“เดี๋ยวใส่ให้ดู” เขายิ้มร้ายเปี่ยมเสน่ห์ “แต่คราวหน้าภัทรต้องใส่ให้พี่นะ”
คนถูกมอบหมายหน้าที่สำคัญยิ่งตาโต
นิรัชรับอุปกรณ์ป้องกันมาแล้วใช้ฟันกัดฉีกซองก่อนจะพยายามสวมให้ตัวตนใหญ่ยักษ์อย่างยากลำบาก
“คราวหน้าขอเบอร์ใหญ่กว่านี้นะภัทร”
“หา!” ณภัทรตกใจ “แล้วจะเป็นไรไหม?”
ชายหนุ่มยิ้มขัน “ไม่เป็นไร แม้จะเล็กไปนิดแต่ก็พอใส่ได้ พี่จะระวังไม่ให้มันแตกแล้วกัน”
กล่าวพลางค่อยๆ โน้มตัวลงหอมแก้มคนกำลังทำหน้ามึนงงไม่ค่อยเข้าใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งอีกหนึ่งที ก่อนขยับเอวโยกบั้นท้ายส่งตัวตนแข็งขึงร้อนฉ่าเข้าหาเนิบช้า บดคลึงกดปลายแก่นกายแข็งร้อนสอดใส่เนินนุ่มอ่อนไหวอีกครา ก่อเกิดความปรารถนาเกินทานทนอีกครั้ง
“อ๊ะ! พี่รัช!”
นิรัชแช่นิ่ง จมดิ่งลึกแน่นไม่ขยับ ปล่อยให้รสสัมผัสซาบซ่านติดค้างเนิ่นนาน
น้ำเสียงทุ้มต่ำราบเรียบถามอย่างมาดมั่นว่า “เจ็บไหม?”
“อืม...”
เสียงทุ้มน่าฟังกล่อมเด็กสาวใต้ร่างให้ยินยอมพร้อมใจ “พี่จะทำเบาๆ” ว่าพลางขยับเนิบนาบแต่เสียวซ่านขั้นสุด
“รู้สึกดีขึ้นไหม?”
ณภัทรหยักหน้าเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น เธอกำลังลังเลไม่แน่ใจ ระหว่างความเจ็บแปลบกับเสียดเสียว ความอึดอัดกับสยิว ความรู้สึกไหนกันแน่ที่กำลังเกิดขึ้นมากกว่ากัน
“อย่าเกร็ง...แยกขาออกหน่อย...”
นิรัชกระซิบประชิดพวงแก้มแดงเรื่อพลางพรมจูบทั่วใบหน้าเนียนนุ่ม
เป็นการจูบที่อ่อนโยนนุ่มนวล แม้จะมีความปรารถนาอันบ้าคลั่งร้อนแรงแฝงอยู่เต็มเปี่ยมแต่ที่มีมากกว่านั้นคือการปลอบโยน
เขาปลอบประโลมณภัทรเพื่อทำให้คนใต้ร่างผ่อนคลาย ในขณะที่ฝ่ามืออุ่นร้อนอีกข้างช่วยจับกระชับโคนขาอ่อนของเธอให้แยกออกกว้างอีกนิด ก่อนขยับกลางกายในจังหวะมั่นคงส่งตรงความร้อนแรงเข้าออกแบบเน้นย้ำเพิ่มความรู้สึกเกินต้านทาน
ทั้งสนิทสนมและแนบแน่น ตราตรึงเธอไว้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
“อา...” ณภัทรเผยอปากครางเสียว กะพริบตาหวานปริบๆ จ้องดวงตาเข้มลึกบนใบหน้าคมคายที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆ อย่างต้องการเรียนรู้โลกกว้างในห้องหับคับแคบโดยไม่คิดจะห้ามใจ
แผงอกตึงแน่นของนิรัชสวยงามมาก ทั้งลำคอและช่วงไหล่มีเสน่ห์บาดจิตบาดใจอย่างที่สุด กลิ่นเฉพาะกายเข้มลึกน่าหลงใหล ทุกส่วนที่บ่งบอกว่าเป็นเพศชายกำลังขยับขึ้นลงอยู่ในระยะเผาขน ทำผู้หญิงคนหนึ่งแทบบ้าแล้ว
ขณะกำลังปล่อยให้อารมณ์เพศอยู่เหนือเหตุผลทั้งหมด ณภัทรหลับตาลงอย่างต้องการซึมซับความรู้สึกแปลกใหม่ที่มิใช่แค่เพียงความฝันเหมือนครั้งแรกในคืนนั้น
เธอรับรู้ถึงการกระทบในตัวเธออย่างลึกล้ำ รู้สึกวาบหวาม รู้สึกหลงใหลและยิ่งรู้สึกคลั่งใคล้เมื่อเขาเร่งเร้าด้วยสัมผัสหนักหน่วงบนความอ่อนโยนเอาใจใส่
เธอเพิ่งรู้ว่าพี่ชายคนนี้ที่บ้าอำนาจและเอาแต่ใจกลับเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและนุ่มนวลเวลาทำเรื่องอย่างว่า
หญิงสาวหลับตาพริ้มครางแผ่วออกมา “อา...พี่รัช”
คนถูกเรียกด้วยน้ำเสียงหวานสั่นชวนระเบิดต่อมเสียวซ่านจนเกือบควบคุมจังหวะเนิบนาบเอาไว้ไม่ได้ให้รู้สึกแทบจะคลั่งตาย ชายหนุ่มขบกรามเกร็งร่างกายระงับตัวตนที่กำลังพองตัวใหญ่ขึ้นเพราะเสียงหวานล้ำของเธอจนเขาที่มีความอดทนสูงต้องรู้สึกอึดอัดแทบระเบิดตัวเองภายใต้ความคับแน่นนั้นอยู่รอมร่อ
แน่นอนว่าความอดทนของคนย่อมมีจำกัด
และมันหมดลงแล้วตั้งแต่คืนนั้น
ทั้งๆ ที่เขาเคยสัญญากับตัวเองตั้งแต่มีแม่เลี้ยงอย่างลินดาว่าจะรักณภัทรเหมือนน้องสาวแท้ๆ จะไม่คิดอะไรเกินเลยกับเธออย่างที่ใจต้องการ
ทุกวันนานนับปี เขาพยายามแล้วที่จะทำตัวออกห่างจากความน่ารักของเธอ เว้นระยะให้ตนเองอยู่ในอาณาเขตที่ไม่เป็นอันตรายต่อก้อนเนื้อในอกด้านซ้าย
แต่คืนนั้นกลับทำให้ความพยายามของเขาสูญเปล่าและสิ้นสุดลง คงเหลือเพียงความรู้สึกที่ชัดเจนขึ้น
เขาไม่ต้องการเป็นเพียงพี่ชายของเธอ...
