หญิงสาวนั่งรอหมอเอกอาทิตย์จนเผลอหลับอยู่บนโซฟาและตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงรถของชายหนุ่มเข้ามาจอด
เมื่อประตูบ้านเปิดออกและเห็นว่าตอนนี้อัญชิสานั่งรออยู่คุณหมอหนุ่มก็ยิ้มก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้าง
“คุณไม่น่าจะรอผมเลยนะอัญ”
“อัญนอนไม่หลับค่ะ”
“ผมขอโทษนะที่คืนนี้กลับดึกกว่าทุกคืนเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ อัญรู้ว่าหมอไปทำงาน เหนื่อยไหมคะ”
“มากเลยครับ สงสัยว่าหัวถึงหมอนหลับเป็นตายเลย”
“หมอรีบไปนอนเถอะค่ะ อัญก็จะเข้านอนแล้วเหมือนกัน”
“ขอบคุณนะครับอัญที่รอผม ผมรู้สึกหายเหนื่อยเลยเวลาที่กลับมาบ้านแล้วมีคุณรออยู่ คุณเข้านอนเลยนะเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จผมก็จะเข้านอนเหมือนกัน ฝันดีนะอัญ”
“ฝันดีค่ะหมอซัน”
อัญชิสาเดินเข้าห้องนอนของตนเองส่วนหมอเอกอาทิตย์ก็ขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องนอนบนชั้นสองก่อนจะกลับลงมานอนที่ห้องหนังสือ
ตั้งแต่อัญชิสาย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เขาก็นอนในห้องหนังสือทุกคืนเพราะเป็นห่วงถ้าจะให้เธอนอนที่ชั้นล่างคนเดียวและถ้าหากหญิงสาวไม่สบายหรือเป็นอะไรเขาก็จะได้ช่วยทัน
หมอเอกอาทิตย์รู้สึกดีมากเวลาที่กลับบ้านแล้วมีคนรออยู่ ถึงแม้อัญชิสาจะทำไปเพราะคิดว่าขาคือแฟนของเธอ แต่คุณหมอหนุ่มก็คิดว่าความจริงใจที่ตนเองมีให้กับอัญชิสาจะทำให้เธอยอมรับเขาในวันที่ตนเองจำเรื่องทุกอย่างได้แล้ว หรือถ้าหากวันนั้นมาถึงแล้วเธอจะโกรธเขาก็คิดว่าจะอธิบายเรื่องทุกอย่างให้เธอเข้าใจได้ว่าทำไมต้องทำแบบนี้
สายของวันถัดมา
อังคณาขับรถยนต์มารับอัญชิสาที่บ้านตามเวลานัด เมื่อพาเพื่อนไปทำธุระที่ธนาคารเสร็จแล้วก็ขับรถมาจอดที่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งในวันธรรมดาแบบนี้การจอดรถใกล้กับประตูของร้านจึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากเท่าไหร่
“อุ๋มเดินเข้าไปก่อนเลยนะไม่ต้องห่วงอัญเดี๋ยวอัญตามเข้าไปเอง”
“เดินถนัดแน่นะอัญ” อังคณาถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“แน่สิอัญเริ่มจะชินกับการใช้ไม้เท้าแล้วแหละ” หญิงสาวตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูสดใสกว่าวันแรกมาก อังคณาเห็นเพื่อนยิ้มได้เธอก็สบายใจมากขึ้น
“งั้นอุ๋มเข้าไปสั่งอาหารรอเลยนะ”
“อือ”
อังคณาเข้ามาในร้านจากนั้นก็สั่งอาหารที่เธอและอัญชิสาเคยรับประทานเป็นประจำ หญิงสาวมองเพื่อนรักที่กำลังเดินเข้ามาในร้านโดยใช้ไม้เท้าช่วยพยุงแล้วก็รู้สึกสงสารมากที่เธอต้องมาเกิดอุบัติเหตุแบบนี้
แต่อังคณาก็ไม่ได้เข้าไปช่วยเพราะรู้ว่าอัญชิสาอยากทำอะไรด้วยตัวเอง อังคณาจึงได้แต่ดูอยู่ห่างๆ และรอจนกระทั่งอัญชิสาเดินมานั่งที่โต๊ะ
“อัญเดินคล่องมากเลยนะ ดีกว่าวันแรกเยอะเลย”
“ก็อัญไม่อยากเป็นภาระใครนี่”
“ฝึกให้คล่องก็ดีเหมือนกันนะ หมอซันจะได้พาไปเที่ยวบ่อยๆ ว่าแต่อัญต้องซื้อของอะไรเพิ่มไหม สำหรับการไปเที่ยวทะเล”
“ไม่น่าจะมีอะไรต้องซื้อนะ”
“ถ้าอยากได้อะไรก็บอกอุ๋มได้ นะเอาชุดว่ายน้ำติดไปด้วยดีไหม”
“จะบ้าเหรออุ๋มข้อเท้ายังใส่เฝือกอยู่จะให้ใส่ชุดว่ายน้ำมันคงน่าเกลียดตายเลย”
“ขอโทษนะอุ๋มลืมคิดไปเลยน่ะ”
“แล้วอุ๋มลางานได้ไหมจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน”
“จะให้อุ๋มไปทำไมอุ๋มไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอนะ”
“อัญไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะ หมอซันก็คงไม่คิดเหมือนกัน”
“ถึงหมอซันไม่คิดแต่อุ๋มก็ไม่ไปหรอก อัญซื้อขนมหม้อแกงมาฝากก็พอ”
“อุ๋มรู้ด้วยเหรอว่าอัญจะไปเที่ยวที่ไหน”
“รู้สิ”
