Share

บทที่ 0005

last update Last Updated: 2025-01-17 20:06:45

ยามราตรีท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงดาราส่องสว่าง มีเพียงอัสนีบาตที่พาดผ่านมาเป็นระยะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีฝนก็กระหน่ำตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ด้วยความที่เป็นบ้านไม้ทำให้พรนลัทได้ยินเสียงน้ำฝนตกกระทบไม้กระดานหน้าระเบียงบ้าน พร้อมกับเสียงกบเสียงเขียดร้องระงมรับพิรุณ ยังทำให้เธอจินตนาการไปถึงเรื่องเล่าที่ได้ฟังมาจากคนงานหนุ่มเมื่อตอนเย็น

หญิงสาวนอนเหยียดยาวตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียงนอนที่ทั้งแข็งทั้งเย็น พลางใช้ปลายเท้าเล็กของตัวเองเขี่ยๆเอาผ้าแพรเนื้อลื่นขึ้นมาห่มจรดจนถึงคอหอย ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้องเล็กๆ โดยมีแสงสีเหลืองอ่อนจากหลอดไฟที่ห้อยระย้าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ขยับตามแรงลมของพายุฝนที่อยู่ข้างนอก

ทว่าจู่ๆ เธอก็ดันได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเดินอยู่รอบๆบ้านพัก คำบอกเล่าของชงนมก็เข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยของเธอให้หวาดหวั่น ความคิดฟุ้งซ่านเข้ามาในหัวเต็มไปหมด กระทั่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกระหน่ำเคาะที่ประตูห้องสามถึงสี่ที

~ ก๊อกๆ ก๊อกๆ ~

“ใครอ่ะ?”

พรนลัทตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกไม่มีพักอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หญิงสาวพนมมือขึ้นแล้วสวดมนต์ผิดๆถูกๆ บ้างก็เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

“อย่ามายุ่งกับหนูเลยนะคะ หนูแค่มาขอนอนเฉยๆ”

~ ต๊อกๆ ต๊อกๆ แก…~

“กรี๊ดดดดด!”

เรียกได้ว่าเป็นจังหวะชีวิตในค่ำคืนนี้ที่โคตรจะนรกจากกลัวผีอยู่ดีๆ เธอก็ต้องกรีดร้องเสียงหลงเพราะสัตว์เลื้อยคลาน เมื่อเจ้าตุ๊กแกน้อยสองตัว จู่ๆก็หิวโหยแมลงขึ้นมาพากันออกมาวิ่งวนรอบหลอดไฟดวงเล็กๆที่อยู่บนเพดานห้องของเธอ

“เห้ย! แกสองตัวน่ะ กินกันดีๆนะ อย่าร่วงลงมานะเว้ย”

หญิงสาวทำใจดีสู้เสือเงยหน้าขึ้นไปมองตุ๊กแกสองตัวที่วิ่งวนใช้ลิ้นตวัดแมลงอยู่ข้างๆหลอดไฟ พรนลัทลุกขึ้นยืนอยู่บนเตียงนอน พลางจ้องมองไปที่ไอ้เจ้าสองตัวนั้นอย่างเขม็ง ถ้าเธอไม่สู้กับเจ้าตุ๊กแกสองตัวเธอก็ต้องไปสู้กับผีหรือคนก็ไม่รู้ที่อยู่นอกห้องอีก เอาเป็นว่าสงบศึกกับมันสองตัวที่อยู่ในห้องยังดีเสียกว่า

แต่ดูเหมือนว่ามันสองตัวกินกันอยู่ดีๆ ก็ดันทะเลาะเพราะแย่งแมลงกันเฉยเลย มุมซ้ายเป็นตัวลายจุดสีส้มไล่งับหาง ส่วนมุมขวาเป็นเจ้าลายจุดตัวสีแดง ฟัดกันไปกันมาดันเลยอาณาเขตร่วงลงมาตกตรงที่เธอยืนอยู่พอดิบพอดีนี่สิ จะอยู่ทำไมล่ะก็ต้องเผ่นซิโว้ย

