แชร์

ตอนที่ 12

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-01 17:55:32

หออี้เฉิงหลัน...

เยว่อันหนิงใช้เวลาเดินทางด้วยม้าเร็วเพียงสองชั่วยามก็มาถึงเมืองเทียนติ่ง

เก้าปีที่นางกลายเป็นนักฆ่าของหุบเขาไร้เงา นางเข้าออกบ้านเกิดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หากแต่เป็นการมาเพื่อทำภารกิจสาส์นจากปรโลก ทำให้ไม่เคยมีโอกาสได้แวะเวียนเฉียดเข้าใกล้จวนสกุลเยว่ของตนสักหน

หากแต่วันนี้ภารกิจคือจวนสกุลซุยที่ห่างจากจวนสกุลเยว่เพียงไม่กี่รั้วบ้าน ทำให้นางต้องปักหลักที่หออี้เฉิงหลัน หอชื่อดังแหล่งรวมความรื่นรมย์ของเหล่าขุนนางและผู้มีเงินหนาถึงจะเข้าพักกินดื่มชมการแสดงในนี้ได้

"เชิญแม่นาง"

เยว่อันหนิงเดินตามหลังสตรีนางหนึ่งที่เป็นคนดูแลหอแห่งนี้เพื่อเข้าสู่ห้องพักในชั้นสอง

"หากต้องการสิ่งใดเพิ่ม สั่นกระดิ่งทองนี้ได้ทุกเมื่อเจ้าค่ะ"

สตรีโฉมสะครวญนางนี้ภายนอกดูเหมือนเถ้าแก่เนี๊ยเจ้าของกิจการทั่วไป หากแต่เบื้องหลังนางเป็นหนึ่งในสายลับของหุบเขาไร้เงา ทำให้เยว่อันหนิงได้รับการต้อนรับค่อนข้างพิเศษกว่าผู้อื่น

"ส่วนนี่คือทั้งหมดที่ผู้น้อยจัดเตรียมเอื้อความสะดวกให้แก่แม่นาง"

สายลับนามว่าอี้หลันหยิบกล่องไม้ขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อยออกมาวางลงตรงหน้าโฉมงามอาภรณ์แดง

เยว่อันหนิงทำเพียงก้มหน้าเล็กน้อยแทนการกล่าวขอบคุณ จากนั้นห้องทั้งห้องก็เหลือเพียงนางคนเดียว

"รับสินบน ปล้นคนจน โกงกินบ้านเมือง"

เยว่อันหนิงอ่านคำร้องทุกข์จากรายงานในกล่องไม้ที่อี้หลันรวบรวมจากชาวบ้านที่เดือดร้อนเพราะสกุลซุยลับ ๆ เสร็จถึงกับกำมือแน่งน้อยแน่น ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความขุ่นเคือง

เหตุใดขุนนางโฉดชั่ว โกงบ้านกินเมืองเช่นนี้ถึงอยู่ดีผาสุข ผิดกับสกุลเยว่ของนางที่ภักดีแม้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายกลับตกตายอนาถเพราะคนชั่วป้ายสีสาดโคลนใส่

ฟ้าดินไม่ยุติธรรมบีบให้นางเลือกทางเดินนักฆ่านี้เพื่อสานปณิธานความแค้นวงศ์ตระกูลให้ลุล่วง

"ซุยฉีเฉียน"

กระดาษเปื้อนหมึกแดงที่มีชื่อของเป้าหมายในครั้งนี้ถูกนำไปจ่อที่เปลวไฟบนแท่งเทียนตรงหน้า ปล่อยให้ไฟร้อนค่อย ๆ เผาไหม้สาส์นสั่งตายนี้ให้กลายเป็นผุยผงเพื่อทำลายหลักฐาน

ร่างบางเดินไปยังหน้าต่างที่ปิดสนิท ค่อย ๆ แง้มออกพอมองลอดช่องเห็นจวนหลังใหญ่ที่ห่างจากหอแห่งนี้ไม่ถึงลี้

เยว่อันหนิงวางแผนในการลงมือในหัวคร่าว ๆ คืนนี้ปลายยามจื่อ(23.00 - 24.59 น.) นับว่าเป็นเวลาเหมาะ ทหารลาดตระเวนกำลังบางเบา นางจะสำเร็จโทษคนโฉดชั่วแทนกฎหมายที่ไปไม่ถึงนี้เอง

หากว่าเมื่อวางแผนทุกอย่างไว้เสร็จสรรพแล้ว มือเรียวดั่งแท่งเทียนกำลังจะปิดหน้าต่างของชั้นสอง กับปรากฎกองทัพม้าขบวนหนึ่งควบผ่านไป

แม้จะเป็นเพียงเสี้ยวเวลาสั้น ๆ ที่เยว่อันหนิงมองเห็นใบหน้าของบุรุษผู้หนึ่งที่นั่งอยู่บนหลังม้า หากแต่นางกลับเหมือนตกอยู่ในห้วงของกาลเวลาที่หยุดนิ่ง

ใบหน้าด้านข้างที่คมคร้ามสะดุดตา ช่างเป็นบุรุษที่เห็นเพียงเสี้ยวหน้าก็ทำให้สตรีอย่างนางหวั่นไหวได้แม้จะเป็นความรู้สึกเพียงชั่ววูบ

เคร้ง!

หากแต่เสียงดังด้านนอกทำให้คนที่ตกในภวังค์ได้สติ เยว่อันหนิงรีบเดินออกมาจากห้องเมื่อเสียงเมื่อครู่ดังอยู่หน้าห้องพักของนาง

"บ่าวขออภัยเจ้าค่ะคุณหนู บ่าวไม่ได้ตั้งใจ"

สาวใช้นางหนึ่งกำลังนั่งกับพื้นโขกศีรษะจนหน้าผากแดง ตรงหน้าสาวใช้ผู้นั้นมีสตรีสูงศักดิ์สวมอาภรณ์เนื้อดีหรูหรา เต็มไปด้วยเครื่องประดับทั้งหยกและอัญมณีมากมายหากแต่ใบหน้าของนางกำลังเหมือนปีศาจร้ายจ้องฉีกร่างผู้ที่นั่งสำนึกผิดอยู่ที่ปลายเท้านาง

"ขอโทษรึ เจ้ารู้หรือไม่ข้าแพ้ถั่ว เมื่อครู่หากข้ากลืนขนมที่เจ้าสับเพร่าจัดวางให้ ป่านนี้คงได้นอนหายใจรวยรินทรมานไปแล้ว!"

