แต่ส่วนเรื่องที่ลูกชายทำลายเอกสารในคําให้การของรปภ.นั้นไม่พบภาพใดๆแต่ระบบแสดงให้เห็นว่าไฟล์การตรวจสอบมี 10 นาทีหายไปจากประตูของช่องทางที่ปลอดภัยในวันถัดไปส่วนที่หายไปนั้นถูกคัดลอกไปแล้วหลินเซินตบโต๊ะด้วยความโกรธทันที"หา! เขาน่าจะโยนไปได้ไม่ไกล ตอนออกไปข้างหลังในมือก็ว่างเปล่าแล้วไป ไปคุ้ยถังขยะของบริษัทให้หมด!”“หาไฟล์ที่ขาดหายไปในกล้องวงจรปิดไม่เจอ ใครก็อย่าคิดจะได้เลิกงาน”สุดท้ายคนที่เขาเรียกไปมีเพียงครึ่งเดียวที่ไปคุ้ยขยะส่วนใหญ่กําลังยุ่งอยู่กับการยกเลิกสัญญาของคู่ค้าบริษัทเป็นอัมพาตเพราะปัญหานี้และโครงการที่สําคัญที่สุดล้วนมาจากคู่ค้าที่ฉันหามาหลินเซินส่งคนไปมอบของขวัญทุกที่ แต่ก็ไม่ได้รับการเหลียวมองจากคู่ค้าเลยภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่อง เขานั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างห่อเหี่ยว คนทั้งคนเหมือนแก่ลงไปสิบปีในที่สุดแฟลชไดรฟ์ USB ก็ปรากฏขึ้นในถังขยะใต้โต๊ะทํางานของซูเหยาเมื่อนําไฟล์เข้าไปยังคอมพิวเตอร์ หลินเซินมองภาพบนหน้าจออย่างละเอียดมีเพียงฉากที่ซูเหยาพึมพํากับรปภ.คนนั้นเท่านั้น และไม่มีอะไรอื่นอีก"คนที่เข้าเวรในวันนั้นเป็นใคร ทําไมอุบัติเหตุร้ายแรงขนาดนี้ถ
ฉันค่อยๆ รู้สึกดีขึ้นและพูดว่า “ฉันเคยตรวจสอบรายงานของซูเหยาแล้ว มันเป็นความจริง ถ้าเด็กไม่ใช่ของคุณ งั้นข้อมูลที่เก็บไว้ในโรงพยาบาลน่าจะเป็นข้อมูลของพ่อของเด็ก คุณไปดูเถอะ ไม่แน่ว่าอาจจะได้รับผลประโยชน์ที่ไม่คาดคิดก็ได้”ตํารวจแบ่งออกเป็นสองทาง ทางหนึ่งตรวจสอบบ้านเก่าของรปภ.คนนั้นตามข้อมูลที่ให้ในการเซ็นสัญญาเมื่อตํารวจมาถึง เขากําลังยุ่งกับการเก็บกระเป๋าอยู่พอเห็นตํารวจก็ตกใจจนพูดได้ไม่เต็มปากระหว่างทางตํารวจได้สอบปากคํารอบแรกไปแล้วแต่เขาปิดปากเงียบเกี่ยวกับที่อยู่ของซูเหยาเขาไม่รู้ว่าอาชญากรรมทางเศรษฐกิจคืออะไร และไม่รู้ว่าอะไรผิดกฎหมายเขารู้แต่ว่าต้องหาเงินมารักษาอาการป่วยของลูกชายตัวเองอีกทีมหนึ่งไปโรงพยาบาลสูตินรีเวชจดหมายเหตุของหญิงตั้งครรภ์จะอยู่กับเธอตลอดก่อนคลอดไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสองทีมก็กลับไปที่สถานีตํารวจพร้อมกันเมื่อรวมข้อมูลทั้งหมดเข้าด้วยกัน กลับพบความจริงที่น่ากลัวอย่างหนึ่งรปภ.และซูเหรปภ.าจากอําเภอเล็กๆ แห่งเดียวกัน ทั้งสองคนเป็นคนบ้านเดียวกันเดิมทีอายุของเขาเกินเกณฑ์แล้ว เป็นเพราะซูเหยา เขาถึงสามารถเข้าบริษัทได้สําเร็จแต่เขาพูดเพียงเท่าน
