“แต่คนต้นเหตุอีกคนก็ยังอยู่นี่ครับ เธอจะต้องได้รับรู้บ้างว่าสิ่งที่เธอรวมหัวกันกับไอ้วายุทำร้ายเมรี่นั้นมันเลวร้ายแค่ไหน และเมรี่ต้องทุกข์ทรมานยังไงบ้าง ผมจะไม่มีวันปล่อยให้เธอเป็นสุขแน่ๆ หากอาการของน้องยังไม่ดีขึ้น...” ชายหนุ่มยืนยันด้วยน้ำเสียงและแววตามั่นคงจนผู้เป็นพ่อต้องถอนใจออกมาพรืดใหญ่
“แมท... พ่อจะบอกว่าแมทต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรเป็นอะไรอีกอย่าง เรื่องนี้แม่หนูคนนั้นเขาไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย คนของเราต่างหากที่ไปวุ่นวายกับเขาแม้แต่ตอนที่เมรี่เจ็บปางตายหนูพราวเขาก็เป็นคนเรียกรถพยาบาลและคอยให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเมรี่อย่างละเอียด คนเกลียดกันเขาจะทำอย่างนี้มั้ย แมทอย่าเชื่อน้องมากเกินไป...”
คุณมาร์คบอกเพียงแค่นั้นแล้วเดินเลี่ยงออกไปด้วยไม่รู้จะอธิบายให้บุตรชายเข้าใจได้อย่างไร ทำให้แมทธิวยืนคิดแค้นเคืองอยู่คนเดียว คนอย่างแมทธิวนั้นหัวรั้นและหากเชื่อมั่นอะไรแล้วก็เปลี่ยนความคิดเขาได้อยาก และที่สำคัญคุณมาร์คเชื่อว่าสิ่งที่แมทธิวได้ยินได้ฟังจากน้องสาวที่รักก่อนเกิดเรื่องนั้นมันได้ฝังในใจของเขาไปแล้วว่าพราวแสงแขคือส่วนหนึ่งของเหตุการณ์อันนำมาซึ่งความสูญเสียของเมริสาและเขาก็จะเชื่อเช่นนั้นไปอีกนาน...
แต่เหตุการณ์ในวันนั้นไม่มีใครรู้ดีไปว่าคนทั้งสามคือ พราวแสงแข วายุ และเมริสา ซึ่งคุณมาร์คกับคุณมาลินีเองก็ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าพราวแสงแขเป็นผู้ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องเพราะพวกตนรู้นิสัยใจคอของบุตรสาวดี และในวันนั้นพวกตนก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านเพราะไปต่างจังหวัดมารู้ข่าวอีกทีก็ตอนที่หลุยส์โทรศัพท์มารายงานข่าวให้ทราบ
ซึ่งเมื่อรู้ข่าวพวกเขาก็รีบมาดูอาการของเมริสาและพอมาถึงโรงพยาบาลตนก็ได้พบว่าพราวแสงแขอยู่ให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเมริสากับหมออย่างละเอียดบ่งบอกถึงความใส่ใจและความมีน้ำใจของเธอได้เป็นอย่างดี พวกตนก็พยายามติดต่อกับวายุที่เอาแต่หลบหน้าไม่กล้าแม้แต่จะมาเยี่ยมภรรยาของตัวเองซ้ำยังจะให้เมริสาหย่าให้เขาด้วย ทั้งๆ ที่รู้ว่าเมริสาอาการหนักต้องนอนโรงพยาบาล และยังขอแบ่งสินสมรสให้กับตัวเขาเองเป็นเงินจำนวนมหาศาลในการขอหย่าและหากไม่ได้อย่างที่ต้องการวายุจะไม่หย่า
ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้คุณมาร์คกับคุณมาลินีเครียดพอๆ กับการรอให้เมริสากลับคืนมาเป็นคนเดิมและหายเป็นปกติเพื่อจะได้รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เธอประสบอุบัติเหตุจนแท้งลูกนั้นมาจากสาเหตุใดและใครเป็นคนทำร้ายเมริสา แต่เมื่อฟื้นขึ้นมาเมริสาก็ไม่พูดกับใครและจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ชื่อของตัวเอง นั่นต่างหากที่ทำให้คุณมาร์คและคุณมาลินีเจ็บปวดมากกว่า...
พราวแสงแขมองใบหน้าสวยจัดทว่าซีดเซียวของคนที่เคยเป็นเพื่อนสนิท และเมื่อหลายเดือนก่อนเธอก็ได้มางานแต่งงานของเจ้าหล่อนกับอดีตคู่หมั้นของเธอ ในวันนั้นเมริสายังคงสดใสเต็มไปด้วยความสุขและมองเธอด้วยประกายเหยียดหยันอย่างผู้ชนะ แต่บัดนี้ตรงหน้าเธอมีเพียงหญิงสาวที่ซูบผอมจนเห็นโหนกแก้มชัดเจนแววตาสีมรกตที่เคยเปล่งประกายสดใสก็แห้งผากเลื่อนลอยไร้จุดหมาย...
“พราวไม่นึกเลยว่าเมรี่จะอาการหนักขนาดนี้ พราวรู้เพียงแต่ว่าเขาทะเลาะกันและเมรี่แท้งลูก...”
หญิงสาวพูดด้วยเสียงที่พยายามกลั้นก้อนสะอื้นไว้ในอก แม้จะเคยเจ็บปวดเพราะการกระทำของผู้หญิงคนนี้มาก่อน แต่เธอก็ไม่ได้โกรธเกลียดเมริสาพอที่จะเหยียบย่ำซ้ำเติมในสิ่งที่เมริสาได้รับ พราวแสงแขคิดว่าตนเองนั้นโชคดีที่ตนไม่ได้เจอเรื่องราวแบบนี้...
