ประกายวาววามที่ส่องความเจิดจรัสออกมาจากสร้อยคอแพลตินัมประดับเพชรในกล่องอัญมณีสีนิลสะท้อนอยู่ในดวงตากลมโตสุกใสสีน้ำตาลอ่อนบนเรียวหน้ารูปไข่ที่ไล้เมคอัพอย่างเฉิดฉายใต้กรอบผมซึ่งถูกมวยมุ่นและตรึงไว้ด้วยดอกคามิลเลียสีขาวบริสุทธิ์
เจ้าสาวแสนสวยนั่งส่องกระจกบานใหญ่ขณะพิศดูตนเองในชุดแต่งงานสีงาช้างแต่งด้วยผ้าลูกไม้ คอเสื้อคว้านกว้างเผยให้เห็นเนินอกพองามรำไรหากก็ดูไร้จริตยั่วยวนกลับชวนมองให้ใหลหลงในความดึงดูดใจนั้น ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ได้รับการเลือกสรรมาอย่างดีสำหรับ ปรายฟ้า นิรกิจจากร บุตรสาวบุญธรรมเพียงคนเดียวของ นรา นิรกิจจากร เจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวสุดหรู ดิ เอเมอรัล ซิตี้ โฮเต็ล ซึ่งติดอันดับท็อป ไฟว์ หรือหนึ่งในห้าโรงแรมชั้นนำของเมืองไทย
“ปราย...เรียบร้อยหรือยังลูก”
สาวสวยวัยยี่สิบสามปีซึ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังได้ไม่นานหันไปตามเสียงนุ่มลึกของชายวัยกลางคน ผิวขาว รูปร่างสันทัดในชุดสูทสุดเนี้ยบที่เดินเข้ามาถึงตัวเธอและวางมือลงบนไหล่บางอย่างถนอม
“ปรายลูกพ่อ...คืนนี้หนูเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุด นี่ถ้าแม่ของหนูยังอยู่ เขาคงปลื้มใจมากทีเดียว”
นรากล่าวชื่นชมบุตรสาวบุญธรรมซึ่งเขาเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูมาแต่เยาว์วัยหลังจากที่มารดาของปรายฟ้าซึ่งเป็นน้องสาวของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุพร้อมด้วยสามีไปเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว นราทุ่มเทความรักให้หลานสาวตัวน้อยอย่างเต็มกำลังทรัพย์กระทั่งเธอเติบโตงดงามราวดอกไม้บานสะพรั่ง ปรายฟ้าไม่เคยทำตัวเหลวไหลให้บิดาต้องอิดหนาระอาใจ เธอปฏิบัติตนต่อเขาเสมอบิดาผู้ให้กำเนิด และการเข้าพิธีวิวาห์กับ ก้องกาจ รัฐกิจเธียรชัย บุตรชายเศรษฐีซึ่งเป็นนักธุรกิจผู้สนิทสนมกับนราก็หาได้เป็นข้อยกเว้นสำหรับเธอในการแสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณแม้ในส่วนลึกเธอมิเคยรักหรือคาดหวังในตัวผู้ชายคนนั้นมากไปกว่าพี่ชายคนหนึ่งก็ตาม
“มา...พ่อจะสวมเครื่องเพชรให้ทูนหัวของพ่อเองนะจ๊ะ” ว่าแล้วชายวัยกลางคนก็บรรจงหยิบเครื่องบรรณาการอันสุกสกาวสวมใส่ลงบนลำคอเรียวระหงของหญิงสาว ปรายฟ้าไล้ปลายนิ้วลงบนอัญมณีที่ทอประกายบนผิวเนียนผุดผาดก่อนเอ่ยกับบิดา
