นิรัชขับรถมาส่งณภัทรถึงหน้าตึกเรียนคณะของเธอ
ทั้ง ๆ ที่รถจอดแล้วแต่เขาเห็นเธอยังคงเขียนอะไรยุกยิกลงบนสมุดโน๊ตเล็ก ๆ เล่มหนึ่งไม่หยุด
ชายหนุ่มหรี่ตาเพ่งมองเงียบๆ หากเดาไม่ผิด เธอคงกำลังลิสต์รายชื่อแหล่งหางานพิเศษอยู่ เพราะระหว่างทางจากบ้านมาถึงมหาวิทยาลัย ทุกครั้งที่เห็นมีสถานที่หลายแห่งที่ติดป้ายเปิดรับนักศึกษาให้หารายได้พิเศษ ณภัทรที่หยิบมือถือถ่ายรูปไม่ทัน เนื่องจากรถกำลังวิ่ง เธอจะรีบมองแล้วจำมาจด
นิรัชมองณภัทรอย่างใจเย็น ปล่อยให้เธอเขียนจนเสร็จโดยไม่เอ่ยปากเร่งเธอให้ลงจากรถของเขา
สักพักเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของณภัทรดังขึ้นเธอล้วงกระเป๋าหยิบต้นเสียงที่ตั้งค่าให้ดังแค่เบา ๆ ออกมาแล้วกดรับสาย ก่อนเอามันแนบกับแก้มขาวเนียนแล้วเอียงคอ ใช้ไหล่บางประคองโทรศัพท์ไว้ ส่วนมือก็เขียนขยุกขยิกต่อไปไม่หยุด
ท่าทางคล้ายนักธุรกิจหญิงที่กำลังไฟแรงเร่งเปิดกิจการใหม่ทุกไตรมาส งานยุ่งจึงที่สุดในโลก
“ฮัลโหล อืม...ถึงหน้าตึกคณะแล้ว โอเคๆ เจอกัน”
ณภัทรกดปุ่มวางสาย เก็บสมุดเข้ากระเป๋า ทำท่าจะเปิดประตูออกไปโดยไม่ปลดเข็มขัดนิรภัย
แน่นอนว่าเธอคงลืม
นิรัชจึงต้องรีบปลดเข็มขัดนิรภัยของตนเองก่อนจะโน้มตัวไปปลดให้อีกคน ยังไม่ลืมก้มหน้าลงเพื่อจะหอมแก้มเธออีกสักฟอด แต่คราวนี้ผิดคาด ณภัทรรีบยกหนังสือเรียนขึ้นปิดหน้าอย่างว่องไว เห็นได้ชัดว่ารอบนี้เธอรู้ทัน
“พี่รัช! เดี๋ยวเถอะ! บอกภัทรดีๆ ก็ได้ว่าลืมอีกแล้ว”
เธอถลึงตาใส่ มองค้อนรุนแรง ยกมือดันไหล่ของเขาออก
คนถูกดันไหล่เพียงเลิกคิ้ว ถอยห่างอย่างไม่เร่งรีบ
ผิดกับอีกคนที่รีบลงรถไปอย่างรวดเร็ว ทำท่าทางคล้ายกับถูกผู้ชายบ้ากามไล่ตาม เมื่อเจอเพื่อนสาวก็รีบจับมืออีกฝ่ายเดินไป
คงเหลือไว้เพียงกลิ่นหอมอวลจากกายสาวโชยกรุ่นทั่วรถ นิรัชมองตามนิ่งๆ ในใจไม่รู้ว่าจะโกรธหรือขำดี อันที่จริงเขาไม่เคยทำพฤติกรรมแบบนี้กับเธอมาก่อน ทว่าเมื่อผ่านคืนนั้น...
คืนที่เขาดื่มจนเมาแล้วนอนหลับอยู่ในห้องพักของตัวเอง น้องสาวคนนี้ก็เข้ามานอนเบียดอยู่ข้าง ๆ
แรกเริ่มเขาเองไม่รู้และคิดไม่ถึงว่าณภัทรตัวเป็นๆ จะมานอนด้วยกัน เขาคิดว่าตัวเองฝันไป ผู้ชายเวลาฝันถึงผู้หญิงก็มักจะมีภาพประกอบเป็นฉากร่วมรักอันเร่าร้อนกับผู้หญิงในสเปก
เพียงแต่คืนนั้นการฝันเปียกของเขากลับสมจริงจนน่าตกใจ ท้ายที่สุดเราสองยังเสร็จสมกันถึงสองรอบอย่างไม่น่าให้อภัย
แต่เมื่อตื่นเต็มตาและมีสติกลับมาถึงได้รู้ว่าแท้จริงไม่ใช่
หลังจากผ่านพ้นภาวะตกใจหน้าซีด ณภัทรก็รีบอธิบาย ‘เรื่องฮอร์โมนของร่างกายเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ การช่วยตัวเองก็เป็นเรื่องธรรมชาติ พวกเราสองคนอายุยังน้อยย่อมมีโอกาสพลาดกันได้ ไม่เป็นไรนะพี่รัช’
เขาได้แต่อึ้ง คิดไม่ถึงว่าน้องสาวจะเป็นฝ่ายรู้สึกผิดและปลอบใจเขา ก่อนทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง ท่ามกลางผ้าปูที่นอนยับย่นซึ่งเปื้อนคราบคาวสีขาวข้นของเขาผสมกับเลือดสีแดงของเธอ
สุดท้ายเธอกลับเอาแต่หลบหลีกไม่รับผิดชอบการกระทำ
เขาคิดว่าควรโกรธเธอที่กล้า ‘ฟันแล้วทิ้ง’ ผู้ชายแบบเขา แต่เมื่อเห็นท่าทีที่ดูขัดแย้งกันของเธอ เขาก็ได้แต่นึกเอ็นดู
ผู้หญิงเรียบร้อยแต่แอบแซ่บแบบนี้ถูกใจเขาจริง ๆ
เขาก็พอเข้าใจว่าที่เธอทำไปเพราะคิดถึงอะไรหลายๆ อย่างเพื่อความรอบคอบในการใช้ชีวิต การตีกรอบอันเหมาะสมให้ตนเองเป็นสิ่งที่ทุกคนควรกระทำ
แต่เมื่อพลาดไปแล้วก็ควรรับผิดชอบไม่ใช่หรือ?
