วิเวียนยิ้มให้หลีเกอ แต่ความสนใจทั้งหมดของเธอกลับอยู่ที่ฟู่ซิวเป่ย "ไม่คิดว่าประธานฟู่จะมาด้วยตัวเองในครั้งนี้ บริษัทมีเดียเอเชียของเรายินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่งค่ะ การเดินทางคงเหนื่อยล้าน่าดู ฉันจะพาคุณไปที่โรงแรมก่อนนะคะ"ดวงตาของฟู่ซิวเป่ยหรี่ลงเล็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงรักษาระยะห่าง "ขอบคุณครับ ผู้จัดการวิเวียน"แต่พอเดินไปถึงรถตู้สองคันที่จอดอยู่ข้างหน้า วิเวียนก็หันไปบอกหลีเกอ"ประธานหลี เชิญขึ้นรถค่ะ"หลีเกอพยักหน้าเล็กน้อย เพิ่งจะนั่งลงบนรถได้ไม่นาน ฟู่ซิวเป่ยก็ตามเข้ามาแล้วนั่งลงข้าง ๆ หลีเกอทันทีแล้วหันไปบอกวิเวียนว่า "ผู้จัดการวิเวียน ผมกับประธานหลีนั่งรถคันเดียวกันได้ครับ"วิเวียนโกรธ!สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงระงับอารมณ์ของตัวเองเอาไว้"ได้ค่ะ ประธานฟู่ งั้นฉันจะนั่งรถอีกคันตามไป"ประตูรถปิดลง รถก็ค่อย ๆ เคลื่อนออกไป หลีเกอเม้มปาก พูดด้วยน้ำเสียงประชดเล็กน้อย "พี่ซิวเป่ย ผู้จัดการวิเวียนอยากนั่งรถคันเดียวกับคุณนะ ทำแบบนี้ไม่กลัวว่าจะทำให้สาวสวยเสียหน้าแย่เหรอ?"ฟู่ซิวเป่ยหันมองเธอแล้วเอื้อมมือไปลูบหัว“ในหัวน้อย ๆ นั่นคิดอะไรอยู่! อย่าเอาแต่คิดไปเอ
"เหลือห้องนี้ห้องเดียวแล้วค่ะ เราเลยจัดไว้ให้คุณฟู่"พูดจบ วิเวียนก็หยิบคีย์การ์ดห้องออกมาจากกระเป๋า สายตาอันเย้ายวนจับจ้องใบหน้าด้านข้างของเขา แล้วก็ยัดคีย์การ์ดใส่ในมือของฟู่ซิวเป่ยขณะที่ส่งสายตาเย้ายวนก็พูดจาล่อลวง"คุณฟู่ ฉันพักอยู่ห้องข้าง ๆ คุณนะคะ ยินดีต้อนรับถ้าคุณอยากแวะมาเยี่ยมเยียนทุกเมื่อ เผื่อเราจะได้แลกเปลี่ยนแนวคิดทางธุรกิจกันอย่างลึกซึ้ง..."พูดจบก็ไม่รอให้ฟู่ซิวเป่ยตอบ วิเวียนเดินส่ายสะโพกงอนงามจากไปฟู่ซิวเป่ยมองคีย์การ์ด วินาทีต่อมาก็โยนทิ้งลงถังขยะโดยไม่ลังเล เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กำลังจะโทรหาหลีเกอแต่ว่าหลีเกอลากกระเป๋าเดินทางวิ่งขึ้นมาชั้นบนพอดี เมื่อเห็นฟู่ซิวเป่ย หลีเกอก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น โยนกระเป๋าเดินทางทิ้งแล้วตรงเข้ามากอดฟู่ซิวเป่ย เสียงของเธอสั่นเทา "พี่ซิวเป่ย มี...มีหนู หนูตัวใหญ่..."หลีเกอกลัวจนหน้าซีดไปหมดตัวสั่นสะท้านฟู่ซิวเป่ยเห็นเธอทำท่าทางเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่ตกใจกลัว ก็อดไม่ได้ที่จะขำ"งั้นเข้าทางเลย คืนนี้พักที่ห้องผมดีกว่า"หลีเกอพยักหน้ารัว ๆ เหมือนลูกไก่จิกข้าว ไม่ลังเลเลยฟู่ซิวเป่ยปลอบเธอ "แค่หนูตัวเดียวเอง ไม่มีอะไรหรอก
