พราวแสงแขยอมรับว่าตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เธอก็ไม่ได้คิดว่าตนจะต้องมารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นนี้ แต่ที่ยอมรับงานนี้ก็เพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนและเพื่อมารดาของเธอเองหาได้เกรงกลัวผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ นี้ไม่...
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เตรียมตัวเตรียมใจเผชิญกับสิ่งที่เธอไม่อาจจะรู้ได้ว่ามีอะไรรออยู่ข้างหน้า แต่สิ่งที่เธอจะต้องทำคือเข้มแข็งและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ อุบัติเหตุ ระหว่างเมริสากับวายุ พราวแสงแขครุ่นคิดเรื่องต่างๆ ในใจโดยไม่สนใจคนที่นั่งมาข้างๆ แม้แต่น้อย...
ในขณะเดียวกันแมทธิวเองก็ลอบพิจารณาคนข้างๆ เขาเงียบๆ ใบหน้าเรียวนวลใสไร้เครื่องสำอางที่ประดับด้วยเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มจะเรียกว่าสวยก็ไม่ใช่ จะว่าไม่สวยก็ไม่เชิงแต่ดวงตากลมโตซึ่งประดับด้วยขนตาดกหนายาวงอนเช้งราวตุ๊กตาของเธอนั้นโดดเด่นกว่าส่วนอื่นของใบหน้าทำให้ใบหน้าแสนธรรมดาของเธอดูน่ามองอย่างที่เขาไม่อาจจะปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้ หากเธอจะยิ้มแย้มแจ่มใสดวงตาของเธอคงจะเป็นประกายน่ามองกว่านี้เป็นไหนๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นคือความสงบนิ่งดูเย็นชาราวแม่ชีที่อยู่ในโบสถ์มืด ใบหน้าที่เชิดขึ้นน้อยๆ และมองออกไปนอกหน้าต่างรถนั้นดูไว้ตัวเย่อหยิ่งจนเขานึกหมั่นไส้ เป็นเด็กเป็นเล็กทำตัวแก่แดดแก่ลม...
แต่จากที่ได้จูบเธอเมื่อวันก่อนเขารู้ดีว่าเธอช่างอ่อนหัดนักจูบก็ไม่เป็นสับปะรด แต่ก็ทำให้เขาร้อนรุ่มปวดหนึบไปทั้งแก่นกายอย่างน่าโมโหซ้ำยังกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของเธอก็ติดตรึงปลายจมูกคมอยู่ไม่หายจนเขารู้สึกหงุดหงิดที่พอนึกถึงเธอทีไรกลิ่นกายและนวลเนื้อละมุนก็แวบเข้ามาในหัวในความรู้สึกทันที เธอซ่อนเย้ายวนไว้ภายใต้ความเรียบง่ายแสนธรรมดา เธอน่าปรารถนาและทำให้เขาร้อนรุ่มปวดหนึบไปทั้งแก่นกายอย่างที่เขาไม่คิดว่าผู้หญิงธรรมดาหน้าตาจืดๆ อย่างพราวแสงแขจะทำให้เขารู้สึกเช่นนั้นได้
แต่ยายจิ๋วตัวแสบก็ยังเป็นผู้หญิงแพศยาที่ทำลายครอบครัวของน้องสาวของเขาอยู่ดี ในที่สุดชายหนุ่มก็พยายามหาเหตุผลมากล่าวอ้างกับตนเองเพื่อไม่ให้หลงเสน่ห์ของเธอที่จู่ๆ ก็จู่โจมเขาอย่างตั้งตัวไม่ทัน หนุ่มสาวต่างอยู่ในห้วงความคิดของตนเองโดยที่ต่างฝ่ายต่างมองกันและกันด้วยอคติที่มีอยู่ในใจ ในขณะที่รถยนต์คันหรูแล่นด้วยความเร็วสม่ำเสมอไปยังสนามบินซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างถูกเตรียมไว้เพียบพร้อมสะดวกสบายโดยที่พราวแสงแขแค่มีหน้าที่เดินไปขึ้นเครื่องเท่านั้นเอง
มาเวลส์ เลกคันทรีแอนด์รีสอร์ต เป็นรีสอร์ตหรูสไตล์โมเดิร์นที่ผสมผสานรูปแบบเรือนไทยล้านนาประยุกต์เข้ากับบรรยากาศฟาร์มเลี้ยงม้าพันธุ์ดีและไร่ชากับไร่สตรอว์เบอร์รี่ได้อย่างลงตัวบ้านพักทุกหลังปลูกเป็นสัดส่วนมีความเป็นส่วนตัวกลมกลืนกับธรรมชาติอันงดงามส่วนผู้ที่ชื่นชอบความคึกคักไม่เงียบเหงาก็จะมีรีสอร์ตอีกด้านซึ่งเป็นตึกทรงไทยล้านนาประยุกต์ที่มีห้องพักนับร้อยห้องที่หรูหราพร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกทันสมัยครบครัน ส่วนบ้านพักที่พราวแสงแขนั้นก็คือเรือนไม้สักทองทรงล้านนาหลังใหญ่ที่อยู่ลึกเข้าไปในไร่ชาซึ่งเงียบสงบและเป็นส่วนตัวแวดล้อมด้วยขุนเขาเขียวขจีจนทำให้เธอมองรอบกายด้วยความตื่นเต้นจนลืมไปว่ามาที่นี่ในฐานะอะไร...
แมทธิวเดินนำร่างเล็กของพราวแสงแขไปยังระเบียงกว้างที่ทอดยาวสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามกว่าร้อยแปดสิบองศาและยังอยู่ใกล้ลำธารเล็กๆ จนได้ยินเสียงน้ำไหลเอื่อยๆ ผสานกับเสียงนกการาวเสียงดนตรีธรรมชาติอันไพเราะ พราวแสงแขชื่นชมธรรมชาติรอบกายด้วยความผ่อนคลายหายเกร็งลงไปเยอะทีเดียว...
