“ก็ตองสวยเซ็กซี่น่ะสิ นี่ถ้าตองลองไปเทสหน้ากล้องแคสงานอะไรสักอย่าง หนูบัวว่าตองต้องได้เป็นนางแบบแหงๆ แต่เป็นนางแบบเพลย์บอยนะ” บัวบุษราเอ่ยยิ้มๆ ล้อเลียนให้เพื่อนรักสบายใจขึ้น
“ขอบใจนะเพื่อนรัก เหมือนจะชมและให้กำลังใจ..” ตวิษาส่งค้อนหน้าง้ำ
“ก็ตองน่ะสวยเซ็กซี่โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ผู้ชายก็หลงแล้วไม่รู้ตัวเลยเหรอ ไอ้ใบหน้าแบบนี้เขาเรียกว่าใบหน้าเชื้อเชิญและหุ่นๆ สะบึมๆ อกอึ๋มๆ อกเป็นอก เอวเป็นเอวแบบนี้ก็ยั่วใจซะจนคนมองแทบถอนสายตาไม่ได้ไงล่ะ”
“แต่ตองก็ไม่เคยแต่งตัวล่อตะเข้เลยนะตองก็รัดหน้าอกตลอด แล้วอีกอย่าง ตองก็ไม่กล้าที่จะใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยเนื้อตัวขนาดที่ผู้ชายเห็นแล้วต้องวิ่งเข้าใส่เสียหน่อยแค่กระโปรงยีนส์กับเสื้อยืดพอดีตัวธรรมดาเหมือนหนูบัวตองยังไม่กล้าใส่เลยกลัวถูกฉุด” ตวิษาพูดติดตลกเมื่อรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นและมองหน้าบัวบุษราอย่างพินิจพิเคราะห์
“อย่างหนูบัวนี่น่าจะเจอบ่อยกว่าตอง ไม่ยักจะเจอ”
“เพราะหนูบัวมีแหวนหมั้นเป็นเกราะไง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเจอนะ ก็มีเหมือนกันแต่ก็เหมือนตองแหละ เอาตัวรอดได้ แต่หนูบัวก็ไม่วางใจหรือไว้ใจใครหรอก แดนิชสอนไว้ว่าต้องเอาตัวรอดยังไงและต้องหนักแน่นเข้มแข็งแค่ไหน ตองยังมีครอบครัวที่อบอุ่นแต่หนูบัวไม่มีใครเลยนอกจากแดนิช” บัวบุษราเอ่ยแผ่วเบาในตอนท้าย ใบหน้าขาวนวลดูหม่นลงจน ตวิษาใจเสียและคิดว่าตนเองทำให้เพื่อนไม่สบายใจ
“หนูบัวตองขอโทษ ตองไม่ได้ตั้งใจจะให้หนูบัวรู้สึกเศร้านะ”
“ไม่เป็นไร ตอนนี้หนูบัวไม่ใช่คนอ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”
บัวบุษรายิ้มให้เพื่อนรักก่อนจะช่วยกันทำขนมให้แล้วเสร็จและชักชวนตวิษาไปพักด้วยชั่วคราว ส่วนแดนิชนั้นก็ดีใจที่ตวิษามาพักด้วย เพราะเขาเองอยู่กันสองคนกับบัวบุษราในห้องชุดสุดหรูก็เงียบเหงาเช่นกัน การมีเพื่อนเพิ่มขึ้นก็ดีไปอีกแบบ และที่สำคัญเขาก็ชอบพออัธยาศัยของตวิษาไม่น้อย...
“คุณแม่ขา เราจะไปอยู่ข้างนอกกันจริงๆ ใช่ไหมค้า เย้ๆ ๆ หนูบัวดีใจจังเลย..” หนูบัววิ่งวนรอบกายมารดาอย่างดีใจจนออกนอกหน้าในขณะที่ทั้งสามกำลังเตรียมเก็บข้าวของที่จะนำติดตัวไปแค่เพียงไม่กี่ชิ้นนั้นลงกระเป๋า...
“แหม ดีใจใหญ่เลยเหรอหนูบัว” คุณยายมาศขยี้ผมนุ่มของหลานน้อยอย่างเอ็นดู
สามชีวิตจัดเรียงข้าวของใส่กระเป๋าล้อลากใบใหญ่ และเก็บของเก่าบางชิ้นที่เป็นของคุณยายใส่ในหีบไม้ใบเก่าคร่ำคร่าซึ่งคุณยายใช้เก็บข้าวของสำคัญๆ และกระเป๋าใบเป้ใหญ่ของหนูบัวที่อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าและของเล่นที่หนูน้อยเองก็หยิบใส่กระเป๋าไปเพียงชิ้นที่ตนรักเท่านั้น เพราะคุณแม่ของเธอบอกว่า
“เราอาจจะได้อยู่ห้องเช่าเล็กๆ และอาจจะไม่มีที่สำหรับเก็บของเล่นของหนูบัว”
“นี่พวกแกแม่ลูกตัวเสนียดกำลังจะขนข้าวของ ของบ้านฉันไปไหน” เสียง คุณสายสนม ภรรยาคนที่สองของคุณไพศาลซึ่งเป็นยังคงดูงดงามสวยสดแม้วัยเฉียดใกล้สี่สิบ ดวงตากร้าวจิกมองทั้งสามแม่ลูกอย่างหยามหยัน ริมฝีปากเคลือบสีแดงสดบิดเบ้จนน่ากลัวว่ากล้ามเนื้อบนใบหน้าจะเป็นอัมพาต