เสียงเล็กแหลมดังกึกก้องไปทั้งหออี้เฉิงหลัน ทำเอาบรรดาแขกเหรื่อห้องอื่น ๆ ที่เข้ามาพักผ่อนเริงรมย์ต่างพากันออกมามุงดู

"บ่าวไม่ทราบจริง ๆ เจ้าค่ะว่าขนมถั่วนั่นมาได้เช่นไร คุณหนูเจ้าคะ บ่าวอยู่ข้างกายคุณหนูมาหลายปีเหตุใดบ่าวจะเลอะเลือนนำอาหารที่คุณหนูแพ้มาให้เจ้าคะ"

หากใช้ความเป็นกลางฟังสิ่งที่สาวใช้ผู้นี้กล่าวก็มีเหตุผล

หากนางรับใช้คุณหนูผู้นี้มานานขนาดนั้นจะสับเพร่าได้เช่นไร

"เจ้าหวังจะทำร้ายข้าเพราะท่านพ่อหักเบี้ยหวัดครอบครัวเจ้าใช่หรือไม่!"

หากแต่เสียงตวาดกลับฟังมีแรงจูงใจ สาวใช้ที่นั่งอยู่ที่พื้นเหมือนสำนึกผิดถึงกับสะดุ้งตัวสั่นเล็กน้อย

เยว่อันหนิงมองเห็นความผิดปกติของสาวใช้นางนั้น มือของนางกำแน่นภายใต้ชายแขนเสื้อราวกำลังข่มใจไม่ให้กระทำการบางอย่าง

"บ่าว... บ่าวจะกล้าทำร้ายคุณหนูของจวนซุยได้อย่างไรเจ้าคะ หากใต้เท้าซุยรู้เข้า บ่าวกับครอบครัวจะอยู่รอดได้เช่นไร คุณหนูโปรดเมตตา เห็นแก่ที่บ่าวรับใช้คุณหนูมานาน นำความดีหักล้างความผิดพลาดครั้งนี้ด้วยเถิดเจ้าค่ะ"

นางคือบุตรีสกุลซุยงั้นหรือ?

บิดาโกงกิน รับสินบนว่าชั่วแล้ว บุตรีผู้นี้แววตาไร้เมตตา ใจคอเราะร้ายไร้การผ่อนปรน

สมแล้วที่มีผู้คนร้องเรียนถึงความชั่วสกุลซุยมากถึงเพียงนั้น

"โอ้ย! คุณหนูบ่าวไม่ได้ทำ บ่าวถูกใส่ร้ายเจ้าค่ะ"

เยว่อันหนิงละความสนใจเพียงแค่ชั่วครู่ ผู้ที่วิวาทกันด้านหน้าถึงกับลงไม้ลงมือกัน

สาวใช้นางนั้นกลิ้งลงนอนกับพื้นด้วยการถูกฝ่าเท้าเหยียบย่ำบนใบหน้าอย่างหยามเกียรติ

เยว่อันหนิงหยิบหมวกคลุมปิดหน้าสีขาวสะอาดตาขึ้นมาสวม ทำท่าทีเหมือนเดินออกจากห้องไปปกติ หากแต่ในมือกลับมีหินเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งกำไว้ นางใช้แรงเพียงปลายนิ้วดีดหินก้อนนั้นใส่ขาอีกข้างที่เหยียบบนพื้นของคุณหนูซุย ทำเอาคนที่ไม่มีวรยุทธ์ถึงกับแผดเสียงร้องเสียหลักล้มก้นกระแทกพื้นเรียกเสียงขบขันให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์

"ใคร! ใครลอบทำร้ายข้า!"

เสียงแหลมเล็กของคุณหนูซุยดังก้องไปทั้งชั้นสองของหออี้เฉิงหลัน หากแต่กลับไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าใครคือคนดีที่ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างลับ ๆ ในครั้งนี้

ผิดกับสายตาเฉี่ยวคมของบุรุษผู้หนึ่งที่แวะเข้ามาชมความวุ่นวายยามผ่านทางที่มองเห็นการกระทำของสตรีลึกลับสวมหมวกสานปกปิดใบหน้าผู้นั้นที่ช่วยเหลือสาวใช้นางนั้นไว้จากการตั้งศาลเตี้ยพอดี

"เราควรยื่นมือไปช่วยหรือไม่"

ซ่างฮ้วนถามแม่ทัพน้อยของเขาเสียงหยอกล้อ

"ละครจบแล้ว อยากเป็นบุรุษขี่ม้าขาวช่วยสตรีก็เชิญ"

เขาก็แค่ชวนคุย เหตุใดต้องทำหน้าเย็นชาใส่เช่นนี้ด้วย

"เดี๋ยว! แม่ทัพน้อยรอข้าด้วย!"

เสียงตะโกนเรียกของซ่างฮ้วนสะดุดหูของเยว่อันหนิงที่เพิ่งเดินสวนออกจากหออี้เฉิงหลันพอดี

นางชะงักเท้าเล็กน้อยก่อนหันไปมองครู่หนึ่ง บุรุษสวมชุดสีดำสองนายพร้อมป้ายห้อยที่นางเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่งยืนอยู่ห่างนางไม่ถึงผิง

สายตาของนางและแม่ทัพน้อยผู้นั้นประสานกันชั่วขณะ

แม้อีกคนจะมองเห็นแววตาภายใต้ผ้าขาวบางนั้นไม่ชัดเจน หากแต่เฉินเจียนหลางกลับตกอยู่ในภวังค์ครู่หนึ่งเช่นกัน

เยว่อันหนิงรับรู้ได้ถึงสายตาไม่ปลอดภัยของคนผู้นี้จริงรีบถอนตัวออกมา

'บุรุษผู้นี้หรือ แม่ทัพน้อยแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่า'

