หน้าหลัก / โรแมนติก / เล่ห์หวนรัก / บทที่ 4 เรื่องที่พูดไม่ได้ - 100%

แชร์

บทที่ 4 เรื่องที่พูดไม่ได้ - 100%

ผู้เขียน: จรสจันทร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-16 20:00:47

"ไม่ได้เจอมาสองสามเดือนแล้วละ เห็นบอกว่าจะไปทำงานเมืองนอกนี่นา แกถามทำไมหรือ"

ไปรมาเบ้ปากพลางคว้าหลอดมาดูดน้ำให้ลื่นคอก่อนพูดว่า

"บอกตามตรงเลยนะว่าฉันไม่เชื่อว่ะ ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่ายายวีวี่มันเป็นคนยังไง แกเชื่อนางไหม ฉันถามตรง ๆ"

จันทร์เจ้ายิ้มเจื่อนไม่ตอบคำถาม แต่การแสดงออกอย่างนั้นของเธอก็ทำให้อีกฝ่ายรู้ทันทีว่าคิดไม่ต่างกัน ไปรมาถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อนึกถึงเพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่ม

"ฉันไม่เข้าใจว่ะว่านางจะโกหกเพื่ออะไรวะ ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะไอ้เรื่องมโนคิดเป็นตุเป็นตะเนี่ย พวกเราจับได้ไม่รู้กี่ครั้งกี่หนก็ยังไม่เข็ด จะเลิกคบก็กระไรอยู่ อุตส่าห์รู้จักกันมาตั้งหลายปี เพราะเรื่องอื่นนางก็ดีเสียแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวนี่แหละ"

"ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะจะว่าไปแล้วนางก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน" จันทร์เจ้าถอนหายใจแผ่ว

"แต่ถ้ามันยังเป็นอย่างนี้ต่อไป สักวันมันต้องโดนคนอื่นเขาแหกอกแน่ ๆ และเมื่อถึงเวลานั้นมันจะถูกเขาหาว่าเป็นพวกต้มตุ๋นน่ะสิแก" ไปรมาหยุดพูดแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้จันทร์เจ้า จากนั้นก็ลดเสียงลงให้ได้ยินกันแค่สองคน

"ถ้ามันรู้ว่าแกไปทำงานเป็นเลขาฯ ให้แฟนเก่าอย่างอีตาพี่ชินละก็ รับรองเลยว่ามันมาหาแกถึงที่ทำงานทุกวันแน่นอน"

จันทร์เจ้าเบิกตากว้างเมื่อได้ยินอย่างนั้น หญิงสาวครุ่นคิดถึงเรื่องที่อีกฝ่ายพูดแล้วก็อดแย้งไม่ได้

"แกคิดว่าวีวี่ยังชอบพี่...เอ่อ...เขาอยู่หรือ ฉันว่านางอาจจะเลิกคิดไปแล้วก็ได้นะ"

ไปรมาแค่นยิ้มมุมปาก "พนันกันไหมล่ะ ตอนนี้ยายวีวี่มันอาจจะเลิกคิดเพราะมันไม่มีทางจะติดต่อกับพี่ชินได้ แต่ถ้ามันรู้ว่าแกไปทำงานกับเขาเมื่อไร เมื่อนั้นแกจะได้เห็นหน้ายายวีวี่ทุกวันแน่นอนเพราะมันจะต้องหาทางเข้าใกล้อีตาแฟนเก่าจอมเจ้าชู้ของแกแล้วเสนอตัวเองแบบยอมถวายหัว"

ไปรมาหยิบน้ำมาดื่มกลั้วคอเพราะหลังจากพูดจบก็ไอคอกแคกเนื่องจากเจ็บคออยู่ก่อนแล้ว

"แต่ตอนนี้วีวี่ก็มีแฟนแล้วนี่นา แกก็เห็นไม่ใช่หรือ" จันทร์เจ้าพูดไปตามจริงเพราะเคยเห็นวีวี่หรือวรัชยามีหนุ่มหล่อมารับที่ร้านอาหารตอนนัดกินข้าวด้วยกันครั้งล่าสุดเมื่อสามเดือนก่อน

"แฟนมันจริง ๆ รึเปล่าหรอก ไม่ใช่ว่านางไปจ้างผู้ชายตามโฮสต์ที่ไหนมาเป็นแฟนล่ะ" ไปรมาหยุดพูดเพื่อกระแอมให้คอโล่งก่อนพูดต่อ

"ไม่รู้ว่ะจันทร์ บอกตามตรงเลยนะ ฉันรู้สึกว่ายายวีวี่มันพยายามจะแข่งกับแกทุกเรื่องเลยนะ ตอนที่แกยังเป็นคุณหนูบ้านรวย และบ้านแกยังไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้น วีวี่มันก็พยายามจะยกตัวเองให้เหนือกว่าแกทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับที่ใส่ หรือผู้ชายที่กำลังคบอยู่ ตอนแกคบกับพี่ชิน มันก็มาบอกฉันว่ามันแอบรักพี่เขามาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว แต่เห็นว่าแกเป็นเพื่อนรักก็เลยยอมถอยให้ แล้วมันก็ไปคว้าเอาหนุ่มวิศวะมาเป็นแฟน ทำสวีตหวานโชว์ชาวบ้านแบบไม่แคร์สื่อ แต่พอรู้ว่าแกเลิกกับพี่ชิน มันก็วิ่งโร่ไปตามตื๊อเขา เรื่องนี้แกก็รู้ไม่ใช่หรือ"

จันทร์เจ้าขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด จะว่าไปแล้วระยะเวลาเจ็ดปีนั้นจะถือว่านานก็นาน แต่ก็เหมือนแค่กะพริบตาไม่กี่ครั้งก็ผ่านไปแล้วเจ็ดปี ในเจ็ดปีนี้การเลิกรักใครสักคนถือเป็นเรื่องง่ายหรือยากเธอเองก็ยังให้คำตอบไม่ได้เลย

