“อุ๊ย!...นี่คุณ...ช่วยหยุดรถทีสิ!” ปรายฟ้าคู้ตัวและนิ่วหน้าร้องบอกให้คนขับชะลอคันเร่ง
“ทำไม!...เป็นอะไรขึ้นมาอีกล่ะ!”
“ฉันปวดท้องฉี่...คุณขับรถเข้ามาในป่านี่ตั้งนานแล้วนะ ฉันก็อยากทำธุระของฉันบ้างสิ!...โอ้ย!”
หญิงสาวต้องร้องเสียงหลงออกมาอีกครั้งเมื่อเขมราชเหยียบเบรคกะทันหันจนร่างของเธอเหมือนถูกกระชากกลับไปกระแทกคอนโซลด้านหน้าอีกครั้ง
“นี่คุณ!...เบรคดี ๆ ไม่เป็นรึยังไง ฉันเจ็บไปหมดแล้วนะ!”
“เรื่องของคุณ!...ผมไว้ชีวิตคุณมาถึงนี่ก็นับว่าบุญเท่าไหร่ อย่ามาทำลวดลายกับผมก็แล้วกันปรายฟ้า แล้วอย่าหาว่าเขมราชคนนี้ไม่เคยเตือนคุณ!” เสียงคำรามลั่นสั่นประสาทของปรายฟ้าจนกระเจิดกระเจิงไปเกือบหมด หากแต่เธอต้องเก็บความยั้งคิดสุดท้ายที่ตกผลึกไว้ ไม่ว่าสิ่งที่เธอเผชิญจะน่ากลัวมากแค่ไหน หากเธอไม่ลงมือทำอะไร นรกขุมท้ายสุดต้องรอเธออยู่แน่นอน
“ผมให้เวลาคุณห้านาที...ถ้าขืนชักช้าผมจะเข้าไปลากคุณออกมาเอง!”
เขมราชสาดคำคาดโทษไว้อีกก่อนจะลงจากรถและเดินลงส้นไปเปิดประตูให้หญิงสาวที่นั่งอยู่อีกฝั่ง ปรายฟ้ารีบสะบัดเท้าเรียวออกจากรองเท้าส้นสูงคู่งามที่อาจไม่มีความหมายอะไรต่อไปก่อนจะก้าวลงเหยียบพื้นด้านล่างอย่างทุลักทุเล
เมื่อเธอทรงตัวยืนในขณะที่มือทั้งสองยังถูกมัดไว้ด้วยเชือกก็เห็นว่าคนที่เธอกำลังชังน้ำหน้าเขาอยู่ในตอนนี้มีเรือนร่างสูงใหญ่กำยำมากแค่ไหน มัดกล้ามที่แขนและหน้าอกภายใต้เสื้อยืดเนื้อบางทำให้ร่างอรชรที่ดูเล็กไปถนัดใจต้องคิดคำนวณทางหนีทีไล่มากกว่าเดิม หากใช่เพียงรูปร่างนั้นที่สั่นไหวหัวใจของหญิงสาว ใบหน้าอันคมคายหล่อเหลาราวเทพบุตรคล้ายทำให้เจ้าของร่างบางซึมซับภาพของเขาไว้ในใจโดยเธอก็แทบไม่รู้ตัว
ปรายฟ้าค่อย ๆ ย่างเท้าเปล่าเข้าไปหลังพุ่มไม้อย่างยากลำบากเพราะอุปสรรคใหญ่คือชุดเจ้าสาวกระโปรงลูกไม้ยาวเยื้อยคอยแต่จะเกาะเกี่ยวไปบนยอดไม้ปลายกิ่งที่แตกก้านใบเรี่ยรายบนพื้นดิน เธอไม่อยากหันไปมองผู้ชายคนนั้นที่เป็นยิ่งกว่ามัจจุราชกระชากเธอไปลงทัณฑ์รับโทษ ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้จะมีใครกันที่ยังจะอยากปลดทุกข์ในป่าใหญ่มืดครึ้ม เธอไม่ได้มีความรู้สึกอยากทำอะไรดังที่บอกกับเขา แค่เพียงโอกาส...ที่จะได้ปลีกกายห่างออกมาจากคนอหังการอย่างเขมราช หากมันจะเป็นโอกาสสุดท้าย เมื่อได้จังหวะเหมาะหญิงสาวจึงเหลียวหลังกลับไปมองผ่านทางช่องพุ่มไม้ใหญ่ เขายังยืนอยู่ข้างรถจิ๊ปที่สตาร์ทเครื่องยนต์ไว้ให้มีไฟส่องทาง ปรายฟ้าก้มลงมองชายกระโปรงลูกไม้ยาวก่อนตัดสินใจใช้มือที่ยังถูกมัดไว้ฉีกทึ้งมันออกอย่างไม่เสียดายเพื่อให้ชายของชุดสุดหรูสั้นขึ้นไปแค่เข่าของเธอ ไม่มีเวลาใดเหมาะมากไปกว่านี้อีกแล้ว ร่างบางระหงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกก่อนจะพุ่งทะยานไปด้านหน้าวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต
เร็วสิปรายฟ้า...เธอต้องวิ่งไป...เธอต้องวิ่งไป....