นิรัชก้มลงจูบขมับและข้างแก้มนวลอย่างหวงแหน ความรู้สึกเป็นเจ้าของทำให้เขาไม่อยากให้ณภัทรออกจากห้อง ไม่อยากให้เธอถูกใครมอง ไม่อยากให้ใครคิดว่าเธอยังไร้คนจับจอง
ท่ามกลางเสียงหอบหายใจผสมเสียงครวญครางแว่วหวาน ภายใต้การปวดเกร็งและผ่อนคลาย นิรัชขยับตัวตนเข้าออกอยู่ภายในกายของณภัทรอย่างคนที่ต้องการเรียนรู้ไปด้วยกันทีละขั้น
เขาต้องการเพิ่มความสัมพันธ์กับเธอให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
เรื่องเซ็กซ์สำหรับนิรัชเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นการกระทำของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งจะสามารถครอบครองผู้หญิงคนหนึ่งได้ด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี
“ภัทร...”
“หืม...”
“เธอเป็นแฟนพี่แล้วนะ...”
‘เธอเป็นแฟนพี่แล้วนะ...’ชายเหนือร่างถามก่อนก้มหน้าบดจูบ ใช้ริมฝีปากแนบสนิท สะกิดความรู้สึกทั้งหมดที่มี การจูบสามารถบอกได้ถึงอะไรมากมาย เราสองคนกอดจูบกันอย่างอ่อนหวานละมุนละไมเป็นเวลานาน มีอารมณ์บางอย่างที่ชัดเจนและสับสนปนเปอยู่ในความคิดยามนั้นณภัทรไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธประโยคคำสั่งนั้นของนิรัช เธอเพียงปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการแนบชิดคลอเคลียอันอบอุ่น มีความสุขจากแรงปรารถนาทางเพศหลังสุขสมและรับรู้ได้ถึงอ้อมแขนที่รัดแน่นอย่างหวงแหน เธอก็ได้แต่กัดปากอดทนกับความปวดแปลบในใจที่เพียรซ่อนเร้นแน่นอนว่าเธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่ากำลังรู้สึกชอบพี่ชายคนนี้เข้าอย่างจังและยังคิดไม่ออกว่าจะถอนใจยังไงหรือต่อให้คิดออกก็ไม่แน่ว่าจะถอนใจออกมา แต่พวกเรายังเป็นเพียงเด็กหนุ่มเด็กสาวที่ยังมีเรื่องราวให้ได้เจอะเจอมากมายและอนาคตยังอีกยาวไกลเกินจะมองเห็นปลายทาง ว่าจะสิ้นสุดลงที่ตรงไหนในขณะที่พ่อกับแม่ของพวกเรากำลังแก่ตัวลงทุกวัน ความสุขในบั้นปลายชีวิตของพวกท่านไม่ได้ยาวนานสักเท่าไหร่ไม่ง่ายเลยที่แม่จะได้เจอผู้ชายสุดประเสริฐอย่างเสี่ยวิชัย...ถึงแม้ลูกติดพ่อหรือติดแม
เขาพยักหน้าเห็นด้วย “ดีเหมือนกัน พาไปปีนเขาล่องไพร ปล่อยให้ลูกชายตัวดีลำบากสักหน่อยจะได้ละลายพฤติกรรม”ชายวัยกลางคนนิ่งคิดภาพจำลองของการละลายพฤติกรรมระหว่างนิรัชกับณภัทรเป็นฉากๆ อย่างใจเย็นซึ่งดูเชิงแล้วแค่พาไปละลายพฤติกรรมวันหยุดสุดสัปดาห์คงไม่พอ เขาควรเคลียร์งานแล้วหยุดยาวเพื่อวางแผนเอาไว้สำหรับปิดเทอมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะดีกว่าเขายังจะให้พวกลูกๆ พาเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัยไปด้วยเพราะบางทีคนวัยเดียวกันอาจจะช่วยเสริมเติมความรักได้ดีกว่าพวกเขาที่เป็นคนแก่รุ่นเก่าไม่ค่อยเข้าใจวัยรุ่นสมัยนี้เท่าไหร่วิชัยหันไปบอกภรรยา“เรารีบเคลียร์งานกันเถอะ จะได้มีเวลาให้ลูกๆ”ลินดาพยักหน้าไม่พูดอะไรต่อ แต่สายตายังคงมองณภัทรอย่างไม่สบายใจ หากนิรัชให้ความรู้สึกปลอดภัยกับณภัทรไม่ได้ เธอจะพาลูกจากไปทันที…เพราะณภัทรถูกนิรัชเคี่ยวกรำเรื่องงานจนเสร็จสิ้นอย่างเหน็ดเหนื่อย พรุ่งนี้ยังมีเรียนตั้งแต่เช้าถึงบ่ายสาม ต้องเข้าร่วมกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่อีกณภัทรจึงก้มหน้าก้มตากินข้าวเย็นไม่พูดไม่จาแล้วรีบขึ้นไปอาบน้ำหมายนอนหลับพักผ่อนแต่หัวค่ำวันหยุดสุดสัปดาห์นี้เธอถูกพี่ชายเล่นงานหนักเกินไปจริงๆทำยังไงพี่รั
