“แดนิช แดนิช ดูสิๆ ๆ หนูบัวได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ ริโอ และไปในช่วงงานเทศกาล คาร์นิวัลด้วย” เสียงร้องบอกอย่างตื่นเต้นดังออกมาจากริมฝีปากอิ่มสวยสีชมพูระเรื่อของสาวน้อยวัยยี่สิบเอ็ดปีนามว่า หนูบัว หรือ บัวบุษรา จันทรโสภากุล สาวน้อยรูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นอรชร ใบหน้ารูปไข่นวลใส ประดับด้วย คิ้วเรียวงามดังวาด ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มระยับพราวยามแย้มยิ้ม จมูกโด่งเล็กนั้นเป็นสันสวย รับกับริมฝีปากอวบอิ่มระเรื่อด้วยวัยสาว ผมสีน้ำตาลเข้มเงางามยาวประบ่านั้นก็ดูอ่อนนุ่มน่าสัมผัส กอปรกันแล้วบัวบุษรานั้น นับว่าเป็นสาวน้อยสวยสดทีเดียว
“แล้วไงจ๊ะหนูบัว ไม่นึกบ้างเหรอว่า นี่มันอาจจะเป็นการหลอกลวงก็ได้ ไอ้ที่หนูบัวส่งฝาเครื่องดื่มยี่ห้อดังไปชิงรางวัลตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ – ริโอ เนี่ยนะ ยายบ๊อง แดนคนหนึ่งล่ะที่ไม่เชื่อว่าบริษัทนี้มันจะแจกจริงอย่างว่า” แดนิช หรือ แดนไทย จงเจริญชัยชนะกุล ชายหนุ่มคนเดียวที่เธอรู้จักไว้ใจและสนิทสนมกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยพูดขึ้นพลางลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานหันมามองใบหน้าสวยใสหาตัวจับยากของสาวน้อยวัยใส และเป็นคนรักของตนอย่างเพ่งพิศราวผู้ใหญ่มองเด็กหญิงวัยสามขวบอย่างไรอย่างนั้น
บัวบุษรามองใบหน้าคมออกแววหวานของเขาด้วยดวงตาเป็นประกายอย่างยังไม่หายตื่นเต้น แดนิช นั้นเป็นบุตรชายคนเล็กทายาทเจ้าของบริษัทส่งออกเสื้อผ้ารายใหญ่ของไทยเลยทีเดียว ชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าปี รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาวจัดอย่างคนที่มีเชื้อสายจีน แม้ดวงตาคมใหญ่สีดำสนิทนั้นจะเหมือนมารดาคนไทยจมูกโด่งเป็นสันสวย รับกับริมฝีปากหยักได้รูป โดยรวมแล้ว แดนิช เป็นชายหนุ่มที่แสนจะหล่อเหลาและเพอร์เฟก และสาวๆ ต่างหมายปอง อยากจะเป็นเจ้าของชายหนุ่มที่มีพร้อมทั้งรูปสมบัติ และทรัพย์สมบัติเช่นเขาหากแต่ ชายหนุ่มคนนี้ เขากลับไม่พิสมัยสตรีเพศ...
“แดนิชน่ะก็คิดมาก ทีชายี่ห้อนั้นยังแจกตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นได้เลยนี่เขาก็แจก ตั๋วไปริโอ มันจะแปลกอะไร” สาวน้อยเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ เธอกับแดนิชสนิทกันมากกว่าคำว่าเพื่อนหรือพี่น้องด้วยซ้ำไปคำเรียกขานจึงเป็นไปในแบบที่เขาและเธอถนัดปากมากกว่าจะเรียกกันด้วยคำนำหน้าว่า พี่ หรือน้องแม้ว่าแดนิช จะอายุมากกว่าเธอถึงสี่ปีก็ตาม
“จะว่าไปมันก็ไม่แปลกหรอกนะ แต่แดนสงสัยว่ามีหนูบัวคนเดียวรึเปล่าที่ส่งไปชิงโชคหรือไม่ก็เหมือนเขาสงวนตั๋วเครื่องบินไว้ให้หนูบัวอย่างนั้นล่ะ คนเป็นพันๆ แต่คนที่ได้ตั๋วเครื่องบินคือหนูบัวเหมือนรู้ว่าหนูบัวอยากไปริโอ มากๆ” ชายหนุ่มกอดอกมองสาวน้อยที่เขาเอ็นดูเธอมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและห่วงใย ใช่เขารักและห่วงใย หนูบัว ของเขามาก
