หลายวันต่อมาที่เมริสาเริ่มหงุดหงิดที่วายุออกจากบ้านบ่อยเกินไป คืนนี้เธอนั่งรอสามีคนเก่งของตนกลับบ้านด้วยความกระวนกระวายใจเมื่อมองเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาตั้งโต๊ะห้องโถงชั้นล่างก็พบว่ามันเกือบจะตีหนึ่งแล้ว...
“ไปไหนของเขานะทำไมป่านนี้ยังไม่กลับ”
หญิงสาวเดินอุ้ยอ้ายไปมาชะเง้อมองทางแต่ไม่มีวี่แววว่าวายุกลับมาเสียทีจนในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวจึงขึ้นไปนอนก่อน โดยไม่รู้เลยว่าในขณะที่ตนรอคอยวายุกลับนั้นเขากำลังระเริงสวาทอยู่กับสาวน้อยนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งที่เขาแอบคบหาอุปการะเป็นเสี่ยเจ้าบุญทุ่มอยู่ คุณมาลินีเฝ้ามองความกระวานกระวายของบุตรสาวอย่างไม่สบายใจในขณะที่หลุยส์เดินมาหานางอย่างรู้งานหลังจากที่เมริสาขึ้นห้องไปแล้ว
“ได้อะไรมาบ้าง...” นางหันมาถาม หลุยส์ เซราโน่ คนสนิทของแมทธิวซึ่งอยู่ที่นี่เพื่อดูแลนางกับครอบครัวตอนที่แมทธิวไม่อยู่ หลุยส์นั้นอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับแมทธิวและมีบุคลิกที่คล้ายกันหลายอย่างซึ่งอาจะเป็นเพราะเขาเติบโตมาพร้อมกับแมทธิวก็เป็นได้ แต่หลุยส์จะค่อนข้างไปทางเงียบขรึมและพูดน้อยกว่าแมทธิว จนบางครั้งใครๆ ต่างก็พูดว่าแมทธิวมีมือขวาเป็นซอมบี้หรือผีดิบ แต่คุณมาลินีรู้ดีว่าภายใต้ท่าทางเคร่งขรึมของหลุยส์นั้นซ่อนความอ่อนโยนและความดีไว้มากมาย และนางเคยคาดหวังว่าจะได้เขาเป็นลูกเขย
ด้วยสายตาที่ผ่านโลกมามากนางดูออกว่าภายใต้ท่าทีเคร่งขรึมของหลุยส์และการที่เขาไม่ลงรอยกับเมริสาและเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดนั้นหลุยส์นั้นมีความรู้สึกที่พิเศษให้กับลูกสาวของตน แต่เมริสามักจะมองข้ามและมองหลุยส์เป็นเพียงลูกไล่ของเธอ เป็นลูกน้องของพี่ชาย และความหยิ่งทระนงของเมริสาก็ทำให้เธอเลือกผู้ชายที่หาความจริงใจไม่ได้อย่างวายุมาเป็นสามีเพียงเพราะความหลงรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาปากหวานของวายุเท่านั้น
“นี่ครับเอกสารและรูปภาพของมันที่ชัดเจนแน่นหนา มีวีดีโอที่ผมแอบถ่ายไว้ด้วย แต่มันคงไม่น่าดูนักคุณท่านอย่าดูเลยครับ”
หลุยส์เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ เหมือนกลัวว่านางจะใจสลายกับสิ่งที่เห็นกระนั้น คุณมาลินีหยิบสิ่งในซองกระดาษมาดูช้าๆ ภาพเริงสวาทหรือภาพถ่ายคู่กันหวานฉ่ำของวายุกับแม่สาวน้อยในภาพเสมือนว่าเป็นคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียนในความเลวทรามต่ำช้าของวายุเกินกว่าจะรู้สึกอย่างอื่นก่อนจะถอนใจช้าๆ
“ฉันคิดอยู่แล้วว่าผู้ชายคนนี้มันเลว แต่ฉันจะทำยังไงให้ลูกสาวของฉันตาสว่าง...” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด ยิ่งเห็นเมริสาท้องโตขึ้นทุกวันนางก็ยิ่งเจ็บปวด
“ผมจะพยายามกระชากหน้ากากมันออกมาให้เร็วที่สุดครับคุณท่าน”
“ฉันอยากจะทำอย่างนั้นวันละสามเวลาหลังอาหาร... แต่ก็อดสงสารยายเมรี่ไม่ได้ แต่ฉันก็ไม่อยากให้มีเรื่องอะไรกระทบกระเทือนจิตใจของแก... หลุยส์ ฉันจะทำยังไงดี...” คุณมาลินีพูดเสียงแผ่วอย่างท้อแท้ ในขณะที่หลุยส์เองก็คิดห่วงเมริสาเช่นกัน
ทางด้านวายุซึ่งตอนนี้กำลังยิ้มกริ่มเมื่อวันนี้จะเป็นวันที่บิดาของเมริสาจะประกาศสละตำแหน่งประธานใหญ่ของบริษัทอย่างเป็นทางการซึ่งวายุเองก็หวังว่าตนจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับตำแหน่งสืบทอดจากพ่อตา ก็เขาวางแผนออดอ้อนเมริสาเป็นอย่างดีและคิดว่าคนเป็นพ่อตาแม่ยายจะต้องเห็นแก่หลานที่กำลังจะเกิดมา ดังนั้นวันนี้วายุจึงตื่นแต่เช้าและมาเฝ้ารอการประชุมใหญ่อย่างใจจดใจจ่อ และเมื่อถึงเวลานัดหมายคุณมาร์คและคณะกรรมการพร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทเริ่มทยอยเข้ามาในห้องประชุมหรูหราจนครบทุกคนการประชุมก็เริ่มขึ้น...