“แล้ววันนั้นเหตุการณ์มันเป็นอย่างไรล่ะหนูพราว บอกพวกเราได้ไหม...”
“พราว เอ่อ... พราวไม่ทราบค่ะ แต่พราวบอกได้แต่เพียงว่า พราวไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้นั่นคือความจริงค่ะ” หญิงสาวบอกเบาๆ แล้วสบสายตาของผู้สูงวัยอย่างมั่นคง
“แล้วทำไมเมรี่ถึงได้อาการหนักขนาดนี้ล่ะ หากหนูจะบอกพวกเราถึงสาเหตุจริงๆ เราจะได้จัดการเรื่องนี้ให้ถูกต้อง หากหนูไม่บอกความจริง หนูเองที่จะต้องลำบากเพราะตาแมทไม่ยอมให้หนูอยู่เป็นสุขแน่ๆ”
“พราวไม่รู้จริงๆ ค่ะ พราวเห็นแค่ตอนที่เมรี่นอนจมกองเลือดแล้วและพราวก็เรียกรถพยาบาลทันทีหลังจากนั้นทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก พราวอยากมาเยี่ยมเมรี่ แต่คิดว่าทางคุณท่านคงรังเกียจพราวและคงคิดว่าพราวเป็นต้นเหตุพราวก็เลยไม่กล้ามา อีกอย่างช่วงนั้นพราวก็ต้องซ้อมการแสดงให้เด็กๆ ด้วย เลยไม่ว่างจะมาเยี่ยมเมรี่ จนกระทั่งพราวเจอกับ เอ่อ.. คุณ แมทธิว... พราวบอกได้เท่านี้ค่ะ” พราวแสงแขบอกหนักแน่นจนคุณมาลินีไม่ถามเซ้าซี้
“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นหนูก็อยู่เป็นเป็นเมรี่ไปก่อนก็แล้วกัน อีกประเดี๋ยวก็คงตื่น...” คุณมาลินีเดินออกไปจากห้องพราวแสงแขจึงละสายตามามองเมริสาที่ค่อยๆ ขยับกายเบาๆ ก่อนดวงตาสีมรกตจะลืมขึ้นช้าๆ
“เมรี่... เป็นไงบ้าง...”
พราวแสงแขเดินมานั่งข้างเตียงเฝ้ามองปฏิกิริยาของเมริสาด้วยใจที่สั่นไหวด้วยความเวทนาอย่างห้ามไม่ได้ ตอนนี้ภาพหญิงสาวตรงหน้านั้นแทบไม่เหลือเค้าคุณหนูเมริสาผู้เลอโฉมและสูงส่งเลยแม้แต่น้อย มีเพียงหญิงสาวร่างกายซูบผอมผมเผ้ายุ่งเหยิงดวงตาแดงก่ำคลอด้วยหยาดน้ำตาและเหม่อลอยไร้จุดหมาย...
ความรัก ความหลง มันทำให้คนเราเจ็บปวดได้เพียงนี้เชียวหรือ
“หิวมั้ย พราวจะหาอะไรมาให้ทาน หรือว่าเมรี่อยากจะไปเดินเล่น...” หญิงสาวถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่พยายามกลั้นสะอื้นเมื่อเห็นเพียงความว่างเปล่าและเงียบงันของอีกคนที่นั่งพิงหัวเตียงนิ่ง...
“นี่พราวเองนะเมรี่ จำพราวได้มั้ย เราเป็นเพื่อนกันนะ เราสนิทกันมากเลย ตอนรับน้องน่ะ พราวกับเมรี่ทำอะไรโก๊ะๆ เปิ่นๆ ด้วยกันจำได้มั้ย...”
พราวแสงแขขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ เมริสาอีกนิดแล้วค่อยๆ ชวนคุยเรื่องต่างๆ ที่พวกเธอเคยใช้เวลาในวัยเรียนด้วยกัน พราวแสงแขบีบมือเมริสาเบาๆ โดยเธอเองก็ไม่รู้ว่าหากเมริสาจำเรื่องราวต่างๆ ได้จริงๆ เจ้าหล่อนจะมีอาการเช่นไรที่พบหน้าตนในตอนนี้ แต่ตอนนี้พราวแสงแขคิดแต่เพียงว่าขอให้เมริสาคนเดิมกลับมาเร็วๆ กลับมาเพื่อบอกเล่าให้ทุกคนฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตนเองเพื่อเธอจะได้พ้นข้อกล่าวหาอันร้ายกาจจากแมทธิว...
