หน้าหลัก / โรแมนติก / เล่ห์หวนรัก / บทที่ 4 เรื่องที่พูดไม่ได้ - 25%

แชร์

บทที่ 4 เรื่องที่พูดไม่ได้ - 25%

ผู้เขียน: จรสจันทร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-16 11:00:21

ชินดนัยลอบมองไปทางจันทร์เจ้า เห็นหญิงสาวกำลังปิดสมุดบันทึกแล้วลุกขึ้นยืนโดยไม่มองหน้าเขาแม้แต่หางตาก็ได้แต่ลอบถอนหายใจด้วยความเสียดายและกลัดกลุ้ม อุตส่าห์ได้โอกาสคุยกับเธอดี ๆ แล้วแต่ก็มีเหตุให้ต้องล้มเหลวอีกจนได้

"คุณผู้หญิงจะรับกาแฟไหมคะ" จันทร์เจ้าถามหญิงสาวผู้มาใหม่อย่างนอบน้อม

"ไม่ดีกว่าค่ะ ขอแค่น้ำเปล่าก็พอ ขอบคุณนะคะ" รมิดายิ้มกว้างพลางเอนหลังพิงพนักโซฟา

"รอสักครู่นะคะ" จันทร์เจ้ายิ้มตอบแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเอมิกา เมื่อประตูห้องปิดลงแล้ว ชินดนัยก็หันไปหาคนที่นั่งข้างกายทันที

"คุณกำลังทำให้ลูกน้องของผมแตกตื่นนะดาด้า"

"แหม...ไม่เห็นเป็นอะไรเลยค่ะ ว่าแต่ผู้หญิงที่นั่งกับคุณเมื่อกี้คือใครคะ"

"คุณจันทร์เจ้า เลขาฯ ใหม่ของผมเองแหละ มาแทนคุณพรีมน่ะ"

เขาตอบเสร็จก็ถอนหายใจแผ่วอีกครั้ง ป่านนี้ไม่รู้ว่าจันทร์เจ้าจะคิดเลยเถิดไปไหนต่อไหนแล้ว

รมิดาพยักหน้าขึ้นลงช้า ๆ "อืม คนนี้ดูนิ่งดีนะ ท่าทางเป็นมืออาชีพแล้วก็ดูมีรสนิยมดีด้วย"

ชินดนัยยิ้มเมื่อได้ยินรมิดาเอ่ยชมจันทร์เจ้า เพราะกับพรีมหรือพริมา เลขานุการคนเก่าของเขานั้น ทันทีที่เจอหน้ากันครั้งแรก คนที่รสนิยมสูงลิบอย่างรมิดาเห็นแล้วไม่ชอบหน้าเอาเสียเลย

เสียงเคาะประตูดังขึ้นทั้งสองคนจึงหยุดคุยกัน เป็นจันทร์เจ้าที่เดินเข้ามาพร้อมกับน้ำเปล่าสองแก้ววางไว้ให้บนโต๊ะ

"ขอบคุณค่ะคุณจันทร์เจ้า" รมิดายิ้มให้อย่างเป็นมิตร

"ยินดีค่ะ" จันทร์เจ้าค้อมศีรษะและยิ้มให้เช่นกัน จากนั้นก็หันหลังกลับแล้วเดินออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูไว้ให้ตามเดิม

หลังจากที่ได้อยู่ตามลำพังกันอีกครั้ง ชายหนุ่มก็เข้าเรื่องสำคัญทันทีเพราะรู้ดีว่าการที่รมิดามาหาเขาถึงที่ทำงานวันนี้เพราะเรื่องอะไร

"ตกลงว่าไง ได้เรื่องอะไรบ้างไหม" เขายกกาแฟขึ้นมาดื่มหนึ่งอึก จากนั้นก็ตามด้วยน้ำเปล่า ส่วนคนถูกถามนั้นหลังจากที่ดื่มน้ำลงคอแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางมองหน้าเขาแล้วพูดว่า

"คุณรู้ไหมว่าเธอไม่ได้กินยามาเกือบสองอาทิตย์แล้ว"

ได้ยินอย่างนั้นชินดนัยก็เอนหลังพิงโซฟาราวกับคนหมดแรง เขายกมือขึ้นนวดขมับ สีหน้าแววตาบอกถึงความกลัดกลุ้มอย่างเห็นได้ชัด

"แต่ผมเห็นแผงยามันก็พร่องลงไปนะ เพราะทุกคืนถ้าไม่ได้กลับดึกผมจะเข้าไปหาเขาในห้องก่อน ทุกครั้งที่ถามว่ากินยารึยัง เขาก็ตอบว่ากินแล้วผมก็เลยไม่ได้เอะใจอะไร"

"เธอแกะยาไปจากแผงจริง แต่ไม่ได้กิน เธอแกะไปทิ้ง" รมิดาบอกไปตามตรง

"ผมก็ว่าอยู่แล้วเชียวว่าทำไมกินยาแล้วถึงอาการไม่ดีขึ้นเลย ผมถึงได้โทร. บอกให้คุณเข้าไปคุยกับน้องผมหน่อย" ชายหนุ่มก้มมองมือตัวเองที่ถูกันไปมาก่อนพูดต่อ

"ทำไมยายนุชถึงไม่ยอมกินยา ทำไมเขาถึงไม่อยากรักษาอาการของตัวเอง"

"เท่าที่ไปคุยมาฉันคิดว่าน้องสาวคุณรู้สึกสิ้นหวัง เธอบอกว่าเหนื่อยกับการใช้ชีวิต เบื่อทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว เธอหมดแรงใจในการอยู่ต่อ ฉันเลยต้องพยายามใช้ความรักของคนในครอบครัวมาคุยกับเธอ"

"ทุกคนในบ้านรักยายนุชกันทั้งนั้น เป็นห่วงจนแทบไม่อยากให้คลาดสายตาเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรโง่ ๆ แบบคราวนั้นอีก" ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม เขาส่ายหน้าช้า ๆ ก่อนพูดต่อ

