“พราวจะต้องไปทำงานไกลขนาดนั้นเลยหรือลูก...” คุณแขไขถามบุตรสาวอย่างใจหายเมื่อรู้ว่างานใหม่ของลูกสาวนั้นต้องไปอยู่ต่างจังหวัดร่วมเดือนหรืออาจจะหลายเดือน...
“ค่ะ เจ้านายพราวเขาต้องการคนดูแลลูกสาวเขาอย่างใกล้ชิดค่ะแม่ อีกอย่างค่าจ้างแพง พราวไม่ต้องเสียค่าที่พัก แถมยังได้ไปอยู่รีสอร์ตสวยๆ หรูๆ เงินเดือนก็เหลือเต็มๆ คิดดูสิคะคุ้มสุดๆ เลย”
หญิงสาวยิ้มให้มารดาสดใสเริงรื่นกลบเกลื่อนความรู้สึกภายใน แต่เธอก็ไม่ได้โกหกนี่นาเพียงแต่ไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดว่านายจ้างเธอคือใคร และคิดว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรหากจะพูดถึงเหตุผลที่แท้จริงให้มารดารับรู้เพราะมันจะทำให้มารดาของเธอพลอยเป็นทุกข์ไปด้วยมากกว่า
“เอาเถอะ อย่างน้อยๆ บรรยากาศดีๆ ลูกแม่ก็อาจจะเจออะไรดีๆ บ้าง เช่นว่า ได้หนุ่มเหนือนิสัยดีมาเป็นลูกเขยแม่” คุณแขไขพูดติดตลกซึ่งทำให้พราวแสงแขได้ยิ้มไปด้วยกับมุกของมารดา
“โธ่.. แม่ขา พราวจะมีโอกาสได้เจอใครหรือเปล่าไปดูแลคนป่วยนะคะ คงไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอกค่ะ ยังไงพราวก็มีโอกาสเป็นสาวแก่ขึ้นคานเกาะแม่ไปจนตายล่ะค่ะ”
“พูดดีไป ไม่ใช่พอไปถึงล่ะหนุ่มๆ เพียบจนลืมแม่ล่ะ” นางแขไขกล่าวยิ้มๆ ล้อบุตรสาวอย่างเอ็นดู
“พราวไม่ลืมแม่หรอกค่ะเพราะพราวจะเกาะคาน เกาะแม่ไปจนแก่เลย... พราวต้องไปแล้ว ไปถึงที่นู่นแล้วพราวจะโทร. มาหานะคะ...” หญิงสาวโอบกอดมารดาแน่นๆ อีกครั้งเมื่อเห็นรถยนต์คันใหญ่ที่เธอมั่นใจว่าเป็นรถที่ เจ้านาย คนใหม่ของเธอให้มารับเธอแน่นอน...
“พราวไปนะคะแม่ พราวรักแม่นะคะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พราวก็รักแม่ค่ะ...” หญิงสาวก้มกราบลงบนตักอุ่นของมารดาอีกครั้งน้ำตาพานจะไหลออกมาเสียให้ได้เมื่อคิดถึงสิ่งที่รออยู่...
“จ้ะลูก เดินทางปลอดภัยนะ ไม่ต้องห่วงแม่หรอก แม่มีป้ามะลิมาอยู่เป็นเพื่อน ไหนจะเจ้าทอมทอม เจ้าปุยนุ่นอีก”
มารดากล่าวพลางลูบหัวเจ้าแมวน้อยสองตัวที่เดินมานั่งเลียขนอยู่ข้างๆ ตนอย่างเกียจคร้านและเจ้าเหมียวทั้งสองก็ร้องขานรับคำพูดของมารดาเหมือนรับคำว่าจะช่วยกันดูแลผู้เป็นเจ้าของ พราวแสงแขยิ้มบางๆ แล้วลูบหัวมันเบาๆ อย่างรักใคร่และมันก็ลุกมาคลอเคลียเธออย่างแสนรู้
“ดูแลแม่แขดีๆ นะทอมทอม ปุยนุ่น แล้วแม่พราวจะซื้อขนมมาฝาก...”
เธอบอกมันแล้วโอบกอดและหอมแก้มมารดาอย่างตัดใจอีกครั้งก่อนจะถือกระเป๋าเดินทางใบเล็กไปที่รถยนต์คันใหญ่สีดำทะมึนเหมือนรถพวกมาเฟียในหนังที่เคยดูไม่มีผิด พราวแสงแขรู้สึกเหมือนายใจติดขัดเล็กน้อยเมื่อคิดถึงสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า...
“ล่ำลากันอย่างกับจะไปตาย...” คำพูดของคนที่นั่งรออยู่ในรถทำให้คนตัวเล็กคอแข็งอย่างช่วยไม่ได้ เธอไม่คิดว่าเขาจะนั่งมาด้วยนึกว่าเขาจะไปรอเธอที่สนามบินเสียอีก...
“มันก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่หรอกค่ะ” เธออดไม่ได้ที่จะตอกกลับเขาไปเช่นนั้นแม้จะรู้สึกเหมือนอากาศในรถมันน้อยจนหายใจไม่สะดวกเช่นนี้ หญิงสาวพยายามไม่องหน้าเขาและพยายามไม่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอเมื่อวันก่อน...