ตอนที่15.พราวแสงแขกำลังจะเดินกลับเข้าห้องของตนเองซึ่งอยู่ติดกันกับห้องของเมริสาต้องชะงักเมื่อเจอยักษ์ตัวใหญ่ยืนจังก้าขวางทางด้วยท่าทางที่พราวแสงแขต้องนึกถึงผู้ร้ายในภาพยนตร์แนวมาเฟียเสียทุกทีไป...“เดี๋ยว...”“มีอะไรกับดิฉันคะ...”หญิงสาวเชิดหน้ามองเขาอย่างไว้ตัวแสดงให้เขาเห็นว่าเธอไม่ได้หงอให้เขาหรือเกรงกลัวเขาอย่างที่เขานึก คนอย่างพราวแสงแขดูเป็นคนอ่อนหวานเรียบร้อยก็จริง แต่เธอไม่ได้อ่อนแอหรือยอมให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ เหมือนเช่นแต่ก่อนอีกแล้ว“เธอไม่ควรรื้อฟื้นความหลังของน้องสาวฉันแบบนั้นนะ มันยิ่งตอกย้ำให้เมรี่เครียด” เสียงเข้มนั้นเหมือนตะคอกเสียมากกว่า“นี่คุณคะ... คุณรู้อะไรเกี่ยวกับคนป่วยแบบเมรี่บ้าง คุณรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเมรี่บ้างในช่วงที่เธอเริ่มเรียนมหาวิทยาลัย หรือคุณรู้อะไรบ้างว่าจะต้องทำยังไงนอกจากมาโวยวายๆ ใส่ฉันแบบนี้ หากคุณให้ฉันมาดูเมรี่คุณก็ควรจะปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นหน้าที่ของฉัน ถึงแม้ฉันจะไม่ได้เป็นหมอหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ฉันศึกษาข้อมูลมาบ้างแล้วว่าต้องทำยังไง หากคุณจะมาขัดแย้งนู่นไม่ได้ นี่ไม่ได้ ก็ไม่ต้องลากตัวฉันมาสิ...”คำตอบยืดยาวของพราวแสงแขทำเอาแมทธิวถึง
ตอนที่16.พราวแสงแขถอนหายใจเบาๆ เมื่อเมริสาหลับไปแล้วหลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันและยาตามที่แพทย์สั่ง เธอไม่ได้หนักใจเลยในการมาดูแลเมริสา แต่กลับยิ่งสงสารคนที่เคยแย่งคนรักของเธอไปมากขึ้น และภาวนาให้เมริสาฟื้นความจำมาได้โดยเร็ว หญิงสาวปิดประตูห้องนั่งเล่นที่มักพาเมริสามาพักผ่อนและอ่านหนังสือดูหนังด้วยกันอย่างเบามือแล้วกลับเข้าห้องตัวเองไปหยิบกล้องถ่ายรูปและสมุดสเกตภาพใส่กระเป๋าผ้าใบใหญ่เพื่อไปถ่ายรูปหรือบางทีหากเธอเจออะไรที่เป็นแรงบันดาลใจเธอก็อาจจะนั่งสเกตภาพเล่นๆ แก้เหงาได้“คุณท่านคะ พราวขออนุญาตไปเดินดูวิวรอบๆ รีสอร์ตได้ไหมคะ” หญิงสาวเดินออกมาที่ระเบียงกว้างซึ่งคุณมาลิสากับคุณมาร์คมานั่งอ่านหนังสือและคุยกันอยู่“ตามสบายเลยจ้ะหนูพราว เมรี่หลับแล้วหนูอยากจะไปไหนก็ไปเถอะ หรือจะเข้าไร่ก็ให้คนพาไปได้นะจ๊ะ” คุณมาลินีบอกอย่างอ่อนโยน“ฉันว่าหนูเลิกเรียกเราว่าคุณท่านดีกว่าไหม เรียกคุณลุงคุณป้า หรือคุณพ่อคุณแม่ก็ได้” คุณมาร์คเอ่ยพลางวางหนังสือพิมพ์ลงมองหน้าหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าอย่างเอ็นดู“พราวไม่อาจเอื้อมหรอกค่ะคุณท่าน”“เถอะน่า หนูเป็นเพื่อนเมรี่ก็เหมือนเป็นลูกสาวเรา เรียกคุณพ่อคุณแม่เถ
ตอนที่17.หญิงสาวพูดใส่หน้าเขาทั้งพยายามสะบัดข้อมือเล็กออกจากอุ้งมือหนาทั้งพยายามขืนตัวออกให้ห่างจากเขาด้วยความโกรธไม่แพ้กัน“คิดว่าฉันอยากจะแตะเธอรึไงยายตัวแสบเอ๊ย อย่าสำคัญตัวเองนักเลย”“งั้นก็ปล่อยเขาสิ จะจับไว้ทำไม... ว้าย...” ไม่ทันที่เธอจะได้ตอบโต้กับเขาในขณะที่เธอกำลังจะบัดตัวนั้นเขาก็ปล่อยมือทันทีจนร่างเล็กเซถลาล้มไม่เป็นท่าก้นกระแทกพื้นจังๆ“เป็นไงล่ะแม่คนเก่ง อยากให้ปล่อยฉันก็ปล่อยแล้วนะจะมาว่าฉันรังแกเธอไม่ได้นะ หึหึ...” ชายหนุ่มหัวเราะร่วนเมื่อเห็นท่าทางคลำก้นป้อยๆ ทั้งหน้าตาเหยเกของเธอ“คุณ... คนบ้า รังแกผู้หญิง...”พราวแสงแขทั้งเจ็บทั้งจุกจนพูดน้ำตาแทบเล็ด มองเขาด้วยความเจ็บใจมือน้อยกำหญ้าข้างกายแล้วดึงขึ้นปาใส่เขาอย่างฉุนเฉียวโดยไม่นึกเกรงกลัวเขาสักนิด“โอ๊ย.. ยายเด็กบ้าฉันเปื้อนหมดแล้ว หยุดนะ... บอกให้หยุด”แมทธิวกระโดดหลบหญ้าที่เธอปาใส่พัลวัน เจ้าม้าหนุ่มที่เขาจูงมาซึ่งกำลังเล็มหญ้าอยู่ไม่ไกลเห็นท่าทางของเจ้านายหนุ่มก็ทำเสียงฮี่ๆ เหมือนหัวเราะสนุกสนานทำให้แมทธิวหันไปค้อนเจ้าม้าหนุ่มนามว่า ไทเกอร์ อย่างหมั่นไส้“แกหัวเราะฉันเหรอไทเกอร์...” แมทธิวทำท่าขึงขังใส่เจ้าม้าที