“รู้ได้ยังไง อัญว่าอัญยังได้บอกเลยนะว่าจะไปเที่ยวหัวหิน”
“ก็หมอซันชวนอุ๋มแล้ว อุ๋มว่าหมอซันเป็นผู้ชายที่ใช้ได้เลยนะจะไปเที่ยวกับแฟนแต่ก็ยังชวนเพื่อนแฟนไปด้วย”
อังคณารู้สึกว่าคุณหมอเอกอาทิตย์เป็นผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษมากๆ คนหนึ่ง เขาไม่เคยฉวยโอกาสทำอะไรอัญชิสามิหนำซ้ำยังชวนเธอไปเที่ยวด้วยกันอีก ถึงแม้ว่าเขาจะสร้างเรื่องว่าเป็นแฟนกับอัญชิสาแต่เท่าที่สังเกตดูชายหนุ่มก็ไม่ใช่ผู้ชายที่เลวร้ายอะไร
แม้ว่าอัญชิสาอาจจะโชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุจนจำอะไรไม่ได้ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีที่ได้ผู้ชายอย่างหมอเอกอาทิตย์มาคอยดูแล
อัญชิสาและอังคณาใช้เวลาในร้านอาหารค่อนข้างนานจนกระทั่งหมอเอกอาทิตย์โทรศัพท์เข้ามา
พอเขารู้ว่าเธอออกมานอกบ้านก็รู้สึกเป็นห่วงแต่เมื่อรู้ว่ามากับอังคณาเขาก็เบาใจ
“อัญจะอยู่กับเพื่อนจนเย็นก็ได้นะครับ ผมเลิกงานแล้วจะไปรับที่หอพักเอง”
“ได้ค่ะ อัญไปรอหมอที่หอนะคะ เลิกงานแล้วหมอโทรหานะคะ อัญจะลงมารอข้างล่าง”
“ได้ครับ”
“หมอซันว่ายังไงบ้างอัญ เขาโกรธไหมที่อัญออกมาข้างนอกโดยไม่บอก”
“เปล่าหรอกเขาแค่เป็นห่วง หมอซันเขาให้อัญอยู่กับอุ๋มจนเย็นแล้วเขาจะไปรับที่หอ”
“ดีเลยเดี๋ยวเราไปซื้อขนมก่อนเข้าไปดีไหม จะได้นอนดูหนังด้วยกันมีหลายเรื่องเลยที่อุ๋มอยากดู”
“เราดูหนังผีกันดีไหมอุ๋ม”
“อื้อ อุ๋มกำลังอยากดูอยู่พอดีเลย แต่จะดูคนเดียวก็ไม่กล้าเท่าไหร่”
เมื่อออกจากร้านอาหารญี่ปุ่นอัญชิสากับอังคณาก็แวะซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อจากนั้นก็กลับมาที่ห้องและนอนดูหนังไปหนึ่งเรื่อง
จากนั้นก็คุยกันไปด้วยจนกระทั่งหมอเอกอาทิตย์โทรมาอีกครั้ง
“หมอซันเลิกงานแล้วเหรอคะ เดี๋ยวอัญจะลงไปค่ะ”
“ไม่ต้องรีบครับผมยังเดินไม่ถึงรถเลย ที่โทรมาก็คืออยากจะบอกให้อัญคุณอุ๋มไปทานข้าวกับเราด้วย”
“ได้ค่ะเดี๋ยวเราสองคนจะจะลงไปรอข้างล่างนะคะ”
“หมอมารับแล้วเหรอ” อังคณาถามเมื่อเพื่อนวางสายแล้ว
“กำลังจะมาหมอให้ชวนอุ๋มไปกินข้าวด้วย”
“อัญไปกับหมอสองคนเถอะอุ๋มขี้เกียจแต่งตัว”
“แต่อัญบอกหมอไปแล้วนะ ไปด้วยกันหน้าอุ๋มแต่งตัวแบบนี้ก็ไปกินได้ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
“อุ๋มขอเปลี่ยนกางเกงก่อนอัญไปรอหน้าลิฟต์เลยนะเดี๋ยวอุ๋มวิ่งตามไป”
“ได้จ้ะ”
ทั้งสองคนลงมาถึงชั้นล่างก็พอดีกับรถของหมอเอกอาทิตย์มาจอดพอดี
“หิวกันหรือยังครับ” เขาถามเมื่อทั้งสองคนมานั่งในรถแล้ว
“ยังหรอกค่ะ เราสองคนกินขนมไปด้วยดูหนังไปด้วยค่ะเลยไม่หิว หมอซันล่ะคะ”
“ผมก็ยังไม่หิวเหมือนกัน ว่าแต่เราไปกินข้าวร้านไหนกันดีล่ะครับ”
“เอาร้านใกล้ๆ โรงพยาบาลก็ได้ค่ะ กินเสร็จแล้วหมอซันกับอัญจะได้รีบกลับไปพัก”
“ถ้างั้นผมไปร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ดีไหมครับ”
“ดีค่ะ อุ๋มกับอัญก็ยังไม่เคยไปกินร้านนั้นเลย”
เมื่อเลือกร้านอาหารได้แล้วหมอเอกอาทิตย์ก็ขับรถไปยังร้านที่เขาพูดถึงทันที
การที่เอกอาทิตย์ชวนอังคณามารับประทานอาหารด้วยรวมถึงการชวนไปเที่ยวมันทำให้อัญชิสารู้สึกมาก เขาเห็นความสำคัญของเพื่อนเธอและเข้ากับเพื่อนของเธอได้ดี
เช้าวันเสาร์หมอเอกอาทิตย์พาอัญชิสาออกจากบ้านตั้งแต่เช้าทั้งสองมุ่งหน้าสู่ถนนพระราม 2 โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่หัวหินเขาพาแวะทานอาหารที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งเพราะสะดวกกับการขึ้นลงรถของอัญชิสา หลังทานอาหารเสร็จก็แวะซื้อขนมในร้านสะดวกซื้อก่อนจะกลับขึ้นมาบนรถอีกครั้ง“นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันใช่ไหมคะหมอซัน” หญิงสาวหันมาถามเพราะเธอจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลยแม้จะพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก และเท่าที่ได้ถามจากอังคณาก็คือเธอกับหมอเอกอาทิตย์ยังไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือไปค้างคืนที่ไหนด้วยกันเลย“ก็ประมาณนั้นครับ” “แล้วปกติถ้าวันหยุดเราจะทำอะไรกันคะ” “เราหยุดไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ครับ แต่ถ้าได้หยุดตรงกันก็จะไปดูหนังหรือไม่ก็ไปกินกาแฟตามคาแฟ่ครับ” เขาตอบไปตามที่ได้คุยกับอังคณาจนรู้มาว่าปกติแล้ววันหยุดอัญชิสาจะทำอะไรบ้าง“ทำไมหมอซันตอบเหมือนอุ๋มเลยล่ะคะ นัดกันตอบหรือเปล่า” อัญชิสาถามออกไปด้วยความสงสัย“ทำไมอัญคิดแบบนั้นล่ะ ที่ผมกับคุณอุ๋มตอบเหมือนกันก็เพราะเราสองคนตอบไปตามความจริงนี่ครับ ผมจะนัดกับคุณอุ๋มตอบแบบนี้ทำไมล่ะ” หมอเอกอาทิตย์รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว“ขอโทษนะ
เสียงเบรกของรถยนต์ดังลั่นก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงกระแทกดังโครมแล้วความโกลาหลก็เกิดขึ้นบริเวณหน้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง คนขับรถรีบวิ่งลงมาดูคนเจ็บจากนั้นเขาก็ตะโกนให้คนที่อยู่ใกล้ๆ วิ่งไปตามพนักงานรับส่งผู้ป่วยที่หน้าโรงพยาบาล ไม่นานนักพนักงานแปลก็เข็นรถมาพร้อมกับพยาบาลที่แผนกห้องฉุกเฉินเพื่อมารับผู้ป่วยที่นอนหมดสติอยู่ บริเวณข้างๆ กันมีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งล้มอยู่ ชายหนุ่มเจ้าของรถยนต์จับมันขึ้นมาจอดข้างทาง แล้วรีบหยิบกระเป๋าถือที่หล่นอยู่ก่อนจะวิ่งตามเข้าไปในโรงพยาบาล “เกิดอะไรขึ้นคะคุณหมอ” พยาบาลอีกคนรีบวิ่งออกมารับรถเข็นคนเจ็บ “ผมขับรถชนผู้หญิงคนเมื่อกี้ ฝากด้วยนะครับ” เขารีบบอกกับพยาบาลจากนั้นคุณหมอประจำห้องฉุกเฉินก็รีบเข้าไปดูคนเจ็บส่วนตัวเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องก็เลยนั่งรออยู่ด้านหน้าห้องฉุกเฉิน ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงคุณหมอภายในห้องฉุกเฉินก็ออกมาแจ้งข่าว “ใครเป็นญาติคนไข้ครับ” คุณหมอประจำห้องฉุกเฉินถาม “ผมยังไม่ได้ติดต่อญาติเธอเลย” “หมอซันรู้จักเธอเหรอครับ” “เปล่าครับแต่ผมเป็นคนขับรถชนเธอครับ” “ใครก็ช่วยติดต่อญาติเธอด้วยนะ” “เธอไม่มีญาติที่ไหนหรอกค่ะ” พยาบาลคน
เอกอาทิตย์นอนเฝ้าอัญชิสาจนเช้าแต่หญิงสาวก็ยังไม่ตื่นเขาจึงบอกพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ให้จัดการเรื่องพยาบาลพิเศษอีกครั้ง ก่อนจะรีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านและกลับมาราวน์จนเสร็จก็มาตรวจผู้ป่วยที่แผนกผู้ป่วยนอก “หมอซันคะ” ศิราณีหัวหน้าพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอกเคาะประตูที่เปิดทิ้งไว้ก่อนจะเดินเข้ามาหลังจากที่ผู้ป่วยคนล่าสุดเดินออกไปแล้ว “มีอะไรครับพี่ณี” “แผนกผู้ป่วยในโทรมาแจ้งว่าตอนนี้อัญฟื้นแล้ว” “จริงเหรอครับ แต่ทำไมหน้าของพี่ณีดูไม่ดีเท่าไหร่เลย” “ก็เขาบอกว่าอัญจำอะไรไม่ได้เลยน่ะสิคะหมอซัน พี่ก็เลยจะมาชวนหมอซันขึ้นไปดูหน่อย” “อะไรนะครับพี่ณี” คุณหมอหนุ่มตกใจมากเพราะไม่คิดว่าอาการของเธอจะหนักถึงเพียงนี้ เมื่อเช้าเขาได้รับแจ้งจากหมอแผนกออร์โธปิดิกส์ว่ากระดูกข้อเท้าด้านซ้ายของเธอมีรอยร้าวและจำเป็นที่จะต้องใส่เฝือกซึ่งเขาก็รับทราบ แต่ไม่คิดว่าอาการทางสมองของเธอจะแย่กว่าที่คิดไว้ หมอเอกอาทิตย์ดูผลซีทีสแกนแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีเลือดออกหรือเลือดคั่งตรงจุดไหน ทำให้ชายหนุ่มค่อนข้างเบาใจมาก แต่เมื่อได้ยินว่าเธอจำอะไรไม่ได้ก็เลยตกใจและกังวลเนื่องจากตนเองเป็นต้นเหตุทำให้หญิงสาวต้องประสบชะตา