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 13

    ตอนนี้เป็นเวลายามจื่อแล้ว เยว่อันหนิงค่อย ๆ เปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดรัดกุมสีดำ โดยมีเสื้อตัวบางสีแดงซ่อนอยู่ด้านในผมยาวสลวยถูกรวบตึงมัดตรงกลางศีรษะ ปล่อยให้ปลายผมลู่ลงคล้ายหางของม้าใบหน้าสวยถูกปกปิดด้วยผ้าบางสีดำเช่นเดียวกับสีชุดดวงตาคู่สวยคล้ายไข่มุกยามต้องแสงราตรีผินมองไปยังพระจันทร์เสี้ยวเหมาะแก่การลงมือลดประชากรคนชั่วให้แผ่นดินถังเฉียนสูงขึ้นอีกหนึ่งมือเรียวสวยหยิบเอาอาวุธคู่กายเป็นมีดสั้นสลักดอกจวี๋ฮวาที่ด้ามจับเสียบไว้ด้านหลังสามเล่ม ตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะใช้วิชาตัวเบาไต่ไปตามหลังคาบ้านเรือนผู้คนโดยใช้ความมืดอำพรางซ่อนเร้นกายจนถึงจวนสกุลซุยเป็นดั่งคาด ยามนี้ทหารยามของสกุลซุยเบาบางจนนางมิต้องลงมือสังหารผู้ใดให้เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นแผนผังเรือนพักของซุยฉีเฉียนถูกนางจดจำไว้ในสมองอย่างแจ่มแจ้ง เรือนปีกซ้ายคือห้องนอนของเป้าหมายในครั้งนี้เยว่อันหนิงในชุดสีดำค่อย ๆ ย่องด้วยวิชาตัวเบาเพื่อไปยังห้องพักของขุนนางชั่วที่ว่า หากแต่พอเลี้ยวตรงมุมด้านหน้าที่เป็นห้องรับรองของเรือนกลางกลับได้ยินเสียงคนสนทนากันในยามวิกาล"วันนี้คุณหนูถูกคนลอบทำร้ายที่หออี้เฉิงหลัน ข้าน้อยให้คนของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-01
  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 14

    ผ่านมาไม่ถึงหนึ่งเค่อ(1เค่อ = ประมาณ 15 นาที) คนของเฉินเจียนหลางก็กลับมาพร้อมรองแม่ทัพซ่างฮ้วน"เรียนแม่ทัพน้อย นี่คือชาวบ้านที่ถูกขังไว้ในห้องใต้ดินของจวนซุยขอรับ"ซุยฮูหยินเบิกตาโตแทบลืมหายใจเมื่อเห็นชาวบ้านมากกว่าสิบคนเนื้อตัวถูกเฆี่ยนตีทรมานจนมีแผลแทบทุกคน"ไม่จริง พวกเจ้าจัดฉากเรื่องนี้!" มือที่ชี้หน้าเฉินเจียนหลางสั่นระริกจะบอกว่าโมโหจึงมือสั่นคงไม่ใช่ทั้งหมด อาการที่ซุยฮูหยินแสดงออกต้องเรียกว่าหวาดกลัวมากกว่า"ท่านแม่ทัพน้อยโปรดให้ความเป็นธรรมกับพวกข้าด้วยเจ้าค่ะ"สตรีนางหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มชาวบ้านที่ถูกจับตัวไปรีบคุกเข่าลงเพื่อขอร้องบุรุษตรงหน้า"เสวี่ยอี! เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย ทั้งหมดนี้เป็นแผนของเจ้าใช่หรือไม่? เมื่อบ่ายเจ้าลอบทำร้ายข้าไม่สำเร็จจึงโกรธเคืองปลุกปั่นผู้คนให้มาสังหารบิดาข้า!"ซุยผิงผิงเห็นชัดตาว่าสตรีที่ออกหน้าคุกเข่าอยู่นั้นคือสาวใช้ที่นางต้องการพบตัวอยู่พอดี"คุณหนูใส่ร้ายบ่าวเกินไปแล้วเจ้าค่ะ จริงอยู่เมื่อบ่ายฝีมือบ่าวเองที่นำขนมถั่วไปให้ท่าน แต่นั่นเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบของบ่าวเท่านั้นที่ครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรมแถมยังถูกหักเบี้ยหวัดสองเดือน ส่วนเรื่องการ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-01
  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 15

    หลังจากเยว่อันหนิงส่งจดหมายลับไปที่จวนสกุลเฉินเรียบร้อยนางก็ไม่ได้อยู่รอดูละครฉากสำคัญนั้นต่อ รีบเร่งเดินทางออกจากเมืองเทียนติ่งด้วยเส้นทางลับที่คนของหุบเขาไร้เงาเท่านั้นที่รู้ในทันทีเมื่อคล้อยหลังนางไม่ถึงครึ่งก้านธูปประตูเมืองก็ถูกปิดตายจากคำสั่งขององค์รัชทายาท มีทหารจำนวนหนึ่งคุ้มกันประตูเมืองอย่างแน่นหนาส่วนเรื่องนอกเหนือแผนการจ้างวานฆ่าในค่ำคืนนี้ที่เยว่อันหนิงดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องล้วนเรียกว่าเป็นหมากในกระดานของนางสกุลเฉินเป็นจวนทางทหารย่อมไม่มีอำนาจบุกค้นจวนโดยไม่มีป้ายคำสั่งจากฮ่องเต้ แต่ที่นางเลือกส่งจดหมายไปหยั่งเชิงเพราะอยากรู้ว่าที่ชาวบ้านร่ำลือกันว่าคนสกุลเฉินภักดีต่อฝ่าบาทและแผ่นดินเป็นจริงกี่ส่วนเหตุผลสำคัญอีกหนึ่งที่เยว่อันหนิงต้องการยืมมือสกุลเฉินคือจัดการลงโทษคุณหนูสกุลซุย หากบุกค้นจวนซุยจริงและให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านได้ เยว่อันหนิงเดาว่าต้องมีสักคนที่เปิดโปงจิตใจโหดเหี้ยมของซุยผิงผิงให้นางได้รับโทษที่ใช้อำนาจรังแกคนอื่นเป็นแน่"ครั้งนี้เจ้าเหมือนยิงเกาทัณฑ์ครั้งเดียวได้นกหลายตัว"เสียนต้วนอี้กล่าวชมสตรีที่กลับมาถึงหุบเขาไร้เงาได้หนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว"กำจัดค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-01
  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 16