“นั่นสินะ แล้วเธอจะได้รู้ว่าการตายทั้งเป็นมันเป็นไง... หากน้องสาวฉันอาการไม่ดีขึ้น หรือหากว่าเธอคิดจะทำร้ายน้องสาวฉันอีกเธอจะต้องเจ็บมากกว่าหลายเท่า หากเมรี่ตายเธอก็ต้องตายตามไปด้วย”
ใบหน้าหล่อเหลาที่พราวแสงแขแอบนึกชมนั้นเต็มไปด้วยความความเคียดแค้นชิงชัง ทำไมเธอจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย เธอต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ เธอต่างหากที่จะต้องให้พวกเขาชดใช้ แต่เพราะห่วงมารดาจึงเลือกที่จะเงียบเพราะคนระดับเธอจะเอาอะไรไปสู้กับคนระดับเขาที่มีทั้งเงินและอำนาจ สามารถชี้เป็นชี้ตายในชีวิตของคนอื่นได้เหมือนของเล่น แล้วเธอจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของของเล่นพวกเขาหรือไร เธอทำอะไรผิดนักหนาจึงจะต้องมาเจอกับผู้ชายที่เอาแต่ใจเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่จนไม่ยอมเปิดใจมองเรื่องราวต่างๆ ด้วยเหตุและผล แล้วยังใช้ชีวิตความเป็นความตายของมารดาเธอมาต่อรองเพียงเพราะต้องการให้เธอชดใช้ที่เมริสาต้องสูญเสียลูกในท้องไป
เธอผิดหรือ... พราวแสงแขถามตัวเองอย่างสับสนและเวทนาชะกรรมตนเหลือเกิน
เมื่อสองสัปดาห์ก่อนในวันที่เกิดเรื่องนั้น เมริสามาตามหาวายุที่บ้านของเธอ และบังเอิญว่าเธอก็เพิ่งขอร้องให้วายุกลับไปและตัดเยื่อไยกับเขาอย่างเด็ดขาดซึ่งขณะที่วายุกำลังจะกลับก็เจอกับเมริสาพอดี วายุกับเมริสาจึงทะเลาะกันและพาดพิงมาถึงเธอ ซึ่งเธอเองก็ได้อธิบายไปแล้วว่าไม่ได้มีอะไรกับวายุและเดินกลับเข้าบาน เมริสาจะตามเข้ามาราวีเธอในบ้านแต่วายุมากันไว้ทำให้เมริสาเข้าใจว่าเขาปกป้องเธอทั้งสองจึงทะเลาะกันอยู่หน้าบ้านของเธอนั้นเอง
ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรงและใช้ถ้อยคำหยาบคายจนเธอเองก็ทนฟังไม่ได้เธอจึงเลือกที่จะเดินหนีคนทั้งสอง ปล่อยให้วายุกับเมริสาทุ่มเถียงกันอยู่หน้าบ้านนั่นเอง
โชคดีที่วันนั้นมารดาของเธอไม่อยู่เนื่องจากไปเที่ยวทำบุญต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ ชาวคณะลิเกเก่า จึงไม่รู้เรื่องนี้เพราะเธอเองก็ไม่ได้เล่าให้ท่านฟัง เพียงแต่บอกว่าวายุกับเมริสามาทะเลาะกันแล้วก็กลับไป และเธอก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับวายุอีกแล้ว ซึ่งในวันนั้นก็ไม่คิดด้วยซ้ำว่าคนทั้งสองทะเลาะกันรุนแรงถึงขนาดที่ทำให้เมริสาแท้งลูก เพราะเมื่อเธอวิ่งออกมาหน้าบ้านอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของเมริสา สิ่งที่เห็นในตอนนั้นคือเมริสานอนหมดสติอยู่บนกองเลือดอยู่หน้ารั้วบ้านของเธอ และในตอนนั้นก็ไม่เห็นวายุแล้ว
เธอเองเป็นคนที่เรียกรถพยาบาลและคอยให้รายละเอียดเกี่ยวกับเมริสาด้วยซ้ำในตอนที่นำตัวเมริสาส่งโรงพยาบาลจนเมื่อบิดามารดาของเมริสามาถึงจึงได้ขอตัวกลับบ้าน ซึ่งเธอก็ไม่ได้มาเยี่ยมเมริสาอีกหลังจากวันนั้นเพราะมีซ้อมรำกับนักเรียนที่จะแสดงในงานประจำปีของโรงเรียน และก็ไม่รู้เลยว่าเมริสาหมดสติไปนานกว่าสัปดาห์และเมื่อฟื้นขึ้นมาเมริสาก็สูญเสียความทรงจำ...
