คำพูดนี้เต็มไปด้วยความอ่อนแอบางสิ่งบางอย่างก็ไม่สามารถชดเชยด้วยคำพูดลอย ๆ ได้หลีเกอขมวดคิ้วมุมปากของเธอปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ "คนที่ทำผิดไม่ใช่คุณฮั่ว คุณฮั่วจะขอโทษแทนทำไมคะ?"ฮั่วจิ้นเฉิงส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า "คำขอโทษนี้แทนความผิดทั้งหมดของผมในอดีต!""พอเถอะ คุณฮั่ว!"หลีเกอพูดแล้วมองไปยังกัวเหลียนที่อยู่ไม่ไกลนัก "ฉันตั้งใจว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด""ได้ ผมสนับสนุนการตัดสินใจของคุณทุกอย่าง"คำพูดของฮั่วจิ้นเฉิงแสดงให้เห็นถึงทัศนคติของเขาอย่างชัดเจน กัวเหลียนตกใจ "จิ้นเฉิง แกจะร่วมมือกับผู้หญิงคนนี้ลงโทษอวิ๋นเจินงั้นเหรอ? คนที่นอนอยู่บนเตียงคือลูกพี่ลูกน้องของแกนะ!"ฮั่วจิ้นเฉิงไม่ยอมสบตา "ทุกคนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง""...อวิ๋นเจินไปทำอะไรนักหนาแกถึงได้ทำกับเธอแบบนี้! คนที่นอนเจ็บอยู่นั่นพี่สาวแกนะ!"กัวเหลียนโกรธจนตัวสั่น "ฉันไม่สนว่าพวกแกจะเข้าขากันยังไง แต่ห้ามแตะอวิ๋นเจินแม้แต่นิ้วเดียว"หลีเกอไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ บนใบหน้า "เราไม่ทำอะไรหรอก แต่ตำรวจไม่แน่..."เมื่อพูดจบ เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบสองนายก็เดินเข้ามา"ทางเราได้รับแจ้งว่า
ฟู่ซิวเป่ยกลับหัวเราะเสียงเย็น พูดชัดถ้อยชัดคำกลับไป "ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมาดูกัน ว่าใครมาก่อน แล้วใครกันแน่ที่มาทีหลัง!"ดวงตาของฮั่วจิ้นเฉิงไหววูบด้วยความสงสัย!"คุณฟู่ คำพูดของคุณหมายความว่ายังไง?"ฟู่ซิวเป่ยไม่คิดจะปิดบังเลย พูดตรงไปตรงมา "สามปีมันนานพอแล้ว ฮั่วจิ้นเฉิง ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมยกหลีเกอให้คุณอีก"คำพูดของฟู่ซิวเป่ยชัดเจนทุกคำ หลีเกอเงยหน้าขึ้นมองเขา รู้สึกเหมือนตัวเองพลาดอะไรบางอย่างไปฮั่วจิ้นเฉิงนิ่งฟังคำพูดของเขาจากนั้นก็ยิ้มหยัน"คุณน่ะเหรอ? คนแซ่ฟู่ อย่าลืมสิว่าที่นี่เป็นอาณาจักรของใคร?"ฟู่ซิวเป่ยตอบกลับอย่างไม่รีบร้อน "ถ้าพูดถึงเมื่อก่อน อำนาจทั้งหมดอาจจะเป็นของตระกูลฮั่ว""แต่ตอนนี้และในอนาคต คุณชายฮั่ว ลองวัดกันได้เลย!"บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นดินปืนมาคุพร้อมจะปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ!ฮั่วจิ้นเฉิงพยักหน้าเล็กน้อย ความรู้สึกเมื่อได้พบกับศัตรูที่สูสีกันนั้นเป็นอะไรที่ชวนให้เอาชนะมาก! เขาไม่ได้ต่อสู้กับใครที่แข็งแกร่งขนาดนี้มานานแล้ว"อยากแข่งกับผมงั้นเหรอ? ผม ฮั่วจิ้นเฉิง ไม่เคยแพ้ใครตั้งแต่เด็กจนโต...""หลีเกอ ผมจะต้องได้คุณคืนมา""ฟู่ซิวเป่ย ผมจะทำให้ค