“เอ่อ.. คือบุษกับลูก และคุณแม่จะขอย้ายออกไปอยู่ข้างนอกค่ะคุณสอง” บุษบาเอ่ยอย่างนอบน้อมร่างกายบอบบางสั่นระริกหวาดกลัวผู้หญิงตรงหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“ก็ดีรู้จักเจียมเนื้อเจียมตนเอาลูกชู้ออกไปอยู่ให้ห่างหูห่างตาคุณพี่ก็ดี” คำว่าลูกชู้ที่ออกมาจากปากสีสดนั้น หนูบัวไม่ค่อยเข้าใจนักว่ามันหมายความว่าอย่างไรแต่เธอรับรู้ได้ถึงความเกลียดชังของ คุณสอง ที่มีต่อเธอกับแม่ และรับรู้ได้ถึงความเสียใจของมารดาเพราะตอนนี้ แม่บุษของเธอกำลังน้ำตาอาบแก้ม
“บุษ เรารีบเก็บของเถอะลูก” เสียงแผ่วๆ ของคุณยายมาศดังขึ้นร่างผอมบางกำลังพับผ้าใส่หีบนั้นดูสงบนิ่ง จนผู้มาใหม่ที่ตั้งใจมาระรานก็นึกเกรงเพราะรู้ดีว่าคุณยายมาศนั้นเป็นที่เคารพรักของ “คุณแม่ใหญ่” ผู้เป็นเอกและมีอำนาจเหนือใครในบ้านจันทรโสภากุลเพียงไร
“คุณแม่คะ มันอาจจะเอาสมบัติของคุณพ่อติดไม้ติดมือไปก็ได้นะคะดูสิหีบใบเบ้อเร่อ นังลูกชู้นั่นลูกจันเคยเห็นคุณแม่ใหญ่ให้ของมันบ่อยๆ” เสียงแหลมปรี๊ดของเด็กสาววัยสิบสองนามว่า สิริจันทร์ กระซิบกระซาบกับผู้เป็นมารดาด้วยความริษยาเด็กน้อยที่นั่งกอดตุ๊กตาหมีน่ารักมองเธอด้วยแววตาหวาดหวั่น ระคนเกลียดชังอย่างที่เด็กๆ มักแสดงออกมาอย่างเปิดเผยยิ่งทำให้สองแม่ลูกแทบเต้นเร่าด้วยไฟริษยา แม้ว่ามารหัวใจอย่างบุษบาและลูกสาวกำลังจะกระเด็นออกไปจากบ้านหลังนี้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไพศาลจะกลับมาสนใจไยดีเธอกับบุตรสาวอย่างที่เธอคาดหวังไว้เพราะเธอรู้ดีว่าเพราะอะไร
คุณไพศาลมีภรรยาถึงห้าคน และมีบุตรชายหญิงทั้งหมดรวมทั้งหนูบัวด้วยก็เจ็ดคน แต่บรรดาภรรยาทั้งห้าของคุณไพศาลนั้น มีเพียงภรรยาสี่คนเท่านั้นที่มีลูกกับคุณไพศาล ส่วนภรรยาหลวงหรือคุณแม่ใหญ่นั้นไม่มีลูกกับคุณไพศาล และในจำนวนภรรยาทั้งห้าคนนั้น คุณไพศาลนั้นรักและเทิดทูนคุณแม่ใหญ่มากกว่าใครแต่คนที่คุณไพศาลรักสุดใจนั้นก็คือบุษบา ภรรยาคนที่ห้าซึ่งอายุห่างกันเกือบยี่สิบปี เมื่อนึกถึงความจริงข้อนี้ทีไร คุณสายสนมมักจะทนไม่ได้ ดวงใจที่ร้อนด้วยเพลิงริษยานั้นก็ลุกโชนทุกครั้งไป...
“คุณแม่คะ ทำไมเงียบไปล่ะคะ” เด็กสาวถามมารดาเสียงขุ่นขณะเดินกลับเรือนของตน
“แม่กำลังคิดลูกว่าจะจัดการมันให้เด็ดขาดยังไงดี” คุณสายสนมบอกบุตรสาวแล้วมองไปยังบ้านหลังน้อยด้วยแววตาที่กร้าวและเยียบเย็น
ตอนที่4.“จะไปจริงๆ หรือแม่บุษ ไม่คิดทบทวนอีกสักรอบหรือไม่ก็รอให้คุณใหญ่กลับมาก่อนดีไหมค่อยไป” น้ำเสียงนุ่มนวลและเอื้ออาทรพร้อมกับดวงตางดงามอ่อนโยนมองมาที่ทั้งสามแม่ลูกที่นั่งพับเพียบอยู่เบื้องหน้า“คุณแม่ใหญ่” หรือ คุณสายสุนีย์ จันทรโสภากุล ภรรยาหลวงผู้เป็นใหญ่ที่สุดในอาณาจักรจันทรโสภากุลและคุณสายสุนีย์คือผู้เป็นศูนย์รวมอำนาจใน “ตึกจันทร์” แม้จะอายุล่วงเลยมาสี่สิบปีแล้วแต่ใบหน้าสวยหวานของนางนั้นยังคงเค้าความงดงามไม่สร่างซาและนางก็ยังเป็น พี่สาวแท้ๆ ของ คุณสายสนมด้วยตึกจันทร์ ตึกทรงไทยผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบตะวันซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นที่งดงามลงตัวปลูกสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖ จนเมื่อถึงคราวเปลี่ยนแปลงทางการปกครองตึกจันทร์ได้ตกทอดมาเป็นสมบัติของตระกูลจันทรโสภากุล“บุษคิดดีแล้วค่ะคุณท่าน ขอให้บุษไปเถอะนะคะ” บุษบาบอกกล่าวแก่คุณแม่ใหญ่เสียงเจือสะอื้นพลางมองนางอย่างวิงวอนและคุณแม่ใหญ่ก็เพียงแต่พยักหน้าด้วยดวงใจที่ตีบตันไม่แพ้กัน นางรู้ดีว่าเหตุใดภรรยาคนสุดท้องของคุณไพศาลจึงอยากจะไปจากที่นี่ แม้นางจะรู้ถึงความจริงว่าที่มาที่ไปของเรื่องอัปยศที่เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อนนั้นเป็นเช่