"บางทีผมก็ทำตัวไม่ถูกนะ ผมไม่รู้ว่าจะดูแลเขายังไงให้เขากลับมาเป็นปกติ เวลาจะพูดหรือเล่าเรื่องอะไรให้ฟังแต่ละครั้งก็ต้องคิดแล้วคิดอีกว่าควรพูดรึเปล่า เล่าไปแล้วอาการของเขาจะ...เขาเรียกว่าอะไรนะเวลาอาการกำเริบน่ะ" เขาหันไปถามรมิดา หญิงสาวจึงตอบให้

"ดิ่ง"

"ใช่ นั่นแหละ ผมกลัวว่าเวลาพูดอะไรให้เขาฟังแล้วเขาจะยิ่งดิ่งลงไปมากกว่าเดิมไหม เฮ้อ...บอกตามตรงนะว่าผมรู้สึกเหมือนเข้าไม่ถึงตัวเขา ผมเป็นพี่ชายเขาแท้ ๆ แต่เขากลับไม่ค่อยยอมเล่าหรือระบายปัญหาอะไรให้ผมฟังบ้างเลย"

"นั่นเพราะว่าคุณยังทำให้เขารู้สึกไว้วางใจไม่มากพอ คุณชินคะ การรับมือผู้ป่วยโรคซึมเศร้าน่ะ สิ่งแรกที่คุณกับสมาชิกในบ้านจะต้องมีคือความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้นะ น้องสาวคุณเป็นคนป่วยที่ต้องได้รับการรักษา ฉันขอถามคุณหน่อยว่ามีใครในบ้านที่คิดว่าคนป่วยโรคซึมเศร้าเป็นคนบ้าหรือโรคจิตรึเปล่า ใครในที่นี้ฉันหมายถึงเพื่อนบ้านหรือญาติ ๆ ด้วยนะ"

พอได้ยินคำถามนั้นจากรมิดา ชินดนัยก็ขมวดคิ้วมุ่นแล้วหันไปถามอีกฝ่ายทันที

"คุณหมายความว่ามีคนไปพูดให้ยายนุชได้ยินหรือว่าน้องสาวผมเป็นบ้า"

"ฉันก็ไม่แน่ใจนักค่ะเพราะเธอไม่ได้บอก เป็นแค่การคาดเดาของฉันเท่านั้น การที่น้องสาวคุณไม่ยอมกินยาต้านเศร้า สาเหตุส่วนใหญ่ฉันคิดว่ามาจากความสิ้นหวังและหมดศรัทธาในตัวเอง ยิ่งถ้าไปได้ยินหรือได้ฟังอะไรที่เกี่ยวกับตัวเองในแง่ลบมา ความรู้สึกก็จะยิ่งดิ่งลงไป เธอจะคิดว่าตัวเองไม่มีทางหาย เธอเป็นภาระให้คนอื่นต้องมาคอยดูแล และเมื่อไรที่ความคิดในแง่ลบสุมเข้ามาในหัวมากเข้า ก็มีโอกาสมากทีเดียวที่เธอจะหาทางฆ่าตัวตายอีกครั้ง"

"ผมต้องทำยังไงยายนุชถึงจะยอมเปิดใจเล่าทุกอย่างให้ฟังเหมือนที่เขาคุยกับคุณบ้างน่ะดาด้า บอกผมทีเถอะ"

รมิดามองอีกฝ่ายอย่างเห็นใจพลางเอื้อมมือไปตบบ่าเขาเบา ๆ

"อย่างที่บอกไปค่ะ คุณต้องเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเป็นอยู่ บางทีการเป็นผู้ฟังที่ดีก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นอย่างหนึ่ง คุณต้องอย่าพยายามไปสั่งสอนให้เธอคิดถึงคนนั้นคนนี้ อย่าเอาเรื่องบุญบาปอะไรพวกนั้นมาพูดกับเธอ คนป่วยโรคซึมเศร้าน่ะความคิดเขาเลยจุดที่เรียกว่าบาปบุญคุณโทษไปแล้ว อย่าบังคับขู่เข็ญให้เธอกินยา แต่ให้ใช้วิธีตะล่อมอย่างนุ่มนวล"

หญิงสาวหยุดพูดเพื่อยกแก้วน้ำขึ้นดื่มดับกระหายก่อนพูดต่อ

"การที่เธอยอมพูดกับฉันมากกว่าคุณซึ่งเป็นพี่ชายแท้ ๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าฉันเป็นจิตแพทย์ ฉันคือคนอื่น ไม่ใช่คนในครอบครัว เธอถึงได้กล้าพูดกล้าระบายเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง และที่สำคัญเลยก็คืออาจเพราะฉันกับน้องสาวคุณเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เวลาคุยก็เลยง่ายกว่าคุยกับคุณซึ่งเป็นผู้ชายน่ะ"

"คุณแม่ก็พยายามคุยกับเขานะ พยายามชวนทำกิจกรรมนั่นนี่ แต่เขาก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง ผมชวนออกไปเที่ยวไหนก็ไม่ยอมไป เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านท่าเดียว"

"เป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นโรคนี้ที่จะไม่อยากออกไปพบเจอผู้คน ส่วนใหญ่มักอยากจะนอนอยู่บนเตียงทั้งวัน นอนหลับไม่ต้องตื่นมาอีกเลยยิ่งดี นั่นคือสิ่งที่วิ่งอยู่ในหัว ลองเปลี่ยนจากการชวนเป็นการขอร้องดู อย่างเช่นว่าคุณไม่มีสาวให้ควงไปดูหนังเลย พี่ขอควงนุชแทนได้ไหม อะไรแบบนี้น่ะ" รมิดายักไหล่พลางยิ้มอย่างขี้เล่น

