อิชย์นั่งดื่มหลังจากทำงานมาทั้งวัน จึงเลือกที่จะออกมาท่องเที่ยวยามราตรีในสถานบันเทิงของเพื่อนเขา
“เฮ้ย ๆ ทำไมวันนี้แกมาแต่หัววันเลยวะ” เสียงของชัชวาล เพื่อนสนิทสมัยเรียนและเป็นเจ้าของผับนี้เอ่ยถาม
“ทำไมกูจะมาแต่หัววันไม่ได้” ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเคืองเพื่อนเล็กน้อย
“ได้ครับคุณชายอิชย์ ตามสบายนะครับท่าน” อีกคนก็กวนแถมประชดประชันอีก
“แกมาทำอะไรวะไอ้ชัช”
“เอ้า โทษนะไอ้คุณอิชย์ถามมาได้ ผับกู กูก็ต้องมาดูสิ”
“มึงเป็นอะไร ถึงได้กินอะไรมากมายขนาดนี้” เจ้าของผับถาม หากก็ไม่ได้คำตอบ
“ตอบมา! ถ้าไม่ตอบกู จะสั่งให้เด็กยกไปเก็บ”
“เซ็งนิดหน่อยว่ะ...”
“ทำไมวะ แฟนเก่ามึงกลับมาขอคืนดีไง”
“ไม่ใช่ อย่าพูดถึงได้ไหมวะ” ชายหนุ่มว่าอย่างไม่อยากรับรู้เรื่องราวของอดีตคนรัก
“แล้วมันเรื่องอะไร”
“กูบังเอิญได้ยินพ่อคุยกับเมียใหม่ว่าจะให้กูแต่งงานกับลูกเมียเขา ยัยตุ่มต่อขาน่ะ”
ชัชวาลทำท่าทางนึกคิดถึงใบหน้าว่าที่เจ้าสาวของเพื่อน
“อ๋อ…น้องริตาน่ะเหรอ กูจำได้ว่าเคยเจอตอนที่น้องจบมัธยม เกือบสิบปีแล้วมั้ง”
“ใช่ ยัยริตาตุ่มต่อขาเดินได้นั่นแหละ กูก็ไม่ได้เจอเกือบสิบปีแล้ว เห็นแต่ยัยอินเล่าให้ฟังทุกครั้งที่ยัยตุ่มต่อขาโทรมา”
“ปากคอเลาะร้าย ว่าได้แม้กระทั่งว่าที่เจ้าสาวของตัวเองไม่สิว่าที่เมีย แต่เอาเถอะนี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว เธออาจจะสวยขึ้นอย่างที่มึงคาดไม่ถึงก็ได้นะ”
“ไม่มีทาง อย่างยัยตุ่มต่อขาเนี่ยนะจะสวย ที่สำคัญกูจะไม่ยอมแต่งงานเด็ดขาด”
“เออ…แล้วกูจะคอยดู”
“ถึงแต่งงานกันกูก็ไม่มีวันที่จะรักยัยนั้นแน่นอน” อิชย์ยึดมั่นใจคำของตนโดยที่เพื่อนเอาแต่ส่ายหน้า เมื่อแอลกอฮอล์เข้าปากชายหนุ่มก็ได้ระบายเรื่องอัดอั้นที่คิดไม่ตกอีกเรื่องออกมา
“ไอ้ชัชกูถามจริง ๆ เหอะ กูผิดอะไรวะ พีทถึงทิ้งกูไป” ก่อนจะกระดกแก้วเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมด
“อะไรของมันวะ เมื่อกี้ยังเซ็งเรื่องที่ต้องแต่งงานอยู่หยก ๆ ตอนนี้กลับมาถามถึงแฟนเก่า จะเอายังไงกันแน่ไอ้อิชย์ อีกอย่างกูไม่รู้หรอกนะ...ว่าทำไมเขาถึงทิ้งมึงไป...แต่มันสามปีแล้ว ทำไมยังทำใจไม่ได้ ยังไม่ลืมเขาอีกเหรอวะ” ชัชวาลบ่นกับท่าทางของเพื่อนที่เป็นแบบนี้ประจำเมื่อคิดถึงคนรักเก่า และไม่นานธีรดลเดินเข้ามาสมทบกล่าวทักทายกันตามประสาเพื่อนสนิท
“เอ้า เฮ้ย ๆ ไอ้ชัช ไอ้อิชย์ ได้ยินพวกมึงพูดถึงพีทใช่เปล่าวะ”
“ใช่…มีไรว่ะ ไอ้เจ้าของออแกไนซ์เซอร์ใหญ่”
“ก็วันนี้ฉันไปธุระ บังเอิญเจอแฟนเก่าไอ้อิชย์มาว่ะ”
“แล้วไงวะ” ชัชวาลเป็นฝ่ายถาม ส่วนเจ้าของชื่อได้แต่นิ่งฟัง
“กูเห็นเดินมากับเสี่ยใหญ่ พาไปชอปปิง กูอยากจะบอกอะไรกับมึงนะไอ้อิชย์ ตัดใจและลืมยัยผู้หญิงเห็นแก่เงินคนนั้นเถอะว่ะ” ธีรดลเตือนสติด้วยความหวังดี
“ไม่! ไม่เชื่อ มึงอย่ามาใส่ร้ายพีท” อิชย์สวนกับโดยไม่สนใจคำเตือน
“ถ้าไม่เชื่อ ก็ดูนี่ซะ” ธีรดลล้วงมือถือเครื่องหรูออกมาแล้วเปิดบางอย่างส่งให้เขาดู…
EISAYAA SHOP
“เจ๊…เก็บของเสร็จยังคะ นานเกินไปแล้วนะ” เสียงของเจ้านายสาวเอ่ยถามเมื่อเธอใช้เวลารอเพื่อนร่วมงานนานเกินไป
ห้องเสื้อแห่งนี้ ตั้งอยู่ข้างโรงแรมของอิชย์เดินไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง ห้องเสื้อของอิษยาเป็นร้านขนาดกลางไม่ใหญ่มาก เพราะกลัวจะดูไม่ไหว อีกทั้งยังเป็นความฝันของตนที่อยากจะมีร้านเสื้อเป็นของตัวเอง
เธอจึงนำเงินเก็บที่มีอยู่มาลงทุนกับร้านนี้ และยังมีเงินทุนที่เป็นของขวัญเรียนจบจากบิดาและพี่ชาย รวมทั้งรสิกาที่มาเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน
จนถึงตอนนี้ห้องเสื้อแห่งนี้เปิดมาได้เกือบสี่ปีแล้ว การตกแต่งก็สไตล์โมเดิร์นทันสมัย เข้ากับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันของลูกค้าส่วนใหญ่ของที่นี้
“เสร็จแล้วจ้า พี่เมนี่ขอโทษนะคะ” เสียงจีบปากจีบคอตามแบบฉบับของชายแต่ใจหญิงของเจ๊เมนี่หรือแมน ทีมออกแบบและตัดเย็บของห้องเสื้ออิษยา
“ไปกันเถอะค่ะ อินหิวแล้ว”
“ไปค่ะ” คุณเธอเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่นั่งรอหน้ามุ่ยอยู่ที่โซฟา “เอ่อ คุณอินขา…”
“มีอะไรคะเจ๊…”
“ถ้าคุณริตากลับมาอยู่เมืองไทย เจ้อยากจะชวนเธอมาทำงานกับเราด้วยดีมั้ยจ๊ะ”
“ถึงเจ๊ไม่ขอ อินก็จะดึงพี่ริตาเข้ามาทำงานกับเราอยู่แล้วค่ะ พี่เขาทั้งสวยทั้งเก่ง ออกแบบเลิศ จบปริญญาตรีด้านออกแบบแฟชั่นและแพทเทริน์ แถมได้ข่าวว่าจบโทบริหารด้วย แต่อินว่าคุณพ่อต้องให้พี่ริตาช่วยงานโรงแรมกับพี่อิชย์แน่เลยค่ะ พอช่วงนี้อินไม่ค่อยว่าง ถ้าพี่ริตากลับมาก็คงจะดี จะได้มีคนช่วยออกแบบและช่วยงานบริหารเพิ่ม”
“ก็ดีเหมือนกัน เจ๊จะได้มีคนช่วย ทำคนเดียวเหนื่อยจะตาย อีกร้านนี้น้องริตาก็มีหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่ง ใช่มั้ย”
“เจ๊บ่นมาก เดี๋ยวหักเงินเดือนหรอก” อิษยาขู่แกมหยอก
จบการสนทนาของสองสาวก็เดินทางไปยังร้านอาหารประจำที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงได้สำรองที่นั่งของทางร้านไว้หรือไม่คะ” พนักงานต้อนรับของร้านทักทายลูกค้าอย่างสุภาพ
“ไม่ได้จองไว้ค่ะ พอจะมีที่นั่งเหลือหรือเปล่าคะ” พลางเอ่ยถาม ก่อนที่จะหันไปมองด้านในเพื่อหาที่นั่ง
“สวัสดีค่ะคุณอิน” ผู้จัดการร้านเดินเข้ามาหา แล้วหันไปบอก “มีอะไรก็ไปทำเถอะ ทางนี้ฉันดูแลเอง”
พอพนักงานคนเมื่อครู่ไปต้อนรับลูกค้าท่านอื่น ผู้จัดการก็สอบถามลูกค้าวีไอพี
“มีอะไรให้บริการคะคุณอิน”
“ฉันไม่ได้จองโต๊ะไว้ พอจะหาที่นั่งให้ได้ไหม”
“ได้ค่ะ เชิญทางนี้เลยค่ะ”
ผู้จัดการร้านเดินนำหญิงสาวมายังโต๊ะอาหารที่อยู่ด้านในข้างกระจกที่สามารถมองออกไปเห็นวิวรอบนอกของห้างสรรพสินค้าและแสงสีต่าง ๆ ตามท้องถนน พนักงานวางเมนูอาหารตรงหน้าให้ทั้งสองคนได้เลือก
“เจ๊จะทานอะไรสั่งเลย เดี๋ยวอินเลี้ยงเอง”
“ตายแล้ว เกิดอะไรขึ้น วันนี้ถึงเลี้ยงข้าวฉัน” สาวสองจีบปากจีบคอ
“สรุปไม่กิน จะจ่ายเองว่างั้น”
“ไม่งอนสิคะ เขาเย้าเล่นน่า” สาวสองทำมือหยอกล้อราวกับง้อเด็กน้อย อิษยาเรียกพนักงานมารับรายการอาหารและนั่งรอไม่นานอาหารมากมายค่อย ๆ ทยอยมาเสิร์ฟบนโต๊ะ
“สั่งอะไรเยอะแยะย่ะหล่อน”
“ก็คนมันหิว ทำงานทั้งวันแทบไม่ได้พักเลย”
“ระวังอ้วนตายนะ แล้วยิ่งกินดึกด้วยไม่อ้วนให้มันรู้ไป”
“อิษยาซะอย่างไม่แคร์หรอกค่ะ รีบกินดีกว่าแล้วไปชอปปิงกันต่อ”
“เวลานี้เนี้ยนะ” เมนี่ยกนาฬิกาขึ้นมอง ก่อนถามออกไป
“ยังไม่ทุ่มหนึ่งเลย มีเวลาอีกเยอะค่ะ”
ว่าแล้วทั้งสองก็ลงมือรับประทานอาหาร ไม่นานก็พากันเดินซื้ออันนั้นดูอันนี้ตามประสาสาวแฟชั่นที่ชอบแต่งตัว
“งั้นแยกกันตรงนี้นะยะ” สาวสองเอ่ยเมื่อเดินมาถึงประตูทางออกของลานจอดรถ
“เอ้า ไม่ไปด้วยกันล่ะเจ๊ อินไปส่ง เจ๊ไม่ได้เอารถมานิ”
เมนี่ไม่ว่าอะไรได้แต่มองทะลุไปยังด้านหลังของเจ้านายสาว พลอยทำให้เธอต้องหันกลับไปมองเช่นกัน
“อ๋อ…ผู้มารับสินะ” หญิงสาวเอ่ยแซวเล็กน้อย “งั้นอินกลับก่อนแล้วกัน”
“ขับรถดี ๆ ถึงบ้านแล้วบอกฉันด้วย”
“อินไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วเจ๊ ที่จะต้องรายงานตลอด” ร่างบางว่าก่อนส่งยิ้มให้ แล้วเดินเอาของเก็บหลังรถ
“ฉันเป็นห่วงย่ะ ชะนีคนเดียวขับรถกลางค่ำกลางคืนอันตราย”