"ยายวีวี่น่ะมันอยากได้อยากมี อะไรที่ทำแล้วยกระดับตัวเองได้มันก็ทำทั้งนั้นแหละ ฉันว่าที่มันชอบพี่ชินก็เพราะตอนนั้นพี่เขาฮอตปรอทแตก ทั้งหล่อทั้งรวย ใครได้เดินควงก็หน้าเชิดอกตั้งแล้ว พอเขามาจีบแก เทียวไล้เทียวขื่อเช้าถึงเย็นถึง แถมยังเปย์ไม่อั้น ยายวีวี่มันก็วอนต์อยากได้เขามาเป็นแฟนบ้างน่ะสิ"

ครั้นพอได้ฟังเพื่อนรักพูดถึงอดีตอันแสนหวานชื่นระหว่างตนกับเจ้านายหนุ่มคนปัจจุบัน จันทร์เจ้าก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปช่วงนั้น ภาพในวันวานหลั่งไหลเข้ามาในหัวไม่ขาดสายราวกับทุกเรื่องเพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อวาน แม้กระทั่งตอนที่จับได้ว่าชินดนัยไม่ได้คบหากับเธอแค่คนเดียว แต่ความเจ็บปวดจากการถูกนอกใจครั้งนั้นไม่ได้ส่งผลถึงเธอในตอนนี้แล้ว

"แล้วเป็นไงมั่ง ทำงานกับแฟนเก่าน่ะ" ไปรมาถามยิ้ม ๆ สายตาพยายามจับผิดสีหน้าของเพื่อนสนิทแต่ก็ไม่เห็นอะไร

"ก็ไม่ได้เป็นไง ฉันก็ทำงานของฉันไป เขาก็ทำงานของเขา ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย" จันทร์เจ้าตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย แต่สายตาหลุบต่ำทำทีเป็นมองจานข้าวของตัวเองตรงหน้า

"ไม่กลัวถ่านไฟเก่าจะคุบ้างหรือ" ไปรมาหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด เป็นเพื่อนกันมาเกือบสิบปีจะไม่รู้เลยหรือว่าอาการนิ่งเฉยเหมือนทองไม่รู้ร้อนและการทำหน้าตายแต่ไม่ยอมสบตาด้วยของจันทร์เจ้านั้น แท้จริงแล้วคือการพยายามปิดบังอะไรบางอย่างอยู่

"ไม่มีทาง แกอย่าลืมสิว่าตอนนี้ฉันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ และสถานะระหว่างฉันกับเขาก็ไม่สามารถจะกลับไปเป็นอย่างเดิมได้อีก เขาคือเจ้านาย ฉันคือลูกน้อง เราต่างคนต่างใช้ชีวิตของใครของมันไม่เกี่ยวกันอีกต่อไป"

ไปรมาพยักหน้ารับฟังอย่างขอไปที ทั้งที่ในใจไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไรนัก แต่เพราะรู้ว่าคงเป็นเรื่องยากหากต้องการจะง้างปากจันทร์เจ้าให้พูดเรื่องที่ไม่อยากพูด ตนจึงทำได้แค่รอเท่านั้น หากเจ้าตัวพร้อมจะเล่าเมื่อไรก็จะเปิดปากออกมาเอง

ขากลับเข้าออฟฟิศจันทร์เจ้าหิ้วถุงแกงกะหรี่และน้ำอัดลมที่ชินดนัยฝากซื้อติดมือไปด้วย เมื่อถึงห้องทำงาน หญิงสาวก็จัดการนำข้าวใส่จาน และนำน้ำอัดลมใส่น้ำแข็งจากตู้เย็นในห้องแคนทีนมาใส่แก้วแล้วยกเข้าไปให้ผู้เป็นนายถึงในห้อง

"ขอโทษที่มาช้าค่ะ ร้านนี้รอคิวค่อนข้างนาน" หญิงสาวบอกเขาไปตามตรงเพราะตนเข้างานช่วงบ่ายสายไปร่วมครึ่งชั่วโมง

"ไม่เป็นไร ถ้าเป็นจันทร์นานแค่ไหนพี่ก็รอได้" ชายหนุ่มพูดตอบมาทั้งรอยยิ้ม สายตาอ่อนเชื่อมมองแก้วที่ใส่น้ำอัดลมและน้ำแข็งไว้สลับกับมองหน้าเรียบเฉยของเลขาฯ ส่วนตัว

"ชื่นใจจังที่หนูจันทร์จำได้ด้วยว่าพี่ชอบกินโค้กแบบใส่น้ำแข็ง" เขาเกือบหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่ามือของเธอชะงักไปทันทีที่เขาพูดจบ และเป็นดังคาด หญิงสาวตวัดสายตาฟาดฟันใส่เขาอย่างลืมตัวจนเขาแทบอยากลุกขึ้นปรบมือให้ตัวเองที่ในที่สุดก็ทำให้เจ้าหญิงน้ำแข็งหลุดการควบคุมได้

"ท่านประธานคะ ฉันซื้อโค้กมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างแล้วเดินมาจนถึงออฟฟิศ ต่อให้โค้กมันเย็นเป็นวุ้นยังไง ถ้ามาถึงที่นี่ก็ต้องละลายหมดอยู่ดีค่ะ ในเมื่อท่านประธานบอกไว้ล่วงหน้าว่าอยากได้โค้กเย็นจัด ฉันก็ต้องใส่น้ำแข็งให้สิคะ คงไม่มีใครเอาไปต้มให้หรอก"

"ฮ่า ๆ เยี่ยมมากหนูจันทร์!"