ฟู่ซิวเป่ยจ้องมองตรงไปข้างหน้า สองมือจับพวงมาลัยแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งที่สุด"ทำตามหัวใจตัวเองเถอะ ต่อให้ในใจคุณไม่มีผม จะมองว่าผมเป็นพี่ชายตลอดไปก็ได้!""ไม่ต้องฝืนความรู้สึกตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ"หลีเกอรู้ดี ในโลกนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่เข้าใจเธอมากที่สุดเธอไม่อยากทำให้ความรู้สึกนี้ต้องสูญเปล่าดังนั้น เธอลองกล้าก้าวออกไปสักก้าวหนึ่งดีไหม?"...เข้าใจแล้วค่ะ พี่ซิวเป่ย"ฟู่ซิวเป่ยยิ้มปลอบ"...พรุ่งนี้ ผมจะให้ผู้รับผิดชอบโครงการตานตงของบริษัทมาที่ตี้เซิ่ง แล้วเราค่อยเซ็นสัญญากัน"หลีเกอเห็นว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างรวดเร็ว ครึ่งจังหวะหลังเธอถึงได้สติตอบสนอง"ได้สิคะ ประธานฟู่ ขอให้ความร่วมมือระหว่างเราราบรื่น"วันรุ่งขึ้นตัวแทนของบริษัทเอฟแอลกรุ๊ปก็มาที่บริษัทตี้เซิ่งแต่เช้าสิบโมงตรงผู้รับผิดชอบโครงการของทั้งสองบริษัทก็ลงนามในสัญญา"ประธานฟู่ ต่อจากนี้ไป สองบริษัทของเราถือเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ในด้านธุรกิจคงต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันไม่น้อยเลย" หลีเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม ฟู่ซิวเป่ยจ้องมองเธอ แล้วพูดว่า
สายตาของฟู่ซิวเป่ยมืดลงเขากำชับให้หลีเกอหยุดยืนอยู่เฉย ๆแล้วก็เดินอ้อมไปที่เบาะฝั่งคนขับคนขับสวมชุดผู้ป่วยในของโรงพยาบาลสักแห่ง ร่างกายผอมแห้ง เป็นผู้หญิง เลือดไหลออกมาจากบริเวณศีรษะ คว่ำหน้าฟุบพวงมาลัยอยู่ที่เบาะคนขับ ไม่ขยับเขยื้อนจนกระทั่งฟู่ซิวเป่ยผลักเธอให้หงายไปด้านหลัง ถึงมองเห็นใบหน้าของเธอ"เธอนั่นเอง..."หลีเกอก็มองเห็นคนที่อยู่บนเบาะคนขับเช่นเดียวกันฮั่วอวิ๋นเจิน"...เธอออกมาได้ยังไง แล้วเมื่อกี้เธอ…??"ความคิดร้ายแรงผุดขึ้นมาในหัว!"เธอถึงกับจะฆ่าฉันเลยเหรอ?" หลีเกอพึมพำเธอเพิ่งจะรู้ตัวก็ตอนนี้ทั้งหมดนี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ!มีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นการฆาตกรรม!ฮั่วอวิ๋นเจินอยากฆ่าเธอ?หัวใจหลีเกอเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว เสี้ยววินาทีเมื่อกี้นี้เธอเกือบ...ถ้าเมื่อกี้ฟู่ซิวเป่ยไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วช่วยผลักเธอออกไป ปกป้องเธอเอาไว้เธอคงจะ...หลีเกอไม่กล้าคิดฉากต่อจากนั้นแต่หัวใจของเธอกลับเต้นแรงเพราะอกสั่นขวัญแขวน!ฟู่ซิวเป่ยเข้าใจอารมณ์เธอดี เขาเดินไปโอบไหล่พร้อมกับปลอบโยนเธอ "ไม่เป็นไรนะ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว!"จังหวะนั้นเธอรู้สึกสบายใจขึ้นทันทีเจ้าหน้าที
