นิรัชขับรถมาส่งณภัทรถึงหน้าตึกเรียนคณะของเธอ
ทั้ง ๆ ที่รถจอดแล้วแต่เขาเห็นเธอยังคงเขียนอะไรยุกยิกลงบนสมุดโน๊ตเล็ก ๆ เล่มหนึ่งไม่หยุด
ชายหนุ่มหรี่ตาเพ่งมองเงียบๆ หากเดาไม่ผิด เธอคงกำลังลิสต์รายชื่อแหล่งหางานพิเศษอยู่ เพราะระหว่างทางจากบ้านมาถึงมหาวิทยาลัย ทุกครั้งที่เห็นมีสถานที่หลายแห่งที่ติดป้ายเปิดรับนักศึกษาให้หารายได้พิเศษ ณภัทรที่หยิบมือถือถ่ายรูปไม่ทัน เนื่องจากรถกำลังวิ่ง เธอจะรีบมองแล้วจำมาจด
นิรัชมองณภัทรอย่างใจเย็น ปล่อยให้เธอเขียนจนเสร็จโดยไม่เอ่ยปากเร่งเธอให้ลงจากรถของเขา
สักพักเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของณภัทรดังขึ้นเธอล้วงกระเป๋าหยิบต้นเสียงที่ตั้งค่าให้ดังแค่เบา ๆ ออกมาแล้วกดรับสาย ก่อนเอามันแนบกับแก้มขาวเนียนแล้วเอียงคอ ใช้ไหล่บางประคองโทรศัพท์ไว้ ส่วนมือก็เขียนขยุกขยิกต่อไปไม่หยุด
ท่าทางคล้ายนักธุรกิจหญิงที่กำลังไฟแรงเร่งเปิดกิจการใหม่ทุกไตรมาส งานยุ่งจึงที่สุดในโลก
“ฮัลโหล อืม...ถึงหน้าตึกคณะแล้ว โอเคๆ เจอกัน”
ณภัทรกดปุ่มวางสาย เก็บสมุดเข้ากระเป๋า ทำท่าจะเปิดประตูออกไปโดยไม่ปลดเข็มขัดนิรภัย
แน่นอนว่าเธอคงลืม
นิรัชจึงต้องรีบปลดเข็มขัดนิรภัยของตนเองก่อนจะโน้มตัวไปปลดให้อีกคน ยังไม่ลืมก้มหน้าลงเพื่อจะหอมแก้มเธออีกสักฟอด แต่คราวนี้ผิดคาด ณภัทรรีบยกหนังสือเรียนขึ้นปิดหน้าอย่างว่องไว เห็นได้ชัดว่ารอบนี้เธอรู้ทัน
“พี่รัช! เดี๋ยวเถอะ! บอกภัทรดีๆ ก็ได้ว่าลืมอีกแล้ว”
เธอถลึงตาใส่ มองค้อนรุนแรง ยกมือดันไหล่ของเขาออก
คนถูกดันไหล่เพียงเลิกคิ้ว ถอยห่างอย่างไม่เร่งรีบ
ผิดกับอีกคนที่รีบลงรถไปอย่างรวดเร็ว ทำท่าทางคล้ายกับถูกผู้ชายบ้ากามไล่ตาม เมื่อเจอเพื่อนสาวก็รีบจับมืออีกฝ่ายเดินไป
คงเหลือไว้เพียงกลิ่นหอมอวลจากกายสาวโชยกรุ่นทั่วรถ นิรัชมองตามนิ่งๆ ในใจไม่รู้ว่าจะโกรธหรือขำดี อันที่จริงเขาไม่เคยทำพฤติกรรมแบบนี้กับเธอมาก่อน ทว่าเมื่อผ่านคืนนั้น...
คืนที่เขาดื่มจนเมาแล้วนอนหลับอยู่ในห้องพักของตัวเอง น้องสาวคนนี้ก็เข้ามานอนเบียดอยู่ข้าง ๆ
แรกเริ่มเขาเองไม่รู้และคิดไม่ถึงว่าณภัทรตัวเป็นๆ จะมานอนด้วยกัน เขาคิดว่าตัวเองฝันไป ผู้ชายเวลาฝันถึงผู้หญิงก็มักจะมีภาพประกอบเป็นฉากร่วมรักอันเร่าร้อนกับผู้หญิงในสเปก
เพียงแต่คืนนั้นการฝันเปียกของเขากลับสมจริงจนน่าตกใจ ท้ายที่สุดเราสองยังเสร็จสมกันถึงสองรอบอย่างไม่น่าให้อภัย
แต่เมื่อตื่นเต็มตาและมีสติกลับมาถึงได้รู้ว่าแท้จริงไม่ใช่
หลังจากผ่านพ้นภาวะตกใจหน้าซีด ณภัทรก็รีบอธิบาย ‘เรื่องฮอร์โมนของร่างกายเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ การช่วยตัวเองก็เป็นเรื่องธรรมชาติ พวกเราสองคนอายุยังน้อยย่อมมีโอกาสพลาดกันได้ ไม่เป็นไรนะพี่รัช’
เขาได้แต่อึ้ง คิดไม่ถึงว่าน้องสาวจะเป็นฝ่ายรู้สึกผิดและปลอบใจเขา ก่อนทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง ท่ามกลางผ้าปูที่นอนยับย่นซึ่งเปื้อนคราบคาวสีขาวข้นของเขาผสมกับเลือดสีแดงของเธอ
สุดท้ายเธอกลับเอาแต่หลบหลีกไม่รับผิดชอบการกระทำ
เขาคิดว่าควรโกรธเธอที่กล้า ‘ฟันแล้วทิ้ง’ ผู้ชายแบบเขา แต่เมื่อเห็นท่าทีที่ดูขัดแย้งกันของเธอ เขาก็ได้แต่นึกเอ็นดู
ผู้หญิงเรียบร้อยแต่แอบแซ่บแบบนี้ถูกใจเขาจริง ๆ
เขาก็พอเข้าใจว่าที่เธอทำไปเพราะคิดถึงอะไรหลายๆ อย่างเพื่อความรอบคอบในการใช้ชีวิต การตีกรอบอันเหมาะสมให้ตนเองเป็นสิ่งที่ทุกคนควรกระทำ
แต่เมื่อพลาดไปแล้วก็ควรรับผิดชอบไม่ใช่หรือ?
