“กรี๊ดดดด...” เพล้งๆๆๆ... เสียงกรีดร้องด้วยความฉุนเฉียวและเสียงข้าวของแตกกระจายอยู่ในห้องของเมริสาทำให้คุณมาลินีมองสบตากับหลุยส์อย่างหนักใจ แต่ไม่เข้าไปห้ามปรามหรือขัดขวางอารมณ์ของเมริสาในตอนนี้เพราะผู้เป็นแม่รู้ดีว่าต้องให้เวลาลูกสาวของตนได้อยู่กับตัวเองและซึมซับความจริงให้เต็มที่ และเชื่อว่าเมริสาไม่มีทางที่จะทำร้ายตัวเองอย่างแน่นอน...
“คิดว่าตอนนี้เราไม่ต้องปิดบังอะไรแล้ว... แต่ฉันห่วงแค่หลานของฉันเท่านั้นเอง...” คุณมาลินีกล่าวเสียงเครียดมองประตูห้องที่ปิดสนิทของบุตรสาวนิ่ง
“ผมคิดว่าคุณเมรี่คงไม่คิดสั้นทำร้ายตัวเองหรอกครับ”
“ฉันก็เชื่อว่าเมรี่ไม่คิดทำแบบนั้นแน่นอน แต่ฉันก็อดห่วงไม่ได้ ว่าแต่วายุล่ะเป็นไงบ้าง เขาไปไหน”
“พอรู้ว่าตัวเองไม่ได้ตำแหน่งประธานก็โวยวายเผยธาตุแท้ออกมาครับ ตอนนี้คงไปเมาหัวราน้ำที่ไหนสักแห่ง แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องที่เขานอกใจคุณเมรี่นั้นคุณเมรี่รู้เรื่องแล้ว...” หลุยส์ตอบผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยตามแบบของเขา
“หึ เขาก็ยังคงไม่รู้ตัวสินะว่าคนของเรารู้ธาตุแท้ของตัวเองแล้ว อยากรู้เหมือนกันว่ากลับมาเขาจะแก้ตัวกับเมรี่ว่ายังไง เมรี่เงียบแล้วฉันจะเข้าไปดูเมรี่หน่อยนะ...”
คุณมาลินีถอนใจก่อนจะเดินไปเคาะประตูห้องของเมริสาเบาๆ ก่อนจะเปิดเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงขานรับเบาๆ จากคนข้างใน
หลุยส์ยืนมองผู้เป็นนายของตนด้วยประกายตาที่ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่สักครู่เขาก็โทรศัพท์รายงานความเป็นไปในบ้านให้แมท ธิวได้รับรู้...
“ไอ้แก่นั่นมันจะงกไปถึงไหนวะ ขนาดว่ากูกำลังจะมีหลานให้มันอุ้ม ลูกสาวมันก็เป็นเมียกู แต่มันยังไม่ไว้ใจให้กูทำงานในตำแหน่งที่สูงกว่านี้ กูอยากจะฆ่ามึงนักไอ้มาร์ค ไอ้เศรษฐีเฮงซวย...”
วายุกัดฟันพูดกับตนเองเบาๆ ด้วยความคับแค้นใจในตัวพ่อตาพลางกระดกเหล้าเข้าปากแล้ววางแก้วลงกับโต๊ะเสียงดังจนคนโต๊ะข้างๆ หันมามอง แต่เขาไม่ใส่ใจ ตอนนี้ความเจ็บใจมันอัดแน่นไปหมดจนต้องมานั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวเพื่อระงับความเดือดพล่านในใจ แต่มันไม่มีทีท่าจะลดลงเลย มันยิ่งกลับเพิ่มพูนทวีความรุนแรงขึ้นในใจของเขามากขึ้นๆ
“น้อง เอาเหล้ามาอีกสิ” ชายหนุ่มตะโกนร้องเรียกพนักงานสักครู่สิ่งที่เขาต้องการก็ถูกนำมาวางตรงหน้า และวายุก็นั่งดื่มอยู่คนเดียวเพื่อระงับสติอารมณ์พลางคิดแผนต่างๆ ในใจเพื่อจะหลอกใช้ให้เมริสาไปต่อรองกับบิดาของเธออีกครั้ง และคราวนี้เขาจะไม่ให้พลาดและเขาจะต้องได้ในสิ่งที่ต้องการแม้จะต้องใช้ลูกในท้องของเมริสาเป็นเครื่องมือก็ตาม เขาจะต้องกลับไปเพื่อแสดงละครดราม่าอีกครั้ง คิดได้ดังนั้นวายุก็ลุกขึ้นจ่ายเงินก่อนจะเดินออกมานอกร้านอาหารกึ่งผับชื่อดัง
ในขณะที่วายุกำลังจะเดินกลับนั้นเองสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นร่างบางคุ้นตาของใครคนหนึ่งที่ทำให้เขาตะลึงมองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“พราว...” เสียงเรียกของเขาทำให้หญิงสาวที่ยิ้มหัวมากับเพื่อนอีกสองคนชะงักก่อนจะหันมามองเขาด้วยแววตาเรียบเฉยก่อนจะยิ้มให้บางๆ
“สวัสดีค่ะพี่วา...” พราวแสงแขหยุดทักทายเขาเล็กน้อยตามมารยาท วายุเดินมาหาเธอเหมือนต้องมนต์เพราะในค่ำคืนนี้พราวแสงแขนั้นดูงดงามจรัสแสงอย่างไม่น่าเชื่อ ร่างเล็กบอบบางอยู่ในชุดราตรีสั้นเหนือเข่าเนื้อผ้าบางพลิ้วนั้นแนบไปกับเรือนร่างอรชรที่เต็มตึงในส่วนที่ถูกที่ควรดูเย้ายวนจนเขาใจสั่นเสื้อแบบเปิดไหล่มนนั้นโชว์นวลเนื้อเกลี้ยงเกลาลออตาน่าสัมผัส เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเจ้าหล่อนจะซ่อนรูปได้ปานนี้...