หลังจากจัดการงานศพของลูกชายเรียบร้อยแล้ว อารมณ์ความรู้สึกและจิตใจที่พังทะลายของฉันก็ได้มอดไหม้เป็นขี้เถ้าไปพร้อมกับศพของลูกชายแล้วจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความหาเพื่อนเก่าหลายคน[ฉันจะหย่าแล้ว ไม่ต้องช่วยหาลูกค้าให้ฉันแล้ว]ไม่คิดเลยว่าชีวิตคู่มา 6 ปี จะมาจบลงด้วยความย่อยยับเช่นนี้ความรักที่เพื่อนนักเรียนต่างคิดว่าต้องไปได้ดี สุดท้ายก็เดินเข้าสู้หลุมศพของการแต่งงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ความรักที่ร้อนแรงของคนสองคนค่อยๆ จางหายไปด้วยเรื่องเล็กๆ ต่างๆ มากมายฉันหาทนายช่วยร่างใบหย่าให้ พอได้แล้วก็ตรงกลับบ้านเลยไม่มีอารมณ์จะจัดการกับกระแสในเน็ตแล้วยังไงต่อไปมันก็ไม่เกี่ยวข้องกับฉันอีกแล้วฉันนั่งรอเขาอยู่ที่โซฟาเป็นเวลาห้าชั่วโมง ในที่สุดหลินเซินก็ถูกซูเหยาพยุงเข้าบ้านมาสายตาที่เดิมทีมึนๆ งงๆ ด้วยความเมา พอเห็นฉันก็ได้สติคืนมาทันทีเขาสะบัดมือซูเหยาออกไป ทำสีหน้าบึ้งตึงและพูดกับฉันว่า "สัญญาที่บอกคุณล่ะ ส่งไปที่ไหน? คุณรู้ไหมว่าลูกชายของคุณทำผมเสียเรื่องตั้งเท่าไหร่?"ฉันไม่รู้หรอกว่ามันทำเขาเสียเรื่องไปเท่าไหร่ฉันเพียงว่าลูกชายฉันถูกรถชนตายหน้าบริษัทเพราะไปเอาสัญญา
ฉันไม่คิดเลยว่าจนถึงตอนนี้แล้วเขายังจะคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของบริษัทผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่เหมือนกับชายหนุ่มวัยรุ่นในความทรงจำอีกต่อไปวินาทีก่อนที่ฉันจะสติแตก ซูเหยาหยิบกล่องของขวัญหรูหราออกมาจากกระเป๋าเอามาวางไว้ข้างหน้าฉัน"พี่ซิน นี่เป็นของขวัญที่เมื่อวานประธานหลินเลือกตั้งใจให้คุณเป็นพิเศษ คุณอย่าโกรธไปเลยนะ เขาก็ทำไปเพื่อครอบครัว"สิ้นเสียงฉันก็มองตามการเคลื่อนไหวของเธอและสังเกตเห็นแหวนที่มือของเธอยี่ห้อเดียวกับกล่องของขวัญความโกรธพุ่งพล่านในใจทันที ฉันหยิบกล่องเล็กๆ ใบนั้นขึ้นมาโยนออกไปไกลเป็นสิบเมตรของที่อยู่ภายในกระเด็นออกมาบนพื้นหลินเซินถูกด้วยเสียงดังทำให้ชะงัก เขามองมาที่ฉันอย่างเหลือเชื่อ"หลิ่วซิน วันนี้เธอเป็นบ้าอะไร ลูกชายพูดอะไรกับเธอกันแน่ คําพูดของเด็กเชื่อได้ที่ไหน แค่เรื่องกระแสในเน็ตมื่อคืนเธอจะหาเรื่องฉันอีกนานแค่ไหน?"ฉันเงยหน้าขึ้นมาดวงตามีแต่ความเย็นชาจนถึงตอนนี้เขายังคิดว่าเป็นแค่เพราะเรื่องกระแสในเน็ตแม้แต่ข่าวการตายของลูกชายก็ไม่สนใจ!"ยังต้องให้ลูกพูดด้วยเหรอ ฉันเองไม่มีตาเหรอ ฉันดูไม่ออกเหรอ หลินเซิน เธอคิดว่าฉันรักเธอแล้วเธอจะหลอกฉันยัง