นิรัชส่ายหน้ายิ้ม ๆ แม้อยากถือสาแต่จำต้องปล่อยไปก่อน เขาขับรถออกจากมหาวิทยาลัย เลี้ยวไปสองถนนใหญ่เข้าไปจอดในคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ความจริงวันนี้เขาไม่มีเรียน แค่ลุกขึ้นมาแต่งตัวเพื่อความแนบเนียนในการมาส่งใครบางคนเท่านั้น ระหว่างวันจึงมารอเวลาเลิกเรียนของณภัทรที่คอนโดเพื่อนสนิท
ตั้งแต่เกิดเรื่องคืนนั้น เขาจึงมีความคิดจะรับส่งเธอทุกวัน ต้องเฝ้าเอาไว้ไม่ให้ห่าง หาโอกาสทำตัวสนิทสนมมากกว่าเดิม เพิ่มเติมสถานะให้ชัดเจน ไม่ใช่แค่พี่ชายกับน้องสาวตามกฎหมาย
และที่สำคัญต้องไม่ปล่อยให้ณภัทรกินเหล้าจนเมาเด็ดขาด
แน่นอนว่าทุกอย่างต้องผ่านความยินยอมเห็นชอบจากเธอ
คอนโดแห่งนี้นิรัชมีคีย์การ์ดร่วมหนึ่งใบ เพราะชายหนุ่มซื้อเป็นชื่อของเขาให้เพื่อนคนนี้อยู่อาศัย สืบเนื่องว่าอีกฝ่ายต้องคอยหลบคนทางบ้านไม่ให้หาเจอตัวได้ง่ายๆเมื่อเข้าห้องมา เสียงหนึ่งพลันเล็ดลอดให้ได้ยิน“อา...พี่รุตขา...”ตามด้วยเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นแข่งกับเสียงเพลงคลาสสิกเร้าอารมณ์ที่เปิดคลอกิจกรรมบางอย่างนิรัชย่อมรู้ดีว่ากิจกรรมที่ว่านี้คืออะไร ทั้งยังเห็นภาพได้ชัดเจนเสมือนเปิดหนังเอวีจอใหญ่ เพราะประตูห้องนอนที่ติดกับห้องรับแขกเปิดอ้าเอาไว้บนเตียงนอนหนานุ่มจึงปรากฏภาพของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งซ้อนกันอยู่ฝ่ายชายเปลือยกายท่อนล่าง ท่อนบนสวมเสื้อยืดตัวบางสำหรับใส่นอน เขานั่งพิงหัวเตียงฝ่ายหญิงอยู่ในชุดนักศึกษานั่งทับอยู่กลางแก่นกายแข็งขึง สองมือจับขยุ้มบ่ากว้าง แหงนหน้าครวญครางโยกตัวไปมาซักพักก็เปลี่ยนท่าผู้ชายจับร่างอวบอึ๋มของฝ่ายหญิงให้คว่ำหน้าลงตลบกระโปรงขึ้นสูงเปิดสะโพกกลมกลึงขาวเนียน ก่อนประกบบั้นท้ายงามงอนแล้วแทรกตัวตนร้อนผ่าวเข้าไปในกายสาว เขาขยับสะโพกเนิบนาบเรียกเสียงครางอีกสายหนึ่งจากผู้หญิงด้านล่าง“อื้อออ...พี่รุต”เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นอีกครั้งในจังหวะต่อม
ครั้นอีกฝ่ายสายตาสะดุดกับเขาที่กำลังนั่งเป็นรูปปั้นตรงโซฟา ศรุตก็ตกใจตะโกนลั่น“เฮ้ย! ไอ้รัช! แกมานั่งอยู่เมื่อไหร่เนี่ย?”นิรัชตอบเสียงเรียบ “ก่อนแกเสร็จไม่นานหรอก”คำว่าไม่นานของนิรัชก็คือได้เห็นหลายท่าของศรุตเพื่อนกันก็อย่างนี้ เข้าใจกันถึงกระดูกทว่านอกจากไม่คิดจะเดินกลับห้องนอนเพื่อใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยอย่างคนควรอาย ศรุตยังถามอย่างสงสัย“แล้วแกใส่ชุดนักศึกษาทำไมเนี่ย วันนี้ไม่มีเรียนนี่”คนถูกถามเลิกคิ้ว “วันนี้ไม่มีเรียน แกก็เลยอนุญาตให้สาวขึ้นมาเอากับแกได้แต่เช้า?”ศรุตยกมือเสยผมยุ่ง ๆ ให้เข้าที่ ยักคิ้วกวน ใบหน้าหล่อเข้มเผยแววตากรุ้มกริ่ม ก่อนเดินเข้าไปดื่มน้ำในครัวด้วยท่าทางสบายๆ ปราศจากอาการอับอาย แล้วเดินกลับไปในห้องนอน สวมเสื้อผ้าพลางคุยกับผู้หญิงในห้อง “น้องอร รีบไปเรียนก่อน ค่อยมาหาพี่ให้ช่วยคลายเหงาใหม่คราวหน้า วันนี้เพื่อนพี่เข้ามารอนานแล้ว”“หา!”คนนอนหงายตัวอ่อนระทดระทวยเมื่อครู่รีบดีดเด้งขึ้นมา ก่อนจะเร่งมือติดตะขอบราลูกไม้ กลัดกระดุมเสื้อ เอื้อมมือควานหาเกงเกงชั้นในสีดำที่ตกอยู่ริมเตียงอีกฝั่งมาสวมอย่างลนลานเธอเดินออกจากห้องนอนพลางบอกศรุตที่กำลังสวมเสื้อผ้า“พี
