เมื่อหมดความอดทนพราวแสงแขก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวและเปิดประตูจะลงไปจากรถแต่ในขณะที่เธอกำลังจะวาดขาก้าวลงไปมือแข็งแรงก็เอื้อมมาดึงประตูปิดทันทีและการที่เขาเอื้อมมือมานั้นทำให้แขนแกร่งของแมทธิวนั้นเฉียวผ่านทรวงสาวอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดสวยและในช่วงที่เขาเอี้ยวตัวกลับแล้วหันหน้ามามองคนตัวเล็กที่นั่งตัวเกร็งนั่งอยู่กับที่ด้วยความตระหนกนั้นปลายจมูกโด่งของเขาก็ปัดถูกปลายจมูกรั้นของเธอเบาๆ ซึ่งในจังหวะนี้เองทำให้ทั้งคู่ประสานสายตากันอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง...
เหมือนมีกระแสไฟฟ้านับหมื่นๆ โวลต์แล่นพล่านไปทั้งร่าง พราวแสงแขนั่งนิ่งกลั้นหายใจจนรู้สึกว่าแทบขาดอากาศหายใจจึงค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ และแผ่วเบาที่สุดทั้งหัวใจก็เต้นกระหน่ำดังกึกก้องจนกลัวว่าอีกคนจะได้ยินเสียงหัวใจเธอเต้น ซึ่งความรู้สึกที่พราวแสงแขมีนั้นไม่ได้แตกต่างจากแมทธิวเลยแม้แต่น้อย พราวแสงแขรู้สึกว่าลำคอและริมฝีปากของตนนั้นแห้งผากจนต้องแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของตนช้าๆ ด้วยความรู้สึกหวั่นไหวใจสั่นหวิวๆ เหมือนคนจะเป็นลมเสียอย่างนั้นแต่เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอนั้นมันทำให้คนตัวโตหน้าดุหมดความอดทนอดกลั้นกับอารมณ์ความรู้สึกบางอย่าง...
“คะ คุณ ถะ ถอย... อุ๊บส์...” เสียงใสที่กำลังจะประท้วงเขาหายไปในลำคอเมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาทาบลงมาปิดริมฝีปากอิ่มของเธอไว้อย่างรวดเร็วและฉวยโอกาสที่ปากอิ่มเผยอขึ้นสอดลิ้นร้อนเข้าไปดูดกระหวัดรัดร้อยเรียวลิ้นเล็กที่ไม่ประสาอย่างดูดดื่มเร่าร้อนมือหนาร้อนระอุไม่ต่างกันลูบไล้เรียวขาเสลาที่พ้นจากชายกระโปรงมาอย่างหลงใหลไปกับผิวเนื้อเนียนละมุนของเธอในขณะที่อุ้งมืออีกข้างเลื่อนไล้ไปตามชายโครงและทรวงสาวอวบอิ่มด้วยความเผลอไผลไปกับความนุ่มละมุนละไมของนวลเนื้อสาว กลิ่นกายหอมกรุ่นกลิ่นบางเบาเหมือนกลิ่นดอกไม้อะไรสักอย่างทำให้แมทธิวเคลิบเคลิ้มไปอย่างง่ายดาย
พราวแสงแขรู้สึกชาวูบไปทั้งกายเมื่อเจอการประชิดตัวแบบสนิทสนมเช่นนี้เพราะตั้งแต่เกิดมาจนเป็นสาวเต็มตัวไม่เคยสักครั้งที่ถูกชายหนุ่มจู่โจมด้วยความสนิทชิดเชื้อถึงเพียงนี้ หัวใจสาวเต้นรัวทั้งรู้สึกเหมือนมีกระแสความร้อนแล่นวูบวาบไปทั้งกายและเหมือนมีลมพายุหมุนวนอยู่ในช่องท้องทั้งเบาโหวงและหนักหน่วงจนสับสนไปหมดแต่ที่เธอรู้สึกได้ชัดเจนที่สุดคือ หัวใจเธอเต้นแรงมากจนกลัวว่ามันจะทะลุอกออกมา...
ในขณะเดียวกันสำหรับแมทธิวแล้วความหอมหวานจากโพรงเรียวปากสาวทำให้เขารู้สึกมึนเมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนทั้งความหอมละมุนจากเรือนกายสาวที่เขาได้สัมผัสยิ่งทำให้เขารุมร้อนได้อย่างไม่น่าเชื่อ และที่ไม่น่าเชื่อมากกว่านั้นก็คือตัวเล็กตรงหน้านั้นไม่ได้ เล็ก อย่างที่คิดไว้ พราวแสงแขซ่อนความอวบอิ่มแห่งวัยสาวไว้ได้อย่างแนบเนียนลวงตาจนคนมองผ่านเลยและเขาก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น จนวินาทีนี้ที่เขาได้สัมผัสกับมือเขาถึงได้รู้ว่าเขาประเมินเธอต่ำไป...
แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกฉุนเฉียวมากก็คงจะเป็นความรุ่มร้อนที่จู่โจมเข้าสู่หัวใจแกร่งของเขาให้หวั่นไหวนั่นเอง เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่รู้สึกหวั่นไหวไปกับความหอมหวานของเธอ เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ร้อนรุ่มปวดหนึบไปทั้งกายชายจนอยากจะกระชากเสื้อผ้าของเธอออกแล้วฝากฝังแก่นกายแกร่งกับกายสาวอ่อนไหวเสียเดี๋ยวนั้น เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
“พระเจ้า... ให้ตายเถอะยายจิ๋วหน้าจืด ยายตัวแสบ...” แมทธิวถอนปากออกมาอย่างแสนเสียดายดวงตาคมหลุบมองใบหน้าแดงก่ำของ ยายจิ๋วตัวแสบ ที่เขาตั้งฉายาให้เธอใหม่ด้วยความสับสนกับอารมณ์ของตนเอง ยิ่งเธอหลับตาพริ้มเผยอริมฝีปากด้วยความลืมตัวเช่นนี้เขายิ่งร้อนระอุอยากจะทำอะไรมากกว่าจูบเธอ...