ตอนที่13.พราวแสงแขยอมรับว่าตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เธอก็ไม่ได้คิดว่าตนจะต้องมารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นนี้ แต่ที่ยอมรับงานนี้ก็เพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนและเพื่อมารดาของเธอเองหาได้เกรงกลัวผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ นี้ไม่...หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เตรียมตัวเตรียมใจเผชิญกับสิ่งที่เธอไม่อาจจะรู้ได้ว่ามีอะไรรออยู่ข้างหน้า แต่สิ่งที่เธอจะต้องทำคือเข้มแข็งและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ อุบัติเหตุ ระหว่างเมริสากับวายุ พราวแสงแขครุ่นคิดเรื่องต่างๆ ในใจโดยไม่สนใจคนที่นั่งมาข้างๆ แม้แต่น้อย... ในขณะเดียวกันแมทธิวเองก็ลอบพิจารณาคนข้างๆ เขาเงียบๆ ใบหน้าเรียวนวลใสไร้เครื่องสำอางที่ประดับด้วยเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มจะเรียกว่าสวยก็ไม่ใช่ จะว่าไม่สวยก็ไม่เชิงแต่ดวงตากลมโตซึ่งประดับด้วยขนตาดกหนายาวงอนเช้งราวตุ๊กตาของเธอนั้นโดดเด่นกว่าส่วนอื่นของใบหน้าทำให้ใบหน้าแสนธรรมดาของเธอดูน่ามองอย่างที่เขาไม่อาจจะปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้ หากเธอจะยิ้มแย้มแจ่มใสดวงตาของเธอคงจะเป็นประกายน่ามองกว่านี้เป็นไหนๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นคือความสงบนิ่งดูเย็นชาราวแม่ชีที่อยู
ตอนที่14.“แต่คนต้นเหตุอีกคนก็ยังอยู่นี่ครับ เธอจะต้องได้รับรู้บ้างว่าสิ่งที่เธอรวมหัวกันกับไอ้วายุทำร้ายเมรี่นั้นมันเลวร้ายแค่ไหน และเมรี่ต้องทุกข์ทรมานยังไงบ้าง ผมจะไม่มีวันปล่อยให้เธอเป็นสุขแน่ๆ หากอาการของน้องยังไม่ดีขึ้น...” ชายหนุ่มยืนยันด้วยน้ำเสียงและแววตามั่นคงจนผู้เป็นพ่อต้องถอนใจออกมาพรืดใหญ่“แมท... พ่อจะบอกว่าแมทต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรเป็นอะไรอีกอย่าง เรื่องนี้แม่หนูคนนั้นเขาไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย คนของเราต่างหากที่ไปวุ่นวายกับเขาแม้แต่ตอนที่เมรี่เจ็บปางตายหนูพราวเขาก็เป็นคนเรียกรถพยาบาลและคอยให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเมรี่อย่างละเอียด คนเกลียดกันเขาจะทำอย่างนี้มั้ย แมทอย่าเชื่อน้องมากเกินไป...”คุณมาร์คบอกเพียงแค่นั้นแล้วเดินเลี่ยงออกไปด้วยไม่รู้จะอธิบายให้บุตรชายเข้าใจได้อย่างไร ทำให้แมทธิวยืนคิดแค้นเคืองอยู่คนเดียว คนอย่างแมทธิวนั้นหัวรั้นและหากเชื่อมั่นอะไรแล้วก็เปลี่ยนความคิดเขาได้อยาก และที่สำคัญคุณมาร์คเชื่อว่าสิ่งที่แมทธิวได้ยินได้ฟังจากน้องสาวที่รักก่อนเกิดเรื่องนั้นมันได้ฝังในใจของเขาไปแล้วว่าพราวแสงแขคือส่วนหนึ่งของเหตุการณ์อันนำมาซึ่งความสูญเสียของเมริสาและเขาก็
ตอนที่15.พราวแสงแขกำลังจะเดินกลับเข้าห้องของตนเองซึ่งอยู่ติดกันกับห้องของเมริสาต้องชะงักเมื่อเจอยักษ์ตัวใหญ่ยืนจังก้าขวางทางด้วยท่าทางที่พราวแสงแขต้องนึกถึงผู้ร้ายในภาพยนตร์แนวมาเฟียเสียทุกทีไป...“เดี๋ยว...”“มีอะไรกับดิฉันคะ...”