แม้ปากจะบอกว่ากลัวตัวเองจะต้องจมลงทะเลหึงหวงจากบรรดาสาวๆ ที่อยากได้นิรัชเป็นพ่อของลูกในอนาคตแต่เมื่อณภัทรได้เห็นกับตาว่ามีผู้หญิงหลายคนเอียงคอมองตามร่างสูงของผู้ชายที่ชื่อนิรัชอย่างร้อนแรงแฝงไว้ด้วยท่าทางที่เรียกว่า ‘ตั้งใจอ่อยผัวชาวบ้าน’ เธอก็หน้าบึ้งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้“พี่รัชเดินมาส่งภัทรแค่หน้าตึกตรงนี้ก็พอค่ะ ขืนเดินเข้าไปลึกกว่านี้ พวกเด็กปีหนึ่งทุกคนคงลากพี่รัชเข้าไปขย้ำในห้องน้ำอ่ะ”ณภัทรพูดอย่างหมั่นไส้ในความหล่อเหลือร้ายของผู้ชายที่ต้องการทำตัวเป็นแฟนกันเมื่ออยู่ในมหาลัยถึงขั้นเดินมาส่งในตึก“พูดอย่างกับตัวเองไม่ใช่เด็กปีหนึ่ง”นิรัชแซวขำๆ ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง มีแค่รอยยิ้มเล็กน้อยประดับตรงมุมปาก และนั่นกลับเรียกได้ว่าทรงเสน่ห์อย่างมาก เปี่ยมพลังทำลายล้างอย่างรุนแรง ทำเอาผู้หญิงที่แอบชำเลืองมองตอนเดินผ่านแทบจะกรีดร้องณภัทรยิ่งถลึงตา มองหน้านิรัชอย่างไม่พอใจ“ไปหล่อไกล ๆ เลยไป”แต่คนถูกไล่ยิ่งอารมณ์ดี เขาเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่ายัยภัทรขี้หึงผลพวงของการมีผู้ชายสูงสง่าหน้าตาหล่อเหลาขวัญใจสาวๆ ระดับนายแบบมาส่งถึงตึกเรียนวันนี้ทั้งวันณภัทรจึงถูกแก๊งชะนีแท้และชะนีเทียมรุมตอมอย่างก
เธอคนนี้ชื่อชัญญ่า นอกจากเป็นพี่รหัสของณภัทรแล้ว เธอยังเป็นลูกสาวของผู้ถือหุ้นโรงแรมรายหนึ่งของเสี่ยวิชัยเคยไปร่วมฉลองงานแต่งระหว่างเสี่ยวิชัยกับลินดา จึงเคยเห็นหน้าค่าตาปัญจรักษ์ทั้งครอบครัวและที่สำคัญเธอยังแอบชอบนิรัชมากๆ ผู้ชายอะไร ทั้งหล่อทั้งเท่ห์ เป็นทายาทคนเดียวของเสี่ยวิชัยที่ร่ำรวย สมบูรณ์แบบสุดๆ ถ้าได้คบถึงขั้นแต่งงานด้วยจะดีขนาดไหนแต่เพราะยังไม่ทันได้คบหาแค่ได้เห็นหน้าในมหาวิทยาลัยแบบไกลๆ ได้เจอกันแค่ตามงานเลี้ยงหุ้นส่วนเป็นบางครั้ง ได้ทักทายตามมารยาทแค่บางคราว ยังไม่เคยได้จีบยิ่งไม่ได้เป็นแฟนกลับถูกพวกชะนีบ่างค่างเกะกะรกสายตาเต็มไปหมดพวกหล่อนเหล่านี้คืออุปสรรคขัดขวางเส้นทางไปสู่ดวงดาวอันเจิดจรัสที่ยังมองไม่เห็นของเธอชัญญ่าจึงเอ่ยปากเตือนเหล่าสาวกปีหนึ่งที่ตามเครซี่รุ่นพี่กลุ่มนี้ว่า “พวกน้องๆ ใจเย็นกันหน่อยก็ดีนะคะ ขืนทำอะไรไม่ระวัง จนน้องสาวเขาไม่พอใจขึ้นมาแล้วกลับบ้านไปฟ้องพี่รัชเข้าจะแย่เอา นิรัชน่ะ นิสัยดุร้ายมากเลยนะ หากใครทำให้โกรธละก็ไม่แน่ว่าอาจจะยกพวกมาถล่ม ต่อให้เป็นผู้หญิงนุ่มนิ่มน่ารัก ผู้หญิงดูดี ผู้ชายดุดิบหรือชะนีป่าเถื่อน เขายังต่
ชั่วขณะที่ณภัทรทั้งหึงทั้งโกรธและโทษตัวเองไม่หยุดศรุตที่เดินมาทางนี้พอดีก็ก้มหน้าขมวดคิ้วมองณภัทรใกล้ๆ “น้องภัทร” เขาย่อมจำน้องสาวคนสวยของเพื่อนสนิทได้อยู่แล้ว “ทำไมมายืนปั้นหน้ายักษ์อยู่ตรงนี้ละครับ”คนถูกทักว่าปั้นหน้ายักษ์หันมายิ้มน้อย ๆ ตามมารยาท “ภัทรมาหาพี่รัชค่ะ แต่พี่รัชกำลังยุ่งก็เลยไม่กล้าเข้าไป”“ยุ่งอะไรเหรอ?” ศรุตทำหน้างง เขาชะเง้อคอมองไปอีกฝั่งจึงได้เห็นนิรัชนั่งแนบชิดกับผู้หญิงคนหนึ่ง ดวงตาชายหนุ่มเบิกกว้างดูเถอะ! ขนาดเพื่อนสนิทยังตกใจจนตาถลน ณภัทรมองสองคนที่เก้าอี้หินอ่อนอีกครั้งแบบโกรธมากกว่าเดิมจังหวะที่หันหน้าเดินหนีเพื่อไปเรียกแท็กซี่กลับบ้านเอง เสียงเรียกก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง“ภัทร!”