Share

เร้นรักหัวใจซาตาน
เร้นรักหัวใจซาตาน
ผู้แต่ง: หงส์ จันรัญจวน แม่พลอยหุง

..บทนำ..

..บทนำ..

“แม่คะ เราไปอยู่ข้างนอกกันไม่ได้เหรอคะหนูบัวไม่อยากอยู่ที่นี่ หนูบัวเกลียดที่นี่ เราไปอยู่ข้างนอกกันนะคะแม่ นะคะๆ” เสียงใสๆ ของเด็กหญิงวัยห้าขวบเอ่ยขึ้นกับมารดาซึ่งเป็นหญิงสาวใบหน้าเรียวหวานดวงตากลมโตงดงามนั้นตอนนี้ดูแห้งผากไร้แววสดใสอย่างที่ควรจะเป็น

“อดทนนิดเดียวนะจ๊ะลูกรัก แค่อีกนิดเดียวเท่านั้น” บุษบา บอกลูกน้อยของเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเสมอมา แม้น้ำเสียงนั้นจะสั่นเครือเพราะกลั้นเสียงสะอื้นในอก และทุกๆ ครั้งที่ “หนูบัว” ถามผู้เป็นมารดา หนูน้อยก็มักจะได้ยินคำๆ นี้เสมอๆ รอ รออะไร.. มารดาของเธอรออะไรหนอ

“หนูบัว” เด็กหญิงตัวเล็กบอบบางราวแก้วใส ใบหน้าน่ารัก ดั่งตุ๊กตากระเบื้องแสนสวย ผิวขาวผ่องอมชมพู ดวงตากลมโตและเรือนผมสีน้ำตาลเข้มงดงาม เงยหน้ามองมารดาที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวยาวตัวเก่าใต้ต้นดอกปีบที่ออกดอกขาวสะพรั่งเต็มต้นซึ่งมีกลีบบางใสร่วงโรยอยู่บนผืนหญ้า กลิ่นหอมระรวยนั้นช่างให้ความรู้สึกอ่อนหวาน และโดดเดี่ยวในเวลาเดียวกัน...

ดวงตากลมโตใสแจ๋วมองไปยังทิศทางที่มารดามองแล้วใจดวงน้อยพลันรู้สึกหดหู่ และไม่เคยอยากเฉียดไปใกล้สถานที่แห่งนั้นเลยแม้สักครั้ง “ตึกจันทร์” สถานที่ที่มารดาเคยบอกว่า คนที่ได้ชื่อว่า “คุณพ่อ” นั้น อาศัยอยู่กับบรรดาภรรยาของท่านอีกสี่คน ซึ่งบรรดาภรรยาของคุณพ่อทั้งสี่คนนั้น นอกจาก แม่ใหญ่ แล้วหนูบัวไม่เคยนึกชอบใครเลยสักคน แล้วยังลูกๆ ของบรรดาภรรยาของคุณพ่อทั้งสามนั้นอีก ที่มักจะชอบกลั่นแกล้ง และรังแกเธอเสมอๆ เธอเกลียดที่นี่ เสียงเล็กๆ ตะโกนกู่ก้องอยู่ในใจ และร่ำๆ อยากจะไปจากที่นี่ทุกวินาทีที่หัวใจดวงน้อยเต้นไหว  

“คุณหนูบัวขา เข้าบ้านเถอะค่ะเย็นแล้ว มากับพี่สาวนะคะ คุณยายรออยู่ค่ะ” พี่สาว สาวใหญ่ร่างท้วมเดินมาจับจูง หนูบัวของเธอเดินไปยังบ้านหลังเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนร่มรื่น สงบเย็น อย่างรู้หน้าที่ เธอรักและดูแลรับใช้สองแม่ลูกนี้นับตั้งแต่มารดาของหนูบัว เข้ามาเป็นภรรยาคนที่ห้าของ นายไพศาล จันทรโสภากุล   