นิรัชส่ายหน้ายิ้ม ๆ แม้อยากถือสาแต่จำต้องปล่อยไปก่อน เขาขับรถออกจากมหาวิทยาลัย เลี้ยวไปสองถนนใหญ่เข้าไปจอดในคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ความจริงวันนี้เขาไม่มีเรียน แค่ลุกขึ้นมาแต่งตัวเพื่อความแนบเนียนในการมาส่งใครบางคนเท่านั้น ระหว่างวันจึงมารอเวลาเลิกเรียนของณภัทรที่คอนโดเพื่อนสนิท
ตั้งแต่เกิดเรื่องคืนนั้น เขาจึงมีความคิดจะรับส่งเธอทุกวัน ต้องเฝ้าเอาไว้ไม่ให้ห่าง หาโอกาสทำตัวสนิทสนมมากกว่าเดิม เพิ่มเติมสถานะให้ชัดเจน ไม่ใช่แค่พี่ชายกับน้องสาวตามกฎหมาย
และที่สำคัญต้องไม่ปล่อยให้ณภัทรกินเหล้าจนเมาเด็ดขาด
แน่นอนว่าทุกอย่างต้องผ่านความยินยอมเห็นชอบจากเธอ
คอนโดแห่งนี้นิรัชมีคีย์การ์ดร่วมหนึ่งใบ เพราะชายหนุ่มซื้อเป็นชื่อของเขาให้เพื่อนคนนี้อยู่อาศัย สืบเนื่องว่าอีกฝ่ายต้องคอยหลบคนทางบ้านไม่ให้หาเจอตัวได้ง่ายๆเมื่อเข้าห้องมา เสียงหนึ่งพลันเล็ดลอดให้ได้ยิน“อา...พี่รุตขา...”ตามด้วยเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นแข่งกับเสียงเพลงคลาสสิกเร้าอารมณ์ที่เปิดคลอกิจกรรมบางอย่างนิรัชย่อมรู้ดีว่ากิจกรรมที่ว่านี้คืออะไร ทั้งยังเห็นภาพได้ชัดเจนเสมือนเปิดหนังเอวีจอใหญ่ เพราะประตูห้องนอนที่ติดกับห้องรับแขกเปิดอ้าเอาไว้บนเตียงนอนหนานุ่มจึงปรากฏภาพของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งซ้อนกันอยู่ฝ่ายชายเปลือยกายท่อนล่าง ท่อนบนสวมเสื้อยืดตัวบางสำหรับใส่นอน เขานั่งพิงหัวเตียงฝ่ายหญิงอยู่ในชุดนักศึกษานั่งทับอยู่กลางแก่นกายแข็งขึง สองมือจับขยุ้มบ่ากว้าง แหงนหน้าครวญครางโยกตัวไปมาซักพักก็เปลี่ยนท่าผู้ชายจับร่างอวบอึ๋มของฝ่ายหญิงให้คว่ำหน้าลงตลบกระโปรงขึ้นสูงเปิดสะโพกกลมกลึงขาวเนียน ก่อนประกบบั้นท้ายงามงอนแล้วแทรกตัวตนร้อนผ่าวเข้าไปในกายสาว เขาขยับสะโพกเนิบนาบเรียกเสียงครางอีกสายหนึ่งจากผู้หญิงด้านล่าง“อื้อออ...พี่รุต”เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นอีกครั้งในจังหวะต่อม
ครั้นอีกฝ่ายสายตาสะดุดกับเขาที่กำลังนั่งเป็นรูปปั้นตรงโซฟา ศรุตก็ตกใจตะโกนลั่น“เฮ้ย! ไอ้รัช! แกมานั่งอยู่เมื่อไหร่เนี่ย?”นิรัชตอบเสียงเรียบ “ก่อนแกเสร็จไม่นานหรอก”คำว่าไม่นานของนิรัชก็คือได้เห็นหลายท่าของศรุตเพื่อนกันก็อย่างนี้ เข้าใจกันถึงกระดูกทว่านอกจากไม่คิดจะเดินกลับห้องนอนเพื่อใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยอย่างคนควรอาย ศรุตยังถามอย่างสงสัย“แล้วแกใส่ชุดนักศึกษาทำไมเนี่ย วันนี้ไม่มีเรียนนี่”คนถูกถามเลิกคิ้ว “วันนี้ไม่มีเรียน แกก็เลยอนุญาตให้สาวขึ้นมาเอากับแกได้แต่เช้า?”ศรุตยกมือเสยผมยุ่ง ๆ ให้เข้าที่ ยักคิ้วกวน ใบหน้าหล่อเข้มเผยแววตากรุ้มกริ่ม ก่อนเดินเข้าไปดื่มน้ำในครัวด้วยท่าทางสบายๆ ปราศจากอาการอับอาย แล้วเดินกลับไปในห้องนอน สวมเสื้อผ้าพลางคุยกับผู้หญิงในห้อง “น้องอร รีบไปเรียนก่อน ค่อยมาหาพี่ให้ช่วยคลายเหงาใหม่คราวหน้า วันนี้เพื่อนพี่เข้ามารอนานแล้ว”“หา!”คนนอนหงายตัวอ่อนระทดระทวยเมื่อครู่รีบดีดเด้งขึ้นมา ก่อนจะเร่งมือติดตะขอบราลูกไม้ กลัดกระดุมเสื้อ เอื้อมมือควานหาเกงเกงชั้นในสีดำที่ตกอยู่ริมเตียงอีกฝั่งมาสวมอย่างลนลานเธอเดินออกจากห้องนอนพลางบอกศรุตที่กำลังสวมเสื้อผ้า“พี