“พราว เอ่อ มาทำอะไรจ๊ะ...”
“ไปงานแต่งงานเพื่อนมาค่ะ พอดีว่าพราวแวะสังสรรค์กับเพื่อนเก่าสมัยเรียน แก๊งอ้วนผอม น่ะค่ะ” หญิงสาวตอบเรียบๆ เช่นเคยและกำลังจะเดินผละไปเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนในแก๊งอ้วนผอมร้องเรียก
“เดี๋ยวสิพราว...”
“พี่วามีอะไรคะ”
“เอ่อ พี่อยากเจอพราวอีกได้ไหม...” คำถามของเขาทำให้หญิงสาวชะงักแล้วหันมามองเขาด้วยแววตาว่างเปล่า
“พราวไม่ว่างหรอกค่ะ และพราวหวังว่าเราไม่ต้องเจอกันอีกจะดีกว่า ขอตัวนะคะ”
“แต่พี่อยากเจอพราวอีก พี่อยากจะขอโทษ พี่ยังรักพราวเหมือนเดิมนะ...” พราวแสงเพียงแต่ยิ้มบางๆ ให้เขา
“สำหรับเรามันเป็นอดีตไปแล้วค่ะ อีกอย่างพราวก็ไม่อยากได้ชื่อว่าแอบตีท้ายครัวใคร ขอให้โชคดีนะคะ พราวขอตัวก่อน...”
คราวนี้พราวแสงแขรีบเดินไปหาเพื่อนๆ ที่เดินออกมายืนเท้าสะเอวรออย่างเร็วไว ไม่ใช่ว่ากลัวเพื่อนจะรอ แต่กลัวว่าเพื่อนๆ ของเธอจะมารุมวายุต่างหาก
เมื่อพราวแสงแขเดินจากไปโดยไม่สนใจหรือมีแววอาลัยอาวรณ์กับเขาเลยแม้แต่น้อยทำให้วายุรู้สึกเสียความมั่นใจไปเล็กน้อย เป็นได้อย่างไรที่พราวแสงแขไม่แคร์เขาแล้ว เธอรักเขาจะเป็นจะตายและยังร้องไห้เสียมากมายในวันแต่งงานของเขา
นี่เจ้าหล่อนเลิกรักเขาได้แล้วอย่างนั้นหรือ ไม่มีทางเป็นไปได้.. วายุคิดอย่างมั่นใจในตนเองว่าเสน่ห์เหลือล้น และสบประมาทหัวใจของหญิงสาวผู้ที่เขาเคยทิ้งขว้างอย่างไม่รู้จักละอายใจ และความอยากเอาชนะ ความเสียดายก็จู่โจมเข้ามาในใจ เมื่อเขาเห็นความงดงามผุดผาดของเธอซึ่งในตอนนี้เมริสาไม่มีให้เขาเห็นวายุก็ยิ่งนึกเสียดายที่หลงปล่อยให้เนื้อหวานๆ หลุดมือไปโดยไม่ทันได้เชยชิม คนมักมากและเห็นแก่ตัวยิ้มกริ่มกับตนเองและเริ่มวางแผนร้ายกาจในใจทันที คราวนี้เขาอาจจะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวก็ได้
ถ่านไฟเก่าจะยังไงมันก็ต้องมีเชื้อบ้างล่ะ...