ตอนที่5.“นี่พวกเธอกำลังจะทำอะไร หยุดนะ นั่นมันหีบของคุณแม่ฉัน หยุดนะ อย่าแตะต้องมัน” บุษบาที่หายตกตะลึงร้องเสียงหลงและเข้าไปปัดมือของสองสาวรับใช้ที่กำลังใช้ของแข็งงัดกุญแจที่ลงสลักไว้อย่างดีของหีบใบเก่าคร่ำคร่านั้น ด้วยความหวงแหนและเจ็บช้ำที่สมบัติเก่าแก่ของมารดากำลังจะถูกย่ำยี ในขณะที่คุณยายมาศนั่งกอดหลานสาวตัวน้อยแน่นมองดูการกระทำของหญิงทั้งสามด้วยความเจ็บช้ำ ดวงใจที่ชราอ่อนล้าเต็มกำลัง...“หยุดเดี๋ยวนี้นะ น้อย นวล” เสียงทรงอำนาจของผู้เป็นใหญ่แห่งตึกจันทร์เอ่ยขึ้นหนักแน่น พร้อมร่างบอบบางของ คุณแม่ใหญ่ลุกขึ้นจากที่นั่งเดินตัวตรงงามสง่ามาที่หญิงทั้งสามซึ่งกำลังยื้อยุดกันอยู่ น้อยกับนวล บ่าวผู้ภักดีของคุณสายสนมรีบปล่อยมือจากหีบในนั้นและปรี่ไปหลบอยู่หลังนายของตนทันที ส่วนบุษบานั้นกอดหีบใบเก่าแน่นพลางกระถดกายหนีห่างจากคนใจร้ายมานั่งร้องไห้อยู่เคียงข้างมารดาแล้วกอดหนูบัวที่ผละจากอกของผู้เป็นยายมากอดมารดาแน่นเช่นกันคุณสายสนมมองดูสามแม่ลูกที่นั่งกอดกันร้องไห้ด้วยใจริษยา แล้วหันมาต่อตากับผู้เป็นพี่สาว ใบหน้างดงามที่ถูกแต่งแต้มอย่างประณีตนั้นเชิดขึ้นอย่างถือดี“พี่หนึ่งเข้าข้างมัน พี่หนึ่งร
ตอนที่6.“เรียบร้อยครับ เธอจะเดินทางมาริโอ ในอีกสามวันนี้” เสียงรายงานจากปากของเลขาส่วนตัวทำให้ชายหนุ่มพยักหน้าน้อยๆ อย่างพอใจ และหันกลับไปมองเวิ้งอ่าวที่งดงามและคลาคล่ำด้วยผู้คนด้วยแววตาที่วับวาว กับแผนในใจที่เขาเตรียมไว้เพื่อใครบางคน“อีกไม่นาน เราก็จะได้เจอกันแล้ว แม่ผีเสื้อแสนสวยของฉัน...” แล้วความคำนึงของเขาก็หวนไปเมื่อหลายเดือนก่อนที่เขาพบเธอ ที่เมืองไทย“ว้าย ขอโทษค่ะ” เสียงใสๆ ของสาวน้อยดังขึ้นอย่างตกใจเมื่อเธอถอยหลังเดินมาชนกับร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินอยู่บนชายหาดของเกาะแสนสวยแห่งท้องทะเลไทยฝั่งภาคตะวันออกที่ไม่แพ้ที่ใดในโลกเช่นเกาะหมาก ที่ในช่วงนี้ค่อนข้างเงียบสงบแม้ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวแต่ก็มีนักท่องเที่ยวพอสมควร“ไม่เป็นไรครับคุณเป็นอะไรรึมากเปล่า” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นเหนือศีรษะเล็กๆ ที่ปกคลุมด้วยเรือนผมสีน้ำตาลเข้มยาวสลวยประบ่าบอบบาง“เอ่อ มะ ไม่เป็นไรค่ะ” สาวน้อยรูปร่างอ้อนแอ้นอรชรเอ่ยติดๆ ขัดๆ เพราะหัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำเมื่อมองเห็นใบหน้าและรูปร่างของคนที่ยื่นมือมาเพื่อช่วยดึงเธอลุกขึ้นจากผืนทรายนุ่มที่เธอล้มกองลงไปต่อหน้าเขาชัดเจน แล
ตอนที่7.“เย็นนี้ทางรีสอร์ตเขาจัดปาร์ตี้รอบกองไฟ แดนิชเราไปร่วมงานกันนะ เขาให้แต่งตัวเป็นหนุ่มสาวชาวเกาะด้วย หนูบัวมีชุดพอดีเลย บิกีนี่สีสดๆ และผ้าบาติกแสนสวย” เสียงใสๆ ของบัวบุษรา เจื้อยแจ้วพลางหยิบชุดบิกินี่ที่ตนนำมาด้วย ทาบกับร่างบอบบางของตนหมุนซ้ายหมุนขวาอวดชายหนุ่มที่มองมาด้วยสายตาที่เอ็นดู“แดนก็เห็นหนูบัวตื่นเต้นกับทุกๆ อย่างนั่นแหละ”“ก็หนูบัวเป็นคนสวยไง เลยนิสัยดีและน่ารัก มองโลกในแง่ดี” สาวน้อยตอบเสียงใสยิ้มพราว“มันเกี่ยวกันตรงไหนน่ะหนูบัว” แดนิชเอ่ยยิ้มๆ พลางโยกศีรษะเล็กๆ นั้น อย่างเอ็นดู ดวงตาคมหวานเป็นประกาย“เกี่ยวสิ เพราะคนที่ทำให้หนูบัวเป็นคนสวยน่ารักนิสัยดี มองโลกในแง่ดี นอกจากคุณยายและแม่บุษแล้วก็คือแดนิชสุดที่รักของหนูบัว” สาวน้อยพูดประจบพลางซบแก้มนวลกับอกแกร่งของชายหนุ่มด้วยความรัก“ยายเด็กขี้ประจบ”“ก็เพราะหนูบัวกลัวแดนิชไม่รักหรอกน่า ก็เลยต้องประจบออดอ้อนกันหน่อย” สาวน้อยบอกเสียงใสก่อนจะเร้นกายเข้าห้องน้ำและเปลี่ยนชุดทันทีด้วยความตื่นเต้นชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ กับความน่ารักน่าเอ็นดูของเธองานปาร์ตี้ที่ทางรีสอร์ตหรูจัดขึ้นในค่ำวันนั้น แม้ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้เ
