นิรัชขับรถมาส่งณภัทรถึงหน้าตึกเรียนคณะของเธอ
ทั้ง ๆ ที่รถจอดแล้วแต่เขาเห็นเธอยังคงเขียนอะไรยุกยิกลงบนสมุดโน๊ตเล็ก ๆ เล่มหนึ่งไม่หยุด
ชายหนุ่มหรี่ตาเพ่งมองเงียบๆ หากเดาไม่ผิด เธอคงกำลังลิสต์รายชื่อแหล่งหางานพิเศษอยู่ เพราะระหว่างทางจากบ้านมาถึงมหาวิทยาลัย ทุกครั้งที่เห็นมีสถานที่หลายแห่งที่ติดป้ายเปิดรับนักศึกษาให้หารายได้พิเศษ ณภัทรที่หยิบมือถือถ่ายรูปไม่ทัน เนื่องจากรถกำลังวิ่ง เธอจะรีบมองแล้วจำมาจด
นิรัชมองณภัทรอย่างใจเย็น ปล่อยให้เธอเขียนจนเสร็จโดยไม่เอ่ยปากเร่งเธอให้ลงจากรถของเขา
สักพักเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของณภัทรดังขึ้นเธอล้วงกระเป๋าหยิบต้นเสียงที่ตั้งค่าให้ดังแค่เบา ๆ ออกมาแล้วกดรับสาย ก่อนเอามันแนบกับแก้มขาวเนียนแล้วเอียงคอ ใช้ไหล่บางประคองโทรศัพท์ไว้ ส่วนมือก็เขียนขยุกขยิกต่อไปไม่หยุด
ท่าทางคล้ายนักธุรกิจหญิงที่กำลังไฟแรงเร่งเปิดกิจการใหม่ทุกไตรมาส งานยุ่งจึงที่สุดในโลก
“ฮัลโหล อืม...ถึงหน้าตึกคณะแล้ว โอเคๆ เจอกัน”
ณภัทรกดปุ่มวางสาย เก็บสมุดเข้ากระเป๋า ทำท่าจะเปิดประตูออกไปโดยไม่ปลดเข็มขัดนิรภัย
แน่นอนว่าเธอคงลืม
นิรัชจึงต้องรีบปลดเข็มขัดนิรภัยของตนเองก่อนจะโน้มตัวไปปลดให้อีกคน ยังไม่ลืมก้มหน้าลงเพื่อจะหอมแก้มเธออีกสักฟอด แต่คราวนี้ผิดคาด ณภัทรรีบยกหนังสือเรียนขึ้นปิดหน้าอย่างว่องไว เห็นได้ชัดว่ารอบนี้เธอรู้ทัน
“พี่รัช! เดี๋ยวเถอะ! บอกภัทรดีๆ ก็ได้ว่าลืมอีกแล้ว”
เธอถลึงตาใส่ มองค้อนรุนแรง ยกมือดันไหล่ของเขาออก
คนถูกดันไหล่เพียงเลิกคิ้ว ถอยห่างอย่างไม่เร่งรีบ
ผิดกับอีกคนที่รีบลงรถไปอย่างรวดเร็ว ทำท่าทางคล้ายกับถูกผู้ชายบ้ากามไล่ตาม เมื่อเจอเพื่อนสาวก็รีบจับมืออีกฝ่ายเดินไป
คงเหลือไว้เพียงกลิ่นหอมอวลจากกายสาวโชยกรุ่นทั่วรถ นิรัชมองตามนิ่งๆ ในใจไม่รู้ว่าจะโกรธหรือขำดี อันที่จริงเขาไม่เคยทำพฤติกรรมแบบนี้กับเธอมาก่อน ทว่าเมื่อผ่านคืนนั้น...
คืนที่เขาดื่มจนเมาแล้วนอนหลับอยู่ในห้องพักของตัวเอง น้องสาวคนนี้ก็เข้ามานอนเบียดอยู่ข้าง ๆ
แรกเริ่มเขาเองไม่รู้และคิดไม่ถึงว่าณภัทรตัวเป็นๆ จะมานอนด้วยกัน เขาคิดว่าตัวเองฝันไป ผู้ชายเวลาฝันถึงผู้หญิงก็มักจะมีภาพประกอบเป็นฉากร่วมรักอันเร่าร้อนกับผู้หญิงในสเปก
เพียงแต่คืนนั้นการฝันเปียกของเขากลับสมจริงจนน่าตกใจ ท้ายที่สุดเราสองยังเสร็จสมกันถึงสองรอบอย่างไม่น่าให้อภัย
แต่เมื่อตื่นเต็มตาและมีสติกลับมาถึงได้รู้ว่าแท้จริงไม่ใช่
หลังจากผ่านพ้นภาวะตกใจหน้าซีด ณภัทรก็รีบอธิบาย ‘เรื่องฮอร์โมนของร่างกายเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ การช่วยตัวเองก็เป็นเรื่องธรรมชาติ พวกเราสองคนอายุยังน้อยย่อมมีโอกาสพลาดกันได้ ไม่เป็นไรนะพี่รัช’
เขาได้แต่อึ้ง คิดไม่ถึงว่าน้องสาวจะเป็นฝ่ายรู้สึกผิดและปลอบใจเขา ก่อนทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง ท่ามกลางผ้าปูที่นอนยับย่นซึ่งเปื้อนคราบคาวสีขาวข้นของเขาผสมกับเลือดสีแดงของเธอ
สุดท้ายเธอกลับเอาแต่หลบหลีกไม่รับผิดชอบการกระทำ
เขาคิดว่าควรโกรธเธอที่กล้า ‘ฟันแล้วทิ้ง’ ผู้ชายแบบเขา แต่เมื่อเห็นท่าทีที่ดูขัดแย้งกันของเธอ เขาก็ได้แต่นึกเอ็นดู
ผู้หญิงเรียบร้อยแต่แอบแซ่บแบบนี้ถูกใจเขาจริง ๆ
เขาก็พอเข้าใจว่าที่เธอทำไปเพราะคิดถึงอะไรหลายๆ อย่างเพื่อความรอบคอบในการใช้ชีวิต การตีกรอบอันเหมาะสมให้ตนเองเป็นสิ่งที่ทุกคนควรกระทำ
แต่เมื่อพลาดไปแล้วก็ควรรับผิดชอบไม่ใช่หรือ?