ตอนที่18.“มีอะไร” ถามเสียงเข้มหน้าตาก็เคร่งขรึมไปด้วยอย่างรักษาท่าทีไว้ทั้งทีในใจนั้นระแวงรอยยิ้มหวานๆ นั้นไม่น้อย“เป็นนายแบบให้หน่อยสิคะคุณแมท” พราวแสงแขทำเสียงอ่อยพร้อมทั้งทำตาปริบๆ มองเขา“ห๊ะ เธอจะให้ฉันนี่นะเป็นนายแบบให้ ขอมากเกินไปรึเปล่า ค่าตัวแพงนะจะบอกให้”“โธ่เอ๊ย แค่นี้ทำงกไปด้วย น่านิดเดียวรูปเดียวเอง นะคะๆ ...” พราวแสงแขต่อรองเสียงหวานจนแมทธิวนึกเอ็นดูแต่ก็เก๊กท่าขรึมเข้มเอาไว้“โอเคๆ ก็ได้ แค่รูปเดียวนะ”“โอเค้ งั้นยืนตรงนี้นะคะ ตรงนี้ๆ” เธอรับคำเสียงสูงพลางกำกับให้เขายืนตรงที่เธอต้องการจนเป็นที่พอใจเจ้าหล่อนก็กดชัตเตอร์ถ่ายรูปไปหนึ่งครั้งและสองครั้งสามครั้งตามมาเพราะไม่ได้ดังใจเมื่อนายแบบเอาแต่ยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าเดียว“คุณแมทธิวคะกรุณา ช่วยทำหน้าให้ดีๆ หน่อยได้ไหมคะ ยิ้มๆ อ่อนโยนๆ หน่อยค่ะ นี่ถ่ายแบบท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามนะคะไม่ใช่กลางสมรภูมิสงครามโลก...” หญิงสาวเท้าสะเอวหน้ามุ่ยใส่เขา“เธอนี่เรื่องมากจริง ฉันทำเป็นแค่หน้าแบบนี้ ตกลงจะถ่ายมั้ย”“ก็ได้ๆ งั้นอีกรูปเดียว คุณช่วยถอยไปตรงนั้นนิดสิคะ ไม่ใช่ๆ ตรงนั้นๆ ยังไม่พอ ถอยอีกๆๆ นั่นล่ะ ไม่ๆ ถอยไปอีกนิด” พราวแสงแขร
ตอนที่18.“มีอะไร” ถามเสียงเข้มหน้าตาก็เคร่งขรึมไปด้วยอย่างรักษาท่าทีไว้ทั้งทีในใจนั้นระแวงรอยยิ้มหวานๆ นั้นไม่น้อย“เป็นนายแบบให้หน่อยสิคะคุณแมท” พราวแสงแขทำเสียงอ่อยพร้อมทั้งทำตาปริบๆ มองเขา“ห๊ะ เธอจะให้ฉันนี่นะเป็นนายแบบให้ ขอมากเกินไปรึเปล่า ค่าตัวแพงนะจะบอกให้”“โธ่เอ๊ย แค่นี้ทำงกไปด้วย น่านิดเดียวรูปเดียวเอง นะคะๆ ...” พราวแสงแขต่อรองเสียงหวานจนแมทธิวนึกเอ็นดูแต่ก็เก๊กท่าขรึมเข้มเอาไว้“โอเคๆ ก็ได้ แค่รูปเดียวนะ”“โอเค้ งั้นยืนตรงนี้นะคะ ตรงนี้ๆ” เธอรับคำเสียงสูงพลางกำกับให้เขายืนตรงที่เธอต้องการจนเป็นที่พอใจเจ้าหล่อนก็กดชัตเตอร์ถ่ายรูปไปหนึ่งครั้งและสองครั้งสามครั้งตามมาเพราะไม่ได้ดังใจเมื่อนายแบบเอาแต่ยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าเดียว“คุณแมทธิวคะกรุณา ช่วยทำหน้าให้ดีๆ หน่อยได้ไหมคะ ยิ้มๆ อ่อนโยนๆ หน่อยค่ะ นี่ถ่ายแบบท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามนะคะไม่ใช่กลางสมรภูมิสงครามโลก...” หญิงสาวเท้าสะเอวหน้ามุ่ยใส่เขา“เธอนี่เรื่องมากจริง ฉันทำเป็นแค่หน้าแบบนี้ ตกลงจะถ่ายมั้ย”“ก็ได้ๆ งั้นอีกรูปเดียว คุณช่วยถอยไปตรงนั้นนิดสิคะ ไม่ใช่ๆ ตรงนั้นๆ ยังไม่พอ ถอยอีกๆๆ นั่นล่ะ ไม่ๆ ถอยไปอีกนิด” พราวแสงแขร
ตอนที่19.“หากฉันทำให้คุณโกรธ ฉันขอโทษ... ปละ ปล่อย... อุ๊ย...” เสียงหวานที่ทัดทานหายไปในลำคอเมื่อริมฝีปากสาวถูกครอบครองด้วยริมฝีปากหยักได้รูปร้อนผ่าวที่เบียดบดคลึงเคล้าซอกซอนหาความหวานจากโพรงปากสาวอย่างห้ามใจไม่ไหวกับความเย้ายวนตรงหน้าที่แม้เธอไม่ได้ยั่วเขา แต่เขาก็ร้อนเร่าขึ้นมาอย่างง่ายดายแมทธิวลูบไล้กายเล็กบอบบางแต่อวบอิ่มเต็มตึงในบางส่วนด้วยความพอใจหลงใหลไปกับความเย้ายวนของเธออย่างง่ายดาย ในขณะที่พราวแสงแขเองก็เคลิบเคลิ้มเผลอไผลไปกับจุมพิตที่สนิทเสน่หาของเขา มือบางที่ผลักไสในคราแรกวางบนอกแกร่งและลูบไล้แผงอกกว้างของเขาอย่างลืมตัว ลิ้นเล็กที่ไม่ประสาก็ตวัดตอบโต้เรียวลิ้นร้อนของเขาอย่างน่ารักแม้จะเงอะงะไปบ้างแต่ก็ทำให้แมทธิวพอใจอย่างที่สุด มือใหญ่ร้อนผ่าวลูบไล้ไปตามสะเอวคอดเรื่อยไปยังก้นงามงอนกลมกลึง อีกข้างก็ลูบสอดไซ้เข้าไปใต้ชายเสื้อยืดสีหวานของเธอจนพบกับดอกบัวงามอวบอิ่มที่ผลิบานอยู่เหนือระดับน้ำซึ่งกระเพื่อมไหวจากกการขยับกายของทั้งสอง...