หลังเลิกเรียน ณภัทรยังไม่คิดกลับบ้าน เธอต้องการหางานพิเศษทำสักอย่างตามวิสัย แต่การนั่งรถเมล์ดูจะไม่สะดวกเท่าไหร่ จึงคิดเรียกวินมอร์เตอร์ไซค์เพื่อนั่งออกไปโบกแท็กซี่หน้าปากซอย จากนั้นค่อย ๆ ถามหางานทีละแห่งทว่าแค่เดินออกจากอาคารเรียนแต่ยังไม่ทันก้าวเท้าออกนอกอาณาเขตของคณะอักษรศาสตร์ รถยุโรปสีขาวก็มาจอดเทียบตรงทางเดินฟุตบาทณภัทรย่อมจำได้ว่าเป็นรถของใครหญิงสาวเห็นอีกฝ่ายลดกระจกลง ส่งสายตาออกคำสั่งว่าให้เข้าไปนั่งในรถแต่โดยดีคนอย่างณภัทรซึ่งเปลี่ยนใจไม่อยากเสียค่าแท็กซี่แล้วจึงรีบขึ้นรถทันทีไม่มีปฏิเสธ ทั้งยังไม่ลืมคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยสาวน้อยแก้มใสยิ้มแฉ่งแข่งกับแสงตะวันอย่างพึงพอใจ “ดีจัง พี่รัชเลิกเรียนพร้อมภัทรเลย”นิรัชแอบยิ้มมุมปากนิดๆ แทบมองไม่เห็น ได้ยินอีกฝ่ายออกปากขอร้องพร้อมท่าทางออดอ้อนแบบลืมตัวว่า “ไปส่งภัทรสมัครงานพิเศษหน่อยได้มั้ยคะ”ชายหนุ่มไม่ตอบแต่ถามกลับขณะหมุนพวงมาลัยรถยนต์ “จะสมัครงานอะไร พนักงานร้านสะดวกซื้อหรือ?”อีกคนส่ายหน้า เธอไม่สะดวกทำงานเข้ากะกลางคืนแล้วนิรัชถามอีก “พนักงานฟาดฟู๊ดเหรอ ในห้างใกล้บ้านก็พอมี ไปดูที่นั่นก่อนไหม? เธอไม่ควรหางานไก
ทันทีที่วิชัยได้ฟังจากปากลูกชายว่าเขาจะทำงานพิเศษ ความรู้สึกตกใจก็ท่วมท้น“แกเนี่ยนะเจ้ารัช จะทำงานพิเศษ”คนถูกปรามาสกลางโต๊ะอาหารมื้อเย็นยังคงความนิ่งขรึมให้ค้างเติ่งบนใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ พลางตอบเสียงเรียบ “เทอมหน้าผมถึงจะได้ออกฝึกงาน เทอมนี้จึงทำงานพิเศษได้อยู่แล้วครับพ่อ”วิชัยดื่มน้ำเข้าไปอึกหนึ่งด้วยเกรงว่าตนจะสำลักกับข้าวที่เพิ่งเข้าปาก ก่อนขมวดคิ้วอย่างไม่อยากเชื่อ “ประเด็นไม่ใช่เรื่องนั้น แต่คุณชายรักสบายอย่างแกเนี่ยนะจะทำงานพิเศษ”นิรัชไม่ตอบอะไรอีก เพียงรับประทานอาหารเงียบๆบ้านของเสี่ยวิชัยทำธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ ฐานะค่อนข้างร่ำรวย เงินทองมีมากมาย นิรัชจึงไม่เคยขาดอะไร ความคิดที่จะทำงานหาเงินพิเศษด้วยตนเองจึงไม่เคยเกิดขึ้นแต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว วิชัยก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางหรืออะไร เขาเพียงแค่รู้สึกตกใจเท่านั้น“พ่อไม่ห้ามแกทำงานหรอก แต่แน่ใจเหรอว่าจะทำงานนี้”งานนี้ที่ว่าก็คืองานแปลภาษาหนังสือวิชาการซึ่งคนอย่างนิรัชไม่ใช่พวกหนอนหนังสือและไม่ได้เรียนคณะอักษรศาสตร์เหมือนณภัทรแม้ว่าณภัทรจบมาจะทำงานด้านโรงแรมช่วยธุรกิจครอบครัวได้เช่นกัน แต่นิรัชเรียนคณะบริหารธุรกิจ ก
ในขณะที่พี่ชายอย่างนิรัชกำลังออกหน้ารับทุกความสงสัยอย่างสงบนิ่งณภัทรที่ไม่คิดจะรับผิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทั้งหมดก็ได้แต่กินข้าวจนแน่นจุกท้องไปหมดความจริงก็คือแม้เธอจะมีพื้นฐานทางด้านภาษาค่อนข้างดี ทั้งจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส เธอได้หมด แต่ความสามารถด้านการพิมพ์สัมผัสยังอยู่แค่เกณฑ์ธรรมดาเรียกได้ว่าพิมพ์เร็วในระดับพื้นฐานผ่านงานทั้งนี้เงื่อนไขคือเธอยังเพิ่งเข้าเรียนแค่ปีหนึ่งวันแรกเท่านั้น ความน่าเชื่อถือค่อนข้างน้อยมากๆ ทางสำนักงานจึงให้เธอรอรับการพิจารณาไปก่อนซึ่งนั่นหมายความว่าหากมีคนที่ดีกว่าก็พร้อมจะเขี่ยเธอทิ้งแม้เธอจะมีลิสต์งานพิเศษที่มาร์คไว้หลายที่หลายทางให้เลือกสรรและสำนักงานแห่งนี้ยังเป็นเพียงหน้าม้าเป็นนายหน้าจัดหานักแปลภาษาให้เอเจนซี่เท่านั้น ทว่าเธอก็ยังอยากได้งานนี้มากจริง ๆ เพราะสอบถามจนรู้มาว่าเขารับงานแปลให้เอเจนซี่ต่างประเทศด้วยและสามารถรับงานมาทำที่บ้านได้อย่างสบาย ๆ ไม่ต้องไปยืนขาแข็งและเสี่ยงอันตรายด้วยการกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆที่สำคัญลักษณะงานค่อนข้างตรงกับวิชาที่เธอเลือกเรียน ช่วยเสริมประสบการณ์ได้อย่างดีเยี่ยมแต่เมื่อถูกปฏิเสธแบบอ้อมๆ เช่นนั้นเธ
หลังจากได้งานพิเศษทำทั้งสองคนพี่น้อง ในลักษณะรับเป็นโปรเจ็กต์มาทำที่บ้าน ส่งงานตามระยะเวลาที่กำหนดวิชัยจึงลงทุนจัดโซนบ้านใหม่ด้วยการเพิ่มสัดส่วนห้องทำงานที่โถงชั้นล่างแบบโล่งโปร่งสะดวกสบายให้พี่น้องชายหญิง ทั้งยังเพิ่มจำนวนมุมทำงาน เสริมบรรยากาศ เติมเครื่องอำนวยความสะดวกในการทำงานต่าง ๆ นานา ชนิดที่ไม่ต้องเรียกหาให้เสียเวลา ถึงขนาดสร้างมุมทำงานที่ส่วนหย่อมริมสระว่ายน้ำอีกด้วย“สีเขียวของต้นไม้ สีฟ้าของสระว่ายน้ำ และอากาศที่ถ่ายเทได้ดีตลอดทั้งวันจะเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน”วิชัยกล่าวยิ้ม ๆ กับนิรัชและณภัทร โดยมีลินดาพยักหน้าเห็นด้วยทุกอย่างอยู่ข้างๆภายในใจบิดามารดาของหนุ่มสาวทั้งสอง เหตุผลเหล่านี้เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีที่สุดในการทำงานสำหรับลูกๆ เพื่อผลงานที่ทำออกมาจะได้เปี่ยมคุณภาพ ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ว่าจ้างตำหนิเอาได้ผู้ใหญ่ทั้งสองของบ้านกำลังคิดการณ์รอบคอบอย่างที่สุด เพื่อรักษาสถาบันครอบครัวให้ดีตลอดไปวิชัยกับลินดาส่งยิ้มละไมให้นิรัชและณภัทร แล้วพากันเดินไปนั่งเล่นในห้องพักผ่อนอย่างสบายอกสบายใจที่ลูก ๆ อยู่ติดบ้านช่วงวันหยุด ไม่คิดไปเที่ยวเตร็ดเตร่ไกลหูไกลตาเหมือนลูกบ้านอื่นส
งานแปลภาษาชิ้นหนึ่งถูกส่งมาวัดความสามารถแรกเริ่มของสองพี่น้องถึงสามเล่มหนาในบ่ายของวันต่อมา เป็นนวนิยายต่างประเทศจำนวนสามเล่มจบเพราะณภัทรติดเรียนช่วงบ่ายส่วนนิรัชมีเรียนแค่ช่วงเช้า คนที่ต้องขับรถไปรับงานย่อมต้องเป็นนิรัช ก่อนจะเวียนรถกลับมารับณภัทรที่มหาวิทยาลัยหลังเลิกเรียนเมื่อณภัทรได้เห็นงานในมือของนิรัชก็ไม่รอช้า เธอรีบรับมันมากอดไว้แนบอกเอียงคอเงยหน้ามองนิรัชตาแป๋วคนถูกมองด้วยสองตากลมใส รู้ความนัยที่สื่อออกมาชัดว่า ‘น้องอยากกลับบ้านเดี๋ยวนี้ พี่เข้าใจไหม?’เขาจึงรีบจับอีกฝ่ายยัดใส่รถหรูแล้วหมุนพวงมาลัยขับออกไปทันที แผนการที่คิดเอาไว้ว่าจะพาคนไปเดินเล่นหาอะไรกินสองต่อสองก็ต้องหยุดลงเมื่อกลับถึงบ้าน ณภัทรก็ไม่สนใจอะไรแล้ว เธอรีบหมกมุ่นกับนวนิยายโดยไม่เงยหน้า นั่งอ่านไปแปลไปอย่างมีความสุขสุดๆคนถูกลืมอย่างนิรัชจึงทำได้แค่นั่งมองอยู่ห่างๆ อย่างเงียบๆ แต่หงุดหงิดหนักมากชายหนุ่มยังคงจำได้ดีเมื่อครั้งแรกที่ได้เจอกับณภัทรวันนั้นเธอก็เอาแต่นั่งอ่านนิยายแล้วยังแอบหัวเราะคิกคักมีความสุขอยู่คนเดียวแบบนี้เช่นกัน ทั้งๆ ที่วันนั้นเธอควรจะทำให้เขาพึงพอใจเพื่อที่ว่าแม่ของเธอจะได้คบกับพ่อของ