ในขณะที่วายุกำลังประชุมอยู่นั้นเมริสาก็ออกมาเดินซื้อของตามประสาของคนที่รักสวยรักงามแม้ว่าอายุครรภ์กว่าหกเดือนแล้วแต่เมริสาก็ยังคงคล่องแคล่วแข็งแรงในการชอปปิงอยู่เช่นเดิม เพราะผู้หญิงกับการชอปปิงนั้นมันของคู่กันแต่ขณะที่เธอกำลังเลือกซื้อเสื้อผ้าร้านประจำอยู่นั้นก็มีนักศึกษาสาวหน้าตาสะสวยรูปร่างบอบบางเดินคุยกันเข้าในร้าน
“แหม... เธอนี่เข้ามาในร้านหรูขนาดนี้แสดงว่าได้มาหนักล่ะสิ...”
สาวน้อยคนหนึ่งพูดขึ้นกับเพื่อนของตนขณะเลือกเสื้อผ้าแบบใหม่ล่าสุดที่มองปราดเดียวเมริสาก็รู้ว่าชุดที่เจ้าหล่อนคนนั้นหยิบไปทาบกับร่างมันราคาแพงระยับทีเดียว
“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกเธอนิดๆ หน่อยๆ คืนนี้ฉันจะเอาใจคุณวายุเขาหน่อย แว่วว่าวันนี้เขาจะได้ตำแหน่งใหญ่โตเป็นถึงประธานบริษัทเลยนะเธอ คืนนี้ฉันเลยจะสวยจัดเต็มเตรียมตัวไปดินเนอร์หรูกับเขาสองคน ฮิๆ”
“จริงเหรอ แหมเธอนี่ตาถึงจริงๆ ที่จับเขาอยู่หมัด เอ... แต่ว่าคุณวายุนี่เขามีเมียแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วเมียเขาก็เป็นถึงคุณหนูร่ำรวยมหาศาลเลยนี่นาแบบนี้เมียเขาไม่ตามแจเหรอเธอ”
สองสาวนั้นยังคงคุยกันต่อเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าคนที่ได้ยินเรื่องพวกเจ้าหล่อนอยู่นั้นเริ่มมีอาการจุกแน่นในอกเมื่อชื่อของผู้ชายที่สองสาวนั้นกล่าวถึงมันเหมือนชื่อของสามีเธอ
“ใช่.. เขามีเมียแล้ว แต่คุณวายุบอกว่าก็แค่เมียในนามน่ะเธอ เขาแค่อยากมีทายาทมีลูกสืบสกุลเท่านั้น ส่วนเมียเขาน่ะคุณวายุบอกว่าน่าเบื่อจะตายทั้งขี้หึงขี้บ่นแก่หนังเหี่ยวและชอบทำตัววุ่นวายน่ารำคาญ เขาบอกฉันว่าไว้เมียเขาคลอดเมื่อไหร่คุณวายุจะขอหย่าเสียด้วยซ้ำ อีกอย่างเมื่อคุณวายุได้ตำแหน่งประธานบริษัทเมื่อไหร่เขาก็จะเฉดหัวเมียของเขาไปให้พ้นเพราะเขารำคาญแม่นั่นจะตาย แล้วเขาจะแต่งงานกับฉันทันทีที่เรียนจบด้วยล่ะ...”
“แล้วคุณวายุที่เธอพูดถึงน่ะ เมียเขาชื่ออะไรเหรอ...” เมื่อสุดจะทนฟังมากกว่านั้นเมริสาก็เดินมาตรงหน้าสาวน้อยทั้งสองพลางจ้องมองคนที่เธอเชื่อมั่นว่าเป็นผู้หญิงของวายุอย่างกินเลือดกินเนื้อ
“แล้วนี่ป้าเป็นใครล่ะคะ ถึงเสียมารยาทมาถามแบบนี้” สรรพนามที่ถูกเรียกขานนั้นทำให้เมริสาแทบอยากจะกระชากเจ้าหล่อนมาตบให้หายคับแค้นใจนัก แต่เธอจะต้องมั่นใจก่อนว่าวายุที่พวกเจ้าหล่อนพูดถึงนั้นคือวายุสามีเธอหรือไม่
“จะเป็นใครไม่สำคัญหรอกนะ แค่อยากรู้ว่าคุณวายุที่เธอพูดถึงนั่น เมียเขาชื่อ เมริสา จิระวัฒนา มาเวลส์ รึเปล่า...”