หลังเลิกเรียน ณภัทรยังไม่คิดกลับบ้าน เธอต้องการหางานพิเศษทำสักอย่างตามวิสัย แต่การนั่งรถเมล์ดูจะไม่สะดวกเท่าไหร่ จึงคิดเรียกวินมอร์เตอร์ไซค์เพื่อนั่งออกไปโบกแท็กซี่หน้าปากซอย จากนั้นค่อย ๆ ถามหางานทีละแห่งทว่าแค่เดินออกจากอาคารเรียนแต่ยังไม่ทันก้าวเท้าออกนอกอาณาเขตของคณะอักษรศาสตร์ รถยุโรปสีขาวก็มาจอดเทียบตรงทางเดินฟุตบาทณภัทรย่อมจำได้ว่าเป็นรถของใครหญิงสาวเห็นอีกฝ่ายลดกระจกลง ส่งสายตาออกคำสั่งว่าให้เข้าไปนั่งในรถแต่โดยดีคนอย่างณภัทรซึ่งเปลี่ยนใจไม่อยากเสียค่าแท็กซี่แล้วจึงรีบขึ้นรถทันทีไม่มีปฏิเสธ ทั้งยังไม่ลืมคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยสาวน้อยแก้มใสยิ้มแฉ่งแข่งกับแสงตะวันอย่างพึงพอใจ “ดีจัง พี่รัชเลิกเรียนพร้อมภัทรเลย”นิรัชแอบยิ้มมุมปากนิดๆ แทบมองไม่เห็น ได้ยินอีกฝ่ายออกปากขอร้องพร้อมท่าทางออดอ้อนแบบลืมตัวว่า “ไปส่งภัทรสมัครงานพิเศษหน่อยได้มั้ยคะ”ชายหนุ่มไม่ตอบแต่ถามกลับขณะหมุนพวงมาลัยรถยนต์ “จะสมัครงานอะไร พนักงานร้านสะดวกซื้อหรือ?”อีกคนส่ายหน้า เธอไม่สะดวกทำงานเข้ากะกลางคืนแล้วนิรัชถามอีก “พนักงานฟาดฟู๊ดเหรอ ในห้างใกล้บ้านก็พอมี ไปดูที่นั่นก่อนไหม? เธอไม่ควรหางานไก
ทันทีที่วิชัยได้ฟังจากปากลูกชายว่าเขาจะทำงานพิเศษ ความรู้สึกตกใจก็ท่วมท้น“แกเนี่ยนะเจ้ารัช จะทำงานพิเศษ”คนถูกปรามาสกลางโต๊ะอาหารมื้อเย็นยังคงความนิ่งขรึมให้ค้างเติ่งบนใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ พลางตอบเสียงเรียบ “เทอมหน้าผมถึงจะได้ออกฝึกงาน เทอมนี้จึงทำงานพิเศษได้อยู่แล้วครับพ่อ”วิชัยดื่มน้ำเข้าไปอึกหนึ่งด้วยเกรงว่าตนจะสำลักกับข้าวที่เพิ่งเข้าปาก ก่อนขมวดคิ้วอย่างไม่อยากเชื่อ “ประเด็นไม่ใช่เรื่องนั้น แต่คุณชายรักสบายอย่างแกเนี่ยนะจะทำงานพิเศษ”นิรัชไม่ตอบอะไรอีก เพียงรับประทานอาหารเงียบๆบ้านของเสี่ยวิชัยทำธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ ฐานะค่อนข้างร่ำรวย เงินทองมีมากมาย นิรัชจึงไม่เคยขาดอะไร ความคิดที่จะทำงานหาเงินพิเศษด้วยตนเองจึงไม่เคยเกิดขึ้นแต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว วิชัยก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางหรืออะไร เขาเพียงแค่รู้สึกตกใจเท่านั้น“พ่อไม่ห้ามแกทำงานหรอก แต่แน่ใจเหรอว่าจะทำงานนี้”งานนี้ที่ว่าก็คืองานแปลภาษาหนังสือวิชาการซึ่งคนอย่างนิรัชไม่ใช่พวกหนอนหนังสือและไม่ได้เรียนคณะอักษรศาสตร์เหมือนณภัทรแม้ว่าณภัทรจบมาจะทำงานด้านโรงแรมช่วยธุรกิจครอบครัวได้เช่นกัน แต่นิรัชเรียนคณะบริหารธุรกิจ ก