“โอเคค่ะ ถึงแล้วจะรายงานนะคะ” ว่าแล้วหญิงสาวก็ขับรถออกจากล้านจอดรถของห้างสรรพสินค้าตรงไปที่บ้าน
ตอนที่ 2คำขอร้องหรือบังคับแสงสว่างยามบ่ายส่องผ่านหน้าต่างเพนเฮาส์ชั้นสูงสุดของโรงแรม ทำให้อิชย์พลิกตัวหันหลังให้กับแสงและหลับลงอีกครั้ง หลับไปไม่นานเสียงเข้าก็ดังขึ้น ชายหนุ่มใช้มือควานหามือถือที่วางอยู่ตู้ข้างหัวเตียง“ครับพ่อ” เสียงงัวเงียตอบกลับอย่างหงุดหงิด“เจ้าอิชย์ แกอยู่ไหน” ปลายสายถามบุตรชายเพราะเมื่อคืนท่านไม่เห็นลูกคนโตกลับมานอนที่บ้าน“อยู่โรงแรมทำไมครับ พ่อมีอะไรหรือเปล่าครับ”“กลับมาบ้านเดี๋ยวนี้!! ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับแก” อดิศวรสั่งเสียงเข้ม“คุยทางโทรศัพท์ไม่ได้เหรอครับ”“เรื่องสำคัญ ฉันต้องการคุยกับแกที่บ้านตอนนี้” เสียงของบิดาสั่งแกมบังคับ เขาจำต้องลุกไปอาบน้ำแต่งตัวจัดการตัวเองให้เรียบร้อยและตรงกลับบ้านไม่นานรถยนต์คันหรูของชายหนุ่มแล่นเข้ามาจอดที่ลานน้ำพุหน้าบ้าน ถอนหายใจครู่หนึ่งก่อนเดินตรงไปยังเชิงบันได โดยมีแม่บ้านเก่าแก่ของครอบครัวออกมาต้อนรับ“ป้านวล คุณพ่ออยู่ไหนครับ”“คุณท่านอยู่ห้องนั่งเล่นค่ะ”“ขอบคุณครับป้า”“คุณอิชย์คะ…คุยกับคุณท่านดี ๆ อย่าใช้อารมณ์ ป้าขอนะ”"ผมจะพยายามครับ"ชายหนุ่มเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็พบบิดานั่งอยู่เคียงข้างแม่เลี้ยงอยู่ก่อนแล้ว
สนามบินสุวรรณภูมิผู้คนมากมายมารอการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส โดยที่เธอสวมแว่นตากันแดดสีเงินเดินออกมาจากสนามบิน และตรงไปยังรถแท็กซี่ที่เรียกไว้เพื่อให้พาไปยังจุดหมายปลายทาง เมื่อถึงจุดหมายที่ต้องการก็ใกล้ค่ำเสียแล้ว“จอดตรงนี้แหละค่ะ…นี่เงินค่ะ…ขอบคุณมากนะคะ”สาวสวยเดินมาหยุดหน้าบ้านพร้อมกระเป๋าเดินทางสีเทาอ่อนสองใบ ก่อนบรรจงถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นดวงตาคู่สวย ก่อนเดินเข้าบ้านหลังงามที่ตั้งตระง่านอยู่ตรงหน้า“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบมาหาใครคะ” เด็กรับใช้ในบ้านถามหญิงสาว“มาหาคุณอดิศวรกับคุณสาวิตรีค่ะ ไม่ทราบท่านทั้งสองอยู่มั้ยคะ” หญิงสาวที่เดินเข้ามาในบ้านตอบ“ไม่อยู่ค่ะ พอดีท่านออกไปทานข้าวกับคุณอิน”“อีกนานมั้ยจ๊ะกว่าจะกลับ”“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เอ่อ…รอสักครู่นะคะเดี๋ยวหนูไปเอาน้ำมาให้”“ขอบใจจ้ะ เอ่อ แล้วป้านวลอยู่ไหนจ๊ะ” ก่อนที่สาวใช้คนเดิมจะออกไป จึงเรียกไว้“ป้านวลอยู่หลังบ้านค่ะ” เด็กรับใช้ในบ้านบอกแล้วรีบไปหาน้ำเสิร์ฟ แต่ยังมิวายบอกให้อีกคนไปบอกป้าศรีนวล“ป้านวลมีแขกมาหา เขาถามหาคุณท่านแล้วยังถามหาป้าด้วยนะ”“ถามหาข้าเนี่ยนะ รี
หลังจากที่คุยกับลูกชายเป็นอันเข้าใจและตกลงกันได้แล้ว รุ่งเช้าหลังจากที่ลูกชายกับลูกสาวออกไปทำงาน คุณอดิศวรจึงให้เด็กรับใช้ไปตามรสิกามาพบเพื่อที่จะคุยเรื่องสำคัญ“คุณลุงให้เด็กไปตาม มีอะไรหรือเปล่าคะ”“ลุงอยากให้หนูแต่งงานกับเจ้าอิชย์จะได้มั้ย ถือว่าลุงขอร้องละนะ” อดิศวรไม่พูดพร่ำทำเพลงเอ่ยเข้าประเด็นทันทีที่อยากคุยกับลูกเลี้ยงที่ตนรักเสมือนลูก“คุณอิชย์เหรอคะ”หญิงสาวถามเพื่อความแน่ใจว่าได้ยินไม่ผิดถึงบิดาเลี้ยงผู้มีเมตตาขอร้องเขารู้ดีว่าสิ่งที่ร้องขอจากลูกเลี้ยงจะทำให้เธอลำบากใจมากก็ตาม แม้จะรู้ว่าอิชย์จงเกลียดจงชังเด็กสาวตรงหน้ามากเพียงใด แต่ถ้ามองลึกเข้าไปในแววตาหวานของหญิงสาวตรงหน้าบ่งบอกถึงความดีใจ อีกอย่างเขาแค่มองก็รู้ว่ารสิกาแอบรักลูกชายของตนอยู่เลยได้แต่หวังให้รสิกาตกลงรับปากแต่งงานกับอิชย์ ด้วยอยากให้ลูกชายมีคนดูแลและมีภรรยาที่ดี จากที่เขาได้เห็นรสิกาตั้งแต่เด็ก เธอเป็นคนเก่ง ฉลาด อ่อนหวาน แต่ไม่ได้อ่อนแอ มารยาทหรือก็เรียบร้อย แม้จะแอบมีนิสัยแก่นอยู่บ้าง เขาว่าหญิงสาวจะหยุดลูกชายตัวดีของเขาได้“เขารู้แล้ว…แต่ลุงไม่ได้ยินคำปฏิเสธจากหนูนะ”รสิกานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหัน
ตอนที่ 3 งานเลี้ยงฉลองงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นอีกธุรกิจหนึ่งของครอบครัวภักดีเลิศรัตน์และงานนี้ยังมีเซอร์ไพรส์วันคล้ายวันเกิดของคุณอดิศวร ภักดีเลิศรัตน์ เจ้าของกิจการต่าง ๆ ที่ตอนนี้ได้วางมือให้กับบุตรชายบริหารงานแทนบรรดาแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานก็มีทั้งผู้บริหาร ดารา นักแสดง เซเลบ ไฮโซต่างเดินทางมาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ภายในงานจัดขึ้นอย่างหรูหรา ควบคุมดูแลโดยอิษยาที่เป็นหัวเรือใหญ่ของงานนี้ ตอนนี้งานดำเนินไปด้วยความสุขความสนุกสนาน เช่นเดียวกันกับ อิชย์ ธีรดลและชัชวาลต่างพากันมองสาวสวยในงานตามวิสัยของหนุ่มเจ้าชู้อย่างไม่วางตาและไม่นานทั้งคู่สะดุดสายตาไปกับหญิงสาวนางหนึ่งเธอคนนั้นอยู่ในชุดเดรสสีขาวเดินเคียงคู่มากับอิษยา ที่ตอนนี้อยู่ในชุดเดรสสีชมพูอ่อนเดินเข้ามาหาบิดาและมารดาเลี้ยง ซึ่งยืนอยู่กับแมนหรือเมนี่ เพื่อนร่วมงานของเธอชัชวาลเห็นดังนั้นจึงสะกิดเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ อย่างอิชย์ ให้มองไปยังเป้าหมาย“เฮ้ย ไอ้อิชย์ ไอ้ธีร์ นั่นใครวะที่เดินมากับน้องอิน ชุดสีขาวโคตรสวยเลยว่ะ บอกเลยคนนี้แจ่ม ถูกใจพี่ชัชเหลือเกิน”“ทำไมพวกฉันไม่เคยเห็นหน้าเลยวะ” ธีรดลร้องถ
อดิศวรผายมือให้ภรรยาออกมาเต้นรำด้วยกัน เสียงเพลงคลาสสิกเคล้าคลอ แต่ละคู่แต่ละคนต่างพาคู่ของตนออกมาเต้นรำ เช่นเดียวกับธีรดลที่โค้งคำนับให้กับอิษยา“ให้เกียรติเป็นคู่เต้นกับพี่หน่อยได้ไหมครับน้องอิน” ชายหนุ่มส่งรอยยิ้มให้สาวเจ้า หญิงสาวยิ้มรับ ก่อนเดินตามเขาไป“ได้ค่ะพี่ธีร์”“งั้นก็เชิญครับคนสวย”หลังจากคู่ของธีรดลและอิษยาออกไปกลางฟลอร์ อิชย์จึงเดินไปหารสิกาที่กำลังยืนดูมารดาด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มเดินมาด้านหลังของหญิงสาวช้า ๆ ค่อยๆ กระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบา จนทำให้รสิกาต้องหดคอหนีลมหายใจร้อนผ่าวทำให้เธอนั้นขนลุกไปท้องกาย“ว่าไงจ๊ะ ยัยตุ่มต่อขาเดินได้”เมื่อหญิงสาวได้ยินดังนั้นจึงมองค้อนชายหนุ่มนิด ๆ“ไม่ใช่สิ ตอนนี้สวยแล้วนี่ หุ่นดี แถมแซ่บซะด้วย” ปากไม่เอ่ยเปล่ามือหนาลูบไล้ไปทั่วแขนบาง“นี่! อย่ามาทำรุ่มร่ามกับฉันนะ” หญิงสาวเอ่ยเบา ๆ ก่อนขยับออกห่างจากเขา“ทำไมจะทำไม่ได้ อีกไม่นานก็แต่งงานกันแล้วไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวไม่ตอบ ผละออกจากชายหนุ่มและเดินเลี่ยงออกไปด้านนอกแต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกไปไหนก็ถูกคว้าเอวบางไว้“คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” รสิกาพยายามแกะมือกาวของเขาออก“ฉันไม่ทำอะไรเธอหร
ตอนที่ 4ข้อตกลงของเราสองหลังจากที่อิชย์ดึงรสิกาออกจากงานเลี้ยง เขาจำต้องอุ้มหญิงสาวพาดบ่ามายังลานจอดรถ พอถึงรถคันหูเขาถึงวางเธอลงให้หญิงสาวยืนด้วยตัวเอง ก่อนจะคว่าข้อแขนเรียวกระชากให้ตามเขามายังลานจอดรถ “เดี๋ยวสิคุณอิชย์ จะลากฉันมาทำไม” มือเรียวพยายามแกะมือหนาออก“อย่าดิ้นให้มากนัก ขึ้นรถไป” ชายหนุ่มเปิดประตูรถ พยายามยัดหญิงสาวให้เข้าไปข้างใน“จะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไปกับคุณหรอก” รสิกาขัดขืนแต่สู้แรงของชายหนุ่มไม่ไหว“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ อย่าลงมานะ ลงมาเธอเจอดีแน่” ก่อนอ้อมไปอีกฟากหนึ่งและขับรถออกจากโรงแรม“ถึงแล้ว…ลงมา” ชายหนุ่มลงจากรถบังคับให้หญิงสาวไปกับตน“ไม่ค่ะ กรุณาพาฉันกลับบ้านด้วย” เธอบอกความต้องการกับชายหนุ่ม“จะไม่ลงดี ๆ ใช่ไหม...