สนามบินสุวรรณภูมิ
ผู้คนมากมายมารอการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส โดยที่เธอสวมแว่นตากันแดดสีเงินเดินออกมาจากสนามบิน และตรงไปยังรถแท็กซี่ที่เรียกไว้เพื่อให้พาไปยังจุดหมายปลายทาง เมื่อถึงจุดหมายที่ต้องการก็ใกล้ค่ำเสียแล้ว
“จอดตรงนี้แหละค่ะ…นี่เงินค่ะ…ขอบคุณมากนะคะ”
สาวสวยเดินมาหยุดหน้าบ้านพร้อมกระเป๋าเดินทางสีเทาอ่อนสองใบ ก่อนบรรจงถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นดวงตาคู่สวย ก่อนเดินเข้าบ้านหลังงามที่ตั้งตระง่านอยู่ตรงหน้า
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบมาหาใครคะ” เด็กรับใช้ในบ้านถามหญิงสาว
“มาหาคุณอดิศวรกับคุณสาวิตรีค่ะ ไม่ทราบท่านทั้งสองอยู่มั้ยคะ” หญิงสาวที่เดินเข้ามาในบ้านตอบ
“ไม่อยู่ค่ะ พอดีท่านออกไปทานข้าวกับคุณอิน”
“อีกนานมั้ยจ๊ะกว่าจะกลับ”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เอ่อ…รอสักครู่นะคะเดี๋ยวหนูไปเอาน้ำมาให้”
“ขอบใจจ้ะ เอ่อ แล้วป้านวลอยู่ไหนจ๊ะ” ก่อนที่สาวใช้คนเดิมจะออกไป จึงเรียกไว้
“ป้านวลอยู่หลังบ้านค่ะ” เด็กรับใช้ในบ้านบอกแล้วรีบไปหาน้ำเสิร์ฟ แต่ยังมิวายบอกให้อีกคนไปบอกป้าศรีนวล
“ป้านวลมีแขกมาหา เขาถามหาคุณท่านแล้วยังถามหาป้าด้วยนะ”
“ถามหาข้าเนี่ยนะ รีบเอาน้ำออกไปรับรองรอคุณท่านก่อนเร็ว ๆ”
ในระหว่างรอหญิงสาวจึงเดินสำรวจบ้านไปเรื่อย ๆ ถึงพบว่าบ้านเปลี่ยนแปลงไปมาก
“คุณคะ...หนูเอาน้ำมาให้ค่ะ”
หญิงสาวยิ้มรับก่อนขอบคุณ หยิบน้ำขึ้นมาจิบและเดินดูบ้านไปพลาง ๆ กำลังเพลิดเพลินต้องตกใจกับเสียงเข้มที่ดังมาจากด้านหลัง
“นี่! เธอเป็นใคร! เข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง” อิชย์ถามเสียงเข้ม เขากลับบ้านมาก็เห็นผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาสำรวจบ้าน เมื่อมองพินิจดูได้คิดในใจ
หน้าสวย หุ่นดีใช้ได้
มาถึงก็ดุ ไม่เคยเปลี่ยน เมื่อก่อนเป็นยังไงตอนนี้เหมือนเดิมเป๊ะ หญิงสาวได้แค่คิด
ศรีนวลและเด็กรับใช้ต่างออกจากครัว เมื่อได้ยินเสียงของเจ้านาย
“คุณอิชย์มีอะไรคะ”
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครครับป้า ปล่อยให้มาเดินเล่นในบ้านได้ยังไง”
รสิกาหันหน้ามาเผชิญกับเขา ก่อนทักทายเขาที่คงจะจำเธอไม่ได้จริง ๆ
“สวัสดีค่ะ ฉันมารอพบคุณอดิศรกับคุณสาวิตรีค่ะ”
เอ่ยความประสงค์ออกไป ไม่นานเจ้าของบ้านก็เดินเข้ามา
“นวลมีอะไรเสียงดังไปถึงหน้าบ้านเลย” คุณอดิศวรถาม
“มีคนมาขอพบคุณท่านกับคุณสาค่ะ เธอรออยู่ด้านใน แต่นวลว่าหน้าผู้หญิงคนนั้นคุ้นมากเลยนะคะ” แม่บ้านผู้มากวัยตอบ
ประมุขของบ้านพยักหน้า ก่อนเดินตามศรีนวลไปห้องนั่งเล่นก็พบว่าอิชย์ยืนจ้องหน้าหญิงสาวอย่างไม่ลดละ เมื่อยังไม่ได้คำตอบอย่างที่ต้องการ
“ริตา!!!” สาวิตรีเห็นลูกสาวก็ตกใจ ไม่คิดว่าลูกจะกลับมาเร็วขนาดนี้
“แม่...ริตาคิดถึงแม่จังเลยค่ะ” รสิกาเดินตรงไปหามารดาและอดิศวร ทิ้งให้อิชย์ขบคิดเรื่องผู้หญิงคนนั้น
ยัยตุ่มต่อขา ริตา รสิกา อย่างงั้นหรือ
“แม่ก็คิดถึงลูก เอ…ไหนบอกแม่ว่าจะกลับพรุ่งนี้ล่ะ"
สาวิตรีถาม เพราะเคยโทรคุยเรื่องเวลากลับไทยเมื่อสองวันก่อน
“อยากกลับมาเซอร์ไพรส์แม่นิคะ ว่าถ้าเจอริตาที่บ้านจะมีใครจำริตาได้ไหม” รสิกาบอกมารดา
“ก็ไม่รู้ว่าใครจะเซอร์ไพรส์ใครกันแน่” อิษยาเอ่ยเบา ๆ พลางหันไปมองหน้าพี่ชาย
“ลูกสาวแม่ทั้งคนทำไมจะจำไม่ได้” นางรีบบอกพร้อมทั้งหอมแก้มนุ่ม ๆ ทั้งสองข้าง