“เธอมาแล้วครับ...”
แมทธิวกล่าวกับบิดามารดาซึ่งนั่งรอการมาของเขาอยู่ก่อนแล้ว และเมื่อผู้สูงวัยทั้งสองหันมามองหญิงสาวตัวเล็กซึ่งยืนอยู่ข้างบุตรชายพร้อมกันด้วยแววตาแปลกๆ ทำให้พราวแสงแขรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันทีแต่เธอก็ทำความเคารพผู้สูงวัยทั้งสองอย่างอ่อนน้อม
“หนูพราว...” คุณมาลินีเอ่ยชื่อของหญิงสาวออกมาเบาๆ เมื่อนึกได้ว่าหญิงสาวคนนี้หน้าคุ้นๆ
“เอ่อ ค่ะ พราวเองค่ะ คุณท่าน...”
หญิงสาวไหว้ผู้สูงวัยทั้งสอง และเอ่ยตอบไม่เต็มเสียงนักทั้งรู้สึกเกร็งๆ ขึ้นมาเมื่อเจอหน้าคุณมาลินีกับคุณมาร์คที่มองเธออย่างไม่วางตาซึ่งพราวแสงแขไม่มั่นใจว่าท่านทั้งสองจะให้ความเอ็นดูเธอหรือมองว่าเธอเป็นคนไม่ดีเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดเหมือนลูกชายของท่านหรือไม่...
“แมท แม่ว่า...” คุณมาลินีทำเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ชายหนุ่มขัดขึ้นเสียก่อน
“ผมให้เธอมาดูเมรี่ครับ ในเมื่อเธอเป็นต้นเหตุให้น้องเป็นแบบนี้เธอก็ต้องรับผิดชอบ นี่ถือว่าผมเมตตานะครับอย่างน้อยๆ เธอก็โชคดีกว่าไอ้หมอนั่น”
“แต่แม่...”
“คุณแม่ครับ ไม่ต้องห่วงว่าเธอจะทำร้ายน้องหรอกครับ เพราะหากเธอทำอะไรให้น้องเจ็บปวดอีก ผมเอาเธอตายแน่”
ชายหนุ่มไม่ฟังสิ่งที่มารดาเลี้ยงจะพูดเพราะคิดว่าคุณมาลินีอาจจะคิดสงสารพราวแสงแขในฐานะที่เคยเป็นเพื่อนของน้องสาวหรือไม่ก็กลัวว่าคุณมาลินีจะใจอ่อนกับหน้าซื่อๆ ตาใสๆ ของเจ้าหล่อนก็เป็นได้เขาจึงเลือกที่จะตัดบทเสียเลย
“พราวยินดีจะมาดูแลเมรี่ค่ะคุณท่านไม่ต้องกังวลนะคะ พราวจะทำให้เมรี่กลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน และพราวก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นค่ะ”
หญิงสาวบอกพวกเขาด้วยรอยยิ้มบางๆ ตามแบบของเธอ แม้คุณมาลินีจะเคยเจอพราวแสงแขไม่กี่ครั้งแต่ก็พอรู้นิสัยใจคอของพราวแสงแขอยู่บ้าง และนางคิดว่าการที่แมทธิวเลือกพราวแสงแขมาดูแลเมริสาก็เพราะแมทธิวคิดจะแก้แค้นแน่นอนคุณมาลินีหันไปสบตากับสามีที่กำลังมองนางเช่นกัน
“ถ้าอย่างนั้นหนูจะไปดูเมรี่ก่อนไหม ตอนนี้น่าจะตื่นแล้ว” คุณมาร์คเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเปี่ยมไปด้วยความอาทรทำให้พราวแสงแขใจชื้นขึ้นมาบ้าง
“ค่ะ...” หญิงสาวรับคำแล้วเดินตามคุณมาลินีไปอย่างไม่อิดออด ในขณะที่คุณมาร์คหันมามองบุตรชายด้วยแววตาเครียดขึ้ง
“นี่แมทคิดว่ากำลังทำอะไร...”