ต่อมาเขาก็ปรากฏตัวในทุกช่วงเวลาที่ฉันต้องการเขาอย่างที่เขาพูดจนกระทั่งบริษัทใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็เริ่มยุ่งขึ้นจนกระทั่งการปรากฏตัวของซูเหยาและแล้วเราก็ทะเลาะกันอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรกเพราะซูเหยาความรู้สึกเป็นทรัพยากรไม่หมุนเวียนหากคนคนหนึ่งทำให้หัวใจมีร้อยร้าวแล้วมันก็ยากที่จะซ่อมแซมได้ปีที่ลูกชายเกิดเป็นช่วงที่บริษัทยากลำบากที่สุดฉันต้องดูแลตัวเองคนเดียวและไปโรงพยาบาลเพื่อรอคลอดคนเดียวแค่โทรศัพท์ไปหาเขาตอนกำลังจะคลอดแต่คนที่รับสายกลับเป็นซูเหยาเสียงผู้หญิงที่อ่อนโยนดังมาเข้าหู"พี่ซิน ประธานหลินคุยธุรกิจอยู่ ยังคุยไม่ได้ ถ้ามีเรื่องเร่งด่วนฉันจะไปบอกเขาให้"ฉันทนความเจ็บปวดจากการหดตัวของมดลูก คําพูดที่ยังไม่ได้พูดออกถูกกลืนกลับเข้าไปเมื่อฉันได้ยินเสียงหอบหายใจของหลินเซินหลังจากวางสาย ในบัตรของฉันมีบันทึกการใช้จ่ายแจ้งเตือนขึ้นมาฝ่ายที่หักเงินคือเครือโรงแรมนั่นเป็นครั้งแรกที่หลินเซินถูกถ่ายรูปตอนไปปรากฏตัวในโรงแรมกับซูเหยาฉันเพิ่งคลอดลูก คู่กรณีใช้รูปแบล็กเมล์ฉันล้านหนึ่งฉันกัดฟันยอมจ่ายให้ไปตอนนี้มาคิดดูแล้วก็พบว่าฉันผิดมาตั้งแต่ต้นนั่นเป็นเพียงแค่ก
แต่กลับถูกซูเหยาดึงไว้ก่อนที่จะฟาดลงมาเธอส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย "เด็กคงไม่รู้หรอกว่าสัญญาอะไร เขาคงไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำลายเป็นผุยผงคืออะไร""เขาคงไม่ได้ตั้งใจหรอก สัญญาเดี๋ยวฉันกลับไปเขียนใหม่ในตอนเย็นแล้วกัน..."หลินเซินฟังจบก็หอบหายใจหน้าอกกระเพื่อมอย่างรุนแรง"สัญญาฉบับหนึ่งไม่สำคัญ แต่ผมไม่สามารถทนเห็นเขาโตมาอย่างบิดเบี้ยวได้!""สัญญามูลค่าเป็นสิบล้านคิดจะทำลายก็ทำลาย? นี่เพิ่งอายุเท่าไหร่เอง โตขึ้นจะขนาดไหน?"ได้ยินแบบนั้นฉันก็เบิกตากว้างทันที ฉันถลึงตาแรงจนเลือดแทบออก"หลินเซินคุณบ้าไปแล้วเหรอ ลูกจะฉีกสัญญาของคุณทำไม วันนี้คุณยอมเชื่อนังสารเลวนี่มากว่ากว่าลูกชายตัวเองเหรอ?"พอคิดว่าลูกชายไม่อยู่แล้ว ยังต้องถูกเธอใส่ร้ายอีกความโกรธแทบจะแผดเผาสติของฉันจนสิ้นหลังจากหลินเซินได้ยินคําพูดของฉันก็ดึงมือออกจากมือของซูเหยาและตบหน้าฉันอย่างแรงตบนี้ทำให้ฉันตื่นอย่างสิ้นเชิงฉันเพิ่งจะเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าวัยรุ่นคนนั้นตายไปตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้วตบแล้วเขาก็ยังไม่หายโมโหเขาพูดด้วยความโกรธว่า "คุณเสี้ยมให้ลูกเอาเอกสารสัญญาฉบับสมบูรณ์ไปทำลายที
มือของหลินเซินคลายลงในทันที โทรศัพท์ของเขาไถลลงมาตามร่างกายกระแทกลงพื้นพักใหญ่กว่าเขาจะได้สติก้มลงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและตะโกนใส่ปลายสายว่า:"ใครตาย คุณบอกว่าใครถูกรถชน รปภ.