ตอนที่8.“ทำไมเดินมาคนเดียวแบบนี้” ภาษาอังกฤษชัดแจ๋วดังออกมาจากริมฝีปากหยักได้รูป แต่น้ำเสียงนั้นฟังดูหงุดหงิด และเขาก็มองเธอด้วยแววตาขุ่นนิดๆ ซึ่งเธอเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ว่าเขาไม่พอใจเธอหรือเพราะอะไรเขาจึงทำหน้าแบบนั้น ราวกับเธอคือเด็กตัวเล็กๆ ที่ทำผิดมหันต์หรืออีกความรู้สึกคือเหมือนเขาหึงหวงเธอแต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน บัวบุษราคิดในใจ“เอ่อ คือ ฉัน..” บัวบุษราติดอ่างขึ้นมาทันทีด้วยความประหม่าเมื่อแอบสำรวจคนตัวโตตรงหน้า และดูเหมือนเขาจะตัวโตกว่าเธอมากมายเหลือเกิน และทั้งร่างแกร่งนั้นก็สวมเพียงกางเกงลายดอกสีสดใสเพียงตัวเดียว และยืนใกล้ชิดกับเธอมากเพียงใด จนเธอรับรู้และสัมผัสได้ถึงกลิ่นบุรุษเพศซึ่งทำให้ใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำและมองเห็นผิวสีทองแดงงดงามของเขาได้ชัดเจนเขามีสีผิวที่สวยเหลือเกิน มันดูอบอุ่นและเหมือนจะนุ่มมือแม้ว่าร่างแกร่งนั้นจะเต็มไปด้วยมัดกล้ามตายแล้วบัวบุษรา ทำไมเธอถึงคิดอะไรที่แสนวาบหวิวเช่นนี้ เธอดุตนเองหน้าตื่นพลางก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นคนตรงหน้าก้าวประชิดร่างบางของตนและเมื่อไม่ทันระวังตัวร่างบางก็สะดุดขาตนเองจนเสียหลัก“กรี๊ดดด...” บัวบุษราหวีดร้องเสียง
ตอนที่9.“ท่านประธานคะ คุณเมอรีอามาขอพบค่ะ” เสียงหวานๆ ของเลขาหน้าห้องดังขึ้นเมื่อเอาแฟ้มเอกสารเข้ามาให้ชายหนุ่มเซ็นตามปกติ เสียงของเธอดึงให้มาร์คัสกลับมาสนใจงานตรงหน้าอีกครั้ง นายหนุ่มตวัดสายตามองเพียงนิดแล้วเอ่ยน้ำเสียงเย็นชา“บอกไปว่าฉันไม่พบใคร และไม่รับแขกตลอดสัปดาห์นี้” ชายหนุ่มพูดแค่นั้นแล้วก้มลงสนใจเอกสารตรงหน้า แล้วแม่เลขาทรงโตก็เดินยิ้มกริ่มออกไป“ขอโทษนะคะคุณเมอรีอา มัลดินี่ ตอนนี้ท่านประธานยุ่งม้ากมาก และไม่รับแขกไม่ว่าหน้าไหนทั้งนั้น” เลขาคนสวยบอกสาวสวยนามว่า เมอรีอา มัลดีนี่ นางแบบไฮโซคน เคย ดัง ด้วยรอยยิ้มเหยียดๆ“ไม่จริง ฉันไม่เชื่อหากมาร์รู้ว่าฉันมาหาเขาก็ต้องดีใจและให้เข้าพบเว้นแต่ว่าเธอไม่บอกว่าฉันมา” เมอรีอาเพื่อนสาวคนสนิทของมาร์คัสผู้มีรูปร่างระเหิดระหงใบหน้าสวยเฉี่ยวนั้นเชิดขึ้นอย่างไว้ตัว“ข้อนี้ดิฉันก็มิอาจทราบได้นะคะ เพราะเมื่อกี้ท่านประธานท่านบอกแบบนั้นจริงๆ ทั้งๆ ที่ฉันย้ำแล้ว ย้ำอีกว่า คุณ เมอ รี อา มา ขอ พบ” เลขาคนสวยกล่าวย้ำอย่างประชดเล็กๆ ใบหน้าสวยฉายแววสะใจลึกๆ ที่เห็นใบหน้าสวยเจื่อนไป“อุ้ย มีงานค้างหลายงานเลยดิฉันขอตัวก่อน นะคะ คุณ เมอ รี อา อ้อๆ ๆ แล