เจ้าของเสียงคือนิรัชณภัทรหันหน้าไปมองนิ่งๆ เม้มปากแน่นบรรยากาศรอบตัวที่ดูแปลกๆ ของผู้หญิงคนอื่น นิรัชอาจสัมผัสไม่ได้ แต่ไม่ใช่กับณภัทร และท่าทางงอนๆ สองแก้มป่องๆ ลำตัวเหมือนจะพองลมได้แบบนี้ นิรัชยังจำได้ดีเพราะเมื่อครั้งที่เขาเผลอพูดจาร้ายๆ ใส่แม่ของเธอตอนที่เจอกันในเดทแรกของพ่อ ณภัทรก็ทำท่าแง่งอนแบบนี้เธอโกรธจนหายหน้าไปเป็นปีๆ ไม่เคยมาเจอเขาอีกเลย ถึงขั้นที่พ่อย
“ไอ้รุต!” เอมี่เริ่มโวยวาย “มึงก็ดีแต่ใส่ร้ายพี่เจมส์ของกู มึงก็รู้ว่าเขาต้องทำงาน ต้องทำทุกอย่างที่ถูกสั่ง ต้องมีคอนเนคชั่น”“แล้วมึงมานั่งร้องไห้ทำไม คอนเนคซั่มอ่ะดิไม่ว่า”“ที่กูมานั่งร้องไห้อยู่นี่ก็เพราะพี่เจมส์โกรธกูเรื่องที่กูแอบไปออดิชั่นคัดเลือกนางเอกเอ็มวี เขาไม่อยากให้กูเข้าวงการ”เมื่อฟังถึงตรงนี้ ศรุตถึงกับกลอกตาเอือมระอากับความโง่ของเพื่อน “กูคิดว่าเรื่องอะไร อย่างมึงเป็นนางเอกหนังยังได้ มันคงกลัวว่ามึงจะดังกว่ามันอ่ะดิ ถึงตอนนั้นคงมีคนที่ดีกว่ามันมาจีบมึง”“ก็นั่นไง กูถึงเครียดอยู่เนี่ย กูรักพี่เจมส์ ไม่เคยมีใครเลย แต่พี่เขาไม่เชื่อ แล้วเขาก็โกรธกูเรื่องที่กูไปออดิชั่นและถูกเลือกอีก เขาหายหน้าไปเลยอาทิตย์กว่า ๆ แล้ว ไม่รับโทรศัพท์ของกูเลยมึง กูไม่รู้จะทำไงดีแล้วเนี่ย”คราวนี้ศรุตถึงกับเงียบ เขาได้แต่มุ่นคิ้วเผยสีหน้าหงุดหงิด คล้ายอยากพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าพูด ดูอึดอัดคับอกคับใจณภัทรที่เริ่มจับต้นชนปลายได้แล้วจึงหายโกรธใครบางคน เธอส่งยิ้มสว่างสดใสให้นิรัช เหมือนไม่เคยเกิดเรื่องเข้าใจผิดขึ้น ประมาณว่าไม่ยอมรับว่าเผลอทำผิดไปนั่นแหละนิรัชที่ก้มหน้ามองอยู่ยิ่งขมวดคิ้วไม่เข้
นิรัช ศรุตและเอมี่คือเพื่อนซี้ที่เรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยมจนกระทั่งทุกคนเข้ามหาวิทยาลัย เรียกว่าเติบโตมาด้วยกันก็ได้เพียงแต่มีเอมี่แค่คนเดียวที่เข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ไม่ใช่คณะบริหารธุรกิจ ต่อมาเอมี่ยังพบรักกับรุ่นพี่หนุ่มหล่อที่ชื่อเจมส์ ถึงขนาดอยู่คอนโดเดียวกัน พ่อแม่ที่ต่างประเทศก็ไม่ได้ว่าอะไร พวกเขาให้อิสระเอมี่ในการใช้ชีวิตเต็มที่ เอมี่จึงไม่ค่อยมีเวลามาสังสรรกับเพื่อนสนิทอย่างนิรัชกับศรุตได้บ่อย ๆ เหมือนเมื่อก่อน สาเหตุเป็นเพราะเจมส์ขี้หึง และนิรัชยังหล่อราวเทพบุตรขนาดนั้น ศรุตยังเจ้าชู้เป็นเสือผู้หญิงขนาดนี้ณภัทรเคยเจอศรุตที่งานแต่งของแม่ แต่ไม่เคยเจอเอมี่เพราะอีกฝ่ายติดภาระกิจติดตามแฟนไปถ่ายทำซีรี่ย์ที่ต่างจังหวัดแต่เมื่อวันนี้ได้มีโอกาสเจอกันแล้ว ณภัทรยอมรับว่ากำลังตกหลุมรักรุ่นพี่สาวสุดสวยคนนี้เข้าเต็มเปา คุยกันถูกคอสุดๆ“I’ll stand by you no matter what.”เพราะเอมี่ดื่มจนเริ่มเมาแล้วจึงพูดไทยบ้างอังกฤษบ้าง ณภัทรจึงจำเป็นต้องคุยตอบโต้ตามแต่อีกฝ่ายจะพูดอะไรใส่มาเธอบอกกับเอมี่ว่าจะอยู่เคียงข้างกันอย่างนี้ทำให้คนฟังถึงกับทำตาซึ้งดึงเธอเข้าไปกอดแล้วซบหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นเ