พรนลัทกระโดดลงจากเตียงพร้อมกับวิ่งไปเปิดประตูผัวะเผ่นแน่บอย่างไม่คิดชีวิต ออกมาอยู่ตรงบริเวณระเบียงของบ้านด้วยหัวใจตุ้มๆ ต่อมๆ พลันหางตาของเธอดันเหลือบไม่เห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่ข้างๆบ้าน ทว่านาทีนี้เธอไม่มีเวลามาพินิจพิเคราะห์ว่าเป็นคนหรือผี

หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียงวิ่งถลาฝ่าสายฝนที่ตกไปยังเรือนไทยชั้นเดียวขนาดใหญ่เปิดโล่งทั้งสามด้าน ซึ่งเป็นส่วนของประชาสัมพันธ์สำหรับปางช้างที่ปิดไฟมืดไม่หมด พร้อมกับผ้าแพรที่ใช้ห่มนอนเมื่อสักครู่ติดมือมาด้วย

“กรี๊ดดดดด โอ้ย! ทั้งผีทั้งตุ๊กแก” พรนลัทบ่นโวยวายไปด้วยขณะที่เธอวิ่งไม่คิดชีวิต “ไม่อยู่มันแล้วโว้ยยยย”

พอมาถึงหญิงสาวเลือกนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ จากนั้นก็อิงพิงศีรษะเล็กไปกับพนักพิงตอนนี้เธอเจอศึกรอบด้าน และรู้สึกทั้งง่วงทั้งเพลีย ผ่านไปชั่วครู่เธอก็ผล็อยหลับเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์อย่างง่ายดาย

******

ขณะเดียวกันร่างสูงในชุดเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวกับกางเกงผ้าขายาวสีเทา ซึ่งเป็นชุดที่เขาใส่นอนเป็นประจำ กำลังนั่งอ่านงานอยู่ตรงระเบียงบ้านพัก ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิง ดวงตาคู่คมจ้องมองไปยังร่างอรชรที่วิ่งฝ่าฝนไปยังเรือนไทยก็ได้แต่หลุดหัวเราะระคนสงสัย

ชายหนุ่มจึงรีบเดินกางร่มไปยังบริเวณอาคารประชาสัมพันธ์ทันที ทว่าพอมาถึงก็ต้องโคลงศีรษะพร้อมกับแย้มยิ้มด้วยความเอ็นดู เมื่อเห็นร่างเล็กห่อตัวด้วยผ้าแพรเนื้อลื่นสีเขียวหลับคอพับคออ่อนซุกร่างฝังไปกับโซฟาตัวใหญ่สลบไสลอย่างไม่รู้ตัว

บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวคงทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย ไหนจะวิ่งฝ่าฝนมาอีกไม่รู้อะไรไปทำให้เธอต้องระหกระเหินมานอนอยู่ตรงนี้ หัสดินทร์จึงช้อนอุ้มร่างบางขึ้นมาทั้งตัวโดยไม่รู้สึกหนักเลยสักนิด แถมเจ้าตัวก็ไม่รู้สึกรู้สาหลับไม่รู้เรื่องไปแล้ว ค่อยๆวางลงบนโซฟาให้เธอนอนเหยียดยาว จากนั้นก็ไปนำผ้าห่มผืนหนามาห่มให้อีกชั้น พร้อมกับเปิดพัดลมที่ติดอยู่ตรงต้นเสาเป่าไล่อากาศให้เธออีกด้วย

ใจจริงเขาอยากจะอุ้มเธอกลับเข้าไปนอนในห้อง แต่กลัวว่าเช้ามาแม่คุณคงได้ตื่นขึ้นมาโวยวายลั่นปางช้างของเขาเป็นแน่ เพื่อความปลอดภัยของคนตัวเล็ก ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะนั่งเฝ้าคนที่กำลังหลับใหลอยู่ข้างๆบนโซฟาตัวใหญ่ตัวเดียวกันแทน พลางจ้องมองใบหน้านวลเนียนที่ไร้พิษสงตอนหลับด้วยแววตาเอ็นดู เขาอดไม่ได้ที่จะยกปลายนิ้วเรียวเขี่ยขนตางอนงามของคนหลับเล่นแผ่วๆ

“ตอนนอนคุณก็น่ารักเหมือนกันนะ”