ตอนที่5.“กรี๊ดดดด...” เพล้งๆๆๆ... เสียงกรีดร้องด้วยความฉุนเฉียวและเสียงข้าวของแตกกระจายอยู่ในห้องของเมริสาทำให้คุณมาลินีมองสบตากับหลุยส์อย่างหนักใจ แต่ไม่เข้าไปห้ามปรามหรือขัดขวางอารมณ์ของเมริสาในตอนนี้เพราะผู้เป็นแม่รู้ดีว่าต้องให้เวลาลูกสาวของตนได้อยู่กับตัวเองและซึมซับความจริงให้เต็มที่ และเชื่อว่าเมริสาไม่มีทางที่จะทำร้ายตัวเองอย่างแน่นอน...“คิดว่าตอนนี้เราไม่ต้องปิดบังอะไรแล้ว... แต่ฉันห่วงแค่หลานของฉันเท่านั้นเอง...” คุณมาลินีกล่าวเสียงเครียดมองประตูห้องที่ปิดสนิทของบุตรสาวนิ่ง“ผมคิดว่าคุณเมรี่คงไม่คิดสั้นทำร้ายตัวเองหรอกครับ”“ฉันก็เชื่อว่าเมรี่ไม่คิดทำแบบนั้นแน่นอน แต่ฉันก็อดห่วงไม่ได้ ว่าแต่วายุล่ะเป็นไงบ้าง เขาไปไหน”“พอรู้ว่าตัวเองไม่ได้ตำแหน่งประธานก็โวยวายเผยธาตุแท้ออกมาครับ ตอนนี้คงไปเมาหัวราน้ำที่ไหนสักแห่ง แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องที่เขานอกใจคุณเมรี่นั้นคุณเมรี่รู้เรื่องแล้ว...” หลุยส์ตอบผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยตามแบบของเขา“หึ เขาก็ยังคงไม่รู้ตัวสินะว่าคนของเรารู้ธาตุแท้ของตัวเองแล้ว อยากรู้เหมือนกันว่ากลับมาเขาจะแก้ตัวกับเมรี่ว่ายังไง เมรี่เงียบแล้วฉันจะเข้าไปดู
ตอนที่6.“ไอ้หน้าตัวเมียนั่นมันคุยอะไรกับเธอน่ะพราว” ชื่นชบา หรือ ชบาแก้ว ฉายาของสาวอวบระยะสุดท้ายถามอย่างไม่พอใจที่เห็นวายุมาวอแวกับเพื่อนรักของตน“ฉันว่า นายนั่นคิดจะกลับมาหายายพราวชัวร์เลย คงนึกเสียดายล่ะสิ คืนนี้เห็นยายพราวของเราสวย” นิ่ม เพื่อนสาวตัวผอมสูงโปร่งที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้นบ้าง“เธออย่าไปหลงคารมเขาอีกนะพราว เธอก็รู้แล้วนี่นาว่าเขาเป็นคนยังไง”ชื่นชบาพูดอย่างเป็นห่วงกลัวว่าพราวแสงแขจะหลงคารมของวายุ เพราะตอนนี้พวกเธอทั้งสามต่างรู้ซึ้งถึงสันดานที่แท้จริงของวายุแล้ว โดยเฉพาะพราวแสงแขซึ่งบัดนี้รู้ดีเลยทีเดียวว่าวายุนั้นร้ายกาจและเห็นเห็นแก่ตัวเพียงใด“ฉันไม่มีความรักหรือหลงใหลในตัวเขาอีกแล้วล่ะฉันก็คนนะเจ็บแล้วก็จำ” พราวแสงแขยิ้มให้เพื่อนๆ“ดีแล้วเพื่อนรัก ฉันดีใจนะที่เธอคิดได้แบบนี้ แต่คิดไปอีกทีก็นึกสมน้ำหน้ายายเมรี่เนอะที่เห็นก้อนกรวดเป็นเพชรไปเสียได้น่าเสียดาย สวย รวย แต่โง่” นิ่มเบ้ปากอย่างไม่ชอบใจและนึกเคืองเมริสาอยู่“เธอก็ว่าแรงไปยายนิ่ม ยังไงเมรี่เขาก็เคยเป็นเพื่อนเรา”“นี่ยายชบาแก้ว เธอคิดเหรอว่ายายนั่นเขาคิดว่าเราเป็นเพื่อนเขาจริงๆ จะบอกอะไรให้นะ เหตุผลเดียวที่เขามา
ตอนที่7.แล้วไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นแมทธิวก็ได้มายืนอยู่บนแผ่นดินไทยและกำลังเฝ้ามองน้องสาวต่างมารดาซึ่งนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงพยาบาลสีฟ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังด้วยความเวทนาในชะตาชีวิตของน้องสาวที่ต้องมาเจอเรื่องราวเลวร้ายเช่นนี้ ดวงตาคมทอดมองกลางลำตัวของน้องสาวซึ่งไร้สิ่งมีชีวิตน้อยๆ แล้วนั้นด้วยความเจ็บยอกในอก กรามแกร่งบดเขาหากันอีกครั้งด้วยความแค้นที่อัดแน่นอยู่ภายในใจ“แล้วตอนนี้ไอ้วายุมันอยู่ที่ไหน” ชายหนุ่มถามมือขวาของตนด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม “อยู่ที่บ้านของมันครับที่ติดกับบ้านผู้หญิงคนนั้นครับ บ้านแฟนเก่า...” หลุยส์ตอบเรียบๆ“ตั้งแต่เกิดเรื่องมันไม่เคยโผล่มาเลยใช่มั้ย”“ครับ...”“จิตใจมันทำด้วยอะไรนะ... เห็นทีฉันต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แล้วตอนนี้คุณแม่กับคุณพ่ออยู่ไหน”“อยู่ที่บ้านครับ คุณท่านพยายามจัดการเรื่องหย่าของคุณหนูแต่ไอ้วายุมันไม่ยอมหย่า” คำตอบที่ได้จากหลุยส์นั้นยิ่งทำให้แมทธิวรู้สึกเคียดแค้นชิงชังผู้เป็นน้องเขย ซึ่งเขารู้ดีว่าเหตุใดวายุจึงไม่ยอมหย่าจากเมริสา“ฉันคิดอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เอาเป็นว่าฉันฝากนายดูแลเมรี่ด้วยหากเมรี่ฟื้นแล้วให้โทร. บอกฉันทัน