ได้” อิชย์กัดฟันกรอดแล้วก้มปลดเข็มขัดนิรภัย กำลังจะช้อนตัวเธอขึ้นมาก็เลยเผลอแหวใส่“จะทำอะไรน่ะ”“ก็เห็นว่าไม่ลงเลยจะอุ้มไง”“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันลงเองได้ แล้วคุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันคะ” ร่างบางรีบลงจากรถ เดินตามหลังอีกคนที่เดินนำไปก่อน หากเขาก็ไม่ตอบจนถึงห้องส่วนตัวเลยถามอีกครั้ง“มีเรื่องอะไรกับฉันหรือคะ คุณก็พูดมาเลยฉันจะได้รีบกลับ” รสิกาตามชา
ห้องเสื้ออิษยา“คนพิเศษของเรามาแล้วจ้า” อิษยาทักทายพนักงานในร้านทันทีที่พาพี่สาวมาที่ร้าน“มาสายนะเรา” เมนี่ทักอย่างเป็นกันเอง“มาช้ายังดีกว่าไม่มานะ”“แหม!”“ทุกคนคะ อินมีคนจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก นี่พี่ริตา ดีไซเนอร์คนใหม่ของเรา” หญิงสาวแนะนำพี่สาวให้พนักงานได้รู้จัก“สวัสดีจ้ะน้องริตาคิดถึงจังเลย” เจ๊เมนี่ของสองสาวสวมกอดเจ้าของร้านอีกคน“สวัสดีค่ะเจ๊ คิดถึงเหมือนกัน แล้วกำลังทำอะไรกันอยู่คะ มีอะไรให้ริตาช่วยมั้ย”“ไม่มีหรอกค่า คุยงานออกแบบงานใหม่กับคุณน้องอินเถอะค่ะ”“ไปที่ห้องทำงานกันดีกว่าค่ะ”อิษยาเดินนำหน้าไปยังห้องทำงานที่เธอได้จัดเตรียมไว้ให้พี่สาวใช้ทำงาน ทั้งยังแนะนำห้องอื่น ๆ ให้ได้ทราบว่าห้องไหนเป็นห้องไหน อธิบายจนครบทุกห้องหญิงสาวก็เข้ามาทำงานออกแบบผลงานชิ้นต่อไปตามแบบที่เป็นตัวของตัวเอง ที่เข้ากับสไตล์ของคนไทยและเข้ากับสภาพอากาศของประเทศไทยอีกด้วยดวงอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้า เป็นเวลาเดียวกับที่ชายหนุ่มเดินทางมาที่ร้านของน้องสาวเพื่อรับว่าที่เจ้าสาวไปลองชุดตามคำสั่งของบิดา“สวัสดีค่ะคุณอิชย์มาหาน้องอินเหรอคะ”“เปล่าครับ ฉันไม่ได้มาหายัยอินหรอก แต่…” ยังไม่ทันเอ่ยปากบอก คน
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก 9ในที่สุดมามาถึงกำหนดการวันหมั้นและงานแต่งงานของทั้งคู่ บริเวณบ้านภัคดีเลิศรัตน์ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม อิชย์ในชุดไทยประยุกต์ ท่อนบนเป็นเสื้อสูทผูกโบว์ไทสีครีมเข้ากับสีเสื้อสูท นุ่งโจงกระเบนสีทองดูสง่างามใบหน้าหล่อเหลาดูสะอาดสะอาน ผมของชายหนุ่มถูกจัดแต่งเพื่อให้รับกับชุดงานหมั้นในช่วงเช้านี้“เจ้าอิชย์ไปรอรับน้องที่เชิงบันไดสิใกล้ได้กฤษต์แล้วนะ” คุณอดิศวรก้มตัวกระซิบข้างหูเบา ๆชายหนุ่มถอนหายใจน้อย ๆ แต่อย่างไรก็ทำตามคำสั่ง แม้จะเกลียดเจ้าสาวของตนเองเท่าใดก็ตามไม่นานนักเจ้าสาวอย่างรสิกาจับแขนแกร่งลงมาจากห้อง หญิงสาวช่างสวยงดงามราวกับนางในวรรณคดีกับชุดไทยจักรพรรดิสีชมพูทอง ห่มสไบลักษณะคล้ายชุดไทยจักรี ท่อนบนเป็นผ้าสไบจีบทึบสีชมพูซ้อนทับชั้นในและชั้นนอกเป็นสไบสีทองปักมุกสีทองและลูกปัด ผ้าซิ่นไหมยกดิ้นทอง มีเชิงสีมอง การตัดแบบหน้านาง มีชายพก เครื่องประดับไม่ว่าจะเป็นสร้อยสังวาล รัดแขน รัดเกล้า สร้อยข้อมือ ต่างหู และเครื่องประดับอื่น ๆ รวมกับการแต่งหน้าทำผมให้เข้ากับชุดยิ่งงดงาม เสียงพูดคุยของผู้คนที่ได้ยินเมื่อครู่เงียบลงขนัดตาเมื่อได้เห็นความงาม จนคนที่ก้มหน้าก้มตาอยู