แต่ถ้าตอนตื่นล่ะก็แสบใช่ย่อยเลยหละ หัสดินทร์ผุดยิ้มมุมปากให้กับความคิดของตัวเอง ดวงตาสีนิลจ้องมองมายังปากอิ่มอยู่นาน พลางไล่ปลายนิ้วคลึงกลีบปากเล็กเบาๆ

“แม่จ๋า น้ำผึ้งเหนื่อยมากเลย…”

หัสดินทร์ชะงักมือค้างไปชั่ววินาที เมื่อได้ยินเจ้าของกลีบปากนุ่มที่เขากำลังลูบไล้ด้วยความเผลอไผลพึมพำออกมาเบาๆ ส่วนคนขี้เซาก็ยังหลับตาพริ้มอยู่ดังเดิม บอกให้รู้ว่าเธอคงแค่ละเมอ เขาจึงผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วเบาอย่างโล่งใจ ไม่รู้ว่าเธอเจอเรื่องอะไรมาถึงได้ละเมอเพ้อแบบนี้ แถมยังมีบางจังหวะที่ขมวดคิ้วเรียวสวยยุกยิกไปมาอีกด้วย

“ถ้างั้นก็นอนมันตรงนี้ไปด้วยกันล่ะกัน”

ว่าจบร่างสูงก็พาตัวเองไปนั่งพิงโซฟาเดี่ยวอีกตัวข้างๆ พลางคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยรีบตื่นมาก่อนเธอ ไม่อย่างนั้นยายเปี๊ยกตัวแสบได้อาละวาดอย่างแน่นอน

ก่อนเขาจะค่อยๆหลับตาลงพร้อมกับกอดอก พิงศีรษะได้รูปไปกับพนักพิงโซฟา แล้วหลับไปในที่สุด ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกพรำๆ อากาศเย็นในยามราตรีของที่นี่มักจะไม่มียุงมาให้กวนใจสักเท่าไหร่

*****

เสียงไก่ขันมาพร้อมกับแสงอรุณรับวันใหม่ที่สดใส ทว่าคนที่ไม่สดใสน่าจะเป็นพรนลัท หญิงสาวพาหน้าตาอิดโรยเหมือนคนไม่ได้นอนมายังห้องอาหารตามคำบอกของคนงานสาวเมื่อวานนี้ เธอทรุดนั่งลงบนเก้าอี้หวายอย่างกับคนไร้เรี่ยวแรง สร้างความแปลกใจให้กับสาลี่ไม่ใช่น้อย

ยังไม่ทันที่เด็กสาวจะได้เอ่ยทักทาย ร่างสูงใหญ่ของคนเป็นเจ้านายก็พาตัวเองมาทรุดนั่งตรงข้ามกับคุณครูคนสวย ที่น่าแปลกใจเข้าไปอีกคือสภาพชายหนุ่มหัวก็ยุ่งน้อยๆ เพราะเจ้าตัวชอบเสยลวกๆตอนเดินมา คล้ายกับคนอดหลับอดนอนไม่ต่างกัน สาวใช้จึงรีบจัดกาแฟดำมาให้เจ้านายทันที พร้อมกับหันไปยกถ้วยข้าวต้มและน้ำส้มคั่นมาให้คุณผู้หญิงอีกด้วย

“ทำไมคุณน้ำผึ้งดูเพลียๆคะ” สาลี่มีโอกาสจึงเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้า

“พอดีเมื่อคืนฉันไม่ค่อยได้นอนน่ะจ๊ะ”

พรนลัทตอบพลางคลี่ยิ้มบางๆ หากแต่ดวงตากลมโตก็สบเข้ากับดวงตาคมกริบที่กำลังยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ทำให้เธอต้องผลุบหลบและมาสนใจชามข้าวต้มตรงหน้าแทน

“มีอะไรหรือเปล่าคะ” สาวใช้เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

“ไม่มีหรอกจ๊ะ”

เธอจะไปกล้าบอกได้อย่างไรล่ะ ว่าเมื่อคืนทั้งหนีผีหนีตุ๊กแกไม่ได้นอนทั้งคืน เกรงว่าสาวน้อยตรงหน้าจะหาว่าเธอฟุ้งซ่านฟังเรื่องจากชงนมมากไปจนคิดมาก ทว่าเสียงทุ้มห้วนก็เอ่ยขัดจังหวะขึ้นมา

“แต่ผมมี”

