แชร์

บทที่ 1 มักกะลีผล - 25%

"โอย..."

มัลลิกาหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตนร่วงลงมาทับใครคนหนึ่ง และตอนนี้ก็กำลังนั่งทับร่างเขาอยู่ เธอก้มลงมองแล้วก็ต้องอุทานออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ

"ว้าย!" หญิงสาวพยายามกระถดตัวถอยมาด้านหลังพร้อมกับรวบกระโปรงนักศึกษาเข้าหาตัว เพราะตอนนี้กระโปรงพลีตของเธอคลุมศีรษะของเขาอยู่ แต่เพราะหัวเข่าที่เจ็บจากแรงกระแทกจึงทำให้เคลื่อนไหวไม่คล่องตัวเท่าไรนัก จึงเผลอหลุดเสียงร้องโอดโอยออกมาอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน คนที่เป็นเบาะเนื้อรองรับอยู่ด้านล่างก็รู้สึกโลกสว่างขึ้นมาทันทีเมื่อกระโปรงที่คลุมหน้าอยู่เมื่อครู่ถูกดึงออกไปพร้อมกับกางเกงในลายหน้าแมว จากนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยภาพใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดนักศึกษา ซึ่งตอนนี้เจ้าหล่อนกำลังนั่งทับท้องเขาอยู่ และมีทีท่าว่าจะถอยร่นต่ำลงไปเรื่อย ๆ

"เดี๋ยวก่อน หยุด! อย่าเพิ่งขยับ" เขารีบห้ามเธอเอาไว้ เพราะขืนปล่อยให้หญิงสาวถอยสะโพกลงไปมากกว่านี้ ตำแหน่งของ "แมวน้อย" ของเธอกับ "ปืนใหญ่" ของเขาอาจจ๊ะเอ๋กันได้

"หนูขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ" หญิงสาวยกมือไหว้เขาด้วยสีหน้าราวกับจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ เขาจึงเพิ่งรู้ตัวว่าเมื่อครู่ตนเสียงดังมากไปหน่อยจนเธอคิดว่าเขาโกรธ

"ไม่ใช่ พี่ไม่ได้ดุเธอนะอย่าเข้าใจผิด แต่ที่ไม่อยากให้ขยับก็เพราะว่า...เอ่อ...เพราะหลังพี่ยอกนิดหน่อยน่ะ จุกท้องด้วยก็เลยอยากให้อยู่เฉย ๆ ก่อน"

หญิงสาวได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้าง เธอก้มหน้าลงมองท้องของเขา จึงเพิ่งเห็นว่าตอนนี้ตนเองกำลังนั่งคร่อมทับท้องเขาอยู่ เธอเองก็ไม่ใช่เด็กน้อยไม่ประสีประสา เป็นถึงนักศึกษาปีสี่แล้วจึงเข้าใจดีว่า "ท่า" ของเธอกับเขาตอนนี้หมิ่นเหม่เพียงใด หากมีใครมาเห็นเข้าคงไม่ดีแน่

"หนูขอโทษค่ะ หนูจะรีบลงนะคะ"

มัลลิกาลนลานลงจากตัวภาวินอย่างทุลักทุเล แต่เพราะเจ็บเข่าจึงต้องหาวิธีลงให้ดี หญิงสาวโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วใช้มือทั้งสองข้างช่วยพยุงตัวโดยเอามือยันไว้กับพื้น จากนั้นก็ค่อย ๆ ไถลตัวลงไปด้านซ้ายจนขาและสะโพกของด้านนั้นแตะพื้นหญ้าได้แล้ว เธอจึงลากขาขวาที่กำลังพาดเอวชายหนุ่มอยู่ตามมาด้วย โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตั้งแต่ตอนที่ไถลตัวลงไปจนกระทั่งลากขาอีกข้างผ่านตัวเขานั้น ทั้งสีหน้าและทุกอิริยาบถถูกประทับไว้ในสายตาภาวินทั้งหมด

เธอมีผิวเนียนใส ใบหน้ารูปไข่ไร้เครื่องสำอาง จมูกโด่งกำลังดี หน่วยตาเรียว หางตาชี้ขึ้นเล็กน้อยเหมือนตาหงส์ คิ้วของเธอเข้มดกดำเหมือนคิ้วผู้ชาย และเรียวยาวพาดไปตั้งแต่หัวตาจนถึงหางตา เธอไม่ได้กันคิ้วให้เรียวเล็กเหมือนหญิงสาวคนอื่น ๆ จึงยิ่งทำให้ส่วนบนของใบหน้าโดดเด่นสะดุดตาทันทีที่มอง ริมฝีปากก็อวบอิ่มเป็นสีชมพูธรรมชาติ ไม่มีการแต่งแต้มสีสันลงไปแม้แต่น้อย ทุกอย่างเป็นธรรมชาติสรรค์สร้างมาทั้งหมด และทำให้เขาได้แต่มองอย่างเพลิดเพลิน

"โอย..." นั่นไง โดนเข้าจนได้!

ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ ไม่กล้าพูดออกมาให้สาวน้อยตรงหน้าได้ยิน สาเหตุเพราะตอนที่เธอลากขาผ่านตัวเขาไปนั้น ขาเรียว ๆ ของเธอมันลากผ่านปืนใหญ่ของเขาไปด้วย

เขาไม่ใช่คนทะลึ่งหรือลามก และยิ่งไม่ใช่คนที่หื่นไม่รู้เวล่ำเวลา แต่ท่าโน้มตัวมาด้านหน้าทั้งที่กำลังนั่งคร่อมทับตัวเขาอยู่ หนำซ้ำยังมีเสียงครางผสานกับเสียงลมหายใจเบา ๆ ตอนเธอตั้งหน้าตั้งตาจะลงไปจากตัวเขานั้นช่างดูเซ็กซี่และร้อนแรงจนเขาอดจินตนาการเกินเลยไปไม่ได้จริง ๆ

"โอ๊ย!" ภาวินร้องได้แค่นั้นก็คู้ตัวงอเป็นกุ้งแล้วหันไปอีกทางทันที ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดของเขาทำให้หญิงสาวถึงกับหน้าเสีย

"คุณอา! คุณอาเป็นอะไรคะ" เธอถามเสียงสั่นพลางมองสำรวจร่างกายของเขาไปด้วย เห็นชายหนุ่มเอามือกุมเป้ากางเกงไว้แล้วก็ต้องยกมือขึ้นปิดปากแน่น ก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยออกแล้วถามอย่างไม่แน่ใจนัก

"เมื่อกี้...โดนหรือคะ" เธอรู้อยู่ว่าจังหวะที่ชักเท้ากลับมา ส้นเท้าของตนไปกระแทกถูกจุดยุทธศาสตร์ของเขาเข้า

"เต็ม ๆ เลย" เสียงอู้อี้ของชายหนุ่มตอบมาไม่ดังเท่าไร แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้มัลลิการู้สึกผิดยิ่งขึ้นไปอีก เธอยกมือขึ้นไหว้เขาอีกครั้งแล้วพูดเสียงอ่อยอย่างสำนึกผิดว่า

"หนูขอโทษนะคะคุณอาที่ทำให้ต้องเจ็บตัวขนาดนี้"

ภาวินชะงักนิ่งอยู่กับที่ทันที ความเจ็บและจุกตรงส่วนนั้นยังคงมีอยู่ แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับสรรพนามที่เธอใช้เรียกเขา

"เมื่อกี้เธอเรียกพี่ว่าอะไรนะ" เขาถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ

มัลลิกายังคงพนมมือไหว้อยู่อย่างนั้น คิ้วได้รูปเลิกขึ้นอย่างแปลกใจก่อนจะตอบไปตามตรง

"เรียกคุณอาค่ะ ก็คุณอาเป็นพ่อของหนูพราวไม่ใช่หรือคะ หนูเรียกคุณว่าคุณอาก็ถูกต้องแล้วนี่" ตอบเสร็จก็นึกขึ้นได้ว่าบางทีชายหนุ่มตรงหน้าอาจจะไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามานับญาติด้วยจึงรีบพูดต่อ

"แต่ถ้าคุณไม่สะดวก หนูเรียกคุณว่าคุณพ่อหนูพราวก็ได้นะคะ หนูชื่อมะลิค่ะ อยู่บ้านข้าง ๆ นี่"

"มะ...ไม่ใช่อย่างนั้น ความจริงแล้วเรียก..." เขายังพูดไม่ทันจบ คำว่า "พี่" ยังไม่ทันหลุดจากปาก เสียงใสของบุตรสาวสุดที่รักก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อน

"พี่มะลิขา อุ๊ยคุณพ่อ ทำไมคุณพ่อนอนตรงนั้นล่ะคะ" พราวนภาเดินเข้ามาหาพร้อมถือตะกร้าใบไม่ใหญ่นัก

"คุณพ่อเห็นแดดมันร่มแล้วก็เลยอยากนอนตากลมเย็น ๆ ค่ะ หนูพราวฉุดแขนคุณพ่อให้ลุกขึ้นนั่งหน่อยสิลูก" ภาวินยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเพื่อให้บุตรสาวตัวน้อยดึงมือ พราวนภาเห็นดังนั้นจึงรีบวางตะกร้าไว้ข้างตัวมัลลิกา จากนั้นก็จับมือทั้งสองข้างของบิดาแล้วออกแรงดึง

"อึ๊บบบบ" พราวนภาออกแรงฉุดบิดาให้ลุกขึ้นนั่งจนสำเร็จ ก่อนจะทรุดตัวนั่งกับพื้นหญ้าบ้าง

"ทำไมหนูพราวไปเอาตะกร้านานจังคะ" มัลลิกาอดถามไม่ได้ แต่คิดไปแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่เด็กน้อยไม่มาเห็นฉากหวาดเสียวระหว่างตนกับบิดาเมื่อครู่

"หนูพราวปวดอึค่ะก็เลยเข้าห้องน้ำก่อน พออึเสร็จก็เลยขอตะกร้ากับคุณย่า แล้วพี่มะลิเก็บมะม่วงได้กี่ลูกแล้วคะ" ถามจบก็หันมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นมะม่วงเลยแม้แต่ลูกเดียว

มัลลิกาทำหน้ารู้สึกผิด อุตส่าห์สัญญากับเพื่อนต่างวัยไว้ว่าจะเด็ดมะม่วงมาให้ แต่ตนกลับตกต้นไม้ หนำซ้ำยังทำให้เจ้าของบ้านเจ็บตัวอีก

"พี่มะลิของหนูตกต้นไม้ค่ะก็เลยเก็บมะม่วงไม่ได้ และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณพ่อขอสั่งห้ามหนูพราวกับพี่มะลิปีนต้นไม้อีกนะคะ มันอันตรายรู้ไหมลูก ถ้าตกลงมาขาหักหรือหัวแตกจะทำยังไงคะ คุณพ่อเป็นห่วงหนูนะไม่อยากให้หนูเจ็บตัว"

ภาวินยกตัวพราวนภาให้มานั่งบนตักแล้วก้มลงหอมแก้มอย่างแสนรัก พลางเหลือบมองไปทางหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่ตรงหน้า

มัลลิกามองมาที่เขากับพราวนภานิ่ง แต่ชายหนุ่มรู้ว่าเธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ของตน แววตาคู่นั้นมีหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกจนภาวินเดาไม่ออกว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรอยู่

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status