ในขณะที่พี่ชายอย่างนิรัชกำลังออกหน้ารับทุกความสงสัยอย่างสงบนิ่งณภัทรที่ไม่คิดจะรับผิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทั้งหมดก็ได้แต่กินข้าวจนแน่นจุกท้องไปหมดความจริงก็คือแม้เธอจะมีพื้นฐานทางด้านภาษาค่อนข้างดี ทั้งจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส เธอได้หมด แต่ความสามารถด้านการพิมพ์สัมผัสยังอยู่แค่เกณฑ์ธรรมดาเรียกได้ว่าพิมพ์เร็วในระดับพื้นฐานผ่านงานทั้งนี้เงื่อนไขคือเธอยังเพิ่งเข้าเรียนแค่ปีหนึ่งวันแรกเท่านั้น ความน่าเชื่อถือค่อนข้างน้อยมากๆ ทางสำนักงานจึงให้เธอรอรับการพิจารณาไปก่อนซึ่งนั่นหมายความว่าหากมีคนที่ดีกว่าก็พร้อมจะเขี่ยเธอทิ้งแม้เธอจะมีลิสต์งานพิเศษที่มาร์คไว้หลายที่หลายทางให้เลือกสรรและสำนักงานแห่งนี้ยังเป็นเพียงหน้าม้าเป็นนายหน้าจัดหานักแปลภาษาให้เอเจนซี่เท่านั้น ทว่าเธอก็ยังอยากได้งานนี้มากจริง ๆ เพราะสอบถามจนรู้มาว่าเขารับงานแปลให้เอเจนซี่ต่างประเทศด้วยและสามารถรับงานมาทำที่บ้านได้อย่างสบาย ๆ ไม่ต้องไปยืนขาแข็งและเสี่ยงอันตรายด้วยการกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆที่สำคัญลักษณะงานค่อนข้างตรงกับวิชาที่เธอเลือกเรียน ช่วยเสริมประสบการณ์ได้อย่างดีเยี่ยมแต่เมื่อถูกปฏิเสธแบบอ้อมๆ เช่นนั้นเธ
หลังจากได้งานพิเศษทำทั้งสองคนพี่น้อง ในลักษณะรับเป็นโปรเจ็กต์มาทำที่บ้าน ส่งงานตามระยะเวลาที่กำหนดวิชัยจึงลงทุนจัดโซนบ้านใหม่ด้วยการเพิ่มสัดส่วนห้องทำงานที่โถงชั้นล่างแบบโล่งโปร่งสะดวกสบายให้พี่น้องชายหญิง ทั้งยังเพิ่มจำนวนมุมทำงาน เสริมบรรยากาศ เติมเครื่องอำนวยความสะดวกในการทำงานต่าง ๆ นานา ชนิดที่ไม่ต้องเรียกหาให้เสียเวลา ถึงขนาดสร้างมุมทำงานที่ส่วนหย่อมริมสระว่ายน้ำอีกด้วย“สีเขียวของต้นไม้ สีฟ้าของสระว่ายน้ำ และอากาศที่ถ่ายเทได้ดีตลอดทั้งวันจะเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน”วิชัยกล่าวยิ้ม ๆ กับนิรัชและณภัทร โดยมีลินดาพยักหน้าเห็นด้วยทุกอย่างอยู่ข้างๆภายในใจบิดามารดาของหนุ่มสาวทั้งสอง เหตุผลเหล่านี้เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีที่สุดในการทำงานสำหรับลูกๆ เพื่อผลงานที่ทำออกมาจะได้เปี่ยมคุณภาพ ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ว่าจ้างตำหนิเอาได้ผู้ใหญ่ทั้งสองของบ้านกำลังคิดการณ์รอบคอบอย่างที่สุด เพื่อรักษาสถาบันครอบครัวให้ดีตลอดไปวิชัยกับลินดาส่งยิ้มละไมให้นิรัชและณภัทร แล้วพากันเดินไปนั่งเล่นในห้องพักผ่อนอย่างสบายอกสบายใจที่ลูก ๆ อยู่ติดบ้านช่วงวันหยุด ไม่คิดไปเที่ยวเตร็ดเตร่ไกลหูไกลตาเหมือนลูกบ้านอื่นส