ตอนที่8.“เขาไม่ยอมหย่า หากเราไม่จ่ายค่าเซ็นใบหย่าและขู่ว่าจะฟ้องเราให้เสื่อมเสียแม่ล่ะไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย...” คุณมาลินีกล่าวเสียงแผ่ว“หึหึ... คุณแม่ครับคุณแม่ไม่ต้องห่วงหรอกครับผมจะจัดการเอง รับรองได้ว่ามันจะไม่ได้เงินจากเราแม้แต่แดงเดียวและผมจะไม่ให้มันมีอะไรมาต่อรองกับเราได้...”ชายหนุ่มกล่าวเสียงเข้มซึ่งคุณมาร์คนั้นรู้ดีว่าบุตรชายของตนนั้นหากจะเหี้ยมแล้วไม่มีใครเหี้ยมเกรียมเท่า แต่หากเขาอ่อนโยนแล้วล่ะก็ไม่มีใครจะอ่อนโยนได้เท่าแมทธิวอีกแล้ว และแมทธิวก็รักน้องสาวของเขามากเพราะเขาเป็นลูกคนเดียวมานาน เมื่อตนแต่งงานกับคุณมาลินีและมีเมริสา แมทธิวนั้นดูตื่นเต้นและเห่อน้องสาวมาก เขาเฝ้าติดตามดูแลไม่ห่างเลยทีเดียวจนเมื่อเมริสาเริ่มโตเป็นสาวแมทธิวจึงปล่อยให้น้องสาวได้มีโอกาสคิดเองดำเนินชีวิตเองในแบบที่ต้องการแล้วก็เฝ้ามองน้องสาวของตนเงียบๆ ซึ่งเมริสาเองก็รู้ดีว่าพี่ชายนั้นรักและตามใจตนมาตลอดจึงมีนิสัยเอาแต่ใจและดื้อรั้นจนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เมริสาต้องมาเจอกับคนอย่างวายุเพราะความรั้นจะเอาชนะของเมริสานั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่บุตรสาวของตนต้องมาถูกคนที่ได้ชื่อว่าสามีทำร้ายจนต้
ตอนที่9.“คุณพราวแสงแขคะ เชิญด้านนี้ค่ะ...” เสียงพนักงานสาวทำให้คนที่ก้มอ่านหนังสือรอลุกขึ้นเดินตามพนักงานต้อนรับไปยังลิฟต์อีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นลิฟต์ส่วนตัวที่ใช้ได้เพียงผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น“เมื่อลิฟต์เปิดเชิญเข้าไปได้เลยนะคะเพราะลิฟต์จะเปิดออกที่ชั้นบนสุดหน้าห้องท่านประธานพอดี เชิญค่ะ”เมื่อพูดจบพนักงานสาวคนนั้นก็เดินจากไปลิฟต์ก็เปิดออกทันทีที่เธอเดินมาถึง พราวแสงแขมองลิฟต์ที่เปิดกว้างอย่างชั่งใจ ทั้งมือและเท้าหญิงสาวเย็นเฉียบน้ำลายในลำคอเหนียวหนืดจนกลืนไม่ลง...“เอาล่ะพราวแสงแข... สู้ๆ” หญิงสาวบอกตัวเองขณะลิฟต์เลื่อนขึ้นสู่ชั้นบนสุด เมื่อลิฟต์เปิดออกอีกครั้งหญิงสาวก็เดินออกมาและหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าห้องของท่านประธานใหญ่แห่งโรดิเกรซ คอปอเรชั่น ไทยแลนด์“เชิญเข้าไปได้เลยค่ะ...” เสียงเลขาสาวใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องกระจกหรูหราหน้าห้องท่านประธานบอกกับเธออีกครั้งเมื่อเห็นว่าเธอยังคงยืนนิ่งอยู่...“ค่ะ... ขอบคุณนะคะ...” พราวแสงแขหันไปยิ้มเซียวๆ ให้เลขาสาวแล้วเอื้อมมือไปเปิดประตูออกช้าๆ ในขณะที่สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกความมั่นใจของตน...หลังจากที่ประตูปิดลงพราวแสงแขรู้สึกชาไปทั้งตัวจ
ตอนที่10.“อ๊าย คนบ้า พูดกับสุภาพสตรีแบบนี้ได้ยังไง” พราวแสงแขกรีดเสียงใส่เขาอย่างเหลืออด ความยับยั้งชั่งใจ ความสุขุมเรียบร้อยที่เคยมีเคยเป็นมันหลุดลอยไปไหนกัน ตอนนี้เธอเหมือนแม่สาวปากกล้าใจร้อนร้ายกาจไปโดยปริยาย...“หึ... มากกว่านี้ก็ยังทำได้เลยกับผู้หญิงอย่างเธอ”“ผู้หญิงอย่างฉันทำไม... ถ้าคิดว่าผู้หญิงอย่างฉันมันแย่นักก็ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้สิ ไอ้บ้า”“แหม ไม่ยักรู้ว่าฉันเจอแม่ค้าปากตลาดมากกว่าคนที่เป็นครูเสียอีก”“เรื่องของฉัน ฉันจะเป็นอะไรก็เรื่องของฉัน ตอนนี้ไม่ได้เป็นครูแล้วด่าคนได้ไม่อายปาก ปล่อยนะ...” พราวแสงแขหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและเริ่มกลัวเมื่อเห็นแววตาของเขา แล้วนี่เขาจะพาเธอไปไหนกัน...“นี่อย่าดิ้นได้มั้ย น่ารำคาญ ““ถ้ารำคาญก็ปล่อยสิ แล้วจะพาฉันไปไหน...”หญิงสาวเสียงเขียวใส่เขาทั้งพยายามขืนกายบางออกให้ห่างจากกายแกร่งของเขา... กลิ่นกายหอมสะอาดของบุรุษหล่อเริดตรงหน้ามันทำให้ท้องไส้สาวปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูกเธอไม่อยากอยู่ใกล้เขาเลย “นึกว่าอยากจะแตะรึไง ผู้หญิงสวยๆ อึ๋มๆ กว่าเธอมานอนแบให้ฉันเยอะแยะ เด็กกะโปโลอย่างเธอฉันไม่สนใจหรอกยายบ๊องเอ๊ย ที่จับไว้เนี่ยกลัวเธอหนีมากกว่า..