ตอนที่6.“ไอ้หน้าตัวเมียนั่นมันคุยอะไรกับเธอน่ะพราว” ชื่นชบา หรือ ชบาแก้ว ฉายาของสาวอวบระยะสุดท้ายถามอย่างไม่พอใจที่เห็นวายุมาวอแวกับเพื่อนรักของตน“ฉันว่า นายนั่นคิดจะกลับมาหายายพราวชัวร์เลย คงนึกเสียดายล่ะสิ คืนนี้เห็นยายพราวของเราสวย” นิ่ม เพื่อนสาวตัวผอมสูงโปร่งที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้นบ้าง“เธออย่าไปหลงคารมเขาอีกนะพราว เธอก็รู้แล้วนี่นาว่าเขาเป็นคนยังไง”ชื่นชบาพูดอย่างเป็นห่วงกลัวว่าพราวแสงแขจะหลงคารมของวายุ เพราะตอนนี้พวกเธอทั้งสามต่างรู้ซึ้งถึงสันดานที่แท้จริงของวายุแล้ว โดยเฉพาะพราวแสงแขซึ่งบัดนี้รู้ดีเลยทีเดียวว่าวายุนั้นร้ายกาจและเห็นเห็นแก่ตัวเพียงใด“ฉันไม่มีความรักหรือหลงใหลในตัวเขาอีกแล้วล่ะฉันก็คนนะเจ็บแล้วก็จำ” พราวแสงแขยิ้มให้เพื่อนๆ“ดีแล้วเพื่อนรัก ฉันดีใจนะที่เธอคิดได้แบบนี้ แต่คิดไปอีกทีก็นึกสมน้ำหน้ายายเมรี่เนอะที่เห็นก้อนกรวดเป็นเพชรไปเสียได้น่าเสียดาย สวย รวย แต่โง่” นิ่มเบ้ปากอย่างไม่ชอบใจและนึกเคืองเมริสาอยู่“เธอก็ว่าแรงไปยายนิ่ม ยังไงเมรี่เขาก็เคยเป็นเพื่อนเรา”“นี่ยายชบาแก้ว เธอคิดเหรอว่ายายนั่นเขาคิดว่าเราเป็นเพื่อนเขาจริงๆ จะบอกอะไรให้นะ เหตุผลเดียวที่เขามา
ตอนที่7.แล้วไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นแมทธิวก็ได้มายืนอยู่บนแผ่นดินไทยและกำลังเฝ้ามองน้องสาวต่างมารดาซึ่งนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงพยาบาลสีฟ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังด้วยความเวทนาในชะตาชีวิตของน้องสาวที่ต้องมาเจอเรื่องราวเลวร้ายเช่นนี้ ดวงตาคมทอดมองกลางลำตัวของน้องสาวซึ่งไร้สิ่งมีชีวิตน้อยๆ แล้วนั้นด้วยความเจ็บยอกในอก กรามแกร่งบดเขาหากันอีกครั้งด้วยความแค้นที่อัดแน่นอยู่ภายในใจ“แล้วตอนนี้ไอ้วายุมันอยู่ที่ไหน” ชายหนุ่มถามมือขวาของตนด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม “อยู่ที่บ้านของมันครับที่ติดกับบ้านผู้หญิงคนนั้นครับ บ้านแฟนเก่า...” หลุยส์ตอบเรียบๆ“ตั้งแต่เกิดเรื่องมันไม่เคยโผล่มาเลยใช่มั้ย”“ครับ...”“จิตใจมันทำด้วยอะไรนะ... เห็นทีฉันต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แล้วตอนนี้คุณแม่กับคุณพ่ออยู่ไหน”“อยู่ที่บ้านครับ คุณท่านพยายามจัดการเรื่องหย่าของคุณหนูแต่ไอ้วายุมันไม่ยอมหย่า” คำตอบที่ได้จากหลุยส์นั้นยิ่งทำให้แมทธิวรู้สึกเคียดแค้นชิงชังผู้เป็นน้องเขย ซึ่งเขารู้ดีว่าเหตุใดวายุจึงไม่ยอมหย่าจากเมริสา“ฉันคิดอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เอาเป็นว่าฉันฝากนายดูแลเมรี่ด้วยหากเมรี่ฟื้นแล้วให้โทร. บอกฉันทัน
ตอนที่8.“เขาไม่ยอมหย่า หากเราไม่จ่ายค่าเซ็นใบหย่าและขู่ว่าจะฟ้องเราให้เสื่อมเสียแม่ล่ะไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย...” คุณมาลินีกล่าวเสียงแผ่ว“หึหึ... คุณแม่ครับคุณแม่ไม่ต้องห่วงหรอกครับผมจะจัดการเอง รับรองได้ว่ามันจะไม่ได้เงินจากเราแม้แต่แดงเดียวและผมจะไม่ให้มันมีอะไรมาต่อรองกับเราได้...”ชายหนุ่มกล่าวเสียงเข้มซึ่งคุณมาร์คนั้นรู้ดีว่าบุตรชายของตนนั้นหากจะเหี้ยมแล้วไม่มีใครเหี้ยมเกรียมเท่า แต่หากเขาอ่อนโยนแล้วล่ะก็ไม่มีใครจะอ่อนโยนได้เท่าแมทธิวอีกแล้ว และแมทธิวก็รักน้องสาวของเขามากเพราะเขาเป็นลูกคนเดียวมานาน เมื่อตนแต่งงานกับคุณมาลินีและมีเมริสา แมทธิวนั้นดูตื่นเต้นและเห่อน้องสาวมาก เขาเฝ้าติดตามดูแลไม่ห่างเลยทีเดียวจนเมื่อเมริสาเริ่มโตเป็นสาวแมทธิวจึงปล่อยให้น้องสาวได้มีโอกาสคิดเองดำเนินชีวิตเองในแบบที่ต้องการแล้วก็เฝ้ามองน้องสาวของตนเงียบๆ ซึ่งเมริสาเองก็รู้ดีว่าพี่ชายนั้นรักและตามใจตนมาตลอดจึงมีนิสัยเอาแต่ใจและดื้อรั้นจนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เมริสาต้องมาเจอกับคนอย่างวายุเพราะความรั้นจะเอาชนะของเมริสานั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่บุตรสาวของตนต้องมาถูกคนที่ได้ชื่อว่าสามีทำร้ายจนต้