นิรัชส่ายหน้ายิ้ม ๆ แม้อยากถือสาแต่จำต้องปล่อยไปก่อน เขาขับรถออกจากมหาวิทยาลัย เลี้ยวไปสองถนนใหญ่เข้าไปจอดในคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ความจริงวันนี้เขาไม่มีเรียน แค่ลุกขึ้นมาแต่งตัวเพื่อความแนบเนียนในการมาส่งใครบางคนเท่านั้น ระหว่างวันจึงมารอเวลาเลิกเรียนของณภัทรที่คอนโดเพื่อนสนิท
ตั้งแต่เกิดเรื่องคืนนั้น เขาจึงมีความคิดจะรับส่งเธอทุกวัน ต้องเฝ้าเอาไว้ไม่ให้ห่าง หาโอกาสทำตัวสนิทสนมมากกว่าเดิม เพิ่มเติมสถานะให้ชัดเจน ไม่ใช่แค่พี่ชายกับน้องสาวตามกฎหมาย
และที่สำคัญต้องไม่ปล่อยให้ณภัทรกินเหล้าจนเมาเด็ดขาด
แน่นอนว่าทุกอย่างต้องผ่านความยินยอมเห็นชอบจากเธอ
คอนโดแห่งนี้นิรัชมีคีย์การ์ดร่วมหนึ่งใบ เพราะชายหนุ่มซื้อเป็นชื่อของเขาให้เพื่อนคนนี้อยู่อาศัย สืบเนื่องว่าอีกฝ่ายต้องคอยหลบคนทางบ้านไม่ให้หาเจอตัวได้ง่ายๆเมื่อเข้าห้องมา เสียงหนึ่งพลันเล็ดลอดให้ได้ยิน“อา...พี่รุตขา...”ตามด้วยเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นแข่งกับเสียงเพลงคลาสสิกเร้าอารมณ์ที่เปิดคลอกิจกรรมบางอย่างนิรัชย่อมรู้ดีว่ากิจกรรมที่ว่านี้คืออะไร ทั้งยังเห็นภาพได้ชัดเจนเสมือนเปิดหนังเอวีจอใหญ่ เพราะประตูห้องนอนที่ติดกับห้องรับแขกเปิดอ้าเอาไว้บนเตียงนอนหนานุ่มจึงปรากฏภาพของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งซ้อนกันอยู่ฝ่ายชายเปลือยกายท่อนล่าง ท่อนบนสวมเสื้อยืดตัวบางสำหรับใส่นอน เขานั่งพิงหัวเตียงฝ่ายหญิงอยู่ในชุดนักศึกษานั่งทับอยู่กลางแก่นกายแข็งขึง สองมือจับขยุ้มบ่ากว้าง แหงนหน้าครวญครางโยกตัวไปมาซักพักก็เปลี่ยนท่าผู้ชายจับร่างอวบอึ๋มของฝ่ายหญิงให้คว่ำหน้าลงตลบกระโปรงขึ้นสูงเปิดสะโพกกลมกลึงขาวเนียน ก่อนประกบบั้นท้ายงามงอนแล้วแทรกตัวตนร้อนผ่าวเข้าไปในกายสาว เขาขยับสะโพกเนิบนาบเรียกเสียงครางอีกสายหนึ่งจากผู้หญิงด้านล่าง“อื้อออ...พี่รุต”เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นอีกครั้งในจังหวะต่อม
ครั้นอีกฝ่ายสายตาสะดุดกับเขาที่กำลังนั่งเป็นรูปปั้นตรงโซฟา ศรุตก็ตกใจตะโกนลั่น“เฮ้ย! ไอ้รัช! แกมานั่งอยู่เมื่อไหร่เนี่ย?”นิรัชตอบเสียงเรียบ “ก่อนแกเสร็จไม่นานหรอก”คำว่าไม่นานของนิรัชก็คือได้เห็นหลายท่าของศรุตเพื่อนกันก็อย่างนี้ เข้าใจกันถึงกระดูกทว่านอกจากไม่คิดจะเดินกลับห้องนอนเพื่อใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยอย่างคนควรอาย ศรุตยังถามอย่างสงสัย“แล้วแกใส่ชุดนักศึกษาทำไมเนี่ย วันนี้ไม่มีเรียนนี่”คนถูกถามเลิกคิ้ว “วันนี้ไม่มีเรียน แกก็เลยอนุญาตให้สาวขึ้นมาเอากับแกได้แต่เช้า?”ศรุตยกมือเสยผมยุ่ง ๆ ให้เข้าที่ ยักคิ้วกวน ใบหน้าหล่อเข้มเผยแววตากรุ้มกริ่ม ก่อนเดินเข้าไปดื่มน้ำในครัวด้วยท่าทางสบายๆ ปราศจากอาการอับอาย แล้วเดินกลับไปในห้องนอน สวมเสื้อผ้าพลางคุยกับผู้หญิงในห้อง “น้องอร รีบไปเรียนก่อน ค่อยมาหาพี่ให้ช่วยคลายเหงาใหม่คราวหน้า วันนี้เพื่อนพี่เข้ามารอนานแล้ว”“หา!”คนนอนหงายตัวอ่อนระทดระทวยเมื่อครู่รีบดีดเด้งขึ้นมา ก่อนจะเร่งมือติดตะขอบราลูกไม้ กลัดกระดุมเสื้อ เอื้อมมือควานหาเกงเกงชั้นในสีดำที่ตกอยู่ริมเตียงอีกฝั่งมาสวมอย่างลนลานเธอเดินออกจากห้องนอนพลางบอกศรุตที่กำลังสวมเสื้อผ้า“พี