“คุณมีอะไร ว่ามาเลยดีกว่า”

พรนลัทวางช้อนที่กำลังตักข้าวต้มเข้าปากลง แล้วจ้องมองไปที่คนหาเรื่องซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเขม็ง

“ผมก็นอนไม่หลับเหมือนกัน”

“ก็นั่นมันเรื่องของคุณ ไม่เห็นเกี่ยวกับฉันสักนิด”

หัสดินทร์จ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มยั่วก่อกวนเธอ พลางเอ่ยอีกประโยคที่ใครมาได้ยินก็ต้องเข้าใจผิดไปไกล

“เรื่องของผมที่ไหน เรื่องของคุณด้วยเหมือนกัน”

แล้วก็เป็นอย่างที่ชายหนุ่มคาด เพราะสาวใช้ตัวเล็กจ้องมองเจ้านายทั้งสองคนเถียงกันอย่างออกรสออกชาติ พร้อมกับเบิกตาโตพลางยกมือขึ้นมาปิดปากของตัวเองด้วยความตกใจ กับประโยคที่สื่อออกมาให้เข้าใจว่าทั้งคู่นอนด้วยกันอย่างไรอย่างนั้น หากแต่แม่สาวน้อยหน้าใสยังคงเถียงเขาคอเป็นเอ็นไม่ลดละ

“เรื่องของฉันยังไงไม่ทราบ”

“ก็เมื่อคืนคุณแหกปากโวยวายเป็นนกกระแตแต้แวด ผมทำงานไม่ได้เลย”

“ก็เจ๊ากันไปแล้วกัน ถือว่านอนไม่หลับทั้งคู่”

“เจ๊าบ้า เจ๊าบออะไร นอนแทบไม่ได้ เล่นแหกปากดังลั่นทั้งคืน”

คนถูกว่าทำหน้าเหลอหลาก็ใครจะไปคิดว่าเสียงกรีดร้องของตัวเองมันจะดังจนคนตรงหน้าได้ยิน แต่คิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน ในเมื่อเขาให้เธอพักที่บ้านหลังนั่น แถมยังให้คนงานมาเล่าเรื่องสยองให้เธอฟัง เพื่อเขย่าต่อมผวาก่อนนอนอีกก็รับกรรมตามกันไปนั้นแหละ

“ฉันไม่ได้ไปแหกปากข้างหูคุณสักหน่อย อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า”

ดูยายตัวแสบยังคงกวนประสาทไม่เลิก เห็นทีเขาต้องปราบพยศสักหน่อยแล้ว หัสดินทร์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตัวเอง แล้วเท้าแขนทั้งสองข้างคร่อมร่างเล็กที่กำลังกินอาหารเช้าตรงหน้า ก็เขาจะพูดชิดใบหน้าสวยใสเบาๆ ให้ได้ยินเพียงสองคน

“ถ้าคุณอยากแหกปากข้างหูผมจริงๆ ตอนนั้นเราคงต้องมานอนด้วยกันแล้วล่ะ” เขากระตุกยิ้มร้าย

“ให้หมาออกลูกเป็นปลาวาฬก่อนเถอะ” พรนลัทเอ่ยลอดไรฟันตอบกลับไป บอกให้รู้ว่าเธอกำลังไม่สบอารมณ์อย่างแรง ก่อนหญิงสาวจะยกมือขึ้นดันแผงอกแน่นหนั่นให้นั่งลง

“ถอยไปได้แล้ว ฉันจะกินข้าว”

คนหิวข้าวส่งสายตาค้อนวงใหญ่มาให้อีกหนึ่งที หัสดินทร์ได้แต่หัวเราะหึๆในลำคอกับดวงตากลมโตที่ฉายแววหวาดหวั่น และยอมถอยห่างกลับไปนั่งลงตามเดิม

ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะมองใบหน้าสวยใสแดงระเรื่อเล็กๆนั้น การเย้าแหย่ต่อปากต่อคำกับคนตัวเล็กตรงหน้า แถมยิ่งได้เห็นเธอทำหน้ามุ่ยแสนน่ารัก มันทำให้เขามองเท่าไหร่ก็ไม่รู้เบื่อ

