Share

บทที่ 1 เลขาฯ คนใหม่ - 100%

ไม่อยากเชื่อเลยว่าเวลาผ่านไปแค่ไม่กี่ปี แต่ชีวิตของเธอได้พลิกกลับด้านจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากคนที่เคยมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ มีชีวิตที่หรูหราฟู่ฟ่า เวลานี้ต้องกลายมาเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา ๆ ที่ต้องวางแผนการใช้เงินในแต่ละเดือนให้รอบคอบที่สุดเพราะยังมีอีกสองปากท้องที่เธอต้องดูแล

แต่จะว่าไปจันทร์เจ้าก็รู้สึกขอบคุณทุกอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามาในวันนั้น หาไม่แล้ววันนี้เธอก็คงเป็นเพียงผู้หญิงหัวอ่อนคนหนึ่งที่ไม่ค่อยทันเล่ห์เหลี่ยมคนอื่นเขา

คืนนั้นจันทร์เจ้าเข้าอินเทอร์เน็ตเพื่อหาประวัติของนาฬิกาแบรนด์หรูทั้งสองแบรนด์อีกครั้งเพราะอยากรู้จักกับมันให้มากกว่านี้ เมื่อก่อนเธอไม่เคยสนใจว่าทำไมราคามันถึงแพง รู้แค่ว่ามันสวย และตนก็ชอบเท่านั้น แต่พอได้ทำความรู้จักกับนาฬิกายี่ห้อนี้มากขึ้น หญิงสาวจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมนักสะสมนาฬิกาทั้งหลาย หรือแม้กระทั่งพระราชินีแห่งอังกฤษจึงนิยมชมชอบและต้องมีไว้ในครอบครองอย่างน้อยหนึ่งเรือน

เสียงเคาะประตูเบา ๆ ทำให้จันทร์เจ้าละสายตาจากหน้าจอแล้วรีบเดินไปเปิดประตูเพราะรู้ว่าใครเป็นคนเคาะ และก็ไม่ผิดจากที่คาดเท่าไรนัก เพราะเมื่อประตูเปิดออกก็มีร่างเล็กจ้อยในชุดนอนสีชมพูหวานยืนยิ้มเผล่กอดตุ๊กตาหมูสีชมพูกับผ้าห่มประจำตัวอยู่หน้าห้อง

"หนูพราวอยากนอนกับแม่จันทร์ค่ะ"

"เข้ามาสิคะคนเก่ง" หญิงสาวเบี่ยงตัวให้หลานสาวตัวน้อยเข้ามาในห้อง จากนั้นก็ปิดประตูไว้ตามเดิม

"ขอแม่จันทร์ปิดคอมก่อนนะคะ หนูพราวขึ้นไปนอนบนเตียงก่อนเลยลูก" เธอพูดพลางเดินไปปิดโน้ตบุ๊กบนโต๊ะเขียนหนังสือ เสร็จเรียบร้อยก็ปิดไฟจนห้องมืด มีเพียงแสงสว่างจากหลอดไฟตามถนนในหมู่บ้านเท่านั้นที่เล็ดลอดเข้ามา

จันทร์เจ้าคลี่ผ้าห่มให้หลานสาวก่อนจะเอนตัวนอน เธอเห็นพราวนภายังมองมาตาแป๋วอยู่จึงคลี่ยิ้มให้ท่ามกลางความมืด "หนูพราวยังไม่ง่วงหรือคะ"

"ยังค่ะ แม่จันทร์ขา เมื่อไรพ่อที่อยู่บนสวรรค์จะมาหาหนูพราวคะ"

เมื่อได้ยินคำถามจากหลานจันทร์เจ้าก็ได้แต่สะท้านอยู่ในอก สงสารเจ้าตัวเล็กจับใจ เธอยกมือขึ้นลูบศีรษะของหลานสาวพลางพูดปลอบ

"คุณพ่อยังมาตอนนี้ไม่ได้หรอกลูก หนูพราวอยู่กับแม่จันทร์กับยายจ๋าไปก่อนนะคะ ถ้าวันไหนคุณพ่อทำงานเสร็จก็จะมาหาหนูพราวเองค่ะ แต่หนูพราวต้องเป็นเด็กดี และนอนแต่หัววันนะคะ"

"ได้ค่ะ" พูดจบเจ้าตัวก็ปิดเปลือกตาลง

หญิงสาวมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่มีส่วนละม้ายคล้ายเพียงตะวันพี่สาวของเธอด้วยแววตาอ่อนแสง พราวนภาเหมือนพ่อกับแม่อย่างละครึ่ง เพราะลักยิ้มที่ข้างแก้มซ้ายนั้นน่าจะได้มาจากผู้เป็นพ่อ เธอไม่เคยเจอหน้าพ่อของพราวนภา และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือใครหรืออยู่ที่ไหน มีเพียงรูปถ่ายที่อยู่ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของเพียงตะวันเท่านั้นที่หลงเหลือเอาไว้ ซึ่งพี่สาวของเธอเป็นคนบอกเองว่าผู้ชายคนนี้คือพ่อของหนูพราว