“โอ๊ะ!....ว้าย!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นหลังจากที่หญิงสาววิ่งห่างออกมาได้ไม่นาน อารามรีบทำให้เธอสะดุดรากไม้ในความมืดก่อนร่างบางจะล้มลงซ้ำยังกลิ้งไปตามทางลาดที่มองไม่เห็นและกระแทกกับโคนไม้ใหญ่เข้าอย่างจัง
“โอย!...โอย!...” ปรายฟ้าร้องครางในความเงียบงันมีเพียงแสงจันทร์สาดส่องกับความรู้สึกเจ็บปวดไปหมดทั้งตัวโดยเฉพาะที่ขาซึ่งเมื่อเธอฝืนหยัดกายขึ้นนั่งก็เห็นรอยน้ำเหนียวข้นไหลออกมาเป็นทางยาวน่าตระหนกยิ่งนัก เธอได้รับบาดเจ็บจากความเร่งรีบและขลาดกลัวที่มีท่วมท้น ทว่าก่อนหญิงสาวจะได้ตัดสินใจทำอะไรต่อไปกลับต้องหยุดชะงักเมื่อเท้าของใครคนหนึ่งเหยียบย่างลงบนพื้นตรงหน้าเธอ
“เขมราช!”
“ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ย ปรายฟ้า!...อย่าคิดลองดีกับผม”
“คุณเขมราช...ได้โปรดเถอะนะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันอยากกลับบ้าน!”
หญิงสาวยกมือทั้งสองขึ้นแนบอกละล่ำละลักบอกเขาด้วยน้ำตา หากแต่ชายหนุ่มกลับกระชากตัวเธอเข้ามาใกล้ใบหน้าที่ฉาบทาด้วยโทสะร้อน ปรายฟ้าไม่มีโอกาสจะพูดอะไรได้อีกเมื่อคางเรียวถูกมือหนาบีบไว้ เจ็บปวดจนน้ำตาไหลหากก็ตอบโต้อะไรคนป่าเถื่อนอย่างเขมราชไม่ได้เลย
“คุณได้กลับแน่ ปรายฟ้า...คุณจะได้กลับบ้าน แต่ต้องหลังจากที่ร่างกายของคุณบอบช้ำยิ่งกว่าซากศพเพราะชีวิตของคุณจะถูกฝังไว้ที่นี่!...อย่าอวดดีถ้าคุณมาอยู่ในป่า บางทีทางที่คุณคิดว่าจะได้กลับบ้าน อาจจะเป็นทางไปนรกก็ได้...ไปกันได้แล้ว...ผมเสียเวลากับคุณมามากพอ ผมจะตอบแทนความอวดดีอวดเก่งของคุณซะเดี๋ยวนี้ล่ะ!”