“สองแม่ลูก หยุดกอดหยุดหอมกันก่อน หนูริตามาเหนื่อย ๆ นั่งพักเถอะ เดี๋ยวลุงให้แม่บ้านขึ้นไปจัดห้องรับรองให้”
“ขอบคุณค่ะคุณลุง ริตานอนห้องเดิมดีกว่านะคะ”
“เอาอย่างนั้นเหรอลูก”
“ค่ะ ริตานอนห้องเก่าได้ เพราะห้องนั้นริตาอยู่มานานแล้ว”
“ได้ลูก เดี๋ยวลุงสั่งเด็กให้ขึ้นไปทำความสะอาดให้”
“พี่ริตา...อินคิดถึงพี่ริตาที่สุด” อิษยาทรุดนั่งข้าง ๆ รสิกาพร้อมทั้งกอดด้วยความคิดถึง
“พี่ก็คิดถึงน้องอินจ้ะ”
“แม่คะ ริตาอยากทานอาหารฝีมือของแม่จัง อยู่ที่นั่นกินแต่ของเดิม ๆ น่าเบื่อมาก”
“ได้สิลูก เย็นนี้เลยมั้ย”
“มื้อเย็นนี้ริตาขอผ่านนะคะ”
“ได้ยังไง นาน ๆ ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาก็น่าจะร่วมทานข้าวด้วยกันนะ” รสิกาว่าอย่างไม่ยอมให้น้องปฏิเสธการทานข้าวเย็นค่ำนี้
“โธ่ อินไม่ทานข้าวเย็นค่ะ แต่ยังไงเย็นนี้อินขอเกเรแล้วกันเนอะ” เห็นพี่สาวทำหน้าเศร้าอิษยาต้องกลับลำ
นั่งพูดคุยกันอยู่นาน เด็กรับใช้ก็มาตามคุณ ๆ ให้ไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ร่วมไปถึงอิชย์ที่ไม่สามารถเอ่ยปฏิเสธได้
หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายเข้าห้อง คุณอดิศวรก็เข้ามาคุยงานกับอิชย์ที่ห้องหนังสือพ่วงท้ายด้วยเรื่องแต่งงาน
“ตกลงแกว่ายังไง เรื่องที่ฉันขอ” ท่านเริ่มเปิดประเด็น
“ได้ครับ ในเมื่อพ่อพูดแบบนั้นแล้ว ผมจะทำอะไรได้ อีกอย่างผมไม่ยอมให้ของของแม่ตกไปอยู่ในมือของสองแม่ลูกนั่นหรอก”
“พูดให้มันดี ๆ หน่อย อย่าคิดว่าใครเขาอยากได้ของของแกกันเสียหมดนะ”
“ผมพูดตามความจริง คนที่ยอมแต่งงานใหม่ทั้งที่ที่ตัวเองมีลูกอยู่แล้ว หวังไม่กี่อย่างหรอกครับ นอกจากเรื่องเงิน”
“ไอ้อิชย์” อดิศวรเอ็ดบุตรชาย “ตกลงว่าไงจะยอมแต่งงานใช่ไหม”
“ไปถามยัยตุ่มคนที่จะมาเป็นว่าที่เจ้าสาวผมก่อนมั้ยว่าจะตกลงไหม ผมบอกไว้ก่อนนะ เมื่อแต่งแล้วผมจะทำอะไรก็ได้” อิชย์เอ่ยอย่างมีเลศนัยพร้อมรอยยิ้มมุมปากเล็ก ก่อนเดินออกจากห้องหนังสือไป
หลังจากที่คุยกับลูกชายเป็นอันเข้าใจและตกลงกันได้แล้ว รุ่งเช้าหลังจากที่ลูกชายกับลูกสาวออกไปทำงาน คุณอดิศวรจึงให้เด็กรับใช้ไปตามรสิกามาพบเพื่อที่จะคุยเรื่องสำคัญ“คุณลุงให้เด็กไปตาม มีอะไรหรือเปล่าคะ”“ลุงอยากให้หนูแต่งงานกับเจ้าอิชย์จะได้มั้ย ถือว่าลุงขอร้องละนะ” อดิศวรไม่พูดพร่ำทำเพลงเอ่ยเข้าประเด็นทันทีที่อยากคุยกับลูกเลี้ยงที่ตนรักเสมือนลูก“คุณอิชย์เหรอคะ”หญิงสาวถามเพื่อความแน่ใจว่าได้ยินไม่ผิดถึงบิดาเลี้ยงผู้มีเมตตาขอร้องเขารู้ดีว่าสิ่งที่ร้องขอจากลูกเลี้ยงจะทำให้เธอลำบากใจมากก็ตาม แม้จะรู้ว่าอิชย์จงเกลียดจงชังเด็กสาวตรงหน้ามากเพียงใด แต่ถ้ามองลึกเข้าไปในแววตาหวานของหญิงสาวตรงหน้าบ่งบอกถึงความดีใจ อีกอย่างเขาแค่มองก็รู้ว่ารสิกาแอบรักลูกชายของตนอยู่เลยได้แต่หวังให้รสิกาตกลงรับปากแต่งงานกับอิชย์ ด้วยอยากให้ลูกชายมีคนดูแลและมีภรรยาที่ดี จากที่เขาได้เห็นรสิกาตั้งแต่เด็ก เธอเป็นคนเก่ง ฉลาด อ่อนหวาน แต่ไม่ได้อ่อนแอ มารยาทหรือก็เรียบร้อย แม้จะแอบมีนิสัยแก่นอยู่บ้าง เขาว่าหญิงสาวจะหยุดลูกชายตัวดีของเขาได้“เขารู้แล้ว…แต่ลุงไม่ได้ยินคำปฏิเสธจากหนูนะ”รสิกานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหัน
ตอนที่ 3 งานเลี้ยงฉลองงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นอีกธุรกิจหนึ่งของครอบครัวภักดีเลิศรัตน์และงานนี้ยังมีเซอร์ไพรส์วันคล้ายวันเกิดของคุณอดิศวร ภักดีเลิศรัตน์ เจ้าของกิจการต่าง ๆ ที่ตอนนี้ได้วางมือให้กับบุตรชายบริหารงานแทนบรรดาแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานก็มีทั้งผู้บริหาร ดารา นักแสดง เซเลบ ไฮโซต่างเดินทางมาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ภายในงานจัดขึ้นอย่างหรูหรา ควบคุมดูแลโดยอิษยาที่เป็นหัวเรือใหญ่ของงานนี้ ตอนนี้งานดำเนินไปด้วยความสุขความสนุกสนาน เช่นเดียวกันกับ อิชย์ ธีรดลและชัชวาลต่างพากันมองสาวสวยในงานตามวิสัยของหนุ่มเจ้าชู้อย่างไม่วางตาและไม่นานทั้งคู่สะดุดสายตาไปกับหญิงสาวนางหนึ่งเธอคนนั้นอยู่ในชุดเดรสสีขาวเดินเคียงคู่มากับอิษยา ที่ตอนนี้อยู่ในชุดเดรสสีชมพูอ่อนเดินเข้ามาหาบิดาและมารดาเลี้ยง ซึ่งยืนอยู่กับแมนหรือเมนี่ เพื่อนร่วมงานของเธอชัชวาลเห็นดังนั้นจึงสะกิดเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ อย่างอิชย์ ให้มองไปยังเป้าหมาย“เฮ้ย ไอ้อิชย์ ไอ้ธีร์ นั่นใครวะที่เดินมากับน้องอิน ชุดสีขาวโคตรสวยเลยว่ะ บอกเลยคนนี้แจ่ม ถูกใจพี่ชัชเหลือเกิน”“ทำไมพวกฉันไม่เคยเห็นหน้าเลยวะ” ธีรดลร้องถ
อดิศวรผายมือให้ภรรยาออกมาเต้นรำด้วยกัน เสียงเพลงคลาสสิกเคล้าคลอ แต่ละคู่แต่ละคนต่างพาคู่ของตนออกมาเต้นรำ เช่นเดียวกับธีรดลที่โค้งคำนับให้กับอิษยา“ให้เกียรติเป็นคู่เต้นกับพี่หน่อยได้ไหมครับน้องอิน” ชายหนุ่มส่งรอยยิ้มให้สาวเจ้า หญิงสาวยิ้มรับ ก่อนเดินตามเขาไป“ได้ค่ะพี่ธีร์”“งั้นก็เชิญครับคนสวย”หลังจากคู่ของธีรดลและอิษยาออกไปกลางฟลอร์ อิชย์จึงเดินไปหารสิกาที่กำลังยืนดูมารดาด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มเดินมาด้านหลังของหญิงสาวช้า ๆ ค่อยๆ กระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบา จนทำให้รสิกาต้องหดคอหนีลมหายใจร้อนผ่าวทำให้เธอนั้นขนลุกไปท้องกาย“ว่าไงจ๊ะ ยัยตุ่มต่อขาเดินได้”เมื่อหญิงสาวได้ยินดังนั้นจึงมองค้อนชายหนุ่มนิด ๆ“ไม่ใช่สิ ตอนนี้สวยแล้วนี่ หุ่นดี แถมแซ่บซะด้วย” ปากไม่เอ่ยเปล่ามือหนาลูบไล้ไปทั่วแขนบาง“นี่! อย่ามาทำรุ่มร่ามกับฉันนะ” หญิงสาวเอ่ยเบา ๆ ก่อนขยับออกห่างจากเขา“ทำไมจะทำไม่ได้ อีกไม่นานก็แต่งงานกันแล้วไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวไม่ตอบ ผละออกจากชายหนุ่มและเดินเลี่ยงออกไปด้านนอกแต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกไปไหนก็ถูกคว้าเอวบางไว้“คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” รสิกาพยายามแกะมือกาวของเขาออก“ฉันไม่ทำอะไรเธอหร
ตอนที่ 4ข้อตกลงของเราสองหลังจากที่อิชย์ดึงรสิกาออกจากงานเลี้ยง เขาจำต้องอุ้มหญิงสาวพาดบ่ามายังลานจอดรถ พอถึงรถคันหูเขาถึงวางเธอลงให้หญิงสาวยืนด้วยตัวเอง ก่อนจะคว่าข้อแขนเรียวกระชากให้ตามเขามายังลานจอดรถ “เดี๋ยวสิคุณอิชย์ จะลากฉันมาทำไม” มือเรียวพยายามแกะมือหนาออก“อย่าดิ้นให้มากนัก ขึ้นรถไป” ชายหนุ่มเปิดประตูรถ พยายามยัดหญิงสาวให้เข้าไปข้างใน“จะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไปกับคุณหรอก” รสิกาขัดขืนแต่สู้แรงของชายหนุ่มไม่ไหว“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ อย่าลงมานะ ลงมาเธอเจอดีแน่” ก่อนอ้อมไปอีกฟากหนึ่งและขับรถออกจากโรงแรม“ถึงแล้ว…ลงมา” ชายหนุ่มลงจากรถบังคับให้หญิงสาวไปกับตน“ไม่ค่ะ กรุณาพาฉันกลับบ้านด้วย” เธอบอกความต้องการกับชายหนุ่ม“จะไม่ลงดี ๆ ใช่ไหม...