ตอนที่11.เมื่อหมดความอดทนพราวแสงแขก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวและเปิดประตูจะลงไปจากรถแต่ในขณะที่เธอกำลังจะวาดขาก้าวลงไปมือแข็งแรงก็เอื้อมมาดึงประตูปิดทันทีและการที่เขาเอื้อมมือมานั้นทำให้แขนแกร่งของแมทธิวนั้นเฉียวผ่านทรวงสาวอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดสวยและในช่วงที่เขาเอี้ยวตัวกลับแล้วหันหน้ามามองคนตัวเล็กที่นั่งตัวเกร็งนั่งอยู่กับที่ด้วยความตระหนกนั้นปลายจมูกโด่งของเขาก็ปัดถูกปลายจมูกรั้นของเธอเบาๆ ซึ่งในจังหวะนี้เองทำให้ทั้งคู่ประสานสายตากันอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง...เหมือนมีกระแสไฟฟ้านับหมื่นๆ โวลต์แล่นพล่านไปทั้งร่าง พราวแสงแขนั่งนิ่งกลั้นหายใจจนรู้สึกว่าแทบขาดอากาศหายใจจึงค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ และแผ่วเบาที่สุดทั้งหัวใจก็เต้นกระหน่ำดังกึกก้องจนกลัวว่าอีกคนจะได้ยินเสียงหัวใจเธอเต้น ซึ่งความรู้สึกที่พราวแสงแขมีนั้นไม่ได้แตกต่างจากแมทธิวเลยแม้แต่น้อย พราวแสงแขรู้สึกว่าลำคอและริมฝีปากของตนนั้นแห้งผากจนต้องแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของตนช้าๆ ด้วยความรู้สึกหวั่นไหวใจสั่นหวิวๆ เหมือนคนจะเป็นลมเสียอย่างนั้นแต่เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอนั้นมันทำให้คนตัวโตหน้าดุหมดความอดทนอดกลั้นกั
ตอนที่12.“พราวจะต้องไปทำงานไกลขนาดนั้นเลยหรือลูก...” คุณแขไขถามบุตรสาวอย่างใจหายเมื่อรู้ว่างานใหม่ของลูกสาวนั้นต้องไปอยู่ต่างจังหวัดร่วมเดือนหรืออาจจะหลายเดือน...“ค่ะ เจ้านายพราวเขาต้องการคนดูแลลูกสาวเขาอย่างใกล้ชิดค่ะแม่ อีกอย่างค่าจ้างแพง พราวไม่ต้องเสียค่าที่พัก แถมยังได้ไปอยู่รีสอร์ตสวยๆ หรูๆ เงินเดือนก็เหลือเต็มๆ คิดดูสิคะคุ้มสุดๆ เลย”หญิงสาวยิ้มให้มารดาสดใสเริงรื่นกลบเกลื่อนความรู้สึกภายใน แต่เธอก็ไม่ได้โกหกนี่นาเพียงแต่ไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดว่านายจ้างเธอคือใคร และคิดว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรหากจะพูดถึงเหตุผลที่แท้จริงให้มารดารับรู้เพราะมันจะทำให้มารดาของเธอพลอยเป็นทุกข์ไปด้วยมากกว่า “เอาเถอะ อย่างน้อยๆ บรรยากาศดีๆ ลูกแม่ก็อาจจะเจออะไรดีๆ บ้าง เช่นว่า ได้หนุ่มเหนือนิสัยดีมาเป็นลูกเขยแม่” คุณแขไขพูดติดตลกซึ่งทำให้พราวแสงแขได้ยิ้มไปด้วยกับมุกของมารดา“โธ่.. แม่ขา พราวจะมีโอกาสได้เจอใครหรือเปล่าไปดูแลคนป่วยนะคะ คงไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอกค่ะ ยังไงพราวก็มีโอกาสเป็นสาวแก่ขึ้นคานเกาะแม่ไปจนตายล่ะค่ะ”“พูดดีไป ไม่ใช่พอไปถึงล่ะหนุ่มๆ เพียบจนลืมแม่ล่ะ” นางแขไขกล่าวยิ้มๆ ล้อบุตรสาวอย่างเอ