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าในห้องนี้มีแค่เธอและฟู่ซิวเป่ยสองคน ใบหน้าของหลีเกอก็แดงเรื่อขึ้นมาในทันที ไม่ต้องคิดก็เดาออกฟู่ซิวเป่ยต้องเป็นคนอุ้มเธอเข้าไปนอนในห้องแน่ ๆ"โอ๊ย ยัยหลีเกอ เธอนี่มันแย่จริง ๆ..." หลีเกอพูดกับตัวเองด้วยความหงุดหงิด ไม่สนใจฟู่ซิวเป่ยที่อยู่ข้าง ๆ เลย ไล่เขาออกไปโดยตรงฟู่ซิวเป่ยงุนงง แต่ก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้เมื่อหลีเกอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ ฟู่ซิวเป่ยก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว หลีเกอถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วมานั่งที่โต๊ะอาหาร เริ่มกินอาหารเช้าอย่างจริงจังแต่เธอกินอาหารเช้าไปได้แค่ครึ่งทาง เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นหลีเกอนึกว่าเป็นฟู่ซิวเป่ยที่กลับมาแล้ว จึงลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู "พี่ซิวเป่ย ไม่ได้พกกุญแจออกไปเหรอคะ?"เสียงพูดหยุดชะงักลงทันทีเพราะคนที่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอไม่ใช่ฟู่ซิวเป่ย แต่เป็นวิเวียนที่ทำหน้าตาประหลาดใจเธอชี้ไปที่หลีเกอ สีหน้าโกรธจัด"คุณ… เมื่อคืนคุณพักที่นี่เหรอ?"หลีเกอทำหน้าไร้เดียงสา ถามกลับว่า “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?"วิเวียนโกรธจนพูดไม่ออก "คุณฟู่ล่ะ? เขาอยู่ไหน?"หลีเกอทำเหมือนไม่รู้เรื่อง "คุณฟู่ไม่อยู่ค่ะ ผู้จัดการวิเวียนมีอะไรคะ?"
"อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ แค่บังเอิญไปนามสกุลพ้องกันกับตระกูลหลี""ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ ดูจากลักษณะภายนอกของเธอสิ เหมือนคุณหนูไฮโซตรงไหน"วิเวียนหันไปมองตามที่เลขาฯ พูดเธอเห็นด้วยว่าเลขาฯ พูดถูก"ช่างเถอะ เป้าหมายของเราในวันนี้ไม่ใช่เธอ"ผู้ช่วยเข้าใจความหมาย "วางใจได้เลยค่ะ ผู้จัดการวิเวียน ฉันรู้ว่าเป้าหมายของคุณคือคุณฟู่ซิวเป่ย ประธานฟู่"วิเวียนพยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธเลขาฯ พูดต่อ "คุณฟู่ซิวเป่ย ประธานฟู่ยังเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมแบบนี้ ผู้จัดการวิเวียนต้องคว้าเอาไว้ให้อยู่หมัดเลยนะคะ ผู้ชายแบบนี้หายากมากเลยนะ เจอแล้วต้องรีบจับให้มั่น เพราะถ้าได้มาแล้ว ชีวิตจะก้าวกระโดดเลยล่ะค่ะ..."วิเวียนทำหน้าเย่อหยิ่ง"นั่นสิ ผู้ชายบางคนอาจกินโจ๊กหรือกับข้าวธรรมดาได้ แต่โดยเฉลี่ยก็ยังชอบผู้หญิงเซ็กซี่เย้ายวนอยู่ดี ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะเอาชนะเขาไม่ได้"พูดจบ วิเวียนก็เดินตามไปด้วยสีหน้ามั่นใจคณะเดินทางโดยรถตู้ไปที่บริษัทมีเดียเอเชีย ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในตานตง ภายในอาคารที่ทำการของบริษัทมีเดียเอเชียตกแต่งอย่างหรูหราหน้าประตูทางเข้ามีการติดป้ายไว้ว่า "ยินดีต้อนรับประธานหลี