“พี่ณีครับผมมีเรื่องอยากปรึกษา” เอกอาทิตย์พูดกับหัวหน้าพยาบาลเมื่อเดินออกมาจากห้องพักของอัญชิสา“เรื่องอัญใช่ไหม”“ครับพี่ณี ผมอยากชวนพี่ไปคุยกับอาจารย์หมอหน่อยได้ไหมครับ”“ได้สิคะหมอซันพี่เองก็อยากถามถึงอาการของอัญอยู่เหมือนกัน”“ฉันไปด้วยนะ”“นายจะไปทำไม”“ก็ไปในฐานะนายจ้างของอัญไงล่ะ”ทั้งสามคนเดินไปยังห้องพักของอาจารย์หมอสุชาติ ธีรกานต์เคาะประตูเมื่อได้ยินเสียงอาจารย์หมอสุชาติอนุญาตก็รีบเปิดประตูเข้าไป“นี่จะมาคุยเรื่องคนไข้กับผมทั้งสามคนเลยเหรอ”“ครับอาจารย์ ผมจะถามอาจารย์ว่าอาการที่คุณอัญเขาเป็นอยู่มีโอกาสจะหายไหม”“โอกาสหายนะมีแต่ต้องใช้เวลาหน่อยน่ะ”“นานไหมคะหมอ” “บางทีอาจจะแค่วันสองวันหรือไม่ก็นานเป็นสัปดาห์ก็ได้” “แล้วเป็นไปได้ไหมครับที่เธอจะจำอะไรไม่ได้เลย” “เป็นไปได้ยากนะหมอซันเพราะผลซีทีสแกนไม่มีรอยโรคหรือเลือดออกตรงไหนเลย มันอาจจะเป็นแค่อาการวิตกกังวลหลังเกิดอุบัติเหตุหรือสมองอาจจะได้รับความกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยแต่ผมว่าไม่นานเธอก็น่าจะกลับมาจำทุกอย่างได้” อาจารย์หมอบอกไปตามความจริง“ได้ยินอาจารย์หมอพูดแบบนี้ณีก็โล่งใจหน่อยค่ะ แล้วแบบนี้จะต้องอยู่โรงพยาบาลนานไหมค
หลังจากตรวจคนไข้เสร็จในเวลา 17.00 น. หมอเอกอาทิตย์ก็ขึ้นมาบนห้องพักของอัญชิสาอีกครั้ง ตอนนี้หญิงสาวกำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนสนิทร่วมแผนกซึ่งเธอกำลังเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กับอัญชิสาฟัง “สวัสดีค่ะหมอซัน” “สวัสดีครับอุ๋ม อัญเขาเป็นยังไงบ้างจำอะไรได้บ้างหรือยัง” “ยังจำอะไรไม่ได้เลยค่ะหมอซันตอนนี้อุ๋มกำลังให้อัญดูรูปและเป็นเพื่อนใน Facebook แล้วก็ไอจีอยู่ค่ะ” “อัญมีปวดหัวไหม” เอกอาทิตย์หันไปถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง “ไม่ปวดค่ะ สงสัยว่าจะได้นอนพักเต็มที่” “แล้วที่ข้อเท้าล่ะปวดไหม” “ไม่ปวดแล้วค่ะ ตอนนี้ก็แค่เจ็บแผลถลอกที่ข้อศอกเท่านั้นค่ะ หมอคิดว่ามันจะเป็นแผลเป็นไหมคะ” อัญชิสาค่อนข้างกังวลกับแผลที่ข้อศอกของตนเอง “แผลไม่ลึกเท่าไหร่ ผมว่าอาจจะมีรอยแผลจางๆ เดี๋ยวผมหายาลดรอยแผลเป็นให้ครับ” คุณหมอหนุ่มรีบเสนอตัวเพราะรู้สึกผิดเนื่องจากตนเองเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด “หมอซันคะ คืนนี้อุ๋มขอเป็นคนเฝ้าอัญได้ไหม” “แต่พรุ่งนี้คุณต้องไปทำงานนะ” “พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของอุ๋มค่ะ หมอซันเฝ้ามาคืนหนึ่งแล้วคืนนี้จะได้พักผ่อน” “ผมจ้างพยาบาลพิเศษไว้แล้วนะครับ” “แต่อุ๋มว่าพยาบาลพิเศษก็สู้คน
ผ่านมาสามวันแล้วแต่อัญชิสาก็ยังจำอดีตของตนเองไม่ได้เลยสักนิดทุกครั้งที่พยายามคิดก็จะปวดศีรษะจนอาจารย์หมอสุชาติบอกให้เธอพักสมองและมองไปที่อนาคต เพราะถึงแม้จะจำอดีตได้แต่ก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดี พรุ่งนี้อาจารย์หมอสุชาติอนุญาตให้หญิงสาวกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว วันนี้เอกอาทิตย์กับอังคณาเพื่อนสนิทของเธอจึงพากันมาที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้จำเป็นบางอย่างเตรียมไว้ก่อนที่อัญชิสาจะออกจากโรงพยาบาล แม้จะมีของใช้บางส่วนที่อังคณาช่วยเอามาจากห้องพักของอัญชิสาไปเก็บไว้ที่บ้านแล้วแต่หมอเอกอาทิตย์ก็อยากจะเตรียมเพิ่มเพราะอยากให้หญิงสาวได้รับความสะดวกสะบายมากที่สุด “ขาดเหลืออะไรคุณไม่ต้องเกรงใจผมน เลือกซื้อได้ตามสบายเลย” “ที่อุ๋มเลือกมานี่ก็เยอะแล้วค่ะ น่าจะอยู่ได้ประมาณสองสัปดาห์ ถ้าหลังจากนั้นต้องการอะไรเพิ่มเดี๋ยวอุ๋มจะเป็นคนซื้อไปให้เอง ขอบคุณหมอมากนะคะที่ดูแลอัญเป็นอย่างดี” “ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณพวกคุณทุกคนในแผนกที่ช่วยผมดูแลอัญตลอดเวลาที่เธออยู่โรงพยาบาล” “ที่บ้านคุณหมอเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วใช้ไหมคะ” “เรียบร้อยแล้วครับ ครับผมให้แม่บ้านทำความสะอาดห้องพักแขกที่อยู่ชั้นล่างไว