ทว่าลินดากลับมีรูปลักษณ์เรียบง่าย ท่าทางเรียบร้อย แต่งตัวสมถะ และที่สำคัญเธอมีลูกติดมาด้วยหนึ่งคนซึ่งถือว่าแปลกมาก เพราะผู้หญิงของพ่อแต่ละคนโปรไฟล์ดีไม่มีรอยตำหนิ หรือต่อให้ใครมีลูกติดก็ไม่แน่ว่าเธอจะกล้าพามาด้วยในเดทแรกอย่างนี้เด็กหญิงคนนั้นมีดวงตากลมโต ผมหน้าม้าถักเปียผูกโบขาว ท่าทางสุภาพเรียบร้อย แต่งชุดนักเรียนมัธยมต้นมากับแม่ของเธอหลังจากกล่าวทักทายสวัสดีตามมารยาทและแนะนำตัว เธอก็ได้แต่เบิกตาคู่งามมองเขา สองแก้มขาวมีสีแดงเรื่อแตะแต้มตลอดเวลา และเมื่อเธอยิ้มก็จะมีลักยิ้มน่ารักปรากฏขึ้นมาสาวน้อยวัยแรกแย้มที่มาพร้อมกับดวงตากระจ่างใสคนนั้น ทำให้ใครบางคนต้องจ้องมองอย่างกับไม่เคยเห็นคนคำว่ารักแรกพบคือเรื่องที่ไร้สาระ มันไม่เคยมีอยู่จริงในความคิดของเขา แต่กลับมีคนจำนวนไม่น้อยที่มักจะพาใจของตนให้ตกบ่วงเตลิดอยู่ในภาวะจำยอมกับคำว่าอยากมี puppy love ในช่วงเรียนมัธยมกับใครสักคนเขาเองก็ไม่เว้น...ในขณะที่พ่อบอกเขาให้พาน้องไปเดินเล่นที่สวนหย่อมเพื่อที่พ่อจะได้คุยกับว่าที่แม่เลี้ยงที่ชื่อลินดาได้สะดวกเขาพยักหน้ารับอย่างที่ไม่เคยทำแล้วพาเธอไปเดินเล่นตามคำสั่งของพ่อทว่าเมื่อเขาและเธอได้นั
หญิงสาวก้มหน้าทำงาน พยายามไม่คิดมากอีกทว่าท้ายที่สุด เธอก็พ่ายแพ้ให้แก่หัวใจไม่รักดีของตัวเองเรียวนิ้วเปิดโปรแกรมเฟสไทม์ ทำใจดีสู้เสือโทรออกไป นานครู่ใหญ่จนเกือบจะถอดใจ ในที่สุดปลายสายก็กดรับภาพของคนคุ้นเคยสุดแสนจะคิดถึงก็ปรากฏ “ว่าไงภัทร?”หญิงสาวกะพริบตา มือบีบโทรศัพท์แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามข่มใจไม่คิดมากกับคำถามชวนคิดมากแบบนี้“ก็ไม่ว่าไง พี่รัชทำอะไรอยู่เหรอ?”“ช่วงนี้พี่กำลังยุ่งมากเลยภัทร ไม่ว่างโทรหาเลย”คนฟังมุ่นคิ้ว เธอก็ยุ่งเหมือนกันนี่นา...หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากบอกไปตามตรงว่าเธอเองก็ยุ่งเหมือนกันไง ทำไมยังโทรหาเขาได้ เสียงหวานหนึ่งพลันเอ่ยแทรก“รัช...ไปกันเถอะ”เสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ ณภัทรยังเห็นภาพเธอจากในโทรศัพท์ด้วย ผู้หญิงคนนั้นคือชัญญ่า...อดีตพี่รหัสของณภัทรนั่นเอง“อ้าว! น้องภัทรเหรอ? สวัสดีจ๊ะ” แค่นั้น ชัญญ่าทักทายเพียงแค่นั้น ก่อนหันไปทางนิรัช “รัช...เราไปกันเถอะ”“อืม...แค่นี้ก่อนนะภัทร”ปลายสายตัดไป ณภัทรได้แต่อึ้ง เธอเห็นภาพที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ที่นั่นคือห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ห้องเรียนแน่นอน...ธุรกิจเบเกอรี่ที่ณภัทรร่วมหุ้นกับภานียังคงไ
ระยะเวลาที่ห่างกัน จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน จากนั้นก็เลื่อนเป็นหนึ่งปีสองปีตามลำดับ ณภัทรยังคงคิดถึงนิรัชเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเริ่มเคยชินรถซุปเปอร์คาร์สีเหลืองสดแซ่บจี๊ดวนเข้ามาจอดด้านหน้าของภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง ประตูเปิดออกโดยบริกรที่มาคอยให้บริการ สาวสวยดูดีในมาดนักธุรกิจรุ่นใหม่ค่อยๆ ก้าวเท้าลงมา เธอสวมสูทสไตล์แฟชั่นล้ำสมัย ซึ่งเป็นการรังสรรค์เสื้อผ้าอันโดดเด่นที่มีส่วนช่วยให้เกิดความประทับใจต่อผู้ติดต่อทางธุรกิจ และยังสะท้อนทัศนคติไร้ขีดจำกัดให้กับผู้หญิงยุคนี้ที่บทบาททางสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจนแตกต่างจากในอดีตเธอคือณภัทร