“หวาน...” เสียงห้าวแหบพร่าไปกับความหวานละมุนแสนเย้ายวนของเธอ ทั้งมือร้อนที่กอบกุมทรวงสาวอวบใหญ่เกินตัวก็เคล้นคลึงความอวบอิ่มที่มีบราลูกไม้สีสวย
ตอนที่20.คุณมาลินีมองตามชายหนุ่มที่อุ้มพราวแสงแขกลับห้องไปอย่างครุ่นคิดแล้วสั่งแม่บ้านให้ทำข้าวต้มให้พราวแสงแขแล้วจึงเดินตามไปดูอาการของหญิงสาวที่หน้าซีดปากสั่นอยู่ในอ้อมแขนของลูกเลี้ยงสุดหล่ออย่างเป็นห่วง“เอาล่ะ เธอต้องทำตามที่ฉันบอกนะอย่าดื้ออย่าเถียง...” ชายหนุ่มชี้นิ้วห้ามเมื่อวางร่างเล็กลงบนเก้าอี้นั่งเล่นในห้องนอนของเธอแล้วพราวแสงแขทำท่าจะลุกขึ้น“ฉันแค่อยากจะ...” “ไม่ต้องพูด พอฉันออกไปเธอก็รีบไปอาบน้ำสระผมแล้วกินข้าวกินยา ห้ามปล่อยให้ตัวเองป่วยเด็ดขาด เข้าใจมั้ย...”“อะไรกันน่ะแมท ดุน้องทำไมกันนักหนา...” คุณมาลินีซึ่งเดินตามเข้ามาขัดขึ้นแล้วเดินมาลูบหลังลูบไหล่พราวแสงแขอย่างเอ็นดู“หนูพราวไปอาบน้ำอาบท่าเสียไป แล้วออกมาจะได้กินข้าวต้มกินยาแล้วก็จะได้พักผ่อนนะจ๊ะ”“ขอบคุณค่ะคุณแม่...” หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานด้วยท่าทางออดอ้อนจนทำให้แมทธิวมองอย่างขุ่นใจแกมหมั่นไส้ ยายจิ๋วตัวแสบนี่ร้ายกาจไม่เบาต่อหน้ามารดาเขาล่ะทำเป็นเด็กดีว่าง่ายทีอยู่กับเขาเธอคือนางแมวป่าดุเดือดเถียงคำไม่ตกฟาก...“แมทออกไปได้แล้วไป อย่ามาวุ่นวายกับน้อง...”คุณมาลินีหันมาทำตาดุๆ ใส่ลูกเลี้ยง แมทธิวมองพราวแสงแขอย่าง
ตอนที่21.มือหนาช้อนท้ายทอยตรึงศีรษะเล็กๆ ไว้มั่นเพื่อจะได้บดเคล้าจุมพิตร้อนแรงได้ถนัดอีกมือก็ลูบไล้เรือนร่างร้อนผ่าวของเธออย่างอดใจไม่ไหวกับความนุ่มเนียนของนวลเนื้อสาวที่เขาเคยได้ลูบไล้มาแล้วถึงสองครั้ง กลิ่นกายสาวหอมละมุนละไมแม้จะกรุ่นอายร้อนจากพิษไข้ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกรังเกียจแต่กลับทำให้รู้สึกร้อนเร่าขึ้นมาอย่างไม่น่าให้อภัยแต่เขาก็ปฏิเสธความต้องการลึกๆ ของตนเองไม่ได้ชายหนุ่มจูบเธออย่างเร่าร้อน เรียวขาเสลายกขึ้นเสียดสีกับต้นขาแข็งแรงของเขาอย่างลืมตัวทั้งมือเล็กก็โอบกอดลูบไล้อกกว้างของเขาอย่างเงอะๆ งะๆ เหมือนว่าเธอกำลังลูบไล้เพื่อสำรวจอะไรบางอย่างแต่มันทำให้แมทธิวแทบจะหมดความอดกลั้น มือร้ายค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อนอนตัวบางของเธอออกแผ่วเบาจนความงามของดอกบัวตูมเต่งชนิดหนึ่งไม่มีสองไหวสะท้านอวดความงามกระจ่างอยู่ตรงหน้าจนเขาน้ำลายเหนียวหนึบด้วยความหิวกระหายแต่ต้องพยายามหักห้ามใจ...“อื้มมม... ยายตัวร้ายไม่สวมบรา... เด็กบ้าเอ๊ย เธอทำให้ฉันเหมือนไอ้โรคจิตเข้าไปทุกที...”แมทธิวสบถกับตนเองในขณะที่พยายามตัดใจไม่ให้มองความอวบอิ่มตรงหน้า บอกตัวเองใส่เสื้อให้เธอเหมือนเดิมแล้วเดินกลับห้องของตนซ