วันนี้อาจารย์หมอสุชาติมาตรวจอาการของอัญชิสาเมื่อเห็นว่าอาการทางร่างกายของเธอไม่มีอะไรเป็นห่วงแล้วอนุญาตให้เธอออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว “กลับไปอยู่บ้านก็อย่าเครียดนะครับ ทำใจให้สบายอย่าคิดอะไรมาก ผ่อนคลายให้มากที่สุดผมเชื่อว่าไม่นานคุณจะจำทุกอย่างได้ ถ้าระหว่างนี้มีอาการผิดก็รีบแจ้งนะครับ” อาจารย์หมอบอกกับคนไข้ที่ดูจะเครียดมากกับอาหารของคนเอง “ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ” “ขอบคุณนะครับอาจารย์” “หมอซันก็ดูแลเธอดีๆ นะ อย่าให้เธอเอาแต่คิดเรื่องอดีตมากจนเกินไป ชีวิตเราต้องเดินไปข้างหน้า” “ครับอาจารย์” เมื่ออาจารย์หมอออกจากห้องไปแล้วอังคณาก็ช่วยเก็บของเพื่อจะเดินทางไปยังบ้านของหมอเอกอาทิตย์ “หมอซันคะ อัญขอกลับไปที่ห้องก่อนได้ไหมคะ” “แต่เราตกลงกันแล้วนะครับอัญว่าคุณจะไปอยู่ที่บ้านของผมนะ” “อัญอยากไปดูห้องของตัวเองก่อนค่ะ “เดี๋ยวผมไปส่งที่หน้าหอนะครับ” “ขอบคุณค่ะ” หมอเอกอาทิตย์มาส่งสองสาวที่หน้าหอพักแล้วก็รออยู่ในรถส่วนอังคณาก็พาอัญชิสาเดินเข้าลิฟต์และไปยังห้องพักของเธอที่อยู่บนชั้นสี่ “นี่ห้องของอัญเหรอ” “อือ นี่ห้องอัญ ติดกันก็เป็นห้องของอุ๋ม อัญอยากเอาอะไรไปเพิ่มไหม” “อุ๋มเอ
บ้านของหมอเอกอาทิตย์เป็นบ้านสองชั้นสไตล์โมเดิร์นด้านบนมีสามห้องนอนสองห้องน้ำส่วนด้านล่างมีห้องอ่านหนังสือและอีกห้องหนึ่งซึ่งเดิมทีไม่ได้เปิดใช้งานอะไรแต่ตอนนี้คุณหมอหนุ่มปรับปรุงห้องนั้นเป็นห้องนอนสำหรับอัญชิสาเพราะคิดว่าถ้าจะให้เธอเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองทุกวันก็คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่บริเวณบ้านของคุณหมอค่อนข้างกว้างมีต้นไม้รายล้อมดูร่มรื่นมากๆ เมื่อรถจอดที่หน้าบ้านผักบุ้งสาวใช้ที่ธีรการต์เป็นคนจัดหาให้ก็รีบออกมาต้อนรับ“สวัสดีค่ะ” เด็กสาวยกมือไหว้ผู้หญิงสองคนที่เดินลงจากรถ“ผักบุ้งฉันจะแนะนำให้รู้จักนะ คนนี้ชื่อคุณอัญจะมาอยู่ที่นี่ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนของคุณอัญชื่อคุณอุ๋ม” “สวัสดีค่ะคุณอัญ คุณอุ๋มหนูชื่อผักบุ้งนะคะ” “สวัสดีจ้ะผักบุ้ง” อัญชิสากล่าวทักทายเด็กสาวที่ยิ้มต้อนรับเธอออย่างเป็นมิตร“มีของอะไรให้ผักบุ้งช่วยขนลงจากรถไหมคะ” “มีกระเป๋าใบเล็กหลังรถใบเดียวจ้ะ” เมื่อได้รับคำตอบจากเจ้านายเด็กสาวก็รีบเปิดกระโปรงหลังรถและหยิบกระเป๋าเดินทางออกมาแล้วเดินตามทั้งสามคนเข้าไปในบ้าน“ให้ผักบุ้งเอากระเป๋าเก็บที่ไหนคะ” “ห้องที่ฉันให้ผักบุ้งทำความสะอาดนั่นแหละ” “ได้ค่ะคุณหมอ” “ผมให้อัญอ
เช้าวันเสาร์หมอเอกอาทิตย์พาอัญชิสาออกจากบ้านตั้งแต่เช้าทั้งสองมุ่งหน้าสู่ถนนพระราม 2 โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่หัวหินเขาพาแวะทานอาหารที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งเพราะสะดวกกับการขึ้นลงรถของอัญชิสา หลังทานอาหารเสร็จก็แวะซื้อขนมในร้านสะดวกซื้อก่อนจะกลับขึ้นมาบนรถอีกครั้ง“นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันใช่ไหมคะหมอซัน” หญิงสาวหันมาถามเพราะเธอจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลยแม้จะพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก และเท่าที่ได้ถามจากอังคณาก็คือเธอกับหมอเอกอาทิตย์ยังไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือไปค้างคืนที่ไหนด้วยกันเลย“ก็ประมาณนั้นครับ” “แล้วปกติถ้าวันหยุดเราจะทำอะไรกันคะ” “เราหยุดไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ครับ แต่ถ้าได้หยุดตรงกันก็จะไปดูหนังหรือไม่ก็ไปกินกาแฟตามคาแฟ่ครับ” เขาตอบไปตามที่ได้คุยกับอังคณาจนรู้มาว่าปกติแล้ววันหยุดอัญชิสาจะทำอะไรบ้าง“ทำไมหมอซันตอบเหมือนอุ๋มเลยล่ะคะ นัดกันตอบหรือเปล่า” อัญชิสาถามออกไปด้วยความสงสัย“ทำไมอัญคิดแบบนั้นล่ะ ที่ผมกับคุณอุ๋มตอบเหมือนกันก็เพราะเราสองคนตอบไปตามความจริงนี่ครับ ผมจะนัดกับคุณอุ๋มตอบแบบนี้ทำไมล่ะ” หมอเอกอาทิตย์รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว“ขอโทษนะ