ประกายวาววามที่ส่องความเจิดจรัสออกมาจากสร้อยคอแพลตินัมประดับเพชรในกล่องอัญมณีสีนิลสะท้อนอยู่ในดวงตากลมโตสุกใสสีน้ำตาลอ่อนบนเรียวหน้ารูปไข่ที่ไล้เมคอัพอย่างเฉิดฉายใต้กรอบผมซึ่งถูกมวยมุ่นและตรึงไว้ด้วยดอกคามิลเลียสีขาวบริสุทธิ์ เจ้าสาวแสนสวยนั่งส่องกระจกบานใหญ่ขณะพิศดูตนเองในชุดแต่งงานสีงาช้างแต่งด้วยผ้าลูกไม้ คอเสื้อคว้านกว้างเผยให้เห็นเนินอกพองามรำไรหากก็ดูไร้จริตยั่วยวนกลับชวนมองให้ใหลหลงในความดึงดูดใจนั้น ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ได้รับการเลือกสรรมาอย่างดีสำหรับ ปรายฟ้า นิรกิจจากร บุตรสาวบุญธรรมเพียงคนเดียวของ นรา นิรกิจจากร เจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวสุดหรู ดิ เอเมอรัล ซิตี้ โฮเต็ล ซึ่งติดอันดับท็อป ไฟว์ หรือหนึ่งในห้าโรงแรมชั้นนำของเมืองไทย “ปราย...เรียบร้อยหรือยังลูก” สาวสวยวัยยี่สิบสามปีซึ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังได้ไม่นานหันไปตามเสียงนุ่มลึกของชายวัยกลางคน ผิวขาว รูปร่างสันทัดในชุดสูทสุดเนี้ยบที่เดินเข้ามาถึงตัวเธอและวางมือลงบนไหล่บางอย่างถนอม “ปรายลูกพ่อ...คืนนี้หนูเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุด นี่ถ้าแม่ของหนูยังอยู่ เขาคงปลื้มใจมากทีเ
“นายย้ง...ช่วยซื้อน้ำแร่ให้ปรายหน่อยค่ะ ปรายหิวน้ำ” เธอบอกคนขับรถที่กลับเข้ามานั่งโดยมิทันได้นึกสังเกตสิ่งใด จวบจนร่างสูงใหญ่กว่าปกติเดินออกไปและกลับเข้ามาอีกครั้งโดยยื่นขวดน้ำแร่ขนาดเล็กให้เธอจากด้านหน้าก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์พารถแล่นไปตามเส้นทางที่ปรายฟ้ามิได้สนใจขณะจิบน้ำแร่แค่นิดหน่อยหากแต่เพียงครู่เดียวกลับรู้สึกว่าความง่วงงุนกำลังเข้ามารบกวนประสาทสั่งงานของเธอเสียแล้ว ปรายฟ้ายังหลงเหลือสำนึกสุดท้ายว่าอาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้าที่ต้องเตรียมตัวเพื่อการเป็นเจ้าสาวตั้งแต่เช้าจรดค่ำก่อนทุกอย่างจะทิ้งดิ่งกลับลงไปสู่ภวังค์อันว่างวาย“อืม...อือ....”เสียงหวานนั้นครางลึกอยู่ในลำคออันแห้งผากขณะร่างบางในชุดเจ้าสาวบิดตัวไปมาด้วยเมื่อขบเสมือนมันแทรกซึมอยู่ในกล้ามเนื้อที่คงอยู่กับอากัปกิริยาท่าเดียวติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน แพขนตางอนงามบนเปลือกตาไหวไปตามการหรุบขึ้นลงเมื่อแสงสว่างลอดผ่านเข้าไปในม่านดวงตากลมโต ปรายฟ้าขยับกายเล็กน้อยรู้สึกอยากยกมือขึ้นขยี้ตาที่ยังไม่ชินกับความสว่างที่ค่อย ๆ แทรกตัวเข้ามาในความมืดมิดมากขึ้นทุกขณะหากก็อึดอัดคัดแน่นไปหมดที่ข้อมือทั้งสองเธอมาถึงโรงแรมแล้วหรืออย่างไร..