บ้านไม้ชั้นเดียวหลังงาม ปลูกสร้างและทาสีขาวทั้งหลัง และผู้เป็นเจ้าของเรือนก็เป็นหญิงสาวที่คุณไพศาลรักที่สุด เรือนหลังนี้จึงได้ชื่อว่า เรือนบุษบา เรือนไม้หลังงามมีชานเรือนกว้างพอที่เด็กน้อยจะวิ่งเล่นได้นั้นประดับตกแต่งด้วยไม้ดอก ไม้ประดับในกระถางงดงามนั้น มีร่างบอบบางของหญิงชรา ที่คงยังมีเค้าความงามอยู่ไม่น้อย ใบหน้านั้นดูผ่องใสใจดี ขณะนี้ก็ยิ้มเยื้อนรอคุณหนูบัวอยู่

“คุณยายขา..” หนูบัว วิ่งเข้าไปกอดผู้เป็นยายแน่น ใบหน้าเล็กๆ ซุกซบลงกับอกอุ่นๆ ของผู้เป็นยาย

“คุณแม่บุษ ร้องไห้อีกแล้วค่ะ ทำไมคุณแม่ต้องร้องไห้ทุกวันด้วยคะ” หนูน้อยถามผู้ชราด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือด้วยความสงสัย ใบหน้าเล็กๆ เงยขึ้นรอคอยคำตอบ จนผู้เป็นยายนั้นถึงกับนิ่งงัน แม้จะเจอคำถามเช่นนี้แทบทุกวัน นางเองก็ไม่เคยสักครั้งที่จะไม่รู้สึกสะเทือนใจถึงความเศร้าสร้อย และขมขื่นของดวงใจสองดวง

“แม่เขาเหนื่อยน่ะลูก วันนี้งานที่บ้านเราเยอะ เห็นไหม แม่บุษกวนมะม่วงได้ตั้งเยอะ กว่าจะปอกจะกวนไหนจะตาก ตอนเช้าแม่บุษของหนูบัวก็ต้องเอาขนมไปส่งตามร้านอีก แม่บุษเขาก็เหนื่อยน่ะลูก เอาล่ะเย็นแล้ว ไปอาบน้ำแล้วมาทานข้าวกับยายนะลูก หากหนูบัวเป็นเด็กดีแม่บุษจะได้ไม่เหนื่อยรู้ไหมคะคนเก่ง”

“ค่าคุณยาย” เด็กน้อยรับคำและเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับพี่เลี้ยงสาวใหญ่ที่รออยู่ นางเบญมาศ หรือ คุณยายมาศ ของหนูบัว มองไปยังต้นปีบที่ออกดอกพร่างพราวด้วยดวงตาที่โหยแห้ง เมื่อลับหลังหลานสาว นางมองร่างบอบบางแทบปลิวลมของบุตรสาวคนเล็กที่กำลังเดินกลับมายังบ้านหลังน้อยอย่างเชื่องช้าด้วยความเจ็บปวด

“บุษ คุยกับแม่ก่อนสิลูก..” นางเรียกเบาๆ เมื่อร่างบางของบุตรสาวจะเดินเลยเข้าบ้านไป หญิงสาววัยสวยสด หากแต่หม่นหมองนักนั้นหันมามองมารดาด้วยดวงตาที่ค่อนข้างอ่อนล้าและเลื่อนลอย เมื่อเธอเห็นใบหน้าและแววตาของมารดา หญิงสาวก็ปราดมานั่งแทบเท้าเหี่ยวย่น แล้วก้มกราบไปที่เท้าบอบบางนั้นด้วยความรู้สึกที่เป็นบาปยิ่งนัก และเหมือนเธอสัมผัสได้ถึง หยดหยาดน้ำอุ่นๆ ของมารดาหล่นลงบนมือบางของตนที่ยังคงพนมอยู่แทบเท้าของมารดา

“แม่ขา บุษขอโทษ ยกโทษให้ลูกสาวเลวๆ คนนี้นะคะ ได้โปรดอย่าร้องไห้ ฮือๆๆ แม่จ๋า แม่ของบุษ...” หญิงสาวคร่ำครวญและเผยอตัวขึ้นกอดเอวบางของมารดาแน่นร้องไห้ออกมาราวเด็กหญิงตัวเล็กๆ ไม่แตกต่างจากวันวาน คุณยายมาศลูบเรือนผมสลวยของบุตรสาวเบาๆ และกอดร่างบางไว้แน่นเช่นกัน

“รู้แล้วใช่ไหมลูก ว่าเราควรจะต้องทำอย่างไรหากไม่สงสารตัวเองก็สงสารหนูบัวเถิดแม่บุษ”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status