ได้” อิชย์กัดฟันกรอดแล้วก้มปลดเข็มขัดนิรภัย กำลังจะช้อนตัวเธอขึ้นมาก็เลยเผลอแหวใส่“จะทำอะไรน่ะ”“ก็เห็นว่าไม่ลงเลยจะอุ้มไง”“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันลงเองได้ แล้วคุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันคะ” ร่างบางรีบลงจากรถ เดินตามหลังอีกคนที่เดินนำไปก่อน หากเขาก็ไม่ตอบจนถึงห้องส่วนตัวเลยถามอีกครั้ง“มีเรื่องอะไรกับฉันหรือคะ คุณก็พูดมาเลยฉันจะได้รีบกลับ” รสิกาตามชา
ห้องเสื้ออิษยา“คนพิเศษของเรามาแล้วจ้า” อิษยาทักทายพนักงานในร้านทันทีที่พาพี่สาวมาที่ร้าน“มาสายนะเรา” เมนี่ทักอย่างเป็นกันเอง“มาช้ายังดีกว่าไม่มานะ”“แหม!”“ทุกคนคะ อินมีคนจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก นี่พี่ริตา ดีไซเนอร์คนใหม่ของเรา” หญิงสาวแนะนำพี่สาวให้พนักงานได้รู้จัก“สวัสดีจ้ะน้องริตาคิดถึงจังเลย” เจ๊เมนี่ของสองสาวสวมกอดเจ้าของร้านอีกคน“สวัสดีค่ะเจ๊ คิดถึงเหมือนกัน แล้วกำลังทำอะไรกันอยู่คะ มีอะไรให้ริตาช่วยมั้ย”“ไม่มีหรอกค่า คุยงานออกแบบงานใหม่กับคุณน้องอินเถอะค่ะ”“ไปที่ห้องทำงานกันดีกว่าค่ะ”อิษยาเดินนำหน้าไปยังห้องทำงานที่เธอได้จัดเตรียมไว้ให้พี่สาวใช้ทำงาน ทั้งยังแนะนำห้องอื่น ๆ ให้ได้ทราบว่าห้องไหนเป็นห้องไหน อธิบายจนครบทุกห้องหญิงสาวก็เข้ามาทำงานออกแบบผลงานชิ้นต่อไปตามแบบที่เป็นตัวของตัวเอง ที่เข้ากับสไตล์ของคนไทยและเข้ากับสภาพอากาศของประเทศไทยอีกด้วยดวงอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้า เป็นเวลาเดียวกับที่ชายหนุ่มเดินทางมาที่ร้านของน้องสาวเพื่อรับว่าที่เจ้าสาวไปลองชุดตามคำสั่งของบิดา“สวัสดีค่ะคุณอิชย์มาหาน้องอินเหรอคะ”“เปล่าครับ ฉันไม่ได้มาหายัยอินหรอก แต่…” ยังไม่ทันเอ่ยปากบอก คน
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก 9ในที่สุดมามาถึงกำหนดการวันหมั้นและงานแต่งงานของทั้งคู่ บริเวณบ้านภัคดีเลิศรัตน์ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม อิชย์ในชุดไทยประยุกต์ ท่อนบนเป็นเสื้อสูทผูกโบว์ไทสีครีมเข้ากับสีเสื้อสูท นุ่งโจงกระเบนสีทองดูสง่างามใบหน้าหล่อเหลาดูสะอาดสะอาน ผมของชายหนุ่มถูกจัดแต่งเพื่อให้รับกับชุดงานหมั้นในช่วงเช้านี้“เจ้าอิชย์ไปรอรับน้องที่เชิงบันไดสิใกล้ได้กฤษต์แล้วนะ” คุณอดิศวรก้มตัวกระซิบข้างหูเบา ๆชายหนุ่มถอนหายใจน้อย ๆ แต่อย่างไรก็ทำตามคำสั่ง แม้จะเกลียดเจ้าสาวของตนเองเท่าใดก็ตามไม่นานนักเจ้าสาวอย่างรสิกาจับแขนแกร่งลงมาจากห้อง หญิงสาวช่างสวยงดงามราวกับนางในวรรณคดีกับชุดไทยจักรพรรดิสีชมพูทอง ห่มสไบลักษณะคล้ายชุดไทยจักรี ท่อนบนเป็นผ้าสไบจีบทึบสีชมพูซ้อนทับชั้นในและชั้นนอกเป็นสไบสีทองปักมุกสีทองและลูกปัด ผ้าซิ่นไหมยกดิ้นทอง มีเชิงสีมอง การตัดแบบหน้านาง มีชายพก เครื่องประดับไม่ว่าจะเป็นสร้อยสังวาล รัดแขน รัดเกล้า สร้อยข้อมือ ต่างหู และเครื่องประดับอื่น ๆ รวมกับการแต่งหน้าทำผมให้เข้ากับชุดยิ่งงดงาม เสียงพูดคุยของผู้คนที่ได้ยินเมื่อครู่เงียบลงขนัดตาเมื่อได้เห็นความงาม จนคนที่ก้มหน้าก้มตาอยู