นิรัชที่นั่งดื่มน้ำเปล่าอยู่ที่โซฟาอีกฝั่งได้แต่ถอนหายใจ พลางหันมาคุยกับโทรศัพท์มือถือที่กำลังวีดีโอคอลกับเสี่ยวิชัยอยู่“พ่อเห็นหรือยัง? ยัยภัทรกำลังเป็นศิราณีให้ยัยเอมี่อยู่ ผมชวนกลับบ้านแล้วแต่เธอไม่ยอมกลับ จึงทำได้แค่นั่งเฝ้านี่แหละ”เสียงปลายสายตอบกลับมา “อืม...พอรู้ว่าอยู่กับแกแบบนี้ คุณดาเธอก็สบายใจแล้วล่ะ แต่ห้ามเกินสามทุ่มนะ แกห้ามดื่มด้วย ดูแลน้องดีๆ ขับรถพาน้องกลับบ้านในสภาพครบสามสิบสอง...”และคำบ่นอีกยาวเหยียดที่ฟังเหมือนว่านิรัชกับณภัทรยังเป็นแค่เด็กมัธยมต้นไม่ใช่นักศึกษาที่เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว“ครับๆ รู้แล้ว”สัญญาณวีดีโอคอลถูกตัดไป นิรัชเก็บมือถือเข้ากระเป๋า นั่งขมวดคิ้วดื่มน้ำเปล่าต่อเขาตระหนักอย่างลึกซึ้งเลยทีเดียวว่าแม่เลี้ยงห่วงและหวงณภัทรมากขนาดไหนทำเอาพ่อของเขาต้องเป็นคอยกังวลตามไปด้วยก็หลายครั้งแต่อย่างว่าล่ะ มีลูกสาวน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้แบบนี้ไม่หวงได้ไงเขายังหวงเลย…กับแกล้มที่เคยวางเรียงรายเต็มโต๊ะบัดนี้เกลี้ยงทุกจาน เครื่องดื่มที่เคยมีน้ำอยู่เต็มยังหมดไปหลายขวด ศรุตที่คอแข็งยังไม่เมาง่ายๆ เริ่มพูดจาเสียงขรึมแบบจริงจัง “
“น้าพลยอมโดยไม่กล้าขัดขืนเลยแหละ แต่เงื่อนไขคือต้องไปกับพี่รุต คุณแม่ของเขาถึงขนาดไปคุยกับน้าพลที่บ้าน ใช้อำนาจเจ้าของบริษัทเลยเชียว น้าพลก็เลยต้องยอม ส่วนค่าใช้จ่ายคุณแม่บอกว่าจะออกให้ทั้งหมด ถือเป็นสินสอดทองหมั้น”ณภัทรเลิกคิ้ว หญิงสาวรู้มาว่าศรุตตามจีบโมรินไม่เว้นวัน กระทั่งพาไปแนะนำตัวกับมารดาว่าเป็นแฟนแบบแนบเนียน หลังจากนั้นก็คอยไปรับไปส่งระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัยตลอด สองคนนี้ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว หลังจากเรียนจบศรุตเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทของครอบครัว ไม่ได้ทำตัวล่องลอยไปวันๆ เหมือนแต่ก่อน เขาไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัว ยังมีพี่ชายคนสำคัญรอสืบทอดกิจการอยู่แล้วทั้งคน จึงไม่จำเป็นต้องรีบไปเรียนต่อพร้อมนิรัช อีกทั้งชายหนุ่มยังต้องการรอโมรินเรียนจบแล้วไปต่างประเทศพร้อมกันณภัทรยิ้มขื่น เธอเองก็ควรให้นิรัชรอเหมือนกันใช่ไหม? แต่คิดไปคิดมา หากย้อนเวลากลับไปเธอจะทำอย่างนั้นได้จริงเหรอเสี่ยวิชัยมีนิรัชเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแค่เพียงคนเดียว ตัวของเสี่ยวิชัยเองก็ไม่มีพี่น้อง บิดามารดาก็ไม่อยู่แล้ว หลังจากภรรยาคนเก่าเสียชีวิตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เขาก็อยู่กับนิรัชแค่สองคนจนกระท
หญิงสาวก้มหน้าทำงาน พยายามไม่คิดมากอีกทว่าท้ายที่สุด เธอก็พ่ายแพ้ให้แก่หัวใจไม่รักดีของตัวเองเรียวนิ้วเปิดโปรแกรมเฟสไทม์ ทำใจดีสู้เสือโทรออกไป นานครู่ใหญ่จนเกือบจะถอดใจ ในที่สุดปลายสายก็กดรับภาพของคนคุ้นเคยสุดแสนจะคิดถึงก็ปรากฏ “ว่าไงภัทร?”หญิงสาวกะพริบตา มือบีบโทรศัพท์แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามข่มใจไม่คิดมากกับคำถามชวนคิดมากแบบนี้“ก็ไม่ว่าไง พี่รัชทำอะไรอยู่เหรอ?”“ช่วงนี้พี่กำลังยุ่งมากเลยภัทร ไม่ว่างโทรหาเลย”คนฟังมุ่นคิ้ว เธอก็ยุ่งเหมือนกันนี่นา...หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากบอกไปตามตรงว่าเธอเองก็ยุ่งเหมือนกันไง ทำไมยังโทรหาเขาได้ เสียงหวานหนึ่งพลันเอ่ยแทรก“รัช...