ตอนที่9.“คุณพราวแสงแขคะ เชิญด้านนี้ค่ะ...” เสียงพนักงานสาวทำให้คนที่ก้มอ่านหนังสือรอลุกขึ้นเดินตามพนักงานต้อนรับไปยังลิฟต์อีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นลิฟต์ส่วนตัวที่ใช้ได้เพียงผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น“เมื่อลิฟต์เปิดเชิญเข้าไปได้เลยนะคะเพราะลิฟต์จะเปิดออกที่ชั้นบนสุดหน้าห้องท่านประธานพอดี เชิญค่ะ”เมื่อพูดจบพนักงานสาวคนนั้นก็เดินจากไปลิฟต์ก็เปิดออกทันทีที่เธอเดินมาถึง พราวแสงแขมองลิฟต์ที่เปิดกว้างอย่างชั่งใจ ทั้งมือและเท้าหญิงสาวเย็นเฉียบน้ำลายในลำคอเหนียวหนืดจนกลืนไม่ลง...“เอาล่ะพราวแสงแข... สู้ๆ” หญิงสาวบอกตัวเองขณะลิฟต์เลื่อนขึ้นสู่ชั้นบนสุด เมื่อลิฟต์เปิดออกอีกครั้งหญิงสาวก็เดินออกมาและหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าห้องของท่านประธานใหญ่แห่งโรดิเกรซ คอปอเรชั่น ไทยแลนด์“เชิญเข้าไปได้เลยค่ะ...” เสียงเลขาสาวใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องกระจกหรูหราหน้าห้องท่านประธานบอกกับเธออีกครั้งเมื่อเห็นว่าเธอยังคงยืนนิ่งอยู่...“ค่ะ... ขอบคุณนะคะ...” พราวแสงแขหันไปยิ้มเซียวๆ ให้เลขาสาวแล้วเอื้อมมือไปเปิดประตูออกช้าๆ ในขณะที่สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกความมั่นใจของตน...หลังจากที่ประตูปิดลงพราวแสงแขรู้สึกชาไปทั้งตัวจ
ตอนที่10.“อ๊าย คนบ้า พูดกับสุภาพสตรีแบบนี้ได้ยังไง” พราวแสงแขกรีดเสียงใส่เขาอย่างเหลืออด ความยับยั้งชั่งใจ ความสุขุมเรียบร้อยที่เคยมีเคยเป็นมันหลุดลอยไปไหนกัน ตอนนี้เธอเหมือนแม่สาวปากกล้าใจร้อนร้ายกาจไปโดยปริยาย...“หึ... มากกว่านี้ก็ยังทำได้เลยกับผู้หญิงอย่างเธอ”“ผู้หญิงอย่างฉันทำไม... ถ้าคิดว่าผู้หญิงอย่างฉันมันแย่นักก็ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้สิ ไอ้บ้า”“แหม ไม่ยักรู้ว่าฉันเจอแม่ค้าปากตลาดมากกว่าคนที่เป็นครูเสียอีก”“เรื่องของฉัน ฉันจะเป็นอะไรก็เรื่องของฉัน ตอนนี้ไม่ได้เป็นครูแล้วด่าคนได้ไม่อายปาก ปล่อยนะ...” พราวแสงแขหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและเริ่มกลัวเมื่อเห็นแววตาของเขา แล้วนี่เขาจะพาเธอไปไหนกัน...“นี่อย่าดิ้นได้มั้ย น่ารำคาญ ““ถ้ารำคาญก็ปล่อยสิ แล้วจะพาฉันไปไหน...”หญิงสาวเสียงเขียวใส่เขาทั้งพยายามขืนกายบางออกให้ห่างจากกายแกร่งของเขา... กลิ่นกายหอมสะอาดของบุรุษหล่อเริดตรงหน้ามันทำให้ท้องไส้สาวปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูกเธอไม่อยากอยู่ใกล้เขาเลย “นึกว่าอยากจะแตะรึไง ผู้หญิงสวยๆ อึ๋มๆ กว่าเธอมานอนแบให้ฉันเยอะแยะ เด็กกะโปโลอย่างเธอฉันไม่สนใจหรอกยายบ๊องเอ๊ย ที่จับไว้เนี่ยกลัวเธอหนีมากกว่า..