"อ้อ จริงสิ สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือคนในบ้านต้องทำตัวให้เป็นปกติที่สุด คุยเล่นไปกับเธอแต่ห้ามมองเธออย่างสงสาร สมเพช หรือเวทนา เรื่องนี้สำคัญนะคุณชิน ถามไถ่ทุกข์สุขกันธรรมดาได้ อย่าเพิกเฉยทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน แต่ก็อย่าปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นคนป่วยติดเตียงที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เพราะมันจะทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวประหลาด"

ชายหนุ่มนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้ารับรู้ช้า ๆ

"มีโอกาสจะพัฒนาไปเป็นไบโพลาร์ไหม"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 4 เรื่องที่พูดไม่ได้ - 50%

    "ฉันก็ตอบไม่ได้หรอกค่ะ เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับตัวน้องสาวคุณด้วย ตอนนี้อยากให้เธอกินยาตามหมอสั่งมากกว่า น้องคุณต้องรักษาด้วยยาควบคู่ไปกับการเยียวยาทางจิตใจ ทำให้เธอเห็นว่าคุณจะอยู่ข้างเธอเสมอ"ชินดนัยนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ "เข้าใจแล้ว จะว่าไปผมกับยายนุชก็เริ่มห่างกันตั้งแต่ผมไปเรียนเมืองนอกนั่นแหละ ผมใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกนานหลายปีเกินไป กลับมาอีกทีผมก็รู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป ตอนแรกนึกว่าน้องสาวก็แค่โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่มันไม่ใช่ เขากลายเป็นคนเก็บตัว มีโลกส่วนตัวสูง ผมพยายามจะคุยด้วยหลายครั้งแต่มันก็ไม่เหมือนเดิม กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ตอนที่เขากินยานอนหลับเกินขนาดเพื่อจะฆ่าตัวตายนั่นแหละ นี่ก็ผ่านมาเป็นปีแล้วผมก็ยังไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ยายนุชต้องเป็นโรคซึมเศร้า""คุณต้องรอให้เธอพร้อมที่จะเล่าจริง ๆ อย่าไปคาดคั้นเธอล่ะ" รมิดาเตือนเขาอีกครั้ง"ผมรู้" ชายหนุ่มรับคำพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ขณะที่หญิงสาวดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือก่อนจะลุกขึ้นยืน"ฉันคงต้องไปแล้วค่ะ บ่ายนี้ต้องไปส่งเจสันที่สนามบิน"ชินดนัยลุกขึ้นยืนบ้าง "งั้นผมไปส่งที่รถ ขอบค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 4 เรื่องที่พูดไม่ได้ - 75%

    จันทร์เจ้าคลี่ยิ้มให้เขาพลางวางบัตรซึ่งเป็นการ์ดแข็งสีดำและปั๊มชื่อของชายหนุ่มเป็นภาษาอังกฤษด้วยสีทองลงตรงหน้าชินดนัย จากนั้นก็กางแผ่นโฆษณาซึ่งมีรูปบันนี่เกิร์ลสุดเซ็กซี่ในชุดเสื้อเอวลอยกับกางเกงขาสั้นรัดรูปสีขาวเด่นหราอยู่ตรงกลาง ในแผ่นนั้นมีรายละเอียดเกี่ยวกับรายการแสดงโชว์ของเดือนล่าสุด รวมไปถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ สำหรับสมาชิกวีไอพีตอนแรกที่เธอเห็นซองจดหมายเรียบหรูสีดำ มีโลโก้ของคลับปั๊มสีทองอยู่ด้านหน้า เธอก็รู้แล้วว่าเป็นที่ไหน เพราะผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่บริษัทเก่าก็เป็นสมาชิกอยู่เช่นกัน เขาพาลูกค้าคนสำคัญไปเลี้ยงที่นั่นบ่อย เธอเองก็เคยเข้าไปที่นั่นหนึ่งครั้งจึงพอรู้ว่าเป็นสถานที่แบบไหน"อะแฮ่ม! เอ่อ...พี่ไม่ได้สมัครเองนะ เพื่อนพี่มันสมัครให้น่ะ ออกเงินให้อีกต่างหาก"ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนพลางหยิบบัตรสมาชิกใบนั้นมาเก็บในกระเป๋าเสื้อ จะทำทีเป็นโยนทิ้งถังขยะให้เธอเห็นแล้วค่อยเก็บคืนมาทีหลังก็กระไรอยู่ เพราะดูเหมือนเป็นการหลอกลวงเสียเปล่า ๆ อย่างไรเสียเขากับเพื่อนสนิทก็ต้องไปพบปะสังสรรค์ที่นั่นกันบ้างอยู่แล้ว อีกทั้งบัตรใบนี้ก็มีมูลค่าถึงห้าหมื่นบาทที่ปกเกล้าต้องจ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 4 เรื่องที่พูดไม่ได้ - 100%

    "ไม่ได้เจอมาสองสามเดือนแล้วละ เห็นบอกว่าจะไปทำงานเมืองนอกนี่นา แกถามทำไมหรือ"ไปรมาเบ้ปากพลางคว้าหลอดมาดูดน้ำให้ลื่นคอก่อนพูดว่า"บอกตามตรงเลยนะว่าฉันไม่เชื่อว่ะ ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่ายายวีวี่มันเป็นคนยังไง แกเชื่อนางไหม ฉันถามตรง ๆ"จันทร์เจ้ายิ้มเจื่อนไม่ตอบคำถาม แต่การแสดงออกอย่างนั้นของเธอก็ทำให้อีกฝ่ายรู้ทันทีว่าคิดไม่ต่างกัน ไปรมาถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อนึกถึงเพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่ม"ฉันไม่เข้าใจว่ะว่านางจะโกหกเพื่ออะไรวะ ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะไอ้เรื่องมโนคิดเป็นตุเป็นตะเนี่ย พวกเราจับได้ไม่รู้กี่ครั้งกี่หนก็ยังไม่เข็ด จะเลิกคบก็กระไรอยู่ อุตส่าห์รู้จักกันมาตั้งหลายปี เพราะเรื่องอื่นนางก็ดีเสียแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวนี่แหละ""ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะจะว่าไปแล้วนางก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน" จันทร์เจ้าถอนหายใจแผ่ว"แต่ถ้ามันยังเป็นอย่างนี้ต่อไป สักวันมันต้องโดนคนอื่นเขาแหกอกแน่ ๆ และเมื่อถึงเวลานั้นมันจะถูกเขาหาว่าเป็นพวกต้มตุ๋นน่ะสิแก" ไปรมาหยุดพูดแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้จันทร์เจ้า จากนั้นก็ลดเสียงลงให้ได้ยินกันแค่สองคน"ถ้ามันรู้ว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 5 พี่ชายที่แสนดี - 25%