งานแปลภาษาชิ้นหนึ่งถูกส่งมาวัดความสามารถแรกเริ่มของสองพี่น้องถึงสามเล่มหนาในบ่ายของวันต่อมา เป็นนวนิยายต่างประเทศจำนวนสามเล่มจบเพราะณภัทรติดเรียนช่วงบ่ายส่วนนิรัชมีเรียนแค่ช่วงเช้า คนที่ต้องขับรถไปรับงานย่อมต้องเป็นนิรัช ก่อนจะเวียนรถกลับมารับณภัทรที่มหาวิทยาลัยหลังเลิกเรียนเมื่อณภัทรได้เห็นงานในมือของนิรัชก็ไม่รอช้า เธอรีบรับมันมากอดไว้แนบอกเอียงคอเงยหน้ามองนิรัชตาแป๋วคนถูกมองด้วยสองตากลมใส รู้ความนัยที่สื่อออกมาชัดว่า ‘น้องอยากกลับบ้านเดี๋ยวนี้ พี่เข้าใจไหม?’เขาจึงรีบจับอีกฝ่ายยัดใส่รถหรูแล้วหมุนพวงมาลัยขับออกไปทันที แผนการที่คิดเอาไว้ว่าจะพาคนไปเดินเล่นหาอะไรกินสองต่อสองก็ต้องหยุดลงเมื่อกลับถึงบ้าน ณภัทรก็ไม่สนใจอะไรแล้ว เธอรีบหมกมุ่นกับนวนิยายโดยไม่เงยหน้า นั่งอ่านไปแปลไปอย่างมีความสุขสุดๆคนถูกลืมอย่างนิรัชจึงทำได้แค่นั่งมองอยู่ห่างๆ อย่างเงียบๆ แต่หงุดหงิดหนักมากชายหนุ่มยังคงจำได้ดีเมื่อครั้งแรกที่ได้เจอกับณภัทรวันนั้นเธอก็เอาแต่นั่งอ่านนิยายแล้วยังแอบหัวเราะคิกคักมีความสุขอยู่คนเดียวแบบนี้เช่นกัน ทั้งๆ ที่วันนั้นเธอควรจะทำให้เขาพึงพอใจเพื่อที่ว่าแม่ของเธอจะได้คบกับพ่อของ
ทว่าลินดากลับมีรูปลักษณ์เรียบง่าย ท่าทางเรียบร้อย แต่งตัวสมถะ และที่สำคัญเธอมีลูกติดมาด้วยหนึ่งคนซึ่งถือว่าแปลกมาก เพราะผู้หญิงของพ่อแต่ละคนโปรไฟล์ดีไม่มีรอยตำหนิ หรือต่อให้ใครมีลูกติดก็ไม่แน่ว่าเธอจะกล้าพามาด้วยในเดทแรกอย่างนี้เด็กหญิงคนนั้นมีดวงตากลมโต ผมหน้าม้าถักเปียผูกโบขาว ท่าทางสุภาพเรียบร้อย แต่งชุดนักเรียนมัธยมต้นมากับแม่ของเธอหลังจากกล่าวทักทายสวัสดีตามมารยาทและแนะนำตัว เธอก็ได้แต่เบิกตาคู่งามมองเขา สองแก้มขาวมีสีแดงเรื่อแตะแต้มตลอดเวลา และเมื่อเธอยิ้มก็จะมีลักยิ้มน่ารักปรากฏขึ้นมาสาวน้อยวัยแรกแย้มที่มาพร้อมกับดวงตากระจ่างใสคนนั้น ทำให้ใครบางคนต้องจ้องมองอย่างกับไม่เคยเห็นคนคำว่ารักแรกพบคือเรื่องที่ไร้สาระ มันไม่เคยมีอยู่จริงในความคิดของเขา แต่กลับมีคนจำนวนไม่น้อยที่มักจะพาใจของตนให้ตกบ่วงเตลิดอยู่ในภาวะจำยอมกับคำว่าอยากมี puppy love ในช่วงเรียนมัธยมกับใครสักคนเขาเองก็ไม่เว้น...ในขณะที่พ่อบอกเขาให้พาน้องไปเดินเล่นที่สวนหย่อมเพื่อที่พ่อจะได้คุยกับว่าที่แม่เลี้ยงที่ชื่อลินดาได้สะดวกเขาพยักหน้ารับอย่างที่ไม่เคยทำแล้วพาเธอไปเดินเล่นตามคำสั่งของพ่อทว่าเมื่อเขาและเธอได้นั
บนเวทีมงคล พิธีกรชายกำลังส่งคำถามแก่คู่บ่าวสาวด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม“ตามธรรมเนียม ทั้งสองต้องบอกมาตามตรงว่าพบรักกันได้ยังไง เล่ามาเลยครับ”ข้างล่างต่างรอฟังอย่างตื่นเต้นกันใหญ่ มีบางคนแอบสงสัยว่าพวกเขาคงแพ้ความใกล้ชิดแหละ ประมาณน้ำมันกับไฟเจอกันใครจะคิดอย่างไรไม่ใช่ว่านิรัชกับณภัทรจะรับรู้ไม่ได้ ทว่าต่อให้เป็นเพราะเหตุนั้นแล้วยังไงล่ะเจ้าบ่าวรับไมค์ไปกรอกเสียงตอบก่อน “ผมแอบชอบภัทรตั้งแต่ตอนเธออยู่มัธยมต้น เธอเป็นรักแรกพบของผม ตั้งแต่วันนั้น เจ้าสาวของผมคือเธอคนเดียวครับ”และคำตอบตรงไปตรงมาของคนพูดน้อยเรียกเสียงกรีดร้องจากสาวๆ ทั้งงานเลยทีเดียว หลายคนนับนิ้วกันใหญ่ หลายปีเชียว ผู้ชายในงานยังยกนิ้วโป้งส่งให้ นายแน่มาก...