ไปกันเถอะ”เสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ ณภัทรยังเห็นภาพเธอจากในโทรศัพท์ด้วย ผู้หญิงคนนั้นคือชัญญ่า...อดีตพี่รหัสของณภัทรนั่นเอง“อ้าว! น้องภัทรเหรอ? สวัสดีจ๊ะ” แค่นั้น ชัญญ่าทักทายเพียงแค่นั้น ก่อนหันไปทางนิรัช “รัช...เราไปกันเถอะ”“อืม...แค่นี้ก่อนนะภัทร”ปลายสายตัดไป ณภัทรได้แต่อึ้ง เธอเห็นภาพที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ที่นั่นคือห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ห้องเรียนแน่นอน...ธุรกิจเบเกอรี่ที่ณภัทรร่วมหุ้นกับภานียังคงไ
ระยะเวลาที่ห่างกัน จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน จากนั้นก็เลื่อนเป็นหนึ่งปีสองปีตามลำดับ ณภัทรยังคงคิดถึงนิรัชเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเริ่มเคยชินรถซุปเปอร์คาร์สีเหลืองสดแซ่บจี๊ดวนเข้ามาจอดด้านหน้าของภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง ประตูเปิดออกโดยบริกรที่มาคอยให้บริการ สาวสวยดูดีในมาดนักธุรกิจรุ่นใหม่ค่อยๆ ก้าวเท้าลงมา เธอสวมสูทสไตล์แฟชั่นล้ำสมัย ซึ่งเป็นการรังสรรค์เสื้อผ้าอันโดดเด่นที่มีส่วนช่วยให้เกิดความประทับใจต่อผู้ติดต่อทางธุรกิจ และยังสะท้อนทัศนคติไร้ขีดจำกัดให้กับผู้หญิงยุคนี้ที่บทบาททางสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจนแตกต่างจากในอดีตเธอคือณภัทร ผู้สลัดลุคนักศึกษาสาววัยใสกลายเป็นสาวสวยมั่นใจเต็มวัย แต่งหน้าทาปากเข้มขึ้นจนมองอายุจริงไม่ออก เสื้อผ้าหน้าผมล้วนได้โมรินช่วยดีไซน์และจัดการให้วันนี้เธอต้องมาเจรจาธุรกิจแทนวิชัยสาเหตุเป็นเพราะอีกฝ่ายออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนเพลินเกินไปหน่อย กระทั่งเอวเคล็ดกระดูกเคลื่อนเล็กน้อยจนต้องแอดมิทโรงพยาบาล ในขณะที่ลินดาป่วยเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก่อนหน้าณภัทรรู้ดีว่ามารดาของตนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากต้องตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตอนอายุน้อยอีกทั้งยังตรากตร
หญิงสาวเต้นพองาม คลอกับเพลงที่เปิดอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังทำให้คนอีกฝั่งแทบคลั่งนิรัชขบกราม กอบกุมแก่นกายแน่น “ดี...แบบนี้ล่ะภัทร”เธอถามเสียงกระเส่า “พี่รัชไม่ต้องไปเรียนหรือไง?”“เดี๋ยวค่อยไป มโนว่าเอากับภัทรก่อน”หญิงสาวขำพรืด “บ้า”“พี่จะกล่อมภัทรให้นอนหลับสบายไง”ณภัทรยิ่งหน้าแดง และแน่นอนเธอยินยอม“ภัทร...”“หืม...”“นิ่งพิงหัวเตียง ถอดผ้า อ้าขา”“อืม...”ณภัทรถอดชุดนอนออกเผยหน้าอกอวบสวยเด้งดึ๋งโดดเด่น นิ้วเล็กเริ่มแตะแต้มน่องขาด้านใน แหวกขอบผ้าตัวบางจิ๋วออกช้าๆ“ภัทรเริ่มแล้วนะ”จบคำมือหนึ่งก็ค่อยๆ ขยำทรวงอกอิ่ม อีกมือเลื่อนลงต่ำ กรีดเรียวนิ้วกับเนินเนื้ออุ่นชื้น ค่อยๆ สอดใส่เข้าไป“คิดถึงพี่ ภัทร...” นิรัชสั่งเสียงทุ้มลึกณภัทรรับคำเสียงหวาน “อา...พี่รัช”ภาพของคนในจอคล้ายหลุดออกมาขยี้ขยำลูบคลำเธอ อุ้งปากร้อนๆ กำลังครอบครองยอดถัน ณภัทรสูดหายใจเข้าลึกยาว เมื่อความรู้สึกร้อนผ่าวจากส่วนสงวนชื้นแฉะกลางกายแล่นไปทั่วตัวตามปลายนิ้วที่เริ่มระรัว เธอรู้สึกเสียวนิรัชก็เช่นกัน เขารูดแก่นกายขึ้นลง สูดปากเบาๆ“อ้าขาอีกสิครับ”“อืม...พี่รัชอ่ะ”เธอแยกขากว้างขึ้นเพื่อเขา“พี่กำลั