ตอนที่10.“พอแล้วๆ ๆ ไม่ต้องตื่นเต้นมากขนาดนั้นก็ได้ ดูสิคนมองกันใหญ่แล้ว แล้วนี่เราจะไปโรงแรมกันยังไง” ตวิษาถามขึ้นมาทำให้คนที่วิ่งวนรอบๆ ร่างอวบอิ่มนั้นหยุดหอบเล็กน้อยก่อนจะตอบเสียงใส“เดี๋ยวจะมีรถมารับเรา แต่เอ.. รอมาสักพักแล้วไม่เห็นมาหรือว่าเขาลืมนะ” บัวบุษราเอ่ยอย่างกังวลนิดๆ แก้มนวลใสแดงปลั่งจากการวิ่งเมื่อครู่“แต่ไม่ต้องห่วงเพราะแดนิชติดต่อประสานเรื่องการเดินทางและที่พักสำรองไว้ให้ หากมีอะไรผิดพลาด เพื่อนของแดนิชจะคอยช่วยเหลือเรา เพื่อนของแดนิชเป็นสาวๆ ในคณะแซมบ้าที่มีชื่อเสียงของที่นี่และจะเข้าแข่งขันในงานคาร์นิวัลปีนี้ด้วยนะ” บัวบุษราเล่าอย่างตื่นเต้น“แล้วไง”“อ้าว ก็เราจะได้เข้าไปดูเขาแต่งตัวและซ้อมเต้นด้วยน่ะสิ นี่ไงที่อยู่และเบอร์โทรของ คริสติน เมาโรนี่ เพื่อนของแดนิช หากมีอะไรผิดพลาดโทรหาเขาได้เลย ไม่ต้องห่วงน่าหนูบัวเตรียมตัวมาดี”“จ้า.. แม่คนเจ้าวางแผน เอาเป็นว่าตอนนี้ใครจะมารับเราไปที่พัก” ตวิษาถามขึ้นเมื่อรู้สึกเหมือนว่าพวกเธอถูกมองอย่างสนใจจากผู้คนในบริเวณนี้มากเกินไปจะไม่ให้ใครๆ สนใจพวกเธอได้อย่างไร ในเมื่อมีสาวน้อยแสนสวยจากเอเชียสองคนซึ่งมีความงดงามไม่แพ้กันแต่
ตอนที่11.“ก็แล้วแต่เธอนะ แต่พี่ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าทรัพย์สินในส่วนของเธอมันติดลบและพี่ก็คงให้เธอเบิกอีกไม่ได้”“พี่หนึ่ง พี่หนึ่งทำแบบนี้กับสองไม่ได้นะคะ”“พี่จะขึ้นไปพักผ่อนแล้ว ถ้าเธอเดือดร้อนจริงๆ เครื่องเพชรที่เธอมีอยู่กับตัวก็ขายมันเอาเงินมาใช้ก่อนก็แล้วกัน” คุณสายสุนีย์พูดอย่างไม่ยี่หระ นางรู้สึกระอาและเหนื่อยหน่ายกับนิสัยที่ไม่เคยเปลี่ยนของผู้เป็นน้องสาว“คุณพี่ลำเอียง คุณใหญ่ก็เหมือนกัน พี่หนึ่งกับคุณใหญ่รวมหัวกันกันสมบัติไว้ให้นังลูกชู้นั่น ทั้งๆ ที่มันควรเป็นของลูกจัน กับสอง” คุณสายสนมเอ่ยออกมาอย่างกราดเกรี้ยว ใบหน้าที่ยังคงสวยงามอยู่แดงก่ำบิดเบ้“เรื่องจริง ความจริงมันเป็นอย่างไรเราต่างก็รู้กันอยู่นะสอง อีกอย่างพี่กับคุณใหญ่ก็ทำในสิ่งที่สมควรคุณใหญ่แบ่งสมบัติและให้ลูกๆ ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน อีกอย่างหนูบัวก็ยังคงเป็น จันทรโสภาสกุล อยู่เธอมีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติทุกอย่างของคุณใหญ่แม้แต่ตึกจันทร์หนูบัวก็อาจจะได้เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว” คุณสายสุนีย์พูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งแววตาที่มองมายังผู้เป็นน้องสาวเฉยชาจนผู้เป็นน้องรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่พี่สาวไม่เคยมองเธอด้วยแววตาที่อบอุ
ตอนที่ 92. จบบริบูรณ์“ชู่ววว... เดี๋ยวก็หายครับคนดี อยู่นิ่งๆ นะครับ อา มะลิ อยู่นิ่งๆ เด็กดื้อ..” ชายหนุ่มทั้งปลอบคนใต้ร่างและพยายามไม่ขยับกายรุนแรงแต่เหมือนว่าสาวเจ้าไม่ยอมให้ความร่วมมือ ยังคงขยับอยู่ใต้ร่างและเมื่อเขาเห็นว่าสะโพกงามเสียดส่ายอย่างเงอะงะ ลูคัสก็ตัดสินใจขยับสะโพกแกร่งช้าๆ และในไม่ช้าหนุ่มสาวก็โหมแรงเข้าหากันอย่างเร่าร้อนอย่างไม่มีใครยอมใครเสียงครางกระเส่าและเสียงกายหนุ่มสาวกระทบกันดังคละเคล้ากันดังก้องไปทั้งห้องหออันแสนหวานและเร่าร้อน... และลูคัสก็ทำตามที่ตั้งใจไว้โดยไม่มีขาดตกบอกพร่อง สามวันสามคืนคู่บ่าวสาวไม่ได้ก้าวออกจากห้องหออันเร่าร้อนเลยแม้แต่นิดเดียวและทุกอย่างก็ถูกบริการอย่างพร้อมสรรพโดยไม่มีขาดตกบกพร่องจากสาวใช้นามมีอาที่แสนจะเต็มอกเต็มใจให้บ่าวสาวอยู่ด้วยกันในห้อง และทุกคนต่างก็หวังว่าจะได้รับข่าวดีเร็วๆ นี้ คุณสาลินีตั้งตารอเลี้ยงหลานตัวน้อยด้วยใจเป็นสุข...ลูคัสยิ้มแก้มแทบแตกเมื่อได้เป็นเจ้าบ่าวอย่างเต็มภาคภูมิทั้งภูมิใจที่ได้เป็นชายคนแรกของหญิงที่รัก แม้สาวเจ้าจะไม่ค่อยอยากจะให้เขารักสักเท่าไหร่ เพราะแม้จะเป็นสาวมาดมั่นเด็ดขาดแค่ไหน มะลิยังคงไร้เดียงสา