ผู้สลัดลุคนักศึกษาสาววัยใสกลายเป็นสาวสวยมั่นใจเต็มวัย แต่งหน้าทาปากเข้มขึ้นจนมองอายุจริงไม่ออก เสื้อผ้าหน้าผมล้วนได้โมรินช่วยดีไซน์และจัดการให้วันนี้เธอต้องมาเจรจาธุรกิจแทนวิชัยสาเหตุเป็นเพราะอีกฝ่ายออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนเพลินเกินไปหน่อย กระทั่งเอวเคล็ดกระดูกเคลื่อนเล็กน้อยจนต้องแอดมิทโรงพยาบาล ในขณะที่ลินดาป่วยเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก่อนหน้าณภัทรรู้ดีว่ามารดาของตนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากต้องตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตอนอายุน้อยอีกทั้งยังตรากตร
หญิงสาวเต้นพองาม คลอกับเพลงที่เปิดอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังทำให้คนอีกฝั่งแทบคลั่งนิรัชขบกราม กอบกุมแก่นกายแน่น “ดี...แบบนี้ล่ะภัทร”เธอถามเสียงกระเส่า “พี่รัชไม่ต้องไปเรียนหรือไง?”“เดี๋ยวค่อยไป มโนว่าเอากับภัทรก่อน”หญิงสาวขำพรืด “บ้า”“พี่จะกล่อมภัทรให้นอนหลับสบายไง”ณภัทรยิ่งหน้าแดง และแน่นอนเธอยินยอม“ภัทร...”“หืม...”“นิ่งพิงหัวเตียง ถอดผ้า อ้าขา”“อืม...”ณภัทรถอดชุดนอนออกเผยหน้าอกอวบสวยเด้งดึ๋งโดดเด่น นิ้วเล็กเริ่มแตะแต้มน่องขาด้านใน แหวกขอบผ้าตัวบางจิ๋วออกช้าๆ“ภัทรเริ่มแล้วนะ”จบคำมือหนึ่งก็ค่อยๆ ขยำทรวงอกอิ่ม อีกมือเลื่อนลงต่ำ กรีดเรียวนิ้วกับเนินเนื้ออุ่นชื้น ค่อยๆ สอดใส่เข้าไป“คิดถึงพี่ ภัทร...” นิรัชสั่งเสียงทุ้มลึกณภัทรรับคำเสียงหวาน “อา...พี่รัช”ภาพของคนในจอคล้ายหลุดออกมาขยี้ขยำลูบคลำเธอ อุ้งปากร้อนๆ กำลังครอบครองยอดถัน ณภัทรสูดหายใจเข้าลึกยาว เมื่อความรู้สึกร้อนผ่าวจากส่วนสงวนชื้นแฉะกลางกายแล่นไปทั่วตัวตามปลายนิ้วที่เริ่มระรัว เธอรู้สึกเสียวนิรัชก็เช่นกัน เขารูดแก่นกายขึ้นลง สูดปากเบาๆ“อ้าขาอีกสิครับ”“อืม...พี่รัชอ่ะ”เธอแยกขากว้างขึ้นเพื่อเขา“พี่กำลั
ปลายฝนต้นหนาว สายฝนนอกหน้าต่างยังคงสาดซัด สร้างความหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจในห้องนอนส่วนตัว ณภัทรยังคงสะอึกสะอื้นนั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำการบ้านโดยมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คอยู่เป็นเพื่อนเอกสารงานแปลไม่ได้มากมายอะไรเธอทำเสร็จแล้วทั้งหมดแค่รอส่งเท่านั้น ทุกอย่างจึงถูกจัดเก็บเรียบร้อยเมื่อร้องไห้คิดถึงนิรัชจนเหนื่อยล้าก็รีบปาดน้ำตาก่อนฝืนใจกินข้าวสองสามคำ จากนั้นก็นำลงไปเก็บที่ครัว แล้วหมุนตัวขึ้นห้องนอนอย่างรวดเร็วเธออยากอยู่คนเดียวหญิงสาวอาบน้ำ สวมชุดนอนกระโปรงตัวเก่ง มุดเข้าผ้าห่ม พยายามข่มตาหลับให้ลงเหมือนเช่นเคยทว่าก็ไม่เคยหลับลงสักทีเข็มนาฬิกาเดินทางมาค่อนข้างดึกมากแล้ว ณภัทรยังคงพลิกตัวไปมาอยู่ใต้ผ้าห่มที่ไม่เคยอุ่นอีกเลยตั้งแต่ใครบางคนจากไปจังหวะนั้นใครบางคนก็เฟสไทม์มา เธอรีบกดรับอย่างเร็ว ทว่าพูดอะไรไม่ออกสักคำ“ภัทร...”เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากปลายสาย ส่งผลให้น้ำใสที่แห้งไปแล้วเริ่มเอ่อคลอตรงขอบตากลมอีกครา“พี่...”เสียงเธอเจือสะอื้นเล็กน้อย ทั้งๆ ที่เพียรสะกดกลั้นเอาไว้ แต่มันยากเกินไป “พี่รัช...”น้ำเสียงแบบนี้ของณภัทร ทำเอาความเงียบพลันปกคลุมรอบด้านอยู่อึดใจใหญ่ ส่งผ