ปลายฝนต้นหนาว สายฝนนอกหน้าต่างยังคงสาดซัด สร้างความหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจในห้องนอนส่วนตัว ณภัทรยังคงสะอึกสะอื้นนั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำการบ้านโดยมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คอยู่เป็นเพื่อนเอกสารงานแปลไม่ได้มากมายอะไรเธอทำเสร็จแล้วทั้งหมดแค่รอส่งเท่านั้น ทุกอย่างจึงถูกจัดเก็บเรียบร้อยเมื่อร้องไห้คิดถึงนิรัชจนเหนื่อยล้าก็รีบปาดน้ำตาก่อนฝืนใจกินข้าวสองสามคำ จากนั้นก็นำลงไปเก็บที่ครัว แล้วหมุนตัวขึ้นห้องนอนอย่างรวดเร็วเธออยากอยู่คนเดียวหญิงสาวอาบน้ำ สวมชุดนอนกระโปรงตัวเก่ง มุดเข้าผ้าห่ม พยายามข่มตาหลับให้ลงเหมือนเช่นเคยทว่าก็ไม่เคยหลับลงสักทีเข็มนาฬิกาเดินทางมาค่อนข้างดึกมากแล้ว ณภัทรยังคงพลิกตัวไปมาอยู่ใต้ผ้าห่มที่ไม่เคยอุ่นอีกเลยตั้งแต่ใครบางคนจากไปจังหวะนั้นใครบางคนก็เฟสไทม์มา เธอรีบกดรับอย่างเร็ว ทว่าพูดอะไรไม่ออกสักคำ“ภัทร...”เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากปลายสาย ส่งผลให้น้ำใสที่แห้งไปแล้วเริ่มเอ่อคลอตรงขอบตากลมอีกครา“พี่...”เสียงเธอเจือสะอื้นเล็กน้อย ทั้งๆ ที่เพียรสะกดกลั้นเอาไว้ แต่มันยากเกินไป “พี่รัช...”น้ำเสียงแบบนี้ของณภัทร ทำเอาความเงียบพลันปกคลุมรอบด้านอยู่อึดใจใหญ่ ส่งผ
ทุกวัน ณภัทรมักจะเห็นทุกสิ่งเป็นร่องรอยของคนคุ้นเคยอยู่ตลอดเวลาทุกกิจกรรม ทุกการกระทำ ทุกซอกทุกมุมที่กวาดตามอง ยิ่งนานยิ่งติดตรึงในความทรงจำที่โซฟาห้องนั่งเล่น ร่างสูงโดดเด่นมักจะพักผ่อนอยู่ตรงนั้น เขามองมาทางเธอด้วยสองตาดำจัดคมดุที่คนอื่นมองไม่ออกว่ามีความนัยอะไรในสระว่ายน้ำสีคราม สัดส่วนสมบูรณ์แบบที่เปิดเปลือยเผยมัดกล้ามตึงแน่นล่อตาลวงใจที่เขาชอบทำที่โต๊ะอาหาร เขามักกินข้าวแค่เงียบๆ น้อยครั้งถึงจะพูดจา ทว่าก็มักจะคอยมองเธอว่ากินอิ่มหรือยัง จะได้ไปเรียนพร้อมกันยังมีมุมโต๊ะทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น... คนตัวโตมักจะมีสีหน้าเรียบเฉย นั่งฟังเธออ่านบทความอย่างเย็นชาเพื่อรอพิมพ์เอกสาร ยามที่เธอกำลังอ่านบทความ สายตาของเขาคล้ายไม่ใส่ใจอะไรรอบกายเลย ทว่าสมาธิทั้งหมดกลับตกอยู่ที่เธอ ตั้งใจฟังแค่เพียงน้ำเสียงของเธอณภัทรเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเรื่องสมัครงานพิเศษวันนั้นเป็นเพราะนิรัชหวังจะได้อยู่กับเธอสองต่อสอง มีเวลาทำอะไรๆ ร่วมกัน โดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตต่อพ่อกับแม่ให้เธอต้องลำบากใจยังมีเรื่องที่พาไปเที่ยวทะเล เขาต้องหาสารพัดวิธีเพื่อที่จะพาเธอไปได้อย่างถูกต้องแต่กว่าจะไ
แต่ไม่ว่าจะมีใครมาบอกเธอยังไง คนที่ทำให้เธอหวั่นไหวและเชื่อใจได้กลับมีเพียง...นิรัช...พี่ชายตามกฎหมายคนนี้คนเดียวณภัทรรักนิรัชแค่คนเดียวเท่านั้น ทว่าความรักสำหรับเธอไม่ใช่การยึดติดปิดกั้นหรือครอบครองเอาไว้ข้างกายตลอดเวลา แต่เป็นการมองคนรักด้วยความหวังดีตลอดไปต่างหากหญิงสาวค่อยๆ กล่อม “พี่รัชฟังภัทรนะ คนเรายังต้องเผชิญอีกหลายเหตุการณ์ระหว่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันไม่ใช่ปัญหาแค่มือที่สามมือที่สี่ที่จะเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา แต่มันอาจมีปัญหามากมายรุมเร้า ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะทำให้ชีวิตคู่พบทางตัน