หลังจากเขาแนะนำ หลีเกอก็รีบกล่าวทักทาย "สวัสดีค่ะ คุณหมอลู่"ลู่จื่อหมิงยิ้มแย้ม "โอ้โฮ ซิวเป่ย! แผลนายไม่ถึงกับร้ายแรงอะไรเลย แต่กลับมาใช้บริการห้องฉุกเฉิน! คนที่ไม่รู้เขาคงคิดว่านายเป็นอะไรไปแล้ว"เมื่อได้ยินว่าฟู่ซิวเป่ยไม่เป็นอะไร หลีเกอก็โล่งใจ"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ คุณหมอลู่ ขอบคุณมากนะคะ"ลู่จื่อหมิงหยิบผ้าก็อซและน้ำยาไอโอดีนมาทำแผลให้เขา "ถลอกนิดหน่อยครับ แต่คราวหน้าต้องระวังหน่อยนะ อย่าซุ่มซ่ามล้มวัดถนนอีก"หลังจากทำแผลเสร็จ ลู่จื่อหมิงก็พูดกับหลีเกอ"เสร็จแล้วครับ คุณหนูหลี เชิญไปชำระเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ได้เลย""ได้ค่ะ"หลีเกอเดินออกไป!ลู่จื่อหมิงมองตามแผ่นหลังเธอที่เดินออกไปไกลแล้ว จากนั้นก็พูดแซว "คุณชายฟู่ ถ้าฉันจำไม่ผิด เธอคือคุณหนูหลีเกอที่นายคิดถึงสุดหัวใจใช่ไหม?"ลู่จื่อหมิงพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ราวกับว่าได้รับรู้เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่จากนั้นก็พูดต่อ "ดูนายสิ ที่แท้ก็ขาดประสบการณ์เรื่องความรักนี่เอง สมควรแล้วที่ตามจีบมาหลายปีก็ยังไม่สำเร็จ จะจีบสาวทั้งที อย่าทำอะไรโง่ ๆ แบบนี้สิ"ฟู่ซิวเป่ยกระแอมไอเบา ๆ แล้วถามด้วยความอดทน"งั้นนายมีคำแนะนำดี ๆ บ้างไหมล
"ตอนนี้ตกลงร่วมมือกับเอฟแอลกรุ๊ปแล้ว ในช่วงแรกของโครงการ ฉันจะไปดูแลด้วยตัวเอง""คุณหลี ผมต้องไปกับคุณด้วยไหมครับ?"หลีเกอพยักหน้า "เตรียมตัวไว้ก็ดี เมื่อถึงเวลาจะได้ไปพร้อมกับเอฟแอลกรุ๊ปเลย อย่าลืมพาหัวหน้าทีมงานหลักไปด้วย""ได้ครับ คุณหลี ผมจะจัดการให้..."หลังจากตกลงเรื่องงานเรียบร้อย หลีเกอก็ส่งข้อความหาฟู่ซิวเป่ย แต่ไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวหลีเกอมองหมายเลขที่ปรากฏบนหน้าจอ แล้วรับสายด้วยสีหน้าเรียบเฉย"...หลีเกอ ได้ยินว่าคุณตกลงร่วมมือกับเอฟแอลกรุ๊ปแล้วเหรอ?"เสียงของฮั่วจิ้นเฉิงดังมาจากหูโทรศัพท์หลีเกอกลอกตามองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วพูดว่า "คุณฮั่วได้ข่าวไวจังนะคะ...""หลีเกอ แน่ใจแล้วเหรอที่จะเลือกเขาแต่ไม่เลือกผม ถ้าร่วมมือกับตระกูลฮั่วยังพอมีโอกาสมากกว่าอีกนะ"แต่หลีเกอกลับพูดว่า "คุณฮั่ว เรื่องนี้ฉันตัดสินใจไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงอีก"ฮั่วจิ้นเฉิงยังไม่ยอมแพ้!ตั้งแต่เด็กจนโต ฮั่วจิ้นเฉิงเคยแพ้ใครบ้าง"โครงการตานตงไม่ง่ายอย่างที่คิด ถ้าคุณจะไปตานตง ต้องระวังตัวให้มาก ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ตระกูลฮั่ว...""พอเถอะค่ะ คุณฮั่ว สิ่งที่ตี้เซ
ในโรงแรมหรูเสียงชายหญิงครวญครางกระเส่าดังออกมาไม่ขาดสายหลังจากเสร็จกิจ เฉียวซีอวิ๋นก็นั่งพิงอยู่ที่หัวเตียง จุดบุหรี่สูบเข้าปอดเต็มแรงชายที่นอนอยู่ข้าง ๆ เปลือยเปล่า ตระกองกอดเธอไว้ในอ้อมแขน พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย"...ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ลีลาแย่ลงเยอะเลยนะ ดูเหมือนชีวิตในคุกคงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่"เฉียวซีอวิ๋นพ่นควันบุหรี่ออกมา "อย่าพูดมาก! วันนี้ที่เรียกคุณมาเพราะมีเรื่องสำคัญ"ชายคนนั้นหัวเราะ"รู้น่า! เมื่อกี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญเหรอ?"