    "ยาลบความจำ""ยาลบความจำ! เจ้าคิดว่าบนโลกนี้จะมียาชนิดนี้ด้วยหรือ"เยว่อันหนิงส่ายหัวน้อย ๆ พลางตอบ"ไม่มี""แล้วเจ้ายังจะคิดค้นเนี่ยนะ"ยี่ซูมองสหายตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจความคิดนางหรือว่าลึก ๆ แล้ว เยว่อันหนิงไม่ได้อยากล้างแค้นให้ตระกูลนางจึงอยากใช้ยาตัวนี้เพื่อลบความทรงจำเลวร้ายนั่นให้สิ้น"เพราะไม่มีถึงได้อยากลอง"ก็ถูกของนาง หากไม่คิดค้นขึ้นมา ยาแบบนี้จะให้หล่นลงมาจากฟ้าหรือไร ยี่ซูนี่ช่างถามไม่รู้จักคิด"แต่เรามียาลืมเลือนของผู้เฒ่าฝูแล้วนี่ เหตุใดเจ้าต้องคิดค้นยาลบความทรงจำนั้นขึ้นมาอีก"นั่นสิ!หากฟังจากชื่อยาแล้ว ยาลืมเลือนที่นางมีก็ช่วยลบความทรงจำได้หมือนกัน"เพราะไม่เหมือนกัน ยาลืมเลือนใช้ได้ผลเพียงแค่ชั่วขณะ พอหมดฤทธิ์ ทุกอย่างที่เคยเห็นเคยลืมก็จะกลับมา""อ้อ เป็นเช่นนี้เอง เจ้าจะใช้มันเองหรือ"หลังจากเข้าใจความแตกต่างของยาทั้งสองยี่ซูจึงรีบถามออกไป"เหตุใดข้าต้องใช้"อ้าว! ในเมื่อเป็นยาลบความทรงจำ เยว่อันหนิงไม่ใช้เองแล้วจะให้ผู้ใดใช้กัน"แล้วเจ้าจะเอาไปใช้ประโยชน์อันใด งานของเราคือนักฆ่า ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ยาลบความทรงจำกับตัวเองและคนที่กำลังจะตายพวกนั้น"มือแน่งน้อยของเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-01
  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 17

    "คำนับประมุขกู่เหนียง ท่านเรียกข้าเข้าพบมีเรื่องอันใดเจ้าคะ"ทันทีที่เยว่อันหนิงเดินเข้ามายังที่พักของประมุขกู่เหนียง นางก็ไม่รีรอเร่งถามถึงเหตุผลที่ถูกตามตัวในครั้งนี้ โดยข้างกายมีเสียนต้วนอี้ยืนอยู่เป็นเพื่อน"นั่งก่อนเถิด ข้ามีเรื่องหารือกับพวกเจ้า"คำว่า 'พวกเจ้า' ทำให้เยว่อันหนิงรู้ชะตาต่อจากนี้คงต้องมีตัววุ่นวายอย่างเสียนต้วนอี้ตามติดนางเป็นแน่"นี่คือ?"ผู้ที่แย่งถามคือบุรุษรูปงามเพียงคนเดียวในห้องนี้เยว่อันหนิงมองเทียบเชิญสีแดงมีตัวอักษร 'มู่' ประทับตราโดดเด่นอยู่จึงหยิบขึ้นมาดู"หน่วยข่าวที่แฝงตัวอยู่ในเมืองเทียนติ่งส่งมา"เสียนต้วนอี้พยักหน้าเล็กน้อยพร้อมชะเง้อคอมองตัวอักษรที่เขียนอยู่ในเทียบเชิญในมือเยว่อันหนิง"ท่านประมุขต้องการให้พวกข้าปะปนเข้าไปสังหารผู้ใด"ในเมื่อไม่มีสานส์นจากปรโลก เยว่อันหนิจึงไม่เข้าใจเจตนารมย์ของประมุขกู่เหนียงในครั้งนี้"เจ้าก็เห็นแล้วมิใช่หรือ สกุลมู่ต้องการหาคู่ครองให้กับบุตรีเขา"ก็ใช่ว่าไม่เห็น ในเมื่อเนื้อในเทียบเชิญเขียนเอาไว้ว่า'สกุลมู่ขอเชิญบุรุษที่ผ่านพิธีสวมกวานแล้วทุกท่านเข้าคัดเลือกเป็นคู่ครองคุณหนูมู่อานจิ่วบุตรีเพียงคนเดียวของสกุลมู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-01
  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 18

    "แม้จะไม่คล่องมือ หากแต่นำมาจับอีกครั้งย่อมไม่เป็นปัญหา""ดี! ข้าจะให้ต้วนอี้ปลอมเป็นหัวหน้าคณะดนตรี นำนักแสดงและนางรำเข้าไปร่วมงานในครั้งนี้""เป็นเพียงหัวหน้าคณะดนตรีจะได้ไม่เตะตาผู้อื่น"กู่เหนียงพนักหน้าให้กับความฉลาดที่เยว่อันหนิงวิเคราะห์ความคิดตนราวมานั่งอยู่ในใจ"แต่จะดีหรือท่านประมุขถ้าให้ผู้อื่นเห็นหน้าตาอาหนิงของข้า โอ๊ย!"เสียนต้วนอี้ถึงกับตัวงอเมื่อถูกศอกแหลม ๆ ของเยว่อันหนิงกระทุ้งเข้าลิ้นปี้ให้"ข้าคือข้า มิใช่ของของผู้ใด"เสียงเรียบนิ่งเอ่ยบอก หากแต่แววตาของนางกลับสามารถทำให้บุรุษตัวสูงใหญ่ใจวูบโหวงได้"ข้าพูดผิดไป ข้าพูดผิดไป"เสียนต้วนอี้ยกมือขึ้นตบมุมปากตนที่ปากเสียสองครั้ง ก่อนจะทำท่าเม้มปากเป็นเส้นตรงบอกคนที่ยังใช้สายตาอาฆาตให้รู้ว่าเขาจะไม่ปริปากสุนัขนี้ขัดการหารือครั้งนี้อีก"ที่จริงข้าเองก็กังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เจ้าล่ะ จะยอมเสี่ยงหรือไม่"แม้ตัวตนในฐานะนักฆ่าบุปผาเบญจมาศของเยว่อันหนิงยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ แต่หากประมาทไปนิดเดียวก็อาจจะทำให้ความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไป"ชีวิตข้ายังเหลืออะไรให้กลัวอีกเจ้าคะ"น้ำเสียงเจ็บแค้นปะปนออกมาอยู่หลายส่วนแค้นโชคชะตา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-01
  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 19