พี่งบอกว่าเขาเห็นลูกชายผมแล้วคุณก็มาบอกว่าเขาตายแล้ว สิ่งที่ยามเห็นเป็นผีเหรอ""หลิ่วซินใช้ให้คุณพูดแบบนี้ใช่ไหม"พอพูดจบดวงตาของเขาแดงก่ำ เขาจ้องมองมาที่ฉันด้วยความโกรธแต่ฉันกลับเหมือนไม่รับรู้ จ้องมองเถ้ากระดูกของลูกชายด้วยความอึ้งหลินเซินกัดฟันกรอดพูดว่า:"คุณถูกไล่ออกแล้ว ไปรับเงินเดือนของคุณกับหลิ่วซินโน้น!"โทรศัพท์ถูกตัดสายทันที พอเขาก้าวขาทำท่าจะออกไป ซูเหยาเตือนเขาเสียงอ่อนว่า"ประธานหลิน อาจเป็นเพราะลูกกลัวคุณโกรธ เลยสมรู้ร่วมคิดกับผู้ช่วย คุณปล่อยเขาไปแบบนี้..."ระหว่างพูด ซูเหยามีสีหน้าความตื่นตระหนกไม่เป็นธรรมชาติถ้าเป็นเมื่อก่อนแค่ประโยคเดียวเธอก็สามารถทําให้หลินเซินเลิกสงสัยได้แล้วแต่ครั้งนี้คําพูดของเธอกลับถูกขัดจังหวะด้วยความหมดความอดทน "ถ้าเขากล้าล้อเล่นแบบนี้ ผมจะให้เขาได้ตายจริงๆ ในวันนี้"ได้ยินแบบนั้นฉันก็หัวเราะเสียงดังอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้ทั้งคนเหมือนคนบ้าที่อาการณ์กำเริ
จากนั้นก้มหน้ามองเบอร์มือถือของพ่อแม่บนหน้าจอ หน้ำตาไหลพรากอย่างควบคุมไม่ได้หลายปีมานี้ฉันเหมือนโกรธกับที่บ้านอยู่ลึกๆ ในใจอยากพิสูจน์อย่างเร่งด่วนว่าการเลือกของฉันไม่ผิดหลังจากลูกชายของฉันเกิด ฉันดูแลเขาไปด้วยและช่วยหาธุรกิจให้หลินเซินทั่วไปหมดฉันมีความสุขกับน้ำใจที่พ่อแม่ช่วยฉัน แต่ฉันก็ถือว่ามันเป็นความสามารถของตัวเองอย่างดื้อรั้นต่อมาหลินเซินบอกว่าเขาได้แต่งงานกับภรรยาที่สมบูรณ์แบบบอกว่าเขาโชคดีที่ได้พบฉันแต่มีเพียงฉันเท่านั้นที่รู้ว่ารูปถ่ายของเขาที่ถูกแอบถ่ายในโรงแรมบนโทรศัพท์มือถือมีมากขึ้นเรื่อย ๆ การแต่งงานครั้งนี้ เป็นเพียงแต่ในนามมานานแล้วความโกรธ ความดื้อรั้นของฉัน ทําลายตัวเอง และยิ่งทําลายลูกชายของฉันด้วยฉันค่อยๆ เดินไปที่ข้างโถขี้เถ้าและใช้ทิชชู่เช็ดพื้นผิวของมันให้สะอาดจากนั้นใช้โทรศัพท์มือถือส่งข้อความไปยังพันธมิตรรายใหญ่หลายรายของบริษัทหลายคนในนั้นยอมช่วยฉันเพราะเห็นแก่หน้าพ่อแม่ของฉันตอนนี้ฉันจะกลับบ้านแล้ว ไม่ต้องรบกวนพวกเขาแล้วฉันเพิ่งยกโถขี้เถ้าขึ้นมา ประตูใหญ่ก็ถูกบอดี้การ์ดถีบเปิดจากข้างนอกทันทีหลินเซินวิ่งมาหาฉันด้วยความโกรธและคว้
ฉันค่อยๆ รู้สึกดีขึ้นและพูดว่า “ฉันเคยตรวจสอบรายงานของซูเหยาแล้ว มันเป็นความจริง ถ้าเด็กไม่ใช่ของคุณ งั้นข้อมูลที่เก็บไว้ในโรงพยาบาลน่าจะเป็นข้อมูลของพ่อของเด็ก คุณไปดูเถอะ ไม่แน่ว่าอาจจะได้รับผลประโยชน์ที่ไม่คาดคิดก็ได้”ตํารวจแบ่งออกเป็นสองทาง ทางหนึ่งตรวจสอบบ้านเก่าของรปภ.