ตอนที่11.เมื่อหมดความอดทนพราวแสงแขก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวและเปิดประตูจะลงไปจากรถแต่ในขณะที่เธอกำลังจะวาดขาก้าวลงไปมือแข็งแรงก็เอื้อมมาดึงประตูปิดทันทีและการที่เขาเอื้อมมือมานั้นทำให้แขนแกร่งของแมทธิวนั้นเฉียวผ่านทรวงสาวอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดสวยและในช่วงที่เขาเอี้ยวตัวกลับแล้วหันหน้ามามองคนตัวเล็กที่นั่งตัวเกร็งนั่งอยู่กับที่ด้วยความตระหนกนั้นปลายจมูกโด่งของเขาก็ปัดถูกปลายจมูกรั้นของเธอเบาๆ ซึ่งในจังหวะนี้เองทำให้ทั้งคู่ประสานสายตากันอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง...เหมือนมีกระแสไฟฟ้านับหมื่นๆ โวลต์แล่นพล่านไปทั้งร่าง พราวแสงแขนั่งนิ่งกลั้นหายใจจนรู้สึกว่าแทบขาดอากาศหายใจจึงค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ และแผ่วเบาที่สุดทั้งหัวใจก็เต้นกระหน่ำดังกึกก้องจนกลัวว่าอีกคนจะได้ยินเสียงหัวใจเธอเต้น ซึ่งความรู้สึกที่พราวแสงแขมีนั้นไม่ได้แตกต่างจากแมทธิวเลยแม้แต่น้อย พราวแสงแขรู้สึกว่าลำคอและริมฝีปากของตนนั้นแห้งผากจนต้องแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของตนช้าๆ ด้วยความรู้สึกหวั่นไหวใจสั่นหวิวๆ เหมือนคนจะเป็นลมเสียอย่างนั้นแต่เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอนั้นมันทำให้คนตัวโตหน้าดุหมดความอดทนอดกลั้นกั
ตอนที่12.“พราวจะต้องไปทำงานไกลขนาดนั้นเลยหรือลูก...” คุณแขไขถามบุตรสาวอย่างใจหายเมื่อรู้ว่างานใหม่ของลูกสาวนั้นต้องไปอยู่ต่างจังหวัดร่วมเดือนหรืออาจจะหลายเดือน...“ค่ะ เจ้านายพราวเขาต้องการคนดูแลลูกสาวเขาอย่างใกล้ชิดค่ะแม่ อีกอย่างค่าจ้างแพง พราวไม่ต้องเสียค่าที่พัก แถมยังได้ไปอยู่รีสอร์ตสวยๆ หรูๆ เงินเดือนก็เหลือเต็มๆ คิดดูสิคะคุ้มสุดๆ เลย”หญิงสาวยิ้มให้มารดาสดใสเริงรื่นกลบเกลื่อนความรู้สึกภายใน แต่เธอก็ไม่ได้โกหกนี่นาเพียงแต่ไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดว่านายจ้างเธอคือใคร และคิดว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรหากจะพูดถึงเหตุผลที่แท้จริงให้มารดารับรู้เพราะมันจะทำให้มารดาของเธอพลอยเป็นทุกข์ไปด้วยมากกว่า “เอาเถอะ อย่างน้อยๆ บรรยากาศดีๆ ลูกแม่ก็อาจจะเจออะไรดีๆ บ้าง เช่นว่า ได้หนุ่มเหนือนิสัยดีมาเป็นลูกเขยแม่” คุณแขไขพูดติดตลกซึ่งทำให้พราวแสงแขได้ยิ้มไปด้วยกับมุกของมารดา“โธ่.. แม่ขา พราวจะมีโอกาสได้เจอใครหรือเปล่าไปดูแลคนป่วยนะคะ คงไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอกค่ะ ยังไงพราวก็มีโอกาสเป็นสาวแก่ขึ้นคานเกาะแม่ไปจนตายล่ะค่ะ”“พูดดีไป ไม่ใช่พอไปถึงล่ะหนุ่มๆ เพียบจนลืมแม่ล่ะ” นางแขไขกล่าวยิ้มๆ ล้อบุตรสาวอย่างเอ
ตอนที่13.พราวแสงแขยอมรับว่าตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เธอก็ไม่ได้คิดว่าตนจะต้องมารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นนี้ แต่ที่ยอมรับงานนี้ก็เพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนและเพื่อมารดาของเธอเองหาได้เกรงกลัวผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ นี้ไม่...หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เตรียมตัวเตรียมใจเผชิญกับสิ่งที่เธอไม่อาจจะรู้ได้ว่ามีอะไรรออยู่ข้างหน้า แต่สิ่งที่เธอจะต้องทำคือเข้มแข็งและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ อุบัติเหตุ ระหว่างเมริสากับวายุ พราวแสงแขครุ่นคิดเรื่องต่างๆ ในใจโดยไม่สนใจคนที่นั่งมาข้างๆ แม้แต่น้อย... ในขณะเดียวกันแมทธิวเองก็ลอบพิจารณาคนข้างๆ เขาเงียบๆ ใบหน้าเรียวนวลใสไร้เครื่องสำอางที่ประดับด้วยเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มจะเรียกว่าสวยก็ไม่ใช่ จะว่าไม่สวยก็ไม่เชิงแต่ดวงตากลมโตซึ่งประดับด้วยขนตาดกหนายาวงอนเช้งราวตุ๊กตาของเธอนั้นโดดเด่นกว่าส่วนอื่นของใบหน้าทำให้ใบหน้าแสนธรรมดาของเธอดูน่ามองอย่างที่เขาไม่อาจจะปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้ หากเธอจะยิ้มแย้มแจ่มใสดวงตาของเธอคงจะเป็นประกายน่ามองกว่านี้เป็นไหนๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นคือความสงบนิ่งดูเย็นชาราวแม่ชีที่อยู