ตอนที่33.หญิงสาวเดินมานั่งบนขอบเตียงกว้างแล้วเขย่าร่างหนาเบาๆ แล้วก็พบว่าเขาตัวร้อนอยู่ไม่น้อย“อือ... อย่ามายุ่ง” คนป่วยพลิกกายหนีมือเล็กอย่างรำคาญแล้วนิ่วหน้าทำเสียงในลำคอเหมือนว่าเจ็บปวดมากใบหน้าคมเข้มครึ้มไปด้วยหนวดเคราที่ขึ้นหนาตาทั้งที่เมื่อวานมันเป็นเพียงตอเขียวๆ จาง เท่านั้น“คุณไม่สบายนะ ลุกมากินข้าวกินยาหน่อยสิคุณ”“บอกว่าอย่ายุ่ง” คราวนี้เสียงแหบห้าวดังขึ้น ดวงตาคมขยุกขยิกพยายามจะลืมมองคนที่บังอาจมาสั่งเขา“ไม่อยากมายุ่งด้วยเลย หากคนของคุณไม่ไปตามจิกฉันมาดูคุณเนี่ย ถ้ารู้ว่าจะดื้อด้านขนาดนี้ปล่อยให้ป่วยตายไปเลยดีกว่า”“พราว... เหรอ” เขาถามเสียงแหบดวงตาคมแดงก่ำหรี่ปรือดูน่าสงสารอยู่ไม่น้อย ร่างสูงพยายามยันกายลุกขึ้นทำให้ผ้าห่มที่คลุมกายหนาอยู่นั้นรั้งลงมากองอยู่ที่เอวสอบเผยให้เห็นแผงอกกว้างเปล่าเปลือยที่ประดับด้วยไรขนดกหนาประปรายที่ค่อยๆ ลับหายไปใต้ขอบผาห่ม พราวแสงแขหน้าร้อนผ่าวหายใจติดขัดขึ้นมาทันที “เฮ้ยๆ คุณๆ ไม่ต้องลุก นะ นั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ” หญิงสาวรีบห้ามเขาไว้เสียงสั่นเมื่อแมทธิวทำท่าว่าจะลุกขึ้น“เอ่อ.. คุณไม่สบายน่ะ เดี๋ยวฉันเอาข้าวต้มมาให้คุณ กินข้าวต้มแล้วก็กินยานอ
ตอนที่32.“สวัสดีครับ” แมทิวกล่าวทักทายพร้อมทั้งยกมือไหว้มารดาของพราวแสงแขอย่างนอบน้อม“ค่ะสวัสดีค่ะ” นางแขไขมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์จนพราวแสงแขรู้สึกอึดอัด“คือ นี่คุณแมทธิว เขาเป็นนายจ้างของพราวเองค่ะแม่ คือ เขา มาธุระที่กรุงเทพฯ พราวเลยขอติดรถเขามา”“อ้าว แล้วรถเขาจอดอยู่ตรงไหนล่ะลูก”“เอ่อ คือ...”“คือผมอยากลองนั่งแท็กซี่น่ะครับ ผมเลยให้พราวพานั่งแท็กซี่มาก่อนแล้วค่อยเรียกคนของผมเอารถมาส่งให้ที่นี่” พราวแสงแขไม่รู้จะตอบมารดาอย่างไรดีแต่แมทธิวก็เอ่ยแก้ข้อกังขาของนางด้วยภาษาไทยชัดเจนทำให้นางมองเขาอย่างชื่นชมส่วนพราวแสงแขก็ลอบถอนใจเบาๆ“อ้อ.. เหรอคะ ถ้าอย่านั้นอยู่ทานข้าวเย็นกันก่อนสิคะคุณ เอ้าพราวเอากระเป๋าไปเก็บสิลูก แล้วออกมาช่วยแม่ทำอาหารเลี้ยงแขก”“โธ่.. แม่ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณแมทธิวเขาไม่เหมือนเรา เขากินอาหารพื้นๆ อย่างเราไม่ได้หรอกค่ะแม่อย่าลำบากเลย” พราวแสงแขรีบขัดขึ้นเพราะไม่อยากให้เขาอยู่ที่นี่นานนัก “ไม่เป็นไรครับ ผมกินได้ กินอาหารพื้นๆ บ้างก็ดีครับ ผมชอบทานอาหารไทย โดยเฉพาะน้ำพริกปลาทูผมชอบมากเลยครับ”แมทธิวเองก็พูดขึ้นมาทันทีเช่นกัน นางแขไขมองลูกสาวทีมองเจ้านา
ตอนที่31.แต่เมื่อถึงจุดแตกหักและวายุได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาจึงทำให้เธอคิดอะไรได้หลายๆ อย่าง ที่สำคัญเธอก็เห็นหลุยส์ชัดเจนกว่าที่ผ่านมา เขาไม่ใช่ซอมบี้หรือผีดิบไร้ความรู้สึกเหมือนที่เธอเคยคิด... เขาแตกต่างจากที่เธอเห็นมาตลอด หลุยส์ทำให้ใจของเธอหวั่นไหวและอบอุ่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ... มันไม่จริงใช่ไหมที่เธอรู้สึกแบบนั้น เมริสาเฝ้าถามใจตนเองด้วยความหวั่นไหว...“คุณหนูลุกไหวไหมครับ” ชายหนุ่มหันมาถามทำให้เธอต้องรีบหลบสายตาเขาแล้วเสมองไปนอกห้องด้วยใจเต้นกระหน่ำและนึกแช่งชักเขาอยู่ในใจ...คนบ้า จะหันมาก็ไม่บอก เธอเกือบหลบสายตาเขาไม่ทันแน่ะ... “ไม่หิว...” เสียงหวานแผ่วเบาแต่ห้วนจัดด้วยความฉุนเฉียวปิดไม่มิด ที่ว่าฉุนเฉียวนั่นก็เพราะเธอโมโหตนเองต่างหากล่ะ“คุณหนูกินอะไรหน่อยนะครับ นิดเดียวก็ยังดี ถ้าคุณหนูกินเองไม่ไหวผมป้อนให้ก็ได้”หลุยส์พูดกับเธออย่างนุ่มนวลแล้วเดินมานั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงมองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน เมริสายิ่งใจสั่นมือไม้พานสั่นไปด้วยและทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ยิ่งเห็นหน้าเขาใกล้ๆ แบบนี้ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าเขาหล่อเหลาไม่แพ้พี่ชายของเธอ ก่อนหน้านี้ทำไมเธอไม่เคยเห็นนะ...“อุ