    "ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคุณชายจากหนแห่งต่าง ๆ มาเข้าร่วมงานมากถึงเพียงนี้"ซ่างฮ้วนเอ่ยกับแม่ทัพน้อยที่นั่งร่ำสุราอยู่ข้าง ๆแม้เดิมทีที่นั่งของเฉินเจียนหลางถูกจัดวางไว้ใกล้กับที่นั่งของมู่ตงหยวนที่ที่เป็นของผู้ที่ชนะการแข่งขันในครั้งนี้ ทว่าเฉินเจียนหลางกลับปฎิเสธด้วยอ้างว่าตนคุยไม่เก่งเกรงว่าจะทำให้แขกคนสำคัญคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ตรงนั้นอึดอัดใจจึงขอปลีกตัวออกมานั่งที่ลานกว้างด้านซ้ายของเวทีการแสดงดนตรีกับรองแม่ทัพซ่างฮ้วนแทน"เจ้าคิดอย่างไรกับสิ่งที่เห็น"เฉินเจียนหลางถามเสียงเรียบพลางมองการแสดงดนตรีตรงหน้าไปอย่างไม่ได้ใส่ใจ"ดนตรีไพเราะ นางรำงดงามยิ่ง"หากแต่สิ่งที่ซ่างฮ้วนตอบสหายสนิทกลับไม่ใช่สิ่งที่เขาถาม จากนั้นเสียงดังเหมือนถูกมดกัดของซ่างฮ้วนจึงดังขึ้น"เจ้าตีข้าทำไม"มือแกร่งลูบเอวหนาที่ถูกประทุษร้ายราวกับเจ็บปวดยิ่ง ก่อนจะมองเคืองผู้ที่ทำร้ายตนเบา ๆ"ข้าหมายถึงเจ้าคิดเช่นไรกับการจัดงานในวันนี้"เมื่อเฉินเจียนหลางอธิบายรายละเอียดแบบเจาะลึก คนที่มัวแต่ชมการแสดงบนเวทีจึงทำปากขมุบขมิบด่าทอไม่ออกเสียงแล้วเอ่ยตอบ"ดูจากการแต่งกายของบางคนน่าจะไม่ใช่คนในเมืองเทียนติ่ง เจ้าดูนั่น คุณชายรูป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-04
  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 20

    การแข่งขันผ่านไปแล้วสามด่าน ตอนนี้มีผู้ชนะมาถึงรอบนี้สามคนรวมเสียนต้วนอี้ที่ได้ป้ายหยกด้วย"คุณชายทั้งสามมากความสามารถจริง ๆ ด่านนี้เป็นด่านที่คุณชายหย่งอวี้ฉางอาจจะได้เปรียบเล็กน้อยเพราะเป็นการประชันดนตรี"เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบบริเวณเมื่อพ่อบ้านฟงจูแจ้งกติกาในด่านรองสุดท้ายจบ"ข้ามาเล่น ๆ มิได้จริงจัง ไฉนเลยถึงบังเอิญเช่นนี้"เสียนต้วนอี้ที่วันนี้มาในนามหย่งอวี้ฉางถึงกับพึมพำกับตนเองในโชคชะตาที่แสนราบรื่นในวันนี้ใครจะไปคิดว่าการปลอมเป็นคณะดนตรีจะทำให้เขาไม่ต้องลงมือทำอะไรจนได้ผ่านเข้ามาถึงรอบรองสุดท้ายง่ายดายเช่นนี้"นี่คือพิณที่คุณชายทั้งสามต้องใช้แสดงความสามารถในด่านนี้ หากคุณชายท่านใดบรรเลงเพลงแล้วได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมมากที่สุดผู้นั้นจะได้เข้าสู่รอบสุดท้าย เชิญทุกท่านจับไม้เพื่อเลือกลำดับการแสดง"เสียนต้วนอี้ภาวนาในใจขอให้ผู้ชนะในด่านนี้ไม่ใช่ตน ทว่าหากจะแสดงฝีมือแบบเล่น ๆ เกรงว่าจะถูกจับผิดนี่สิ เป็นถึงหัวหน้าคณะ แต่กลับไม่มีฝีมือเกี่ยวกับดนตรีได้เยี่ยงไร"ข้าได้ที่หนึ่ง"จู้เมิ่งจ๋าน หลานชายของจู้เจิงคือหนึ่งในสองคนที่เข้ารอบมาถึงด่านนี้ยกไม้ที่แต้มลำดับหนึ่งให้ทุกคนในงานดู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-04

บทล่าสุด

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 25

    "เห็นทีเราจะได้ร่วมละครฉากสนุกแล้วละ"เสียนต้วนอี้กระซิบเบา ๆ ให้เยว่อันหนิงได้ยินคนถูกชักชวนให้คุยกลับยืนนิ่ง สายตาคู่สวยมองไปยังบุรุษรูปงามทางด้านขวามือที่เอาแต่จ้องนางตาไม่กะพริบมาเป็นชั่วยามแล้ว"เจ้าว่าเรื่องนี้แม่ทัพน้อยผู้นั้นจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่"เสียนต้วนอี้มองตามสายตาสหายที่จ้องเฉินเจียนหลางอยู่จึงรีบถามความเห็นขึ้นเยว่อันหนิงทำเพียงหันกลับมามองทางมู่ตงหยวนที่จ้องคนของคณะดนตรีด้วยสายตาเหมือนตอนนั้น...ตอนที่อ่านราชโองการเลือดให้ตระกูลของนาง"ไม่"นางตอบเพียงสั้น ๆ"ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริงหรือ"หากแต่เสียนต้วนอี้กลับยังสงสัยแม่ทัพที่ยืนห่างพวกเขาเพียงสามคนกั้น"ข้ามิได้บอกว่าไม่เกี่ยวข้อง"เยว่อันหนิงได้ยินเสียงพึมพำนั้นจึงอธิบายคำตอบของนางต่อ"เจ้าหมายความว่า...""ที่ข้าตอบเจ้าเพราะข้าดูชายผู้นั้นไม่ออก"หายากนักที่มือสังหารอย่างเยว่อันหนิงที่สามารถคาดเดานิสัยผู้อื่นได้เพียงการมองผ่านแววตาของอีกคนเอ่ยปากว่าไม่สามารถเดาเฉินเจียนหลางผู้นี้ได้ว่าตกลงแล้วเขาเป็นคนดีหรือเลว"ขนาดเจ้ายังไม่มั่นใจ เห็นทีคงต้องอยู่ให้ห่างจากคนผู้นี้แล้ว"เสียนต้วนอี้ลอบมองบุรุษที่ยังคงยืนกอดอกพิ