“แหม มันอาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้นี่นา ไม่แน่น้าหนูบัวไปริโอคราวนี้อาจจะได้พบรัก กับหนุ่มบราซิเลี่ยนสุดหล่อ รวย และมาดแมนแอนด์แฮนซั่มก็ได้ อิอิอิ” สาวน้อยปิดปากหัวเราะใบหน้าสดใสแดงปลั่งดูน่ารักราวน้องน้อยในวันวาน
“จ้า คงได้เจอหรอกหนุ่มที่ว่า กลัวจะไปเจอ มาเฟียหรือไม่ก็ขี้ยามากกว่า เพราะรู้ๆ กันอยู่ ริโอน่ะก็ไม่แตกต่างจากในหนังมาเฟียที่ดูๆ กันหรอก”
“คิดมากน่ะแดนิช ว่าแต่แดนิชไปกับหนูบัวนะ นะๆ ๆ บอกไซมอนว่าไปเที่ยวกับหนูบัวแค่อาทิตย์เดียวคงไม่เป็นไร ไซม่อนใจดีจะตาย นะๆ ๆ” สาวน้อยออดอ้อนและกล่าวพาดพิงถึงเพื่อนชายคนสนิทที่แดนิชแอบคบหากันมากว่าสามปี อย่างคุ้นเคยเพราะเธอเองก็สนิทสนมกับ ไซม่อน เกร์แฮม ชายหนุ่มหล่อเชื้อสายอเมริกันเพื่อนชายคนสนิทของแดนิชเช่นกัน
“แดนไม่ได้กลัวว่าไซม่อนจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ แต่แดนว่ามันแปลกๆ ก็เท่านั้นเอง เอาล่ะแดนไม่เถียงกับหนูบัวแล้วถึงเถียงไปก็ไม่เคยชนะ แล้วไงเดินทางวันไหนบอกมา” สุดท้ายเขาก็ต้องยอมทำตามความต้องการของบัวบุษราและเธอก็กรีดร้องดีใจวิ่งวนรอบตัวเขาเหมือนเด็กๆ ได้ของเล่นถูกใจชายหนุ่มได้แต่ระอากับความเซี้ยวของเธอ
“อะไรนะ หนูบัวไหนลองพูดใหม่สิ ว่าเราจะเดินทางไปริโอด้วยสายการบินอะไรนะ” แดนิชถามเสียงหลงเมื่อบัวบุษราบอกเขาเกี่ยวกับการเดินทางที่กำลังจะมาถึงในอาทิตย์หน้า มือเรียวยาวของชายหนุ่มก็ละจากเข็มสักลายที่กำลังลงสีสักลายบริเวณบ่าด้านซ้ายให้แฟนหนุ่มทันที และมันก็ทำให้ไซม่อนหันมามองเธอด้วยเช่นกัน
“ทำไมต้องมองหน้าหนูบัวแบบนั้นด้วยล่ะ..” บัวบุษราซึ่งกำลังนั่งลงสวมรองเท้าที่โซฟาใกล้กันเอ่ยถามหน้าเหลอหลา ขณะเตรียมตัวจะไปเปิดร้านขายขนมหวานกึ่งร้านกาแฟและเครื่องดื่มของตนที่ลงทุนร่วมกันกับแดนิช วันนี้เธอค่อนข้างตื่นสายเพราะเมื่อคืนมัวแต่หาข้อมูลเกี่ยวกับการไปเยือน กรุงริโอฯ เพื่อเตรียมพร้อมในการไปเที่ยวครั้งนี้
“หนูบัวรู้ไหม ว่าสายการบิน มาเวลส์ แอร์ไลน์ น่ะ เป็นสายการบินที่ไฮโซ โอเวอร์ และอลังการงานสร้างมากก มั่กๆ ม้ากกก” แดนิชลากเสียงยาว เพื่อย้ำความอลังการที่มากอย่างที่เขาหมายถึงจริงๆ
“และยังมีค่าตั๋วที่แพงมากราวกับว่าเราซื้อตั๋วเครื่องบินที่ชุบทองคำและฝังเพชรทั้งลำงั้นแหละ ที่สำคัญเจ้าของสายการบินนี้เป็นอดีตมาเฟียตัวร้ายมาก่อน” ไซม่อนเสริมคำพูดของแฟนหนุ่ม
“รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ และนี่แหละคือความฝันของหนูบัวเลยด้วย คิดดูนะ เราได้เดินทางด้วยสายการบินที่ติดอันดับที่ดีที่สุด หรูที่สุด และอลังการงานสร้างที่สุด แดนิชไม่ดีใจเหรอ หนูบัวนี่ดีใจสุดๆ เลยนะ”