คนนั้นตามข้อมูลที่ให้ในการเซ็นสัญญาเมื่อตํารวจมาถึง เขากําลังยุ่งกับการเก็บกระเป๋าอยู่พอเห็นตํารวจก็ตกใจจนพูดได้ไม่เต็มปากระหว่างทางตํารวจได้สอบปากคํารอบแรกไปแล้วแต่เขาปิดปากเงียบเกี่ยวกับที่อยู่ของซูเหยาเขาไม่รู้ว่าอาชญากรรมทางเศรษฐกิจคืออะไร และไม่รู้ว่าอะไรผิดกฎหมายเขารู้แต่ว่าต้องหาเงินมารักษาอาการป่วยของลูกชายตัวเองอีกทีมหนึ่งไปโรงพยาบาลสูตินรีเวชจดหมายเหตุของหญิงตั้งครรภ์จะอยู่กับเธอตลอดก่อนคลอดไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสองทีมก็กลับไปที่สถานีตํารวจพร้อมกันเมื่อรวมข้อมูลทั้งหมดเข้าด้วยกัน กลับพบความจริงที่น่ากลัวอย่างหนึ่งรปภ.และซูเหรปภ.าจากอําเภอเล็กๆ แห่งเดียวกัน ทั้งสองคนเป็นคนบ้านเดียวกันเดิมทีอายุของเขาเกินเกณฑ์แล้ว เป็นเพราะซูเหยา เขาถึงสามารถเข้าบริษัทได้สําเร็จแต่เขาพูดเพียงเท่าน
แต่ส่วนเรื่องที่ลูกชายทำลายเอกสารในคําให้การของรปภ.นั้นไม่พบภาพใดๆแต่ระบบแสดงให้เห็นว่าไฟล์การตรวจสอบมี 10 นาทีหายไปจากประตูของช่องทางที่ปลอดภัยในวันถัดไปส่วนที่หายไปนั้นถูกคัดลอกไปแล้วหลินเซินตบโต๊ะด้วยความโกรธทันที"หา! เขาน่าจะโยนไปได้ไม่ไกล ตอนออกไปข้างหลังในมือก็ว่างเปล่าแล้วไป ไปคุ้ยถังขยะของบริษัทให้หมด!”“หาไฟล์ที่ขาดหายไปในกล้องวงจรปิดไม่เจอ ใครก็อย่าคิดจะได้เลิกงาน”สุดท้ายคนที่เขาเรียกไปมีเพียงครึ่งเดียวที่ไปคุ้ยขยะส่วนใหญ่กําลังยุ่งอยู่กับการยกเลิกสัญญาของคู่ค้าบริษัทเป็นอัมพาตเพราะปัญหานี้และโครงการที่สําคัญที่สุดล้วนมาจากคู่ค้าที่ฉันหามาหลินเซินส่งคนไปมอบของขวัญทุกที่ แต่ก็ไม่ได้รับการเหลียวมองจากคู่ค้าเลยภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่อง เขานั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างห่อเหี่ยว คนทั้งคนเหมือนแก่ลงไปสิบปีในที่สุดแฟลชไดรฟ์ USB ก็ปรากฏขึ้นในถังขยะใต้โต๊ะทํางานของซูเหยาเมื่อนําไฟล์เข้าไปยังคอมพิวเตอร์ หลินเซินมองภาพบนหน้าจออย่างละเอียดมีเพียงฉากที่ซูเหยาพึมพํากับรปภ.คนนั้นเท่านั้น และไม่มีอะไรอื่นอีก"คนที่เข้าเวรในวันนั้นเป็นใคร ทําไมอุบัติเหตุร้ายแรงขนาดนี้ถ
เขาไม่รู้จริงๆ ว่าซูเหยาส่งรายงานการตั้งครรภ์ให้ฉันเป็นการส่วนตัว"เกี่ยวอะไรกับเธองันเหรอ? วันนั้นผมเป็นคนให้ลูกเราออกจากบ้านเอง คุณจะโทษก็โทษผมเถอะ อย่าพูดถึงเธอเลย เธอแค่ทําเพื่องานเท่านั้น”“ผมรู้ว่าคุณมีอคติกับซูเหยา แต่คุณไม่สามารถปฏิเสธความสามารถในการทํางานของเธอได้”ดวงตาทั้งสองของฉันสบเข้ากับสายตาที่ดื้อรั้นของเขาอย่างอ่อนแรงฉันเหมือนเห็นตัวเองจากข้างในสายตาคู่นั้นหลินเซินที่พยายามแก้ต่างว่าความสัมพันธ์ของเขากับเธอนั้นบริสุทธิ์แค่ไหน บัดนี้ดูเหมือนเป็นตัวตลกต่อหน้าฉันวินาทีต่อมา ฉันก็อดหัวเราะหยันออกมาไม่ได้"หลินเซิน คุณคงไม่คิดว่าคุณมีความรักลึกซึ้งมากหรอกนะ? ปูทางให้คนรักของคุณด้วยการตายของลูกชายฉันเนี่ยนะ?”"