หญิงสาวนั่งรอหมอเอกอาทิตย์จนเผลอหลับอยู่บนโซฟาและตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงรถของชายหนุ่มเข้ามาจอด เมื่อประตูบ้านเปิดออกและเห็นว่าตอนนี้อัญชิสานั่งรออยู่คุณหมอหนุ่มก็ยิ้มก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้าง “คุณไม่น่าจะรอผมเลยนะอัญ” “อัญนอนไม่หลับค่ะ” “ผมขอโทษนะที่คืนนี้กลับดึกกว่าทุกคืนเลย” “ไม่เป็นไรค่ะ อัญรู้ว่าหมอไปทำงาน เหนื่อยไหมคะ” “มากเลยครับ สงสัยว่าหัวถึงหมอนหลับเป็นตายเลย” “หมอรีบไปนอนเถอะค่ะ อัญก็จะเข้านอนแล้วเหมือนกัน” “ขอบคุณนะครับอัญที่รอผม ผมรู้สึกหายเหนื่อยเลยเวลาที่กลับมาบ้านแล้วมีคุณรออยู่ คุณเข้านอนเลยนะเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จผมก็จะเข้านอนเหมือนกัน ฝันดีนะอัญ” “ฝันดีค่ะหมอซัน” อัญชิสาเดินเข้าห้องนอนของตนเองส่วนหมอเอกอาทิตย์ก็ขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องนอนบนชั้นสองก่อนจะกลับลงมานอนที่ห้องหนังสือ ตั้งแต่อัญชิสาย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เขาก็นอนในห้องหนังสือทุกคืนเพราะเป็นห่วงถ้าจะให้เธอนอนที่ชั้นล่างคนเดียวและถ้าหากหญิงสาวไม่สบายหรือเป็นอะไรเขาก็จะได้ช่วยทัน หมอเอกอาทิตย์รู้สึกดีมากเวลาที่กลับบ้านแล้วมีคนรออยู่ ถึงแม้อัญชิสาจะทำไปเพราะคิดว่าขาคือแฟนของเธอ แต่คุณหมอหนุ่มก็ค
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่อัญชิสามาอยู่บ้านของหมอเอกอาทิตย์ ตอนนี้เธอเริ่มปรับตัวได้และสนิทสนมกับคุณหมอหนุ่มมากขึ้นกว่าวันแรกที่เข้ามาอยู่ ในทุกวันทั้งสองจะรับประทานอาหารเช้าด้วยกันจากนั้นหมอเอกอาทิตย์จะไปทำงานที่โรงพยาบาล ส่วนหญิงสาวก็อยู่บ้านกับผักบุ้งเด็กรับใช้และเขาก็จะกลับมารับประทานอาหารกับเธอทุกเย็นถึงแม้งานจะยุ่งแต่ชายหนุ่มก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี ในบางวันเอกอาทิตย์มีผู้ป่วยที่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่องแต่เขาก็จะกลับมารับประทานอาหารเย็นกับอัญชิสาก่อนจะกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพราะว่าระหว่างบ้านของเขากับโรงพยาบาลนั้นอยู่ห่างกันไม่มากนัก ใช้เวลาขับรถไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เขารีบกลับมารับประทานอาหารเย็นกับอัญชิสา หญิงสาวรู้สึกไม่ดีเลยที่ทำให้เขาต้องเหนื่อยมากขึ้นแบบนี้ “อัญว่าถ้าหมอซันมีคนไข้ก็ไม่ต้องกลับมากินข้าวกับอัญหรอกนะคะ” “แต่ผมไม่อยากให้อัญกินข้าวคนเดียว แล้วโรงพยาบาลก็ไม่ได้ไกลเลยนะครับ” “แต่อัญเกรงใจหมอค่ะ ไหนจะต้องทำงานแล้วไหนจะต้องมาคอยกังวลเรื่องอัญอีก อัญคิดว่าอัญดูแลตัวเองได้ค่ะ” “อย่าคิดมากอย่างนั้นสิครับอัญ สิ่งที่ผมทำอยู่มันไม่ได้ลำบา