ตอนที่48.เมริสาเข้ามาประคองมารดาไปยังห้องอาหารทันทีโดยมีหลุยส์เดินตามห่างๆ พราวแสงแขมองตามพวกเขาไปด้วยความรู้สึกอึดอัด และน้อยใจที่คนที่แสดงความเป็นเจ้าของเธอมาตลอดสัปดาห์ไม่มีท่าทีสนใจเธอเลยแม้แต่น้อย พราวแสงแขนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมด้วยความรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของตนที่ต่างกันสุดขั้วที่ทำให้เธอเจ็บแปลบๆ ในอก“จะนั่งอยู่ตรงนี้อีกนานมั้ย ให้ผู้ใหญ่รอมันเสียมารยาทนะ” เสียงเข้มของแมทธิวดังขึ้นแล้วฉุดเธอขึ้นมาก่อนจะลากเธอไปยังห้องรับประทานอาหารโดยไม่พูดไม่จา“ปล่อยแขนฉันเถอะคะ ไม่ต้องมาจับก็ได้” พราวแสงแขบอกเขาเมื่อใกล้จะถึงห้องอาหาร แต่เขาไม่นำพาซ้ำยังกระชับข้อมือบางแน่นขึ้นอีกหน้าตาก็บึ้งตึงจนเธอไม่กล้าพูดอะไรจนไปถึงโต๊ะอาหารเขาก็เลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งข้างๆ เขา พราวแสงแขรีบปรับสีหน้าแล้วรับประทานอาหารอย่างแกนๆ เธอทำได้เพียงเป็นผู้ฟังคนที่ดีเมื่อคนในครอบครัวของเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสและมีความสุข ยกเว้นเธอ“น้องพราวเป็นอะไรไป ทำไมดูซึมๆ
ตอนที่47.“พี่แมท อื้ม เอาออกไปก่อน พราวโกรธอยู่นะ” หญิงสาวไม่วายแง่งอนใส่เขาที่จงใจครอบครองเธอเกินกว่าที่สัญญากันไว้ แล้วนี่จะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะในเมื่อเธอเป็นของเขาแล้วทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย ทั้งร่างกายและหัวใจ“ถ้าเมียโกรธ ผัวก็ยิ่งต้องง้อสิครับ แบบนี้ เราไปคุยกันต่อที่ห้องนอนดีกว่า...” พูดแล้วเขาก็โอบสะโพกกลมกลึงให้แนบชิดแก่นกายแกร่งแล้วเดินกลับเข้าห้องนอนของตนหน้าตาเฉย พราวแสงแขโอบเขาไว้แน่นนั้นหน้าร้อนผ่าวแดงก่ำไปทั้งตัว เมื่อนึกถึงสภาพของเขากับเธอ“ปละ ปล่อยนะ คนบ้าหน้าไม่อาย”“ที่นี่มีเพียงเราสองคนครับที่รัก เราจะทำอะไรกันตอนไหนยังไงรับรองไม่มีใครเห็นแน่นอน และตอนนี้ เราอย่าพูดเรื่องอื่นเลย มาคุยเรื่องของเราดีกว่า...” เขาพูดจบก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไรต่อนอกจากส่งเสียงครางอย่างบ้าคลั่งไปกับบทรักร้อนแรงของเขาที่เฝ้าปรนเปรอเธออย่างไม่ยอมให้เธอตั้งตัวติด...เธอจะต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่องหลังจากบทรักเร่าร้อนครั้งนี้จบลง... พราวแสงแขพยายามบอกตัวเองเช่
ตอนที่46.“พี่ว่าพราวเลิกเดินไปเดินมาเสียที พี่เหนื่อยแล้วนะ”เขาพูดยิ้มๆ กับเธอที่นั่งคร่อมตักกว้างเผชิญหน้ากับเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ ท่วงท่าสนิทสนมเช่นนี้ทำให้เลือดในสาวร้อนฉ่าได้ไม่ยาก ซึ่งไม่ต่างจากแมทธิวที่ก็พยายามข่มกลั้นความต้องการของตนเองอย่างสุดความสามารถ“พี่แมทก็ไม่ต้องตามสิคะ พราวไม่ได้ให้ตามเสียหน่อย” หญิงสาวก้มหน้าตอบเขาอ้อมแอ้ม “ไม่ตามเมียจะให้ไปตามใครล่ะครับ ก็เมียพี่แมทน่ากินขนาดนี้”ไม่พูดเปล่ามือหนาก็โน้มดวงหน้าแดงก่ำของเธอลงมาใกล้แล้วปัดริมฝีปากหยักกับเรียวปากอิ่มของเธอเบาๆ เชิงเย้าหยอกแต่ทำให้ใจสาวเต้นกระหน่ำ“พี่แมทบ้า...” ไม่รู้จะหาคำไหนมาต่อว่าคนผิดสัญญาพราวแสงแขจึงเมินหน้าหนีสายตาพราวพรายของเขา ไม่รู้ว่าผู้ชายมาดเข้มจอมหาเรื่องชอบพูดจาถากถางเธอคนนั้นหายไปไหนแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงชายหนุ่มผู้เร่าร้อนและเจ้าเล่ห์เอาเปรียบที่สุดเมื่อคืนกว่าเขาจะให้เธอพักผ่อนได้ก็เกือบรุ่งสางยิ่งคิดใบหน้าสาวก็ยิ่งแดงก่ำ“บ้าก็บ้ารักเมียคนเดียวนะครับ เอาเป็นว่าพี่จะทำโทษคนที่กล่าวหาพี่เสียเลยดีกว่า คราวต่อไปจะได้ไม่ว่าผัว”“อะ อะไรกันคะ อุ้ย พี่แมท อย่าค่ะ...”เสียงหวานอุทานเบาๆ เมื่อเ