ท่าทางการหยอกล้อของทั้งคู่สร้างความแปลกใจระคนสงสัยให้กับสองพี่น้องคนงานชงนมและสาลี่ เพราะทั้งคู่ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนจะกล้าต่อปากต่อคำกับคนเป็นเจ้านาย และยังทำให้ชายหนุ่มหลุดยิ้มหัวเราะบ่อยขนาดนี้

แถมเมื่อเช้าตอนที่เขาเข้ามาทำงานก็เจอร่างสูงใหญ่ของเจ้านายหนุ่มลุกขึ้นจากโซฟาตัวเล็ก พลางบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยล้า แถมยังสั่งให้เขาเฝ้าคุณครูคนสวยที่นอนหลับจนกว่าจะตื่นอีกด้วย บอกให้รู้ว่าเจ้านายสุดหล่อของเขามานอนเฝ้าสาวด้วยความเป็นห่วงอย่างแน่นอน

‘เป็นห่วงสาวก็ยังปากแข็ง แถมยังชวนเขาทะเลาะไปเรื่อย เจ้านายกู’

ชงนมพาลคิดอยู่ในใจ พร้อมกับหลุดยิ้มขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ และดูเหมือนจะถูกจับได้ซะด้วยสิ เสียงห้วนทรงอำนาจของหัสดินทร์ทักมาทำเอาลูกน้องคนสนิทสะดุ้งสุดตัว

“ไอ้ชงนม มึงจะยืนยิ้มหน้าระรื่นอีกนานไหม งานการไม่มีทำหรือยังไง”

“มีครับนาย ผมไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”

ทว่ายังไม่ทันที่เจ้าชงนมจะโกยอ้าวออกจากเรือนไทย พลันสายตาของคนงานหนุ่มก็เห็นรถตู้คันใหญ่คันคุ้นเคยเลี้ยวเข้ามาจอดอยู่บริเวณหน้าโซนประชาสัมพันธ์ คนที่รักเจ้านายยิ่งชีพจึงหันไปพยักเพยิดบอกเจ้านายตัวเองกลายๆ

หากแต่คนเป็นนายก็ได้แต่ทำหน้าฉงนงุนงง ก่อนที่เขาจะอ้าปากเทศนาลูกน้องตัวดี เสียงทรงอำนาจมาพร้อมๆ กับร่างเพรียวระหงของแม่เลี้ยงสรณ์สิริด้วยท่าทางขึงขังเอาเรื่องอยู่ไม่น้อย

“ตาช้าง!”

คนถูกเรียกหาได้สะทกสะท้านไม่ยังคงจิบกาแฟนั่งนิ่งราวกับทองไม่รู้ร้อน ส่วนสาวน้อยที่นั่งตรงข้ามสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปตามเสียงเรียก ขณะเดียวกันชงนมรีบโกยแนบชนิดติดจรวดไอพ่นหลบไปอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์แทน พลางพึมพำออกมาเบาๆ

‘บรรลัยแล้ว เจ้านายกู องค์แม่มาเยือน’

“น้องน้ำผึ้ง…เป็นยังไงบ้างลูก”

แม่เลี้ยงสรณ์สิริรีบก้าวไปหาหลานสาวคนสวยทันที พรนลัทจึงรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วยกมือไหว้ผู้มีศักดิ์เป็นป้าอย่างนอบน้อม แม่เลี้ยงปรี่เข้ามารั้งร่างเล็กเอามากอดแนบอกด้วยความคิดถึง ก่อนดวงตาแห่งความรักจะแปรเปลี่ยนเป็นขุ่นเคืองเมื่อจ้องมองไปที่ลูกชายตัวโต

“แม่บอกให้พาน้องไปนอนที่บ้านใหญ่ ทำไมน้องถึงมาอยู่ที่นี่”

นางเอ่ยถามลูกชายเสียงขุ่น นี่ถ้าไม่ใช่ว่างานที่ลำปางเสร็จเร็วนางจะไม่รู้เลยว่าหลานสาวสุดที่รักต้องมาถูกลูกชายแกล้งให้มานอนที่บ้านพักหลังเล็ก ทว่าคนเป็นลูกก็หาได้สนใจกลับเลิกคิ้วตอบกลับแบบกวนๆ

“อ้าว! ก็ให้คุณครูคนใหม่ของแม่คุ้นชินกับที่นี่เร็วๆไงครับ”