ชินดนัยหัวเราะเสียงดังพร้อมกับปรบมืออย่างชอบใจ จากสาวน้อยใส ๆ กลายเป็นหญิงสาวที่มีเขี้ยวเล็บแหลมคมแบบนี้ช่างถูกใจเขาเหลือเกิน

จันทร์เจ้าหน้าง้ำลงทันทีเมื่อรู้แล้วว่าถูกเขาแหย่เล่น เธอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่ยี่หระ ยิ้มให้เขาบาง ๆ แล้วพูดว่า

"ขอบคุณที่ชมค่ะ แต่สงสัยท่านประธานจะหิวจนหน้ามืดตาลายถึงได้กลายเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไปทำงานก่อนดีกว่าค่ะ ค่อย ๆ กินนะคะ ระวังข้าวจะติดคอ"

พูดจบเธอก็เดินเชิดหน้าออกจากห้องไป โดยทิ้งสายตาแพรวพราวและรอยยิ้มกว้างของชายหนุ่มไว้เบื้องหลัง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 5 พี่ชายที่แสนดี - 25%

    หลังเลิกงาน ชินดนัยขับรถถึงบ้านในเวลาหนึ่งทุ่มเล็กน้อย ชายหนุ่มเดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงพลางฮัมเพลงเข้ามาในบ้านอย่างอารมณ์ดี ก่อนเสียงเพลงจะหยุดลงเมื่อเห็นผู้เป็นมารดาปรี่เข้ามาหาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก"ตาชิน กลับมาแล้วหรือลูก""มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับคุณแม่" เขาถามท่านกลับไป ในใจเริ่มกังวลถึงอาการป่วยของน้องสาวเพราะมีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวที่ทำให้คนในบ้านต่างพากันเป็นห่วง"ยายนุชน่ะสิ ปิดประตูเงียบอยู่แต่ในห้องตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน แม่เรียกลงมากินข้าวเย็นก็บอกว่ายังไม่หิว นี่พ่อเราก็กำลังเกลี้ยกล่อมให้ออกมานั่งเล่นข้างนอกบ้าง ไม่อยากให้อยู่ในห้องคนเดียวนานนัก เพราะกลัวว่าจะ..."ท่านหยุดพูดไว้เพียงแค่นั้น เขาจึงยื่นมือไปบีบมือท่านเบา ๆ อย่างปลุกปลอบ"เดี๋ยวผมคุยกับน้องเองครับคุณแม่" พูดจบเขาก็เดินขึ้นบันไดไปหน้าห้องนอนของชญานุชซึ่งอยู่เยื้องกับห้องนอนของเขา มีร่างสูงโปร่งของบิดายืนนิ่งอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าอมทุกข์ ครั้นพอเห็นเขาเดินเข้าไปใกล้ ท่านจึงหันมามองพลางถอนหายใจแผ่ว"คุณพ่อไปพักผ่อนเถอะคร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 5 พี่ชายที่แสนดี - 50%

    ชินดนัยส่ายหน้าก่อนตอบ "ไม่ใช่ค่ะ พี่เคยคบกับเขาตอนเรียนมหา'ลัยน่ะ แต่ก็คบได้ไม่นานก็เลิกกันไปแล้วพี่ก็ไปเรียนต่อพอดี ตอนนี้เขามาทำงานเป็นเลขาฯ ของพี่ พี่ก็พยายามจะรื้อฟื้นเรื่องเก่า ๆ กับเขาอยู่แต่ยังไม่สำเร็จ""แปลว่าจบไม่สวยเท่าไรใช่ไหมคะ" เมื่อถูกน้องสาวถามจี้ใจดำ เขาก็ได้แต่ทำหน้าประดักประเดิดเพราะเป็นเรื่องจริง ก่อนจะพยักหน้ายอมรับอย่างไม่มีทางเลี่ยง"พี่ไม่ดีเองแหละ ช่วงนั้นมั่นใจในความหล่อของตัวเองมากไปหน่อย"เขาพยายามใช้คำพูดที่ฟังติดตลก เพราะความจริงแล้วการที่เขาควงสาวไม่ซ้ำหน้า คบผู้หญิงซ้อนกันหลายคนในช่วงนั้นเป็นเพราะฮอร์โมนความเป็นชายมันพลุ่งพล่าน โดยเฉพาะการได้ลากสาวสวยมาเล่นสนุกกันบนเตียงเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับเขาเหลือเกิน ยิ่งเขาสามารถปิดบังบรรดาสาว ๆ ที่คบอยู่ และให้เจ้าหล่อนเชื่อว่าเขาคบเธอแค่คนเดียวได้นานเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองมากเท่านั้น"แล้วทำไมพี่ชินถึงอยากกลับมาคบกับคนนี้อีกครั้งล่ะคะ"ชายหนุ่มถอนหายใจแผ่ว มีมากมายหลายสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจจนไม่รู้จะบรรยายออกมาอย่างไรให้คนฟังเข้าใจสิ่งที่เขากำลังเป็นอยู่ แต่ส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 5 พี่ชายที่แสนดี - 75%

    “มาแล้วครับผม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงรื่นเริงแล้วเดินเข้ามาวางขวดน้ำไว้บนโต๊ะและยื่นแก้วนมให้น้องสาว เธอรับแก้วไปถือไว้ เขาจึงเดินไปที่โต๊ะข้างเตียง เปิดลิ้นชักหยิบยาต้านเศร้าที่ต้องกินก่อนนอนออกมาทั้งแผง จากนั้นก็มานั่งที่เดิมเขารอจนเธอดื่มนมหมดแก้วจึงแกะยาจากแผงยื่นให้หนึ่งเม็ดพร้อมรอยยิ้ม เธอมองยาเม็ดเล็ก ๆ สีขาวในมือเขาครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมือออกมารับแต่ยังไม่ยอมกิน เขาจึงแกะออกมาอีกเม็ดแล้วพูดว่า“ถ้านุชไม่อยากกินยาคนเดียวเดี๋ยวพี่กินเป็นเพื่อนก็ได้ค่ะ” พูดจบเขาก็โยนยาเม็ดนั้นเข้าปากแล้วยกน้ำขึ้นดื่มทั้งขวด ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของน้องสาว“พี่ชิน! กินเข้าไปได้ยังไงคะ” หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างคาดไม่ถึงว่าเขาจะกล้ากินยาเหมือนตน“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย พี่ก็แค่อยากกินยาเป็นเพื่อนนุช คราวนี้ถึงตานุชต้องกินยาบ้างแล้วนะคะ” เขายิ้มราวกับการกินยาต้านเศร้าทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้านั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรครั้นพอเห็นน้องสาวกินยาแล้วดื่มน้ำตาม ชินดนัยก็ได้แต่ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกพลางคิดในใจว่าพรุ่งนี้จะโทรศัพท์ไปถามรมิดาเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยาสำหรับคนที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 5 พี่ชายที่แสนดี - 100%