“ผมก็แค่อยากจัดการกับคนที่ทำให้น้องเจ็บปวดไงล่ะครับ” ชายหนุ่มตอบอย่างมั่นใจ
“แต่เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับแม่หนูคนนี้เลยนะ ทุกอย่างมันอยู่ที่คนของเรากับวายุ แล้วแมทเองก็จัดการกับเขาแล้วไม่ใช่หรือ”
ตอนที่14.“แต่คนต้นเหตุอีกคนก็ยังอยู่นี่ครับ เธอจะต้องได้รับรู้บ้างว่าสิ่งที่เธอรวมหัวกันกับไอ้วายุทำร้ายเมรี่นั้นมันเลวร้ายแค่ไหน และเมรี่ต้องทุกข์ทรมานยังไงบ้าง ผมจะไม่มีวันปล่อยให้เธอเป็นสุขแน่ๆ หากอาการของน้องยังไม่ดีขึ้น...” ชายหนุ่มยืนยันด้วยน้ำเสียงและแววตามั่นคงจนผู้เป็นพ่อต้องถอนใจออกมาพรืดใหญ่“แมท... พ่อจะบอกว่าแมทต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรเป็นอะไรอีกอย่าง เรื่องนี้แม่หนูคนนั้นเขาไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย คนของเราต่างหากที่ไปวุ่นวายกับเขาแม้แต่ตอนที่เมรี่เจ็บปางตายหนูพราวเขาก็เป็นคนเรียกรถพยาบาลและคอยให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเมรี่อย่างละเอียด คนเกลียดกันเขาจะทำอย่างนี้มั้ย แมทอย่าเชื่อน้องมากเกินไป...”คุณมาร์คบอกเพียงแค่นั้นแล้วเดินเลี่ยงออกไปด้วยไม่รู้จะอธิบายให้บุตรชายเข้าใจได้อย่างไร ทำให้แมทธิวยืนคิดแค้นเคืองอยู่คนเดียว คนอย่างแมทธิวนั้นหัวรั้นและหากเชื่อมั่นอะไรแล้วก็เปลี่ยนความคิดเขาได้อยาก และที่สำคัญคุณมาร์คเชื่อว่าสิ่งที่แมทธิวได้ยินได้ฟังจากน้องสาวที่รักก่อนเกิดเรื่องนั้นมันได้ฝังในใจของเขาไปแล้วว่าพราวแสงแขคือส่วนหนึ่งของเหตุการณ์อันนำมาซึ่งความสูญเสียของเมริสาและเขาก็
ตอนที่15.พราวแสงแขกำลังจะเดินกลับเข้าห้องของตนเองซึ่งอยู่ติดกันกับห้องของเมริสาต้องชะงักเมื่อเจอยักษ์ตัวใหญ่ยืนจังก้าขวางทางด้วยท่าทางที่พราวแสงแขต้องนึกถึงผู้ร้ายในภาพยนตร์แนวมาเฟียเสียทุกทีไป...“เดี๋ยว...”“มีอะไรกับดิฉันคะ...”หญิงสาวเชิดหน้ามองเขาอย่างไว้ตัวแสดงให้เขาเห็นว่าเธอไม่ได้หงอให้เขาหรือเกรงกลัวเขาอย่างที่เขานึก คนอย่างพราวแสงแขดูเป็นคนอ่อนหวานเรียบร้อยก็จริง แต่เธอไม่ได้อ่อนแอหรือยอมให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ เหมือนเช่นแต่ก่อนอีกแล้ว“เธอไม่ควรรื้อฟื้นความหลังของน้องสาวฉันแบบนั้นนะ มันยิ่งตอกย้ำให้เมรี่เครียด” เสียงเข้มนั้นเหมือนตะคอกเสียมากกว่า“นี่คุณคะ... คุณรู้อะไรเกี่ยวกับคนป่วยแบบเมรี่บ้าง คุณรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเมรี่บ้างในช่วงที่เธอเริ่มเรียนมหาวิทยาลัย หรือคุณรู้อะไรบ้างว่าจะต้องทำยังไงนอกจากมาโวยวายๆ ใส่ฉันแบบนี้ หากคุณให้ฉันมาดูเมรี่คุณก็ควรจะปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นหน้าที่ของฉัน ถึงแม้ฉันจะไม่ได้เป็นหมอหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ฉันศึกษาข้อมูลมาบ้างแล้วว่าต้องทำยังไง หากคุณจะมาขัดแย้งนู่นไม่ได้ นี่ไม่ได้ ก็ไม่ต้องลากตัวฉันมาสิ...”คำตอบยืดยาวของพราวแสงแขทำเอาแมทธิวถึง
ตอนที่16.พราวแสงแขถอนหายใจเบาๆ เมื่อเมริสาหลับไปแล้วหลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันและยาตามที่แพทย์สั่ง เธอไม่ได้หนักใจเลยในการมาดูแลเมริสา แต่กลับยิ่งสงสารคนที่เคยแย่งคนรักของเธอไปมากขึ้น และภาวนาให้เมริสาฟื้นความจำมาได้โดยเร็ว หญิงสาวปิดประตูห้องนั่งเล่นที่มักพาเมริสามาพักผ่อนและอ่านหนังสือดูหนังด้วยกันอย่างเบามือแล้วกลับเข้าห้องตัวเองไปหยิบกล้องถ่ายรูปและสมุดสเกตภาพใส่กระเป๋าผ้าใบใหญ่เพื่อไปถ่ายรูปหรือบางทีหากเธอเจออะไรที่เป็นแรงบันดาลใจเธอก็อาจจะนั่งสเกตภาพเล่นๆ แก้เหงาได้“คุณท่านคะ พราวขออนุญาตไปเดินดูวิวรอบๆ รีสอร์ตได้ไหมคะ” หญิงสาวเดินออกมาที่ระเบียงกว้างซึ่งคุณมาลิสากับคุณมาร์คมานั่งอ่านหนังสือและคุยกันอยู่“ตามสบายเลยจ้ะหนูพราว เมรี่หลับแล้วหนูอยากจะไปไหนก็ไปเถอะ หรือจะเข้าไร่ก็ให้คนพาไปได้นะจ๊ะ” คุณมาลินีบอกอย่างอ่อนโยน“ฉันว่าหนูเลิกเรียกเราว่าคุณท่านดีกว่าไหม เรียกคุณลุงคุณป้า หรือคุณพ่อคุณแม่ก็ได้” คุณมาร์คเอ่ยพลางวางหนังสือพิมพ์ลงมองหน้าหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าอย่างเอ็นดู“พราวไม่อาจเอื้อมหรอกค่ะคุณท่าน”“เถอะน่า หนูเป็นเพื่อนเมรี่ก็เหมือนเป็นลูกสาวเรา เรียกคุณพ่อคุณแม่เถ
ตอนที่17.หญิงสาวพูดใส่หน้าเขาทั้งพยายามสะบัดข้อมือเล็กออกจากอุ้งมือหนาทั้งพยายามขืนตัวออกให้ห่างจากเขาด้วยความโกรธไม่แพ้กัน“คิดว่าฉันอยากจะแตะเธอรึไงยายตัวแสบเอ๊ย อย่าสำคัญตัวเองนักเลย”“งั้นก็ปล่อยเขาสิ จะจับไว้ทำไม... ว้าย...” ไม่ทันที่เธอจะได้ตอบโต้กับเขาในขณะที่เธอกำลังจะบัดตัวนั้นเขาก็ปล่อยมือทันทีจนร่างเล็กเซถลาล้มไม่เป็นท่าก้นกระแทกพื้นจังๆ“เป็นไงล่ะแม่คนเก่ง อยากให้ปล่อยฉันก็ปล่อยแล้วนะจะมาว่าฉันรังแกเธอไม่ได้นะ หึหึ...” ชายหนุ่มหัวเราะร่วนเมื่อเห็นท่าทางคลำก้นป้อยๆ ทั้งหน้าตาเหยเกของเธอ“คุณ... คนบ้า รังแกผู้หญิง...”พราวแสงแขทั้งเจ็บทั้งจุกจนพูดน้ำตาแทบเล็ด มองเขาด้วยความเจ็บใจมือน้อยกำหญ้าข้างกายแล้วดึงขึ้นปาใส่เขาอย่างฉุนเฉียวโดยไม่นึกเกรงกลัวเขาสักนิด“โอ๊ย.. ยายเด็กบ้าฉันเปื้อนหมดแล้ว หยุดนะ... บอกให้หยุด”แมทธิวกระโดดหลบหญ้าที่เธอปาใส่พัลวัน เจ้าม้าหนุ่มที่เขาจูงมาซึ่งกำลังเล็มหญ้าอยู่ไม่ไกลเห็นท่าทางของเจ้านายหนุ่มก็ทำเสียงฮี่ๆ เหมือนหัวเราะสนุกสนานทำให้แมทธิวหันไปค้อนเจ้าม้าหนุ่มนามว่า ไทเกอร์ อย่างหมั่นไส้“แกหัวเราะฉันเหรอไทเกอร์...” แมทธิวทำท่าขึงขังใส่เจ้าม้าที
ตอนที่18.“มีอะไร” ถามเสียงเข้มหน้าตาก็เคร่งขรึมไปด้วยอย่างรักษาท่าทีไว้ทั้งทีในใจนั้นระแวงรอยยิ้มหวานๆ นั้นไม่น้อย“เป็นนายแบบให้หน่อยสิคะคุณแมท” พราวแสงแขทำเสียงอ่อยพร้อมทั้งทำตาปริบๆ มองเขา“ห๊ะ เธอจะให้ฉันนี่นะเป็นนายแบบให้ ขอมากเกินไปรึเปล่า ค่าตัวแพงนะจะบอกให้”“โธ่เอ๊ย แค่นี้ทำงกไปด้วย น่านิดเดียวรูปเดียวเอง นะคะๆ ...” พราวแสงแขต่อรองเสียงหวานจนแมทธิวนึกเอ็นดูแต่ก็เก๊กท่าขรึมเข้มเอาไว้“โอเคๆ ก็ได้ แค่รูปเดียวนะ”“โอเค้ งั้นยืนตรงนี้นะคะ ตรงนี้ๆ” เธอรับคำเสียงสูงพลางกำกับให้เขายืนตรงที่เธอต้องการจนเป็นที่พอใจเจ้าหล่อนก็กดชัตเตอร์ถ่ายรูปไปหนึ่งครั้งและสองครั้งสามครั้งตามมาเพราะไม่ได้ดังใจเมื่อนายแบบเอาแต่ยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าเดียว“คุณแมทธิวคะกรุณา ช่วยทำหน้าให้ดีๆ หน่อยได้ไหมคะ ยิ้มๆ อ่อนโยนๆ หน่อยค่ะ นี่ถ่ายแบบท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามนะคะไม่ใช่กลางสมรภูมิสงครามโลก...” หญิงสาวเท้าสะเอวหน้ามุ่ยใส่เขา“เธอนี่เรื่องมากจริง ฉันทำเป็นแค่หน้าแบบนี้ ตกลงจะถ่ายมั้ย”“ก็ได้ๆ งั้นอีกรูปเดียว คุณช่วยถอยไปตรงนั้นนิดสิคะ ไม่ใช่ๆ ตรงนั้นๆ ยังไม่พอ ถอยอีกๆๆ นั่นล่ะ ไม่ๆ ถอยไปอีกนิด” พราวแสงแขร