“ของคุณค่ะคุณพ่อ...มันสวยมากจริง ๆ “
“นี่เป็นของขวัญที่พ่ออยากให้ลูก เพราะผู้หญิงจะสวยที่สุดในวันแต่งงาน และวันนี้ปรายก็สวยที่สุดสำหรับพ่อ”
ใบหน้าหวานยิ้มบาง ๆ สิ่งใดที่เป็นความสุขของนราเธอก็ย่อมเป็นสุข แม้มิใช่ความเต็มใจเธอก็ยินดีสละได้เพื่อบิดา นราพลิกข้อมือมองนาฬิกาบอกเวลาจวนหนึ่งทุ่มก่อนจะพูดขึ้น
“พ่อจะล่วงหน้าไปโรงแรมก่อน เดี๋ยวจะให้ย้งขับรถพาลูกตามไป ตอนนี้แขกอาจจะเริ่มทยอยมา พ่อจะไปดูความเรียบร้อยสักนิด” กล่าวจบชายวัยกลางคนจึงเดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้แต่หญิงสาวนั่งมองบานประตูที่ปิดลงพร้อมด้วยรอยยิ้มที่คลายจางไปด้วย ปรายฟ้าบอกกับตัวเองว่าชีวิตการแต่งงานกับก้องกาจ หนุ่มหล่อลูกชายนักธุรกิจซึ่งเป็นที่หมายปองของสาว ๆ อาจไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อชีวิตของเธอ หลังจากแต่งงานแล้วเธอก็คงเป็นแม่บ้านให้ผู้ชายที่เธอรู้จักกับเขาในฐานะบุตรชายของเพื่อนบิดา ชีวิตของเธอก็เรียบง่ายไม่เคยหวือหวาเช่นนี้มาตลอด
หญิงสาวแสนสวยอย่างปรายฟ้าไม่เคยผูกรักสมัครหัวใจเป็นแฟนใครมาก่อนหน้า แค่เข้าพิธีวิวาห์และปฏิบัติตนในฐานะภรรยาคนหนึ่งก็อาจเพียงพอแม้ปราศจากความรักในส่วนลึกที่ก็ยังนึกกังขากับความรู้สึกนั้นก็ตาม เข็มนาฬิกาเดินมาหยุดลงตรงเวลาทีเธอต้องเดินทางจากบ้านหลังใหญ่ราวคฤหาสน์ไปยังโรงแรมอันเป็นสถานที่จัดเลี้ยง ปรายฟ้าก้าวขึ้นรถเก๋งคันหรูพร้อมคนขับรถที่บิดาจัดเตรียมไว้ให้ก่อนเดินทางออกจากรั้วบ้านตรงไปยังโรงแรมเพื่อเข้าพิธีแต่งงานกับก้องกาจเจ้าบ่าวของเธอ
“คุณปรายครับ...ผมขอแวะเข้าห้องน้ำสักครู่นะครับ” นายย้งซึ่งเป็นคนขับรถที่บ้านมานานเอ่ยขออนุญาตจากเจ้าสาวซึ่งนั่งบนเบาะด้านหลังและเธอก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ รถเก๋งคันงามแล่นเลี้ยวเข้าไปจอดในบริเวณปั๊มน้ำมันที่มีรถวิ่งเข้าออกตลอดเวลาก่อนที่คนขับจะเปิดประตูลงไปทำธุระส่วนตัว ปรายฟ้ามินึกสนใจอันใดได้แต่นั่งมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างที่คนยังพลุกพล่านไปมา แสงไฟยามค่ำคืนลอดผ่านฟิล์มสีดำสนิทบนกระจกรถเข้ามาภายในขณะหญิงสาวปลดปล่อยความคิดให้ล่องลอยออกไป