เฉียวซีอวิ๋นมีสีหน้าเคร่งเครียด "ฮั่วจิ้นเฉิงน่าจะสงสัยฉันแล้ว แต่ตอนนี้เขายังไม่มีหลักฐานอะไร"ชายคนนั้นเริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอ แล้วพูดว่า "ไม่มีหลักฐานก็ไม่เห็นต้องกลัว ระวังตัวไว้ก็พอ"เฉียวซีอวิ๋นสะบัดมือออก "ยังไงฉันก็ต้องเป็นคุณผู้หญิงฮั่วให้ได้! ถ้าไม่ได้ ก็ต้องทำให้นังชั่วหลีเกอนั่นได้ลิ้มรสชีวิตในคุก"ชายคนนั้นยิ้มมุมปาก เชยคางเธอขึ้น "คิดถึงผู้ชายคนอื่นตอนนอนอยู่บนเตียงกับฉัน ไม่ดีเลยนะ""ตอนนั้นลงทุนไปตั้งเยอะ แต่ก็ไม่ได้ใจฮั่วจิ้นเฉิง แถมยังทำให้ตระกูลตัวเองพังพินาศอีก"ได้ยินอย่างนั้น เฉียวซีอวิ๋นก็รู้สึกหงุดหงิดเธอ
จู่ ๆ เฉียวซีอวิ๋นก็มีหนทาง"พูดมาซิว่ามีแผนดี ๆ อะไรบ้าง?"ชายหนุ่มขยับขึ้นไปหาเธอโดยตรง กดร่างเธอลงนอน แล้วกระซิบข้างหูอย่างยั่วยวน "อยากรู้ก็ต้องปรนเปรอฉันให้เต็มอิ่มก่อน"สิ้นคำพูด อากาศภายในห้องก็เริ่มอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความเร่าร้อนอีกครั้ง......เช้าวันรุ่งขึ้นหลีเกอจัดกระเป๋าเสร็จตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนออกเดินทาง เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากหลีหาน "น้องสี่ ได้ยินว่าเธอกำลังจะไปตานตงเหรอ?"หลีเกอรู้ว่าไม่มีอะไรปิดบังหลีหานได้ จึงตอบตามตรง "ค่ะ ไปกับพี่ซิวเป่ย""พี่มีเพื่อนอยู่ที่ตานตงพอดี ถ้ามีเรื่องอะไรก็ไปหาเขาได้"หลีเกอพยักหน้า "รู้แล้วค่ะพี่ใหญ่! ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ไม่ต้องห่วงฉันหรอก"หลีหานยังไม่วางใจ "ผู้ช่วยเจิ้งไปด้วยไหม?""เพื่อนร่วมงานที่บริษัทจะตามไปทีหลังในวันพรุ่งนี้ค่ะ นัดเจอกันที่ตานตง"เมื่อได้ยินหลีเกอพูดแบบนั้น หลีหานก็วางใจขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยก็มีเจิ้งหลิ่วและฟู่ซิวเป่ยคอยดูแลอีกแรง คงไม่เกิดปัญหาอะไรใหญ่โตเขากำชับเพิ่มเติมอีกสองสามประโยค"เธอเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก พี่ไม่ก้าวก่ายอะไร แต่เวลาออกไปข้างนอก ความปลอดภัยต้องมาก่อน""
เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างกายของผู้หญิงกลุ่มนี้ก็สั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเคยลิ้มรสความโหดเหี้ยมของแส้มาก่อนในเวลานี้ เฉวียนเย๋ หัวหน้ากลุ่มก็เดินออกมาดวงตาไร้ความรู้สึกจ้องมองหลีเกอ "ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะเก่งขนาดนี้… ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็หนีออกมาได้แล้ว"หลีเกอมองเขาอย่างเย็นชา น้ำเสียงไร้ความอบอุ่น"ปล่อยเราไป ไม่งั้นฉันจะถล่มที่นี่ให้ราบเป็นหน้ากลอง"ชายคนนั้นกลับหัวเราะราวกับได้ยินเรื่องตลก แล้วก็ตบมือ เดินเข้ามาหาหลีเกอต้องยอมรับว่าหลีเกอมีเครื่องหน้าที่สวยมาก แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมสมบุกสมบันแบบนี้ แต่ก็ยังคงมีความสวยที่แตกต่างออกไป นางฟ้านางสวรรค์แบบนี้ ถ้าพาไปขายในตลาดมืดคงจะได้ราคาดีไม่น้อยแต่ก็เท่านั้นแหละ สวยก็ส่วนสวย แต่กลับเป็นกุหลาบมีหนาม"ปล่อยพวกเธอไปเหรอ ฝันไปเถอะ"พูดจบ เขาก็โบกมือให้บอดี้การ์ดสองสามคนเดินเข้าไปแต่ในเวลานี้ลูกน้องอีกคนก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา "พี่เฉวียน ไม่ดีแล้ว บาร์ของเราถูกปิดล้อมแล้ว"สีหน้าของพี่เฉวียนเปลี่ยนไปทันที ตะโกนด้วยความโกรธ “ได้ยังไงวะ?!""คำสั่งของตระกูลหลี ตระกูลหลีมหาเศรษฐีครับ"พี่เฉวียนคว้าค
"จะทำยังไงดี พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะถูกส่งตัวออกไปแล้ว… จะไม่มีวันได้เจอครอบครัวอีกแล้วใช่ไหม?""ฮือฮือฮือ ฉันไม่อยากตาย ใครก็ได้ช่วยเราที""..."พูดจบก็มีเสียงสะอื้นดังระงมหลีเกอเห็นภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าท่ามกลางสังคมที่เจริญแล้วเช่นนี้ จะยังมีเรื่องราวมืดดำแบบนี้ซุกซ่อนอยู่สายตาของเธอเหลือบมองไปตามเสียงสะอื้นแต่ในวินาทีถัดมา เธอกลับสบเข้ากับดวงตาคู่หนึ่งที่เย็นชาอย่างมาก ซึ่งขัดกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าหญิงสาวดังกล่าวดูอายุประมาณสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี แต่กลับมีความเยือกเย็นและเฉลียวฉลาดเหมือนผู้ใหญ่ใบหน้าของเธอไร้อารมณ์ แต่ดวงตากลับจ้องมองหลีเกอราวกับต้องการจะมองให้ทะลุปรุโปร่งทั้งสองฝ่ายต่างเงียบ ไม่พูดอะไรผ่านไปครึ่งชั่วโมงหญิงสาวจึงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจนัก "คุณจะช่วยเราออกไปได้จริง ๆ เหรอ?"หลีเกอตอบอย่างมั่นใจ "เชื่อฉันสิ เราต้องออกไปได้แน่นอน"ประโยคนี้เปรียบเสมือนผู้ไถ่บาปที่ทำให้บรรดาหญิงสาวมีความหวัง แต่ในวินาทีถัดมา หญิงสาวก็เห็นว่าหลีเกอถูกมัดมือมัดเท้าอยู่ความหวังที่เพิ่งผุดขึ้นดับวูบลงไปหลีเกอลดสายตาลง
ชายในห้องเดินออกมาหลังจากนั้น เมื่อเห็นหลีเกอก็ตาเป็นประกาย "โอ้โห นี่มันของดีจากไหนกัน..."บางคนจำหลีเกอได้ว่าเป็นคนที่เข้ามาพร้อมกับฉีอวิ๋นเทียน จึงกระซิบบอกชายคนนั้นว่า "พี่เฉวียน คนนี้เป็นแขกที่คุณชายฉีพามาครับ"เมื่อชายคนนั้นได้ยินชื่อฉีอวิ๋นเทียน สีหน้าก็เปลี่ยนไปแล้วก็เดินเข้ามาหาหลีเกอ "เมื่อกี้เธอเห็นอะไร ได้ยินอะไรบ้าง?"หลีเกอจ้องเขม็งมองเขา ไม่มีแววความกลัวในดวงตา "พวกคุณทำธุรกิจอย่างเปิดเผย แต่ที่ไหนได้ กลับมีธุรกิจมืดอีกอย่างหนึ่งซ่อนอยู่ ผู้หญิงในห้องนั้น พวกคุณลักพาตัวมาใช่ไหม?"ชายคนนั้นยิ้ม แววตาแฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม "ดูเหมือนวันนี้เธอคงไม่อยากออกไปจากที่นี่แล้ว...แต่ก็ดี ของดีแบบเธอน่ะหายาก"พูดจบก็โบกมือให้ลูกน้องเดินเข้ามาหลีเกอหัวเราะเยาะ "อยากจับฉัน ก็ลองดูสิว่าพวกนายมีปัญญาหรือเปล่า"ทันทีที่พูดจบ ชายร่างกำยำหลายคนก็กรูเข้ามา หลีเกอมีสีหน้าเคร่งขรึม ลงมือสวนกลับอย่างรวดเร็วและแม่นยำ เตะตัดขาของคู่ต่อสู้ทุกการออกแรงไม่มีความลังเลเลย เตะจนคู่ต่อสู้ถอยหลังไปหลายก้าวชายที่ถูกเรียกว่าพี่เฉวียนรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที "ดูเหมือนตั้งใจมาหาเรื่องสินะ"พูดจบ