“คุ้นชิน หรือว่าจงใจแกล้งกันแน่พ่อตัวดี” คนเป็นแม่ย้อนกลับด้วยน้ำเสียงเขียวๆ ก่อนจะหันไปถามคนในอ้อมแขนบ้าง “หนูไม่เป็นไรนะลูก แล้วนี่ทำไมหน้าตาดูเพลียๆแบบนี้ล่ะ พี่เค้าแกล้งอะไรหนูหรือเปล่า บอกป้าได้เลยนะลูก”

“ผมจะไปแกล้งอะไรเขาได้ล่ะครับ แค่ผมเข้าใกล้หลานสาวสุดที่รักของแม่ก็แวดเสียงใส่ผมแล้ว”

หัสดินทร์พูดหน้าตาย พลางจ้องมองคนในอ้อมแขนมารดาด้วยสายตากรุ้มกริ่มราวกับกำลังหยอกล้อเธออย่างไรอย่างนั้น พรนลัทจึงส่งสายตาขุ่นเคืองกลับไปเช่นกัน

“ช่างเถอะค่ะคุณป้า น้ำผึ้งนอนที่ไหนก็ได้ค่ะ”

“ไม่ได้ลูก ไปบ้านใหญ่กันป้าจัดห้องไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”

แม่เลี้ยงสรณ์สิริหันมาเอ่ยกับคนในอ้อมแขน ก่อนจะเอ่ยสั่งการสาวรับใช้ที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ไม่ไกล

“สาลี่ไปเก็บของคุณน้ำผึ้งออกจากห้องนั้นให้หมด แล้วเอาไปจัดที่บ้านหลังใหญ่”

“ค่ะ แม่เลี้ยง”

“งั้นเราไปกันดีกว่านะลูก ป้ามีเรื่องอยากจะคุยกับหนูเยอะแยะเลย”

“รับมาทำงานไม่ใช่หรอครับ ไม่ได้รับมาเม้าท์มอย”

“ได้ทำงานแน่จ๊ะ แต่ไม่ใช่วันนี้”

คนเป็นมารดาสวนกลับทันควัน ทำเอาลูกชายจอมแสบถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวด นางสรณ์สิริหันไปจูงมือเล็กพาตรงไปยังรถตู้ที่อยู่ข้างหน้า ทว่าก่อนร่างบางจะเดินพ้นซุ้มประตูของเรือนไทยไป ก็แอบมาเบ้ปากยักคิ้วให้กับคนที่ยืนนิ่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารเช้า ทำให้ดวงตาสีนิลขุ่นขวางขึ้นมาทันที แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่หมายหัวแม่ตัวแสบอยู่ภายในใจ

Related chapters

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0006

    บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวศิลปการสกุล ไม่สิ! ต้องเรียกเป็นคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งกว้างใหญ่ติดกับทะเลสาปเล็กๆและมีสวนดอกไม้เบ่งบานสวยงามหลากหลายสายพันธ์ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลประมาณห้ากิโลเมตร สามารถขับรถหรือปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆด้านหลังได้มีอีกเรื่องหนึ่งที่พรนลัท

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0007

    พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้มหญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโก

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0008

    ช่วงสี่โมงเย็น พรนลัทชวนสาลี่ปั่นจักรยานลัดเลาะไปทางซอยด้านหลังของบ้าน ที่สามารถขี่เลาะทางลูกรังเล็กๆไปถึงปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสามใบเรียงรายเขียวขจี ทำให้พอมีร่มเงาไม่ร้อนจนเกินไป บวกกับอากาศช่วงหน้าฝนที่เชียงใหม่ค่อนข้างจะชุ่มชื้นไม่ได้แห้งแล้งสองสาวพากันเข้ามาจอ

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0009

    รถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน หัวคิ้วเข้มของหัสดินทร์ต้องขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย เมื่อสายตาคมของเขาสบเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน บ่งบอกว่ามีแขกมาบ้านของเขาอย่างแน่นอน สองหนุ่มสาวเดินเคียงคู่กันเข้ามายังห้องโถงกลางบ้านก็ต้องได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของบุพการีและแขกออกร

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0010

    ร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หวายลักษณะคล้ายตัวเล็กภายในห้องสอนศิลปะ วันนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย อาจเพราะเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวจึงจะน้อยกว่า วันเสาร์-อาทิตย์ พรนลัทกำลังก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆ บนไอแพดเครื่องบางอย่างสบายอารมณ์เนื

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0011

    “ช้างขา วู้ฮู้ อยู่ไหมเอ่ย อยู่ไหนคะ”พรนลัทหันมาค้อนวงโตให้เขาหนึ่งที แล้วรีบลุกขึ้นจากโซฟาหวาย หากแต่คนตัวสูงก็ยังตามมายืนประกบตัวชิด แถมยังโอบไหล่มนไว้เสียแนบแน่น“ปล่อยฉันสิ สาวในสต็อกของคุณเดินมาโน้นแล้ว”“จะไปไหน อยู่ด้วยกันที่นี่ก่อน”หัสดินทร์ยังแข็งขืนไม่ยอมให้คนตัวเล็กเดินไปไหน เนื่องจากเข

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0012

    “โทษทีนะชงนม ฉันมาช่วยช้าเลย”“ไม่เป็นไรครับคุณน้ำผึ้ง ผมยังไม่ทันได้อาบน้ำให้เจ้าไข่ตุ๋นเลย ดูเหมือนมันจะรู้งานนอนรอคุณน้ำผึ้ง ไม่ยอมให้ใครพาไปอาบน้ำเลย”ชงนมพูดไปยิ้มไป พลางหันไปมองเจ้าช้างตัวน้อยที่นอนอยู่ในโรงเรือนไม่ยอมลุกไปไหน พรนลัทจึงรีบเดินไปทักทายพร้อมกับลูบหัวของมันอย่างเบามือ ขณะที่ทั้งส

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0013

    “ใช่ของกู พวกมึงมีปัญหาไหม?!”“ใครจะกล้าล่ะคร้าบ”คนงานนามว่าจ๋อยหันไปเห็นดวงตาแข็งกร้าวของผู้เป็นนายจ้องเขม็งมา ก็รีบยกมือไหว้ปลกๆ จึงรีบหันไปส่งสัญญาณบอกให้กับเพื่อนร่วมงานอีกสามชีวิต“ไปสิวะ จะอยู่ให้นายกระทืบหรือไง”นายจ๋อยตัวตั้งตัวตีเรื่องการแซวหยอกล้อก็รีบใส่เกียร์หมาวิ่งนำเพื่อนที่เหลือชนิดไ

    Last Updated : 2025-01-17

Latest chapter

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0052

    คนบนตักตอบคำถามด้วยการผละออกจากซอกคอแกร่งแล้วเป็นฝ่ายบดเคล้ากลีบปากอิ่มสีแดงระเรื่อลงบนปากหยักได้รูปของคนที่ให้คำมั่นสัญญา ไม่แค่นั้นยังดูดดึงกลีบปากร้อนทั้งบนและล่างสลับกัน เหมือนอย่างที่เขาชอบทำกับเธอแถมยังส่งเรียวลิ้นเล็กเข้าไปหยอกเย้าปลายลิ้นอุ่นระคายอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล ทำเอาคนฝึกมากับมือถึง

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0051

    ชายหนุ่มคลี่ยิ้มละมุนอบอุ่นส่งให้ พลางลูบศีรษะเล็กของเธอเบาๆ พรนลัทได้แต่อมยิ้มขวยเขินมองตามแผ่นหลังกว้างไปจนลับสายตา ก็เห็นว่าเขาปิดประตูห้องน้ำให้เธอเสร็จสรรพ หลังจากนั้นเธอก็ลอกคราบตัวเองจนเปลือยเปล่าแล้วก้าวลงไปอาบน้ำสระผมให้ชำระความมึนเมาออกไปเพียงไม่นานร่างเพรียวระหงในชุดคลุมอาบน้ำตัวใหญ่ของเ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0050

    คนเป็นเจ้านายเอ่ยเสียงห้าวกระด้างคาดโทษ ทำเอาชงนมเสียวสันหลังเย็นวาบไปทั้งตัว นี่ถ้าโดนตีนของคนเป็นนายจริงๆ เขาคงสร่างเมาไปสามวันเจ็ดวัน หลังจากจัดการลูกน้องตัวดีเสร็จ ก็หันมาสนใจคนในอ้อมแขนที่ทิ้งตัวพิงศีรษะไว้กับอกกว้าง สองมือน้อยโอบลำคอแกร่งไว้มั่น“เราเองก็ไม่ปฏิเสธมันเลยนะ ยอมให้มันส่งแก้วอยู่น