“จะอ่อยฉันอีกนานไหม” เสียงห้าวเต็มไปด้วยความฉุนเฉียวที่เจ้าตัวพยายามข่มใจดังขึ้นทำให้พราวแสงรีบลืมตาขึ้นเหมือนคนที่สะดุ้งตื่นจากฝันแสนหวาน ดวงตากลมโตเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตระหนกและอับอายในเวลาเดียวกัน
“ฉะ ฉัน... เปล่า นะ...” หญิงสาวพูดตะกุกตะกักพลางขยับถอยร่นไปติดประตูรถอย่างรวดเร็วในขณะที่แมทธิวก็ขยับไปนั่งที่คนขับแล้วขยับเสื้อผ้าของตนเองเล็กน้อยก่อนจะปรายตามองคนที่กำลังลูบผมเผ้าและเสื้อผ้าของตนเองอย่างเงอะๆ เงิ่นๆ ดูลนลาน
“นี่เป็นการลงโทษเล็กๆ น้อยๆ กับคนที่ขัดใจ ขัดคำสั่งของฉัน... ถ้าเธอฉลาดหรือไม่อยากให้ฉันคิดว่าเธออ่อยฉันล่ะก็ อย่าขัดใจฉัน ฉันสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำตามนั้น... เข้าใจใช่ไหมพราวแสงแข”
คำพูดของเขาทำให้พราวแสงแขอึ้งอีกครั้งกับความเอาแต่ใจและความปากร้ายปากจัดของเขา หญิงสาวหันมามองเขาตาเขียวในขณะที่ชายหนุ่มขับรถต่อไปด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่เมื่อครู่เขาจูบเธออย่างเร่าร้อน...
แมทธิวปรายตามองคนตัวเล็กที่นั่งคอแข็งมองข้างทางด้วยความฉุนเฉียวด้วยความรู้สึกหลากหลายและสับสนไม่แพ้กัน เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตาใสๆ ซื่อๆ ดูอ่อนหวานเรียบร้อยอย่างเจ้าหล่อนจะเป็นคนที่ซ่อนความอวบอิ่มเร้าใจไว้อย่างแนบเนียนซ้ำเธอยังไม่ได้เป็นหญิงสาวที่เรียบร้อยอ่อนต่อโลกเหมือนท่าทางของเธอด้วย แต่พราวแสงแขคือแม่เสือที่ซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ดีๆ นี่เอง ไม่ว่าจะเป็นแม่เสือสาวที่เร่าร้อนหรือแม่เสือสาวจอมดุที่พร้อมจะสู้กับเขาอย่างไม่ยอมแพ้และไม่ยอมลงให้เขาง่ายๆ จากที่เธอขึ้นเสียงใส่เขาเถียงเขาฉอดๆ อย่างไม่เกรงกลัวนั่นทำให้แมทธิวรู้ได้ทันทีว่าเจ้าหล่อนคงดื้อรั้นใช่เล่น ที่สำคัญเธอทำให้เขารุ่มร้อนปวดร้าวไปทั้งแก่นกายได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องยั่วยวนเขาแม้แต่น้อย...
“ยายจิ๋วตัวแสบ...” แมทธิวครางในลำคอเบาๆ พร้อมกับฉายาของเธอที่ทำให้เขาอมยิ้มพร้อมกับฉุนเฉียวร้อนรุ่มได้ในเวลาเดียวกัน... นี่เขาคงบ้าไปแล้วจริงๆ
สองหนุ่มสาวต่างอยู่ในความคิดของตนเองจนรถยนต์คันหรูมาจอดที่หน้าบ้านหลังน้อยของพราวแสงแขและเมื่อถึงบ้านเธอก็รีบเปิดประตูแล้ววิ่งเข้าบ้านไปทันที แมทธิวมองตามร่างเล็กที่วิ่งตื๋อเข้าบ้านไปเหมือนเด็กน้อยกลัวเพื่อนจอมเกเรแกล้งด้วยความขบขันก่อนจะขับรถกลับบ้านด้วยความชื่นมื่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...