บัวบุษรายืนขึ้นพลางก้มดูความเรียบร้อยของชุดที่สวมใส่ วันนี้บัวบุษราสวมกระโปรงยีนสั้นเหนือเข่า และสวมเสื้อยืดสีขาวเพ้นต์ลายการ์ตูนพิ้งค์แพนเตอร์สีชมพูพอดีตัวและสวมรองเท้าส้นสูงสีเหลืองสดเข้ากันกับกระเป๋าใบสวยของตน เธอรวบผมตึงกลางศีรษะทำให้ใบหน้าเธอดูอ่อนเยาว์น่ารักสดใสราวสาวน้อยวัยสิบหกอย่างไรอย่างนั้นแม้จะดูธรรมดา แต่เธอกลับโดดเด่นน่ารัก
ตอนที่2.“ไอว่ามันก็แปลกๆ นะบันนี่” ไซม่อนเอ่ยขึ้นบ้างหลังจากที่เขาฟังเรื่องราวของบัวบุษราหรือที่เขามักเรียกเธอว่า บันนี่ จากปากแดนิชมาก่อนหน้านี้และเขาก็พอจะมีความรู้และข้องเกี่ยวกับงานด้านธุรกิจการบินอยู่บ้าง เพราะครอบครัวของเขาที่อเมริกานั้น พี่ชาย น้องสาว และบิดานั้นก็ทำงานอยู่ในสายการบินที่มีชื่อเสียงของโลก“โธ่ ไซม่อนก็เป็นพวกวิตกจริตตามแดนิชอีกแล้ว ทำไมไม่คิดบ้างว่านี่คือโชคดีของหนูบัว เนี่ยหนูบัวอุตส่าห์กินชาเขียวยี่ห้อนี้มาเป็นปีๆ เพราะอยากไปริโอฯ อยากไปงานคาร์นิวัลและอยากจะไปถ่ายรูปกับพระเยซู Christ of Redeemer แบบว่าเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมเลยนะ ไม่เอาแล้วไม่คุยกับตาแก่สองคนนี้แล้วไปเปิดร้านขายของดีกว่า”ว่าแล้วสาวน้อยหน้าใสก็เดินหน้างอออกไปจากห้องพักของคอนโดสุดหรูที่เธอพักอาศัยอยู่กับแดนิชมาเกือบสามปี ในฐานะ คู่หมั้น ของแดนไทย นับตั้งแต่เธอสูญเสียมารดาและคุณยายผู้แสนดีเมื่อห้าปีก่อนบัวบุษราเดินเรื่อยๆ มาตามทางคอนกรีตใต้ตึกหรูแห่งนี้อย่างสบายใจชมนกชมไม้ไปเรื่อย และนึกชื่นชมเจ้าของศูนย์การค้า และอาคารพาณิชย์แห่งนี้ว่าออกแบบตกแต่งสถานที่ได้อย่างลงตัวและสวยนัก แม้ว่าจังหวัดที่เธอ
ตอนที่3.“ก็ตองสวยเซ็กซี่น่ะสิ นี่ถ้าตองลองไปเทสหน้ากล้องแคสงานอะไรสักอย่าง หนูบัวว่าตองต้องได้เป็นนางแบบแหงๆ แต่เป็นนางแบบเพลย์บอยนะ” บัวบุษราเอ่ยยิ้มๆ ล้อเลียนให้เพื่อนรักสบายใจขึ้น“ขอบใจนะเพื่อนรัก เหมือนจะชมและให้กำลังใจ..” ตวิษาส่งค้อนหน้าง้ำ“ก็ตองน่ะสวยเซ็กซี่โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ผู้ชายก็หลงแล้วไม่รู้ตัวเลยเหรอ ไอ้ใบหน้าแบบนี้เขาเรียกว่าใบหน้าเชื้อเชิญและหุ่นๆ สะบึมๆ อกอึ๋มๆ อกเป็นอก เอวเป็นเอวแบบนี้ก็ยั่วใจซะจนคนมองแทบถอนสายตาไม่ได้ไงล่ะ”“แต่ตองก็ไม่เคยแต่งตัวล่อตะเข้เลยนะตองก็รัดหน้าอกตลอด แล้วอีกอย่าง ตองก็ไม่กล้าที่จะใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยเนื้อตัวขนาดที่ผู้ชายเห็นแล้วต้องวิ่งเข้าใส่เสียหน่อยแค่กระโปรงยีนส์กับเสื้อยืดพอดีตัวธรรมดาเหมือนหนูบัวตองยังไม่กล้าใส่เลยกลัวถูกฉุด” ตวิษาพูดติดตลกเมื่อรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นและมองหน้าบัวบุษราอย่างพินิจพิเคราะห์“อย่างหนูบัวนี่น่าจะเจอบ่อยกว่าตอง ไม่ยักจะเจอ”“เพราะหนูบัวมีแหวนหมั้นเป็นเกราะไง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเจอนะ ก็มีเหมือนกันแต่ก็เหมือนตองแหละ เอาตัวรอดได้ แต่หนูบัวก็ไม่วางใจหรือไว้ใจใครหรอก แดนิชสอนไว้ว่าต้องเอาตัวรอดยังไงและต้อ