ตอนที่30.พราวแสงแขรู้สึกสงสารหลุยส์ที่ทำได้เพียงเฝ้ามองหญิงสาวที่ตนเองแอบรักโดยไม่อาจจะทำอะไรได้มากกว่านั้น แม้หลุยส์จะช่วยดูแลเมริสาอย่างดี แต่หากไม่มีตัวช่วยหลุยส์ก็คงไม่มีโอกาสบอกความในใจของตนให้ใครรับรู้ และเมริสาก็อาจจะได้พบผู้ชายดีๆ มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี แต่พราวแสงแขก็ได้แต่หวังว่าความหวังดีของเธอจะทำให้เมริสาหายป่วยและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ...ทางด้านเมริสานั้นมองประตูที่ปิดลงอย่างฉุนเฉียว เธอเริ่มรู้สึกตัวและจดจำอะไรได้เหมือนเดิมแล้ว แต่ยังไม่อยากบอกให้ใครรู้จึงแกล้งเป็นคนป่วยที่ความจำเสื่อมอยู่ แต่พราวแสงแขก็ฉลาดและจับผิดเธอได้ เธอรู้สึกเสียหน้าและโกรธอยากอาละวาดแต่เพราะลึกๆ ในใจนั้นยังคงเจ็บปวดไม่หายและยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับใคร จึงต้องสั่งให้พราวแสงแขช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แต่พราวแสงแขก็มักกวนประสาทเธออยู่เสมอเมริสาถอนใจหนักๆ แล้วหันไปมองทิวทัศน์ด้านนอกอย่างครุ่นคิด เธอพบว่าช็อกไปเล็กน้อยเมื่อพบเจอหน้าพราวแสงแขและเมื่อรู้ว่าพราวแสงแขมาดูแลเธอก็ยิ
ตอนที่29.“ถ้าหากผมจะบอกว่าผมรักผู้หญิงคนหนึ่งมาก มากเท่าชีวิตแล้วผมจะขอดูแลเธอตลอดไป คุณแมทจะยอมยกเธอคนนั้นให้ผมรึเปล่า...” ชายหนุ่มหน้าหม่นลงทันทีเมื่อคิดว่า สิ่งที่เขาคาดหวังมันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน...ทางด้านพราวแสงแขที่เดินขึ้นเรือนมาเธอไม่ได้ตรงไปยังห้องของตนเองแต่เธอไปที่ห้องของเมรี่เพราะนี่จะได้เวลาที่เมริสาตื่นมารับประทานอาหารกลางวันและยาหลังอาหารแล้วนั่นเอง พราวแสงแขมองดูหญิงสาววัยเดียวกันกับตนเองที่กำลังลืมตามองเพดานนิ่งด้วยความรู้สึกที่อึดอัดเมื่อเธอรู้ดีว่าเมริสานั้นหายจากอาการซึมเศร้ามาสักระยะแล้วแต่เมริสาก็ยังให้เธอเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและไม่ยอมบอกความจริงเรื่องที่เกิดในวันนั้นกับใคร“เมรี่...” เธอเรียกเบาๆ ทำให้เมริสาหันมามองเธอด้วยแววตาไม่พอใจ“ได้ข่าวว่าเธอจะกลับบ้าน เธอจะทิ้งฉันเหรอ...”“เปล่า ฉันแค่คิดถึงแม่ แค่อยากกลับไปเยี่ยมแม่บ้างก็เท่านั้น แค่สามวันแล้วฉันจะกลับมา” พราวแสงแขบอกพลางเดินมานั่งที่เก
ตอนที่28.ทางด้านวายุที่กำลังทำงานหนักอยู่กลางแดดร้อนเริ่มจะทนในสภาพที่ตนเองอยู่ไม่ไหวเขาจึงคิดหาทางหนีออกไปจากไร่และคิดจะไปแจ้งความเอาผิดแมทธิวที่ทำกับตนแบบนี้ ดวงตายาวรีหลุกหลิกสังเกตการณ์รอบกายเมื่อเห็นว่าวันนี้ปลอดคนเขาจึงค่อยๆ เดินไปที่ถังน้ำทำทีว่าจะไปดื่มน้ำแก้กระหาย ชายหนุ่มยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเฝ้ามองดูว่าเมื่อไหร่อาคมจะเข้าเมืองไปเสียที เพราะเขาได้ยินว่าวันนี้อาคมจะเข้าเมืองไปซื้อของมาให้เหล่าคนงานและซื้อหาอาหารมาให้แม่บ้านของไร่ทำอาหารเลี้ยงคนงาน ซึ่งบ้านของคนงานจะอยู่ท้ายไร่ซึ่งติดกับชายป่าแต่ก็มีรั้วรอบขอบชิดอย่างดี แปลงสตรอว์เบอร์รี่และชาที่กำลังเติบโตแตกยอดอ่อนบวกกับบรรยากาศที่สดชื่นเขียวขจีทำให้ที่นี่งดงามน่าเที่ยวชมแต่สำหรับวายุแล้วที่นี่เหมือนนรกสำหรับเขา เขาจะต้องหนีไปให้ได้...เมื่อเห็นว่าอาคมขับรถกระบะเก่าๆ ออกไปจากไร่แล้ววายุก็รีบเดินไปยังที่ที่เขาแอบเก็บอุปกรณ์บางอย่างไว้แล้วนำมันออกมาจากที่ซ่อน มันคือแท่งเหล็กแหลมๆ จากเศษอะไรสักอย่างที่เขาอุตส่าห์แอบหยิบมาจากกล่องเครื่องมือช่างของอาคมนั่นเอง ซึ่งเขาจะใช้มั