แม้ว่าอุบัติเหตุจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่เธอใส่ร้ายลูกชายของฉันมันก็เป็นการวางแผนมานานแล้ว รปภ.ในวันนั้นล่ะ? ฉันจะไปพบเขา”หลินเซินเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ารปภ.ให้การเท็จ จึงรีบโทรหาผู้ช่วยตามความเคยชินสุดท้ายมีเพียงเสียงปฏิเสธเท่านั้นเขาถูกผู้ช่วยบล็อกแล้วหลินเซินเม้มปากแน่นเพื่อระงับความโกรธ แล้วหันไปโทรหาฝ่ายโลจิสติกส์ของบริษัท“ส่งข้อมูลการติดต่อของรปภ.ที
จากนั้นก้มหน้ามองเบอร์มือถือของพ่อแม่บนหน้าจอ หน้ำตาไหลพรากอย่างควบคุมไม่ได้หลายปีมานี้ฉันเหมือนโกรธกับที่บ้านอยู่ลึกๆ ในใจอยากพิสูจน์อย่างเร่งด่วนว่าการเลือกของฉันไม่ผิดหลังจากลูกชายของฉันเกิด ฉันดูแลเขาไปด้วยและช่วยหาธุรกิจให้หลินเซินทั่วไปหมดฉันมีความสุขกับน้ำใจที่พ่อแม่ช่วยฉัน แต่ฉันก็ถือว่ามันเป็นความสามารถของตัวเองอย่างดื้อรั้นต่อมาหลินเซินบอกว่าเขาได้แต่งงานกับภรรยาที่สมบูรณ์แบบบอกว่าเขาโชคดีที่ได้พบฉันแต่มีเพียงฉันเท่านั้นที่รู้ว่ารูปถ่ายของเขาที่ถูกแอบถ่ายในโรงแรมบนโทรศัพท์มือถือมีมากขึ้นเรื่อย ๆ การแต่งงานครั้งนี้ เป็นเพียงแต่ในนามมานานแล้วความโกรธ ความดื้อรั้นของฉัน ทําลายตัวเอง และยิ่งทําลายลูกชายของฉันด้วยฉันค่อยๆ เดินไปที่ข้างโถขี้เถ้าและใช้ทิชชู่เช็ดพื้นผิวของมันให้สะอาดจากนั้นใช้โทรศัพท์มือถือส่งข้อความไปยังพันธมิตรรายใหญ่หลายรายของบริษัทหลายคนในนั้นยอมช่วยฉันเพราะเห็นแก่หน้าพ่อแม่ของฉันตอนนี้ฉันจะกลับบ้านแล้ว ไม่ต้องรบกวนพวกเขาแล้วฉันเพิ่งยกโถขี้เถ้าขึ้นมา ประตูใหญ่ก็ถูกบอดี้การ์ดถีบเปิดจากข้างนอกทันทีหลินเซินวิ่งมาหาฉันด้วยความโกรธและคว้
มือของหลินเซินคลายลงในทันที โทรศัพท์ของเขาไถลลงมาตามร่างกายกระแทกลงพื้นพักใหญ่กว่าเขาจะได้สติก้มลงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและตะโกนใส่ปลายสายว่า:"ใครตาย คุณบอกว่าใครถูกรถชน รปภ.พี่งบอกว่าเขาเห็นลูกชายผมแล้วคุณก็มาบอกว่าเขาตายแล้ว สิ่งที่ยามเห็นเป็นผีเหรอ""หลิ่วซินใช้ให้คุณพูดแบบนี้ใช่ไหม"พอพูดจบดวงตาของเขาแดงก่ำ เขาจ้องมองมาที่ฉันด้วยความโกรธแต่ฉันกลับเหมือนไม่รับรู้ จ้องมองเถ้ากระดูกของลูกชายด้วยความอึ้งหลินเซินกัดฟันกรอดพูดว่า:"คุณถูกไล่ออกแล้ว ไปรับเงินเดือนของคุณกับหลิ่วซินโน้น!"โทรศัพท์ถูกตัดสายทันที พอเขาก้าวขาทำท่าจะออกไป ซูเหยาเตือนเขาเสียงอ่อนว่า"ประธานหลิน อาจเป็นเพราะลูกกลัวคุณโกรธ เลยสมรู้ร่วมคิดกับผู้ช่วย คุณปล่อยเขาไปแบบนี้..."ระหว่างพูด ซูเหยามีสีหน้าความตื่นตระหนกไม่เป็นธรรมชาติถ้าเป็นเมื่อก่อนแค่ประโยคเดียวเธอก็สามารถทําให้หลินเซินเลิกสงสัยได้แล้วแต่ครั้งนี้คําพูดของเธอกลับถูกขัดจังหวะด้วยความหมดความอดทน "ถ้าเขากล้าล้อเล่นแบบนี้ ผมจะให้เขาได้ตายจริงๆ ในวันนี้"ได้ยินแบบนั้นฉันก็หัวเราะเสียงดังอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้ทั้งคนเหมือนคนบ้าที่อาการณ์กำเริ