ตอนที่61. อวสานแมทธิวมองใบหน้ากลมป้อมแก้มยุ้ยแดงปลั่งของลูกชายอย่างแสนรัก ดวงตาสีมรกตที่ถอดแบบจากเขานั้นใสแจ๋วไร้เดียงสา จมูกเล็กๆ โด่งเป็นสันมีเหงื่อซึมเพราะวิ่งเล่นอย่างซุกซน ริมฝีปากแดงสดที่ได้มาจากคุณแม่นั้นทำให้ผู้เป็นพ่อไพล่นึกถึงริมฝีปากนุ่มๆ หวานๆ ของผู้เป็นภรรยาเสียร่ำไป ชายหนุ่มพลิกตัวนอนคว่ำเท้าแขนแกร่งกับพื้นหญ้าแล้วถามลูกชายตัวน้อยเมื่อพ่อหนูเอาแต่มองหน้าเขานิ่ง“มีอะไรน้อง มองหน้าพ่อนิ่งเชียว”“ปาปา แก่...” คำตอบของลูกชายที่ไม่ค่อยชัดนั้นทำให้แมทธิวแทบสำลักน้ำลายตัวเอง จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก แต่คุณมาร์คกลับหัวเราะลั่นเลยทีเดียว แมทธิวจึงหันไปมองค้อนบิดาเสียยกใหญ่“ฮ่าๆๆ หลานปู่มันฉลาดเหมือนปู่เลย มานี่มาลูกมาหาปู่ดีกว่า”“ปูๆ หาปู หล่อๆ” เด็กชายลุกขึ้นเดินไปหาคุณปู่ที่อ้าแขนต้อนรอรับแล้วหอมแก้มคุณปู่อย่างประจบออดอ้อน แมทธิวได้แต่เข่นเขี้ยวเจ้าตัวแสบที่มีแววแสบสันได้ใจตั้งแต่เล็กแต่น้อย“ทำอะไรกันอยู่คะหนุ่มๆ มากินของว่างกันได
ตอนที่60.“แหวะหลงตัวเอง”“บอกรักพี่แมทอีกครั้งสิจ๊ะทูนหัว”“ไม่...” หญิงสาวเง้างอดหน้าแดงก่ำ“บอกหน่อยไม่ได้เหรอครับ พี่แมทอยากฟังอีกจัง”“ตัวเองก็บอกเขาก่อนสิ” หญิงสาวต่อรองพร้อมทั้งเอนพิงอกกว้างของเขาอย่างยอมจำนนหลุบตามองมือเล็กของตนในอุ้งมือใหญ่อบอุ่นของเขาด้วยหัวใจพองโต น้ำตาเหือดแห้งไปพร้อมกับความอุ่นซ่านแผ่กระจายครอบคลุมไปทั้งดวงใจที่มืดมิดหนาวเหน็บมานานด้วยความหวั่นระแวง“ผม แมทธิว โรดิเกรซ มาเวลส์ รัก นางพราวแสงแข โรดิเกรซ มาเวลส์ เท่าชีวิต และจะรักเธอกับลูกๆ ของเราตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และผมจะบอกรักเธอกับลูกๆ ทุกวัน ตราบเท่าชีวิตของผม...” เสียงทุ่มนุ่มนวลบอกเบาๆ กับใบหูบางทว่าหนักแน่นเต็มไปด้วยพลังแห่งรักที่เธอสัมผัสได้ด้วยใจ“ฉัน นางพราวแสงแข โรดิเกรซ มาเวลส์ ก็จะรัก นายแมทธิว โรดิเกรซ มาเวลส์ เท่าชีวิต และจะรักเขากับลูกๆ ของเราตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และจะบอกรักเขากับล
ตอนที่59.หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วพราวแสงแขก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอนของตนซึ่งสามีสุดหล่อของเธอกำลังปูที่นอนของตนเองหน้าเตียงเล็กๆ ของเธอเช่นทุกวัน หญิงสาวมองแผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามของเขาอย่างหลงใหลและแอบหน้าแดงที่ตนกลายเป็นสาวใจแตกชอบมองแผงอกล่ำๆ กล้ามสวยๆ ของสามีไปเสียแล้ว จากแรกๆ ที่เคยต่อว่าที่เขาไม่ใส่เสื้อเข้านอน ตอนนี้กลายเป็นว่าเธอชอบให้เขาเปลือยอกล่ำๆ ให้มอง และอยากมองทุกวัน...“พราวมานอนเถอะดึกแล้ว เดี๋ยวพี่เอาแก้วนมไปเก็บก่อนนะครับ”เขาลุกขึ้นแล้วหยิบแก้วนมออกไปเก็บแต่ขณะที่เดินผ่านเธอก็โน้มใบหน้าลงมาจุ๊บแก้มนวลใสเสียฟอดใหญ่แล้วก็ผิวปากเดินออกไปอย่างอารมณ์ดีปล่อยให้เธอค้อนลมค้อนฟ้าอยู่คนเดียว“คนบ้า ฉวยโอกาสตลอดเลย”หญิงสาวบ่นเขาด้วยหัวใจพองโตแล้วคลานขึ้นเตียงอย่างง่วงงุนแต่ก็พยายามฝืนความง่วงไว้เพราะเธอยังมีเรื่องจะคุยกับเขามากมาย และจะต้องคุยกันให้จบในคืนนี้“ทำไมยังไม่นอนล่ะครับคนสวย เอ.. หรือว่าเจ้าตัวเล็กอยากใ