ตอนนี้ณภัทรหน้าแดงก่ำไปหมด เขินจนตอบไม่ถูกแล้วค่ะพิธีกรให้เวลาเธอได้สะเทิ้นอายพอประมาณแล้วเริ่มถาม “แล้วเจ้าสาวล่ะครับ เริ่มรักเจ้าบ่าวตอนไหนเอ่ย?”หญิงสาวค่อยๆ ตอบเสียงสั่น “รู้ตัวว่ารักหมดใจเมื่อไม่นานมานี่ล่ะค่ะ ก่อนหน้านั้นแค่มึนๆ ไม่ค่อยเข้าใจ”เสียงหัวเราะดังครืน คำตอบของเจ้าสาวยียวนใช้ได้เจ้าบ่าวแซวเธอ “เพราะแบบนี้ไงถึงต้องรีบแต่งงานเร็วๆ กลัวเจ้
งานหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายหรูหราที่บ้านปัญจรักษ์ในหนึ่งเดือนต่อมา มีเพียงญาติสนิทและมิตรสหายเท่านั้นที่ได้รับสิทธิ์ร่วมงานสำคัญครั้งนี้ ส่วนงานฉลองมงคลสมรสจะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมในเครืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้าทว่าระหว่างนั้นณภัทรกลับเริ่มมีความผิดปกติของร่างกาย เธอรู้สึกผะอืดผะอมขมคอปั่นป่วนมวนท้องในตอนลืมตาตื่นตอนเช้า หญิงสาวคลื่นไส้อาเจียนและไวต่อกลิ่นกับอาหารการกินทุกอย่างเธอนึกขึ้นได้ว่าหยุดกินยาคุมกำเนิดตอนที่ห่างกับนิรัช แต่แล้วพลันถูกเขาจู่โจมอย่างร้อนแรงในเพ้นท์เฮ้าส์วันนั้น ถุงยางอนามัยก็ไม่ได้ใส่ กว่าจะรู้ตัวว่าลืมป้องกันก็ไม่ทันแล้วสุดท้ายความจริงจึงกระจ่าง เนื่องจากผลการตรวจครรภ์ของณภัทรขึ้นสองขีดเต็มๆทั้งนิรัชและณภัทรถูกลินดาเรียกไปต่อว่าเสียยกใหญ่เรียกได้ว่าบ้านแทบแตกพวกเขาได้แต่ก้มหน้าก้มตายอมรับผิดอย่างจำนนคนเป็นแม่โกรธจัดไม่ใช่เพราะอยากทำเหมือนที่บ้านเดิมหรืออะไร แค่รู้สึกผิดหวังที่ลูกสาวไม่ยอมบอกความจริงเท่านั้น“ภัทรไม่ควรโกหกแม่นะ ลูกคิดว่าแม่จะตัดหางปล่อยวัดเหมือนบ้านคุณตาคุณยายหรืออย่างไร? แม่ไม่สิ้นคิดทำร้ายลูกสาวสุดที่รักของแม่ขนา
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีที่แล้ว ก่อนนิรัชเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกา เขาคุยกับวิชัยตามตรงที่สนามบินโดยไม่ปิดบัง‘ผมกับภัทรรักกันเกินพี่น้อง เราสองคนจะแต่งงานทันทีเมื่อเรียนจบ’นั่นจึงทำให้วิชัยถึงขั้นไม่พูดไม่จา ยามเดินกลับมาสมทบกับลินดาและณภัทรที่ร้านอาหาร สีหน้าเขาเย็นชา ท่าทางเคร่งขรึม ครู่ใหญ่จึงยอมปริปาก“ตารัชไปแล้ว...ใจหายเหมือนกันนะ”ลินดารีบจับมือสามีมากุมเอาไว้ “เด็กๆ ต้องโตขึ้นค่ะ ตารัชจะเติบใหญ่โดยสมบูรณ์แล้วกลับมาดูแลปัญจรักษ์อย่างดีนะคะ”ชายวัยกลางคนพยักหน้า ตบเบาๆ ที่หลังมือภรรยา “อืม...ลูกๆ ของเรา พวกเขาโตแล้วจริงๆ”พวกเขาไม่ใช่แค่เด็กชายเด็กหญิงไร้เดียงสาอีกแล้ว... หลังจากนั้น วิชัยจึงค่อยๆ มอบหมายงานถึงขั้นมอบกิจการให้ณภัทรดูแลแบบเต็มตัว เพื่อฝึกเป็นสะใภ้หนึ่งเดียวแห่งปัญจรักษ์เพราะนั่นคือสินสอดทองหมั้น คือของขวัญรอวันแต่งงานของลูกชายกับลูกสาวณภัทรได้ฟังความจริงจากปากของนิรัชก็ได้แต่อึ้งส่วนปัญหาเรื่องผู้หญิงที่ชื่อชัญญ่า และห้องหนึ่งซึ่งพวกเขาอยู่ด้วยกัน ล้วนเป็นการเข้าใจผิดในห้องนั้นคือโซนวีไอพีให้กลุ่มที่นัดทำโปรเจกต์ร่วมกัน เจ้าของห้องคือแฟนต่างชาติของชัญญ่าณภ