    หลังเลิกงาน ชินดนัยขับรถถึงบ้านในเวลาหนึ่งทุ่มเล็กน้อย ชายหนุ่มเดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงพลางฮัมเพลงเข้ามาในบ้านอย่างอารมณ์ดี ก่อนเสียงเพลงจะหยุดลงเมื่อเห็นผู้เป็นมารดาปรี่เข้ามาหาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก"ตาชิน กลับมาแล้วหรือลูก""มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับคุณแม่" เขาถามท่านกลับไป ในใจเริ่มกังวลถึงอาการป่วยของน้องสาวเพราะมีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวที่ทำให้คนในบ้านต่างพากันเป็นห่วง"ยายนุชน่ะสิ ปิดประตูเงียบอยู่แต่ในห้องตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน แม่เรียกลงมากินข้าวเย็นก็บอกว่ายังไม่หิว นี่พ่อเราก็กำลังเกลี้ยกล่อมให้ออกมานั่งเล่นข้างนอกบ้าง ไม่อยากให้อยู่ในห้องคนเดียวนานนัก เพราะกลัวว่าจะ..."ท่านหยุดพูดไว้เพียงแค่นั้น เขาจึงยื่นมือไปบีบมือท่านเบา ๆ อย่างปลุกปลอบ"เดี๋ยวผมคุยกับน้องเองครับคุณแม่" พูดจบเขาก็เดินขึ้นบันไดไปหน้าห้องนอนของชญานุชซึ่งอยู่เยื้องกับห้องนอนของเขา มีร่างสูงโปร่งของบิดายืนนิ่งอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าอมทุกข์ ครั้นพอเห็นเขาเดินเข้าไปใกล้ ท่านจึงหันมามองพลางถอนหายใจแผ่ว"คุณพ่อไปพักผ่อนเถอะคร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 5 พี่ชายที่แสนดี - 50%

    ชินดนัยส่ายหน้าก่อนตอบ "ไม่ใช่ค่ะ พี่เคยคบกับเขาตอนเรียนมหา'ลัยน่ะ แต่ก็คบได้ไม่นานก็เลิกกันไปแล้วพี่ก็ไปเรียนต่อพอดี ตอนนี้เขามาทำงานเป็นเลขาฯ ของพี่ พี่ก็พยายามจะรื้อฟื้นเรื่องเก่า ๆ กับเขาอยู่แต่ยังไม่สำเร็จ""แปลว่าจบไม่สวยเท่าไรใช่ไหมคะ" เมื่อถูกน้องสาวถามจี้ใจดำ เขาก็ได้แต่ทำหน้าประดักประเดิดเพราะเป็นเรื่องจริง ก่อนจะพยักหน้ายอมรับอย่างไม่มีทางเลี่ยง"พี่ไม่ดีเองแหละ ช่วงนั้นมั่นใจในความหล่อของตัวเองมากไปหน่อย"เขาพยายามใช้คำพูดที่ฟังติดตลก เพราะความจริงแล้วการที่เขาควงสาวไม่ซ้ำหน้า คบผู้หญิงซ้อนกันหลายคนในช่วงนั้นเป็นเพราะฮอร์โมนความเป็นชายมันพลุ่งพล่าน โดยเฉพาะการได้ลากสาวสวยมาเล่นสนุกกันบนเตียงเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับเขาเหลือเกิน ยิ่งเขาสามารถปิดบังบรรดาสาว ๆ ที่คบอยู่ และให้เจ้าหล่อนเชื่อว่าเขาคบเธอแค่คนเดียวได้นานเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองมากเท่านั้น"แล้วทำไมพี่ชินถึงอยากกลับมาคบกับคนนี้อีกครั้งล่ะคะ"ชายหนุ่มถอนหายใจแผ่ว มีมากมายหลายสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจจนไม่รู้จะบรรยายออกมาอย่างไรให้คนฟังเข้าใจสิ่งที่เขากำลังเป็นอยู่ แต่ส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 5 พี่ชายที่แสนดี - 75%

    “มาแล้วครับผม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงรื่นเริงแล้วเดินเข้ามาวางขวดน้ำไว้บนโต๊ะและยื่นแก้วนมให้น้องสาว เธอรับแก้วไปถือไว้ เขาจึงเดินไปที่โต๊ะข้างเตียง เปิดลิ้นชักหยิบยาต้านเศร้าที่ต้องกินก่อนนอนออกมาทั้งแผง จากนั้นก็มานั่งที่เดิมเขารอจนเธอดื่มนมหมดแก้วจึงแกะยาจากแผงยื่นให้หนึ่งเม็ดพร้อมรอยยิ้ม เธอมองยาเม็ดเล็ก ๆ สีขาวในมือเขาครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมือออกมารับแต่ยังไม่ยอมกิน เขาจึงแกะออกมาอีกเม็ดแล้วพูดว่า“ถ้านุชไม่อยากกินยาคนเดียวเดี๋ยวพี่กินเป็นเพื่อนก็ได้ค่ะ” พูดจบเขาก็โยนยาเม็ดนั้นเข้าปากแล้วยกน้ำขึ้นดื่มทั้งขวด ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของน้องสาว“พี่ชิน! กินเข้าไปได้ยังไงคะ” หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างคาดไม่ถึงว่าเขาจะกล้ากินยาเหมือนตน“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย พี่ก็แค่อยากกินยาเป็นเพื่อนนุช คราวนี้ถึงตานุชต้องกินยาบ้างแล้วนะคะ” เขายิ้มราวกับการกินยาต้านเศร้าทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้านั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรครั้นพอเห็นน้องสาวกินยาแล้วดื่มน้ำตาม ชินดนัยก็ได้แต่ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกพลางคิดในใจว่าพรุ่งนี้จะโทรศัพท์ไปถามรมิดาเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยาสำหรับคนที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 5 พี่ชายที่แสนดี - 100%