ตอนที่ 91. ตอนพิเศษ 10.แล้วงานแต่งงานอันยิ่งใหญ่และแอบมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นมาแทรกแซงก็ผ่านไป แม้ในที่สุดทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีแต่เจ้าบ่าวสุดหล่อนั้นไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เจ้าสาวแสนสวยแม้แต่น้อย แต่เพราะมีชนักปักหลัง เจ้าบ่าวที่อยากเข้าหอแทบขาดใจจำต้องอดทนเอาไว้“เรื่องที่ให้ไปจัดการเรียบร้อยดีไหม”“เรียบร้อยครับ พวกนั้นถูกส่งตัวไปที่เหมืองเพื่อดัดสันดาน ส่วนลิลลี่ถูกส่งตัวกลับบ้านและให้คนคอยเฝ้าดูเธออย่างใกล้ชิด นายหญิงให้เงินเธอไปตั้งตัวด้วย และบอกว่าหากลิลลี่ทำแท้ง นายหญิงจะฆ่าลิลลี่ให้ตายคามือ หากลิลลี่คลอดแล้วไม่อยากเลี้ยงเด็กคนนั้น ก็ให้เอามาให้นายหญิง นายหญิงบอกจะเลี้ยงเองครับ” แฮรี่รายงาน“แล้วลิลลี่ว่าไง”“ก็ยอมรับข้อเสนอว่าจะไม่ทำแท้ง หลังคลอดแล้วเธอจะเอาลูกมาให้นายหญิงเลี้ยงครับ”“เฮ้อ.. ฉันไม่รู้จะพูดจะทำยังไงเลย ไม่เคยเจอผู้หญิงแบบมะลิมาก่อน..” ลูคัสสารภาพอย่างหมดเปลือกกับคนสนิท“นายหญิงเธอใจดี เป็นคนดีน่ารักครับและทุกคนก็รักเธอ แต่บทจะใจร้ายขึ้นมาใครก็เอาไม่อยู่ เจ้านายต้องระวังอย่าทำให้นายหญิงใจร้ายนะครับ ผมยังอยากเลี้ยงคุณหนูอยู่” แฮรี่เรียกมะลิว่า นายหญิง เต็มปากเ
ตอนที่ 90. ตอนพิเศษ9.จนเมื่อลูคัสไปเมืองไทยและกลับมาพร้อมกับมะลิ และประกาศแต่งงานกับสาวนิรนามที่จู่ๆ ได้เป็นคุณหนูตระกูลดังสร้างความไม่พอใจให้เธอเป็นอย่างมาก และเมื่อสบโอกาสเธอก็แอบมาพบกับมะลิในค่ำคืนนี้เพื่อบอกว่าตนเป็นเมียของลูคัสและกำลังท้องอยู่ มะลิไม่เชื่อและเกิดมีปากเสียงกัน ด้วยทุกครั้งลิลลี่มักชนะหญิงสาวที่มาติดพันลูคัสเสมอ ครั้งนี้เธอประเมินท่าทีของมะลิซึ่งอยู่ในชุดเจ้าสาวแสนสวยแบบกระโปรงสั้นน่ารักน่าถนอมและคิดว่ามะลิซึ่งดูท่าทางอ่อนเยาว์กว่า ไม่มีทางสู้รบปรบมือกับตนได้ ลิลลี่จะเข้ามาทำร้ายมะลิ แต่มีอาเข้ามาขวางและจัดการตบลิลลี่คืนเสียสะบักสะบอมโดยที่มะลิได้แต่นั่งดูเฉยๆ ก่อนจะเรียกชาลีเข้ามาจัดการต่อและพอดีกับที่ลูคัสเข้ามา...“ปล่อยนะลิลลี่เธอจะทำเกินไปแล้วนะ อย่าให้ฉันต้องจัดการกับเธอขั้นเด็ดขาดนะ” ลูคัสตวาดหญิงสาวสวยที่แทบไม่เหลือเค้าความงามในตอนนี้“ทำไม พวกคุณจะทำไมฉัน คอยดูนะฉันจะบอกนักข่าวให้แฉพวกคุณว่ารุมทำร้ายฉัน คนมีเงินนึกจะทำอะไรก็ได้รึไง แล้วแกนังมาลีนแกจะต้องชดใช้ที่บังอาจมาแย่งผัวฉัน แย่งพ่อของลูกฉัน แกพรากลูกพรากพ่อเขาหน้าไม่อาย”“ในเมื่อเธอพูดถึงเรื่องรุมทำ
ตอนที่ 89. ตอนพิเศษ 8.“พี่จะกลับแล้วนะ” ลูคัสบอกสาวสวยที่กำลังวาดรูปอยู่และเธอดูเหมือนจะไม่สนใจเขานัก“ก็กลับไปสิคะ ใครเขารั้งไว้”“ก็น้องมาลีนนั่นล่ะ..” คราวนี้ใบหน้าสวยหันขวับมามองตาเขียว“หาความ มะลิไม่เคยทำอย่างนั้น”“ทำสิ เพราะใจของมะลิเป็นของพี่ ถ้ามะลิไม่ไปกับพี่แล้วพี่จะกลับยังไง เพราะตัวกับหัวใจต้องอยู่ด้วยกัน” เจอมุกนี้เข้าไปมะลิถึงกับพูดไม่ออก เขาพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไรกัน...“อี๊ มุกเสี่ยวชะมัด..” แต่ก็แก้เขินไปได้แม้ใบหน้างามจะแดงก่ำกับมุกเสี่ยวๆ ของเขาก็ตาม“หึหึ มะลิจ๋า..”“ไม่ต้องมาจ๋งมาจ๋า ไหนว่าหากมะลิมาถึงที่นี่แล้วพี่ลุคจะถอนหมั้นให้มะลิ” มะลิทวงสัญญาที่เขาเคยพูดไว้ แม้ในใจจะหวั่นว่าเขาจะทำจริงๆ ทำไมต้องหวั่นด้วยล่ะ ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ ไม่ ไม่ดี เพราะ... เสียงเล็กๆ ตอบโต้กันอยู่ในหัวของเธอ“น้องมะลิที่รักคร้าบ จูบกันจนปากจะเปื่อยแล้วจะให้ถอนหมั้นง่ายๆ มันจะดูเป็นการไม่รับผิดชอบกันมั้ย มาจูบพี่แล้ว มาทำให้หลงแล้วจะทิ้งกันง่ายๆ ไม่ได้นะครับ”ลูคัสลอยหน้าลอยตาพูดแล้วยังเข้ามาใกล้พอเธอเผลอก็มีอันปลิวไปอยู่ในวงแขนแข็งแรงของเขาอย่างง่ายดาย...“อ๊ายย ปล่อยนะคนบ้า..อุ๊