    "พี่โทร. ไปบอกผู้จัดการสาขาแล้วละว่าเราจะเข้าไปที่นั่น ที่พี่จะให้จันทร์ไปวันนี้ก็เพราะอีกหน่อยจันทร์จะต้องไปติดต่อกับที่นี่บ่อย ๆ และอีกอย่างคือหลายคนรู้แค่ว่าพี่เปลี่ยนเลขาฯ แล้วแต่พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็ถือเสียว่าไปแนะนำตัวเองละกัน""ค่ะ สิบโมงครึ่งใช่ไหมคะ""อืม เดินไปนะ เดินบนทางลอยฟ้านี่แหละ และถ้าจันทร์ไม่มีงานด่วน หรืองานไหนที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จภายในวันนี้พี่ก็จะพาเราไปที่ศูนย์บริการด้วย ไปดูขั้นตอนการทำงานจริงเวลาที่มีสินค้าส่งซ่อม จะได้รู้ว่าเขาทำกันยังไงบ้าง"จันทร์เจ้าทำท่าครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วก็ตัดสินใจได้"คิดว่าไม่มีนะคะ ไปวันนี้เลยก็ได้"ชินดนัยยิ้มบาง ๆ พลางพยักหน้าให้ "งั้นก็ตามนั้น สิบโมงครึ่งเข้ามาเตือนพี่อีกทีละกัน เผื่อพี่มัวแต่ทำนั่นทำนี่จนลืมเวลา""ค่ะ ขอตัวนะคะ" พูดจบจันทร์เจ้าก็หันหลังแล้วเดินออกจากห้องไปโดยมีสายตาเจ้าเล่ห์ของผู้เป็นนายมองตามหลังไปตลอดจนกระทั่งประตูปิดลงเขาจึงละสายตาออกมาชินดนัยยิ้มกว้างเมื่อในที่สุดกวางน้อยก็ตกหลุมที่เขาดักไว้จนได้"ไว้ไปวันหลังละกันนะหนูจันทร์ ศูนย์บริการน่ะ"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 6 นาฬิกาไม่เดินถอยหลัง - 25%

    ชินดนัยกับจันทร์เจ้าเดินเคียงกันไปบนทางเดินลอยฟ้าที่เชื่อมตั้งแต่แยกราชประสงค์จนถึงย่านสยามสแควร์ อันเป็นที่ตั้งของบรรดาห้างสรรพสินค้าใหญ่ซึ่งมีสินค้าแฟชั่นหลากหลายแบรนด์ชั้นนำไปจนถึงโชว์รูมรถหรูชายหนุ่มมีรอยยิ้มที่มุมปากตลอดเวลา เหตุผลหนึ่งที่เขาพาหญิงสาวมาเดินบนทางเดินลอยฟ้าตรงนี้ก็เพื่อระลึกถึงความหลังเมื่อครั้งที่เขากับเธอเจอกันครั้งแรกตอนนั้นเธอเป็นน้องปีหนึ่ง เขาเป็นพี่ปีสาม เขาเพิ่งเสร็จจากเตะบอลกับเพื่อน จึงนั่งจักรยานยนต์รับจ้างแถวหน้ามหาวิทยาลัยมาลงที่รถไฟฟ้าแล้วขึ้นมาบนทางเดินตรงนี้เพื่อจะเข้าไปที่บริษัทเพราะจอดรถไว้ที่นั่น เขาเห็นจันทร์เจ้ามาแต่ไกล ณ เวลานั้นเขาสนใจเธอขึ้นมาทันทีตามประสาผู้ชายรักสนุกเมื่อเห็นสาวสวยถูกใจ เธออยู่ในชุดนิสิตกระโปรงพลีตคลุมเข่าเดินหิ้วถุงของห้างสรรพสินค้าพะรุงพะรังเต็มสองมือและไม่รู้เพราะโชคเข้าข้างเขาหรือเพราะอะไร จู่ ๆ ก็มีลมแรงพัดมาจนผมของเธอปลิวมาปิดหน้าปิดตา ซ้ำร้ายไปกว่านั้น กระโปรงที่เธอสวมอยู่ก็ถูกลมพัดจนเลิกขึ้นเกือบเห็นกางเกงใน หญิงสาวดูตกใจมากแต่ก็นับว่ามีสติและแก้ปัญหาได้รวดเร็ว เพราะเธอรีบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-18
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 6 นาฬิกาไม่เดินถอยหลัง - 50%

    ชินดนัยรู้ตัวว่าจันทร์เจ้าว่ากระทบเขาเรื่องการซ่อมถนนหรือทางเท้าของกรุงเทพฯ ซี่งเขาเองก็ไม่คิดจะเถียงหรือแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้นเพราะเขาทำเรื่องแบบนั้นลงไปจริง ไม่แปลกที่หญิงสาวยังยึดติดว่าเขาเป็นเพลย์บอยจอมเจ้าชู้คนนั้นอยู่ อีกทั้งเขาก็สร้างความเจ็บช้ำให้เธอไว้ไม่น้อย เธอจะตั้งแง่กับเขาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมควร เขาก็ได้แต่หวังว่าเมื่อเวลาผ่านไป จันทร์เจ้าจะเข้าใจและเริ่มมองเขาที่เป็นคนใหม่ ไม่ใช่หนุ่มเสเพลเมื่อเจ็ดปีก่อนคนนั้นอีกทั้งคู่มาถึงโชว์รูมนาฬิกาที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง ผู้จัดการสาขาซึ่งเป็นชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบกว่าเดินเข้ามาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและนอบน้อม พนักงานสาวในชุดสูทสีดำที่ไม่ได้กำลังต้อนรับลูกค้าอยู่ต่างยกมือไหว้ทำความเคารพชินดนัย ขณะที่จันทร์เจ้าก็มีรอยยิ้มบาง ๆ อย่างเป็นมิตรบนหน้าตลอดเวลาจันทร์เจ้ากวาดตามองโชว์รูมนาฬิกาที่ตกแต่งไว้อย่างเรียบหรูดูมีรสนิยมด้วยสายตาเรียบเฉย ไม่ได้มีท่าทีตื่นเต้นตาเป็นประกายเมื่อเห็นนาฬิกาที่ราคาเป็นแสนเป็นล้าน สำหรับเธอแล้วสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของนอกกาย มีก็ดีไม่มีก็ได้ เพราะตนก็ไม่ใช่นั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-18
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 6 นาฬิกาไม่เดินถอยหลัง - 75%