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 24

    "เจ้าจับคนร้ายได้แล้วหรือ"ทันทีที่มาถึงโถงปีกซ้ายของจวน มู่ตงหยวนรีบซักไซ้คนของตนอย่างร้อนใจ"หม่าเย่าไร้ความสามารถ ตอนนี้ท่านหมอทั้งสองตรวจพิษจากอาหารที่ใช้เลี้ยงแขกรวมถึงสำรับส่วนตัวที่จัดไว้สำหรับคุณหนูอานจิ่วแล้ว ไม่พบพิษแม้นิดเดียวขอรับ"ตุ้บ!เสียงตบโต๊ะเสียงดังสะท้อนไปทั้งห้องโถง กงจิ่นซวนมององครักษ์ที่รายงานความคืบหน้าด้วยความผิดหวัง"ไม่ได้เรื่อง! นึกไม่ถึงว่าจวนสกุลมู่จะเลี้ยงคนที่ไร้ความสามารถเช่นนี้ไว้!"หม่าเย่ารีบคุกเข่าสำนึกผิด"ข้าน้อยไร้ความสามารถ ขอท่านเสนาบดีกงลงโทษด้วย!""ท่านพ่อตา หม่าเย่าเป็นลูกน้องฝีมือดีที่สุดของข้า เขาคงทำสุดความสามารถแล้ว ท่านพ่อตาโปรดเมตตาให้โอกาสเขาอีกครั้ง...""เจ้านี่เป็นคนเช่นไร บุตรสาวนอนไม่ได้สติอยู่ในห้องยังจะเป็นห่วงองครักษ์ที่ไร้ความสามารถปกป้องนายอีก!"กงจิ่นซวนตำหนิเสียงฉุน สายตาที่มองมู่ตงหยวนมีแต่ความผิวหวังและดูแคลน นั่นเพราะเดิมทีเขามิได้ถูกคอกับมู่ตงหยวนสักเท่าใด หากมิเห็นแก่กงจิ๋วจื่อบุตรสาวเสน่หามู่ตงหยวนจนถึงขั้นเอ่ยตัดขาดกับตนหากมิได้แต่งเขาเข้าสกุลกงมีหรือกงจิ่นซวนจะยอมรับมู่ตงหยวนเป็นเขยเช่นทุกวันนี้"ท่านเสนากงโปรดระง

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 23

    การประลองเพลงดาบผ่านมาครึ่งก้านธูป ตอนนี้จะใช้กฎสามกระบวนท่าสยบคู่แข่งไม่ได้แล้ว ในเมื่อเสียนต้วนอี้ยอมเสียหน้าเรื่องอื่นได้ แต่หากเป็นการประลองกระบี่เขาสู้ไม่ถอย บัดนี้กระบวนท่าที่สามจบลงแล้วยังไม่มีผู้ใดยอมอ่อนข้อให้อีกฝ่าย ทำให้ต้องปล่อยให้กระบวนท่าที่สี่ดำเนินต่อไป"เรื่องประลองฝีมือสู้ไม่ถอยจริง ๆ"เยว่อันหนิงส่ายหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นสหายสนิทฟาดฟันกับซ่างฮ้วนอย่างไม่มีใครยอมใครนางรู้สึกเหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจดจ้องตนจนเสียวสะท้านไปทั้งแผ่นหลัง จวบจนสายตาคู่สวยสบเข้ากับบุรุษที่บังเอิญพบที่หน้าพักมู่อานจิ่วกำลังมองนางอย่างไม่คลาดสายตา'เหตุใดสายตาของเจ้าถึงได้ดูคุ้นตาเช่นนี้'เฉินเจียนหลางถามตนเองหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่ที่เขาเอาแต่จ้องมองนางรำผู้นี้ เขารู้สึกว่านางผู้นี้กับสตรีที่สวมหมวกผ้าที่หออี้เฉิงหลันคือผู้เดียวกัน หากแต่ไม่อาจด่วนสรุปได้ว่าจริงอย่างที่ลางสังหรณ์บอกเขาหรือไม่ เฉินเจียนหลางจึงไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น คอยจับตาดูเยว่อันหนิงอย่างไม่คลาดสายตาหากแต่ยิ่งมอง ยิ่งสบตานาง เขากลับรู้สึกว่านี่ไม่ใช่สายตาที่เพิ่งพานพบ"ฝีมือคุณชายทั้งสองสูสีกันจริง ๆ"เสียงพูดคุยจากรอ