ตอนที่18.“มีอะไร” ถามเสียงเข้มหน้าตาก็เคร่งขรึมไปด้วยอย่างรักษาท่าทีไว้ทั้งทีในใจนั้นระแวงรอยยิ้มหวานๆ นั้นไม่น้อย“เป็นนายแบบให้หน่อยสิคะคุณแมท” พราวแสงแขทำเสียงอ่อยพร้อมทั้งทำตาปริบๆ มองเขา“ห๊ะ เธอจะให้ฉันนี่นะเป็นนายแบบให้ ขอมากเกินไปรึเปล่า ค่าตัวแพงนะจะบอกให้”“โธ่เอ๊ย แค่นี้ทำงกไปด้วย น่านิดเดียวรูปเดียวเอง นะคะๆ ...” พราวแสงแขต่อรองเสียงหวานจนแมทธิวนึกเอ็นดูแต่ก็เก๊กท่าขรึมเข้มเอาไว้“โอเคๆ ก็ได้ แค่รูปเดียวนะ”“โอเค้ งั้นยืนตรงนี้นะคะ ตรงนี้ๆ” เธอรับคำเสียงสูงพลางกำกับให้เขายืนตรงที่เธอต้องการจนเป็นที่พอใจเจ้าหล่อนก็กดชัตเตอร์ถ่ายรูปไปหนึ่งครั้งและสองครั้งสามครั้งตามมาเพราะไม่ได้ดังใจเมื่อนายแบบเอาแต่ยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าเดียว“คุณแมทธิวคะกรุณา ช่วยทำหน้าให้ดีๆ หน่อยได้ไหมคะ ยิ้มๆ อ่อนโยนๆ หน่อยค่ะ นี่ถ่ายแบบท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามนะคะไม่ใช่กลางสมรภูมิสงครามโลก...” หญิงสาวเท้าสะเอวหน้ามุ่ยใส่เขา“เธอนี่เรื่องมากจริง ฉันทำเป็นแค่หน้าแบบนี้ ตกลงจะถ่ายมั้ย”“ก็ได้ๆ งั้นอีกรูปเดียว คุณช่วยถอยไปตรงนั้นนิดสิคะ ไม่ใช่ๆ ตรงนั้นๆ ยังไม่พอ ถอยอีกๆๆ นั่นล่ะ ไม่ๆ ถอยไปอีกนิด” พราวแสงแขร
ตอนที่19.“หากฉันทำให้คุณโกรธ ฉันขอโทษ... ปละ ปล่อย... อุ๊ย...” เสียงหวานที่ทัดทานหายไปในลำคอเมื่อริมฝีปากสาวถูกครอบครองด้วยริมฝีปากหยักได้รูปร้อนผ่าวที่เบียดบดคลึงเคล้าซอกซอนหาความหวานจากโพรงปากสาวอย่างห้ามใจไม่ไหวกับความเย้ายวนตรงหน้าที่แม้เธอไม่ได้ยั่วเขา แต่เขาก็ร้อนเร่าขึ้นมาอย่างง่ายดายแมทธิวลูบไล้กายเล็กบอบบางแต่อวบอิ่มเต็มตึงในบางส่วนด้วยความพอใจหลงใหลไปกับความเย้ายวนของเธออย่างง่ายดาย ในขณะที่พราวแสงแขเองก็เคลิบเคลิ้มเผลอไผลไปกับจุมพิตที่สนิทเสน่หาของเขา มือบางที่ผลักไสในคราแรกวางบนอกแกร่งและลูบไล้แผงอกกว้างของเขาอย่างลืมตัว ลิ้นเล็กที่ไม่ประสาก็ตวัดตอบโต้เรียวลิ้นร้อนของเขาอย่างน่ารักแม้จะเงอะงะไปบ้างแต่ก็ทำให้แมทธิวพอใจอย่างที่สุด มือใหญ่ร้อนผ่าวลูบไล้ไปตามสะเอวคอดเรื่อยไปยังก้นงามงอนกลมกลึง อีกข้างก็ลูบสอดไซ้เข้าไปใต้ชายเสื้อยืดสีหวานของเธอจนพบกับดอกบัวงามอวบอิ่มที่ผลิบานอยู่เหนือระดับน้ำซึ่งกระเพื่อมไหวจากกการขยับกายของทั้งสอง...“หวาน...” เสียงห้าวแหบพร่าไปกับความหวานละมุนแสนเย้ายวนของเธอ ทั้งมือร้อนที่กอบกุมทรวงสาวอวบใหญ่เกินตัวก็เคล้นคลึงความอวบอิ่มที่มีบราลูกไม้สีสวย
ตอนที่20.คุณมาลินีมองตามชายหนุ่มที่อุ้มพราวแสงแขกลับห้องไปอย่างครุ่นคิดแล้วสั่งแม่บ้านให้ทำข้าวต้มให้พราวแสงแขแล้วจึงเดินตามไปดูอาการของหญิงสาวที่หน้าซีดปากสั่นอยู่ในอ้อมแขนของลูกเลี้ยงสุดหล่ออย่างเป็นห่วง“เอาล่ะ เธอต้องทำตามที่ฉันบอกนะอย่าดื้ออย่าเถียง...” ชายหนุ่มชี้นิ้วห้ามเมื่อวางร่างเล็กลงบนเก้าอี้นั่งเล่นในห้องนอนของเธอแล้วพราวแสงแขทำท่าจะลุกขึ้น“ฉันแค่อยากจะ...” “ไม่ต้องพูด พอฉันออกไปเธอก็รีบไปอาบน้ำสระผมแล้วกินข้าวกินยา ห้ามปล่อยให้ตัวเองป่วยเด็ดขาด เข้าใจมั้ย...”“อะไรกันน่ะแมท ดุน้องทำไมกันนักหนา...” คุณมาลินีซึ่งเดินตามเข้ามาขัดขึ้นแล้วเดินมาลูบหลังลูบไหล่พราวแสงแขอย่างเอ็นดู“หนูพราวไปอาบน้ำอาบท่าเสียไป แล้วออกมาจะได้กินข้าวต้มกินยาแล้วก็จะได้พักผ่อนนะจ๊ะ”“ขอบคุณค่ะคุณแม่...” หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานด้วยท่าทางออดอ้อนจนทำให้แมทธิวมองอย่างขุ่นใจแกมหมั่นไส้ ยายจิ๋วตัวแสบนี่ร้ายกาจไม่เบาต่อหน้ามารดาเขาล่ะทำเป็นเด็กดีว่าง่ายทีอยู่กับเขาเธอคือนางแมวป่าดุเดือดเถียงคำไม่ตกฟาก...“แมทออกไปได้แล้วไป อย่ามาวุ่นวายกับน้อง...”คุณมาลินีหันมาทำตาดุๆ ใส่ลูกเลี้ยง แมทธิวมองพราวแสงแขอย่าง