หลังเลิกเรียน ณภัทรยังไม่คิดกลับบ้าน เธอต้องการหางานพิเศษทำสักอย่างตามวิสัย แต่การนั่งรถเมล์ดูจะไม่สะดวกเท่าไหร่ จึงคิดเรียกวินมอร์เตอร์ไซค์เพื่อนั่งออกไปโบกแท็กซี่หน้าปากซอย จากนั้นค่อย ๆ ถามหางานทีละแห่งทว่าแค่เดินออกจากอาคารเรียนแต่ยังไม่ทันก้าวเท้าออกนอกอาณาเขตของคณะอักษรศาสตร์ รถยุโรปสีขาวก็มาจอดเทียบตรงทางเดินฟุตบาทณภัทรย่อมจำได้ว่าเป็นรถของใครหญิงสาวเห็นอีกฝ่ายลดกระจกลง ส่งสายตาออกคำสั่งว่าให้เข้าไปนั่งในรถแต่โดยดีคนอย่างณภัทรซึ่งเปลี่ยนใจไม่อยากเสียค่าแท็กซี่แล้วจึงรีบขึ้นรถทันทีไม่มีปฏิเสธ ทั้งยังไม่ลืมคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยสาวน้อยแก้มใสยิ้มแฉ่งแข่งกับแสงตะวันอย่างพึงพอใจ “ดีจัง พี่รัชเลิกเรียนพร้อมภัทรเลย”นิรัชแอบยิ้มมุมปากนิดๆ แทบมองไม่เห็น ได้ยินอีกฝ่ายออกปากขอร้องพร้อมท่าทางออดอ้อนแบบลืมตัวว่า “ไปส่งภัทรสมัครงานพิเศษหน่อยได้มั้ยคะ”ชายหนุ่มไม่ตอบแต่ถามกลับขณะหมุนพวงมาลัยรถยนต์ “จะสมัครงานอะไร พนักงานร้านสะดวกซื้อหรือ?”อีกคนส่ายหน้า เธอไม่สะดวกทำงานเข้ากะกลางคืนแล้วนิรัชถามอีก “พนักงานฟาดฟู๊ดเหรอ ในห้างใกล้บ้านก็พอมี ไปดูที่นั่นก่อนไหม? เธอไม่ควรหางานไก
ทันทีที่วิชัยได้ฟังจากปากลูกชายว่าเขาจะทำงานพิเศษ ความรู้สึกตกใจก็ท่วมท้น“แกเนี่ยนะเจ้ารัช จะทำงานพิเศษ”คนถูกปรามาสกลางโต๊ะอาหารมื้อเย็นยังคงความนิ่งขรึมให้ค้างเติ่งบนใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ พลางตอบเสียงเรียบ “เทอมหน้าผมถึงจะได้ออกฝึกงาน เทอมนี้จึงทำงานพิเศษได้อยู่แล้วครับพ่อ”วิชัยดื่มน้ำเข้าไปอึกหนึ่งด้วยเกรงว่าตนจะสำลักกับข้าวที่เพิ่งเข้าปาก ก่อนขมวดคิ้วอย่างไม่อยากเชื่อ “ประเด็นไม่ใช่เรื่องนั้น แต่คุณชายรักสบายอย่างแกเนี่ยนะจะทำงานพิเศษ”นิรัชไม่ตอบอะไรอีก เพียงรับประทานอาหารเงียบๆบ้านของเสี่ยวิชัยทำธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ ฐานะค่อนข้างร่ำรวย เงินทองมีมากมาย นิรัชจึงไม่เคยขาดอะไร ความคิดที่จะทำงานหาเงินพิเศษด้วยตนเองจึงไม่เคยเกิดขึ้นแต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว วิชัยก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางหรืออะไร เขาเพียงแค่รู้สึกตกใจเท่านั้น“พ่อไม่ห้ามแกทำงานหรอก แต่แน่ใจเหรอว่าจะทำงานนี้”งานนี้ที่ว่าก็คืองานแปลภาษาหนังสือวิชาการซึ่งคนอย่างนิรัชไม่ใช่พวกหนอนหนังสือและไม่ได้เรียนคณะอักษรศาสตร์เหมือนณภัทรแม้ว่าณภัทรจบมาจะทำงานด้านโรงแรมช่วยธุรกิจครอบครัวได้เช่นกัน แต่นิรัชเรียนคณะบริหารธุรกิจ ก