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 22

    ในที่สุดสิ่งที่เสียนต้วนอี้ภาวนาก็ไม่เป็นดั่งใจหวังเมื่อพ่อบ้านฟงจูประกาศผลผู้ชนะในด่านรองสุดท้ายนี้"ยินดีกับคุณชายหย่งอวี้ฉางที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย"เสียงปรบมือดังขึ้น มีทั้งพอใจและไม่พอใจส่วนที่พอใจเห็นจะเป็นแขกคนอื่นที่ไม่รู้แผนการของมู่ตงหยวนที่วางหมากไว้แล้ว ส่วนฝ่ายที่ไม่พอใจเห็นจะเป็นใต้เท้าจู้เจิงที่หลานชายพ่ายแพ้ได้อันดับสามจนแทบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี"ก่อนการประลองด่านสุดท้าย ขอเชิญคุณหนูมู่อานจิ่วปรากฎตัวตรงหน้าด้วยขอรับ"กริยาอ่อนช้อย การก้าวย่างที่เป็นกุลสตรีอย่างไร้ที่ติของมู่อานจิ่วดึงดูดสายตาแขกเหรื่อในงานได้อย่างชะงักนิ่งใบหน้าสวยรูปไข่ที่แสนเรียวนวล แต่งแต้มผงชาดสีอ่อน ๆ ขัดกับริมฝีปากสีแดงระเรื่อขึ้นมาหนึ่งระดับรับกับดวงตาสุกประกายอย่างไร้เดียงสาอาภรณ์สีอ่อนกลีบดอกเหมยพริ้วบางยามต้องลม ใครได้ยลคงเคลิ้มคิดว่าเป็นเทพธิดาลงมาจุติหากแต่สิ่งที่บรรยายมาทั้งหมดไม่สามารถดึงดูดสายตาของคนเพียงคนเดียวได้เท่าสตรีในชุดนางรำที่กำลังถือพิณขนาดกะทัดรัดรูปจันทร์เสี้ยวที่ยืนอยู่บนเวทีเตรียมรอแสดง"สมแล้วที่เป็นคุณหนูมู่ งดงามประหนึ่งเทพธิดามาจุติ"เสียงคุณชายท่านหนึ่งที่ตกรอบ

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 21

    "ไม่ทราบแม่นางผู้นี้หลงทางมาหรือไร"ก้าวออกห่างจากหน้าห้องของมู่อานจิ่วได้ไม่ถึงห้าก้าวก็ถูกคนที่สะกดรอยตามตั้งแต่ต้นทักเข้า เยว่อันหนิงถึงกับใจหายใจคว่ำแต่พอตั้งสติได้นางจึงรีบกระชับผ้าสีแดงผืนบางที่ปกปิดใบหน้าตั้งแต่ส่วนจมูกลงมาไว้ให้มิดชิดแล้วหันหน้าเผชิญกับเสียงทุ้มนั้น"คำนับคุณชาย ข้าน้อยเป็นนางรำของคณะดนตรีเซียงหย่ง บังเอิญว่าหาทางไปห้องน้ำมิเจอเลยเดินไปเรื่อย ๆ เจ้าค่ะ"เยว่อันหนิงทำตัวนอบน้อมปนหวาดกลัวคนที่สวมชุดเสื้อด้านนอกสีดำทับตัวในสีแดงเลือดนก ท่าทางสง่าผ่าเผยแถมยังรูปหล่อปานภาพวาดทวยเทพในนิยายที่นางเคยอ่านมา"ข้าก็ว่าอยู่ เดินตามแม่นางมาได้หลายเค่อดูเหมือนกำลังมองหาอะไร ที่แท้ก็ต้องการเข้าห้องน้ำนี่เอง"นี่นางถูกสะกดรอยตามหรือ?เป็นไปได้เช่นไรที่นางไม่รู้สึกตัวถึงฝีเท้าคนผู้นี้สักนิด"ไม่ทราบว่าคุณชายท่านนี้พอจะบอกทางแก่ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ อีกประเดี๋ยวข้าต้องกลับไปเตรียมตัวขึ้นเวทีร่ายรำแล้ว"เยว่อันหนิงไม่กล้าสบตาบุรุษรูปงามที่อยู่ตรงหน้า นางกลัวว่าจะถูกคนผู้นี้จับพิรุธได้ เพราะเมื่อครู่แค่มองแวบเดียวนางก็เห็นความช่างสังเกตในสายตาคมคู่นั้นของเขาแล้ว"เดิมทีข้าเองก็เป็น

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 20

    การแข่งขันผ่านไปแล้วสามด่าน ตอนนี้มีผู้ชนะมาถึงรอบนี้สามคนรวมเสียนต้วนอี้ที่ได้ป้ายหยกด้วย"คุณชายทั้งสามมากความสามารถจริง ๆ ด่านนี้เป็นด่านที่คุณชายหย่งอวี้ฉางอาจจะได้เปรียบเล็กน้อยเพราะเป็นการประชันดนตรี"เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบบริเวณเมื่อพ่อบ้านฟงจูแจ้งกติกาในด่านรองสุดท้ายจบ"ข้ามาเล่น ๆ มิได้จริงจัง ไฉนเลยถึงบังเอิญเช่นนี้"เสียนต้วนอี้ที่วันนี้มาในนามหย่งอวี้ฉางถึงกับพึมพำกับตนเองในโชคชะตาที่แสนราบรื่นในวันนี้ใครจะไปคิดว่าการปลอมเป็นคณะดนตรีจะทำให้เขาไม่ต้องลงมือทำอะไรจนได้ผ่านเข้ามาถึงรอบรองสุดท้ายง่ายดายเช่นนี้"นี่คือพิณที่คุณชายทั้งสามต้องใช้แสดงความสามารถในด่านนี้ หากคุณชายท่านใดบรรเลงเพลงแล้วได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมมากที่สุดผู้นั้นจะได้เข้าสู่รอบสุดท้าย เชิญทุกท่านจับไม้เพื่อเลือกลำดับการแสดง"เสียนต้วนอี้ภาวนาในใจขอให้ผู้ชนะในด่านนี้ไม่ใช่ตน ทว่าหากจะแสดงฝีมือแบบเล่น ๆ เกรงว่าจะถูกจับผิดนี่สิ เป็นถึงหัวหน้าคณะ แต่กลับไม่มีฝีมือเกี่ยวกับดนตรีได้เยี่ยงไร"ข้าได้ที่หนึ่ง"จู้เมิ่งจ๋าน หลานชายของจู้เจิงคือหนึ่งในสองคนที่เข้ารอบมาถึงด่านนี้ยกไม้ที่แต้มลำดับหนึ่งให้ทุกคนในงานดู