ตอนที่33.หญิงสาวเดินมานั่งบนขอบเตียงกว้างแล้วเขย่าร่างหนาเบาๆ แล้วก็พบว่าเขาตัวร้อนอยู่ไม่น้อย“อือ... อย่ามายุ่ง” คนป่วยพลิกกายหนีมือเล็กอย่างรำคาญแล้วนิ่วหน้าทำเสียงในลำคอเหมือนว่าเจ็บปวดมากใบหน้าคมเข้มครึ้มไปด้วยหนวดเคราที่ขึ้นหนาตาทั้งที่เมื่อวานมันเป็นเพียงตอเขียวๆ จาง เท่านั้น“คุณไม่สบายนะ ลุกมากินข้าวกินยาหน่อยสิคุณ”“บอกว่าอย่ายุ่ง” คราวนี้เสียงแหบห้าวดังขึ้น ดวงตาคมขยุกขยิกพยายามจะลืมมองคนที่บังอาจมาสั่งเขา“ไม่อยากมายุ่งด้วยเลย หากคนของคุณไม่ไปตามจิกฉันมาดูคุณเนี่ย ถ้ารู้ว่าจะดื้อด้านขนาดนี้ปล่อยให้ป่วยตายไปเลยดีกว่า”“พราว... เหรอ” เขาถามเสียงแหบดวงตาคมแดงก่ำหรี่ปรือดูน่าสงสารอยู่ไม่น้อย ร่างสูงพยายามยันกายลุกขึ้นทำให้ผ้าห่มที่คลุมกายหนาอยู่นั้นรั้งลงมากองอยู่ที่เอวสอบเผยให้เห็นแผงอกกว้างเปล่าเปลือยที่ประดับด้วยไรขนดกหนาประปรายที่ค่อยๆ ลับหายไปใต้ขอบผาห่ม พราวแสงแขหน้าร้อนผ่าวหายใจติดขัดขึ้นมาทันที “เฮ้ยๆ คุณๆ ไม่ต้องลุก นะ นั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ” หญิงสาวรีบห้ามเขาไว้เสียงสั่นเมื่อแมทธิวทำท่าว่าจะลุกขึ้น“เอ่อ.. คุณไม่สบายน่ะ เดี๋ยวฉันเอาข้าวต้มมาให้คุณ กินข้าวต้มแล้วก็กินยานอ
ตอนที่32.“สวัสดีครับ” แมทิวกล่าวทักทายพร้อมทั้งยกมือไหว้มารดาของพราวแสงแขอย่างนอบน้อม“ค่ะสวัสดีค่ะ” นางแขไขมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์จนพราวแสงแขรู้สึกอึดอัด“คือ นี่คุณแมทธิว เขาเป็นนายจ้างของพราวเองค่ะแม่ คือ เขา มาธุระที่กรุงเทพฯ พราวเลยขอติดรถเขามา”“อ้าว แล้วรถเขาจอดอยู่ตรงไหนล่ะลูก”“เอ่อ คือ...”“คือผมอยากลองนั่งแท็กซี่น่ะครับ ผมเลยให้พราวพานั่งแท็กซี่มาก่อนแล้วค่อยเรียกคนของผมเอารถมาส่งให้ที่นี่” พราวแสงแขไม่รู้จะตอบมารดาอย่างไรดีแต่แมทธิวก็เอ่ยแก้ข้อกังขาของนางด้วยภาษาไทยชัดเจนทำให้นางมองเขาอย่างชื่นชมส่วนพราวแสงแขก็ลอบถอนใจเบาๆ“อ้อ.. เหรอคะ ถ้าอย่านั้นอยู่ทานข้าวเย็นกันก่อนสิคะคุณ เอ้าพราวเอากระเป๋าไปเก็บสิลูก แล้วออกมาช่วยแม่ทำอาหารเลี้ยงแขก”“โธ่.. แม่ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณแมทธิวเขาไม่เหมือนเรา เขากินอาหารพื้นๆ อย่างเราไม่ได้หรอกค่ะแม่อย่าลำบากเลย” พราวแสงแขรีบขัดขึ้นเพราะไม่อยากให้เขาอยู่ที่นี่นานนัก “ไม่เป็นไรครับ ผมกินได้ กินอาหารพื้นๆ บ้างก็ดีครับ ผมชอบทานอาหารไทย โดยเฉพาะน้ำพริกปลาทูผมชอบมากเลยครับ”แมทธิวเองก็พูดขึ้นมาทันทีเช่นกัน นางแขไขมองลูกสาวทีมองเจ้านา
ตอนที่31.แต่เมื่อถึงจุดแตกหักและวายุได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาจึงทำให้เธอคิดอะไรได้หลายๆ อย่าง ที่สำคัญเธอก็เห็นหลุยส์ชัดเจนกว่าที่ผ่านมา เขาไม่ใช่ซอมบี้หรือผีดิบไร้ความรู้สึกเหมือนที่เธอเคยคิด... เขาแตกต่างจากที่เธอเห็นมาตลอด หลุยส์ทำให้ใจของเธอหวั่นไหวและอบอุ่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ... มันไม่จริงใช่ไหมที่เธอรู้สึกแบบนั้น เมริสาเฝ้าถามใจตนเองด้วยความหวั่นไหว...“คุณหนูลุกไหวไหมครับ” ชายหนุ่มหันมาถามทำให้เธอต้องรีบหลบสายตาเขาแล้วเสมองไปนอกห้องด้วยใจเต้นกระหน่ำและนึกแช่งชักเขาอยู่ในใจ...คนบ้า จะหันมาก็ไม่บอก เธอเกือบหลบสายตาเขาไม่ทันแน่ะ... “ไม่หิว...” เสียงหวานแผ่วเบาแต่ห้วนจัดด้วยความฉุนเฉียวปิดไม่มิด ที่ว่าฉุนเฉียวนั่นก็เพราะเธอโมโหตนเองต่างหากล่ะ“คุณหนูกินอะไรหน่อยนะครับ นิดเดียวก็ยังดี ถ้าคุณหนูกินเองไม่ไหวผมป้อนให้ก็ได้”หลุยส์พูดกับเธออย่างนุ่มนวลแล้วเดินมานั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงมองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน เมริสายิ่งใจสั่นมือไม้พานสั่นไปด้วยและทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ยิ่งเห็นหน้าเขาใกล้ๆ แบบนี้ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าเขาหล่อเหลาไม่แพ้พี่ชายของเธอ ก่อนหน้านี้ทำไมเธอไม่เคยเห็นนะ...“อุ