ฉีอวิ๋นเทียนพยักหน้ารัวเร็ว "แหงสิ นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญ""แต่ฉันสังหรณ์ใจว่าคุณน่าจะได้เจอกับเนื้อคู่ของคุณเร็ว ๆ นี้"เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉีอวิ๋นเทียนก็ตกใจ "เทพธิดา ล้อกันเล่นหรือเปล่า?"หลีเกอขมวดคิ้ว "ทำไม ไม่เชื่อเหรอ?""ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ในโลกนี้ นอกจากคุณแล้ว หายากมากที่จะมีใครทำให้หัวใจผมสั่นไหวอีก"ฉีอวิ๋นเทียนพูดจบก็ถอนหายใจ "แต่เมื่อเทียบกับตัวผมแล้ว ความสุขของเทพธิดาสำคัญกว่า..."เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ตัดสินใจลาออกจากตี้เซิ่งโดยไม่ลังเล เพื่อให้เธอมีความสุขส่วนความสุขของตัวเขาเองนั้นไม่สำคัญเลย"คืนนี้มีงานเลี้ยง คุณก็อยู่ร่วมด้วยสิ"หลีเกอเพิ่งจะปฏิเสธ ฉีอวิ๋นเทียนกลับทำหน้าตาอ้อนวอน "เทพธิดา มาเถอะนะ ไม่งั้นปู่ผมไม่ยอมปล่อยผมไปแน่ ๆ เลย..."หลีเกอหัวเราะคิกคัก เมื่อนึกว่าฉีอวิ๋นเทียนผู้ไม่เคยหวาดกลัวอะไรเลย กลับมีลาสบอสที่ทำให้เขากลัวหัวหดนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ดี ในที่สุดเธอก็ตอบตกลง "ได้"ฉีอวิ๋นเทียนดีใจมาก "ตกลงตามนั้นนะ ไว้เจอกันตอนเย็น"...ตกเย็นหลีเกอเปลี่ยนไปสวมชุดลำลองสบาย ๆ แล้วก็ออกจากบ้าน สถานที่ที่ฉีอวิ๋นเทียนจั
เมื่อได้ยินคำพูดของคุณนายคนนั้น นิ้วของซ่งเซียงเซียงก็จิกเข้าไปในเนื้ออย่างเงียบ ๆ แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเอาซะเลยในเวลานี้ ซ่งฟู่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน เดินตรงมาหาซ่งเซียงเซียงได้ยินเสียงตบดัง ‘เผียะ’ ซ่งเซียงเซียงเอามือปิดหน้าตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา ปากก็พูดด้วยความน้อยใจ "พ่อ ตบฉันทำไมคะ!"ซ่งฟู่โกรธมากเมื่อครู่หลี่หานได้ส่งคนมาเตือนเขาแล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะซ่งเซียงเซียงพยายามกลั่นแกล้งหลีเกอ"ซ่งเซียงเซียง แกนี่ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ก่อนมาฉันเคยเตือนแกว่ายังไง? กล้าดียังไงถึงกล้าไปยุ่งกับคุณหนูหลี!"ซ่งเซียงเซียงปิดหน้าไม่น่าเชื่อว่าพ่อที่รักเธออย่างสุดหัวใจ กลับลงมือตบหน้าเธอต่อหน้าคนอื่นเพราะหลีเกอคนเดียวเธอหลุบตาลง ไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับโทษทุกอย่างว่าเป็นความผิดของหลีเกอซ่งฟู่จ้องเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวสุดขีด แล้วพูดต่อว่า "ถ้าแกทำให้คุณหนูหลีขุ่นเคือง บริษัทเหม่ยห่าวอิเล็กทริคของเราต้องล่มสลายแน่ รู้ตัวไหมว่าแกทำอะไรลงไป!"ซ่งเซียงเซียงกัดริมฝีปากแน่น ไม่ยอมพูดอะไรซ่งฟู่เห็นว่าเธอยังไม่สำนึก จึงพูดตรง ๆ "อย่ามาทำให้ฉันขายหน้าอยู่ที่นี่ รีบกลับไปเดี๋ยวน