ตอนที่4.“จะไปจริงๆ หรือแม่บุษ ไม่คิดทบทวนอีกสักรอบหรือไม่ก็รอให้คุณใหญ่กลับมาก่อนดีไหมค่อยไป” น้ำเสียงนุ่มนวลและเอื้ออาทรพร้อมกับดวงตางดงามอ่อนโยนมองมาที่ทั้งสามแม่ลูกที่นั่งพับเพียบอยู่เบื้องหน้า“คุณแม่ใหญ่” หรือ คุณสายสุนีย์ จันทรโสภากุล ภรรยาหลวงผู้เป็นใหญ่ที่สุดในอาณาจักรจันทรโสภากุลและคุณสายสุนีย์คือผู้เป็นศูนย์รวมอำนาจใน “ตึกจันทร์” แม้จะอายุล่วงเลยมาสี่สิบปีแล้วแต่ใบหน้าสวยหวานของนางนั้นยังคงเค้าความงดงามไม่สร่างซาและนางก็ยังเป็น พี่สาวแท้ๆ ของ คุณสายสนมด้วยตึกจันทร์ ตึกทรงไทยผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบตะวันซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นที่งดงามลงตัวปลูกสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖ จนเมื่อถึงคราวเปลี่ยนแปลงทางการปกครองตึกจันทร์ได้ตกทอดมาเป็นสมบัติของตระกูลจันทรโสภากุล“บุษคิดดีแล้วค่ะคุณท่าน ขอให้บุษไปเถอะนะคะ” บุษบาบอกกล่าวแก่คุณแม่ใหญ่เสียงเจือสะอื้นพลางมองนางอย่างวิงวอนและคุณแม่ใหญ่ก็เพียงแต่พยักหน้าด้วยดวงใจที่ตีบตันไม่แพ้กัน นางรู้ดีว่าเหตุใดภรรยาคนสุดท้องของคุณไพศาลจึงอยากจะไปจากที่นี่ แม้นางจะรู้ถึงความจริงว่าที่มาที่ไปของเรื่องอัปยศที่เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อนนั้นเป็นเช่
..บทนำ..“แม่คะ เราไปอยู่ข้างนอกกันไม่ได้เหรอคะหนูบัวไม่อยากอยู่ที่นี่ หนูบัวเกลียดที่นี่ เราไปอยู่ข้างนอกกันนะคะแม่ นะคะๆ” เสียงใสๆ ของเด็กหญิงวัยห้าขวบเอ่ยขึ้นกับมารดาซึ่งเป็นหญิงสาวใบหน้าเรียวหวานดวงตากลมโตงดงามนั้นตอนนี้ดูแห้งผากไร้แววสดใสอย่างที่ควรจะเป็น“อดทนนิดเดียวนะจ๊ะลูกรัก แค่อีกนิดเดียวเท่านั้น” บุษบา บอกลูกน้อยของเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเสมอมา แม้น้ำเสียงนั้นจะสั่นเครือเพราะกลั้นเสียงสะอื้นในอก และทุกๆ ครั้งที่ “หนูบัว” ถามผู้เป็นมารดา หนูน้อยก็มักจะได้ยินคำๆ นี้เสมอๆ รอ รออะไร.. มารดาของเธอรออะไรหนอ“หนูบัว” เด็กหญิงตัวเล็กบอบบางราวแก้วใส ใบหน้าน่ารัก ดั่งตุ๊กตากระเบื้องแสนสวย ผิวขาวผ่องอมชมพู ดวงตากลมโตและเรือนผมสีน้ำตาลเข้มงดงาม เงยหน้ามองมารดาที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวยาวตัวเก่าใต้ต้นดอกปีบที่ออกดอกขาวสะพรั่งเต็มต้นซึ่งมีกลีบบางใสร่วงโรยอยู่บนผืนหญ้า กลิ่นหอมระรวยนั้นช่างให้ความรู้สึกอ่อนหวาน และโดดเดี่ยวในเวลาเดียวกัน...ดวงตากลมโตใสแจ๋วมองไปยังทิศทางที่มารดามองแล้วใจดวงน้อยพลันรู้สึกหดหู่ และไม่เคยอยากเฉียดไปใกล้สถานที่แห่งนั้นเลยแม้สักครั้ง “ตึกจันทร์” สถานที่ที่มา