ในขณะที่ณภัทรเปล่าเปลือยทั้งตัว นิรัชยังเหลือเสื้อด้านบน เขาหยัดกายขึ้นถอดมันออกไม่ไยดี เผยกล้ามตึงแน่นเรียงตัวงดงามเขาก้มหน้าลง บดจูบเธออีกครั้งและอีกครั้ง ลงลิ้นชิมรสหวานฉ่ำอย่างโหยหามาแรมปี ท่าทางร้อนรนและเก็บกดเต็มที่ เนินอกอวบนิ่มบดเบียดกล้ามลอนแข็งแกร่งแนบแน่นการขยับเสียดสีก่อเกิดความวาบหวิวสยิวซ่านในอีกครา ความพลุ่งพล่านเกิดขึ้นอีกคำรบ พวกเขายังคงไร้ซึ่งคำพูดใดต่อกันกระนั้นร่างกายกลับรู้ดีไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ นิรัชอุ้มณภัทรไปวางลงบนโซฟา เปลี่ยนสถานที่ร่วมกระสัน ปรับเปลี่ยนท่วงท่า เพิ่มความตื่นเต้นในลีลาแห่งรักใคร่คราวนี้เป็นสาวน้อยบ้างขึ้นคร่อมข้างบน อีกคนนั่งเอนกายพิงแผ่นหลังกับพนัก ปล่อยเธอย่ำยีคุมเกมส์ตามอัธยาศัยเสียงหอบกระเส่าของเขาดังอยู่ริมหู อกแกร่งสะท้านขึ้นลงใต้ร่างเธอณภัทรก้มหน้ากัดสันกรามอย่างแรง ทั้งประชดและหมั่นไส้ นิรัชเงยหน้าขึ้น หอมแก้มแดงฟอดใหญ่แววตาคมดุเต็มเปี่ยมไปด้วยความนัย ทำเอาคนถูกจ้องต้องสะเทิ้นอาย ขัดเขินโดยที่เขาไม่ต้องเอ่ยอะไรสักคำสะโพกกลมงามโยกเบาๆ แต่หน่วงหนึบตอดรัด เรียกเสียงสูดปากจากชายใต้ร่างได้ไม่ยาก เขาซุกซบใบหน้าลงบนเนินอกสล้าง ดูดกลื
นิรัชลงมือลงทัณฑ์รวดเร็ว ไม่ให้นักโทษสาวได้ตั้งตัวห้องครัวกลายเป็นสนามรักอันบ้าคลั่ง โต๊ะตัวยาวที่เดิมทีใช้กินอาหารยังกลายเป็นสถานที่เริงรักอันร้อนแรงตอนนี้ ณภัทรใจเต้นเร่าเหมือนจะตายให้ได้ ดวงตาหลับปี๋แน่นอนเธอตกใจ แต่ที่มากกว่านั้นคือกล้ามเนื้อในตัวเธอกำลังเต้นอย่างรุ่มร้อน ปวดตุบๆ ด้วยความถวิลหาผู้ชายตรงหน้าคือนิรัชไม่ผิดแน่ภายในกายเธอบีบรัด ทั้งเปียกทั้งพร้อมในเวลาอันรวดเร็ววูบแรกเธอรู้สึกน้อยใจจนเกือบจะท้อถอยถอดใจ ทว่าวูบต่อมาเธอกลับเอียงหน้าแนบเข้าหาสัมผัสของเขาตามสัญชาตญาณคนเราจะรู้สึกคิดถึงถวิลหาและรักใคร่หมดใจจนความผิดอะไรก็ลืมไปได้จนสิ้นในพริบตา แบบนี้เลยเหรอ?ท่ามกลางความรู้สึกสับสนมึนงงปนเป ณภัทรถูกนิรัชสั่นคลอนจิตใจโดยสมบูรณ์ ชายหนุ่มหญิงสาวคล้ายไฟเจอน้ำมัน เผาไหม้กลืนกินไม่ยั้ง ราวพายุหมุนพัดพาทุกสรรพสิ่งอย่างบ้าคลั่งนิรัชปลดเปลื้องกางเกงของตนอย่างรวดเร็ว หอบทุกความปรารถนาบรรจุลงบนความต้องการของร่างกายที่แข็งขึงตึงผงาดความเป็นชายสั่นระริกเพราะแข็งจัดเบียดเสียดแนบสนิทกับส่วนอ่อนไหวที่บัดนี้ฉ่ำเยิ้มพร้อมพรั่งกระทั่งสองร่างสอดผสานแนบแน่นถึงได้รู้ว่าพวกเขาตัวสั่น อ
