทธ์ที่เฉียบคมแบบนี้ในเวลานี้เธอเสียใจจนแทบจะกลั้นใจตาย แต่ก็ยังพยายามต่อรอง "หลีเกอ เหม่ยห่าวอิเล็กทริคเป็นความหวังของครอบครัวเรา อย่าทำลายมันเลยนะ""ฉ
"คุณหนูหลี ผมทำธุรกิจส่งออก หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมมือกับคุณในอนาคตนะครับ""บริษัทของเราส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ฉันหวังว่าคุณหลีจะให้คำแนะนำแก่ฉันในอนาคต""..."เมื่อเผชิญกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นของผู้คน หลีเกอก็ยิ้มตอบอย่างสุภาพ ไม่วางตนโอ้อวดและไม่ดูถูกใคร จึงได้รับความชื่นชมจากผู้คนจำนวนมากแม้แต่นักธุรกิจหลายรายก็เสนอความร่วมมือกับหลีเกอโดยตรง หลีเกอก็ใช้โอกาสนี้กอบโกยคำสั่งซื้อจำนวนมากให้กับบริษัทตี้เซิ่งซ่งเซียงเซียงก็เฝ้าดูเหตุการณ์เหล่านี้อยู่ตลอดโลกทัศน์ของเธอพังทลายลงตั้งแต่หลีหานแนะนำตัวตนของหลีเกอเธอรู้สึกมึนงงไปหมดเมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงสมัยเรียน เธอกับเพื่อน ๆ ทั้งดูถูก เหยียดหยาม และพูดจาไม่ดีใส่หลีเกอสารพัดคิดแล้วก็ให้รู้สึกเสียใจจนแทบขาดใจทั้ง ๆ ที่มีทรัพยากรที่ดีขนาดนี้อยู่ใกล้ตัว แต่เธอกลับทำลายมันไปเอง"เซียงเซียง มัวยืนอยู่ตรงนี้ทำไม?""พ่อไม่ได้กำชับให้ลูกไปทำความรู้จักกับคุณหนูหลีหรอกเหรอ เพื่อจะได้หาคำสั่งซื้อเพิ่ม แล้วทำอะไรอยู่?"ซ่งฟู่ดึงซ่งเซียงเซียงมาตำหนิเบา ๆซ่งเซียงเซียงยังไม่รู้สึกตัว ตอนนี้เธอจิกเล็บลงไปในเนื้อตัวเองอย่างแ