ในทันใดนั้นเอง หลีเกอก็เริ่มบอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การบริหารของตัวเองอย่างคล่องแคล่วคำพูดของเธอทั้งแฝงอารมณ์ขันและดึงดูดความสนใจ ไม่โอ้อวดมากเกินไปและไม่ถ่อมตัวจนน่ารำคาญ จับจุดได้อย่างเหมาะเจาะการอธิบายง่าย ๆ สิบนาที ทุกคนในที่นั้นกลับพร้อมใจกันตั้งใจฟัง จนกระทั่งจบลง ห้องประชุมก็เงียบไปหลายวินาที ก่อนที่จะปรบมือกันอย่างกึกก้อง"คุณหนูหลีเป็นอัจฉริยะทางธุรกิจจริง ๆ!""มีหลักแนวคิดที่ชัดเจน ผ่อนคลายและเข้มงวดในเวลาเดียวกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอบริหารตี้เซิ่งให้เจริญรุ่งเรืองได้""คุณหนูหลีเป็นคนที่เราควรเรียนรู้เอาเป็นเยี่ยงอย่างจริง ๆ! ถึงเธอจะยังอายุน้อย แต่แนวคิดทางธุรกิจของเธอก็มมมีความเป็นปัจเจกสูงมาก""ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกับคุณหนูหลี จะถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยล่ะสำหรับพวกเรา!""..."เมื่อได้ยินเสียงสรรเสริญรอบข้าง ซ่งเซียงเซียงก็อึ้งงันไปเดิมทีเธอต้องการหาทางโจมตีหลีเกอแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่คาดคิดว่าจะทำให้เธอโด่งดังในครั้งนี้เป็นไปไม่ได้!เป็นไปได้ยังไงเนี่ย?"เดี๋ยวก่อน..."ซ่งเซียงเซียงส่งเสียงเรียกหลีเกอที่กำลังจะลงจากเวทีไว้ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรทั้งน
เธอเดินหลังตรงไปที่หลังเวทีไม่นานนัก พิธีเปิดการประชุมสุดยอดทางธุรกิจก็เริ่มขึ้น พิธีกรยืนอยู่บนเวทีแล้วกล่าวเปิดงานอย่างคล่องแคล่วในไม่ช้า บรรยากาศของการประชุมสุดยอดทางธุรกิจก็ถึงจุดพีคของงาน"ผมเชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้ล้วนเป็นสุดยอดของสุดยอดในแวดวงธุรกิจของเรา ตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิม เราจะสุ่มเลือกผู้โชคดีขึ้นมาแบ่งปันประสบการณ์การบริหารธุรกิจ"เมื่อพิธีกรพูดจบซ่งเซียงเซียงก็เดินออกมาจากหลังเวที หันไปมองหลีเกอด้วยสีหน้ามืดมนในใจก็คิดอะไรบางอย่างหลังจากนั้น เธอก็เดินไปหาคุณนายผู้ร่ำรวยกลุ่มนั้น แล้วก็แสดงสีหน้าเยาะเย้ย "เดี๋ยวรอดูได้เลย มีเรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นแน่"คุณนายผู้ร่ำรวยไม่เข้าใจว่าซ่งเซียงเซียงกำลังคิดจะทำอะไร จึงเตือนว่า "คุณหนูซ่ง อย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า"ซ่งเซียงเซียงเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยโสโดยไม่พูดอะไรในใจคิดว่าต้องทำให้หลีเกออับอายขายหน้าให้ได้แต่ในเวลานี้ พิธีกรบนเวทีกลับหันไปมองหลีเกอที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน"วันนี้เรามีบุคคลสำคัญผู้ทรงอิทธิพลมากท่านหนึ่งมาร่วมงานของเรา นั่นก็คือประธานบริษัทตี้เซิ่ง คุณหนูหลีเกอ ทางเราขอเชิญคุณหนูหลีเกอขึ้นมาแ