เล่ห์ลวงวิวาห์รักรสิกาออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านได้สามวันแล้ว โดยมีสาวิตรีและป้านวลแม่บ้าน ต่างช่วยกันทำอาหาร บำรุงให้คุณแม่มือใหม่ได้ทาน“มีอะไรให้ริตาช่วยทำบ้างมั้ยคะแม่ ป้านวล” หญิงสาวเอ่ยถามผู้มากวัย และหยิบผักต่าง ๆ ในตะกร้าไปล้าง“ว้าย ๆ คุณริตาคะ ไม่ต้องทำค่ะ วางลงเลยนะคะ”“ทำไมล่ะคะ ให้ริตาทำบ้างเถอะค่ะ ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้าน ทุกคนไม่ให้ทำอะไรเลย ได้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ อย่างเดียว”“งั้นริตาไปช่วยหั่นผักแล้วกันนะ” สาวิตรีบอกกับลูกสาวของนางพออาหารเย็นเสร็จ รสิกาก็มาช่วยจัดโต๊ะอาหารที่วันนี้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เมื่อทานอาหารกันเรียบร้อยต่างแยกย้ายไปทำกิจวัตรประจำวันของตน เช่นเดียวกับอิชย์และรสิกาที่อยู่ใครอยู่มัน หากวันนี้ชายหนุ่มต้องคุยกับหญิงสาวให้รู้เรื่อง“ริตา พี่ขอโทษ วันนั้นพี่ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ส่วนเรื่องลูกพี่เองก็เสียใจที่เขาไม่ได้อยู่กับเรา”“ไม่ใช่ความผิดของคุณ และฉันจะเซ็นใบหย่าให้คุณเร็วที่สุด คุณจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามที่ต้องการ”“พี่ไม่ยอมให้เราต้องแยกกัน พี่รักริตานะ รักมากจนไม่อยากมีใครอีกแล
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่เหนื่อย ฉันคิดว่าพวกเธอคงเหนื่อยเหมือนกัน อยากให้พักบ้าง ลุยงานมาหลายอาทิตย์แล้วนิ ฉันยังไม่เห็นพักกันเลย พรุ่งนี้ค่อยมาทำใหม่ก็ได้”“ขอบคุณค่ะ คุณอินพักผ่อนด้วยนะคะ ป่วยก็อย่าลืมหายาทานนะ”บอกพนักงานเรียบร้อย จึงเดินเข้าห้องทำงาน ไม่ได้สังเกตว่ามีสายตาคมจ้องมองเธอและคนภายในร้านไม่ห่างเมื่อพนักงานออกมาจนหมด เขาจึงเดินเข้าไปหวังจะคุยกับหญิงสาว พยายามเปิดประตูปรากฏว่าประตูของร้านถูกล๊อกจากด้านใน จึงหาทางเข้าอีกทางหนึ่งที่เป็นประตูหลัง ลองขยับประตูหลังดูไม่ได้ล็อก รอยยิ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์ก็บนใบหน้าหล่อเหลาชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่หน้าประตู มือหนาค่อย ๆ เปิดอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้คนที่อยู่ในห้องทำงานรู้ตัว ก็เห็นว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่นานสองนาน ก่อนจะเดินเข้าไปหา“อินจ๋า…คิดอะไรอยู่ ทำไมทำหน้าเครียดจัง”หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัยว่าเขาเข้ามาได้อย่างไร ในเมื่อเธอสั่งให้พนักงานปิดร้านแล้ว“คุณเข้ามาได้ยังไง…ฉันสั่งให้ลูกน้องล๊อกร้านหมดแล้วนิ”“ก็หลังร้านของอินจ๋าไม่ได
เล่ห์ลวงวิวาห์รักก๊อก ก๊อก ก๊อก“ถึงเวลาทานอาหารและยาของคนไข้แล้วค่ะ” เสียงพยาบาลที่เข้ามาบอก“ริตาทานข้าวดีกว่า”“ทานเยอะ ๆ นะคะ คุณมะ...คนไข้ ขอตัวก่อนค่ะ”กลัวพยาบาลจะหลุดพูดออกมา คนป่วยกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงจึงส่งสายตาเป็นการเตือน พยาบาลสาวเดินออกไปก็มีหญิงสาวใบหน้างามอย่างอิษยาเดินเข้ามาใบหน้ายิ้มแย้ม“จ๊ะเอ๋ เป็นยังไงบ้างคะ”“พี่ดีขึ้นแล้วล่ะ”“อินขอโทษนะคะที่ไม่ได้มาเยี่ยมตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงพยาบาล...พอดีว่า…” ยังไม่ทันพูดก็มีเสียงทุ้มคุ้นหูดังมาจากทางประตู“สวัสดีครับคุณริตา ผมซื้อของมาเยี่ยมครับ”ธีรดลเอ่ยทักทาย พร้อมเดินเอาของเยี่ยมไปยื่นให้ผู้ป่วย แต่สายตาไม่ได้มองเพื่อนสนิทหรือคนป่วยที่นอนอยู่ที่เตียง เพราะเอาแต่มองไปที่หญิงสาวตรงหน้า ผิดกับตัวหญิงสาวที่เข้ามาก่อนหน้าไม่นานกลับไม่ได้ดีใจที่ได้พบเขาอิษยาเอื้อมมือจับแขนแกร่งของพี่ชายแน่น แววตาเต็มไปด้วยความกลัว ผู้ที่ถูกบีบต้นแขนรู้สึกเจ็บขึ้นเรื่อย ๆแต่ธีรดลเริ่มสังเกตถึงอาการหวาดกลัวที่เธอเป็นเหมือนวันนั้น วันที่เขาท