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 19

    "ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคุณชายจากหนแห่งต่าง ๆ มาเข้าร่วมงานมากถึงเพียงนี้"ซ่างฮ้วนเอ่ยกับแม่ทัพน้อยที่นั่งร่ำสุราอยู่ข้าง ๆแม้เดิมทีที่นั่งของเฉินเจียนหลางถูกจัดวางไว้ใกล้กับที่นั่งของมู่ตงหยวนที่ที่เป็นของผู้ที่ชนะการแข่งขันในครั้งนี้ ทว่าเฉินเจียนหลางกลับปฎิเสธด้วยอ้างว่าตนคุยไม่เก่งเกรงว่าจะทำให้แขกคนสำคัญคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ตรงนั้นอึดอัดใจจึงขอปลีกตัวออกมานั่งที่ลานกว้างด้านซ้ายของเวทีการแสดงดนตรีกับรองแม่ทัพซ่างฮ้วนแทน"เจ้าคิดอย่างไรกับสิ่งที่เห็น"เฉินเจียนหลางถามเสียงเรียบพลางมองการแสดงดนตรีตรงหน้าไปอย่างไม่ได้ใส่ใจ"ดนตรีไพเราะ นางรำงดงามยิ่ง"หากแต่สิ่งที่ซ่างฮ้วนตอบสหายสนิทกลับไม่ใช่สิ่งที่เขาถาม จากนั้นเสียงดังเหมือนถูกมดกัดของซ่างฮ้วนจึงดังขึ้น"เจ้าตีข้าทำไม"มือแกร่งลูบเอวหนาที่ถูกประทุษร้ายราวกับเจ็บปวดยิ่ง ก่อนจะมองเคืองผู้ที่ทำร้ายตนเบา ๆ"ข้าหมายถึงเจ้าคิดเช่นไรกับการจัดงานในวันนี้"เมื่อเฉินเจียนหลางอธิบายรายละเอียดแบบเจาะลึก คนที่มัวแต่ชมการแสดงบนเวทีจึงทำปากขมุบขมิบด่าทอไม่ออกเสียงแล้วเอ่ยตอบ"ดูจากการแต่งกายของบางคนน่าจะไม่ใช่คนในเมืองเทียนติ่ง เจ้าดูนั่น คุณชายรูป

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 18

    "แม้จะไม่คล่องมือ หากแต่นำมาจับอีกครั้งย่อมไม่เป็นปัญหา""ดี! ข้าจะให้ต้วนอี้ปลอมเป็นหัวหน้าคณะดนตรี นำนักแสดงและนางรำเข้าไปร่วมงานในครั้งนี้""เป็นเพียงหัวหน้าคณะดนตรีจะได้ไม่เตะตาผู้อื่น"กู่เหนียงพนักหน้าให้กับความฉลาดที่เยว่อันหนิงวิเคราะห์ความคิดตนราวมานั่งอยู่ในใจ"แต่จะดีหรือท่านประมุขถ้าให้ผู้อื่นเห็นหน้าตาอาหนิงของข้า โอ๊ย!"เสียนต้วนอี้ถึงกับตัวงอเมื่อถูกศอกแหลม ๆ ของเยว่อันหนิงกระทุ้งเข้าลิ้นปี้ให้"ข้าคือข้า มิใช่ของของผู้ใด"เสียงเรียบนิ่งเอ่ยบอก หากแต่แววตาของนางกลับสามารถทำให้บุรุษตัวสูงใหญ่ใจวูบโหวงได้"ข้าพูดผิดไป ข้าพูดผิดไป"เสียนต้วนอี้ยกมือขึ้นตบมุมปากตนที่ปากเสียสองครั้ง ก่อนจะทำท่าเม้มปากเป็นเส้นตรงบอกคนที่ยังใช้สายตาอาฆาตให้รู้ว่าเขาจะไม่ปริปากสุนัขนี้ขัดการหารือครั้งนี้อีก"ที่จริงข้าเองก็กังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เจ้าล่ะ จะยอมเสี่ยงหรือไม่"แม้ตัวตนในฐานะนักฆ่าบุปผาเบญจมาศของเยว่อันหนิงยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ แต่หากประมาทไปนิดเดียวก็อาจจะทำให้ความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไป"ชีวิตข้ายังเหลืออะไรให้กลัวอีกเจ้าคะ"น้ำเสียงเจ็บแค้นปะปนออกมาอยู่หลายส่วนแค้นโชคชะตา

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 17

    "คำนับประมุขกู่เหนียง ท่านเรียกข้าเข้าพบมีเรื่องอันใดเจ้าคะ"ทันทีที่เยว่อันหนิงเดินเข้ามายังที่พักของประมุขกู่เหนียง นางก็ไม่รีรอเร่งถามถึงเหตุผลที่ถูกตามตัวในครั้งนี้ โดยข้างกายมีเสียนต้วนอี้ยืนอยู่เป็นเพื่อน"นั่งก่อนเถิด ข้ามีเรื่องหารือกับพวกเจ้า"คำว่า 'พวกเจ้า' ทำให้เยว่อันหนิงรู้ชะตาต่อจากนี้คงต้องมีตัววุ่นวายอย่างเสียนต้วนอี้ตามติดนางเป็นแน่"นี่คือ?"ผู้ที่แย่งถามคือบุรุษรูปงามเพียงคนเดียวในห้องนี้เยว่อันหนิงมองเทียบเชิญสีแดงมีตัวอักษร 'มู่' ประทับตราโดดเด่นอยู่จึงหยิบขึ้นมาดู"หน่วยข่าวที่แฝงตัวอยู่ในเมืองเทียนติ่งส่งมา"เสียนต้วนอี้พยักหน้าเล็กน้อยพร้อมชะเง้อคอมองตัวอักษรที่เขียนอยู่ในเทียบเชิญในมือเยว่อันหนิง"ท่านประมุขต้องการให้พวกข้าปะปนเข้าไปสังหารผู้ใด"ในเมื่อไม่มีสานส์นจากปรโลก เยว่อันหนิจึงไม่เข้าใจเจตนารมย์ของประมุขกู่เหนียงในครั้งนี้"เจ้าก็เห็นแล้วมิใช่หรือ สกุลมู่ต้องการหาคู่ครองให้กับบุตรีเขา"ก็ใช่ว่าไม่เห็น ในเมื่อเนื้อในเทียบเชิญเขียนเอาไว้ว่า'สกุลมู่ขอเชิญบุรุษที่ผ่านพิธีสวมกวานแล้วทุกท่านเข้าคัดเลือกเป็นคู่ครองคุณหนูมู่อานจิ่วบุตรีเพียงคนเดียวของสกุลมู

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status