    "พี่โทร. ไปบอกผู้จัดการสาขาแล้วละว่าเราจะเข้าไปที่นั่น ที่พี่จะให้จันทร์ไปวันนี้ก็เพราะอีกหน่อยจันทร์จะต้องไปติดต่อกับที่นี่บ่อย ๆ และอีกอย่างคือหลายคนรู้แค่ว่าพี่เปลี่ยนเลขาฯ แล้วแต่พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็ถือเสียว่าไปแนะนำตัวเองละกัน""ค่ะ สิบโมงครึ่งใช่ไหมคะ""อืม เดินไปนะ เดินบนทางลอยฟ้านี่แหละ และถ้าจันทร์ไม่มีงานด่วน หรืองานไหนที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จภายในวันนี้พี่ก็จะพาเราไปที่ศูนย์บริการด้วย ไปดูขั้นตอนการทำงานจริงเวลาที่มีสินค้าส่งซ่อม จะได้รู้ว่าเขาทำกันยังไงบ้าง"จันทร์เจ้าทำท่าครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วก็ตัดสินใจได้"คิดว่าไม่มีนะคะ ไปวันนี้เลยก็ได้"ชินดนัยยิ้มบาง ๆ พลางพยักหน้าให้ "งั้นก็ตามนั้น สิบโมงครึ่งเข้ามาเตือนพี่อีกทีละกัน เผื่อพี่มัวแต่ทำนั่นทำนี่จนลืมเวลา""ค่ะ ขอตัวนะคะ" พูดจบจันทร์เจ้าก็หันหลังแล้วเดินออกจากห้องไปโดยมีสายตาเจ้าเล่ห์ของผู้เป็นนายมองตามหลังไปตลอดจนกระทั่งประตูปิดลงเขาจึงละสายตาออกมาชินดนัยยิ้มกว้างเมื่อในที่สุดกวางน้อยก็ตกหลุมที่เขาดักไว้จนได้"ไว้ไปวันหลังละกันนะหนูจันทร์ ศูนย์บริการน่ะ"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 6 นาฬิกาไม่เดินถอยหลัง - 25%

    ชินดนัยกับจันทร์เจ้าเดินเคียงกันไปบนทางเดินลอยฟ้าที่เชื่อมตั้งแต่แยกราชประสงค์จนถึงย่านสยามสแควร์ อันเป็นที่ตั้งของบรรดาห้างสรรพสินค้าใหญ่ซึ่งมีสินค้าแฟชั่นหลากหลายแบรนด์ชั้นนำไปจนถึงโชว์รูมรถหรูชายหนุ่มมีรอยยิ้มที่มุมปากตลอดเวลา เหตุผลหนึ่งที่เขาพาหญิงสาวมาเดินบนทางเดินลอยฟ้าตรงนี้ก็เพื่อระลึกถึงความหลังเมื่อครั้งที่เขากับเธอเจอกันครั้งแรกตอนนั้นเธอเป็นน้องปีหนึ่ง เขาเป็นพี่ปีสาม เขาเพิ่งเสร็จจากเตะบอลกับเพื่อน จึงนั่งจักรยานยนต์รับจ้างแถวหน้ามหาวิทยาลัยมาลงที่รถไฟฟ้าแล้วขึ้นมาบนทางเดินตรงนี้เพื่อจะเข้าไปที่บริษัทเพราะจอดรถไว้ที่นั่น เขาเห็นจันทร์เจ้ามาแต่ไกล ณ เวลานั้นเขาสนใจเธอขึ้นมาทันทีตามประสาผู้ชายรักสนุกเมื่อเห็นสาวสวยถูกใจ เธออยู่ในชุดนิสิตกระโปรงพลีตคลุมเข่าเดินหิ้วถุงของห้างสรรพสินค้าพะรุงพะรังเต็มสองมือและไม่รู้เพราะโชคเข้าข้างเขาหรือเพราะอะไร จู่ ๆ ก็มีลมแรงพัดมาจนผมของเธอปลิวมาปิดหน้าปิดตา ซ้ำร้ายไปกว่านั้น กระโปรงที่เธอสวมอยู่ก็ถูกลมพัดจนเลิกขึ้นเกือบเห็นกางเกงใน หญิงสาวดูตกใจมากแต่ก็นับว่ามีสติและแก้ปัญหาได้รวดเร็ว เพราะเธอรีบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-18