ในขณะที่พี่ชายอย่างนิรัชกำลังออกหน้ารับทุกความสงสัยอย่างสงบนิ่งณภัทรที่ไม่คิดจะรับผิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทั้งหมดก็ได้แต่กินข้าวจนแน่นจุกท้องไปหมดความจริงก็คือแม้เธอจะมีพื้นฐานทางด้านภาษาค่อนข้างดี ทั้งจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส เธอได้หมด แต่ความสามารถด้านการพิมพ์สัมผัสยังอยู่แค่เกณฑ์ธรรมดาเรียกได้ว่าพิมพ์เร็วในระดับพื้นฐานผ่านงานทั้งนี้เงื่อนไขคือเธอยังเพิ่งเข้าเรียนแค่ปีหนึ่งวันแรกเท่านั้น ความน่าเชื่อถือค่อนข้างน้อยมากๆ ทางสำนักงานจึงให้เธอรอรับการพิจารณาไปก่อนซึ่งนั่นหมายความว่าหากมีคนที่ดีกว่าก็พร้อมจะเขี่ยเธอทิ้งแม้เธอจะมีลิสต์งานพิเศษที่มาร์คไว้หลายที่หลายทางให้เลือกสรรและสำนักงานแห่งนี้ยังเป็นเพียงหน้าม้าเป็นนายหน้าจัดหานักแปลภาษาให้เอเจนซี่เท่านั้น ทว่าเธอก็ยังอยากได้งานนี้มากจริง ๆ เพราะสอบถามจนรู้มาว่าเขารับงานแปลให้เอเจนซี่ต่างประเทศด้วยและสามารถรับงานมาทำที่บ้านได้อย่างสบาย ๆ ไม่ต้องไปยืนขาแข็งและเสี่ยงอันตรายด้วยการกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆที่สำคัญลักษณะงานค่อนข้างตรงกับวิชาที่เธอเลือกเรียน ช่วยเสริมประสบการณ์ได้อย่างดีเยี่ยมแต่เมื่อถูกปฏิเสธแบบอ้อมๆ เช่นนั้นเธ
หลังจากได้งานพิเศษทำทั้งสองคนพี่น้อง ในลักษณะรับเป็นโปรเจ็กต์มาทำที่บ้าน ส่งงานตามระยะเวลาที่กำหนดวิชัยจึงลงทุนจัดโซนบ้านใหม่ด้วยการเพิ่มสัดส่วนห้องทำงานที่โถงชั้นล่างแบบโล่งโปร่งสะดวกสบายให้พี่น้องชายหญิง ทั้งยังเพิ่มจำนวนมุมทำงาน เสริมบรรยากาศ เติมเครื่องอำนวยความสะดวกในการทำงานต่าง ๆ นานา ชนิดที่ไม่ต้องเรียกหาให้เสียเวลา ถึงขนาดสร้างมุมทำงานที่ส่วนหย่อมริมสระว่ายน้ำอีกด้วย“สีเขียวของต้นไม้ สีฟ้าของสระว่ายน้ำ และอากาศที่ถ่ายเทได้ดีตลอดทั้งวันจะเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน”วิชัยกล่าวยิ้ม ๆ กับนิรัชและณภัทร โดยมีลินดาพยักหน้าเห็นด้วยทุกอย่างอยู่ข้างๆภายในใจบิดามารดาของหนุ่มสาวทั้งสอง เหตุผลเหล่านี้เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีที่สุดในการทำงานสำหรับลูกๆ เพื่อผลงานที่ทำออกมาจะได้เปี่ยมคุณภาพ ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ว่าจ้างตำหนิเอาได้ผู้ใหญ่ทั้งสองของบ้านกำลังคิดการณ์รอบคอบอย่างที่สุด เพื่อรักษาสถาบันครอบครัวให้ดีตลอดไปวิชัยกับลินดาส่งยิ้มละไมให้นิรัชและณภัทร แล้วพากันเดินไปนั่งเล่นในห้องพักผ่อนอย่างสบายอกสบายใจที่ลูก ๆ อยู่ติดบ้านช่วงวันหยุด ไม่คิดไปเที่ยวเตร็ดเตร่ไกลหูไกลตาเหมือนลูกบ้านอื่นส
งานแปลภาษาชิ้นหนึ่งถูกส่งมาวัดความสามารถแรกเริ่มของสองพี่น้องถึงสามเล่มหนาในบ่ายของวันต่อมา เป็นนวนิยายต่างประเทศจำนวนสามเล่มจบเพราะณภัทรติดเรียนช่วงบ่ายส่วนนิรัชมีเรียนแค่ช่วงเช้า คนที่ต้องขับรถไปรับงานย่อมต้องเป็นนิรัช ก่อนจะเวียนรถกลับมารับณภัทรที่มหาวิทยาลัยหลังเลิกเรียนเมื่อณภัทรได้เห็นงานในมือของนิรัชก็ไม่รอช้า เธอรีบรับมันมากอดไว้แนบอกเอียงคอเงยหน้ามองนิรัชตาแป๋วคนถูกมองด้วยสองตากลมใส รู้ความนัยที่สื่อออกมาชัดว่า ‘น้องอยากกลับบ้านเดี๋ยวนี้ พี่เข้าใจไหม?’เขาจึงรีบจับอีกฝ่ายยัดใส่รถหรูแล้วหมุนพวงมาลัยขับออกไปทันที แผนการที่คิดเอาไว้ว่าจะพาคนไปเดินเล่นหาอะไรกินสองต่อสองก็ต้องหยุดลงเมื่อกลับถึงบ้าน ณภัทรก็ไม่สนใจอะไรแล้ว เธอรีบหมกมุ่นกับนวนิยายโดยไม่เงยหน้า นั่งอ่านไปแปลไปอย่างมีความสุขสุดๆคนถูกลืมอย่างนิรัชจึงทำได้แค่นั่งมองอยู่ห่างๆ อย่างเงียบๆ แต่หงุดหงิดหนักมากชายหนุ่มยังคงจำได้ดีเมื่อครั้งแรกที่ได้เจอกับณภัทรวันนั้นเธอก็เอาแต่นั่งอ่านนิยายแล้วยังแอบหัวเราะคิกคักมีความสุขอยู่คนเดียวแบบนี้เช่นกัน ทั้งๆ ที่วันนั้นเธอควรจะทำให้เขาพึงพอใจเพื่อที่ว่าแม่ของเธอจะได้คบกับพ่อของ