ตอนที่12.“พราวจะต้องไปทำงานไกลขนาดนั้นเลยหรือลูก...” คุณแขไขถามบุตรสาวอย่างใจหายเมื่อรู้ว่างานใหม่ของลูกสาวนั้นต้องไปอยู่ต่างจังหวัดร่วมเดือนหรืออาจจะหลายเดือน...“ค่ะ เจ้านายพราวเขาต้องการคนดูแลลูกสาวเขาอย่างใกล้ชิดค่ะแม่ อีกอย่างค่าจ้างแพง พราวไม่ต้องเสียค่าที่พัก แถมยังได้ไปอยู่รีสอร์ตสวยๆ หรูๆ เงินเดือนก็เหลือเต็มๆ คิดดูสิคะคุ้มสุดๆ เลย”หญิงสาวยิ้มให้มารดาสดใสเริงรื่นกลบเกลื่อนความรู้สึกภายใน แต่เธอก็ไม่ได้โกหกนี่นาเพียงแต่ไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดว่านายจ้างเธอคือใคร และคิดว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรหากจะพูดถึงเหตุผลที่แท้จริงให้มารดารับรู้เพราะมันจะทำให้มารดาของเธอพลอยเป็นทุกข์ไปด้วยมากกว่า “เอาเถอะ อย่างน้อยๆ บรรยากาศดีๆ ลูกแม่ก็อาจจะเจออะไรดีๆ บ้าง เช่นว่า ได้หนุ่มเหนือนิสัยดีมาเป็นลูกเขยแม่” คุณแขไขพูดติดตลกซึ่งทำให้พราวแสงแขได้ยิ้มไปด้วยกับมุกของมารดา“โธ่.. แม่ขา พราวจะมีโอกาสได้เจอใครหรือเปล่าไปดูแลคนป่วยนะคะ คงไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอกค่ะ ยังไงพราวก็มีโอกาสเป็นสาวแก่ขึ้นคานเกาะแม่ไปจนตายล่ะค่ะ”“พูดดีไป ไม่ใช่พอไปถึงล่ะหนุ่มๆ เพียบจนลืมแม่ล่ะ” นางแขไขกล่าวยิ้มๆ ล้อบุตรสาวอย่างเอ
ตอนที่13.พราวแสงแขยอมรับว่าตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เธอก็ไม่ได้คิดว่าตนจะต้องมารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นนี้ แต่ที่ยอมรับงานนี้ก็เพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนและเพื่อมารดาของเธอเองหาได้เกรงกลัวผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ นี้ไม่...หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เตรียมตัวเตรียมใจเผชิญกับสิ่งที่เธอไม่อาจจะรู้ได้ว่ามีอะไรรออยู่ข้างหน้า แต่สิ่งที่เธอจะต้องทำคือเข้มแข็งและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ อุบัติเหตุ ระหว่างเมริสากับวายุ พราวแสงแขครุ่นคิดเรื่องต่างๆ ในใจโดยไม่สนใจคนที่นั่งมาข้างๆ แม้แต่น้อย... ในขณะเดียวกันแมทธิวเองก็ลอบพิจารณาคนข้างๆ เขาเงียบๆ ใบหน้าเรียวนวลใสไร้เครื่องสำอางที่ประดับด้วยเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มจะเรียกว่าสวยก็ไม่ใช่ จะว่าไม่สวยก็ไม่เชิงแต่ดวงตากลมโตซึ่งประดับด้วยขนตาดกหนายาวงอนเช้งราวตุ๊กตาของเธอนั้นโดดเด่นกว่าส่วนอื่นของใบหน้าทำให้ใบหน้าแสนธรรมดาของเธอดูน่ามองอย่างที่เขาไม่อาจจะปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้ หากเธอจะยิ้มแย้มแจ่มใสดวงตาของเธอคงจะเป็นประกายน่ามองกว่านี้เป็นไหนๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นคือความสงบนิ่งดูเย็นชาราวแม่ชีที่อยู
ตอนที่14.“แต่คนต้นเหตุอีกคนก็ยังอยู่นี่ครับ เธอจะต้องได้รับรู้บ้างว่าสิ่งที่เธอรวมหัวกันกับไอ้วายุทำร้ายเมรี่นั้นมันเลวร้ายแค่ไหน และเมรี่ต้องทุกข์ทรมานยังไงบ้าง ผมจะไม่มีวันปล่อยให้เธอเป็นสุขแน่ๆ หากอาการของน้องยังไม่ดีขึ้น...” ชายหนุ่มยืนยันด้วยน้ำเสียงและแววตามั่นคงจนผู้เป็นพ่อต้องถอนใจออกมาพรืดใหญ่“แมท... พ่อจะบอกว่าแมทต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรเป็นอะไรอีกอย่าง เรื่องนี้แม่หนูคนนั้นเขาไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย คนของเราต่างหากที่ไปวุ่นวายกับเขาแม้แต่ตอนที่เมรี่เจ็บปางตายหนูพราวเขาก็เป็นคนเรียกรถพยาบาลและคอยให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเมรี่อย่างละเอียด คนเกลียดกันเขาจะทำอย่างนี้มั้ย แมทอย่าเชื่อน้องมากเกินไป...”คุณมาร์คบอกเพียงแค่นั้นแล้วเดินเลี่ยงออกไปด้วยไม่รู้จะอธิบายให้บุตรชายเข้าใจได้อย่างไร ทำให้แมทธิวยืนคิดแค้นเคืองอยู่คนเดียว คนอย่างแมทธิวนั้นหัวรั้นและหากเชื่อมั่นอะไรแล้วก็เปลี่ยนความคิดเขาได้อยาก และที่สำคัญคุณมาร์คเชื่อว่าสิ่งที่แมทธิวได้ยินได้ฟังจากน้องสาวที่รักก่อนเกิดเรื่องนั้นมันได้ฝังในใจของเขาไปแล้วว่าพราวแสงแขคือส่วนหนึ่งของเหตุการณ์อันนำมาซึ่งความสูญเสียของเมริสาและเขาก็
ตอนที่15.พราวแสงแขกำลังจะเดินกลับเข้าห้องของตนเองซึ่งอยู่ติดกันกับห้องของเมริสาต้องชะงักเมื่อเจอยักษ์ตัวใหญ่ยืนจังก้าขวางทางด้วยท่าทางที่พราวแสงแขต้องนึกถึงผู้ร้ายในภาพยนตร์แนวมาเฟียเสียทุกทีไป...“เดี๋ยว...”“มีอะไรกับดิฉันคะ...”หญิงสาวเชิดหน้ามองเขาอย่างไว้ตัวแสดงให้เขาเห็นว่าเธอไม่ได้หงอให้เขาหรือเกรงกลัวเขาอย่างที่เขานึก คนอย่างพราวแสงแขดูเป็นคนอ่อนหวานเรียบร้อยก็จริง แต่เธอไม่ได้อ่อนแอหรือยอมให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ เหมือนเช่นแต่ก่อนอีกแล้ว“เธอไม่ควรรื้อฟื้นความหลังของน้องสาวฉันแบบนั้นนะ มันยิ่งตอกย้ำให้เมรี่เครียด” เสียงเข้มนั้นเหมือนตะคอกเสียมากกว่า“นี่คุณคะ... คุณรู้อะไรเกี่ยวกับคนป่วยแบบเมรี่บ้าง คุณรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเมรี่บ้างในช่วงที่เธอเริ่มเรียนมหาวิทยาลัย หรือคุณรู้อะไรบ้างว่าจะต้องทำยังไงนอกจากมาโวยวายๆ ใส่ฉันแบบนี้ หากคุณให้ฉันมาดูเมรี่คุณก็ควรจะปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นหน้าที่ของฉัน ถึงแม้ฉันจะไม่ได้เป็นหมอหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ฉันศึกษาข้อมูลมาบ้างแล้วว่าต้องทำยังไง หากคุณจะมาขัดแย้งนู่นไม่ได้ นี่ไม่ได้ ก็ไม่ต้องลากตัวฉันมาสิ...”คำตอบยืดยาวของพราวแสงแขทำเอาแมทธิวถึง
ตอนที่16.พราวแสงแขถอนหายใจเบาๆ เมื่อเมริสาหลับไปแล้วหลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันและยาตามที่แพทย์สั่ง เธอไม่ได้หนักใจเลยในการมาดูแลเมริสา แต่กลับยิ่งสงสารคนที่เคยแย่งคนรักของเธอไปมากขึ้น และภาวนาให้เมริสาฟื้นความจำมาได้โดยเร็ว หญิงสาวปิดประตูห้องนั่งเล่นที่มักพาเมริสามาพักผ่อนและอ่านหนังสือดูหนังด้วยกันอย่างเบามือแล้วกลับเข้าห้องตัวเองไปหยิบกล้องถ่ายรูปและสมุดสเกตภาพใส่กระเป๋าผ้าใบใหญ่เพื่อไปถ่ายรูปหรือบางทีหากเธอเจออะไรที่เป็นแรงบันดาลใจเธอก็อาจจะนั่งสเกตภาพเล่นๆ แก้เหงาได้“คุณท่านคะ พราวขออนุญาตไปเดินดูวิวรอบๆ รีสอร์ตได้ไหมคะ” หญิงสาวเดินออกมาที่ระเบียงกว้างซึ่งคุณมาลิสากับคุณมาร์คมานั่งอ่านหนังสือและคุยกันอยู่“ตามสบายเลยจ้ะหนูพราว เมรี่หลับแล้วหนูอยากจะไปไหนก็ไปเถอะ หรือจะเข้าไร่ก็ให้คนพาไปได้นะจ๊ะ” คุณมาลินีบอกอย่างอ่อนโยน“ฉันว่าหนูเลิกเรียกเราว่าคุณท่านดีกว่าไหม เรียกคุณลุงคุณป้า หรือคุณพ่อคุณแม่ก็ได้” คุณมาร์คเอ่ยพลางวางหนังสือพิมพ์ลงมองหน้าหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าอย่างเอ็นดู“พราวไม่อาจเอื้อมหรอกค่ะคุณท่าน”“เถอะน่า หนูเป็นเพื่อนเมรี่ก็เหมือนเป็นลูกสาวเรา เรียกคุณพ่อคุณแม่เถ