    เขาไม่กล้าละลาบละล้วงถามเรื่องครอบครัวของเธอ เพราะไม่อยากให้จันทร์เจ้ามองว่าตนไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว อีกทั้งเรื่องครอบครัวล้มละลายแบบนี้หญิงสาวคงไม่ต้องการพูดถึงเท่าไรนัก"รุ่นนี้พวกดาราหรือไฮโซแถวหน้าของเมืองไทยฮิตกันมาก แต่เวลามีคนใส่ชนกันกลับไม่ดูเกร่อ ถ้าเปรียบเป็นกระเป๋าก็คงเหมือนชาแนลหรือแอร์เมสนะคะ""ใช่ เพราะนาฬิกาของเราไม่เคยลดราคา มีแต่ขึ้นราคา ถ้ามีตำหนิหรือข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ทางผู้ผลิตจะทำใหม่ทันที ยิ่งบางรุ่นที่ไม่ผลิตแล้วก็ยิ่งแพง ราคามีแต่ทะยานขึ้น เขาถึงได้บอกไงว่าเก็บไว้เป็นมรดกส่งต่อให้ลูกหลานได้"เขาพูดพลางบุ้ยหน้าไปทางผู้ชายอายุประมาณสี่สิบแต่งตัวภูมิฐานคนหนึ่งที่นั่งรออยู่ในห้องรับรอง"เห็นลูกค้าคนนั้นไหม เขามารับนาฬิกาที่สั่งไว้ซึ่งนับเป็นเรือนที่หกแล้วที่ซื้อไปจากที่นี่ เขาบอกว่าชอบสะสมนาฬิกาเพราะกะจะเอาไว้เป็นทรัพย์สินในมรดกด้วย"จันทร์เจ้าพยักหน้ารับรู้เพราะเข้าใจดี ตอนที่บ้านของเธอต้องนำทรัพย์สินมีค่าออกขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้ เฉพาะนาฬิกาสะสมของบิดาก็ขายได้มากถึงสิบกว่าล้าน ส่วนนาฬิกาของเธอกับพี่สาวนั้นขายได้ล้านกว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-18
  • เล่ห์หวนรัก   บทที่ 6 นาฬิกาไม่เดินถอยหลัง - 100%

    "วันนี้พี่ขอตัวกลับก่อนนะ มีธุระกับที่บ้านน่ะ ถ้าจันทร์มีปัญหาอะไรก็โทร. หาพี่ได้ตลอดเวลาไม่ต้องเกรงใจ หรือไม่มีปัญหาอะไรก็โทร. มาได้ ถ้าเป็นสายจากจันทร์ พี่แสตนด์บายรอเสมอ""ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ ขอตัวนะคะ" หญิงสาวยิ้มบาง ๆ ก่อนเดินออกจากห้อง เธอรู้ว่าเขายังคงมองตามหลังมาอยู่จึงพยายามไม่เบนสายตาไปทางนั้น ครั้นพอออกมานอกห้องก็เจอกับกิตติกร ผู้จัดการฝ่ายการตลาดซึ่งดูแลไปถึงฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ด้วย จันทร์เจ้าจึงค้อมศีรษะให้เขาในฐานะที่ตนตำแหน่งต่ำกว่า"คุณชินอยู่ในห้องใช่ไหม" กิตติกรถามพลางชี้เข้าไปในห้อง"อยู่ค่ะ แต่เห็นท่านประธานบอกว่าจะขอตัวกลับบ้านก่อน คุณกิตติกรจะคุยกับท่านเรื่องกระทู้ในเว็บบอร์ดใช่ไหมคะ"หญิงสาวลองถามเขาดูเพราะคิดว่าชินดนัยคงส่งอีเมลถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ซึ่งก็ไม่ผิดจากที่คาดเดานักเพราะกิตติกรพยักหน้าให้แทนการตอบรับ"งั้นหรือ ไม่เป็นไร เอาไว้พรุ่งนี้ผมค่อยมาคุยอีกทีก็แล้วกัน" กิตติกรยิ้มให้เลขาฯ คนใหม่ก่อนจะเดินกลับห้องทำงานของตัวเองคล้อยหลังผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประตูห้องทำงานของชินดนัยก็เปิดออก ชายหนุ่มเลิกคิ้วข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-18