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก 10งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสระหว่างรสิกาและอิชย์ถูกจัดขึ้นในโรงแรมหรูชื่อดัง ไฮโซไฮซ้อต่างใส่เพชรใส่พลอยแข่งกันไม่ให้ใครน้อยหน้าใครซึ่งต่างจากในห้องพักเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ตอนนี้โกลาหลเป็นอย่างมาก เพราะต้องดูแลความเรียบร้อยให้เจ้าของงาน ด้วยมีคำสั่งว่าเจ้าสาวต้องสวยที่สุดไม่อย่างนั้นจะไม่ได้โบนัส“เสร็จแล้วริต้า เธอสวยมากรู้มั้ย” เสียงของสาวร่างเป็นชายใจเป็นหญิงดังขึ้น เมื่อเขาแต่งหน้าทำผมให้หญิงสาวเสร็จ“ขอบคุณและพี่ ๆ ทุกคนนะคะที่คอยช่วยเหลือริตาในวันนี้ น้องอินด้วยนะคะที่มาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้พี่”ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสามครั้ง ก่อนที่มารดาเจ้าสาวจะเดินเข้ามา“เสร็จยังริตา ใกล้เวลาแล้วนะ”“เสร็จแล้วค่ะแม่”“วันนี้ลูกของแม่สวยมาก” พลางใช้มือลูบหน้าลูบตาของลูกสาวตัวน้อยในวันวานที่วันนี้ได้เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว “ฉันขอบใจทุกคนนะขยันทำงานกันมาตั้งแต่เช้า”“ไม่เป็นไรค่ะคุณหญิง งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะคะ”“อินก็ขอตัวนะคะน้าสา”“ขอบใจหนูอินมากลูก”หลังจากทุกคนออกจากห้องไปหมดแล้ว ภายในห้องจึงเหลือเพียงเจ้าสาวกับมารดาที่พยายามเก็บซ่อนทุกความรู้สึกเอาไว้ข้างใน“แม่คงหม
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก 11ห้องนอนส่วนตัวของอิชย์ถูกจัดแต่งเป็นห้องหอสำหรับคู่บ่าวสาวที่ตอนนี้นั่งอยู่ปลายเตียงเพื่อให้ญาติผู้ใหญ่อวยพร และแขกผู้รับผู้ใหญ่ออกไปก็เหลือเพียง อดิศวร สาวิตรี และอิษยาที่อยู่ภายในห้อง“พ่อขอให้ทั้งสองคนรักกัน หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยซึ่งกันและกัน หากทะเลาะกัน โกรธกัน ไม่เข้าใจกัน ขอให้นึกถึงวันแต่งงาน มีความสุข รักกันยาวนาน ผิดถูกก็ให้อภัยกัน และรักยืนยงตลอดไป…จนกว่าจะถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร” อดิศวรอวยพรให้เป็นคนแรก“น้าขอฝากน้องด้วยนะคุณอิชย์ ถ้าไม่รักน้องก็อย่าทำร้าย โปรดส่งน้องคืนมาให้น้า น้าพร้อมที่จะรับลูกของน้าคืน”“ขอให้รักกันนาน ๆ อย่าแกล้งพี่ริตามากนะคะพี่อิชย์”“เออ รีบไปได้แล้วจะพักผ่อน” เจ้าบ่าวตอบรับส่ง ๆ กับน้องสาวไปหลังจากที่ทุกคนอวยพรคู่บ่าวสาวเรียบร้อยต่างแยกย้ายออกไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง ทิ้งไว้เพียงบ่าวสาวหมาด ๆเมื่อความเงียบสงัดเข้าครอบนำชวนอึดอัดจนรู้สึกได้ อิชย์จึงหายเข้าไปในห้องน้ำรสิกามองตามต้อย ๆ เขาคงเข้าไปอาบน้ำล่ะสิ เพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พอชายหนุ่มไม่อยู่ ร่างบางจึงลุกมาจัดการเก็บกวาดกลีบดอกกุกลาบสีแดงสดรูปหัวใจ ที่บัด
เล่ห์ลวงวิวาห์รักรสิกาออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านได้สามวันแล้ว โดยมีสาวิตรีและป้านวลแม่บ้าน ต่างช่วยกันทำอาหาร บำรุงให้คุณแม่มือใหม่ได้ทาน“มีอะไรให้ริตาช่วยทำบ้างมั้ยคะแม่ ป้านวล” หญิงสาวเอ่ยถามผู้มากวัย และหยิบผักต่าง ๆ ในตะกร้าไปล้าง“ว้าย ๆ คุณริตาคะ ไม่ต้องทำค่ะ วางลงเลยนะคะ”“ทำไมล่ะคะ ให้ริตาทำบ้างเถอะค่ะ ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้าน ทุกคนไม่ให้ทำอะไรเลย ได้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ อย่างเดียว”“งั้นริตาไปช่วยหั่นผักแล้วกันนะ” สาวิตรีบอกกับลูกสาวของนางพออาหารเย็นเสร็จ รสิกาก็มาช่วยจัดโต๊ะอาหารที่วันนี้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เมื่อทานอาหารกันเรียบร้อยต่างแยกย้ายไปทำกิจวัตรประจำวันของตน