หลีเกอหัวเราะเยาะ ความเย็นชาในดวงตาเต็มเปี่ยม"เป็นแค่เลขายังหยิ่งขนาดนี้ ฉันแทบมองไม่เห็นความจริงใจของบริษัทมีเดียเอเชียเลย""แต่ขอเตือนคุณสักหน่อยแล้วกัน ในเมื่อกล้าทำ ก็ต้องกล้ารับผิดชอบด้วย"หลีเกอพูดจบก็หันหลังเดินจากไปเลขาไม่สนใจเลยในสายตาเธอ หลีเกอก็แค่ขู่ไปอย่างนั้นอยู่ในแวดวงธุรกิจมานานขนาดนี้ เธอเจออะไรมาเยอะแยะถมเถ จึงไม่ได้ใส่ใจคำพูดของหลีเกอหลีเกอลงบันไดจากตึกมีเดียเอเชียโดยตรง กลับไปที่รถ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าแอปเล่นเกมภายในห้องประชุมทุกคนเงียบกริบฟู่ซิวเป่ยนั่งอยู่ที่ตำแหน่งประธาน ขมวดคิ้วไม่ยอมพูดอะไร บรรยากาศในห้องเย็นลงอย่างฉับพลันประธานบริษัทมีเดียเอเชียเช็ดเหงื่อบนหน้าผากถามอย่างระมัดระวัง "ประธานฟู่ คุณคิดว่าความร่วมมือระหว่างเราติดปัญหาตรงไหนหรือเปล่าครับ?"ฟู่ซิวเป่ยไม่ตอบแต่ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาผ่านไปยี่สิบนาทีแล้ว หลีเกอก็ยังมาไม่ถึงห้องประชุมอีกเหรอ?ทันใดนั้นเจิ้งหลิ่วก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว สีหน้าแตกตื่น "ประธานฟู่ครับ ผมไม่เห็นประธานหลีเลย"ฟู่ซิวเป่ยลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกแล้วเดินพรวดพราดออก
วิเวียนไม่พูดอะไรแต่ในใจก็คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างฟู่ซิวเป่ยกับหลีเกอเป็นอย่างไรกันแน่"ก๊อก ก๊อก" เสียงดังมาจากหน้าต่างรถ หลีเกอเงยหน้ามอง เห็นฟู่ซิวเป่ยมายืนอยู่นอกรถตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตอนนี้เกมในมือถือของเธอมาถึงช่วงเวลาสำคัญแล้ว เธอละสายตาจากหน้าต่าง กดปุ่มบนหน้าจออย่างคล่องแคล่วว่องไว เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ภายในไม่กี่วินาทีเมื่อเห็นตัวอักษร WIN กะพริบอยู่บนหน้าจอ หลีเกอจึงเก็บโทรศัพท์และเปิดประตูรถให้ฟู่ซิวเป่ย"พี่ซิวเป่ย!" หลีเกอมุ่ยปากไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดสายตาของฟู่ซิวเป่ยอ่อนลง จึงถามว่า "เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ ก็ปลีกตัวขึ้นรถมาเล่นเกมแบบนี้?"หลีเกอเกาหัวแล้วพูดว่า "ทำไงได้ มีคนบอกว่าฉันไม่คู่ควรที่จะเข้าไปในห้องประชุม แล้วก็กีดกันฉันไว้ข้างนอก..."เมื่อฟู่ซิวเป่ยได้ยินสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที"ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่อยากร่วมมือกับเราแล้ว งั้นก็ช่างมันเถอะ"หลังจากพูดจบ ฟู่ซิวเป่ยก้าวขึ้นไปนั่งบนรถบ้างสั่งให้คนขับออกรถทันทีเมื่อหลีเกอเห็นว่ารถค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไป ทิวทัศน์นอกหน้าต่างเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกแปลกประหลาดก็เกิดขึ้นในใจ ความรู