ตอนที่17.หญิงสาวพูดใส่หน้าเขาทั้งพยายามสะบัดข้อมือเล็กออกจากอุ้งมือหนาทั้งพยายามขืนตัวออกให้ห่างจากเขาด้วยความโกรธไม่แพ้กัน“คิดว่าฉันอยากจะแตะเธอรึไงยายตัวแสบเอ๊ย อย่าสำคัญตัวเองนักเลย”“งั้นก็ปล่อยเขาสิ จะจับไว้ทำไม... ว้าย...” ไม่ทันที่เธอจะได้ตอบโต้กับเขาในขณะที่เธอกำลังจะบัดตัวนั้นเขาก็ปล่อยมือทันทีจนร่างเล็กเซถลาล้มไม่เป็นท่าก้นกระแทกพื้นจังๆ“เป็นไงล่ะแม่คนเก่ง อยากให้ปล่อยฉันก็ปล่อยแล้วนะจะมาว่าฉันรังแกเธอไม่ได้นะ หึหึ...” ชายหนุ่มหัวเราะร่วนเมื่อเห็นท่าทางคลำก้นป้อยๆ ทั้งหน้าตาเหยเกของเธอ“คุณ... คนบ้า รังแกผู้หญิง...”พราวแสงแขทั้งเจ็บทั้งจุกจนพูดน้ำตาแทบเล็ด มองเขาด้วยความเจ็บใจมือน้อยกำหญ้าข้างกายแล้วดึงขึ้นปาใส่เขาอย่างฉุนเฉียวโดยไม่นึกเกรงกลัวเขาสักนิด“โอ๊ย.. ยายเด็กบ้าฉันเปื้อนหมดแล้ว หยุดนะ... บอกให้หยุด”แมทธิวกระโดดหลบหญ้าที่เธอปาใส่พัลวัน เจ้าม้าหนุ่มที่เขาจูงมาซึ่งกำลังเล็มหญ้าอยู่ไม่ไกลเห็นท่าทางของเจ้านายหนุ่มก็ทำเสียงฮี่ๆ เหมือนหัวเราะสนุกสนานทำให้แมทธิวหันไปค้อนเจ้าม้าหนุ่มนามว่า ไทเกอร์ อย่างหมั่นไส้“แกหัวเราะฉันเหรอไทเกอร์...” แมทธิวทำท่าขึงขังใส่เจ้าม้าที
ตอนที่18.“มีอะไร” ถามเสียงเข้มหน้าตาก็เคร่งขรึมไปด้วยอย่างรักษาท่าทีไว้ทั้งทีในใจนั้นระแวงรอยยิ้มหวานๆ นั้นไม่น้อย“เป็นนายแบบให้หน่อยสิคะคุณแมท” พราวแสงแขทำเสียงอ่อยพร้อมทั้งทำตาปริบๆ มองเขา“ห๊ะ เธอจะให้ฉันนี่นะเป็นนายแบบให้ ขอมากเกินไปรึเปล่า ค่าตัวแพงนะจะบอกให้”“โธ่เอ๊ย แค่นี้ทำงกไปด้วย น่านิดเดียวรูปเดียวเอง นะคะๆ ...” พราวแสงแขต่อรองเสียงหวานจนแมทธิวนึกเอ็นดูแต่ก็เก๊กท่าขรึมเข้มเอาไว้“โอเคๆ ก็ได้ แค่รูปเดียวนะ”“โอเค้ งั้นยืนตรงนี้นะคะ ตรงนี้ๆ” เธอรับคำเสียงสูงพลางกำกับให้เขายืนตรงที่เธอต้องการจนเป็นที่พอใจเจ้าหล่อนก็กดชัตเตอร์ถ่ายรูปไปหนึ่งครั้งและสองครั้งสามครั้งตามมาเพราะไม่ได้ดังใจเมื่อนายแบบเอาแต่ยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าเดียว“คุณแมทธิวคะกรุณา ช่วยทำหน้าให้ดีๆ หน่อยได้ไหมคะ ยิ้มๆ อ่อนโยนๆ หน่อยค่ะ นี่ถ่ายแบบท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามนะคะไม่ใช่กลางสมรภูมิสงครามโลก...” หญิงสาวเท้าสะเอวหน้ามุ่ยใส่เขา“เธอนี่เรื่องมากจริง ฉันทำเป็นแค่หน้าแบบนี้ ตกลงจะถ่ายมั้ย”“ก็ได้ๆ งั้นอีกรูปเดียว คุณช่วยถอยไปตรงนั้นนิดสิคะ ไม่ใช่ๆ ตรงนั้นๆ ยังไม่พอ ถอยอีกๆๆ นั่นล่ะ ไม่ๆ ถอยไปอีกนิด” พราวแสงแขร
ตอนที่18.“มีอะไร” ถามเสียงเข้มหน้าตาก็เคร่งขรึมไปด้วยอย่างรักษาท่าทีไว้ทั้งทีในใจนั้นระแวงรอยยิ้มหวานๆ นั้นไม่น้อย“เป็นนายแบบให้หน่อยสิคะคุณแมท” พราวแสงแขทำเสียงอ่อยพร้อมทั้งทำตาปริบๆ มองเขา“ห๊ะ เธอจะให้ฉันนี่นะเป็นนายแบบให้ ขอมากเกินไปรึเปล่า ค่าตัวแพงนะจะบอกให้”“โธ่เอ๊ย แค่นี้ทำงกไปด้วย น่านิดเดียวรูปเดียวเอง นะคะๆ ...” พราวแสงแขต่อรองเสียงหวานจนแมทธิวนึกเอ็นดูแต่ก็เก๊กท่าขรึมเข้มเอาไว้“โอเคๆ ก็ได้ แค่รูปเดียวนะ”“โอเค้ งั้นยืนตรงนี้นะคะ ตรงนี้ๆ” เธอรับคำเสียงสูงพลางกำกับให้เขายืนตรงที่เธอต้องการจนเป็นที่พอใจเจ้าหล่อนก็กดชัตเตอร์ถ่ายรูปไปหนึ่งครั้งและสองครั้งสามครั้งตามมาเพราะไม่ได้ดังใจเมื่อนายแบบเอาแต่ยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าเดียว“คุณแมทธิวคะกรุณา ช่วยทำหน้าให้ดีๆ หน่อยได้ไหมคะ ยิ้มๆ อ่อนโยนๆ หน่อยค่ะ นี่ถ่ายแบบท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามนะคะไม่ใช่กลางสมรภูมิสงครามโลก...” หญิงสาวเท้าสะเอวหน้ามุ่ยใส่เขา“เธอนี่เรื่องมากจริง ฉันทำเป็นแค่หน้าแบบนี้ ตกลงจะถ่ายมั้ย”“ก็ได้ๆ งั้นอีกรูปเดียว คุณช่วยถอยไปตรงนั้นนิดสิคะ ไม่ใช่ๆ ตรงนั้นๆ ยังไม่พอ ถอยอีกๆๆ นั่นล่ะ ไม่ๆ ถอยไปอีกนิด” พราวแสงแขร