เช่นเดียวกับอิชย์และรสิกาที่อยู่ใครอยู่มัน หากวันนี้ชายหนุ่มต้องคุยกับหญิงสาวให้รู้เรื่อง“ริตา พี่ขอโทษ วันนั้นพี่ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ส่วนเรื่องลูกพี่เองก็เสียใจที่เขาไม่ได้อยู่กับเรา”“ไม่ใช่ความผิดของคุณ และฉันจะเซ็นใบหย่าให้คุณเร็วที่สุด คุณจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามที่ต้องการ”“พี่ไม่ยอมให้เราต้องแยกกัน พี่รักริตานะ รักมากจนไม่อยากมีใครอีกแล
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่เหนื่อย ฉันคิดว่าพวกเธอคงเหนื่อยเหมือนกัน อยากให้พักบ้าง ลุยงานมาหลายอาทิตย์แล้วนิ ฉันยังไม่เห็นพักกันเลย พรุ่งนี้ค่อยมาทำใหม่ก็ได้”“ขอบคุณค่ะ คุณอินพักผ่อนด้วยนะคะ ป่วยก็อย่าลืมหายาทานนะ”บอกพนักงานเรียบร้อย จึงเดินเข้าห้องทำงาน ไม่ได้สังเกตว่ามีสายตาคมจ้องมองเธอและคนภายในร้านไม่ห่างเมื่อพนักงานออกมาจนหมด เขาจึงเดินเข้าไปหวังจะคุยกับหญิงสาว พยายามเปิดประตูปรากฏว่าประตูของร้านถูกล๊อกจากด้านใน จึงหาทางเข้าอีกทางหนึ่งที่เป็นประตูหลัง ลองขยับประตูหลังดูไม่ได้ล็อก รอยยิ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์ก็บนใบหน้าหล่อเหลาชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่หน้าประตู มือหนาค่อย ๆ เปิดอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้คนที่อยู่ในห้องทำงานรู้ตัว ก็เห็นว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่นานสองนาน ก่อนจะเดินเข้าไปหา“อินจ๋า…คิดอะไรอยู่ ทำไมทำหน้าเครียดจัง”หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัยว่าเขาเข้ามาได้อย่างไร ในเมื่อเธอสั่งให้พนักงานปิดร้านแล้ว“คุณเข้ามาได้ยังไง…ฉันสั่งให้ลูกน้องล๊อกร้านหมดแล้วนิ”“ก็หลังร้านของอินจ๋าไม่ได
เล่ห์ลวงวิวาห์รักก๊อก ก๊อก ก๊อก“ถึงเวลาทานอาหารและยาของคนไข้แล้วค่ะ” เสียงพยาบาลที่เข้ามาบอก“ริตาทานข้าวดีกว่า”“ทานเยอะ ๆ นะคะ คุณมะ...คนไข้ ขอตัวก่อนค่ะ”กลัวพยาบาลจะหลุดพูดออกมา คนป่วยกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงจึงส่งสายตาเป็นการเตือน พยาบาลสาวเดินออกไปก็มีหญิงสาวใบหน้างามอย่างอิษยาเดินเข้ามาใบหน้ายิ้มแย้ม“จ๊ะเอ๋ เป็นยังไงบ้างคะ”“พี่ดีขึ้นแล้วล่ะ”“อินขอโทษนะคะที่ไม่ได้มาเยี่ยมตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงพยาบาล...พอดีว่า…” ยังไม่ทันพูดก็มีเสียงทุ้มคุ้นหูดังมาจากทางประตู“สวัสดีครับคุณริตา ผมซื้อของมาเยี่ยมครับ”ธีรดลเอ่ยทักทาย พร้อมเดินเอาของเยี่ยมไปยื่นให้ผู้ป่วย แต่สายตาไม่ได้มองเพื่อนสนิทหรือคนป่วยที่นอนอยู่ที่เตียง เพราะเอาแต่มองไปที่หญิงสาวตรงหน้า ผิดกับตัวหญิงสาวที่เข้ามาก่อนหน้าไม่นานกลับไม่ได้ดีใจที่ได้พบเขาอิษยาเอื้อมมือจับแขนแกร่งของพี่ชายแน่น แววตาเต็มไปด้วยความกลัว ผู้ที่ถูกบีบต้นแขนรู้สึกเจ็บขึ้นเรื่อย ๆแต่ธีรดลเริ่มสังเกตถึงอาการหวาดกลัวที่เธอเป็นเหมือนวันนั้น วันที่เขาท