“นายย้ง...ช่วยซื้อน้ำแร่ให้ปรายหน่อยค่ะ ปรายหิวน้ำ” เธอบอกคนขับรถที่กลับเข้ามานั่งโดยมิทันได้นึกสังเกตสิ่งใด จวบจนร่างสูงใหญ่กว่าปกติเดินออกไปและกลับเข้ามาอีกครั้งโดยยื่นขวดน้ำแร่ขนาดเล็กให้เธอจากด้านหน้าก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์พารถแล่นไปตามเส้นทางที่ปรายฟ้ามิได้สนใจขณะจิบน้ำแร่แค่นิดหน่อยหากแต่เพียงครู่เดียวกลับรู้สึกว่าความง่วงงุนกำลังเข้ามารบกวนประสาทสั่งงานของเธอเสียแล้ว ปรายฟ้ายังหลงเหลือสำนึกสุดท้ายว่าอาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้าที่ต้องเตรียมตัวเพื่อการเป็นเจ้าสาวตั้งแต่เช้าจรดค่ำก่อนทุกอย่างจะทิ้งดิ่งกลับลงไปสู่ภวังค์อันว่างวาย“อืม...อือ....”เสียงหวานนั้นครางลึกอยู่ในลำคออันแห้งผากขณะร่างบางในชุดเจ้าสาวบิดตัวไปมาด้วยเมื่อขบเสมือนมันแทรกซึมอยู่ในกล้ามเนื้อที่คงอยู่กับอากัปกิริยาท่าเดียวติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน แพขนตางอนงามบนเปลือกตาไหวไปตามการหรุบขึ้นลงเมื่อแสงสว่างลอดผ่านเข้าไปในม่านดวงตากลมโต ปรายฟ้าขยับกายเล็กน้อยรู้สึกอยากยกมือขึ้นขยี้ตาที่ยังไม่ชินกับความสว่างที่ค่อย ๆ แทรกตัวเข้ามาในความมืดมิดมากขึ้นทุกขณะหากก็อึดอัดคัดแน่นไปหมดที่ข้อมือทั้งสองเธอมาถึงโรงแรมแล้วหรืออย่างไร..
ดวงตาคมเข้มบนใบหน้าคมคายที่ข้นคลั่กยามนี้จับจ้องอยู่ที่ดวงตากลมใต้คิ้วโก่งรับกับจมูกโด่งปลายรั้นและริมฝีปากอิ่มเต็มซึ่งยังคงฉาบด้วยประกายของลิปสติกอ่อนใส สายตาคู่นั้นแลเลยลงไปยังลำคอเรียวระหงและอดไม่ได้ที่จะมองความงามของเนินเนื้อที่โผล่พ้นเสื้อคอกว้างของชุดแต่งงานออกมารำไร มันไหวกระเพื่อมขึ้นลงจนเขาได้ยินเสียงหอบปนสะอื้นของหญิงสาวชัดเจน ร่างสูงใหญ่เหยียดยิ้มหยันส่งเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอ หากแต่สำหรับหญิงสาวราคาแห่งความพอใจจากสายตาที่ไร้ความเป็นมิตรอาจอยู่ที่สร้อยเพชรแบบดราเพอรี่ราคาหลักล้านซึ่งประดับอยู่บนเรือนกายของเธอมากกว่าเป็นอย่างอื่น“ฉันไม่รู้เรื่องอะไรที่คุณว่ามานั่นหรอก...ปล่อยฉันไปเถอะนะ ได้โปรด...หรือว่า...หรือว่าคุณอยากได้อะไร เอาไปเลย!...นี่ไง สร้อยเพชรเส้นนี้เอาไปขายได้นะ ได้หลายล้านด้วย ฉันจะให้...แค่ปล่อยฉันไป...ฉันจะ...ว้าย!”ปรายฟ้ากรีดร้องสุดเสียงเมื่อกำลังทำท่าจะยกมือที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือกขึ้นดึงของมีค่าบนลำคอออกมาหากแต่ไม่ทันมือหนาที่เอื้อมมากระชากมันทิ้งไปทางเบาะด้านหลังราวไม่ใยดี“ทำอะไรน่ะ!...จะบ้ารึไง!...สร้อยนั่นราคาเป็นล้านนะ ราคาของมันมากกว่