หญิงสาวเชิดหน้ามองเขาอย่างไว้ตัวแสดงให้เขาเห็นว่าเธอไม่ได้หงอให้เขาหรือเกรงกลัวเขาอย่างที่เขานึก คนอย่างพราวแสงแขดูเป็นคนอ่อนหวานเรียบร้อยก็จริง แต่เธอไม่ได้อ่อนแอหรือยอมให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ เหมือนเช่นแต่ก่อนอีกแล้ว“เธอไม่ควรรื้อฟื้นความหลังของน้องสาวฉันแบบนั้นนะ มันยิ่งตอกย้ำให้เมรี่เครียด” เสียงเข้มนั้นเหมือนตะคอกเสียมากกว่า“นี่คุณคะ... คุณรู้อะไรเกี่ยวกับคนป่วยแบบเมรี่บ้าง คุณรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเมรี่บ้างในช่วงที่เธอเริ่มเรียนมหาวิทยาลัย หรือคุณรู้อะไรบ้างว่าจะต้องทำยังไงนอกจากมาโวยวายๆ ใส่ฉันแบบนี้ หากคุณให้ฉันมาดูเมรี่คุณก็ควรจะปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นหน้าที่ของฉัน ถึงแม้ฉันจะไม่ได้เป็นหมอหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ฉันศึกษาข้อมูลมาบ้างแล้วว่าต้องทำยังไง หากคุณจะมาขัดแย้งนู่นไม่ได้ นี่ไม่ได้ ก็ไม่ต้องลากตัวฉันมาสิ...”คำตอบยืดยาวของพราวแสงแขทำเอาแมทธิวถึง
ตอนที่16.พราวแสงแขถอนหายใจเบาๆ เมื่อเมริสาหลับไปแล้วหลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันและยาตามที่แพทย์สั่ง เธอไม่ได้หนักใจเลยในการมาดูแลเมริสา แต่กลับยิ่งสงสารคนที่เคยแย่งคนรักของเธอไปมากขึ้น และภาวนาให้เมริสาฟื้นความจำมาได้โดยเร็ว หญิงสาวปิดประตูห้องนั่งเล่นที่มักพาเมริสามาพักผ่อนและอ่านหนังสือดูหนังด้วยกันอย่างเบามือแล้วกลับเข้าห้องตัวเองไปหยิบกล้องถ่ายรูปและสมุดสเกตภาพใส่กระเป๋าผ้าใบใหญ่เพื่อไปถ่ายรูปหรือบางทีหากเธอเจออะไรที่เป็นแรงบันดาลใจเธอก็อาจจะนั่งสเกตภาพเล่นๆ แก้เหงาได้“คุณท่านคะ พราวขออนุญาตไปเดินดูวิวรอบๆ รีสอร์ตได้ไหมคะ” หญิงสาวเดินออกมาที่ระเบียงกว้างซึ่งคุณมาลิสากับคุณมาร์คมานั่งอ่านหนังสือและคุยกันอยู่“ตามสบายเลยจ้ะหนูพราว เมรี่หลับแล้วหนูอยากจะไปไหนก็ไปเถอะ หรือจะเข้าไร่ก็ให้คนพาไปได้นะจ๊ะ” คุณมาลินีบอกอย่างอ่อนโยน“ฉันว่าหนูเลิกเรียกเราว่าคุณท่านดีกว่าไหม เรียกคุณลุงคุณป้า หรือคุณพ่อคุณแม่ก็ได้” คุณมาร์คเอ่ยพลางวางหนังสือพิมพ์ลงมองหน้าหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าอย่างเอ็นดู“พราวไม่อาจเอื้อมหรอกค่ะคุณท่าน”“เถอะน่า หนูเป็นเพื่อนเมรี่ก็เหมือนเป็นลูกสาวเรา เรียกคุณพ่อคุณแม่เถ
ตอนที่17.หญิงสาวพูดใส่หน้าเขาทั้งพยายามสะบัดข้อมือเล็กออกจากอุ้งมือหนาทั้งพยายามขืนตัวออกให้ห่างจากเขาด้วยความโกรธไม่แพ้กัน“คิดว่าฉันอยากจะแตะเธอรึไงยายตัวแสบเอ๊ย อย่าสำคัญตัวเองนักเลย”“งั้นก็ปล่อยเขาสิ จะจับไว้ทำไม... ว้าย...” ไม่ทันที่เธอจะได้ตอบโต้กับเขาในขณะที่เธอกำลังจะบัดตัวนั้นเขาก็ปล่อยมือทันทีจนร่างเล็กเซถลาล้มไม่เป็นท่าก้นกระแทกพื้นจังๆ“เป็นไงล่ะแม่คนเก่ง อยากให้ปล่อยฉันก็ปล่อยแล้วนะจะมาว่าฉันรังแกเธอไม่ได้นะ หึหึ...” ชายหนุ่มหัวเราะร่วนเมื่อเห็นท่าทางคลำก้นป้อยๆ ทั้งหน้าตาเหยเกของเธอ“คุณ... คนบ้า รังแกผู้หญิง...”พราวแสงแขทั้งเจ็บทั้งจุกจนพูดน้ำตาแทบเล็ด มองเขาด้วยความเจ็บใจมือน้อยกำหญ้าข้างกายแล้วดึงขึ้นปาใส่เขาอย่างฉุนเฉียวโดยไม่นึกเกรงกลัวเขาสักนิด“โอ๊ย.. ยายเด็กบ้าฉันเปื้อนหมดแล้ว หยุดนะ... บอกให้หยุด”แมทธิวกระโดดหลบหญ้าที่เธอปาใส่พัลวัน เจ้าม้าหนุ่มที่เขาจูงมาซึ่งกำลังเล็มหญ้าอยู่ไม่ไกลเห็นท่าทางของเจ้านายหนุ่มก็ทำเสียงฮี่ๆ เหมือนหัวเราะสนุกสนานทำให้แมทธิวหันไปค้อนเจ้าม้าหนุ่มนามว่า ไทเกอร์ อย่างหมั่นไส้“แกหัวเราะฉันเหรอไทเกอร์...” แมทธิวทำท่าขึงขังใส่เจ้าม้าที