ทุกวัน ณภัทรมักจะเห็นทุกสิ่งเป็นร่องรอยของคนคุ้นเคยอยู่ตลอดเวลาทุกกิจกรรม ทุกการกระทำ ทุกซอกทุกมุมที่กวาดตามอง ยิ่งนานยิ่งติดตรึงในความทรงจำที่โซฟาห้องนั่งเล่น ร่างสูงโดดเด่นมักจะพักผ่อนอยู่ตรงนั้น เขามองมาทางเธอด้วยสองตาดำจัดคมดุที่คนอื่นมองไม่ออกว่ามีความนัยอะไรในสระว่ายน้ำสีคราม สัดส่วนสมบูรณ์แบบที่เปิดเปลือยเผยมัดกล้ามตึงแน่นล่อตาลวงใจที่เขาชอบทำที่โต๊ะอาหาร เขามักกินข้าวแค่เงียบๆ น้อยครั้งถึงจะพูดจา ทว่าก็มักจะคอยมองเธอว่ากินอิ่มหรือยัง จะได้ไปเรียนพร้อมกันยังมีมุมโต๊ะทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น... คนตัวโตมักจะมีสีหน้าเรียบเฉย นั่งฟังเธออ่านบทความอย่างเย็นชาเพื่อรอพิมพ์เอกสาร ยามที่เธอกำลังอ่านบทความ สายตาของเขาคล้ายไม่ใส่ใจอะไรรอบกายเลย ทว่าสมาธิทั้งหมดกลับตกอยู่ที่เธอ ตั้งใจฟังแค่เพียงน้ำเสียงของเธอณภัทรเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเรื่องสมัครงานพิเศษวันนั้นเป็นเพราะนิรัชหวังจะได้อยู่กับเธอสองต่อสอง มีเวลาทำอะไรๆ ร่วมกัน โดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตต่อพ่อกับแม่ให้เธอต้องลำบากใจยังมีเรื่องที่พาไปเที่ยวทะเล เขาต้องหาสารพัดวิธีเพื่อที่จะพาเธอไปได้อย่างถูกต้องแต่กว่าจะไ
แต่ไม่ว่าจะมีใครมาบอกเธอยังไง คนที่ทำให้เธอหวั่นไหวและเชื่อใจได้กลับมีเพียง...นิรัช...พี่ชายตามกฎหมายคนนี้คนเดียวณภัทรรักนิรัชแค่คนเดียวเท่านั้น ทว่าความรักสำหรับเธอไม่ใช่การยึดติดปิดกั้นหรือครอบครองเอาไว้ข้างกายตลอดเวลา แต่เป็นการมองคนรักด้วยความหวังดีตลอดไปต่างหากหญิงสาวค่อยๆ กล่อม “พี่รัชฟังภัทรนะ คนเรายังต้องเผชิญอีกหลายเหตุการณ์ระหว่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันไม่ใช่ปัญหาแค่มือที่สามมือที่สี่ที่จะเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา แต่มันอาจมีปัญหามากมายรุมเร้า ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะทำให้ชีวิตคู่พบทางตัน กระทั่งต้องหันหลังคุยกัน เกราะป้องกันที่ดีคือต้องฝึกฝนแก้ปัญหาเอาไว้แต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอจนความรักเดินทางมาไกลเกินแก้ไข”นิรัชอึ้งงัน ได้ยินเสียงใสกังวานอ่อนหวานแต่หนักแน่นว่า “ภัทรขอสัญญาจะรอพี่รัชอยู่ตรงนี้ เป็นความมั่นคงของพี่ตลอดไป ไม่ว่าพี่ต้องเจอกับปัญหาอะไร หันมาก็จะเจอภัทรเสมอ ตกลงไหม”ณภัทรเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องคำสัญญา เธอนำพาชีวิตให้อยู่กับปัจจุบัน ตั้งมั่นบนโลกความจริงในแต่ละวันตามหลักการและเหตุผลอันสมควร ไม่ใช้อารมณ์ฝันเฟื่องอย่างเรื่องลมปากที่พ่นออกมาพร้อมกับคำว่า ‘สัญญ
ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง...คนสองคนที่ทะเลาะกันแทบตาย สุดท้ายก็นอนกอดกันอย่างหมดเรี่ยวแรง เหลือเพียงรสสัมผัสหวามไหวติดค้างชายหนุ่มครางเบาๆ ขยับลึกอีกครั้งก่อนค่อยๆ ถอดถอนตัวตนแผ่วช้า เหงื่อซึมทั่วร่างหนา หยาดไหลร่วมกับร่างบางอ่อนนุ่มหลังจากลมหายใจร้อนๆ กลับมาเป็นปกติ นิรัชถึงได้จูบซับหยดเหงื่อระเรื่อยไปตามข้างขมับให้ณภัทรสาวน้อยปรือตาฉ่ำเยิ้มมองคนขี้งอน “หายโกรธหรือยัง?”“ยัง!”