เล่ห์ลวงวิวาห์รักมันไม่ใช่ความผิดอะไรของคุณ ฉันเป็นคนผิดเองที่รักคุณ รักและหวังว่าสักหนึ่งความรักที่ฉันมีให้กับคุณ จะทำให้ความเกลียดชังในใจคุณที่มีต่อแม่และฉันน้อยลงบ้าง แต่ฉันเองที่คิดผิด ว่าคนอย่างคุณมันไม่เคยรักใคร ไม่เคยรักใครเลยจริง ๆ ฉันว่าเราควรหย่ากันเถอะนะคะ ฉันจะออกไปจากชีวิตคุณตามข้อตกลงก่อนแต่งงานของเรา”ฟังหญิงที่ตัวเองรักพูดความในใจมากมายออกมา วันนี้เขาเพิ่งรู้ว่า...การที่ทรมานทั้งกายและใจมันเป็นยังไง“ริตา...พี่ขอโทษ ให้อภัยพี่สักครั้งได้มั้ย”“ฉันให้อภัยคุณค่ะ”ชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้นหวังจะเข้าไปสวมกอดหญิงสาวที่เป็นดั่งดวงใจ จะเพิ่งรู้เมื่อตอนเธอสลบไป กลัวเหลือเกินว่าเธอจะจากไป ยิ่งได้ฟังคำขอหย่าจากเธอ มันยิ่งเจ็บเข้าไปอีก“แต่อย่าเข้ามา ฉันให้อภัยคุณได้ ต่อจากนี้คุณต้องออกไปจากชีวิตฉัน” คำพูดของหญิงสาวเหมือนมีดกรีดลงกลางใจเข้าอย่างจัง“ริตา... ”“ปล่อยฉันไปเถอะ”ใครจะรู้ หญิงสาวที่เงียบ ๆ เรียบร้อย ง่าย ๆ อะไรก็ได้ บทจะใจแข็งก็ไม่ฟังอะไรเช่นกันถึงยังไงเขาก็ไม่มีวันปล่อยเธอไปเด็ดขาด“
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก 35ชายหนุ่มผละออกจากหญิงสาวหายเข้าห้องน้ำไป ร่างบางจึงได้พยายามลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เรียบร้อยแม้ว่าจะเจ็บปวดกายก็ตาม“นี่เธอลุกขึ้นมา” มาหยุดยืนตรงหน้าหญิงสาวที่นอนกอดเข่าเข้าหาตัวเอง ร่างกายสั่นสะท้านตลอดเวลา เห็นเธอหันหลังให้กับเขาคิดว่าเธอหลับจึงเดินออกจากห้องไปเป็นเวลาเดียวที่สาวิตรีมาเคาะประตูเรียกบุตรสาว“ริตานอนหรือยังคะ คุณอิชย์...ริตาหลับแล้วหรือ”“คงงั้นมั้งครับ ” ตอบอย่างไม่ใส่ใจ“งั้นขอไปดูริตาหน่อยนะคะ”“ตามสบาย ผมขอตัว” ร่างสูงไหวไหล่ก่อนเดินออกจากห้องไป“ริตาเป็นอะไรรึเปล่า” สาวิตรีเอ่ยถามลูกเขยด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นลูกนอนตัวสั่นเทา ตัดสินใจเปิดผ้าห่มที่คลุมร่างของลูกสาวออกถึงเห็นคราบเลือดติดตามขาเรียว เห็นอย่างนั้นเลยตะโกนเรียกให้คนที่อยู่แถวนั้นมาช่วย“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยพาริตาไปส่งโรงพยาบาลที”“มิ่ง! นายมิ่งอยู่ไหน! ไปเอารถออก ฉันจะพาหนูริตาไปโรงพยาบาล” อดิศวรตะโกนสั่งคนขับรถให้เตรียมรถเพื่อพาลูกสะใภ้ไปส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด 
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก 34รสิกากลับถึงบ้านด้วยความเหนื่อยล้า เหนื่อยจากทำงานทั้งวัน หลังจากทานอาหารกับครอบครัวและขึ้นมายังห้องนอน จัดการอาบน้ำให้สบายตัว กำลังแต่งตัวกินยาพร้อมเข้านอนอิชย์ที่เดินเข้าห้อง หลังจากไปดื่มก็ตรงเข้าห้องแต่งตัว เพราะเมื่อครู่ได้ยินเสียงน้ำและเสียงอาเจียนดังมาจากห้องน้ำ“วันนี้คงเหนื่อยมากสินะ” เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม ก่อนจะโยนเสื้อสูทราคาแพงลงพื้น“เหนื่อยมากค่ะ” เธอตอบตามความจริงอย่างไม่ได้คิดอะไร“หลายคนสินะ” เสียงเข้มเอ่ยอย่างเย้ยหยัน“พี่อิชย์หมายถึงอะไรที่ว่าหลายคน” ร่างบางถามอย่างสงสัย“อย่ามาเสแสร้งทำตัวใสซื่อไปหน่อยเลย อยากมากนักบอกฉันสิ ฉันจะได้จัดให้ ไม่ต้องเอาตัวไปนั่งกินข้าวขายตัวแลกเศษเงินหรอก” น้ำเสียงเย้ยหยันของเขา ทำให้ร่างบางจะพอเข้าใจอะไรบ้างแล้ว"พี่อิชย์พูดอะไร ริตาไม่เข้าใจ""ฉันเห็นหมดแล้วที่เธอเข้าโรงแรมพร้อมผู้ชายคนอื่น มีฉันเป็นผัวคนเดียวไม่พอเหรอ"“เรื่องนี้เอง...เรื่องนี้ริตาอธิบายได้นะ”“ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวของผู้หญิงร่าน โกหกตอแหลอย่างเธออีกแล้ว” อารมณ์ที่เก็บ