ตอนที่58.“คุณพ่อคุณแม่ให้พรผมกับพราวมั่งสิครับ” แมทธิวเอ่ยขึ้นบ้างพลางรั้งให้พราวแสงแขมานั่งตรงหน้าบิดามารดาของตนพร้อมทั้งมารดาของพราวแสงแขด้วย“อะไรกันแมทนี่ล่ะก็ เราก็ได้พรจากพ่อกับแม่ไปแล้วไงจ๊ะ”“ก็ผมอยากได้อีกนี่นา แล้วก็ยังอยากได้ไปเรื่อยๆ จนกว่าพรของคุณพ่อคุณแม่จะหมดนั่นล่ะครับ”ชายหนุ่มพูดอย่างนุ่มนวลร่างสูงนั่งพับเพียบดูนอบน้อมพราวแสงแขมองสามีด้วยความชื่นชม แมทธิวเป็นคนทำงานเอาจริงเอาจังเสียงดังและเด็ดขาดเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกน้องแมทธิวจะเป็นเจ้านายที่เข้มงวดจริงจัง ในการทำงานของเขานั้นจะเต็มไปด้วยความเฉียบขาดดุดันจนเป็นที่กล่าวขวัญและใครๆ ต่างก็ยำเกรง แต่เมื่อเขาอยู่กับคนในครอบครัว แมทธิวจะเป็นผู้ชายที่อบอุ่น อ่อนโยนและเอาใจใส่ทุกคนในครอบครัวอย่างดี และเขายังปฏิบัติต่อมารดาของเธออย่างนอบน้อมไม่มีท่าทางที่ทำให้รู้สึกว่าเขารังเกียจเธอกับมารดาว่าต่ำต้อย นั่นคือสิ่งที่พราวแสงแขสัมผัสได้แม้ในคราแรกที่พบกันเขามักจะใช้ถ้อยคำรุนแรงและดูถูกเธอก็ตาม แต่ในวันนี้แมทธิวให้เกียรติเธอกับม
ตอนที่57.“เหรอจ๊ะ แหม.. แม่ก็นึกว่าพราวจะแกล้งอะไรแมทอีก”“แม่น่ะ ชอบมองพราวเป็นเด็กเกเรไปได้”“ก็เราน่ะเหลือเกินจริงๆ นี่พราว เรื่องมันก็แล้วไปแล้วอย่างอนนักเลยลูก เดี๋ยวพี่เขาก็เบื่อกันพอดี” คำพูดของมารดาทำให้พราวแสงแขหน้างอ“ใช่สิ.. แม่มีลูกใหม่แล้วนี่พราวก็เป็นหมาหัวเน่า” พราวแสงแขตัดพ้อน้ำตาคลอๆ เหมือนจะร้องไห้“แล้วกันไปกันใหญ่แล้วลูกคนนี้ เฮ้อ.. แมทอย่าตามใจพราวนักนะลูก ยายพราวน่ะเขาดื้อเงียบ ดูสิ.. แค่นี้ก็ว่าแม่รักคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง เอาล่ะแม่ไม่กวนแล้วแม่จะไปช่วยคุณมาลินีเตรียมของจัดงานเลี้ยงคืนนี้ เย็นนี้เราจะไปทานข้าวที่บ้านโน้นนะจ๊ะ แล้วคืนนี้จะเป็นวันฉลองการแต่งงานของหนูเมรี่กับหลุยส์ด้วย” ผู้เป็นแม่บอกอ่อนโยนดังเดิมแล้วขยี้เรือนผมของลูกสาวแสนงอนเบาๆ แล้วเดินไปขึ้นรถที่คนจากบ้านของแมทธิวมารอรับ”คืนนี้เมียพี่จะต้องสวยพอๆ กับเจ้าสาวแน่ๆ เราไปดูชุดที่จะไปคืนนี้กันมั้ยครับ”“
ตอนที่56.“จะหน้าด้านอยู่ที่บ้านฉันอีกนานแค่ไหนคะ” หญิงสาวเท้าสะเอวมองคนที่กำลังรีดผ้าหน้าเป็นมันอยู่อย่างฉุนๆ ตอนนี้แม่แขของเธอรักลูกเขยมากคอยปกป้องเข้าข้างเขาทุกอย่าง ยิ่งเธอพยายามแกล้งเขามากเท่าไหร่เขาก็ไม่มีทีท่าจะยอมแพ้ง่ายๆ ไม่ว่าจะทำงานบ้านซักผ้ารีดผ้า เอาผ้าไปส่งลูกค้า ดูแลบ้านและทำสวนผักเล็กๆ ไว้รับประทานเองแมทธิวก็ทำได้ และทำหน้าที่ทุกอย่างที่เธอตั้งกฎไว้ได้ดีไม่มีที่ติซึ่งมันทำให้เธอหงุดหงิดประสาคนท้องที่อารมณ์แปรปรวนง่าย“เมียอยู่ที่ไหน ผัวก็อยู่ที่นั่นจ้ะ พราวไปนั่งสิจ๊ะ ยืนนานๆ เดี๋ยวก็เมื่อย ลูกเราจะเมื่อยด้วยนะครับ” นอกจากจะไม่สนใจความฉุนเฉียวเธอแล้วแมทธิวยังเจ้ากี้เจ้าการพาเธอมานั่งที่เก้าอี้หวายตัวใหญ่แสนสบายที่เขาซื้อให้เธอนั่งพักผ่อน พอเห็นเก้าอี้ตัวนี้พราวแสงแขก็นึกถึงที่มาของมันอย่างเสียไม่ได้และนึกดีใจที่เขามีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นเมื่อวันก่อนที่ไปฝากครรภ์เธอเดินผ่านร้านขายเก้าอี้หวายข้างทางเท้าก่อนถึงโรงพยาบาล ซึ่งคนขายเป็นตาแก่ๆ คนหนึ่งกับหลานชายตัวเล็กๆ มาช่วยกันขาย