บทล่าสุด

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ ของขวัญวันเกิด - 100%

    "อ้าว แล้วพี่ออกมาก่อนแบบนี้พวกพี่ ๆ เขาไม่ว่ากันหรือคะ""ไม่ว่าหรอกน่า พวกพี่จะนัดกันเมื่อไรก็ได้ ต่อให้ไม่มีพี่ มันสองคนก็นัดชนแก้วกันเป็นประจำอยู่แล้ว อีกอย่างนะ พวกมันก็เข้าใจดีว่าเคสของหนูจันทร์เป็นเคสที่พี่ต้องจัดให้เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง"ชินดนัยยิ้มพลางหยิบขวดไวน์มารินใส่แก้วให้หญิงสาวอีกครั้ง จันทร์เจ้าเบิกตากว้างเพราะตนเพิ่งดื่มเข้าไปแค่ไม่กี่จิบเท่านั้น ไวน์ยังเหลือในแก้วตั้งเยอะแต่เขากลับรินให้จนเลยครึ่งแก้วขึ้นมา"พอแล้วค่ะ จะมอมกันหรือไง พี่ก็รู้ว่าจันทร์ดื่มไม่เก่ง"ชินดนัยมองเธอด้วยสายตาร้อนแรงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงต่ำพร่าว่า"พี่รู้ว่าจันทร์ดื่มไวน์ไม่เก่ง แต่เวลาที่จันทร์เมาจันทร์จะดูดน้ำอย่างอื่นได้เก่งมากเลย เพราะฉะนั้นพี่ก็ต้องมอมสักหน่อย"จันทร์เจ้าหน้าแดงขึ้นมาทันทีเพราะรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร หญิงสาวจึงปิดปากเงียบไม่พูดอะไรที่จะเป็นการเข้าเนื้อตัวเองอีกชายหนุ่มมองสีหน้าขัดเขินของเธอแล้วก็นึกอยากพรมจูบไปให้ทั่วใบหน้า แต่เพราะเกรงว่าตนอาจจะไม่จบลงแค่จูบจึงได้แต่สะกดกลั้นความต้องการของตัวเองไว้ พลางหาเรื่องอื่นมา

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ ของขวัญวันเกิด - 75%

    มือของเขาเลื่อนขึ้นมาจนสัมผัสได้กับเส้นเล็ก ๆ บาง ๆ ของกางเกงชั้นใน จากนั้นเขาก็จับเอวของเธอไว้แล้วผละออกห่างเล็กน้อยเพื่อมองภาพความสวยงามที่หาได้ยากแบบนี้ให้เต็มตา"เซ็กซี่มากที่รัก พี่ชอบมากเลย"สายตาร้อนแรงของเขาราวกับจะแผดเผาเธอได้ ยอมรับว่าอายแสนอายจนรู้สึกได้ถึงความร้อนที่พุ่งขึ้นมากระจุกอยู่บนใบหน้า แต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเป้ากางเกงของเขาก็ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะยังไม่ถึงหนึ่งนาทีเลยด้วยซ้ำ แต่ความพรักพร้อมของเขานั้นปูดโปนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดจันทร์เจ้าเอาแขนออกจากคอของชินดนัยแล้วดึงกระโปรงลง จากนั้นก็ใช้นิ้วเกี่ยวหูกางเกงของเขาพลางดึงเบา ๆ แล้วพูดว่า"ไปที่โต๊ะกันดีกว่าค่ะ จันทร์เพิ่งอุ่นเสร็จเมื่อกี้เอง ไวน์ก็เพิ่งเอามาแช่ใหม่ ถ้าไม่ดื่มตอนนี้เดี๋ยวน้ำแข็งจะละลายเสียก่อน"เธอดึงหูกางเกงของเขาเพื่อให้ชายหนุ่มเดินตามมาที่โต๊ะอาหาร ชินดนัยเดินตามอย่างว่าง่ายจนกระทั่งมาถึงโต๊ะจึงกดบ่าของเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้"เดี๋ยวจันทร์รินไวน์ให้นะคะ"หญิงสาวยิ้มหวานให้ก่อนหันหลังให้เขาแล้วเอื้อมหยิบขวดไวน์ที่อยู่อีกฝั่งของโต๊ะ แต่เพราะชุ

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ ของขวัญวันเกิด - 50%

    เมื่อเดินเข้าไปด้านใน แค่แจ้งชื่อของปกเกล้าก็จะมีพนักงานสาวสวยพาเขาไปยังโต๊ะที่จองเอาไว้ทันที"อ้าว ไอ้ปกยังไม่มาหรือ" ชินดนัยเห็นภาวินนั่งอยู่เพียงลำพังจึงถามถึงเพื่อนอีกคน"คงกำลังมาแหละมั้ง เห็นว่ามีเรื่องด่วนนิดหน่อย...ของพี่คนนี้โซดาอย่างเดียวนะจ๊ะ" ภาวินตอบพลางหันไปบอกกับบันนี่สาวที่มีหน้าที่ผสมเหล้าอยู่ข้างโต๊ะ"เฮ้ย...เรื่องด่วนที่ว่าหมายถึงเรื่องนี้เองหรือวะ" ชินดนัยยิ้มเจ้าเล่ห์พลางบุ้ยหน้าไปทางชั้นล่าง ภาวินจึงมองลงไปบ้างก็เห็นปกเกล้ากำลังจูงมือหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาในคลับด้วยจะว่าไปแล้วน่าจะเรียกว่าฉุดลากกันมากกว่า เพราะดูจากท่าทางไม่เต็มใจของผู้หญิงที่ปกเกล้าพามาด้วยกันนั้นก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายถูกบังคับให้มาที่นี่"น่ารักดีว่ะ อย่างกับเด็กมหาลัย ไอ้ปกไปหามาจากไหนวะเนี่ย"ภาวินอดสงสัยไม่ได้เพราะปกติแล้วเวลานัดสังสรรค์กันในหมู่เพื่อนสนิท จะไม่มีใครพาผู้หญิงมาด้วยเด็ดขาดเพราะกลัวงานกร่อย และกฎนี้ปกเกล้าก็เป็นคนตั้งขึ้นเองด้วยซ้ำแต่เจ้าตัวกลับทำผิดกฎเสียเอง"กูว่าคนนี้คงไม่ธรรมดาเว้ย มึงดูสิไอ้ปกเคยเป็นแบบนี้ที่ไหน ทำอย่างกับจับ