ดวงตาคมเข้มบนใบหน้าคมคายที่ข้นคลั่กยามนี้จับจ้องอยู่ที่ดวงตากลมใต้คิ้วโก่งรับกับจมูกโด่งปลายรั้นและริมฝีปากอิ่มเต็มซึ่งยังคงฉาบด้วยประกายของลิปสติกอ่อนใส สายตาคู่นั้นแลเลยลงไปยังลำคอเรียวระหงและอดไม่ได้ที่จะมองความงามของเนินเนื้อที่โผล่พ้นเสื้อคอกว้างของชุดแต่งงานออกมารำไร มันไหวกระเพื่อมขึ้นลงจนเขาได้ยินเสียงหอบปนสะอื้นของหญิงสาวชัดเจน ร่างสูงใหญ่เหยียดยิ้มหยันส่งเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอ หากแต่สำหรับหญิงสาวราคาแห่งความพอใจจากสายตาที่ไร้ความเป็นมิตรอาจอยู่ที่สร้อยเพชรแบบดราเพอรี่ราคาหลักล้านซึ่งประดับอยู่บนเรือนกายของเธอมากกว่าเป็นอย่างอื่น“ฉันไม่รู้เรื่องอะไรที่คุณว่ามานั่นหรอก...ปล่อยฉันไปเถอะนะ ได้โปรด...หรือว่า...หรือว่าคุณอยากได้อะไร เอาไปเลย!...นี่ไง สร้อยเพชรเส้นนี้เอาไปขายได้นะ ได้หลายล้านด้วย ฉันจะให้...แค่ปล่อยฉันไป...ฉันจะ...ว้าย!”ปรายฟ้ากรีดร้องสุดเสียงเมื่อกำลังทำท่าจะยกมือที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือกขึ้นดึงของมีค่าบนลำคอออกมาหากแต่ไม่ทันมือหนาที่เอื้อมมากระชากมันทิ้งไปทางเบาะด้านหลังราวไม่ใยดี“ทำอะไรน่ะ!...จะบ้ารึไง!...สร้อยนั่นราคาเป็นล้านนะ ราคาของมันมากกว่
“คุณต้องได้เห็นแน่ปรายฟ้า คุณต้องได้รู้ซึ้งแน่ว่าคนเลวอย่างผมทำอะไรกับคุณได้บ้าง ผมรู้ว่าคุณมันอยากลองดี แล้วจะได้รู้จักคนชื่อเขมราชคนนี้ลึกซึ้งเข้าไปถึงก้นบึ้งของคุณเลยทีเดียว!”ชายหนุ่มทิ้งสายตาและถ้อยวาจาพยาบาทลึกไว้ก่อนจะหันกลับไปจับพวงมาลัยและเหยียบคันเร่งให้รถจิ๊บคันเก่าทว่าแรงม้าเต็มพิกัดทะยานไปเบื้องหน้าผ่านป้ายบอกทางของจังหวัดกาญจนบุรี เพียงชั่วแวบปรายฟ้าก็เพิ่งนึกถึงคนขับที่อันตรธานไปพร้อมกับรถของบิดา“นายย้งล่ะ...นี่คุณทำอะไรกับคนขับรถของฉัน คุณฆ่านายย้งแล้วใช่มั้ย คุณมันไม่ใช่แค่ชอบขโมยของ แต่คุณยังเป็นฆาตกรเลือดเย็นฆ่าคนตายด้วย!”“หยุดพล่ามซะทีเถอะ!...ไม่มีใครหาคุณพบแล้วตอนนี้ คนขับรถของคุณเขาก็หลับสบายอยู่ในห้องน้ำที่ปั๊มนั่นล่ะ ตื่นขึ้นมาอาจจะแค่มึนและก็ไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเหมือนคุณที่ตอนนี้มารู้ก็สายไปหมดแล้ว”“เขมราช...คุณจะพาฉันไปไหน...คุณมันคนบ้า ตำรวจต้องตามตัวคุณพบ นี่แค่จังหวัดกาญจนบุรี มันไม่ไกลจากกรุงเทพฯเลย พ่อฉันต้องไม่ปล่อยคุณไว้แน่...เขาต้องฆ่าคุณแน่ ๆ ที่พาฉันมาแบบนี้!”“เฮอะ!...อยากพูดอะไรตอนนี้ก็พูดไปเถอะ เพราะหลังจากนี้คุณไม่มีสิทธิ์จะได