ตอนที่45.“แต่เรา เอ่อ เราสัญญากันว่ามันจะเป็นเพียงในนาม พี่แมทอย่าลืมสิคะ” หญิงสาวตาโตดันแผงอกแกร่งไว้พยายามเตือนสติชายหนุ่มว่าระหว่างเธอกับเขานั้นได้มาเกี่ยวข้องกันเพราะอะไร“สัญญานั้นพี่เป็นคนเขียนขึ้นมา และพี่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงข้อสัญญาได้ทุกเมื่อ ดังนั้น...”“ไม่นะ คนขี้โกง ปล่อยพราวเลยนะ ปล่อย อื้อออ...”เมื่อรู้ว่าจะเสียทีเขาแล้วพราวแสงแขก็หน้าตื่นทั้งยังพยายามผลักร่างใหญ่ออกไปแต่สุดท้ายแล้วเสียงห้ามปรามก็หายเข้าไปในลำคอเมื่อริมฝีปากหยักร้อนแรงของเขาทาบลงมาอย่างรวดเร็วเรียวลิ้นร้อนบดจูบอย่างหิวกระหายเพราะต้องอดทนอดกลั้นมานาน แต่ความเย้ายวนนี้ที่ถูกกักเก็บมานานเพราะแผนการของตนที่ต้องแนบเนียนเพื่อหลอกล่อให้ลูกกวางมาติดกับ และเมื่อถึงเวลานี้เขาก็ไม่คิดจะอดทนอีกต่อไป มือหนาจึงตวัดผ้าห่มหนาออกจากร่างงามที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดนอนรัดกุมแล้วสอดมือเข้าไปในชายเสื้อก่อนที่อีกมือจะจัดการกับกระดุมเสื้อที่แสนน่ารำคาญให้หลุดพ้นไปพร้อมกับเสื้อตัวสวยไม่นานร่างงดงามก็เปล่าเปลือยอยู่ตรงหน้า โดยที่เจ้าของร่างยังคงมึนงงอยู่กับจุมพิตเร่าร้อนที่เขาจงใจปรนเปรอให้ จวบจนเมื่อริมฝีปากร้ายครอบครองยอดอกสีหวา
ตอนที่44.“ได้จ้ะ พรุ่งนี้เช้าพี่จะรอคำตอบ... รู้มั้ยว่าพี่มาบุกเบิกไร่นี้ไว้เมื่อหลายปีก่อนตั้งแต่มันยังไม่มีอะไรเลย เจ้าของเก่าขายเพราะติดหนี้การพนันพี่เลยซื้อไว้เพราะเห็นว่ามันติดกับที่ผืนเดิมของคุณยายที่ยกให้พี่ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนั้นพี่เองก็ไม่ได้คิดว่าจะมาอยู่เมืองไทยหรอก เพราะต้องทำงานและเดินทางไปมาหลายประเทศและธุรกิจส่วนใหญ่ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ จนเมื่อคิดว่าจะมีเมียเสียที ก็เลยคิดว่าจะทำอะไรไว้ให้เมียให้ลูก...”เขาหยุดเล่าแล้วเบี่ยงกายให้เธอหันมาเผชิญหน้า พราวแสงแขหน้าแดงก่ำไม่กล้าสบตาคมของเขา รู้เพียงสัมผัสจากมือหนาที่ปัดปอยผมที่ปลิวมาระแก้มนวลของตนไปทัดใบหูบางแผ่วเบา“พราวอยากเข้าบ้านแล้ว หนาว...” พราวแสงแขบอกอย่างขัดเขินกลัวว่าจะหลงเสน่ห์เขาขึ้นมาจริงๆ“หนาวเนื้อห่มเนื้อจึงหายหนาว คนไทยเขามีสำนวนแบบนี้ใช่ไหม มันหมายความว่ายังไงนะ” เขาถามยิ้มๆ พราวแสงแขจึงส่งค้อนงามๆ ให้เขาแหม... ถ้าพูดได้ขนาดนี้คงไม่ต้องให้แปลความหมายหรอก คนอะไรชอบพูดให้เธอเขินได้อยู่ตลอดเว
ตอนที่43.“อืม ช่วยจัดกระเป๋าให้หน่อย จะไปไร่สักอาทิตย์หนึ่ง คงไม่ต้องบอกนะว่าพราวต้องไปด้วยรึเปล่า”“คะเจ้านาย..” หญิงสาวสะบัดหน้าหนีคนจอมสั่งแล้วเดินหน้าตึงเข้าไปเก็บข้าวของจัดกระเป๋าให้เขาก่อน หญิงสาวเดินหยิบข้าวของซึ่งเป็นของใช้ส่วนตัวของเขาลงกระเป๋าเดินทางยี่ห้อดังอย่างเคยชินและรู้ใจเขาว่าเขาชอบไม่ชอบอะไรและชอบใส่เสื้อผ้าแบบไหนอย่างไร นี่เธอแทบจะทำหน้าที่เมียของเขาเต็มขั้นเข้าไปทุกที เหลือเพียงอย่างเดียวเท่านั้นกระมังที่เธอยังพอจะพูดได้ว่าไม่ได้เป็นเมียของเขาจริงๆ“ดีนะที่แยกห้องต่างคนต่างอยู่ไม่อย่างนั้นยายนิ่มกับชบาแก้วต้องล้อเราแน่ๆ เลย” หญิงสาวพูดกับตัวเองไปมือบางก็จัดกระเป๋าไปแล้วก็ต้องหน้าแดงก่ำร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้าเมื่อต้องหยิบชั้นในของเขามาใส่ในช่องเก็บชุดชั้นใน“เสร็จรึยังเก็บของน่ะ เมื่อยจังนวดให้หน่อยสิ” เสียงห้าวดังขึ้นเธอจึงต้องรีบปิดกระเป๋าแล้วหันมาเผชิญหน้ากับคนตัวโตที่เดินเข้ามาเงียบๆ“ชอบมาเงียบๆ ตลอดเลย”“เมื่อยจังมานวด