ตอนที่18.“มีอะไร” ถามเสียงเข้มหน้าตาก็เคร่งขรึมไปด้วยอย่างรักษาท่าทีไว้ทั้งทีในใจนั้นระแวงรอยยิ้มหวานๆ นั้นไม่น้อย“เป็นนายแบบให้หน่อยสิคะคุณแมท” พราวแสงแขทำเสียงอ่อยพร้อมทั้งทำตาปริบๆ มองเขา“ห๊ะ เธอจะให้ฉันนี่นะเป็นนายแบบให้ ขอมากเกินไปรึเปล่า ค่าตัวแพงนะจะบอกให้”“โธ่เอ๊ย แค่นี้ทำงกไปด้วย น่านิดเดียวรูปเดียวเอง นะคะๆ ...” พราวแสงแขต่อรองเสียงหวานจนแมทธิวนึกเอ็นดูแต่ก็เก๊กท่าขรึมเข้มเอาไว้“โอเคๆ ก็ได้ แค่รูปเดียวนะ”“โอเค้ งั้นยืนตรงนี้นะคะ ตรงนี้ๆ” เธอรับคำเสียงสูงพลางกำกับให้เขายืนตรงที่เธอต้องการจนเป็นที่พอใจเจ้าหล่อนก็กดชัตเตอร์ถ่ายรูปไปหนึ่งครั้งและสองครั้งสามครั้งตามมาเพราะไม่ได้ดังใจเมื่อนายแบบเอาแต่ยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าเดียว“คุณแมทธิวคะกรุณา ช่วยทำหน้าให้ดีๆ หน่อยได้ไหมคะ ยิ้มๆ อ่อนโยนๆ หน่อยค่ะ นี่ถ่ายแบบท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามนะคะไม่ใช่กลางสมรภูมิสงครามโลก...” หญิงสาวเท้าสะเอวหน้ามุ่ยใส่เขา“เธอนี่เรื่องมากจริง ฉันทำเป็นแค่หน้าแบบนี้ ตกลงจะถ่ายมั้ย”“ก็ได้ๆ งั้นอีกรูปเดียว คุณช่วยถอยไปตรงนั้นนิดสิคะ ไม่ใช่ๆ ตรงนั้นๆ ยังไม่พอ ถอยอีกๆๆ นั่นล่ะ ไม่ๆ ถอยไปอีกนิด” พราวแสงแขร
ตอนที่18.“มีอะไร” ถามเสียงเข้มหน้าตาก็เคร่งขรึมไปด้วยอย่างรักษาท่าทีไว้ทั้งทีในใจนั้นระแวงรอยยิ้มหวานๆ นั้นไม่น้อย“เป็นนายแบบให้หน่อยสิคะคุณแมท” พราวแสงแขทำเสียงอ่อยพร้อมทั้งทำตาปริบๆ มองเขา“ห๊ะ เธอจะให้ฉันนี่นะเป็นนายแบบให้ ขอมากเกินไปรึเปล่า ค่าตัวแพงนะจะบอกให้”“โธ่เอ๊ย แค่นี้ทำงกไปด้วย น่านิดเดียวรูปเดียวเอง นะคะๆ ...” พราวแสงแขต่อรองเสียงหวานจนแมทธิวนึกเอ็นดูแต่ก็เก๊กท่าขรึมเข้มเอาไว้“โอเคๆ ก็ได้ แค่รูปเดียวนะ”“โอเค้ งั้นยืนตรงนี้นะคะ ตรงนี้ๆ” เธอรับคำเสียงสูงพลางกำกับให้เขายืนตรงที่เธอต้องการจนเป็นที่พอใจเจ้าหล่อนก็กดชัตเตอร์ถ่ายรูปไปหนึ่งครั้งและสองครั้งสามครั้งตามมาเพราะไม่ได้ดังใจเมื่อนายแบบเอาแต่ยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าเดียว“คุณแมทธิวคะกรุณา ช่วยทำหน้าให้ดีๆ หน่อยได้ไหมคะ ยิ้มๆ อ่อนโยนๆ หน่อยค่ะ นี่ถ่ายแบบท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามนะคะไม่ใช่กลางสมรภูมิสงครามโลก...” หญิงสาวเท้าสะเอวหน้ามุ่ยใส่เขา“เธอนี่เรื่องมากจริง ฉันทำเป็นแค่หน้าแบบนี้ ตกลงจะถ่ายมั้ย”“ก็ได้ๆ งั้นอีกรูปเดียว คุณช่วยถอยไปตรงนั้นนิดสิคะ ไม่ใช่ๆ ตรงนั้นๆ ยังไม่พอ ถอยอีกๆๆ นั่นล่ะ ไม่ๆ ถอยไปอีกนิด” พราวแสงแขร
ตอนที่19.“หากฉันทำให้คุณโกรธ ฉันขอโทษ... ปละ ปล่อย... อุ๊ย...” เสียงหวานที่ทัดทานหายไปในลำคอเมื่อริมฝีปากสาวถูกครอบครองด้วยริมฝีปากหยักได้รูปร้อนผ่าวที่เบียดบดคลึงเคล้าซอกซอนหาความหวานจากโพรงปากสาวอย่างห้ามใจไม่ไหวกับความเย้ายวนตรงหน้าที่แม้เธอไม่ได้ยั่วเขา แต่เขาก็ร้อนเร่าขึ้นมาอย่างง่ายดายแมทธิวลูบไล้กายเล็กบอบบางแต่อวบอิ่มเต็มตึงในบางส่วนด้วยความพอใจหลงใหลไปกับความเย้ายวนของเธออย่างง่ายดาย ในขณะที่พราวแสงแขเองก็เคลิบเคลิ้มเผลอไผลไปกับจุมพิตที่สนิทเสน่หาของเขา มือบางที่ผลักไสในคราแรกวางบนอกแกร่งและลูบไล้แผงอกกว้างของเขาอย่างลืมตัว ลิ้นเล็กที่ไม่ประสาก็ตวัดตอบโต้เรียวลิ้นร้อนของเขาอย่างน่ารักแม้จะเงอะงะไปบ้างแต่ก็ทำให้แมทธิวพอใจอย่างที่สุด มือใหญ่ร้อนผ่าวลูบไล้ไปตามสะเอวคอดเรื่อยไปยังก้นงามงอนกลมกลึง อีกข้างก็ลูบสอดไซ้เข้าไปใต้ชายเสื้อยืดสีหวานของเธอจนพบกับดอกบัวงามอวบอิ่มที่ผลิบานอยู่เหนือระดับน้ำซึ่งกระเพื่อมไหวจากกการขยับกายของทั้งสอง...“หวาน...” เสียงห้าวแหบพร่าไปกับความหวานละมุนแสนเย้ายวนของเธอ ทั้งมือร้อนที่กอบกุมทรวงสาวอวบใหญ่เกินตัวก็เคล้นคลึงความอวบอิ่มที่มีบราลูกไม้สีสวย