หลังจากที่เจิ้งหลิ่วและคณะจากไปเขาก็อดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ "นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ?! คนตาบอดหน้าไหนมันไปทำให้ประธานหลีไม่พอใจ รีบออกมาเสนอหน้าให้ฉันเห็นเดี๋ยวนี้!"ทุกคนมองหน้ากัน ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจสีหน้าของทุกคนเหมือนกำลังเผชิญกับศัตรู วิเวียนก็ไม่เคยเห็นเจ้านายตัวเองอยู่ในสภาพนี้มาก่อน จึงกลัวจนตัวสั่น"ประธานโจว ฉันเพิ่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดค่ะ เห็นว่ามีคนขวางคุณหลีไว้ที่หน้าห้องประชุม" เลขาฯ วิ่งออกมารายงานโจวจื่อหยางโกรธจนตัวสั่น"มันเป็นใคร! ใครกล้ากีดกันประธานหลี?"เลขาฯ ก้มหน้าลง จากนั้นก็ผลักเสี่ยวเฉิน เลขาของวิเวียนออกมา"เสี่ยวเฉิน?"เสี่ยวเฉินที่ถูกเรียกชื่อถูกผลักออกมาโดยตรง ลื่นล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรง แต่เธอก็ไม่สนใจความเจ็บปวด รีบพูดกับโจวจื่อหยาง "ประธานโจวคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่คิดว่า..."โจวจื่อหยางเตะเธอเข้าที่ไหล่ "คิดว่าอะไร คิดว่าอะไร?! ไม่รู้หรือไงว่านั่นคือประธานหลีจากเมืองปินเฉิง เธอนี่มันไม่มีหัวคิดเอาซะเลย บริษัทเลี้ยงเธอไว้ทำซากอะไรวะ!""ประธานโจว ฉันผิดไปแล้วค่ะ! ฉันรู้ตัวแล้วว่าฉันผิด ครั้งนี้ช่วยให้อภัยฉันได้ไหมคะ ข
ฟู่ซิวเป่ยลงมืออย่างรวดเร็ว ทั้งตี้เซิ่งและเอฟแอลกรุ๊ปประกาศยกเลิกความร่วมมือกับมีเดียเอเชียในเวลาเดียวกัน ทำให้ธุรกิจของมีเดียเอเชียหยุดชะงักไปเป็นแถววิเวียนมองสถานการณ์ภายในบริษัทที่วุ่นวายไปหมด แทบไม่เชื่อว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะผู้หญิงคนเดียวอย่างหลีเกอเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฉีอวิ๋นเทียน ซึ่งเป็นคนติดต่อกับเธอมาโดยตลอด "ปะ... ประธานฉีใช่ไหมคะ?"ฉีอวิ๋นเทียนที่ปลายสายไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในตานตง เขาตอบกลับไปตามมารยาท "ผู้จัดการวิเวียน ความร่วมมือครั้งนี้ราบรื่นดีใช่ไหมครับ?"วิเวียนไม่ได้ตอบคำถามของเขาโดยตรงแต่ถามกลับไปว่า "ประธานฉีคะ ฉันอยากถามคุณเรื่องหนึ่ง ประธานหลีของคุณมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษหรือเปล่า?"ฉีอวิ๋นเทียนพอได้ยินคำถามนี้ก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติเขาพูดว่า "เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ? ผู้จัดการวิเวียน"วิเวียนเม้มริมฝีปากตอบตามความจริง"ตี้เซิ่งและเอฟแอลกรุ๊ปยกเลิกความร่วมมือกับมีเดียเอเชียแล้วค่ะ"ฉีอวิ๋นเทียนตกใจมากเขาถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยคำถาม "นี่มันเรื่องอะไรกันครับ? ผู้จัดการวิเวียน คุณต้องให้เหตุผลที่มีน้ำหนักกับผมเดี๋ยวนี้"