ตอนที่ 88. ตอนพิเศษ7.มะลิเห็นท่าทางของรัชนกไม่ยอมเลิกราความหึวงหวงที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวทำให้เธอผลักรัชนกออกอย่างแรง จนรัชนกเซถลาเป็นนกปีกหักไปเลยทีเดียว“กรี๊ดดดนังบ้า แกกล้าผลักฉันเหรอ”“จะทำมากกว่านี้อีกหากมายุ่งกับลูคัสของฉัน”มะลิไม่ยอมแพ้เมื่อรัชนกทำท่าจะถลาเข้ามาตบตีเธอ มะลิก็เงื้อง่าหมัดไว้รอเช่นกัน“เข้ามาสิจะชกให้ไปซ่อมจมูกใหม่เลย”“พอน่ามาลีนเราต้องรีบกลับ”ลูคัสรีบจับร่างระหงของมะลิไว้เพราะกลัวว่าเธอจะเผลอทำร้ายอีกฝ่ายจนยับ เพราะรู้ฤทธิ์มือและเท้าของมะลิมาแล้วแต่ดูเหมือนรัชนกจะไม่ยอมรามือ เมื่อเห็นว่าเขาจับมะลิไว้รัชนกก็ปรี่เข้ามาฟาดฝ่ามือลงบนแก้มนวลของมะลิทันทีเพี๊ยะ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นและภาพหญิงสาวสวยสองคนกับหนุ่มหล่อมาก กำลังนัวเนียกันอยู่ซึ่งภาพที่ออกมานั้นไม่ต้องให้เดาก็ทำให้ผู้คนเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดศึกชิงนายกันแน่นอน“หน็อยบังอาจมาตบฉันเหรอนังนกปีกหัก ปล่อยฉันนะไอ้คนเฮงซวย..”ด้วยความโกรธมะลิดูจะมีพลังมากกว่าเดิม ในขณะที่รัชนกนั้นได้ใจเพราะสามารถเข้าถึงตัวมะลิจนได้ตบคนที่ตนริษยามาตลอดเต็มแรง เจ้าหล่อนยิ้มด้วยความสะใจหมายจะเข้าไปตบมะลิอีกครั้ง แต่มะลิดิ้น
ตอนที่ 87. ตอนพิเศษ 6.“เป็นไง สวยรึเปล่า แต่ฉันว่าเสื้อมันตัวเล็กไปนะ.. โอ๊ย อึดอัด นี่มันเสื้อคนหรือเสื้อหมากระเป๋ารึเปล่าเนี่ย..”มะลิบ่นด้วยความไม่ชอบใจพลางพยายามดึงเสื้อไหมพรมชนิดเนื้อนุ่มบางเบาคอตั้งแขนยาวสีขาวสั้นระดับเอวบางลงมาเพราะรู้สึกว่าเสื้อมันสั้นเกินไปในความคิดของมะลิ กางเกงหนังรัดรูปสีดำเอวต่ำอวดเอวบางอรชรและเรียวขาเสลาน่ามอง เรือนผมสีน้ำตาลทองอร่ามถูกปล่อยสยายเต็มแผ่นหลังทำให้สาวน้อยแสนกะโปโลเป็นสาวสวยแสนเซ็กซี่ได้ไม่ยาก แล้วยิ่งทรวงสาวอวบใหญ่เกินตัวอวดทรวดทรงทรวงงามกลมกลึงนั้นรั้งให้ชายเสื้อลอยเหนือเอวยิ่งทำให้เจ้าหล่อนดูเซ็กซี่ขยี้ใจขึ้นไปอีก“ว่าไงคุณ นี่เหรอชุดสวยที่จะให้ฉันใส่น่ะ มันอึดอัดนะ”“เอ่อ อ้อ.. ก็สวยดีแต่ฉันว่ามันไม่เหมาะกับเธอ..”ลูคัสรีบบอกแล้วหันไปทำตาดุใส่แฮรี่ที่ตะลึงมองสาวน้อยตาค้างไปเช่นกัน แฮรี่รีบก้มหน้าลงแล้วแอบขบขันเจ้านายของตนที่ตะลึงมองคุณมะลิตาค้าง“ฉันก็ว่างั้นล่ะไปเปลี่ยนดีกว่า”พูดจบร่างระหงก็หายแวบเข้าไปและออกมาในชุดเดรสสีแดงสดเข้ารูป ด้านหน้าดูเรียบๆ สวยหรู แต่พอหันหลังลูคัสแทบร้อนเร่าด้วยความหวงแหน เพราะชุดเว้าหลังลึกมาจนถึงบั้นเอวคอ
ตอนที่ 86. ตอนพิเศษ 5จนเมื่อตระกูลมอนโรได้รับจดหมายจากเมืองไทยพร้อมกับรูปถ่ายของคุณโดมินิคกับลูกสาว ลูคัสจึงเดินทางมาที่ประเทศไทยทันทีและได้รับรู้ความจริงว่าคุณโดมินิคสูญเสียความทรงจำบางส่วนเพราะเจอเรื่องราวเลวร้ายเนื่องจากสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รัก และการถูกตามล่าหมายเอาชีวิต ทำให้เขาต้องหอบลูกหนีตายและการกระทบกระเทือนที่ศีรษะทำให้จำเรื่องราวของตัวเองได้แค่บางส่วน แต่จำไม่ได้ว่าตนเองเป็นใครมาจากไหน...