เล่ห์ลวงวิวาห์รักมันไม่ใช่ความผิดอะไรของคุณ ฉันเป็นคนผิดเองที่รักคุณ รักและหวังว่าสักหนึ่งความรักที่ฉันมีให้กับคุณ จะทำให้ความเกลียดชังในใจคุณที่มีต่อแม่และฉันน้อยลงบ้าง แต่ฉันเองที่คิดผิด ว่าคนอย่างคุณมันไม่เคยรักใคร ไม่เคยรักใครเลยจริง ๆ ฉันว่าเราควรหย่ากันเถอะนะคะ ฉันจะออกไปจากชีวิตคุณตามข้อตกลงก่อนแต่งงานของเรา”ฟังหญิงที่ตัวเองรักพูดความในใจมากมายออกมา วันนี้เขาเพิ่งรู้ว่า...การที่ทรมานทั้งกายและใจมันเป็นยังไง“ริตา...พี่ขอโทษ ให้อภัยพี่สักครั้งได้มั้ย”“ฉันให้อภัยคุณค่ะ”ชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้นหวังจะเข้าไปสวมกอดหญิงสาวที่เป็นดั่งดวงใจ จะเพิ่งรู้เมื่อตอนเธอสลบไป กลัวเหลือเกินว่าเธอจะจากไป ยิ่งได้ฟังคำขอหย่าจากเธอ มันยิ่งเจ็บเข้าไปอีก“แต่อย่าเข้ามา ฉันให้อภัยคุณได้ ต่อจากนี้คุณต้องออกไปจากชีวิตฉัน” คำพูดของหญิงสาวเหมือนมีดกรีดลงกลางใจเข้าอย่างจัง“ริตา... ”“ปล่อยฉันไปเถอะ”ใครจะรู้ หญิงสาวที่เงียบ ๆ เรียบร้อย ง่าย ๆ อะไรก็ได้ บทจะใจแข็งก็ไม่ฟังอะไรเช่นกันถึงยังไงเขาก็ไม่มีวันปล่อยเธอไปเด็ดขาด“
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก 35ชายหนุ่มผละออกจากหญิงสาวหายเข้าห้องน้ำไป ร่างบางจึงได้พยายามลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เรียบร้อยแม้ว่าจะเจ็บปวดกายก็ตาม“นี่เธอลุกขึ้นมา” มาหยุดยืนตรงหน้าหญิงสาวที่นอนกอดเข่าเข้าหาตัวเอง ร่างกายสั่นสะท้านตลอดเวลา เห็นเธอหันหลังให้กับเขาคิดว่าเธอหลับจึงเดินออกจากห้องไปเป็นเวลาเดียวที่สาวิตรีมาเคาะประตูเรียกบุตรสาว“ริตานอนหรือยังคะ คุณอิชย์...ริตาหลับแล้วหรือ”“คงงั้นมั้งครับ ” ตอบอย่างไม่ใส่ใจ“งั้นขอไปดูริตาหน่อยนะคะ”“ตามสบาย ผมขอตัว” ร่างสูงไหวไหล่ก่อนเดินออกจากห้องไป“ริตาเป็นอะไรรึเปล่า” สาวิตรีเอ่ยถามลูกเขยด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นลูกนอนตัวสั่นเทา ตัดสินใจเปิดผ้าห่มที่คลุมร่างของลูกสาวออกถึงเห็นคราบเลือดติดตามขาเรียว เห็นอย่างนั้นเลยตะโกนเรียกให้คนที่อยู่แถวนั้นมาช่วย“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยพาริตาไปส่งโรงพยาบาลที”“มิ่ง! นายมิ่งอยู่ไหน! ไปเอารถออก ฉันจะพาหนูริตาไปโรงพยาบาล” อดิศวรตะโกนสั่งคนขับรถให้เตรียมรถเพื่อพาลูกสะใภ้ไปส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด 
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก 34รสิกากลับถึงบ้านด้วยความเหนื่อยล้า เหนื่อยจากทำงานทั้งวัน หลังจากทานอาหารกับครอบครัวและขึ้นมายังห้องนอน จัดการอาบน้ำให้สบายตัว กำลังแต่งตัวกินยาพร้อมเข้านอนอิชย์ที่เดินเข้าห้อง หลังจากไปดื่มก็ตรงเข้าห้องแต่งตัว เพราะเมื่อครู่ได้ยินเสียงน้ำและเสียงอาเจียนดังมาจากห้องน้ำ“วันนี้คงเหนื่อยมากสินะ” เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม ก่อนจะโยนเสื้อสูทราคาแพงลงพื้น“เหนื่อยมากค่ะ” เธอตอบตามความจริงอย่างไม่ได้คิดอะไร“หลายคนสินะ” เสียงเข้มเอ่ยอย่างเย้ยหยัน“พี่อิชย์หมายถึงอะไรที่ว่าหลายคน” ร่างบางถามอย่างสงสัย“อย่ามาเสแสร้งทำตัวใสซื่อไปหน่อยเลย อยากมากนักบอกฉันสิ ฉันจะได้จัดให้ ไม่ต้องเอาตัวไปนั่งกินข้าวขายตัวแลกเศษเงินหรอก” น้ำเสียงเย้ยหยันของเขา ทำให้ร่างบางจะพอเข้าใจอะไรบ้างแล้ว"พี่อิชย์พูดอะไร ริตาไม่เข้าใจ""ฉันเห็นหมดแล้วที่เธอเข้าโรงแรมพร้อมผู้ชายคนอื่น มีฉันเป็นผัวคนเดียวไม่พอเหรอ"“เรื่องนี้เอง...เรื่องนี้ริตาอธิบายได้นะ”“ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวของผู้หญิงร่าน โกหกตอแหลอย่างเธออีกแล้ว” อารมณ์ที่เก็บ