ตอนที่30.พราวแสงแขรู้สึกสงสารหลุยส์ที่ทำได้เพียงเฝ้ามองหญิงสาวที่ตนเองแอบรักโดยไม่อาจจะทำอะไรได้มากกว่านั้น แม้หลุยส์จะช่วยดูแลเมริสาอย่างดี แต่หากไม่มีตัวช่วยหลุยส์ก็คงไม่มีโอกาสบอกความในใจของตนให้ใครรับรู้ และเมริสาก็อาจจะได้พบผู้ชายดีๆ มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี แต่พราวแสงแขก็ได้แต่หวังว่าความหวังดีของเธอจะทำให้เมริสาหายป่วยและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ...ทางด้านเมริสานั้นมองประตูที่ปิดลงอย่างฉุนเฉียว เธอเริ่มรู้สึกตัวและจดจำอะไรได้เหมือนเดิมแล้ว แต่ยังไม่อยากบอกให้ใครรู้จึงแกล้งเป็นคนป่วยที่ความจำเสื่อมอยู่ แต่พราวแสงแขก็ฉลาดและจับผิดเธอได้ เธอรู้สึกเสียหน้าและโกรธอยากอาละวาดแต่เพราะลึกๆ ในใจนั้นยังคงเจ็บปวดไม่หายและยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับใคร จึงต้องสั่งให้พราวแสงแขช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แต่พราวแสงแขก็มักกวนประสาทเธออยู่เสมอเมริสาถอนใจหนักๆ แล้วหันไปมองทิวทัศน์ด้านนอกอย่างครุ่นคิด เธอพบว่าช็อกไปเล็กน้อยเมื่อพบเจอหน้าพราวแสงแขและเมื่อรู้ว่าพราวแสงแขมาดูแลเธอก็ยิ
ตอนที่29.“ถ้าหากผมจะบอกว่าผมรักผู้หญิงคนหนึ่งมาก มากเท่าชีวิตแล้วผมจะขอดูแลเธอตลอดไป คุณแมทจะยอมยกเธอคนนั้นให้ผมรึเปล่า...” ชายหนุ่มหน้าหม่นลงทันทีเมื่อคิดว่า สิ่งที่เขาคาดหวังมันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน...ทางด้านพราวแสงแขที่เดินขึ้นเรือนมาเธอไม่ได้ตรงไปยังห้องของตนเองแต่เธอไปที่ห้องของเมรี่เพราะนี่จะได้เวลาที่เมริสาตื่นมารับประทานอาหารกลางวันและยาหลังอาหารแล้วนั่นเอง พราวแสงแขมองดูหญิงสาววัยเดียวกันกับตนเองที่กำลังลืมตามองเพดานนิ่งด้วยความรู้สึกที่อึดอัดเมื่อเธอรู้ดีว่าเมริสานั้นหายจากอาการซึมเศร้ามาสักระยะแล้วแต่เมริสาก็ยังให้เธอเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและไม่ยอมบอกความจริงเรื่องที่เกิดในวันนั้นกับใคร“เมรี่...” เธอเรียกเบาๆ ทำให้เมริสาหันมามองเธอด้วยแววตาไม่พอใจ“ได้ข่าวว่าเธอจะกลับบ้าน เธอจะทิ้งฉันเหรอ...”“เปล่า ฉันแค่คิดถึงแม่ แค่อยากกลับไปเยี่ยมแม่บ้างก็เท่านั้น แค่สามวันแล้วฉันจะกลับมา” พราวแสงแขบอกพลางเดินมานั่งที่เก
ตอนที่28.ทางด้านวายุที่กำลังทำงานหนักอยู่กลางแดดร้อนเริ่มจะทนในสภาพที่ตนเองอยู่ไม่ไหวเขาจึงคิดหาทางหนีออกไปจากไร่และคิดจะไปแจ้งความเอาผิดแมทธิวที่ทำกับตนแบบนี้ ดวงตายาวรีหลุกหลิกสังเกตการณ์รอบกายเมื่อเห็นว่าวันนี้ปลอดคนเขาจึงค่อยๆ เดินไปที่ถังน้ำทำทีว่าจะไปดื่มน้ำแก้กระหาย ชายหนุ่มยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเฝ้ามองดูว่าเมื่อไหร่อาคมจะเข้าเมืองไปเสียที เพราะเขาได้ยินว่าวันนี้อาคมจะเข้าเมืองไปซื้อของมาให้เหล่าคนงานและซื้อหาอาหารมาให้แม่บ้านของไร่ทำอาหารเลี้ยงคนงาน ซึ่งบ้านของคนงานจะอยู่ท้ายไร่ซึ่งติดกับชายป่าแต่ก็มีรั้วรอบขอบชิดอย่างดี แปลงสตรอว์เบอร์รี่และชาที่กำลังเติบโตแตกยอดอ่อนบวกกับบรรยากาศที่สดชื่นเขียวขจีทำให้ที่นี่งดงามน่าเที่ยวชมแต่สำหรับวายุแล้วที่นี่เหมือนนรกสำหรับเขา เขาจะต้องหนีไปให้ได้...เมื่อเห็นว่าอาคมขับรถกระบะเก่าๆ ออกไปจากไร่แล้ววายุก็รีบเดินไปยังที่ที่เขาแอบเก็บอุปกรณ์บางอย่างไว้แล้วนำมันออกมาจากที่ซ่อน มันคือแท่งเหล็กแหลมๆ จากเศษอะไรสักอย่างที่เขาอุตส่าห์แอบหยิบมาจากกล่องเครื่องมือช่างของอาคมนั่นเอง ซึ่งเขาจะใช้มั