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ ของขวัญวันเกิด - 25%

    สุดท้ายแล้วจันทร์เจ้าก็ไม่ได้ซื้อของขวัญวันเกิดให้ชินดนัย ดังนั้นหลังจากที่รับประทานมื้อเที่ยงกับภัทรพลเสร็จแล้วเธอจึงกลับขึ้นไปบนออฟฟิศตามเดิม ทว่านั่งทำงานไปได้ไม่เท่าไร หญิงสาวก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงเดินเข้าไปหาผู้เป็นทั้งเจ้านายและคนรักในห้องทำงานของเขา"จันทร์ขอลางานครึ่งวันนะคะพี่ชิน คุณแม่ติดธุระก็เลยไปรับหนูพราวที่โรงเรียนไม่ได้ค่ะ จันทร์เลยต้องไปรับแทน""งั้นหรือ...อืม งั้นก็ไปเถอะ ถึงบ้านแล้วโทร. หาพี่ละกัน พี่จะได้ไม่เป็นห่วง" เขายิ้มพลางกางแขนออกกว้าง หญิงสาวจึงอดค้อนให้เขาไม่ได้ แต่กระนั้นก็ยังเดินเข้าไปก้มตัวลงเล็กน้อยแล้วโผไปซุกในอ้อมอกของเขาชินดนัยหอมขมับของเธออย่างแสนรัก หากแต่มือเจ้ากรรมก็ยังไม่วายซุกซน บีบบั้นท้ายของหญิงสาวเล่นอย่างเคยตัว ผลลัพธ์ที่ตามมาคือถูกเจ้าของบั้นท้ายหยิกเข้าที่เอวเต็มแรง"นิสัยไม่ดีตลอดเลยพี่ชินเนี่ย เผลอเป็นไม่ได้"จันทร์เจ้าบ่นให้เขาพลางผละออกห่างแล้วยืนเต็มความสูงตามเดิม จากนั้นก็เดินไปที่ประตูห้องทำงาน"จันทร์ไปก่อนนะคะ ถึงบ้านแล้วจะโทร. หาค่ะ" พูดจบก็เปิดประตูเดินออกไปจึงไม่ทันเห็นว่าใบ

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ คนนั้นคือใคร - 100%

    ชายหนุ่มไม่แสดงท่าทีเอาอกเอาใจมากจนเกินไปอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งปฏิบัติต่อหญิงสาวที่ตนมีใจให้เพราะไม่ต้องการให้เธอรู้สึกอึดอัด ซึ่งนับว่าเป็นผลดีกับเขามากเพราะจันทร์เจ้าพูดกับเขาอย่างที่คุยกับคนรู้จักทั่วไป ไม่มีท่าทีปิดกั้นหรือระแวงจนเขาไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เธอทั้งคู่สั่งกับข้าวมาสามอย่าง หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยแล้วโทรศัพท์ของภัทรพลก็มีสายเรียกเข้า ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นสายจากเลขานุการของตนเขาจึงต้องกดรับเพราะหากไม่ใช่เรื่องสำคัญ เลขาฯ ของเขาจะไม่โทร. มาในเวลาพักเที่ยงอย่างนี้เป็นแน่"ผมขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์สักครู่นะครับ" เขาพูดกับจันทร์เจ้าแล้วรีบลุกขึ้นก้าวเร็ว ๆ ออกจากร้านอาหารทันที จากนั้นก็เดินห่างออกไปจากหน้าร้านโดยเดินไปทางห้องน้ำเพราะตั้งใจจะเข้าไปทำธุระส่วนตัวด้วยชินดนัยเห็นผู้ชายที่อยู่กับแฟนสาวของตนกำลังเดินคุยโทรศัพท์ไปทางห้องน้ำ เขาจึงเดินอ้อมจากอีกด้านตามไปทันทีชายหนุ่มคนนั้นคุยโทรศัพท์เสร็จก็จัดการทำธุระส่วนตัว ส่วนชินดนัยก็ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเพื่อรออีกฝ่ายอย่างใจเย็น จนกระทั่งผู้ชายคนนั้นเดินมาล้างมือในอ่างท

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ คนนั้นคือใคร - 70%

    จันทร์เจ้ากลอกตามองเพดาน ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ อย่างหยอกเย้าจากเลขาฯ รุ่นพี่ที่นั่งอยู่ใกล้กัน เธอก็ได้แต่ยิ้มอย่างจนใจ"ไม่รีบเข้าไป เดี๋ยวท่านประธานก็ออกมาตามด้วยตัวเองอีกหรอก"นันทิดาพูดจบก็หัวเราะคิกคัก เพราะท่านประธานหนุ่มไม่เคยปิดบังความรู้สึกที่ตนมีต่อเลขาฯ ส่วนตัวคนนี้สักนิด ช่วงแรกที่จันทร์เจ้าคบหากับท่านประธานก็มีเพียงคนกันเองอย่างพวกตนที่เป็นเลขานุการด้วยกันเท่านั้นที่รู้แต่หลังจากที่มีโปรแกรมเมอร์หนุ่มคนใหม่เข้ามาทำงานที่บริษัทแล้วแสดงออกว่าสนใจเลขาฯ ของท่านประธานจนถึงขนาดเอ่ยปากชวนไปเลี้ยงข้าวกลางวัน ซึ่งพอเรื่องนี้เข้าหูผู้เป็นเจ้านายอย่างชินดนัย ท่านประธานหนุ่มก็แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอย่างออกนอกหน้าทันทีโดยไม่สนใจว่าพนักงานคนอื่นจะมองอย่างไรทั้งเดินจูงมือจันทร์เจ้า บางคราวก็โอบไหล่โอบเอว แม้ว่าหญิงสาวจะพยายามเอ่ยปากเตือนหลายครั้งแต่ท่านประธานก็ยังคงทำตามใจตัวเองเรื่องนี้ผ่านมาหลายเดือนแล้ว และพนักงานทุกคนก็รับรู้กันถ้วนหน้าว่าท่านประธานกับเลขาฯ ส่วนตัวนั้นกำลังคบหาดูใจกันอยู่ นานวันเข้าจากที่ทุกคนเคยตื่นเต้นกับเรื่องนี้ก็เร