บ้านของหมอเอกอาทิตย์เป็นบ้านสองชั้นสไตล์โมเดิร์นด้านบนมีสามห้องนอนสองห้องน้ำส่วนด้านล่างมีห้องอ่านหนังสือและอีกห้องหนึ่งซึ่งเดิมทีไม่ได้เปิดใช้งานอะไรแต่ตอนนี้คุณหมอหนุ่มปรับปรุงห้องนั้นเป็นห้องนอนสำหรับอัญชิสาเพราะคิดว่าถ้าจะให้เธอเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองทุกวันก็คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่บริเวณบ้านของคุณหมอค่อนข้างกว้างมีต้นไม้รายล้อมดูร่มรื่นมากๆ เมื่อรถจอดที่หน้าบ้านผักบุ้งสาวใช้ที่ธีรการต์เป็นคนจัดหาให้ก็รีบออกมาต้อนรับ“สวัสดีค่ะ” เด็กสาวยกมือไหว้ผู้หญิงสองคนที่เดินลงจากรถ“ผักบุ้งฉันจะแนะนำให้รู้จักนะ คนนี้ชื่อคุณอัญจะมาอยู่ที่นี่ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนของคุณอัญชื่อคุณอุ๋ม” “สวัสดีค่ะคุณอัญ คุณอุ๋มหนูชื่อผักบุ้งนะคะ” “สวัสดีจ้ะผักบุ้ง” อัญชิสากล่าวทักทายเด็กสาวที่ยิ้มต้อนรับเธอออย่างเป็นมิตร“มีของอะไรให้ผักบุ้งช่วยขนลงจากรถไหมคะ” “มีกระเป๋าใบเล็กหลังรถใบเดียวจ้ะ” เมื่อได้รับคำตอบจากเจ้านายเด็กสาวก็รีบเปิดกระโปรงหลังรถและหยิบกระเป๋าเดินทางออกมาแล้วเดินตามทั้งสามคนเข้าไปในบ้าน“ให้ผักบุ้งเอากระเป๋าเก็บที่ไหนคะ” “ห้องที่ฉันให้ผักบุ้งทำความสะอาดนั่นแหละ” “ได้ค่ะคุณหมอ” “ผมให้อัญอ
วันนี้อาจารย์หมอสุชาติมาตรวจอาการของอัญชิสาเมื่อเห็นว่าอาการทางร่างกายของเธอไม่มีอะไรเป็นห่วงแล้วอนุญาตให้เธอออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว “กลับไปอยู่บ้านก็อย่าเครียดนะครับ ทำใจให้สบายอย่าคิดอะไรมาก ผ่อนคลายให้มากที่สุดผมเชื่อว่าไม่นานคุณจะจำทุกอย่างได้ ถ้าระหว่างนี้มีอาการผิดก็รีบแจ้งนะครับ” อาจารย์หมอบอกกับคนไข้ที่ดูจะเครียดมากกับอาหารของคนเอง “ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ” “ขอบคุณนะครับอาจารย์” “หมอซันก็ดูแลเธอดีๆ นะ อย่าให้เธอเอาแต่คิดเรื่องอดีตมากจนเกินไป ชีวิตเราต้องเดินไปข้างหน้า” “ครับอาจารย์” เมื่ออาจารย์หมอออกจากห้องไปแล้วอังคณาก็ช่วยเก็บของเพื่อจะเดินทางไปยังบ้านของหมอเอกอาทิตย์ “หมอซันคะ อัญขอกลับไปที่ห้องก่อนได้ไหมคะ” “แต่เราตกลงกันแล้วนะครับอัญว่าคุณจะไปอยู่ที่บ้านของผมนะ” “อัญอยากไปดูห้องของตัวเองก่อนค่ะ “เดี๋ยวผมไปส่งที่หน้าหอนะครับ” “ขอบคุณค่ะ” หมอเอกอาทิตย์มาส่งสองสาวที่หน้าหอพักแล้วก็รออยู่ในรถส่วนอังคณาก็พาอัญชิสาเดินเข้าลิฟต์และไปยังห้องพักของเธอที่อยู่บนชั้นสี่ “นี่ห้องของอัญเหรอ” “อือ นี่ห้องอัญ ติดกันก็เป็นห้องของอุ๋ม อัญอยากเอาอะไรไปเพิ่มไหม” “อุ๋มเอ
ผ่านมาสามวันแล้วแต่อัญชิสาก็ยังจำอดีตของตนเองไม่ได้เลยสักนิดทุกครั้งที่พยายามคิดก็จะปวดศีรษะจนอาจารย์หมอสุชาติบอกให้เธอพักสมองและมองไปที่อนาคต เพราะถึงแม้จะจำอดีตได้แต่ก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดี พรุ่งนี้อาจารย์หมอสุชาติอนุญาตให้หญิงสาวกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว วันนี้เอกอาทิตย์กับอังคณาเพื่อนสนิทของเธอจึงพากันมาที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้จำเป็นบางอย่างเตรียมไว้ก่อนที่อัญชิสาจะออกจากโรงพยาบาล แม้จะมีของใช้บางส่วนที่อังคณาช่วยเอามาจากห้องพักของอัญชิสาไปเก็บไว้ที่บ้านแล้วแต่หมอเอกอาทิตย์ก็อยากจะเตรียมเพิ่มเพราะอยากให้หญิงสาวได้รับความสะดวกสะบายมากที่สุด “ขาดเหลืออะไรคุณไม่ต้องเกรงใจผมน เลือกซื้อได้ตามสบายเลย” “ที่อุ๋มเลือกมานี่ก็เยอะแล้วค่ะ น่าจะอยู่ได้ประมาณสองสัปดาห์ ถ้าหลังจากนั้นต้องการอะไรเพิ่มเดี๋ยวอุ๋มจะเป็นคนซื้อไปให้เอง ขอบคุณหมอมากนะคะที่ดูแลอัญเป็นอย่างดี” “ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณพวกคุณทุกคนในแผนกที่ช่วยผมดูแลอัญตลอดเวลาที่เธออยู่โรงพยาบาล” “ที่บ้านคุณหมอเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วใช้ไหมคะ” “เรียบร้อยแล้วครับ ครับผมให้แม่บ้านทำความสะอาดห้องพักแขกที่อยู่ชั้นล่างไว