“คุณต้องได้เห็นแน่ปรายฟ้า คุณต้องได้รู้ซึ้งแน่ว่าคนเลวอย่างผมทำอะไรกับคุณได้บ้าง ผมรู้ว่าคุณมันอยากลองดี แล้วจะได้รู้จักคนชื่อเขมราชคนนี้ลึกซึ้งเข้าไปถึงก้นบึ้งของคุณเลยทีเดียว!”ชายหนุ่มทิ้งสายตาและถ้อยวาจาพยาบาทลึกไว้ก่อนจะหันกลับไปจับพวงมาลัยและเหยียบคันเร่งให้รถจิ๊บคันเก่าทว่าแรงม้าเต็มพิกัดทะยานไปเบื้องหน้าผ่านป้ายบอกทางของจังหวัดกาญจนบุรี เพียงชั่วแวบปรายฟ้าก็เพิ่งนึกถึงคนขับที่อันตรธานไปพร้อมกับรถของบิดา“นายย้งล่ะ...นี่คุณทำอะไรกับคนขับรถของฉัน คุณฆ่านายย้งแล้วใช่มั้ย คุณมันไม่ใช่แค่ชอบขโมยของ แต่คุณยังเป็นฆาตกรเลือดเย็นฆ่าคนตายด้วย!”“หยุดพล่ามซะทีเถอะ!...ไม่มีใครหาคุณพบแล้วตอนนี้ คนขับรถของคุณเขาก็หลับสบายอยู่ในห้องน้ำที่ปั๊มนั่นล่ะ ตื่นขึ้นมาอาจจะแค่มึนและก็ไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเหมือนคุณที่ตอนนี้มารู้ก็สายไปหมดแล้ว”“เขมราช...คุณจะพาฉันไปไหน...คุณมันคนบ้า ตำรวจต้องตามตัวคุณพบ นี่แค่จังหวัดกาญจนบุรี มันไม่ไกลจากกรุงเทพฯเลย พ่อฉันต้องไม่ปล่อยคุณไว้แน่...เขาต้องฆ่าคุณแน่ ๆ ที่พาฉันมาแบบนี้!”“เฮอะ!...อยากพูดอะไรตอนนี้ก็พูดไปเถอะ เพราะหลังจากนี้คุณไม่มีสิทธิ์จะได
“อุ๊ย!...นี่คุณ...ช่วยหยุดรถทีสิ!” ปรายฟ้าคู้ตัวและนิ่วหน้าร้องบอกให้คนขับชะลอคันเร่ง “ทำไม!...เป็นอะไรขึ้นมาอีกล่ะ!” “ฉันปวดท้องฉี่...คุณขับรถเข้ามาในป่านี่ตั้งนานแล้วนะ ฉันก็อยากทำธุระของฉันบ้างสิ!...โอ้ย!” หญิงสาวต้องร้องเสียงหลงออกมาอีกครั้งเมื่อเขมราชเหยียบเบรคกะทันหันจนร่างของเธอเหมือนถูกกระชากกลับไปกระแทกคอนโซลด้านหน้าอีกครั้ง “นี่คุณ!...เบรคดี ๆ ไม่เป็นรึยังไง ฉันเจ็บไปหมดแล้วนะ!” “เรื่องของคุณ!...ผมไว้ชีวิตคุณมาถึงนี่ก็นับว่าบุญเท่าไหร่ อย่ามาทำลวดลายกับผมก็แล้วกันปรายฟ้า แล้วอย่าหาว่าเขมราชคนนี้ไม่เคยเตือนคุณ!” เสียงคำรามลั่นสั่นประสาทของปรายฟ้าจนกระเจิดกระเจิงไปเกือบหมด หากแต่เธอต้องเก็บความยั้งคิดสุดท้ายที่ตกผลึกไว้ ไม่ว่าสิ่งที่เธอเผชิญจะน่ากลัวมากแค่ไหน หากเธอไม่ลงมือทำอะไร นรกขุมท้ายสุดต้องรอเธออยู่แน่นอน “ผมให้เวลาคุณห้านาที...ถ้าขืนชักช้าผมจะเข้าไปลากคุณออกมาเอง!” เขมราชสาดคำคาดโทษไว้อีกก่อนจะลงจากรถและเดินลงส้นไปเปิดประตูให้หญิงสาวที่นั่งอยู่อีกฝั่ง ปรายฟ้ารีบสะบัดเท้าเรี