พอพราวนภาเข้าโรงเรียนก็เริ่มถามหาผู้เป็นพ่อ เธอจึงเปิดรูปผู้ชายคนนั้นให้หลานดู โชคดีที่ไม่ได้มีแค่รูปเดียว แต่มีถึงสามสิบกว่ารูป ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นรูปที่ถ่ายกับเพียงตะวันตอนไปต่างประเทศด้วยกัน พี่สาวของเธอทำงานเป็นแอร์โฮสเตส จันทร์เจ้าจึงเดาว่าผู้ชายคนนี้น่าจะทำงานเป็นนักบินสายการบินเดียวกับที่เพียงตะวันทำงานอยู่ แต่กระนั้นเธอก็ไม่คิดไปสืบหาว่าเขาคือใคร เพราะตั้งแต่เพียงตะวันตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดพราวนภาออกมา เธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนนั้นมาหาพี่สาวเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว

หญิงสาวปิดเปลือกตาลงตามหลานสาว ในใจได้แต่ภาวนาให้พราวนภาได้พบหน้าพ่อจริง ๆ สักครั้ง

วันต่อมาจันทร์เจ้าขับรถไปทำงานในเวลาเดิม โดยให้มารดาทำหน้าที่ไปรับส่งพราวนภาที่โรงเรียนอนุบาลเพราะอยู่ใกล้บ้าน หญิงสาวไปถึงออฟฟิศก่อนเวลาเข้างานประมาณครึ่งชั่วโมง จึงจอดรถในอาคารแล้วเดินออกจากตึกไปซื้อแซนด์วิชมากินกับกาแฟ โดยเธอไม่มีโอกาสรู้เลยว่าตอนที่กำลังเดินอยู่ริมทางเท้านั้นได้ตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนเข้าแล้ว

"สวยขึ้นนะเนี่ยหนูจันทร์"

นัยน์ตาคมกริบสีนิลจับจ้องร่างระหงในชุดเดรสคลุมเข่าสีเปลือกไข่ไม่วางตา แววตาเป็นประกายระยิบระยับ มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อยระหว่างที่มองตามหญิงสาวไปแทบทุกฝีก้าว ก่อนจะตัดใจละสายตาจากมาเมื่อรถเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ทำให้เขาต้องเหยียบคันเร่งเคลื่อนตามไป จนกระทั่งเลี้ยวเข้าไปในอาคารได้ในที่สุด

จันทร์เจ้าเดินออกจากลิฟต์พร้อมถุงแซนด์วิชที่ซื้อมา เธอวางกระเป๋าสะพายไว้บนโต๊ะทำงานพลางมองไปที่โต๊ะของบรรดาเลขาฯ รุ่นพี่ แต่ดูเหมือนยังไม่มีใครมาถึงจึงเดินไปห้องแคนทีนเพื่อชงกาแฟมาดื่มคู่กับแซนด์วิชเป็นมื้อเช้า

ระหว่างที่หญิงสาวกำลังนั่งกินแซนด์วิชอยู่นั้น จู่ ๆ ประตูห้องทำงานของท่านประธานก็เปิดออกพร้อมกับเอมิกาเดินคลี่ยิ้มเข้ามาหาที่โต๊ะ

"สวัสดีค่ะพี่เอม แซนด์วิชไหมคะ" เธอชวนอีกฝ่ายให้กินด้วยกัน แต่เอมิกาส่ายหน้าปฏิเสธแล้วพูดว่า

"จันทร์กินเลย แต่กินเสร็จแล้วก็เข้าไปรายงานตัวกับท่านประธานหน่อยนะ ท่านมาแล้วน่ะ"

จันทร์เจ้าเบิกตากว้าง รีบเคี้ยวอาหารในปากแล้วกลืนอย่างรวดเร็วก่อนจะถามเสียงแผ่ว

"กลับมาแล้วหรือคะ ก็ไหนว่ากลับพรุ่งนี้ไง"

"พี่ก็ยังงงอยู่ว่าทำไมถึงมาวันนี้ได้ เพราะตามตารางมันต้องเป็นพรุ่งนี้"

"ได้ค่ะ งั้นจันทร์จะรีบกินให้เสร็จจะได้เข้าไปรายงานตัว" พูดจบเธอก็กินแซนด์วิชที่เหลืออย่างว่องไว แต่สายตาคนมองอย่างเอมิกานั้นไม่ว่าจะดูอย่างไรก็เห็นว่าท่ากินอย่างเร่งรีบของจันทร์เจ้าดูเรียบร้อยนุ่มนวลอยู่ดี

จันทร์เจ้าสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเองก่อนจะยกมือเคาะประตูห้องท่านประธานสามครั้ง รอจนกระทั่งได้ยินเสียงอนุญาตจากเจ้าของห้องจึงหมุนลูกบิดเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปข้างในอย่างไม่ช้าไม่เร็วเกินไปนัก โดยที่ตลอดเวลานั้นหญิงสาวหลุบตาลงมองพื้นอยู่ตลอด แม้กระทั่งตอนที่ยกมือไหว้คนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เธอก็ยังมองแค่ปกเสื้อของเขาเท่านั้น

"สวัสดีค่ะท่านประธาน ดิฉันจันทร์เจ้า ประสิทธิเวชค่ะ"

เธอรู้สึกว่าหัวใจเต้นกระหน่ำด้วยความตื่นเต้นจนมือสั่นตามไปด้วย จากนั้นก็รู้สึกเหมือนว่าจะลืมหายใจเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่ทักทายกลับมา

"สวัสดีหนูจันทร์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status