ตอนที่55.“นายทำร้ายฉัน นายหลอกลวง ล่วงเกินฉันยังจะมีหน้าบอกรักฉันอีก ฉันจะฟ้องคุณพ่อ” หญิงสาวแสร้งขู่“เรื่องนั้นคุณหนูไม่ต้องห่วงครับ เพราะผมได้บอกคุณท่านเรื่องของเราแล้ว และคุณท่านก็บอกให้ผมมาขอคุณหนูแต่งงานด้วยตนเองหากคุณหนูตกลง ท่านจะจัดงานแต่งงานให้เรา”“อะไรนะ นี่นาย นายบอกคุณพ่อเหรอ” เมริสาตาโตด้วยความคาดไม่ถึง“ไม่แค่คุณพ่อของคุณหนูหรอกครับ คุณแม่คุณหนูก็รู้เรื่องของเราแล้ว”“หา อะไรนะ”“คุณหนูแต่งงานกับผมนะครับ แม้ผมจะต่ำต้อยแต่ผมรักคุณหนูมากนะครับ ผมสัญญาว่าผมจะดูแลคุณหนูให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายอย่างผมจะทำได้” หลุยส์กล่าวหนักแน่นจนเธอน้ำตาซึมและทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ“ตะ แต่ว่า เมรี่...”“ได้โปรดเถอะครับคุณหนู แต่งงานกับผมเถอะ ผมรักคุณหนูมานานแล้วและผมก็ไม่อยากจะเก็บความรักของผมไว้อย่างนี้อีกต่อไป”หลุยส์กล่าวพร้อมคุกเข่าต่อหน้าเธอ ทำให้เมริสาน้ำตาไหลพรากอย่างไม่อาจห้ามได้ ไม่นึกเลยว่าเธ
ตอนที่54.พูดจบพราวแสงแขก็เดินกระแทกไหล่เมริสาอย่างแรงจนร่างแบบบางของเมริสาเซถลาไปหลายก้าวซึ่งเมริสาก็ได้แต่มองตามหลังของพราวแสงแขไปอย่างเจ็บใจและไม่เข้าใจ“พี่แมท มันคืออะไร ที่พราวพูดน่ะ”“ก็ความจริงไงล่ะ”“ยังไงตอนไหนกัน พี่แมท นี่พี่กำลังเล่นตลกอะไร”“ไม่ได้เล่นตลกเมรี่ พราวคือเมียพี่และเมรี่ก็ควรให้เกียรติเมียพี่ด้วย”พูดจบแมทธิวก็เดินตามพราวแสงแขไปอีกคนปล่อยให้เมริสามองตามอย่างงุนงง ลืมเรื่องที่จะคุยกับพี่ชายและเมื่อเธอเห็นหลุยส์เดินมาเมริสาก็รีบเดินหลบไปทันที...แมทธิวรีบตามพราวแสงแขมาด้วยความร้อนรนเมื่อเห็นท่าทางของเธอเขากลัวว่าเขาจะเสียเธอไป ผู้ที่ไม่เคยอ่อนข้อให้ใคร ไม่เคยยอมแพ้กับเกมธุรกิจใด ไม่เคยสนใจกับสิ่งที่ไม่มีผลกำไรกับตนและให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนไหนนั้นตอนนี้ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความกระวนกระวายและร้อนรุ่มเมื่อหัวใจของเขามันเต้นกระหน่ำเพียงเพราะผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เขาเคยปรามาสเธอไว้และเข้ามาเกี่
ตอนที่53.“พราวทำอะไรอยู่จ๊ะ”“พราวโทร. หาแม่ค่ะ แต่ทางโน้นไม่มีใครรับสายเลยทั้งที่ก่อนหน้านี้มีคนรับ”พราวแสงแขหันมามองเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวลแล้วเดินไปนั่งที่ม้านั่งตัวยาวใต้ต้นไม้ใหญ่ลืมเรื่องที่เคืองขุ่นเขาเมื่อคืนก่อนนี้ไปสิ้น เพราะตอนนี้เธอกำลังคิดถึงแม่มากอีก ทั้งวันนี้ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรบางอย่างรบกวนจิตใจจนอยากจะกลับบ้านเสียตอนนี้เลย“เอ่อ.. บางทีพยาบาลเขาอาจจะยุ่งๆ อยู่ก็ได้ เราไปกินของว่างกันก่อนดีไหม นี่ก็แดดร้อนแล้ว” แมทธิวเดินไปนั่งข้างๆ ชักชวนเธอด้วยน้ำเสียงและท่าทางเป็นกันเองซึ่งมันทำให้พราวแสงแขหันมามองเขาด้วยสีหน้าแปลกใจระคนระแวง“ทำไมวันนี้ดูพี่แมทพูดดีกับพราวจัง ไม่กลัวว่าคนในบ้านพี่แมทจะสงสัยเราหรือคะ”“ก็.. ทำไมล่ะ ก็เราเป็นผัวเมียกันนี่นา”“เรื่องนี้มีแค่เรารู้กันสองคนไม่ใช่เหรอคะ แล้วพี่แมทสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับและจะหย่าให้พราวหลังจากที่แม่ของพราวกลับมา”คำพูดของเธอทำให้แ