ตอนที่27.“จะยั่วกันจริงๆ หรือนี่... ขอบอกก่อนนะว่าฉันไม่กล้าทำอะไรเธอที่นี่หรอก”คำพูดขอเขาทำให้คนที่ตกอยู่ในภวังค์หวามกะพริบตาปริบๆ มองเขาอย่างมึนงงแล้วก็ต้องหน้าแดงซ่านเมื่อเห็นว่าเธอกำลังเกยทับอยู่บนร่างแกร่งของเขาด้วยท่วงท่าน่าหวาดเสียวซ้ำเสื้อยืดตัวเล็กที่สวมอยู่ก็ร่นมาถึงเนินอก พราวแสงแขรีบผละออกจากร่างแกร่งอย่างรวดเร็วแล้วลนลานดึงเสื้อลงทันทีด้วยท่าทางเงอะงะขัดเขินเต็มกำลัง ความหวามไหวซ่านทรวงเมื่อครูพลันหายวับไปเหลือไว้เพียงความอดสูในใจที่เธอเผลอปล่อยตัวปล่อยใจให้เขากอดจูบเหมือนสาวแรงสูงไร้ยางอายอีกแล้ว...“คนทุเรศ ปากเสีย...” เมื่อถอยร่นห่างเขามาได้กว่าช่วงแขนหญิงสาวก็แหวใส่คนตัวโตที่มองเธอด้วยสายตาพราวพรายเหมือนจะยั่วเย้าให้เธอได้อาย“หึหึ มาเอาคืนไปสิสมุดสเกตภาพของเธอน่ะ...”เขาก้มลงไปหยิบสมุดสเกตภาพที่ตกอยู่ตรงหน้าของตนมายืนให้เธอด้วยท่าทางยียวน พราวแสงแขมองสิ่งที่อยู่ในมือเขาอย่างลังเลก่อนจะอาศัยความเร็วที่มีไม่แพ้ใครปรี่เข้าไปคว้าสมุดในมือเขาแล้ววิ่งออกไปจากห้องนั่งเล่
ตอนที่26.หญิงสาวแหวเสียงเขียวทั้งพยายามยื้อแย่งของของตนคืนมาแต่แมทธิวก็เหมือนแกล้งเมื่อเขาชูมันขึ้นสูงซึ่งเขาสูงกว่าเธอมากอยู่แล้วมันจึงสูงมากขึ้นไปอีกจนพราวแสงแขต้องกระโดดเหยงๆ เหมือนเด็กตัวเล็กๆ ถูกเด็กตัวโตจอมเกเรรังแกไม่มีผิด“เอ... ภาพนี้ดูลายเส้นแข็งไปนะ”เขาพูดพลางเปิดกระดาษไปทีละหน้าในขณะที่หมุนกายสูงใหญ่หนีการยื้อแย่งจากเธอ“แล้วภาพนี้ก็ดูแสงเงาก็ดูบางเบาไป ส่วนภาพนี้เค้าโครงหน้าคุ้นๆ นะ ใครน่ะ ดูท่าทางจะหล่อไม่เบา” เขาถามขณะเปิดดูภาพไปเรื่อยๆ อย่างอารมณ์ดีในขณะที่พราวแสงแขที่กระโดดแย่งสมุดภาพในมือของเขาเริ่มเหนื่อยและเริ่มฉุนจัด“เอาของเขาคืนมานะ คนบ้า รังแกคนไม่มีทางสู้”“แน่จริงก็แย่งให้ได้สิ” แมทธิวหันมายิ้มล้อเลียนเธอซึ่งรอยยิ้มทะเล้นๆ ทำให้ใบหน้าที่ดุดันเรียบเฉยอยู่เสมอของเขาดูอ่อนโยนลงจากหนุ่มมาดเข้มกลายเป็นชายหนุ่มหน้าทะเล้นขี้เล่น ที่สำคัญมันทำให้ตาของพราวแสงแขพร่าไปกับภาพเทพบุตรจอมกวนตรงหน้า“แน่จริงก็อย่าชูขึ้นสูงสิ ฉันตัว
ตอนที่25.“ลูกน้องกูรายงานว่ามึงไม่ยอมทำงาน”“กูไม่ทำ กูไม่ใช่ขี้ข้ามึง ปล่อยกูออกไปเดี๋ยวนี้เลยไอ้พวกหมาหมู่”วายุเกาะกรงเหล็กที่เริ่มร้อนขึ้นเพราะตะวันดวงใหญ่เริ่มเคลื่อนคล้อยมาอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้จะตรงศีรษะเข้ามาทุกทีๆ ในขณะที่แมทธิวยืนไขว้ขาเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงพิงเสาต้นใหญ่จากไม้สักทองทั้งต้นมองวายุอย่างสบายใจไม่เดือดร้อนกับแดดที่แผดจ้าอยู่นอกชายคาบ้าน“มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ ถึงได้มาสั่งกูไอ้วายุ ที่กูมีเมตตาให้มึงยังมีลมหายใจอยู่นี่ก็บุญหัวเน่าๆ ของมึงแล้ว อีกอย่างกูยังไม่ได้คำตอบที่แท้จริงจากปากมึงและเมรี่ก็ยังไม่ฟื้นความทรงจำ มึงจะรอดหากว่าเมรี่บอกว่าเรื่องทั้งหมดมึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถ้ามึงคือคนที่ทำให้น้องสาวกูเหมือนตายทั้งเป็น มึงเตรียมตัวขุดหลุมฝังตัวเองได้เลย อ้อ.. หากกูไม่ได้แหวนน้องสาวกูคืนมึงก็ตายเหมือนกัน...”“แต่กูร้อน กูไม่ใช่หมูไม่ใช่หมานะเว้ย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้”แม้อยู่ในฐานะที่ด้อยกว่าและยังมีชนักปักหลัง แต่วายุก็ยังไม่ลดลาความหยิ่งจ