หลีเกอจ้องเขม็งมองเธอ ซ่งเซียงเซียงรู้สึกผิดจึงหดคอลงตีงูต้องตีที่หัวหลีเกอรู้ว่าซ่งเซียงเซียงกังวลสิ่งใดมากที่สุดดังนั้น เธอจึงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา"ถึงเวลาที่สมควรแก่การปฏิรูปบริษัทเหม่ยห่าวอิเล็กทริคแล้ว งานประชุมสุดยอดทางธุรกิจครั้งนี้ เธอถอนตัวไปเถอะ"เมื่อได้ยินแบบนั้นซ่งเซียงเซียงก็ร้อนรนขึ้นมาจริง ๆ"ไม่ได้"เธอโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว เหม่ยห่าวอิเล็กทริคเป็นความหวังเดียวของครอบครัว ถ้าเธอถอนตัวออกจากการประชุมทางธุรกิจครั้งนี้ บริษัทก็จะได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล"หลีเกอ ฉันจะยอมทำตามที่เธอต้องการทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้ ฉันให้ไม่ได้จริง ๆ"หลีเกอพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ตอนนี้ถ้าถอนตัวไปซะเราก็ยังพอจะประนีประนอมกันได้ แต่ถ้าไม่ยอม เมื่อถึงเวลาที่ต้องถูกบีบให้ถอนตัว คราวนี้เหม่ยห่าวอิเล็กทริคจะถึงคราวพินาศของจริง"ซ่งเซียงเซียงรู้สึกเข่าอ่อนความกลัวจากภายในจู่โจมทั่วทั้งร่าง ไม่คิดเลยว่าหลีเกอจะมีความคิดและกลยุทธ์ที่เฉียบคมแบบนี้ในเวลานี้เธอเสียใจจนแทบจะกลั้นใจตาย แต่ก็ยังพยายามต่อรอง "หลีเกอ เหม่ยห่าวอิเล็กทริคเป็นความหวังของครอบครัวเรา อย่าทำลายมันเลยนะ""ฉ
"คุณหนูหลี ผมทำธุรกิจส่งออก หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมมือกับคุณในอนาคตนะครับ""บริษัทของเราส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ฉันหวังว่าคุณหลีจะให้คำแนะนำแก่ฉันในอนาคต""..."เมื่อเผชิญกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นของผู้คน หลีเกอก็ยิ้มตอบอย่างสุภาพ ไม่วางตนโอ้อวดและไม่ดูถูกใคร จึงได้รับความชื่นชมจากผู้คนจำนวนมากแม้แต่นักธุรกิจหลายรายก็เสนอความร่วมมือกับหลีเกอโดยตรง หลีเกอก็ใช้โอกาสนี้กอบโกยคำสั่งซื้อจำนวนมากให้กับบริษัทตี้เซิ่งซ่งเซียงเซียงก็เฝ้าดูเหตุการณ์เหล่านี้อยู่ตลอดโลกทัศน์ของเธอพังทลายลงตั้งแต่หลีหานแนะนำตัวตนของหลีเกอเธอรู้สึกมึนงงไปหมดเมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงสมัยเรียน เธอกับเพื่อน ๆ ทั้งดูถูก เหยียดหยาม และพูดจาไม่ดีใส่หลีเกอสารพัดคิดแล้วก็ให้รู้สึกเสียใจจนแทบขาดใจทั้ง ๆ ที่มีทรัพยากรที่ดีขนาดนี้อยู่ใกล้ตัว แต่เธอกลับทำลายมันไปเอง"เซียงเซียง มัวยืนอยู่ตรงนี้ทำไม?""พ่อไม่ได้กำชับให้ลูกไปทำความรู้จักกับคุณหนูหลีหรอกเหรอ เพื่อจะได้หาคำสั่งซื้อเพิ่ม แล้วทำอะไรอยู่?"ซ่งฟู่ดึงซ่งเซียงเซียงมาตำหนิเบา ๆซ่งเซียงเซียงยังไม่รู้สึกตัว ตอนนี้เธอจิกเล็บลงไปในเนื้อตัวเองอย่างแ