ทว่าลินดากลับมีรูปลักษณ์เรียบง่าย ท่าทางเรียบร้อย แต่งตัวสมถะ และที่สำคัญเธอมีลูกติดมาด้วยหนึ่งคนซึ่งถือว่าแปลกมาก เพราะผู้หญิงของพ่อแต่ละคนโปรไฟล์ดีไม่มีรอยตำหนิ หรือต่อให้ใครมีลูกติดก็ไม่แน่ว่าเธอจะกล้าพามาด้วยในเดทแรกอย่างนี้เด็กหญิงคนนั้นมีดวงตากลมโต ผมหน้าม้าถักเปียผูกโบขาว ท่าทางสุภาพเรียบร้อย แต่งชุดนักเรียนมัธยมต้นมากับแม่ของเธอหลังจากกล่าวทักทายสวัสดีตามมารยาทและแนะนำตัว เธอก็ได้แต่เบิกตาคู่งามมองเขา สองแก้มขาวมีสีแดงเรื่อแตะแต้มตลอดเวลา และเมื่อเธอยิ้มก็จะมีลักยิ้มน่ารักปรากฏขึ้นมาสาวน้อยวัยแรกแย้มที่มาพร้อมกับดวงตากระจ่างใสคนนั้น ทำให้ใครบางคนต้องจ้องมองอย่างกับไม่เคยเห็นคนคำว่ารักแรกพบคือเรื่องที่ไร้สาระ มันไม่เคยมีอยู่จริงในความคิดของเขา แต่กลับมีคนจำนวนไม่น้อยที่มักจะพาใจของตนให้ตกบ่วงเตลิดอยู่ในภาวะจำยอมกับคำว่าอยากมี puppy love ในช่วงเรียนมัธยมกับใครสักคนเขาเองก็ไม่เว้น...ในขณะที่พ่อบอกเขาให้พาน้องไปเดินเล่นที่สวนหย่อมเพื่อที่พ่อจะได้คุยกับว่าที่แม่เลี้ยงที่ชื่อลินดาได้สะดวกเขาพยักหน้ารับอย่างที่ไม่เคยทำแล้วพาเธอไปเดินเล่นตามคำสั่งของพ่อทว่าเมื่อเขาและเธอได้นั
“กอดพี่ไว้”นิรัชออกคำสั่งด้วยเส้นเสียงทุ้มนุ่มลุ่มลึกอย่างคนที่กำลังระงับอาการสั่นระริกของตนเองอย่างเต็มกำลัง“ขยับเอว”ณภัทรเอื้อมมือโอบบ่ากว้างขยุ้มเสื้อของอีกฝ่ายไว้แน่นขณะที่สะโพกเริ่มขยับตอบรับเป็นจังหวะลึกลับจากปลายนิ้วที่กำลังชักเข้าชักออกแบบเร็วขึ้นแรงขึ้นอยู่ในส่วนเร้นลับของตนสาวน้อยหลับตาแหงนหน้าแอ่นกายครางกระเส่าออกมาท่าทางไร้เดียงสาอ่อนประสบการณ์แต่เร่าร้อนและเรียกร้องอย่างนั้นทำชายหนุ่มผู้กำลังแบ่งปันความรู้แทบคลั่ง“อา...พี่รัช ...ภัทรเสียว”นิรัชก้มลงจูบกลีบปากอุ่นชื้นเพื่อดูดกลืนเสียงหวานล้ำเอาไว้ราวกับว่ามันคืออาหารอันโอชาเขาสอดลิ้นลากไล้เชยชิมไปทั่วโพรงปากอย่างเอร็ดอร่อย เบื้องล่างยังเร่งเร้าจนร่างนุ่มบิดตัวเร่าๆ อย่างทรมานระคนสุขสม จนผู้กระทำยังต้องครางกระหึ่มในลำคออย่างสุดจะกลั้นเสียงลมหายใจหอบกระเส่าดังคลอเคล้าอย่างเร่าร้อนอยู่อย่างนั้นนานครู่หนึ่งแผนการสอนถูกดำเนินต่อไปภายใต้เวลาเรียนรู้อันมีจำกัด ในที่สุดผู้ใฝ่เรียนซึ่งปรารถนาที่จะรู้ถึงอารมณ์สุดยอดในรถก็บรรลุถึงสวรรค์ชั้นฟ้าจนดวงดาวในดวงตาฉ่ำหวานหรี่ปรือทั้งคู่แตกกระจายสว่างวิบวับพร่างพรายเสียงสูดปากถู
ย้อนกลับไปตอนที่นิรัชกำลังขับรถพาณภัทรกลับบ้านสาวน้อยน่ารักผู้เมาแล้วหื่นยิ่งเลื้อยหนักมือขึ้นถึงขนาดปลดกระดุมเสื้อของนิรัชออกทุกเม็ด จากนั้นยังเปิดเสื้อออกกว้างจนเผยแผงอกเปลือยเปล่าทั้งๆ ที่เขากำลังขับรถอยู่เธอทั้งจูบทั้งเลียและขบกัดคล้ายมันเขี้ยวกันมาแรมปียุ่งกับด้านบนไม่พอยังลงมายุ่งกับด้านล่าง เธอแกะเข็มขัดออกอย่างเงอะงะครู่หนึ่งกระทั่งสำเร็จก็ล้วงมือเข้าไปสะกิดสะเกาหนอนยักษ์จนกลายเป็นมังกรผงาดกล้าพร้อมพ่นไฟความใหญ่โตของมันบ่งบอกได้ว่าเจ้าของกำลังรู้สึกอย่างไร นิรัชถึงขั้นสูดปากแล้วต้องรีบเปิดไฟเลี้ยวเพื่อหาที่จอดเหมาะๆชายหนุ่มจอดรถให้หยุดนิ่งตรงริมทางปลอดคน ห่างจากแสงสว่างของโคมไฟถนน แล้วปลดเข็มขัดนิรภัยออกก่อนเอื้อมมือจับสองไหล่มนของณภัทรให้ผละออกจากความพองตัวกรุ่นร้อนที่กำลังได้รับความสนใจจากมือและริมฝีปากของเธอใช่! จากริมฝีปากของเธอ...