เสียงทุ้มพร่าติดจะแหบห้วนอยู่มาก นิรัชกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวนุ่มแน่นขึ้นไม่คิดปล่อยความหวงแหนก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงในทุกวัน ความรู้สึกเป็นเจ้าของก็เช่นกัน ณภัทรทำนิรัชแทบคลั่งได้ทุกครั้งแค่ก้มมองแล้วถ้าเธอไม่ได้อยู่ในสายตา ถ้าไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้กอด...คำถามแสนง่ายแต่กลับยากมากที่จะหาคำอธิบายมาบรรยายความรู้สึกแค่นึกภาพว่าสิ่งสำคัญที่สุดได้ขาดหายไปในชีวิตประจำวัน แค่นั้นความอึดอัดทรมานที่ยากจะเอ่ยก็กดทับจนหายใจไม่ออกชายหนุ่มกำลังคิดว่า หากเขาต้องอยู่ห่างเธอคนละฟากฟ้าก็โปรดกรุณาเอามีดมาเฉือนหัวใจเขาแทนเถอะ!ณภัทรย่อมเข้าใจนิรัชเป็นอย่างดี ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้จะไม่เข้าใจได้ยังไง ทว่าเธอก็ยังต้องปล่อยเขาไปเรียนต
แต่ช่วงหลังมานี้ณภัทรกินยาคุมอย่างเคร่งครัด จึงอนุญาตให้นิรัชได้ทำตามใจเป็นบางครั้ง เธอย่อมไร้กังวล“ภัทรทำอะไร?”หญิงสาวถามอย่างใสซื่อ เธอไม่รู้สึกรู้สาว่าได้ปล่อยระเบิดใส่อีกฝ่ายในเรื่องสนับสนุนให้เขาไปเรียนต่อทันทีที่เรียนจบตรีคนถูกถามสะกดเธอไว้ด้วยนัยน์ตาลุ่มลึกในระยะประชิด “ภัทรรู้ดีว่าพี่ต้องการรออีกสองปีเพราะอะไร”แน่นอนว่าการไปเรียนต่อเมืองนอกจะอย่างไรก็ต้องเกิดขึ้น วิชัยกำหนดเอาไว้ตายตัวตั้งแต่ลูกชายสุดรักอายุไม่เท่าไหร่ด้วยซ้ำ คำพูดโต้แย้งของนิรัชจึงไม่ควรมีแต่แรก และณภัทรก็ไม่มีความคิดที่จะรั้งเขาเอาไว้อย่างเห็นแก่ตัว เธอต้องมองให้ทั่วๆ ไม่ใช่แค่ตัวเอง อนาคตของปัญจรักษ์ขึ้นอยู่กับทายาทสายตรงหนึ่งเดียวอย่างนิรัช“ภัทรรู้ แต่...อ๊ะ! พี่รัช เบาๆ”คนกดกระแทกด้วยความมันเขี้ยว ส่งเสียงทุ้มพร่า “รู้? แล้วทำไมไม่ช่วยกันพูด”“จะให้ช่วยพูดอะไร? อื้อ...”น้ำเสียงแม้สั่นเครือเพราะความเสียวรุมเร้า แต่ประโยคที่เอ่ยหนักแน่นและจริงจัง “พี่รัชก็แค่รีบไปเรียนแล้วก็รีบกลับมา”“ห้าปี...” รวมเรียนและฝึกงานอยู่ต่างประเทศตามกำหนด “ไม่ต่ำกว่านั้นแน่...” ห้าปีทีเดียวไม่ใช่ห้าวันหรือห้าเดือน“มันนา
แม้เรื่องผู้หญิงจะเคลียร์จนสะอาดเรียบไปแล้ว ทว่านิรัชยังคงมีเรื่องค้างคาใจกับณภัทร ซึ่งไม่อาจคลีนโดยง่าย ดังนั้นทันทีที่สาวน้อยเดินขึ้นบันไดชั้นสองแล้วเลี้ยวขวา ข้อมือเล็กพลันถูกฝ่ามือใหญ่จับกระชากแล้วลากเข้าห้องมา“อ๊ะ! พี่รัช!”เสียงอุทานเกิดขึ้นแผ่วเบา เพราะไม่ต้องการให้ใครได้ยิน แต่คิดอีกทีก็คงไม่มีใครได้ยินหรอก เนื่องจากพี่แววกับป้าแหวนกลับเรือนพักด้านหลังแล้วเรียบร้อย พ่อกับแม่ก็อยู่ในห้องนั่งเล่นข้างล่าง และฝนข้างนอกยังตกหนักซะขนาดนี้“มีอะไร? ลากภัทรเข้าห้องพี่มาทำไมเนี่ย”คำตอบที่ได้รับคือริมฝีปากนุ่มชื้นกับลมหายใจอุ่นจัดที่ประกบแนบชิดอย่างร้อนแรงแฝงความเอาแต่ใจ พร้อมด้วยอารมณ์เคืองขุ่นที่ปะทุอัดแน่นคล้ายระเบิดเวลาและตอนนี้ระเบิดเวลาที่ว่าถูกเปิดสลักดังตูมแล้วนิรัชจูบณภัทรแนบแน่นอย่างเข่นเคี้ยวเขี้ยวฟัน จับเธออุ้มจนตัวลอยมาโยนลงบนเตียงกว้างแล้วโน้มตัวลงคร่อมทับอย่างเร็ว กักคนตัวเล็กไว้ตลอดแนวร่างกาย“พี่รัช ทำอะไร ที่นี่บ้านนะ ไม่ใช่เพ้นท์เฮ้าส์”สาวน้อยตกอกตกใจยกใหญ่ ดิ้นขลุกขลักไปมา ทว่าไม่อาจรอดพ้นอ้อมแขนแข็งแรงได้นาทีนี้นิรัชกำลังโกรธจนหน้ามืดแล้วจริงๆ ทำไมยัยตัวยุ่งข