ตอนที่61. อวสานแมทธิวมองใบหน้ากลมป้อมแก้มยุ้ยแดงปลั่งของลูกชายอย่างแสนรัก ดวงตาสีมรกตที่ถอดแบบจากเขานั้นใสแจ๋วไร้เดียงสา จมูกเล็กๆ โด่งเป็นสันมีเหงื่อซึมเพราะวิ่งเล่นอย่างซุกซน ริมฝีปากแดงสดที่ได้มาจากคุณแม่นั้นทำให้ผู้เป็นพ่อไพล่นึกถึงริมฝีปากนุ่มๆ หวานๆ ของผู้เป็นภรรยาเสียร่ำไป ชายหนุ่มพลิกตัวนอนคว่ำเท้าแขนแกร่งกับพื้นหญ้าแล้วถามลูกชายตัวน้อยเมื่อพ่อหนูเอาแต่มองหน้าเขานิ่ง“มีอะไรน้อง มองหน้าพ่อนิ่งเชียว”“ปาปา แก่...” คำตอบของลูกชายที่ไม่ค่อยชัดนั้นทำให้แมทธิวแทบสำลักน้ำลายตัวเอง จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก แต่คุณมาร์คกลับหัวเราะลั่นเลยทีเดียว แมทธิวจึงหันไปมองค้อนบิดาเสียยกใหญ่“ฮ่าๆๆ หลานปู่มันฉลาดเหมือนปู่เลย มานี่มาลูกมาหาปู่ดีกว่า”“ปูๆ หาปู หล่อๆ” เด็กชายลุกขึ้นเดินไปหาคุณปู่ที่อ้าแขนต้อนรอรับแล้วหอมแก้มคุณปู่อย่างประจบออดอ้อน แมทธิวได้แต่เข่นเขี้ยวเจ้าตัวแสบที่มีแววแสบสันได้ใจตั้งแต่เล็กแต่น้อย“ทำอะไรกันอยู่คะหนุ่มๆ มากินของว่างกันได
ตอนที่60.“แหวะหลงตัวเอง”“บอกรักพี่แมทอีกครั้งสิจ๊ะทูนหัว”“ไม่...” หญิงสาวเง้างอดหน้าแดงก่ำ“บอกหน่อยไม่ได้เหรอครับ พี่แมทอยากฟังอีกจัง”“ตัวเองก็บอกเขาก่อนสิ” หญิงสาวต่อรองพร้อมทั้งเอนพิงอกกว้างของเขาอย่างยอมจำนนหลุบตามองมือเล็กของตนในอุ้งมือใหญ่อบอุ่นของเขาด้วยหัวใจพองโต น้ำตาเหือดแห้งไปพร้อมกับความอุ่นซ่านแผ่กระจายครอบคลุมไปทั้งดวงใจที่มืดมิดหนาวเหน็บมานานด้วยความหวั่นระแวง“ผม แมทธิว โรดิเกรซ มาเวลส์ รัก นางพราวแสงแข โรดิเกรซ มาเวลส์ เท่าชีวิต และจะรักเธอกับลูกๆ ของเราตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และผมจะบอกรักเธอกับลูกๆ ทุกวัน ตราบเท่าชีวิตของผม...” เสียงทุ่มนุ่มนวลบอกเบาๆ กับใบหูบางทว่าหนักแน่นเต็มไปด้วยพลังแห่งรักที่เธอสัมผัสได้ด้วยใจ“ฉัน นางพราวแสงแข โรดิเกรซ มาเวลส์ ก็จะรัก นายแมทธิว โรดิเกรซ มาเวลส์ เท่าชีวิต และจะรักเขากับลูกๆ ของเราตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และจะบอกรักเขากับล
ตอนที่59.หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วพราวแสงแขก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอนของตนซึ่งสามีสุดหล่อของเธอกำลังปูที่นอนของตนเองหน้าเตียงเล็กๆ ของเธอเช่นทุกวัน หญิงสาวมองแผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามของเขาอย่างหลงใหลและแอบหน้าแดงที่ตนกลายเป็นสาวใจแตกชอบมองแผงอกล่ำๆ กล้ามสวยๆ ของสามีไปเสียแล้ว จากแรกๆ ที่เคยต่อว่าที่เขาไม่ใส่เสื้อเข้านอน ตอนนี้กลายเป็นว่าเธอชอบให้เขาเปลือยอกล่ำๆ ให้มอง และอยากมองทุกวัน...“พราวมานอนเถอะดึกแล้ว เดี๋ยวพี่เอาแก้วนมไปเก็บก่อนนะครับ”เขาลุกขึ้นแล้วหยิบแก้วนมออกไปเก็บแต่ขณะที่เดินผ่านเธอก็โน้มใบหน้าลงมาจุ๊บแก้มนวลใสเสียฟอดใหญ่แล้วก็ผิวปากเดินออกไปอย่างอารมณ์ดีปล่อยให้เธอค้อนลมค้อนฟ้าอยู่คนเดียว“คนบ้า ฉวยโอกาสตลอดเลย”หญิงสาวบ่นเขาด้วยหัวใจพองโตแล้วคลานขึ้นเตียงอย่างง่วงงุนแต่ก็พยายามฝืนความง่วงไว้เพราะเธอยังมีเรื่องจะคุยกับเขามากมาย และจะต้องคุยกันให้จบในคืนนี้“ทำไมยังไม่นอนล่ะครับคนสวย เอ.. หรือว่าเจ้าตัวเล็กอยากใ