เพื่อถูกปิดกั้น หญิงสาวมุ่นคิ้ว “พี่รัชให้ภัทรลองดูหน่อยนะ เคยอ่านในนิยายแล้วก็เคยดูในซีรีย์ต่างชาติ เขาทำกันแบบนี้ในรถ ถึงขั้นบอกว่าสุดยอดมากๆ เลย”ได้เกิดอุบัติเหตุกันพอดี!นิรัชบ่นในใจก่อนกัดกรามบ่นเสียงแหบพร่า “พี่มีเวลาให้ภัทรได้เรียน
ณภัทรถอนใบหน้าเนียนนุ่มออกแล้วกดจูบเบาๆ อีกครั้ง จูบครั้งนี้หวานละมุนนุ่มลิ้นและอ้อยอิ่งเนิ่นนาน จากนั้นก็ผละออกแล้วบ่นพึมพำอย่างคนต้องการพร่างพรูความในใจ“ใบหน้าแบบนี้รู้รึเปล่าว่าสามารถกระชากใจใครต่อใครได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่พบเห็น ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่รัชต้องเกิดมาเพียบพร้อมขนาดนี้ หล่อ รวย หุ่นเท่ห์ ลีลาเด็ด อะไรจะเพอร์เฟค ดีเลิศเกินเบอร์ขนาดนั้น แล้วหยั่งงี้จะให้ภัทรไว้ใจพี่รัชได้ยังไง จะให้คบกันแบบเปิดเผยรึ? โนเวซ! ไม่มีทาง! ไม่ไหวหรอกนะจะบอกให้ ไม่ไหวจะเคลียร์ค่ะ อย่าคิดว่าภัทรจะทน!”นิรัชได้ฟังถึงกับขมวดคิ้วเริ่มไม่พอใจขึ้นมาสาวน้อยบ่นจบก็ถอนหายใจอย่างคนเอือมระอาเหลือเกิน เธอก้มหน้าซุกซบแผงอกหนา แต่มือไม้ยังคงเลื้อยไปมาอย่างซุกซนเอาแต่ใจหนักกว่าเดิมเธอปลดกระดุมเสื้อของเขาถึงห้าเม็ด อีกนิดเดียวก็หลุดร่วงแล้วเธอก็ล้วงมือเข้าไปลูบๆ คลำๆ บีบขยำอย่างย่ามใจตามประสาคนเมาแล้วหื่นซึ่งแน่นอนว่านิรัชรับได้ในข้อนี้ ณภัทรเมาแล้วหื่นจริงๆ และเขาก็ชอบมากคนเมาแล้วหื่นยังคงบ่นอุบอิบแบบไม่มีกั๊ก “ถ้าเป็นไปได้ ภัทรอยากให้พี่รัชขี้เหร่มากกว่านี้ จนกว่านี้ เรียนเก่งน้อยกว่านี้ ไม่ได้เรื่อง
นาฬิกาค่อยๆ เดินอย่างช้าๆ บอกเวลาใกล้สามทุ่มแล้ว คนเมาเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ก็เริ่มเลื้อยแล้วเช่นกัน“พี่อยากรู้จริงๆ ว่าเวลาที่สามีของเราไปนอนเอากับผู้หญิงอีกคนเขารู้สึกยังไง ทำไมถึงติดอกติดใจจนลืมภรรยาที่รออยู่บ้าน” หญิงสาวสวยจัดทำท่าพะอืดพะอมก่อนเรอเอากลิ่นเบียร์ที่ดื่มลงไปพ่นออกมา ความงดงามสุดแสนจะเซ็กซี่แทบหมดสิ้นในยามนี้ “เวลาที่พี่เจมส์กำลังก้มหน้าซุกซบ กดจูบขบกัด ขึ้นคร่อมขย่มกันแล้วครางลั่นห้อง เขาคงรู้สึกรักหลงมากสินะ จึงไม่นึกถึงพี่บ้างเลย”เอมี่ถามณภัทรเสียงเบา กระซิบกระซาบกันสองคน“ถ้าเขานึกถึงพี่มี่เขาคงไม่ทำและที่เขาทำแสดงว่าเขาไม่นึกถึงพี่มี่เลย” ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักชะงักเล็กน้อยเพราะอาการสะอึกก่อนพูดต่อ “ภัทรไม่รู้หรอกว่าผู้ชายรู้สึกยังไง แต่ที่แน่ๆ พี่นั่นแหละรู้สึกยังไง ทำไมต้องใส่ใจความรู้สึกคนอื่นขนาดนั้นด้วย”“ฮึก...พี่รู้สึกเจ็บ เจ็บมาก” เอมี่ยกมือลูบหน้าอกตนเองณภัทรผงกศีรษะเนือยๆ “แสดงว่าพี่เอมี่ชอบความรู้สึกนี้ มันคงรู้สึกดีละมัง พี่ถึงได้ทนทานนานปี ไม่ยอมเลิกกับเขาสักที”เอมี่หรี่ตามอง “หากเป็นสามีของภัทรล่ะ หากว่ารักมากๆ ภัทรยังจะเลิกได้ง่ายๆ เลยเหรอ”อีกคนปร