ตอนที่27.“จะยั่วกันจริงๆ หรือนี่... ขอบอกก่อนนะว่าฉันไม่กล้าทำอะไรเธอที่นี่หรอก”คำพูดขอเขาทำให้คนที่ตกอยู่ในภวังค์หวามกะพริบตาปริบๆ มองเขาอย่างมึนงงแล้วก็ต้องหน้าแดงซ่านเมื่อเห็นว่าเธอกำลังเกยทับอยู่บนร่างแกร่งของเขาด้วยท่วงท่าน่าหวาดเสียวซ้ำเสื้อยืดตัวเล็กที่สวมอยู่ก็ร่นมาถึงเนินอก พราวแสงแขรีบผละออกจากร่างแกร่งอย่างรวดเร็วแล้วลนลานดึงเสื้อลงทันทีด้วยท่าทางเงอะงะขัดเขินเต็มกำลัง ความหวามไหวซ่านทรวงเมื่อครูพลันหายวับไปเหลือไว้เพียงความอดสูในใจที่เธอเผลอปล่อยตัวปล่อยใจให้เขากอดจูบเหมือนสาวแรงสูงไร้ยางอายอีกแล้ว...“คนทุเรศ ปากเสีย...” เมื่อถอยร่นห่างเขามาได้กว่าช่วงแขนหญิงสาวก็แหวใส่คนตัวโตที่มองเธอด้วยสายตาพราวพรายเหมือนจะยั่วเย้าให้เธอได้อาย“หึหึ มาเอาคืนไปสิสมุดสเกตภาพของเธอน่ะ...”เขาก้มลงไปหยิบสมุดสเกตภาพที่ตกอยู่ตรงหน้าของตนมายืนให้เธอด้วยท่าทางยียวน พราวแสงแขมองสิ่งที่อยู่ในมือเขาอย่างลังเลก่อนจะอาศัยความเร็วที่มีไม่แพ้ใครปรี่เข้าไปคว้าสมุดในมือเขาแล้ววิ่งออกไปจากห้องนั่งเล่
ตอนที่26.หญิงสาวแหวเสียงเขียวทั้งพยายามยื้อแย่งของของตนคืนมาแต่แมทธิวก็เหมือนแกล้งเมื่อเขาชูมันขึ้นสูงซึ่งเขาสูงกว่าเธอมากอยู่แล้วมันจึงสูงมากขึ้นไปอีกจนพราวแสงแขต้องกระโดดเหยงๆ เหมือนเด็กตัวเล็กๆ ถูกเด็กตัวโตจอมเกเรรังแกไม่มีผิด“เอ... ภาพนี้ดูลายเส้นแข็งไปนะ”เขาพูดพลางเปิดกระดาษไปทีละหน้าในขณะที่หมุนกายสูงใหญ่หนีการยื้อแย่งจากเธอ“แล้วภาพนี้ก็ดูแสงเงาก็ดูบางเบาไป ส่วนภาพนี้เค้าโครงหน้าคุ้นๆ นะ ใครน่ะ ดูท่าทางจะหล่อไม่เบา” เขาถามขณะเปิดดูภาพไปเรื่อยๆ อย่างอารมณ์ดีในขณะที่พราวแสงแขที่กระโดดแย่งสมุดภาพในมือของเขาเริ่มเหนื่อยและเริ่มฉุนจัด“เอาของเขาคืนมานะ คนบ้า รังแกคนไม่มีทางสู้”“แน่จริงก็แย่งให้ได้สิ” แมทธิวหันมายิ้มล้อเลียนเธอซึ่งรอยยิ้มทะเล้นๆ ทำให้ใบหน้าที่ดุดันเรียบเฉยอยู่เสมอของเขาดูอ่อนโยนลงจากหนุ่มมาดเข้มกลายเป็นชายหนุ่มหน้าทะเล้นขี้เล่น ที่สำคัญมันทำให้ตาของพราวแสงแขพร่าไปกับภาพเทพบุตรจอมกวนตรงหน้า“แน่จริงก็อย่าชูขึ้นสูงสิ ฉันตัว
ตอนที่25.“ลูกน้องกูรายงานว่ามึงไม่ยอมทำงาน”“กูไม่ทำ กูไม่ใช่ขี้ข้ามึง ปล่อยกูออกไปเดี๋ยวนี้เลยไอ้พวกหมาหมู่”วายุเกาะกรงเหล็กที่เริ่มร้อนขึ้นเพราะตะวันดวงใหญ่เริ่มเคลื่อนคล้อยมาอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้จะตรงศีรษะเข้ามาทุกทีๆ ในขณะที่แมทธิวยืนไขว้ขาเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงพิงเสาต้นใหญ่จากไม้สักทองทั้งต้นมองวายุอย่างสบายใจไม่เดือดร้อนกับแดดที่แผดจ้าอยู่นอกชายคาบ้าน“มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ ถึงได้มาสั่งกูไอ้วายุ ที่กูมีเมตตาให้มึงยังมีลมหายใจอยู่นี่ก็บุญหัวเน่าๆ ของมึงแล้ว อีกอย่างกูยังไม่ได้คำตอบที่แท้จริงจากปากมึงและเมรี่ก็ยังไม่ฟื้นความทรงจำ มึงจะรอดหากว่าเมรี่บอกว่าเรื่องทั้งหมดมึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถ้ามึงคือคนที่ทำให้น้องสาวกูเหมือนตายทั้งเป็น มึงเตรียมตัวขุดหลุมฝังตัวเองได้เลย อ้อ.. หากกูไม่ได้แหวนน้องสาวกูคืนมึงก็ตายเหมือนกัน...”“แต่กูร้อน กูไม่ใช่หมูไม่ใช่หมานะเว้ย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้”แม้อยู่ในฐานะที่ด้อยกว่าและยังมีชนักปักหลัง แต่วายุก็ยังไม่ลดลาความหยิ่งจ