ตอนที่58.“คุณพ่อคุณแม่ให้พรผมกับพราวมั่งสิครับ” แมทธิวเอ่ยขึ้นบ้างพลางรั้งให้พราวแสงแขมานั่งตรงหน้าบิดามารดาของตนพร้อมทั้งมารดาของพราวแสงแขด้วย“อะไรกันแมทนี่ล่ะก็ เราก็ได้พรจากพ่อกับแม่ไปแล้วไงจ๊ะ”“ก็ผมอยากได้อีกนี่นา แล้วก็ยังอยากได้ไปเรื่อยๆ จนกว่าพรของคุณพ่อคุณแม่จะหมดนั่นล่ะครับ”ชายหนุ่มพูดอย่างนุ่มนวลร่างสูงนั่งพับเพียบดูนอบน้อมพราวแสงแขมองสามีด้วยความชื่นชม แมทธิวเป็นคนทำงานเอาจริงเอาจังเสียงดังและเด็ดขาดเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกน้องแมทธิวจะเป็นเจ้านายที่เข้มงวดจริงจัง ในการทำงานของเขานั้นจะเต็มไปด้วยความเฉียบขาดดุดันจนเป็นที่กล่าวขวัญและใครๆ ต่างก็ยำเกรง แต่เมื่อเขาอยู่กับคนในครอบครัว แมทธิวจะเป็นผู้ชายที่อบอุ่น อ่อนโยนและเอาใจใส่ทุกคนในครอบครัวอย่างดี และเขายังปฏิบัติต่อมารดาของเธออย่างนอบน้อมไม่มีท่าทางที่ทำให้รู้สึกว่าเขารังเกียจเธอกับมารดาว่าต่ำต้อย นั่นคือสิ่งที่พราวแสงแขสัมผัสได้แม้ในคราแรกที่พบกันเขามักจะใช้ถ้อยคำรุนแรงและดูถูกเธอก็ตาม แต่ในวันนี้แมทธิวให้เกียรติเธอกับม
ตอนที่57.“เหรอจ๊ะ แหม.. แม่ก็นึกว่าพราวจะแกล้งอะไรแมทอีก”“แม่น่ะ ชอบมองพราวเป็นเด็กเกเรไปได้”“ก็เราน่ะเหลือเกินจริงๆ นี่พราว เรื่องมันก็แล้วไปแล้วอย่างอนนักเลยลูก เดี๋ยวพี่เขาก็เบื่อกันพอดี” คำพูดของมารดาทำให้พราวแสงแขหน้างอ“ใช่สิ.. แม่มีลูกใหม่แล้วนี่พราวก็เป็นหมาหัวเน่า” พราวแสงแขตัดพ้อน้ำตาคลอๆ เหมือนจะร้องไห้“แล้วกันไปกันใหญ่แล้วลูกคนนี้ เฮ้อ.. แมทอย่าตามใจพราวนักนะลูก ยายพราวน่ะเขาดื้อเงียบ ดูสิ.. แค่นี้ก็ว่าแม่รักคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง เอาล่ะแม่ไม่กวนแล้วแม่จะไปช่วยคุณมาลินีเตรียมของจัดงานเลี้ยงคืนนี้ เย็นนี้เราจะไปทานข้าวที่บ้านโน้นนะจ๊ะ แล้วคืนนี้จะเป็นวันฉลองการแต่งงานของหนูเมรี่กับหลุยส์ด้วย” ผู้เป็นแม่บอกอ่อนโยนดังเดิมแล้วขยี้เรือนผมของลูกสาวแสนงอนเบาๆ แล้วเดินไปขึ้นรถที่คนจากบ้านของแมทธิวมารอรับ”คืนนี้เมียพี่จะต้องสวยพอๆ กับเจ้าสาวแน่ๆ เราไปดูชุดที่จะไปคืนนี้กันมั้ยครับ”“
ตอนที่56.“จะหน้าด้านอยู่ที่บ้านฉันอีกนานแค่ไหนคะ” หญิงสาวเท้าสะเอวมองคนที่กำลังรีดผ้าหน้าเป็นมันอยู่อย่างฉุนๆ ตอนนี้แม่แขของเธอรักลูกเขยมากคอยปกป้องเข้าข้างเขาทุกอย่าง ยิ่งเธอพยายามแกล้งเขามากเท่าไหร่เขาก็ไม่มีทีท่าจะยอมแพ้ง่ายๆ ไม่ว่าจะทำงานบ้านซักผ้ารีดผ้า เอาผ้าไปส่งลูกค้า ดูแลบ้านและทำสวนผักเล็กๆ ไว้รับประทานเองแมทธิวก็ทำได้ และทำหน้าที่ทุกอย่างที่เธอตั้งกฎไว้ได้ดีไม่มีที่ติซึ่งมันทำให้เธอหงุดหงิดประสาคนท้องที่อารมณ์แปรปรวนง่าย“เมียอยู่ที่ไหน ผัวก็อยู่ที่นั่นจ้ะ พราวไปนั่งสิจ๊ะ ยืนนานๆ เดี๋ยวก็เมื่อย ลูกเราจะเมื่อยด้วยนะครับ” นอกจากจะไม่สนใจความฉุนเฉียวเธอแล้วแมทธิวยังเจ้ากี้เจ้าการพาเธอมานั่งที่เก้าอี้หวายตัวใหญ่แสนสบายที่เขาซื้อให้เธอนั่งพักผ่อน พอเห็นเก้าอี้ตัวนี้พราวแสงแขก็นึกถึงที่มาของมันอย่างเสียไม่ได้และนึกดีใจที่เขามีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นเมื่อวันก่อนที่ไปฝากครรภ์เธอเดินผ่านร้านขายเก้าอี้หวายข้างทางเท้าก่อนถึงโรงพยาบาล ซึ่งคนขายเป็นตาแก่ๆ คนหนึ่งกับหลานชายตัวเล็กๆ มาช่วยกันขาย