ตอนที่33.หญิงสาวเดินมานั่งบนขอบเตียงกว้างแล้วเขย่าร่างหนาเบาๆ แล้วก็พบว่าเขาตัวร้อนอยู่ไม่น้อย“อือ... อย่ามายุ่ง” คนป่วยพลิกกายหนีมือเล็กอย่างรำคาญแล้วนิ่วหน้าทำเสียงในลำคอเหมือนว่าเจ็บปวดมากใบหน้าคมเข้มครึ้มไปด้วยหนวดเคราที่ขึ้นหนาตาทั้งที่เมื่อวานมันเป็นเพียงตอเขียวๆ จาง เท่านั้น“คุณไม่สบายนะ ลุกมากินข้าวกินยาหน่อยสิคุณ”“บอกว่าอย่ายุ่ง” คราวนี้เสียงแหบห้าวดังขึ้น ดวงตาคมขยุกขยิกพยายามจะลืมมองคนที่บังอาจมาสั่งเขา“ไม่อยากมายุ่งด้วยเลย หากคนของคุณไม่ไปตามจิกฉันมาดูคุณเนี่ย ถ้ารู้ว่าจะดื้อด้านขนาดนี้ปล่อยให้ป่วยตายไปเลยดีกว่า”“พราว... เหรอ” เขาถามเสียงแหบดวงตาคมแดงก่ำหรี่ปรือดูน่าสงสารอยู่ไม่น้อย ร่างสูงพยายามยันกายลุกขึ้นทำให้ผ้าห่มที่คลุมกายหนาอยู่นั้นรั้งลงมากองอยู่ที่เอวสอบเผยให้เห็นแผงอกกว้างเปล่าเปลือยที่ประดับด้วยไรขนดกหนาประปรายที่ค่อยๆ ลับหายไปใต้ขอบผาห่ม พราวแสงแขหน้าร้อนผ่าวหายใจติดขัดขึ้นมาทันที “เฮ้ยๆ คุณๆ ไม่ต้องลุก นะ นั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ” หญิงสาวรีบห้ามเขาไว้เสียงสั่นเมื่อแมทธิวทำท่าว่าจะลุกขึ้น“เอ่อ.. คุณไม่สบายน่ะ เดี๋ยวฉันเอาข้าวต้มมาให้คุณ กินข้าวต้มแล้วก็กินยานอ
ตอนที่32.“สวัสดีครับ” แมทิวกล่าวทักทายพร้อมทั้งยกมือไหว้มารดาของพราวแสงแขอย่างนอบน้อม“ค่ะสวัสดีค่ะ” นางแขไขมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์จนพราวแสงแขรู้สึกอึดอัด“คือ นี่คุณแมทธิว เขาเป็นนายจ้างของพราวเองค่ะแม่ คือ เขา มาธุระที่กรุงเทพฯ พราวเลยขอติดรถเขามา”“อ้าว แล้วรถเขาจอดอยู่ตรงไหนล่ะลูก”“เอ่อ คือ...”“คือผมอยากลองนั่งแท็กซี่น่ะครับ ผมเลยให้พราวพานั่งแท็กซี่มาก่อนแล้วค่อยเรียกคนของผมเอารถมาส่งให้ที่นี่” พราวแสงแขไม่รู้จะตอบมารดาอย่างไรดีแต่แมทธิวก็เอ่ยแก้ข้อกังขาของนางด้วยภาษาไทยชัดเจนทำให้นางมองเขาอย่างชื่นชมส่วนพราวแสงแขก็ลอบถอนใจเบาๆ“อ้อ.. เหรอคะ ถ้าอย่านั้นอยู่ทานข้าวเย็นกันก่อนสิคะคุณ เอ้าพราวเอากระเป๋าไปเก็บสิลูก แล้วออกมาช่วยแม่ทำอาหารเลี้ยงแขก”“โธ่.. แม่ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณแมทธิวเขาไม่เหมือนเรา เขากินอาหารพื้นๆ อย่างเราไม่ได้หรอกค่ะแม่อย่าลำบากเลย” พราวแสงแขรีบขัดขึ้นเพราะไม่อยากให้เขาอยู่ที่นี่นานนัก “ไม่เป็นไรครับ ผมกินได้ กินอาหารพื้นๆ บ้างก็ดีครับ ผมชอบทานอาหารไทย โดยเฉพาะน้ำพริกปลาทูผมชอบมากเลยครับ”แมทธิวเองก็พูดขึ้นมาทันทีเช่นกัน นางแขไขมองลูกสาวทีมองเจ้านา
ตอนที่31.แต่เมื่อถึงจุดแตกหักและวายุได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาจึงทำให้เธอคิดอะไรได้หลายๆ อย่าง ที่สำคัญเธอก็เห็นหลุยส์ชัดเจนกว่าที่ผ่านมา เขาไม่ใช่ซอมบี้หรือผีดิบไร้ความรู้สึกเหมือนที่เธอเคยคิด... เขาแตกต่างจากที่เธอเห็นมาตลอด หลุยส์ทำให้ใจของเธอหวั่นไหวและอบอุ่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ... มันไม่จริงใช่ไหมที่เธอรู้สึกแบบนั้น เมริสาเฝ้าถามใจตนเองด้วยความหวั่นไหว...“คุณหนูลุกไหวไหมครับ” ชายหนุ่มหันมาถามทำให้เธอต้องรีบหลบสายตาเขาแล้วเสมองไปนอกห้องด้วยใจเต้นกระหน่ำและนึกแช่งชักเขาอยู่ในใจ...คนบ้า จะหันมาก็ไม่บอก เธอเกือบหลบสายตาเขาไม่ทันแน่ะ... “ไม่หิว...” เสียงหวานแผ่วเบาแต่ห้วนจัดด้วยความฉุนเฉียวปิดไม่มิด ที่ว่าฉุนเฉียวนั่นก็เพราะเธอโมโหตนเองต่างหากล่ะ“คุณหนูกินอะไรหน่อยนะครับ นิดเดียวก็ยังดี ถ้าคุณหนูกินเองไม่ไหวผมป้อนให้ก็ได้”หลุยส์พูดกับเธออย่างนุ่มนวลแล้วเดินมานั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงมองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน เมริสายิ่งใจสั่นมือไม้พานสั่นไปด้วยและทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ยิ่งเห็นหน้าเขาใกล้ๆ แบบนี้ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าเขาหล่อเหลาไม่แพ้พี่ชายของเธอ ก่อนหน้านี้ทำไมเธอไม่เคยเห็นนะ...“อุ