หลังจากตรวจคนไข้เสร็จในเวลา 17.00 น. หมอเอกอาทิตย์ก็ขึ้นมาบนห้องพักของอัญชิสาอีกครั้ง ตอนนี้หญิงสาวกำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนสนิทร่วมแผนกซึ่งเธอกำลังเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กับอัญชิสาฟัง “สวัสดีค่ะหมอซัน” “สวัสดีครับอุ๋ม อัญเขาเป็นยังไงบ้างจำอะไรได้บ้างหรือยัง” “ยังจำอะไรไม่ได้เลยค่ะหมอซันตอนนี้อุ๋มกำลังให้อัญดูรูปและเป็นเพื่อนใน Facebook แล้วก็ไอจีอยู่ค่ะ” “อัญมีปวดหัวไหม” เอกอาทิตย์หันไปถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง “ไม่ปวดค่ะ สงสัยว่าจะได้นอนพักเต็มที่” “แล้วที่ข้อเท้าล่ะปวดไหม” “ไม่ปวดแล้วค่ะ ตอนนี้ก็แค่เจ็บแผลถลอกที่ข้อศอกเท่านั้นค่ะ หมอคิดว่ามันจะเป็นแผลเป็นไหมคะ” อัญชิสาค่อนข้างกังวลกับแผลที่ข้อศอกของตนเอง “แผลไม่ลึกเท่าไหร่ ผมว่าอาจจะมีรอยแผลจางๆ เดี๋ยวผมหายาลดรอยแผลเป็นให้ครับ” คุณหมอหนุ่มรีบเสนอตัวเพราะรู้สึกผิดเนื่องจากตนเองเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด “หมอซันคะ คืนนี้อุ๋มขอเป็นคนเฝ้าอัญได้ไหม” “แต่พรุ่งนี้คุณต้องไปทำงานนะ” “พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของอุ๋มค่ะ หมอซันเฝ้ามาคืนหนึ่งแล้วคืนนี้จะได้พักผ่อน” “ผมจ้างพยาบาลพิเศษไว้แล้วนะครับ” “แต่อุ๋มว่าพยาบาลพิเศษก็สู้คน
“พี่ณีครับผมมีเรื่องอยากปรึกษา” เอกอาทิตย์พูดกับหัวหน้าพยาบาลเมื่อเดินออกมาจากห้องพักของอัญชิสา“เรื่องอัญใช่ไหม”“ครับพี่ณี ผมอยากชวนพี่ไปคุยกับอาจารย์หมอหน่อยได้ไหมครับ”“ได้สิคะหมอซันพี่เองก็อยากถามถึงอาการของอัญอยู่เหมือนกัน”“ฉันไปด้วยนะ”“นายจะไปทำไม”“ก็ไปในฐานะนายจ้างของอัญไงล่ะ”ทั้งสามคนเดินไปยังห้องพักของอาจารย์หมอสุชาติ ธีรกานต์เคาะประตูเมื่อได้ยินเสียงอาจารย์หมอสุชาติอนุญาตก็รีบเปิดประตูเข้าไป“นี่จะมาคุยเรื่องคนไข้กับผมทั้งสามคนเลยเหรอ”“ครับอาจารย์ ผมจะถามอาจารย์ว่าอาการที่คุณอัญเขาเป็นอยู่มีโอกาสจะหายไหม”“โอกาสหายนะมีแต่ต้องใช้เวลาหน่อยน่ะ”“นานไหมคะหมอ” “บางทีอาจจะแค่วันสองวันหรือไม่ก็นานเป็นสัปดาห์ก็ได้” “แล้วเป็นไปได้ไหมครับที่เธอจะจำอะไรไม่ได้เลย” “เป็นไปได้ยากนะหมอซันเพราะผลซีทีสแกนไม่มีรอยโรคหรือเลือดออกตรงไหนเลย มันอาจจะเป็นแค่อาการวิตกกังวลหลังเกิดอุบัติเหตุหรือสมองอาจจะได้รับความกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยแต่ผมว่าไม่นานเธอก็น่าจะกลับมาจำทุกอย่างได้” อาจารย์หมอบอกไปตามความจริง“ได้ยินอาจารย์หมอพูดแบบนี้ณีก็โล่งใจหน่อยค่ะ แล้วแบบนี้จะต้องอยู่โรงพยาบาลนานไหมค
เอกอาทิตย์นอนเฝ้าอัญชิสาจนเช้าแต่หญิงสาวก็ยังไม่ตื่นเขาจึงบอกพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ให้จัดการเรื่องพยาบาลพิเศษอีกครั้ง ก่อนจะรีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านและกลับมาราวน์จนเสร็จก็มาตรวจผู้ป่วยที่แผนกผู้ป่วยนอก “หมอซันคะ” ศิราณีหัวหน้าพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอกเคาะประตูที่เปิดทิ้งไว้ก่อนจะเดินเข้ามาหลังจากที่ผู้ป่วยคนล่าสุดเดินออกไปแล้ว “มีอะไรครับพี่ณี” “แผนกผู้ป่วยในโทรมาแจ้งว่าตอนนี้อัญฟื้นแล้ว” “จริงเหรอครับ แต่ทำไมหน้าของพี่ณีดูไม่ดีเท่าไหร่เลย” “ก็เขาบอกว่าอัญจำอะไรไม่ได้เลยน่ะสิคะหมอซัน พี่ก็เลยจะมาชวนหมอซันขึ้นไปดูหน่อย” “อะไรนะครับพี่ณี” คุณหมอหนุ่มตกใจมากเพราะไม่คิดว่าอาการของเธอจะหนักถึงเพียงนี้ เมื่อเช้าเขาได้รับแจ้งจากหมอแผนกออร์โธปิดิกส์ว่ากระดูกข้อเท้าด้านซ้ายของเธอมีรอยร้าวและจำเป็นที่จะต้องใส่เฝือกซึ่งเขาก็รับทราบ แต่ไม่คิดว่าอาการทางสมองของเธอจะแย่กว่าที่คิดไว้ หมอเอกอาทิตย์ดูผลซีทีสแกนแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีเลือดออกหรือเลือดคั่งตรงจุดไหน ทำให้ชายหนุ่มค่อนข้างเบาใจมาก แต่เมื่อได้ยินว่าเธอจำอะไรไม่ได้ก็เลยตกใจและกังวลเนื่องจากตนเองเป็นต้นเหตุทำให้หญิงสาวต้องประสบชะตา