ตอนที่42.“ฉันมีทางเลือกให้เกี่ยวกับเรื่องการรักษาแม่ของเธอ ซึ่งแน่นอนข้อเสนอนี้คือทางเลือกเดียวของเธอ ซึ่งเธอเองก็อาจจะเลือกหรือไม่เลือกก็ได้ แต่เวลาของแม่เธอคงเหลือน้อย หากคิดจะหาทางอื่น...”“ว่ามาสิ...” พราวแสงแขกลั้นใจรอฟังข้อเสนอจากเขาด้วยความรู้สึกเหมือนใจถูกบีบทั้งที่ยังไม่ได้รู้เลยว่าข้อเสนอของเขาคืออะไร...คนบ้าเอ๊ย คิดแล้วเชียวว่ามันต้องมีอะไรแอบแฝงแล้วมันก็เป็นไปตามที่คิดไว้ไม่มีผิด... แล้วเธอมีทางเลือกไหมล่ะ... ก็มีไง ก็เลือกแล้วไงล่ะ... พราวแสงแขพูดตอบโต้กับตัวเองอย่างฉุนเฉียวและเจ็บใจที่ตนเองเกิดมาด้อยกว่าเขาทุกทาง“จะมองให้มันกลายเป็นทองคำรึไง” เสียงห้าวดังขึ้นพร้อมทั้งร่างสูงยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองเธอด้วยมาดของผู้ชนะ พราวแสงแขหันไปมองเขาตาเขียวขุ่น“ถ้ามันกลายเป็นทองคำก็ดีค่ะ ฉันจะได้เอาไปขายแล้วเอาเงินมาใช้หนี้คนหน้าเลือดแถวๆ นี้”“อ
ตอนที่41.“เธอเคยเห็นพี่แมทมาก่อนเหรอชบาแก้ว” พราวแสงแขถามด้วยความสงสัยเพราะเธอไม่เคยเห็นเขามาก่อนและไม่รู้ว่าเขาเคยเป็นนายแบบให้นิตยสารชื่อดังมาแล้วหลายเล่ม และเมื่อชบาแก้วกระซิบบอกเธอจึงถึงบางอ้อแล้วหันมามองเขาเหมือนไม่อยากจะเชื่อ“เอ่อ พวกเราก็มานานแล้ว ยังไงขอตัวกลับก่อนนะพราว”นิ่มเอ่ยพร้อมทั้งดึงชื่นชบาให้ลุกขึ้นแต่สาวอวบก็ยังทำท่าอิดออดเหมือนยังไม่อยากกลับ ใช่ว่าจะติดใจหนุ่มหล่อหรอกนะ แต่ติดใจความสัมพันธ์ของเพื่อนรักกับพี่ชายเพื่อนร้ายมากกว่า แต่สุดท้ายทั้งนิ่มกับชื่นชบาก็กลับไป...“หมอบอกแล้วใช่มั้ยเรื่องแม่เธอน่ะ”“ค่ะ บอกแล้ว..” น้ำเสียงเศร้าสร้อยหน้าตาหมองหม่นของเธอทำให้แมทธิวถอนหายใจเบาๆ“เรื่องค่ารักษาพยาบาลไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะช่วยจัดการให้เอง”“ขอบคุณนะคะ พราวไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดี”“อย่าเพิ่งคิดเรื่องนั้นเลย ตอนนี้แม่เธอฟื้นแล้วไปดูแม่เธอดีกว่า”แมทธิวบอกเรียบๆ แล้ว
ตอนที่40“อืม หวาน.. ตัวก็ไม่ร้อนแล้วจริงๆ ด้วย” แมทธิวจำต้องถอนริมฝีปากออกจากความหอมหวานนั้น ดวงตาคมพราวระยับจ้องมองใบหน้าเล็กแดงปลั่ง ดวงตากลมโตหลับพริ้มริมฝีปากระเรื่อแดงก่ำจากฤทธิ์จุมพิตของเขาเผยออย่างอย่างลืมตัวยิ่งยั่วเย้าให้ตบะที่ชายหนุ่มพยายามจะมีแตกละเอียด...เขาอยากจะอุ้มร่างเล็กนี้เข้าไปในห้องแล้วสัมผัสทุกตารางนิ้วของร่างงามนี้ โจนจ้วงเข้าความอ่อนนุ่มฉ่ำละมุนของเธอ ครั้งแล้วครั้งเล่าให้สมกับความทรมานที่แก่นแกร่งซึ่งคอยแต่ตื่นเร้าเพียงแค่ได้กลิ่นเนื้อนางทั้งที่เขาไม่เคยมีอาการเช่นนี้กับหญิงสาวคนไหนมาก่อน แต่กับพราวแสงแข อาการนี้เริมหนักขึ้นทุกวันเริ่มทำให้เขาควบคุมตัวเองได้น้อยลงทุกทีๆ เมื่ออยู่ใกล้เธอ นี่เขาคงบ้ากามอย่างที่เธอว่าไปแล้วจริงๆ“ปละ ปล่อยเขานะคนบ้า”เมื่อหาเสียงของตนเจอพราวแสงแขก็พยายามจะดันร่างใหญ่โตนั้นออกไปให้ห่างร่างของตน แต่เหมือนเธอผลักกำแพงหินแกร่งเสียมากกว่านอกจากจะไม่หลุดจากวงแขนที่กระชับแน่นนั้นแล้วเขายิ่งรัดวงแขนแน่นเข้าไปอีกจนเธอหายใจติดขัดเพราะความขัดเขินสะเทิ้นอาย“ขืนปล่อยตอนนี้เธอก็ร่วงไปกองกับพื้นน่ะสิ”“ก็เพราะใครล่ะ...” หญิงสาวค้อนเขาประหลับป