ตอนที่30.พราวแสงแขรู้สึกสงสารหลุยส์ที่ทำได้เพียงเฝ้ามองหญิงสาวที่ตนเองแอบรักโดยไม่อาจจะทำอะไรได้มากกว่านั้น แม้หลุยส์จะช่วยดูแลเมริสาอย่างดี แต่หากไม่มีตัวช่วยหลุยส์ก็คงไม่มีโอกาสบอกความในใจของตนให้ใครรับรู้ และเมริสาก็อาจจะได้พบผู้ชายดีๆ มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี แต่พราวแสงแขก็ได้แต่หวังว่าความหวังดีของเธอจะทำให้เมริสาหายป่วยและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ...ทางด้านเมริสานั้นมองประตูที่ปิดลงอย่างฉุนเฉียว เธอเริ่มรู้สึกตัวและจดจำอะไรได้เหมือนเดิมแล้ว แต่ยังไม่อยากบอกให้ใครรู้จึงแกล้งเป็นคนป่วยที่ความจำเสื่อมอยู่ แต่พราวแสงแขก็ฉลาดและจับผิดเธอได้ เธอรู้สึกเสียหน้าและโกรธอยากอาละวาดแต่เพราะลึกๆ ในใจนั้นยังคงเจ็บปวดไม่หายและยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับใคร จึงต้องสั่งให้พราวแสงแขช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แต่พราวแสงแขก็มักกวนประสาทเธออยู่เสมอเมริสาถอนใจหนักๆ แล้วหันไปมองทิวทัศน์ด้านนอกอย่างครุ่นคิด เธอพบว่าช็อกไปเล็กน้อยเมื่อพบเจอหน้าพราวแสงแขและเมื่อรู้ว่าพราวแสงแขมาดูแลเธอก็ยิ
ตอนที่29.“ถ้าหากผมจะบอกว่าผมรักผู้หญิงคนหนึ่งมาก มากเท่าชีวิตแล้วผมจะขอดูแลเธอตลอดไป คุณแมทจะยอมยกเธอคนนั้นให้ผมรึเปล่า...” ชายหนุ่มหน้าหม่นลงทันทีเมื่อคิดว่า สิ่งที่เขาคาดหวังมันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน...ทางด้านพราวแสงแขที่เดินขึ้นเรือนมาเธอไม่ได้ตรงไปยังห้องของตนเองแต่เธอไปที่ห้องของเมรี่เพราะนี่จะได้เวลาที่เมริสาตื่นมารับประทานอาหารกลางวันและยาหลังอาหารแล้วนั่นเอง พราวแสงแขมองดูหญิงสาววัยเดียวกันกับตนเองที่กำลังลืมตามองเพดานนิ่งด้วยความรู้สึกที่อึดอัดเมื่อเธอรู้ดีว่าเมริสานั้นหายจากอาการซึมเศร้ามาสักระยะแล้วแต่เมริสาก็ยังให้เธอเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและไม่ยอมบอกความจริงเรื่องที่เกิดในวันนั้นกับใคร“เมรี่...” เธอเรียกเบาๆ ทำให้เมริสาหันมามองเธอด้วยแววตาไม่พอใจ“ได้ข่าวว่าเธอจะกลับบ้าน เธอจะทิ้งฉันเหรอ...”“เปล่า ฉันแค่คิดถึงแม่ แค่อยากกลับไปเยี่ยมแม่บ้างก็เท่านั้น แค่สามวันแล้วฉันจะกลับมา” พราวแสงแขบอกพลางเดินมานั่งที่เก
ตอนที่28.ทางด้านวายุที่กำลังทำงานหนักอยู่กลางแดดร้อนเริ่มจะทนในสภาพที่ตนเองอยู่ไม่ไหวเขาจึงคิดหาทางหนีออกไปจากไร่และคิดจะไปแจ้งความเอาผิดแมทธิวที่ทำกับตนแบบนี้ ดวงตายาวรีหลุกหลิกสังเกตการณ์รอบกายเมื่อเห็นว่าวันนี้ปลอดคนเขาจึงค่อยๆ เดินไปที่ถังน้ำทำทีว่าจะไปดื่มน้ำแก้กระหาย ชายหนุ่มยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเฝ้ามองดูว่าเมื่อไหร่อาคมจะเข้าเมืองไปเสียที เพราะเขาได้ยินว่าวันนี้อาคมจะเข้าเมืองไปซื้อของมาให้เหล่าคนงานและซื้อหาอาหารมาให้แม่บ้านของไร่ทำอาหารเลี้ยงคนงาน ซึ่งบ้านของคนงานจะอยู่ท้ายไร่ซึ่งติดกับชายป่าแต่ก็มีรั้วรอบขอบชิดอย่างดี แปลงสตรอว์เบอร์รี่และชาที่กำลังเติบโตแตกยอดอ่อนบวกกับบรรยากาศที่สดชื่นเขียวขจีทำให้ที่นี่งดงามน่าเที่ยวชมแต่สำหรับวายุแล้วที่นี่เหมือนนรกสำหรับเขา เขาจะต้องหนีไปให้ได้...เมื่อเห็นว่าอาคมขับรถกระบะเก่าๆ ออกไปจากไร่แล้ววายุก็รีบเดินไปยังที่ที่เขาแอบเก็บอุปกรณ์บางอย่างไว้แล้วนำมันออกมาจากที่ซ่อน มันคือแท่งเหล็กแหลมๆ จากเศษอะไรสักอย่างที่เขาอุตส่าห์แอบหยิบมาจากกล่องเครื่องมือช่างของอาคมนั่นเอง ซึ่งเขาจะใช้มั