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ คนนั้นคือใคร - 35%

    ในเช้าวันทำงานอันแสนวุ่นวาย จันทร์เจ้าค่อย ๆ เคลื่อนรถไปบนท้องถนนอย่างเชื่องช้าเพราะการจราจรติดขัดอย่างผิดปกติ หญิงสาวถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายพลางคิดในใจว่าข้างหน้าคงเกิดอุบัติเหตุเป็นแน่ เธอมองเวลาบนแผงคอนโซลหน้ารถ อีกแค่สิบห้านาทีก็จะถึงเวลาเข้างานแล้ว แต่ตอนนี้เธอยังไม่ครึ่งทางเลยด้วยซ้ำจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทร. ไปบอกชายหนุ่มผู้ซึ่งพ่วงทั้งตำแหน่งเจ้านายและชายคนรักว่าตนคงเข้าทำงานสาย"อุ๊ย! แย่จริง" จันทร์เจ้าพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดเมื่อโทรศัพท์เกิดหลุดมือหล่นไปอยู่ใกล้เท้า เธอมองทางข้างหน้า เห็นว่ารถยังคงเคลื่อนตัวไปได้อย่างเชื่องช้าจึงเหยียบเบรกค้างไว้ครึ่งเดียวเพื่อชะลอความเร็วรถก่อนจะก้มลงเก็บโทรศัพท์มือถือกึก!"อุ๊ยตายแล้ว!" หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าชั่วเสี้ยววินาทีที่ตนละสายตาจากท้องถนนเพื่อก้มเก็บโทรศัพท์นั้นจะส่งผลให้รถของเธอชนเข้ากับรถคันหน้าเข้าจนได้ แม้จะไม่รุนแรงเพราะรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่ต่างจากคลาน แต่อย่างไรเสียก็ถือว่าเธอเป็นฝ่ายผิดที่ไปชนเขาก่อนรถคันหน้าจอดนิ่งพร้อมกับเปิดไฟกะพริบ จากนั้นประตูฝั

  • เล่ห์หวนรัก   บทส่งท้าย - 100%

    จันทร์เจ้าเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย "ทำไมหรือคะ พี่ชินเจออะไรมาหรือ"ชินดนัยถอนหายใจแผ่วก่อนจะตัดสินใจเล่าให้หญิงสาวฟัง หลังจากเล่าจบเขาก็พูดขึ้นว่า"ตอนแรกพี่ว่าจะไม่บอกจันทร์ เพราะเดี๋ยวจันทร์จะหาว่าพี่ขี้ฟ้อง คิดเล็กคิดน้อยกับเพื่อนของจันทร์ แต่มาคิดดูอีกที เพื่อนแบบนี้ไม่มีเสียยังจะดีกว่า""ช่างเขาเถอะค่ะ จันทร์เลิกใส่ใจเรื่องของวีวี่มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ปล่อยให้เขาแข่งไปคนเดียวเถอะ"ชายหนุ่มยิ้มละไมเพราะคิดไว้อยู่แล้วว่าเธอต้องพูดแบบนี้"พรุ่งนี้เจอกันที่จุดนัดพบตรงปั๊มน้ำมันนะ อย่าตื่นสายล่ะ"ชายหนุ่มแกล้งเย้าเพราะรู้อยู่แล้วว่าจันทร์เจ้าไม่ใช่คนตื่นสาย เธอยู่หน้าใส่ชายหนุ่มแล้วใช้นิ้วจิ้มแก้มเขาไม่แรงนักก่อนพูดว่า"บอกตัวเองเถอะค่ะ จันทร์ว่ารถจันทร์ไปถึงก่อนทุกคนแน่นอน"สุดสัปดาห์นี้เป็นวันหยุดยาว ทั้งสามบ้านจึงนัดกันไปเที่ยวทะเลปราณบุรี ต่างคนต่างขับรถไปบ้านใครบ้านมันโดยยึดเอาปั๊มน้ำมันใหญ่ตรงถนนวิภาวดีเป็นจุดนัดพบ"จะรอดูคนขี้คุย โอเคครับพรุ่งนี้เจอกัน"ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปจูบหญิงสาวเป็นการลาเมื่อถึงห

  • เล่ห์หวนรัก   บทส่งท้าย - 70%

    "ฉันยังไม่แจกตอนนี้ รอนังวีวี่มาก่อน นี่ฉันอุตส่าห์บอกมันว่านัดกันตอนหกโมงครึ่งนะเนี่ย แต่นี่ปาไปทุ่มครึ่งแล้วนางยังไม่เสด็จมา ใครก็ได้จุดธูปเรียกมันหน่อยซิ"ทันทีที่ไปรมาพูดจบ ประตูห้องวีไอพีที่จัดเลี้ยงก็ถูกเปิดออก ตามมาด้วยร่างระหงในชุดเดรสรัดรูปสีดำ เจ้าตัวเยื้องย่างเข้ามาในห้องราวกับนางพญาโดยไม่ยอมสบตาใคร เมื่อถึงเก้าอี้ว่างก็วางกระเป๋าสะพายแบรนด์ดังที่หลายคนรู้ดีว่าราคาไม่ต่ำกว่าสามแสนลงบนโต๊ะ จากนั้นจึงค่อยกวาดตามองทุกคนทั้งรอยยิ้มเรียวปากสีสดของวรัชยาค่อย ๆ หุบลงเมื่อเห็นชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งอยู่ ก่อนจะพึมพำอย่างแผ่วเบา"พี่ชิน" สายตาของวรัชยาเบนไปที่หญิงสาวข้างกายเขา "ยายจันทร์""โอ๊ยหล่อน เปิดตัวมาแบบรัชดาลัยเธียเตอร์มาก เขานัดกันหกโมงครึ่งแต่หล่อนเพิ่งมาเอาป่านนี้ โหงพรายที่หล่อนเลี้ยงไว้เพิ่งกระซิบบอกรึไงยะ" เพื่อนที่เป็นสาวประเภทสองคนหนึ่งอดแขวะวรัชยาไม่ได้"ฉันก็ต้องมีติดธุระกันบ้างสิ ฉันไม่ได้ทำงานเป็นพนักงานประจำเหมือนพวกเธอนะ ฉันมีธุรกิจส่วนตัวก็รู้ ๆ กันอยู่"วรัชยาพยายามวางตัวให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะชายห

DMCA.com Protection Status