ตอนที่55.“นายทำร้ายฉัน นายหลอกลวง ล่วงเกินฉันยังจะมีหน้าบอกรักฉันอีก ฉันจะฟ้องคุณพ่อ” หญิงสาวแสร้งขู่“เรื่องนั้นคุณหนูไม่ต้องห่วงครับ เพราะผมได้บอกคุณท่านเรื่องของเราแล้ว และคุณท่านก็บอกให้ผมมาขอคุณหนูแต่งงานด้วยตนเองหากคุณหนูตกลง ท่านจะจัดงานแต่งงานให้เรา”“อะไรนะ นี่นาย นายบอกคุณพ่อเหรอ” เมริสาตาโตด้วยความคาดไม่ถึง“ไม่แค่คุณพ่อของคุณหนูหรอกครับ คุณแม่คุณหนูก็รู้เรื่องของเราแล้ว”“หา อะไรนะ”“คุณหนูแต่งงานกับผมนะครับ แม้ผมจะต่ำต้อยแต่ผมรักคุณหนูมากนะครับ ผมสัญญาว่าผมจะดูแลคุณหนูให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายอย่างผมจะทำได้” หลุยส์กล่าวหนักแน่นจนเธอน้ำตาซึมและทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ“ตะ แต่ว่า เมรี่...”“ได้โปรดเถอะครับคุณหนู แต่งงานกับผมเถอะ ผมรักคุณหนูมานานแล้วและผมก็ไม่อยากจะเก็บความรักของผมไว้อย่างนี้อีกต่อไป”หลุยส์กล่าวพร้อมคุกเข่าต่อหน้าเธอ ทำให้เมริสาน้ำตาไหลพรากอย่างไม่อาจห้ามได้ ไม่นึกเลยว่าเธ
ตอนที่54.พูดจบพราวแสงแขก็เดินกระแทกไหล่เมริสาอย่างแรงจนร่างแบบบางของเมริสาเซถลาไปหลายก้าวซึ่งเมริสาก็ได้แต่มองตามหลังของพราวแสงแขไปอย่างเจ็บใจและไม่เข้าใจ“พี่แมท มันคืออะไร ที่พราวพูดน่ะ”“ก็ความจริงไงล่ะ”“ยังไงตอนไหนกัน พี่แมท นี่พี่กำลังเล่นตลกอะไร”“ไม่ได้เล่นตลกเมรี่ พราวคือเมียพี่และเมรี่ก็ควรให้เกียรติเมียพี่ด้วย”พูดจบแมทธิวก็เดินตามพราวแสงแขไปอีกคนปล่อยให้เมริสามองตามอย่างงุนงง ลืมเรื่องที่จะคุยกับพี่ชายและเมื่อเธอเห็นหลุยส์เดินมาเมริสาก็รีบเดินหลบไปทันที...แมทธิวรีบตามพราวแสงแขมาด้วยความร้อนรนเมื่อเห็นท่าทางของเธอเขากลัวว่าเขาจะเสียเธอไป ผู้ที่ไม่เคยอ่อนข้อให้ใคร ไม่เคยยอมแพ้กับเกมธุรกิจใด ไม่เคยสนใจกับสิ่งที่ไม่มีผลกำไรกับตนและให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนไหนนั้นตอนนี้ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความกระวนกระวายและร้อนรุ่มเมื่อหัวใจของเขามันเต้นกระหน่ำเพียงเพราะผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เขาเคยปรามาสเธอไว้และเข้ามาเกี่
ตอนที่53.“พราวทำอะไรอยู่จ๊ะ”“พราวโทร. หาแม่ค่ะ แต่ทางโน้นไม่มีใครรับสายเลยทั้งที่ก่อนหน้านี้มีคนรับ”พราวแสงแขหันมามองเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวลแล้วเดินไปนั่งที่ม้านั่งตัวยาวใต้ต้นไม้ใหญ่ลืมเรื่องที่เคืองขุ่นเขาเมื่อคืนก่อนนี้ไปสิ้น เพราะตอนนี้เธอกำลังคิดถึงแม่มากอีก ทั้งวันนี้ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรบางอย่างรบกวนจิตใจจนอยากจะกลับบ้านเสียตอนนี้เลย“เอ่อ.. บางทีพยาบาลเขาอาจจะยุ่งๆ อยู่ก็ได้ เราไปกินของว่างกันก่อนดีไหม นี่ก็แดดร้อนแล้ว” แมทธิวเดินไปนั่งข้างๆ ชักชวนเธอด้วยน้ำเสียงและท่าทางเป็นกันเองซึ่งมันทำให้พราวแสงแขหันมามองเขาด้วยสีหน้าแปลกใจระคนระแวง“ทำไมวันนี้ดูพี่แมทพูดดีกับพราวจัง ไม่กลัวว่าคนในบ้านพี่แมทจะสงสัยเราหรือคะ”“ก็.. ทำไมล่ะ ก็เราเป็นผัวเมียกันนี่นา”“เรื่องนี้มีแค่เรารู้กันสองคนไม่ใช่เหรอคะ แล้วพี่แมทสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับและจะหย่าให้พราวหลังจากที่แม่ของพราวกลับมา”คำพูดของเธอทำให้แ