แต่กลับถูกซูเหยาดึงไว้ก่อนที่จะฟาดลงมาเธอส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย "เด็กคงไม่รู้หรอกว่าสัญญาอะไร เขาคงไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำลายเป็นผุยผงคืออะไร""เขาคงไม่ได้ตั้งใจหรอก สัญญาเดี๋ยวฉันกลับไปเขียนใหม่ในตอนเย็นแล้วกัน..."หลินเซินฟังจบก็หอบหายใจหน้าอกกระเพื่อมอย่างรุนแรง"สัญญาฉบับหนึ่งไม่สำคัญ แต่ผมไม่สามารถทนเห็นเขาโตมาอย่างบิดเบี้ยวได้!""สัญญามูลค่าเป็นสิบล้านคิดจะทำลายก็ทำลาย? นี่เพิ่งอายุเท่าไหร่เอง โตขึ้นจะขนาดไหน?"ได้ยินแบบนั้นฉันก็เบิกตากว้างทันที ฉันถลึงตาแรงจนเลือดแทบออก"หลินเซินคุณบ้าไปแล้วเหรอ ลูกจะฉีกสัญญาของคุณทำไม วันนี้คุณยอมเชื่อนังสารเลวนี่มากว่ากว่าลูกชายตัวเองเหรอ?"พอคิดว่าลูกชายไม่อยู่แล้ว ยังต้องถูกเธอใส่ร้ายอีกความโกรธแทบจะแผดเผาสติของฉันจนสิ้นหลังจากหลินเซินได้ยินคําพูดของฉันก็ดึงมือออกจากมือของซูเหยาและตบหน้าฉันอย่างแรงตบนี้ทำให้ฉันตื่นอย่างสิ้นเชิงฉันเพิ่งจะเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าวัยรุ่นคนนั้นตายไปตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้วตบแล้วเขาก็ยังไม่หายโมโหเขาพูดด้วยความโกรธว่า "คุณเสี้ยมให้ลูกเอาเอกสารสัญญาฉบับสมบูรณ์ไปทำลายที
ต่อมาเขาก็ปรากฏตัวในทุกช่วงเวลาที่ฉันต้องการเขาอย่างที่เขาพูดจนกระทั่งบริษัทใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็เริ่มยุ่งขึ้นจนกระทั่งการปรากฏตัวของซูเหยาและแล้วเราก็ทะเลาะกันอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรกเพราะซูเหยาความรู้สึกเป็นทรัพยากรไม่หมุนเวียนหากคนคนหนึ่งทำให้หัวใจมีร้อยร้าวแล้วมันก็ยากที่จะซ่อมแซมได้ปีที่ลูกชายเกิดเป็นช่วงที่บริษัทยากลำบากที่สุดฉันต้องดูแลตัวเองคนเดียวและไปโรงพยาบาลเพื่อรอคลอดคนเดียวแค่โทรศัพท์ไปหาเขาตอนกำลังจะคลอดแต่คนที่รับสายกลับเป็นซูเหยาเสียงผู้หญิงที่อ่อนโยนดังมาเข้าหู"พี่ซิน ประธานหลินคุยธุรกิจอยู่ ยังคุยไม่ได้ ถ้ามีเรื่องเร่งด่วนฉันจะไปบอกเขาให้"ฉันทนความเจ็บปวดจากการหดตัวของมดลูก คําพูดที่ยังไม่ได้พูดออกถูกกลืนกลับเข้าไปเมื่อฉันได้ยินเสียงหอบหายใจของหลินเซินหลังจากวางสาย ในบัตรของฉันมีบันทึกการใช้จ่ายแจ้งเตือนขึ้นมาฝ่ายที่หักเงินคือเครือโรงแรมนั่นเป็นครั้งแรกที่หลินเซินถูกถ่ายรูปตอนไปปรากฏตัวในโรงแรมกับซูเหยาฉันเพิ่งคลอดลูก คู่กรณีใช้รูปแบล็กเมล์ฉันล้านหนึ่งฉันกัดฟันยอมจ่ายให้ไปตอนนี้มาคิดดูแล้วก็พบว่าฉันผิดมาตั้งแต่ต้นนั่นเป็นเพียงแค่ก