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก 33เทพบุตรหรือซาตาน“อิชย์ขา” พีรยาเดินตรงเข้ามาหาชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่ามีเขาอยู่คนเดียว รอยยิ้มและแผนการร้ายกาจ ผุดเข้ามมาในหัวอย่างไม่ทันตั้งตัว“คุณมาทำอะไรที่นี่พีท” ชายหนุ่มเงยหน้าถาม“พีทจะมาชวนไปทานข้าวด้วยกัน ไปกันมั้ยคะ”“ขอโทษนะ ผมเพิ่งโทรนัดทานข้าวกับเมียเมื่อครู่นี้เอง”“จริงหรือคะ ที่ว่าคุณนัดเมียไว้” เขาหลบตาต่ำด้วยไม่อยากให้อีกคนรู้ว่าตนโกหก ก่อนเสเปลี่ยนเรื่องคุย“คุณมีอะไรเปล่า”“พีทก็ไม่อยากพูดอะไรใส่ร้ายภรรยาคุณหรอกนะคะ แต่สิ่งพี่พีทเห็นน่ะ...” เสียงเล็กแหลมจีบปากจีบคอพูดแฝงไปด้วยรอยยิ้มร้อยเล่ห์ของเจ้าหล่อน“คุณเห็นอะไรรีบ ๆ บอกผมมาเถอะ”“คุณดูเองแล้วกัน ถ้าพีทพูดก็จะหาว่าใส่ร้ายภรรยาคุณ” ว่าแล้วก็ส่งโทรศัพท์สีขาวสะอาดตาเครื่องหรูของตนให้เขาไปพีรยาพอใจอย่างมากที่ทุกอย่างกำลังเข้าที่ เพราะเธอแทบไม่ต้องทำอะไรทั้งสองก็ต้องเลิกรากันอยู่ดี แล้วอิชย์จะต้องมาเป็นของตนอีกครั้งหลังจากได้ดูคลิปนั่นแล้ว เขาจึงสั่งให้กฤตย์ลงไปบอกหญิงสาวว่ามารับไปทานข้าวไ
เล่ห์ลวงวิวาห์รักบ้านพักตากอากาศริมเขาธีรดลลากหญิงสาวมายังบ้านตากอากาศสุดหรูของเขา อิษยาพยายามตัวออกจากการเกาะกุม พอเขาทนไม่ไหวเลยจัดการอุ้มร่างบางเข้าห้องนอนที่ตกแต่งอย่างสวยหรู ก่อนจะโยนคนที่อุ้มมาลงบนเตียงขนาดคิงส์ไซซ์“พี่ธีร์จะทำอะไร!”หญิงสาวถามด้วยอาการหวาดผวาหวาดกลัวพยายามถอยหนีให้ห่าง ชายหนุ่มไม่ตอบอะไรตามลงไปประกบปากบาง มอบความป่าเถื่อนไร้ความอ่อนโยนให้เธอ ด้วยความหึงหวง“พี่ธีร์ปล่อยอินนะ…อินจะฟ้องพี่อิชย์”“ดีเลย เราจะได้แต่งงานกันเลย” สิ้นเสียงนั้น เสื้อสูทและเชิ้ตราคาแพงก็หล่นลงไปกองกับพื้นห้อง“ไม่! อย่านะ ไม่นะ กรี๊ด...”เสียงที่เอ่ยห้ามถูกกลืนลงในลำคอทันที รสจูบที่แสนเลวร้ายและป่าเถื่อนที่เขามอบให้ทำให้รู้ในทันทีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตนตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากสัตว์ร้ายที่คอยทำลายชีวิตเธอ มือบางพยายามดันแผงอกแกร่งให้ออกจากร่าง ปากหนาขบเม้มซุกไซร้ซอกคอขาวผ่องของคนใต้ร่างอย่างหนักหน่วง จนมีแต่รอยแดงมือน้อยพยายามจะทำร้ายร่างกายเขาจนแดงไปหมด ชายหนุ่มทนไม่ไหวจึงหยิบเนคไทที่หล่นอยู่ข้างเตียงข
เล่ห์ลวงวิวาห์รักครืน ครืน ครืนเสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของเธอสั่นเตือนเมื่อมีคนโทรเข้าและไม่ดูชื่อด้วยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล! ใคร มีอะไร” เสียงหวานปนห้วนที่ยังขุ่นเคืองไม่หายถามปลายสาย“เป็นอะไร อารมณ์เสียอะไรมา” น้ำเสียงนุ่มทุ้มที่คุ้นเคยถามอย่างเป็นห่วง“อ้าว…พี่อิชย์เองเหรอคะ ขอโทษทีค่ะ พี่มีอะไรหรือคะ”“เอาสรุปรายได้ของปีที่แล้วมาให้พี่หน่อย เราอ่านหรือยัง”“อ๋อ...รายได้ของโรงแรม อินดูเสร็จเมื่อกี้เองค่ะ เดี๋ยวเดินเอาไปให้นะ”ไม่นานอิษยาก็เดินถือแฟ้มเอกสารออกจากห้องของไปยังห้องของพี่ชายที่อยู่ไม่ไกลกันนัก“คุณอินคะเข้าไม่ได้ค่ะ” เลขาสาวหน้าห้องของอิชย์ลุกมาห้าม“มีอะไร! ทำไมฉันจะเข้าไม่ได้” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยถาม เลขาสาวจำเป็นอีกคนจึงไม่กล้าห้ามอีก จึงปล่อยให้น้องสาวของท่านประธานห้องไป ถ้าขืนเธอห้ามอีกระเบิดคงลงบริษัทเป็นแน่ทันทีที่ร่างบางเข้ามาในห้องก็พบธีรดลกับคู่ควงนั่งอยู่ตรงโซฟาสีเทาเข้มในห้องของพี่ชาย“เข้าห้องพี่ไม่คิดจะเคาะประตูหน่อยเหรอ” อิชย์เงยหน้าขึ้นมาพบว่าเป็นน้องสาวจึงถามขึ้น