บทล่าสุด

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ ของขวัญวันเกิด - 100%

    "อ้าว แล้วพี่ออกมาก่อนแบบนี้พวกพี่ ๆ เขาไม่ว่ากันหรือคะ""ไม่ว่าหรอกน่า พวกพี่จะนัดกันเมื่อไรก็ได้ ต่อให้ไม่มีพี่ มันสองคนก็นัดชนแก้วกันเป็นประจำอยู่แล้ว อีกอย่างนะ พวกมันก็เข้าใจดีว่าเคสของหนูจันทร์เป็นเคสที่พี่ต้องจัดให้เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง"ชินดนัยยิ้มพลางหยิบขวดไวน์มารินใส่แก้วให้หญิงสาวอีกครั้ง จันทร์เจ้าเบิกตากว้างเพราะตนเพิ่งดื่มเข้าไปแค่ไม่กี่จิบเท่านั้น ไวน์ยังเหลือในแก้วตั้งเยอะแต่เขากลับรินให้จนเลยครึ่งแก้วขึ้นมา"พอแล้วค่ะ จะมอมกันหรือไง พี่ก็รู้ว่าจันทร์ดื่มไม่เก่ง"ชินดนัยมองเธอด้วยสายตาร้อนแรงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงต่ำพร่าว่า"พี่รู้ว่าจันทร์ดื่มไวน์ไม่เก่ง แต่เวลาที่จันทร์เมาจันทร์จะดูดน้ำอย่างอื่นได้เก่งมากเลย เพราะฉะนั้นพี่ก็ต้องมอมสักหน่อย"จันทร์เจ้าหน้าแดงขึ้นมาทันทีเพราะรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร หญิงสาวจึงปิดปากเงียบไม่พูดอะไรที่จะเป็นการเข้าเนื้อตัวเองอีกชายหนุ่มมองสีหน้าขัดเขินของเธอแล้วก็นึกอยากพรมจูบไปให้ทั่วใบหน้า แต่เพราะเกรงว่าตนอาจจะไม่จบลงแค่จูบจึงได้แต่สะกดกลั้นความต้องการของตัวเองไว้ พลางหาเรื่องอื่นมา

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ ของขวัญวันเกิด - 75%

    มือของเขาเลื่อนขึ้นมาจนสัมผัสได้กับเส้นเล็ก ๆ บาง ๆ ของกางเกงชั้นใน จากนั้นเขาก็จับเอวของเธอไว้แล้วผละออกห่างเล็กน้อยเพื่อมองภาพความสวยงามที่หาได้ยากแบบนี้ให้เต็มตา"เซ็กซี่มากที่รัก พี่ชอบมากเลย"สายตาร้อนแรงของเขาราวกับจะแผดเผาเธอได้ ยอมรับว่าอายแสนอายจนรู้สึกได้ถึงความร้อนที่พุ่งขึ้นมากระจุกอยู่บนใบหน้า แต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเป้ากางเกงของเขาก็ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะยังไม่ถึงหนึ่งนาทีเลยด้วยซ้ำ แต่ความพรักพร้อมของเขานั้นปูดโปนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดจันทร์เจ้าเอาแขนออกจากคอของชินดนัยแล้วดึงกระโปรงลง จากนั้นก็ใช้นิ้วเกี่ยวหูกางเกงของเขาพลางดึงเบา ๆ แล้วพูดว่า"ไปที่โต๊ะกันดีกว่าค่ะ จันทร์เพิ่งอุ่นเสร็จเมื่อกี้เอง ไวน์ก็เพิ่งเอามาแช่ใหม่ ถ้าไม่ดื่มตอนนี้เดี๋ยวน้ำแข็งจะละลายเสียก่อน"เธอดึงหูกางเกงของเขาเพื่อให้ชายหนุ่มเดินตามมาที่โต๊ะอาหาร ชินดนัยเดินตามอย่างว่าง่ายจนกระทั่งมาถึงโต๊ะจึงกดบ่าของเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้"เดี๋ยวจันทร์รินไวน์ให้นะคะ"หญิงสาวยิ้มหวานให้ก่อนหันหลังให้เขาแล้วเอื้อมหยิบขวดไวน์ที่อยู่อีกฝั่งของโต๊ะ แต่เพราะชุ

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ ของขวัญวันเกิด - 50%

    เมื่อเดินเข้าไปด้านใน แค่แจ้งชื่อของปกเกล้าก็จะมีพนักงานสาวสวยพาเขาไปยังโต๊ะที่จองเอาไว้ทันที"อ้าว ไอ้ปกยังไม่มาหรือ" ชินดนัยเห็นภาวินนั่งอยู่เพียงลำพังจึงถามถึงเพื่อนอีกคน"คงกำลังมาแหละมั้ง เห็นว่ามีเรื่องด่วนนิดหน่อย...ของพี่คนนี้โซดาอย่างเดียวนะจ๊ะ" ภาวินตอบพลางหันไปบอกกับบันนี่สาวที่มีหน้าที่ผสมเหล้าอยู่ข้างโต๊ะ"เฮ้ย...เรื่องด่วนที่ว่าหมายถึงเรื่องนี้เองหรือวะ" ชินดนัยยิ้มเจ้าเล่ห์พลางบุ้ยหน้าไปทางชั้นล่าง ภาวินจึงมองลงไปบ้างก็เห็นปกเกล้ากำลังจูงมือหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาในคลับด้วยจะว่าไปแล้วน่าจะเรียกว่าฉุดลากกันมากกว่า เพราะดูจากท่าทางไม่เต็มใจของผู้หญิงที่ปกเกล้าพามาด้วยกันนั้นก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายถูกบังคับให้มาที่นี่"น่ารักดีว่ะ อย่างกับเด็กมหาลัย ไอ้ปกไปหามาจากไหนวะเนี่ย"ภาวินอดสงสัยไม่ได้เพราะปกติแล้วเวลานัดสังสรรค์กันในหมู่เพื่อนสนิท จะไม่มีใครพาผู้หญิงมาด้วยเด็ดขาดเพราะกลัวงานกร่อย และกฎนี้ปกเกล้าก็เป็นคนตั้งขึ้นเองด้วยซ้ำแต่เจ้าตัวกลับทำผิดกฎเสียเอง"กูว่าคนนี้คงไม่ธรรมดาเว้ย มึงดูสิไอ้ปกเคยเป็นแบบนี้ที่ไหน ทำอย่างกับจับ