ฉันไม่คิดเลยว่าจนถึงตอนนี้แล้วเขายังจะคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของบริษัทผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่เหมือนกับชายหนุ่มวัยรุ่นในความทรงจำอีกต่อไปวินาทีก่อนที่ฉันจะสติแตก ซูเหยาหยิบกล่องของขวัญหรูหราออกมาจากกระเป๋าเอามาวางไว้ข้างหน้าฉัน"พี่ซิน นี่เป็นของขวัญที่เมื่อวานประธานหลินเลือกตั้งใจให้คุณเป็นพิเศษ คุณอย่าโกรธไปเลยนะ เขาก็ทำไปเพื่อครอบครัว"สิ้นเสียงฉันก็มองตามการเคลื่อนไหวของเธอและสังเกตเห็นแหวนที่มือของเธอยี่ห้อเดียวกับกล่องของขวัญความโกรธพุ่งพล่านในใจทันที ฉันหยิบกล่องเล็กๆ ใบนั้นขึ้นมาโยนออกไปไกลเป็นสิบเมตรของที่อยู่ภายในกระเด็นออกมาบนพื้นหลินเซินถูกด้วยเสียงดังทำให้ชะงัก เขามองมาที่ฉันอย่างเหลือเชื่อ"หลิ่วซิน วันนี้เธอเป็นบ้าอะไร ลูกชายพูดอะไรกับเธอกันแน่ คําพูดของเด็กเชื่อได้ที่ไหน แค่เรื่องกระแสในเน็ตมื่อคืนเธอจะหาเรื่องฉันอีกนานแค่ไหน?"ฉันเงยหน้าขึ้นมาดวงตามีแต่ความเย็นชาจนถึงตอนนี้เขายังคิดว่าเป็นแค่เพราะเรื่องกระแสในเน็ตแม้แต่ข่าวการตายของลูกชายก็ไม่สนใจ!"ยังต้องให้ลูกพูดด้วยเหรอ ฉันเองไม่มีตาเหรอ ฉันดูไม่ออกเหรอ หลินเซิน เธอคิดว่าฉันรักเธอแล้วเธอจะหลอกฉันยัง
หลังจากจัดการงานศพของลูกชายเรียบร้อยแล้ว อารมณ์ความรู้สึกและจิตใจที่พังทะลายของฉันก็ได้มอดไหม้เป็นขี้เถ้าไปพร้อมกับศพของลูกชายแล้วจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความหาเพื่อนเก่าหลายคน[ฉันจะหย่าแล้ว ไม่ต้องช่วยหาลูกค้าให้ฉันแล้ว]ไม่คิดเลยว่าชีวิตคู่มา 6 ปี จะมาจบลงด้วยความย่อยยับเช่นนี้ความรักที่เพื่อนนักเรียนต่างคิดว่าต้องไปได้ดี สุดท้ายก็เดินเข้าสู้หลุมศพของการแต่งงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ความรักที่ร้อนแรงของคนสองคนค่อยๆ จางหายไปด้วยเรื่องเล็กๆ ต่างๆ มากมายฉันหาทนายช่วยร่างใบหย่าให้ พอได้แล้วก็ตรงกลับบ้านเลยไม่มีอารมณ์จะจัดการกับกระแสในเน็ตแล้วยังไงต่อไปมันก็ไม่เกี่ยวข้องกับฉันอีกแล้วฉันนั่งรอเขาอยู่ที่โซฟาเป็นเวลาห้าชั่วโมง ในที่สุดหลินเซินก็ถูกซูเหยาพยุงเข้าบ้านมาสายตาที่เดิมทีมึนๆ งงๆ ด้วยความเมา พอเห็นฉันก็ได้สติคืนมาทันทีเขาสะบัดมือซูเหยาออกไป ทำสีหน้าบึ้งตึงและพูดกับฉันว่า "สัญญาที่บอกคุณล่ะ ส่งไปที่ไหน? คุณรู้ไหมว่าลูกชายของคุณทำผมเสียเรื่องตั้งเท่าไหร่?"ฉันไม่รู้หรอกว่ามันทำเขาเสียเรื่องไปเท่าไหร่ฉันเพียงว่าลูกชายฉันถูกรถชนตายหน้าบริษัทเพราะไปเอาสัญญา