นิรัชที่นั่งดื่มน้ำเปล่าอยู่ที่โซฟาอีกฝั่งได้แต่ถอนหายใจ พลางหันมาคุยกับโทรศัพท์มือถือที่กำลังวีดีโอคอลกับเสี่ยวิชัยอยู่“พ่อเห็นหรือยัง? ยัยภัทรกำลังเป็นศิราณีให้ยัยเอมี่อยู่ ผมชวนกลับบ้านแล้วแต่เธอไม่ยอมกลับ จึงทำได้แค่นั่งเฝ้านี่แหละ”เสียงปลายสายตอบกลับมา “อืม...พอรู้ว่าอยู่กับแกแบบนี้ คุณดาเธอก็สบายใจแล้วล่ะ แต่ห้ามเกินสามทุ่มนะ แกห้ามดื่มด้วย ดูแลน้องดีๆ ขับรถพาน้องกลับบ้านในสภาพครบสามสิบสอง...”และคำบ่นอีกยาวเหยียดที่ฟังเหมือนว่านิรัชกับณภัทรยังเป็นแค่เด็กมัธยมต้นไม่ใช่นักศึกษาที่เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว“ครับๆ รู้แล้ว”สัญญาณวีดีโอคอลถูกตัดไป นิรัชเก็บมือถือเข้ากระเป๋า นั่งขมวดคิ้วดื่มน้ำเปล่าต่อเขาตระหนักอย่างลึกซึ้งเลยทีเดียวว่าแม่เลี้ยงห่วงและหวงณภัทรมากขนาดไหนทำเอาพ่อของเขาต้องเป็นคอยกังวลตามไปด้วยก็หลายครั้งแต่อย่างว่าล่ะ มีลูกสาวน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้แบบนี้ไม่หวงได้ไงเขายังหวงเลย…กับแกล้มที่เคยวางเรียงรายเต็มโต๊ะบัดนี้เกลี้ยงทุกจาน เครื่องดื่มที่เคยมีน้ำอยู่เต็มยังหมดไปหลายขวด ศรุตที่คอแข็งยังไม่เมาง่ายๆ เริ่มพูดจาเสียงขรึมแบบจริงจัง “
นิรัช ศรุตและเอมี่คือเพื่อนซี้ที่เรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยมจนกระทั่งทุกคนเข้ามหาวิทยาลัย เรียกว่าเติบโตมาด้วยกันก็ได้เพียงแต่มีเอมี่แค่คนเดียวที่เข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ไม่ใช่คณะบริหารธุรกิจ ต่อมาเอมี่ยังพบรักกับรุ่นพี่หนุ่มหล่อที่ชื่อเจมส์ ถึงขนาดอยู่คอนโดเดียวกัน พ่อแม่ที่ต่างประเทศก็ไม่ได้ว่าอะไร พวกเขาให้อิสระเอมี่ในการใช้ชีวิตเต็มที่ เอมี่จึงไม่ค่อยมีเวลามาสังสรรกับเพื่อนสนิทอย่างนิรัชกับศรุตได้บ่อย ๆ เหมือนเมื่อก่อน สาเหตุเป็นเพราะเจมส์ขี้หึง และนิรัชยังหล่อราวเทพบุตรขนาดนั้น ศรุตยังเจ้าชู้เป็นเสือผู้หญิงขนาดนี้ณภัทรเคยเจอศรุตที่งานแต่งของแม่ แต่ไม่เคยเจอเอมี่เพราะอีกฝ่ายติดภาระกิจติดตามแฟนไปถ่ายทำซีรี่ย์ที่ต่างจังหวัดแต่เมื่อวันนี้ได้มีโอกาสเจอกันแล้ว ณภัทรยอมรับว่ากำลังตกหลุมรักรุ่นพี่สาวสุดสวยคนนี้เข้าเต็มเปา คุยกันถูกคอสุดๆ“I’ll stand by you no matter what.”เพราะเอมี่ดื่มจนเริ่มเมาแล้วจึงพูดไทยบ้างอังกฤษบ้าง ณภัทรจึงจำเป็นต้องคุยตอบโต้ตามแต่อีกฝ่ายจะพูดอะไรใส่มาเธอบอกกับเอมี่ว่าจะอยู่เคียงข้างกันอย่างนี้ทำให้คนฟังถึงกับทำตาซึ้งดึงเธอเข้าไปกอดแล้วซบหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นเ
“ไอ้รุต!” เอมี่เริ่มโวยวาย “มึงก็ดีแต่ใส่ร้ายพี่เจมส์ของกู มึงก็รู้ว่าเขาต้องทำงาน ต้องทำทุกอย่างที่ถูกสั่ง ต้องมีคอนเนคชั่น”“แล้วมึงมานั่งร้องไห้ทำไม คอนเนคซั่มอ่ะดิไม่ว่า”“ที่กูมานั่งร้องไห้อยู่นี่ก็เพราะพี่เจมส์โกรธกูเรื่องที่กูแอบไปออดิชั่นคัดเลือกนางเอกเอ็มวี เขาไม่อยากให้กูเข้าวงการ”เมื่อฟังถึงตรงนี้ ศรุตถึงกับกลอกตาเอือมระอากับความโง่ของเพื่อน “กูคิดว่าเรื่องอะไร อย่างมึงเป็นนางเอกหนังยังได้ มันคงกลัวว่ามึงจะดังกว่ามันอ่ะดิ ถึงตอนนั้นคงมีคนที่ดีกว่ามันมาจีบมึง”“ก็นั่นไง กูถึงเครียดอยู่เนี่ย กูรักพี่เจมส์ ไม่เคยมีใครเลย แต่พี่เขาไม่เชื่อ แล้วเขาก็โกรธกูเรื่องที่กูไปออดิชั่นและถูกเลือกอีก เขาหายหน้าไปเลยอาทิตย์กว่า ๆ แล้ว ไม่รับโทรศัพท์ของกูเลยมึง กูไม่รู้จะทำไงดีแล้วเนี่ย”คราวนี้ศรุตถึงกับเงียบ เขาได้แต่มุ่นคิ้วเผยสีหน้าหงุดหงิด คล้ายอยากพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าพูด ดูอึดอัดคับอกคับใจณภัทรที่เริ่มจับต้นชนปลายได้แล้วจึงหายโกรธใครบางคน เธอส่งยิ้มสว่างสดใสให้นิรัช เหมือนไม่เคยเกิดเรื่องเข้าใจผิดขึ้น ประมาณว่าไม่ยอมรับว่าเผลอทำผิดไปนั่นแหละนิรัชที่ก้มหน้ามองอยู่ยิ่งขมวดคิ้วไม่เข้
ชั่วขณะที่ณภัทรทั้งหึงทั้งโกรธและโทษตัวเองไม่หยุดศรุตที่เดินมาทางนี้พอดีก็ก้มหน้าขมวดคิ้วมองณภัทรใกล้ๆ “น้องภัทร” เขาย่อมจำน้องสาวคนสวยของเพื่อนสนิทได้อยู่แล้ว “ทำไมมายืนปั้นหน้ายักษ์อยู่ตรงนี้ละครับ”คนถูกทักว่าปั้นหน้ายักษ์หันมายิ้มน้อย ๆ ตามมารยาท “ภัทรมาหาพี่รัชค่ะ แต่พี่รัชกำลังยุ่งก็เลยไม่กล้าเข้าไป”“ยุ่งอะไรเหรอ?” ศรุตทำหน้างง เขาชะเง้อคอมองไปอีกฝั่งจึงได้เห็นนิรัชนั่งแนบชิดกับผู้หญิงคนหนึ่ง ดวงตาชายหนุ่มเบิกกว้างดูเถอะ! ขนาดเพื่อนสนิทยังตกใจจนตาถลน ณภัทรมองสองคนที่เก้าอี้หินอ่อนอีกครั้งแบบโกรธมากกว่าเดิมจังหวะที่หันหน้าเดินหนีเพื่อไปเรียกแท็กซี่กลับบ้านเอง เสียงเรียกก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง“ภัทร!”เจ้าของเสียงคือนิรัชณภัทรหันหน้าไปมองนิ่งๆ เม้มปากแน่นบรรยากาศรอบตัวที่ดูแปลกๆ ของผู้หญิงคนอื่น นิรัชอาจสัมผัสไม่ได้ แต่ไม่ใช่กับณภัทร และท่าทางงอนๆ สองแก้มป่องๆ ลำตัวเหมือนจะพองลมได้แบบนี้ นิรัชยังจำได้ดีเพราะเมื่อครั้งที่เขาเผลอพูดจาร้ายๆ ใส่แม่ของเธอตอนที่เจอกันในเดทแรกของพ่อ ณภัทรก็ทำท่าแง่งอนแบบนี้เธอโกรธจนหายหน้าไปเป็นปีๆ ไม่เคยมาเจอเขาอีกเลย ถึงขั้นที่พ่อย
เธอคนนี้ชื่อชัญญ่า นอกจากเป็นพี่รหัสของณภัทรแล้ว เธอยังเป็นลูกสาวของผู้ถือหุ้นโรงแรมรายหนึ่งของเสี่ยวิชัยเคยไปร่วมฉลองงานแต่งระหว่างเสี่ยวิชัยกับลินดา จึงเคยเห็นหน้าค่าตาปัญจรักษ์ทั้งครอบครัวและที่สำคัญเธอยังแอบชอบนิรัชมากๆ ผู้ชายอะไร ทั้งหล่อทั้งเท่ห์ เป็นทายาทคนเดียวของเสี่ยวิชัยที่ร่ำรวย สมบูรณ์แบบสุดๆ ถ้าได้คบถึงขั้นแต่งงานด้วยจะดีขนาดไหนแต่เพราะยังไม่ทันได้คบหาแค่ได้เห็นหน้าในมหาวิทยาลัยแบบไกลๆ ได้เจอกันแค่ตามงานเลี้ยงหุ้นส่วนเป็นบางครั้ง ได้ทักทายตามมารยาทแค่บางคราว ยังไม่เคยได้จีบยิ่งไม่ได้เป็นแฟนกลับถูกพวกชะนีบ่างค่างเกะกะรกสายตาเต็มไปหมดพวกหล่อนเหล่านี้คืออุปสรรคขัดขวางเส้นทางไปสู่ดวงดาวอันเจิดจรัสที่ยังมองไม่เห็นของเธอชัญญ่าจึงเอ่ยปากเตือนเหล่าสาวกปีหนึ่งที่ตามเครซี่รุ่นพี่กลุ่มนี้ว่า “พวกน้องๆ ใจเย็นกันหน่อยก็ดีนะคะ ขืนทำอะไรไม่ระวัง จนน้องสาวเขาไม่พอใจขึ้นมาแล้วกลับบ้านไปฟ้องพี่รัชเข้าจะแย่เอา นิรัชน่ะ นิสัยดุร้ายมากเลยนะ หากใครทำให้โกรธละก็ไม่แน่ว่าอาจจะยกพวกมาถล่ม ต่อให้เป็นผู้หญิงนุ่มนิ่มน่ารัก ผู้หญิงดูดี ผู้ชายดุดิบหรือชะนีป่าเถื่อน เขายังต่