แชร์

บทที่ 2 พบกันอีกครั้ง - 50%

ประตูห้องทำงานของประธานบริษัทเปิดผลัวะออกมาอย่างแรงจนบรรดาเลขานุการสาวที่นั่งกันอยู่ต่างพากันสะดุ้งด้วยความตกใจ และยิ่งตกใจมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินเสียงตะโกนลั่นของท่านประธาน ผู้ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมามักจะอารมณ์ดีและใจเย็นอยู่ตลอด

"หนู...คุณจันทร์!" ชินดนัยหน้าแดงก่ำ สีหน้าเหมือนกำลังอดกลั้นกับอะไรบางอย่าง

"คะท่าน" จันทร์เจ้ารีบลุกขึ้นยืนแล้วเอามือประสานกันไว้ด้านหน้าอย่างเรียบร้อยเช่นเคย พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกไปทางสีหน้า แต่มุมปากก็เอาแต่จะยกยิ้มอยู่เรื่อยจึงเม้มปากเอาไว้เพื่อกลั้นยิ้ม แต่ถ้ามองจากสายตาของเพื่อนร่วมงาน กลับมองว่าหญิงสาวกำลังหวาดกลัวกับน้ำเสียงและท่าทางกราดเกรี้ยวของผู้เป็นนาย ทุกคนจึงอดเห็นใจไม่ได้

"คุณซื้อหอยทอดให้ผม" เขาชี้เข้าไปในห้อง จันทร์เจ้าทำทีเป็นเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงุนงง ก่อนจะพยักหน้าอย่างใสซื่อ

"ใช่ค่ะ ก็ท่านประธานบอกว่าซื้ออะไรก็ได้ ฉันก็เลยซื้อหอยทอดมาให้เพราะร้านอื่นต้องรอคิวนานน่ะค่ะ เอ่อ...มีอะไรรึเปล่าคะ หรือว่ามีสิ่งแปลกปลอมในอาหาร"

"มันมีถั่วงอก!" เขาเค้นเสียงราวกับกัดฟันพูด ทำเอาจันทร์เจ้าต้องกลั้นขำอีกครั้งด้วยการใช้เล็บจิกมือตัวเอง

"ใช่ค่ะ หอยทอดก็ต้องมีถั่วงอกอยู่แล้ว" หญิงสาวแสร้งกะพริบตาปริบ ๆ อย่างไม่เข้าใจ พยายามปั้นหน้าตายสุดฤทธิ์ ไม่นำพากับสีหน้าอดกลั้นราวกับอยากกระโดดมาตะปบคอตนของเจ้านายหนุ่ม

"เอ่อ...จันทร์จ๊ะ คือว่าท่านประธานไม่กินถั่วงอกจ้ะ ถือเป็นอาหารต้องห้ามเลย" เอมิกาเดินมาพูดกับเลขาฯ ใหม่ด้วยใบหน้าจืดเจื่อน ก่อนจะหันไปพูดกับประธานหนุ่มหล่อที่ตอนนี้ทำท่าเหมือนกำลังนับหนึ่งถึงร้อยอยู่ในใจ

"น้องเขาไม่รู้ค่ะคุณชิน ดิฉันเองก็ลืมบอกน้องเขาไว้ ต้องขอโทษด้วยค่ะ"

"อ้าว งั้นหรือคะ ฉันไม่รู้จริง ๆ ค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะท่านประธาน คราวหน้าฉันจะจำไว้ค่ะ"

จันทร์เจ้าทำหน้าสลดพลางยกมือไหว้ขอโทษเขาอย่างนอบน้อม จากนั้นก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วหลุบตามองพื้น ปากอิ่มเม้มแน่นจนแก้มป่อง ซึ่งอาการอย่างนี้มีหรือที่ชินดนัยจะไม่รู้ว่าเธอแกล้ง

ไอ้การกลั้นขำจนหน้าสั่นนั่นคืออะไร!

ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก ความจริงแล้วเขาไม่ได้โกรธอะไรเธอมากมาย เพียงแต่เขาเห็นถั่วงอกแล้วรู้สึกขยะแขยงจนขนลุกมากกว่า กอปรกับความโมโหหิวเพราะตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้เขาดื่มกาแฟไปแค่ถ้วยเดียว ตอนได้กลิ่นหอมของอาหารที่เธอซื้อมาวางไว้บนโต๊ะให้เขาก็คิดว่าเปิดกล่องออกมาแล้วจะได้กินเลย แต่สิ่งที่อยู่ในกล่องทำเอาเขาถึงกับเบ้หน้า

"ไม่เป็นไร คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด"

เขาเน้นที่คำว่าไม่รู้ เพราะมั่นใจว่าจันทร์เจ้าจำได้แน่นอนว่าเขาไม่กินถั่วงอก และการที่เธอจงใจซื้ออาหารที่ใส่ถั่วงอกเยอะ ๆ มาให้ก็หมายความว่าเธอต้องการแกล้งเขา

"ถ้าอย่างนั้นผมจะลงไปกินเองก็ได้ แต่คุณจันทร์ไปกับผมละกัน จะได้รู้ว่าร้านไหนที่ผมไม่กินบ้าง คุณเพิ่งมาเป็นเลขาฯ ผมวันแรก ยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะ"

จันทร์เจ้าเงยหน้ามองเขาตาโต ก่อนจะส่ายหน้าหวือ ปฏิเสธเสียงอ่อน

"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะท่าน บอกชื่อร้านมาก็ได้ค่ะ คราวหน้าฉันจะได้เลี่ยงไม่ซื้อร้านนั้น"

"ก็ไปด้วยกันนี่แหละ ชื่อร้านอะไรนั่นผมจำไม่ได้หรอก รออยู่นี่แป๊บนะ ผมเข้าไปเอากระเป๋าสตางค์ก่อน" พูดจบเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานอีกครั้ง จึงไม่เห็นว่าจันทร์เจ้าอ้าปากค้างพลางมองไปที่เลขาฯ รุ่นพี่อย่างขอความช่วยเหลือ

"พี่เอมคะ จันทร์ไม่อยากไป" หญิงสาวทำหน้าราวกับจะร้องไห้

"ไปเถอะจันทร์ ท่านอุตส่าห์ชวน เรานี่ก็แปลกคน ปกติมีแต่คนอยากไปกินข้าวกับท่านประธานนะ คุณชินน่ะเนื้อหอมจะตาย นี่อะไรกัน ทำหน้าเหมือนเจอเจ้าหนี้อย่างนั้นแหละ" นันทิดาพูดกลั้วหัวเราะ

"นั่นสิ ถ้าเป็นยายเลขาฯ คนเก่านะ ป่านนี้ตีปีกผับ ๆ แล้ว" กชวรรณยิ้มขำเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าเหมือนกินยาขม

"ไปกันรึยังครับคุณจันทร์เจ้า ผมหิวแล้วนะ" เสียงทุ้มที่ดังมาทำให้สามสาวรุ่นพี่ต้องถอยกลับไปนั่งที่เดิมของตน

"อย่าดุเลขาฯ ใหม่นักนะคะคุณชิน เดี๋ยวน้องเขาใจฝ่อหมด" เอมิกาแกล้งแซวเจ้านายหนุ่ม

"ดุอะไรกัน ถ้าอย่างผมดุ โลกนี้ก็ไม่มีคนใจดีแล้ว" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยก่อนจะเดินนำไปที่ลิฟต์ แต่ขณะที่เดินผ่านจันทร์เจ้า เขาปรายตามองเธอแล้วยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยอย่างท้าทาย หญิงสาวจึงเชิดหน้าขึ้นแล้วคว้ากระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะเดินตามเขาไปเงียบ ๆ

เมื่อเข้ามาอยู่ในลิฟต์ด้วยกันสองคน จันทร์เจ้าเลือกยืนใกล้กับแผงปุ่มกด ขณะที่ชินดนัยยืนเยื้องไปทางด้านหลังเธอเล็กน้อย หญิงสาวกดปุ่มปิดประตูลิฟต์แล้วกดหมายเลขหนึ่ง แต่แล้วจู่ ๆ คนที่ยืนอยู่ด้านหลังก็เอื้อมมากดหมายเลขห้า โดยที่แขนของเขานั้นเฉียดผ่านแขนเธอไปเพียงเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอให้หญิงสาวถึงกับต้องกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติ

"แสบไม่เบาเลยนะ มาวันแรกก็เล่นพี่ซะแล้ว" เขาพูดเบา ๆ โดยที่สายตายังคงจับจ้องแต่ร่างระหงที่ยืนอยู่ตรงหน้า เห็นศีรษะเธอขยับเล็กน้อยแต่ไม่ยอมหันกลับมามองเขาตรง ๆ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

จนกระทั่งลิฟต์เปิดที่ชั้นห้าซึ่งเป็นชั้นของลานจอดรถชายหนุ่มจึงเดินออกไป จันทร์เจ้ากดปุ่มให้ประตูลิฟต์เปิดค้างไว้แต่ยังคงยืนอยู่ในลิฟต์

"ศูนย์อาหารอยู่ชั้นหนึ่งนี่คะ"

ชินดนัยเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหันกลับมาเลิกคิ้วขึ้นอย่างยียวน

"พี่ยังไม่ได้พูดสักคำว่าจะลงไปกินข้างล่าง พี่แค่พูดว่าจะไปกินเองเท่านั้นนะ ตามมาเถอะน่า เดี๋ยวจะพาไปกินของอร่อย"

จันทร์เจ้าลอบถอนหายใจแต่ก็ยอมเดินตามไปแต่โดยดี ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้ารถยุโรปคันสีดำเพื่อรอให้เธอเดินไปถึง หญิงสาวจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพราะไม่อยากเป็นเป้าสายตาให้เขามอง

เขาทำตัวเป็นสุภาพบุรุษด้วยการเปิดประตูให้เธอขึ้นไปนั่ง จันทร์เจ้าขอบคุณเขาเบา ๆ แล้วย่อตัวนั่งบนเบาะพลางรีบคว้าเข็มขัดนิรภัยเอาไว้เพราะไม่อยากให้เขาคาดเข็มขัดให้ และเธอก็เดาได้ไม่ผิดนักเพราะชินดนัยจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้จริง ๆ แต่เพราะหญิงสาวคว้าเอาไว้ก่อนแล้ว ผลคือมือใหญ่ของเขาจับหมับที่มือของเธอแทน

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status