คุณสาลินีมีความจำเป็นต้องย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่ลำปางและเกิดความสงสารสองพ่อลูกที่ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองและไม่รู้ว่าตนเป็นใครมาจากไหน จึงชวนคุณโดมินิคไปด้วย ซึ่งนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของความผูกพันของสามชีวิตที่แน่นแฟ้นมากขึ้น คุณโดมินิคทำใจเรื่องภรรยาได้และความทรงจำกลับมาบางส่วน เขาขอคุณสาลินีแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข โดยคุณโดมินิคสมัครเป็นครูสอนภาษาและช่วยคุณสาลินีขายขนม แต่ด้วยความรักและผูกพันกับเมืองไทยและรักคุณสาลินี คุณโดมินิคไม่ยอมบอกภรรยาของตนว่าจำความทุกอย่างได้แล้วละทิ้งมรดกมากมายที่บราซิลเพื่อใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่เมืองไทยทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกันเรื่อยม
ตอนที่ 85. ตอนพิเศษ4.“โอยยย มือหนักตีนหนักชะมัดยายเด็กบ้า..” ลูคัสนวดยาแก้ฟกช้ำไปตามลำตัวของตนเบาๆ ทั้งสูดปากด้วยความเจ็บปวดอยู่คนเดียวในห้องนอนกว้าง ร่างแกร่งเปลือยเปล่ายืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่พลางเอื้อมมือไปทารอยเขียวช้ำเพราะถูกไม้ตีพริกมหาประลัยกระหน่ำลงมาด้วยความขุ่นใจ ไม่เคยสักครั้งที่เขาจะเสียท่าผู้หญิงขนาดนี้ แล้วเจ้าหล่อนก็แรงเยอะซ้ำยังมีฝีมือในการต่อสู้ร้ายเหลือ ก็สมกับที่มีเลือดมาเฟียร้ายอยู่เต็มตัว แม้คุณโดมินิคจะล้างมือจากวงการมานานและตระกูลของคุณ มาริน่า มารดาของมะลิอำลาวงการมาเฟียและหันมาทำธุรกิจส่งออกสินค้ามากกว่าไปฆ่าฟันใคร แต่มาเฟียก็ยังคงเป็นมาเฟียอยู่วันยันค่ำ และไม่คิดจะยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆดวงตาสีมรกตวาววับของแม่สาวน้อยจอมแสบแสนพยศยังคงตราตรึงในความทรงจำ ใบหน้าสวยชนิดหาตัวจับยากนั้นทำให้เขาหายใจติดขัดได้ไม่ยาก แล้วยิ่งกลิ่นกายหอมละมุนและผิวเนื้อนุ่มเนียนของเธอยิ่งทำให้ลูคัสรู้สึกใจเต้นแรงจนน่าโมโห เขาควรไม่ชอบหน้าเธอสิ ควรจะไม่ปลื้มและไม่ควรคิดถึงเจ้าหล่อน...“บ้าจริง ยายเด็กนั่นไม่น่ารักเลยสักนิด..” รู้ดีว่าพูดออกมาตรงข้ามกับใจ“แถมยังร้ายกาจอีกด้วย แบบนี้ใครได้
ตอนที่ 84. ตอนพิเศษ3.“หยุด มะลิ หยุด..” คุณสาลินีพยายามห้ามบุตรสาวที่เข้าไปประชิดตัวของชายหนุ่มแปลกหน้า บัดนี้ ลูคัส คริสเตียนโน่ มาเวลส์ ตั้งตัวได้ทันแล้วและตั้งหลักรอจัดการกับสาวน้อยจอมแสบที่บังอาจถีบเขาจนกระเด็น...“แกไอ้หน้าตัวเมียคิดจะรังแกแม่ฉันเหรอข้ามศพฉันไปก่อนเถอะ” ว่าแล้วร่างระหงก็โผนเข้าไปหมายจะใช้วิชาการต่อสู้ที่ร่ำเรียนมาและใช้ได้ผลมานักต่อนัก กับชายหนุ่มหน้าตาเข้มขรึมเต็มไปด้วยหนวดเคราตรงหน้า ผสานกับเสียงเห่าขรมของเจ้าสองแสบที่พากันเห่าโฮ่งๆ เหมือนกับกำลังเชียร์อยู่ข้างเธอ... เสียงเห่าและเสียงร้องห้ามของคุณสาลินีทำให้ชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านนอกร่วมสิบคนกรูกันเข้ามาในบ้าน แต่เมื่อเจอเหตุการณ์ตรงหน้าก็พากันหยุดมองอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี นั่นก็เจ้านาย อีกคนก็เป็นคนสำคัญของเจ้านายเช่นกัน จึงทำได้แต่ยืนมองการต่อสู้ของหนุ่มสาวทั้งสองด้วยความชื่นชมเสียอย่างนั้น...ทางด้านลูคัสก็ตั้งหลักต่อกรกับสาวน้อยจอมแสบที่มาถึงก็ทั้งตีทั้งเตะไม่หยุด ชายหนุ่มหลบขายาวๆ ของสาวน้อยที่วาดมาพร้อมกับหลบมัดเล็กๆ นั้นได้อย่างว่องไวแล้วใช้โอกาสและร่างกายที่สูงใหญ่กว่าเข้าประชิดตัวมะลิแล้วจับมือทั้งสองข้า