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ ของขวัญวันเกิด - 25%

    สุดท้ายแล้วจันทร์เจ้าก็ไม่ได้ซื้อของขวัญวันเกิดให้ชินดนัย ดังนั้นหลังจากที่รับประทานมื้อเที่ยงกับภัทรพลเสร็จแล้วเธอจึงกลับขึ้นไปบนออฟฟิศตามเดิม ทว่านั่งทำงานไปได้ไม่เท่าไร หญิงสาวก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงเดินเข้าไปหาผู้เป็นทั้งเจ้านายและคนรักในห้องทำงานของเขา"จันทร์ขอลางานครึ่งวันนะคะพี่ชิน คุณแม่ติดธุระก็เลยไปรับหนูพราวที่โรงเรียนไม่ได้ค่ะ จันทร์เลยต้องไปรับแทน""งั้นหรือ...อืม งั้นก็ไปเถอะ ถึงบ้านแล้วโทร. หาพี่ละกัน พี่จะได้ไม่เป็นห่วง" เขายิ้มพลางกางแขนออกกว้าง หญิงสาวจึงอดค้อนให้เขาไม่ได้ แต่กระนั้นก็ยังเดินเข้าไปก้มตัวลงเล็กน้อยแล้วโผไปซุกในอ้อมอกของเขาชินดนัยหอมขมับของเธออย่างแสนรัก หากแต่มือเจ้ากรรมก็ยังไม่วายซุกซน บีบบั้นท้ายของหญิงสาวเล่นอย่างเคยตัว ผลลัพธ์ที่ตามมาคือถูกเจ้าของบั้นท้ายหยิกเข้าที่เอวเต็มแรง"นิสัยไม่ดีตลอดเลยพี่ชินเนี่ย เผลอเป็นไม่ได้"จันทร์เจ้าบ่นให้เขาพลางผละออกห่างแล้วยืนเต็มความสูงตามเดิม จากนั้นก็เดินไปที่ประตูห้องทำงาน"จันทร์ไปก่อนนะคะ ถึงบ้านแล้วจะโทร. หาค่ะ" พูดจบก็เปิดประตูเดินออกไปจึงไม่ทันเห็นว่าใบ

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ คนนั้นคือใคร - 100%

    ชายหนุ่มไม่แสดงท่าทีเอาอกเอาใจมากจนเกินไปอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งปฏิบัติต่อหญิงสาวที่ตนมีใจให้เพราะไม่ต้องการให้เธอรู้สึกอึดอัด ซึ่งนับว่าเป็นผลดีกับเขามากเพราะจันทร์เจ้าพูดกับเขาอย่างที่คุยกับคนรู้จักทั่วไป ไม่มีท่าทีปิดกั้นหรือระแวงจนเขาไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เธอทั้งคู่สั่งกับข้าวมาสามอย่าง หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยแล้วโทรศัพท์ของภัทรพลก็มีสายเรียกเข้า ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นสายจากเลขานุการของตนเขาจึงต้องกดรับเพราะหากไม่ใช่เรื่องสำคัญ เลขาฯ ของเขาจะไม่โทร. มาในเวลาพักเที่ยงอย่างนี้เป็นแน่"ผมขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์สักครู่นะครับ" เขาพูดกับจันทร์เจ้าแล้วรีบลุกขึ้นก้าวเร็ว ๆ ออกจากร้านอาหารทันที จากนั้นก็เดินห่างออกไปจากหน้าร้านโดยเดินไปทางห้องน้ำเพราะตั้งใจจะเข้าไปทำธุระส่วนตัวด้วยชินดนัยเห็นผู้ชายที่อยู่กับแฟนสาวของตนกำลังเดินคุยโทรศัพท์ไปทางห้องน้ำ เขาจึงเดินอ้อมจากอีกด้านตามไปทันทีชายหนุ่มคนนั้นคุยโทรศัพท์เสร็จก็จัดการทำธุระส่วนตัว ส่วนชินดนัยก็ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเพื่อรออีกฝ่ายอย่างใจเย็น จนกระทั่งผู้ชายคนนั้นเดินมาล้างมือในอ่างท

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ คนนั้นคือใคร - 70%

    จันทร์เจ้ากลอกตามองเพดาน ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ อย่างหยอกเย้าจากเลขาฯ รุ่นพี่ที่นั่งอยู่ใกล้กัน เธอก็ได้แต่ยิ้มอย่างจนใจ"ไม่รีบเข้าไป เดี๋ยวท่านประธานก็ออกมาตามด้วยตัวเองอีกหรอก"นันทิดาพูดจบก็หัวเราะคิกคัก เพราะท่านประธานหนุ่มไม่เคยปิดบังความรู้สึกที่ตนมีต่อเลขาฯ ส่วนตัวคนนี้สักนิด ช่วงแรกที่จันทร์เจ้าคบหากับท่านประธานก็มีเพียงคนกันเองอย่างพวกตนที่เป็นเลขานุการด้วยกันเท่านั้นที่รู้แต่หลังจากที่มีโปรแกรมเมอร์หนุ่มคนใหม่เข้ามาทำงานที่บริษัทแล้วแสดงออกว่าสนใจเลขาฯ ของท่านประธานจนถึงขนาดเอ่ยปากชวนไปเลี้ยงข้าวกลางวัน ซึ่งพอเรื่องนี้เข้าหูผู้เป็นเจ้านายอย่างชินดนัย ท่านประธานหนุ่มก็แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอย่างออกนอกหน้าทันทีโดยไม่สนใจว่าพนักงานคนอื่นจะมองอย่างไรทั้งเดินจูงมือจันทร์เจ้า บางคราวก็โอบไหล่โอบเอว แม้ว่าหญิงสาวจะพยายามเอ่ยปากเตือนหลายครั้งแต่ท่านประธานก็ยังคงทำตามใจตัวเองเรื่องนี้ผ่านมาหลายเดือนแล้ว และพนักงานทุกคนก็รับรู้กันถ้วนหน้าว่าท่านประธานกับเลขาฯ ส่วนตัวนั้นกำลังคบหาดูใจกันอยู่ นานวันเข้าจากที่ทุกคนเคยตื่นเต้นกับเรื่องนี้ก็เร