กระทั่งต้องหันหลังคุยกัน เกราะป้องกันที่ดีคือต้องฝึกฝนแก้ปัญหาเอาไว้แต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอจนความรักเดินทางมาไกลเกินแก้ไข”นิรัชอึ้งงัน ได้ยินเสียงใสกังวานอ่อนหวานแต่หนักแน่นว่า “ภัทรขอสัญญาจะรอพี่รัชอยู่ตรงนี้ เป็นความมั่นคงของพี่ตลอดไป ไม่ว่าพี่ต้องเจอกับปัญหาอะไร หันมาก็จะเจอภัทรเสมอ ตกลงไหม”ณภัทรเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องคำสัญญา เธอนำพาชีวิตให้อยู่กับปัจจุบัน ตั้งมั่นบนโลกความจริงในแต่ละวันตามหลักการและเหตุผลอันสมควร ไม่ใช้อารมณ์ฝันเฟื่องอย่างเรื่องลมปากที่พ่นออกมาพร้อมกับคำว่า ‘สัญญ
ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง...คนสองคนที่ทะเลาะกันแทบตาย สุดท้ายก็นอนกอดกันอย่างหมดเรี่ยวแรง เหลือเพียงรสสัมผัสหวามไหวติดค้างชายหนุ่มครางเบาๆ ขยับลึกอีกครั้งก่อนค่อยๆ ถอดถอนตัวตนแผ่วช้า เหงื่อซึมทั่วร่างหนา หยาดไหลร่วมกับร่างบางอ่อนนุ่มหลังจากลมหายใจร้อนๆ กลับมาเป็นปกติ นิรัชถึงได้จูบซับหยดเหงื่อระเรื่อยไปตามข้างขมับให้ณภัทรสาวน้อยปรือตาฉ่ำเยิ้มมองคนขี้งอน “หายโกรธหรือยัง?”“ยัง!”เสียงทุ้มพร่าติดจะแหบห้วนอยู่มาก นิรัชกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวนุ่มแน่นขึ้นไม่คิดปล่อยความหวงแหนก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงในทุกวัน ความรู้สึกเป็นเจ้าของก็เช่นกัน ณภัทรทำนิรัชแทบคลั่งได้ทุกครั้งแค่ก้มมองแล้วถ้าเธอไม่ได้อยู่ในสายตา ถ้าไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้กอด...คำถามแสนง่ายแต่กลับยากมากที่จะหาคำอธิบายมาบรรยายความรู้สึกแค่นึกภาพว่าสิ่งสำคัญที่สุดได้ขาดหายไปในชีวิตประจำวัน แค่นั้นความอึดอัดทรมานที่ยากจะเอ่ยก็กดทับจนหายใจไม่ออกชายหนุ่มกำลังคิดว่า หากเขาต้องอยู่ห่างเธอคนละฟากฟ้าก็โปรดกรุณาเอามีดมาเฉือนหัวใจเขาแทนเถอะ!ณภัทรย่อมเข้าใจนิรัชเป็นอย่างดี ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้จะไม่เข้าใจได้ยังไง ทว่าเธอก็ยังต้องปล่อยเขาไปเรียนต
แต่ช่วงหลังมานี้ณภัทรกินยาคุมอย่างเคร่งครัด จึงอนุญาตให้นิรัชได้ทำตามใจเป็นบางครั้ง เธอย่อมไร้กังวล“ภัทรทำอะไร?”หญิงสาวถามอย่างใสซื่อ เธอไม่รู้สึกรู้สาว่าได้ปล่อยระเบิดใส่อีกฝ่ายในเรื่องสนับสนุนให้เขาไปเรียนต่อทันทีที่เรียนจบตรีคนถูกถามสะกดเธอไว้ด้วยนัยน์ตาลุ่มลึกในระยะประชิด “ภัทรรู้ดีว่าพี่ต้องการรออีกสองปีเพราะอะไร”แน่นอนว่าการไปเรียนต่อเมืองนอกจะอย่างไรก็ต้องเกิดขึ้น วิชัยกำหนดเอาไว้ตายตัวตั้งแต่ลูกชายสุดรักอายุไม่เท่าไหร่ด้วยซ้ำ คำพูดโต้แย้งของนิรัชจึงไม่ควรมีแต่แรก และณภัทรก็ไม่มีความคิดที่จะรั้งเขาเอาไว้อย่างเห็นแก่ตัว เธอต้องมองให้ทั่วๆ ไม่ใช่แค่ตัวเอง อนาคตของปัญจรักษ์ขึ้นอยู่กับทายาทสายตรงหนึ่งเดียวอย่างนิรัช“ภัทรรู้ แต่...อ๊ะ! พี่รัช เบาๆ”คนกดกระแทกด้วยความมันเขี้ยว ส่งเสียงทุ้มพร่า “รู้? แล้วทำไมไม่ช่วยกันพูด”“จะให้ช่วยพูดอะไร? อื้อ...”น้ำเสียงแม้สั่นเครือเพราะความเสียวรุมเร้า แต่ประโยคที่เอ่ยหนักแน่นและจริงจัง “พี่รัชก็แค่รีบไปเรียนแล้วก็รีบกลับมา”“ห้าปี...” รวมเรียนและฝึกงานอยู่ต่างประเทศตามกำหนด “ไม่ต่ำกว่านั้นแน่...” ห้าปีทีเดียวไม่ใช่ห้าวันหรือห้าเดือน“มันนา