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0049

    ชงนมก็อวยสรรพคุณของโหลเหล้าที่สี่ด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ ทว่ารอยยิ้มก็หุบลงฉับ เมื่อคนเป็นรุ่นพี่พูดดักคอเสียฐานลูกค้ากันหมดเลย“มึงก็อวยซะเวอร์ กูซดไปหลายกรึ๊บยังไม่ได้ทันอึ๊บเมียเลย หลับก่อนตลอด”คำพูดห่ามๆของควาญช้างหนุ่มก็ทำเอาคนเป็นภรรยาหน้าแดงซ่าน แต่หล่อนก็ชอบผัวแบบนี้ ห่ามๆ ดิบๆ ไทยบ้าน

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0048

    บรรยากาศยามเย็นของวันนี้ บริเวณด้านหลังของปางช้างคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นวันเกิดของหัวหน้าคนงานอย่างลุงศักดิ์ดา ซึ่งเจ้าของวันเกิดก็เป็นฝ่ายมาเชื้อเชิญพรนลัทให้ไปร่วมงาน ประกอบกับแรงสนับสนุนของสาลี่ ชงนม และลำดวน จึงทำให้หญิงสาวไม่กล้าที่จะปฏิเสธไปได้ส่วนหัสดินทร์หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเส

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0047

    “คุณช้าง นั่งข้างมะปรางนะคะ พอดีมะปรางไม่ค่อยได้ทานอาหารเหนือสักเท่าไหร่ เผื่ออันไหนอร่อยคุณช้างจะได้แนะนำให้ได้ไงค่ะ”ปรารถนาคลี่ยิ้มหวานหยดชนิดที่มดมาเห็นต้องล้มตายเป็นเบือให้กับชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนหล่อนจะตวัดสายตาขุ่นเคืองไปที่สาวสวยหน้าหวานที่เกาะแขนแน่นหนั่นอย่างไม่สบอารมณ์“พี่ช้างขา นั่งกับหน

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0046

    “พี่ช้าง มีธุระคุยกับแขกอยู่หรอคะ ไว้หนูมาหาใหม่ก็ได้”พรนลัทเอ่ยถามชายหนุ่มเบาๆ ด้วยความเกรงใจ หากแต่คนเป็นแฟนหนุ่มกลับแย้มยิ้มน้อยๆ แล้วเอ่ยกระซิบแผ่วเบาให้ได้ยินเพียงแค่สองคน“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวแขกก็กลับแล้ว”“สาวน้อยคนสวยนี้เองหรอ เจ้าของผลงานกระเป๋าน่ารักๆ และยังเป็นหวานใจของคุณช้างด้วย”ประก

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0045

    ส่วนอีกหนึ่งสาวเรือนร่างเพรียวระหงในชุดเดรสสีชมพูอ่อนสั้นเคลียเข่าดูเนี้ยบไปทั้งเนื้อทั้งตัว บ่งบอกให้รู้ว่าหล่อนเป็นลูกหลานของผู้มีอันจะกิน ใบหน้าเรียวขาวถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ให้ดูเหมาะเจาะสวยงาม พร้อมฉีกยิ้มกว้างอย่างเก็บอาการไว้ไม่อยู่ส่งมายังชายหนุ่มเจ้าของปางช้างทันที“สวัสดีครับ คุณหญิ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 0044

    “รีบอาบน้ำเถอะ พี่ก็จะไปแล้วเหมือนกัน”ประโยคเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งของเขา กลับไม่ได้ทำให้ใจดวงเล็กๆของเธอเป็นสุขเลย เหมือนเขากำลังน้อยใจ ยิ่งส่งผลให้คนตัวเล็กไม่สบายใจหนักเข้าไปอีก จนต้องรีบพาตัวเองลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลบนเตียง แล้วโถมกระโจนร่างบางเข้าไปกอดลำคอแกร่งของเขาไปเสียแนบแน่น พลางซุกซบ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status