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ คนนั้นคือใคร - 35%

    ในเช้าวันทำงานอันแสนวุ่นวาย จันทร์เจ้าค่อย ๆ เคลื่อนรถไปบนท้องถนนอย่างเชื่องช้าเพราะการจราจรติดขัดอย่างผิดปกติ หญิงสาวถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายพลางคิดในใจว่าข้างหน้าคงเกิดอุบัติเหตุเป็นแน่ เธอมองเวลาบนแผงคอนโซลหน้ารถ อีกแค่สิบห้านาทีก็จะถึงเวลาเข้างานแล้ว แต่ตอนนี้เธอยังไม่ครึ่งทางเลยด้วยซ้ำจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทร. ไปบอกชายหนุ่มผู้ซึ่งพ่วงทั้งตำแหน่งเจ้านายและชายคนรักว่าตนคงเข้าทำงานสาย"อุ๊ย! แย่จริง" จันทร์เจ้าพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดเมื่อโทรศัพท์เกิดหลุดมือหล่นไปอยู่ใกล้เท้า เธอมองทางข้างหน้า เห็นว่ารถยังคงเคลื่อนตัวไปได้อย่างเชื่องช้าจึงเหยียบเบรกค้างไว้ครึ่งเดียวเพื่อชะลอความเร็วรถก่อนจะก้มลงเก็บโทรศัพท์มือถือกึก!"อุ๊ยตายแล้ว!" หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าชั่วเสี้ยววินาทีที่ตนละสายตาจากท้องถนนเพื่อก้มเก็บโทรศัพท์นั้นจะส่งผลให้รถของเธอชนเข้ากับรถคันหน้าเข้าจนได้ แม้จะไม่รุนแรงเพราะรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่ต่างจากคลาน แต่อย่างไรเสียก็ถือว่าเธอเป็นฝ่ายผิดที่ไปชนเขาก่อนรถคันหน้าจอดนิ่งพร้อมกับเปิดไฟกะพริบ จากนั้นประตูฝั

  • เล่ห์หวนรัก   บทส่งท้าย - 100%

    จันทร์เจ้าเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย "ทำไมหรือคะ พี่ชินเจออะไรมาหรือ"ชินดนัยถอนหายใจแผ่วก่อนจะตัดสินใจเล่าให้หญิงสาวฟัง หลังจากเล่าจบเขาก็พูดขึ้นว่า"ตอนแรกพี่ว่าจะไม่บอกจันทร์ เพราะเดี๋ยวจันทร์จะหาว่าพี่ขี้ฟ้อง คิดเล็กคิดน้อยกับเพื่อนของจันทร์ แต่มาคิดดูอีกที เพื่อนแบบนี้ไม่มีเสียยังจะดีกว่า""ช่างเขาเถอะค่ะ จันทร์เลิกใส่ใจเรื่องของวีวี่มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ปล่อยให้เขาแข่งไปคนเดียวเถอะ"ชายหนุ่มยิ้มละไมเพราะคิดไว้อยู่แล้วว่าเธอต้องพูดแบบนี้"พรุ่งนี้เจอกันที่จุดนัดพบตรงปั๊มน้ำมันนะ อย่าตื่นสายล่ะ"ชายหนุ่มแกล้งเย้าเพราะรู้อยู่แล้วว่าจันทร์เจ้าไม่ใช่คนตื่นสาย เธอยู่หน้าใส่ชายหนุ่มแล้วใช้นิ้วจิ้มแก้มเขาไม่แรงนักก่อนพูดว่า"บอกตัวเองเถอะค่ะ จันทร์ว่ารถจันทร์ไปถึงก่อนทุกคนแน่นอน"สุดสัปดาห์นี้เป็นวันหยุดยาว ทั้งสามบ้านจึงนัดกันไปเที่ยวทะเลปราณบุรี ต่างคนต่างขับรถไปบ้านใครบ้านมันโดยยึดเอาปั๊มน้ำมันใหญ่ตรงถนนวิภาวดีเป็นจุดนัดพบ"จะรอดูคนขี้คุย โอเคครับพรุ่งนี้เจอกัน"ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปจูบหญิงสาวเป็นการลาเมื่อถึงห

  • เล่ห์หวนรัก   บทส่งท้าย - 70%

    "ฉันยังไม่แจกตอนนี้ รอนังวีวี่มาก่อน นี่ฉันอุตส่าห์บอกมันว่านัดกันตอนหกโมงครึ่งนะเนี่ย แต่นี่ปาไปทุ่มครึ่งแล้วนางยังไม่เสด็จมา ใครก็ได้จุดธูปเรียกมันหน่อยซิ"ทันทีที่ไปรมาพูดจบ ประตูห้องวีไอพีที่จัดเลี้ยงก็ถูกเปิดออก ตามมาด้วยร่างระหงในชุดเดรสรัดรูปสีดำ เจ้าตัวเยื้องย่างเข้ามาในห้องราวกับนางพญาโดยไม่ยอมสบตาใคร เมื่อถึงเก้าอี้ว่างก็วางกระเป๋าสะพายแบรนด์ดังที่หลายคนรู้ดีว่าราคาไม่ต่ำกว่าสามแสนลงบนโต๊ะ จากนั้นจึงค่อยกวาดตามองทุกคนทั้งรอยยิ้มเรียวปากสีสดของวรัชยาค่อย ๆ หุบลงเมื่อเห็นชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งอยู่ ก่อนจะพึมพำอย่างแผ่วเบา"พี่ชิน" สายตาของวรัชยาเบนไปที่หญิงสาวข้างกายเขา "ยายจันทร์""โอ๊ยหล่อน เปิดตัวมาแบบรัชดาลัยเธียเตอร์มาก เขานัดกันหกโมงครึ่งแต่หล่อนเพิ่งมาเอาป่านนี้ โหงพรายที่หล่อนเลี้ยงไว้เพิ่งกระซิบบอกรึไงยะ" เพื่อนที่เป็นสาวประเภทสองคนหนึ่งอดแขวะวรัชยาไม่ได้"ฉันก็ต้องมีติดธุระกันบ้างสิ ฉันไม่ได้ทำงานเป็นพนักงานประจำเหมือนพวกเธอนะ ฉันมีธุรกิจส่วนตัวก็รู้ ๆ กันอยู่"วรัชยาพยายามวางตัวให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะชายห

DMCA.com Protection Status