ตอนที่27.“จะยั่วกันจริงๆ หรือนี่... ขอบอกก่อนนะว่าฉันไม่กล้าทำอะไรเธอที่นี่หรอก”คำพูดขอเขาทำให้คนที่ตกอยู่ในภวังค์หวามกะพริบตาปริบๆ มองเขาอย่างมึนงงแล้วก็ต้องหน้าแดงซ่านเมื่อเห็นว่าเธอกำลังเกยทับอยู่บนร่างแกร่งของเขาด้วยท่วงท่าน่าหวาดเสียวซ้ำเสื้อยืดตัวเล็กที่สวมอยู่ก็ร่นมาถึงเนินอก พราวแสงแขรีบผละออกจากร่างแกร่งอย่างรวดเร็วแล้วลนลานดึงเสื้อลงทันทีด้วยท่าทางเงอะงะขัดเขินเต็มกำลัง ความหวามไหวซ่านทรวงเมื่อครูพลันหายวับไปเหลือไว้เพียงความอดสูในใจที่เธอเผลอปล่อยตัวปล่อยใจให้เขากอดจูบเหมือนสาวแรงสูงไร้ยางอายอีกแล้ว...“คนทุเรศ ปากเสีย...” เมื่อถอยร่นห่างเขามาได้กว่าช่วงแขนหญิงสาวก็แหวใส่คนตัวโตที่มองเธอด้วยสายตาพราวพรายเหมือนจะยั่วเย้าให้เธอได้อาย“หึหึ มาเอาคืนไปสิสมุดสเกตภาพของเธอน่ะ...”เขาก้มลงไปหยิบสมุดสเกตภาพที่ตกอยู่ตรงหน้าของตนมายืนให้เธอด้วยท่าทางยียวน พราวแสงแขมองสิ่งที่อยู่ในมือเขาอย่างลังเลก่อนจะอาศัยความเร็วที่มีไม่แพ้ใครปรี่เข้าไปคว้าสมุดในมือเขาแล้ววิ่งออกไปจากห้องนั่งเล่
ตอนที่26.หญิงสาวแหวเสียงเขียวทั้งพยายามยื้อแย่งของของตนคืนมาแต่แมทธิวก็เหมือนแกล้งเมื่อเขาชูมันขึ้นสูงซึ่งเขาสูงกว่าเธอมากอยู่แล้วมันจึงสูงมากขึ้นไปอีกจนพราวแสงแขต้องกระโดดเหยงๆ เหมือนเด็กตัวเล็กๆ ถูกเด็กตัวโตจอมเกเรรังแกไม่มีผิด“เอ... ภาพนี้ดูลายเส้นแข็งไปนะ”เขาพูดพลางเปิดกระดาษไปทีละหน้าในขณะที่หมุนกายสูงใหญ่หนีการยื้อแย่งจากเธอ“แล้วภาพนี้ก็ดูแสงเงาก็ดูบางเบาไป ส่วนภาพนี้เค้าโครงหน้าคุ้นๆ นะ ใครน่ะ ดูท่าทางจะหล่อไม่เบา” เขาถามขณะเปิดดูภาพไปเรื่อยๆ อย่างอารมณ์ดีในขณะที่พราวแสงแขที่กระโดดแย่งสมุดภาพในมือของเขาเริ่มเหนื่อยและเริ่มฉุนจัด“เอาของเขาคืนมานะ คนบ้า รังแกคนไม่มีทางสู้”“แน่จริงก็แย่งให้ได้สิ” แมทธิวหันมายิ้มล้อเลียนเธอซึ่งรอยยิ้มทะเล้นๆ ทำให้ใบหน้าที่ดุดันเรียบเฉยอยู่เสมอของเขาดูอ่อนโยนลงจากหนุ่มมาดเข้มกลายเป็นชายหนุ่มหน้าทะเล้นขี้เล่น ที่สำคัญมันทำให้ตาของพราวแสงแขพร่าไปกับภาพเทพบุตรจอมกวนตรงหน้า“แน่จริงก็อย่าชูขึ้นสูงสิ ฉันตัว
ตอนที่25.“ลูกน้องกูรายงานว่ามึงไม่ยอมทำงาน”“กูไม่ทำ กูไม่ใช่ขี้ข้ามึง ปล่อยกูออกไปเดี๋ยวนี้เลยไอ้พวกหมาหมู่”วายุเกาะกรงเหล็กที่เริ่มร้อนขึ้นเพราะตะวันดวงใหญ่เริ่มเคลื่อนคล้อยมาอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้จะตรงศีรษะเข้ามาทุกทีๆ ในขณะที่แมทธิวยืนไขว้ขาเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงพิงเสาต้นใหญ่จากไม้สักทองทั้งต้นมองวายุอย่างสบายใจไม่เดือดร้อนกับแดดที่แผดจ้าอยู่นอกชายคาบ้าน“มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ ถึงได้มาสั่งกูไอ้วายุ ที่กูมีเมตตาให้มึงยังมีลมหายใจอยู่นี่ก็บุญหัวเน่าๆ ของมึงแล้ว อีกอย่างกูยังไม่ได้คำตอบที่แท้จริงจากปากมึงและเมรี่ก็ยังไม่ฟื้นความทรงจำ มึงจะรอดหากว่าเมรี่บอกว่าเรื่องทั้งหมดมึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถ้ามึงคือคนที่ทำให้น้องสาวกูเหมือนตายทั้งเป็น มึงเตรียมตัวขุดหลุมฝังตัวเองได้เลย อ้อ.. หากกูไม่ได้แหวนน้องสาวกูคืนมึงก็ตายเหมือนกัน...”“แต่กูร้อน กูไม่ใช่หมูไม่ใช่หมานะเว้ย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้”แม้อยู่ในฐานะที่ด้อยกว่าและยังมีชนักปักหลัง แต่วายุก็ยังไม่ลดลาความหยิ่งจ