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก 33เทพบุตรหรือซาตาน“อิชย์ขา” พีรยาเดินตรงเข้ามาหาชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่ามีเขาอยู่คนเดียว รอยยิ้มและแผนการร้ายกาจ ผุดเข้ามมาในหัวอย่างไม่ทันตั้งตัว“คุณมาทำอะไรที่นี่พีท” ชายหนุ่มเงยหน้าถาม“พีทจะมาชวนไปทานข้าวด้วยกัน ไปกันมั้ยคะ”“ขอโทษนะ ผมเพิ่งโทรนัดทานข้าวกับเมียเมื่อครู่นี้เอง”“จริงหรือคะ ที่ว่าคุณนัดเมียไว้” เขาหลบตาต่ำด้วยไม่อยากให้อีกคนรู้ว่าตนโกหก ก่อนเสเปลี่ยนเรื่องคุย“คุณมีอะไรเปล่า”“พีทก็ไม่อยากพูดอะไรใส่ร้ายภรรยาคุณหรอกนะคะ แต่สิ่งพี่พีทเห็นน่ะ...” เสียงเล็กแหลมจีบปากจีบคอพูดแฝงไปด้วยรอยยิ้มร้อยเล่ห์ของเจ้าหล่อน“คุณเห็นอะไรรีบ ๆ บอกผมมาเถอะ”“คุณดูเองแล้วกัน ถ้าพีทพูดก็จะหาว่าใส่ร้ายภรรยาคุณ” ว่าแล้วก็ส่งโทรศัพท์สีขาวสะอาดตาเครื่องหรูของตนให้เขาไปพีรยาพอใจอย่างมากที่ทุกอย่างกำลังเข้าที่ เพราะเธอแทบไม่ต้องทำอะไรทั้งสองก็ต้องเลิกรากันอยู่ดี แล้วอิชย์จะต้องมาเป็นของตนอีกครั้งหลังจากได้ดูคลิปนั่นแล้ว เขาจึงสั่งให้กฤตย์ลงไปบอกหญิงสาวว่ามารับไปทานข้าวไ
เล่ห์ลวงวิวาห์รักบ้านพักตากอากาศริมเขาธีรดลลากหญิงสาวมายังบ้านตากอากาศสุดหรูของเขา อิษยาพยายามตัวออกจากการเกาะกุม พอเขาทนไม่ไหวเลยจัดการอุ้มร่างบางเข้าห้องนอนที่ตกแต่งอย่างสวยหรู ก่อนจะโยนคนที่อุ้มมาลงบนเตียงขนาดคิงส์ไซซ์“พี่ธีร์จะทำอะไร!”หญิงสาวถามด้วยอาการหวาดผวาหวาดกลัวพยายามถอยหนีให้ห่าง ชายหนุ่มไม่ตอบอะไรตามลงไปประกบปากบาง มอบความป่าเถื่อนไร้ความอ่อนโยนให้เธอ ด้วยความหึงหวง“พี่ธีร์ปล่อยอินนะ…อินจะฟ้องพี่อิชย์”“ดีเลย เราจะได้แต่งงานกันเลย” สิ้นเสียงนั้น เสื้อสูทและเชิ้ตราคาแพงก็หล่นลงไปกองกับพื้นห้อง“ไม่! อย่านะ ไม่นะ กรี๊ด...”เสียงที่เอ่ยห้ามถูกกลืนลงในลำคอทันที รสจูบที่แสนเลวร้ายและป่าเถื่อนที่เขามอบให้ทำให้รู้ในทันทีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตนตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากสัตว์ร้ายที่คอยทำลายชีวิตเธอ มือบางพยายามดันแผงอกแกร่งให้ออกจากร่าง ปากหนาขบเม้มซุกไซร้ซอกคอขาวผ่องของคนใต้ร่างอย่างหนักหน่วง จนมีแต่รอยแดงมือน้อยพยายามจะทำร้ายร่างกายเขาจนแดงไปหมด ชายหนุ่มทนไม่ไหวจึงหยิบเนคไทที่หล่นอยู่ข้างเตียงข
เล่ห์ลวงวิวาห์รักครืน ครืน ครืนเสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของเธอสั่นเตือนเมื่อมีคนโทรเข้าและไม่ดูชื่อด้วยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล! ใคร มีอะไร” เสียงหวานปนห้วนที่ยังขุ่นเคืองไม่หายถามปลายสาย“เป็นอะไร อารมณ์เสียอะไรมา” น้ำเสียงนุ่มทุ้มที่คุ้นเคยถามอย่างเป็นห่วง“อ้าว…พี่อิชย์เองเหรอคะ ขอโทษทีค่ะ พี่มีอะไรหรือคะ”“เอาสรุปรายได้ของปีที่แล้วมาให้พี่หน่อย เราอ่านหรือยัง”“อ๋อ...รายได้ของโรงแรม อินดูเสร็จเมื่อกี้เองค่ะ เดี๋ยวเดินเอาไปให้นะ”ไม่นานอิษยาก็เดินถือแฟ้มเอกสารออกจากห้องของไปยังห้องของพี่ชายที่อยู่ไม่ไกลกันนัก“คุณอินคะเข้าไม่ได้ค่ะ” เลขาสาวหน้าห้องของอิชย์ลุกมาห้าม“มีอะไร! ทำไมฉันจะเข้าไม่ได้” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยถาม เลขาสาวจำเป็นอีกคนจึงไม่กล้าห้ามอีก จึงปล่อยให้น้องสาวของท่านประธานห้องไป ถ้าขืนเธอห้ามอีกระเบิดคงลงบริษัทเป็นแน่ทันทีที่ร่างบางเข้ามาในห้องก็พบธีรดลกับคู่ควงนั่งอยู่ตรงโซฟาสีเทาเข้มในห้องของพี่ชาย“เข้าห้องพี่ไม่คิดจะเคาะประตูหน่อยเหรอ” อิชย์เงยหน้าขึ้นมาพบว่าเป็นน้องสาวจึงถามขึ้น