แม้ปากจะบอกแบบนั้น แต่ทุกวันที่ผันผ่านก็ยังคงเลวร้ายในความรู้สึกอยู่มากโชคดีที่ณภัทรเป็นคนที่จัดการกับความรู้สึกตนเองได้เป็นอย่างดี หญิงสาวยิ่งรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่เธอเลือกเร้นรัก กักเก็บความสัมพันธ์ฉันแฟนกับนิรัชโดยไม่คิดเปิดเผยออกมาเผื่อที่ว่าถึงวันหนึ่งเรื่องของเธอกับเขามันเป็นไปไม่ได้ อะไรๆ จะได้ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้ผู้ชายน่ะ เวลาเปลี่ยนใจไปมีคนใหม่ พวกเขาจะสามารถมองหน้าผู้หญิงคนเก่าได้อย่างสบาย ทำทีเป็นไม่เคยมีอะไรต่อกันก็ยังได้ เพราะฉะนั้น เพื่อรักษาระดับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องให้ครอบครัวไร้ปัญหา เธอก็จะต้องทำได้เช่นกันแต่ว่า...นั่นเฉพาะต่อหน้าคนอื่นเท่านั้นนะเวลาอยู่คนเดียว ณภัทรจะแอบร้องไห้บ้างอะไรบ้าง ตามประสาคนอกหักรักคุด รักผิดชีวิตสะดุด หยุดอยู่กับที่ไม่กล้าเดินหน้าคบใครต่อไปหลังจากเรียนจบปีสุดท้าย โมรินกับศรุตก็จับมือบินลัดฟ้า พี่เอมี่ก็ไปเป็นนางแบบอินเตอร์โดยมีคุณเควินคอยซับพอร์ตณภัทรจึงเหลือตัวคนเดียวโดยสมบูรณ์โคตรเหงา...เนื่องจากเรียนจบแล้ว ระหว่างรอรับปริญญา หญิงสาวจึงเข้าออฟฟิศทำงานเต็มตัว เต็มที่กับโครงการร่วมทุนสร้างกับคู่ค้า ตอนนี้เธอยัง
“น้าพลยอมโดยไม่กล้าขัดขืนเลยแหละ แต่เงื่อนไขคือต้องไปกับพี่รุต คุณแม่ของเขาถึงขนาดไปคุยกับน้าพลที่บ้าน ใช้อำนาจเจ้าของบริษัทเลยเชียว น้าพลก็เลยต้องยอม ส่วนค่าใช้จ่ายคุณแม่บอกว่าจะออกให้ทั้งหมด ถือเป็นสินสอดทองหมั้น”ณภัทรเลิกคิ้ว หญิงสาวรู้มาว่าศรุตตามจีบโมรินไม่เว้นวัน กระทั่งพาไปแนะนำตัวกับมารดาว่าเป็นแฟนแบบแนบเนียน หลังจากนั้นก็คอยไปรับไปส่งระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัยตลอด สองคนนี้ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว หลังจากเรียนจบศรุตเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทของครอบครัว ไม่ได้ทำตัวล่องลอยไปวันๆ เหมือนแต่ก่อน เขาไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัว ยังมีพี่ชายคนสำคัญรอสืบทอดกิจการอยู่แล้วทั้งคน จึงไม่จำเป็นต้องรีบไปเรียนต่อพร้อมนิรัช อีกทั้งชายหนุ่มยังต้องการรอโมรินเรียนจบแล้วไปต่างประเทศพร้อมกันณภัทรยิ้มขื่น เธอเองก็ควรให้นิรัชรอเหมือนกันใช่ไหม? แต่คิดไปคิดมา หากย้อนเวลากลับไปเธอจะทำอย่างนั้นได้จริงเหรอเสี่ยวิชัยมีนิรัชเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแค่เพียงคนเดียว ตัวของเสี่ยวิชัยเองก็ไม่มีพี่น้อง บิดามารดาก็ไม่อยู่แล้ว หลังจากภรรยาคนเก่าเสียชีวิตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เขาก็อยู่กับนิรัชแค่สองคนจนกระท
หญิงสาวก้มหน้าทำงาน พยายามไม่คิดมากอีกทว่าท้ายที่สุด เธอก็พ่ายแพ้ให้แก่หัวใจไม่รักดีของตัวเองเรียวนิ้วเปิดโปรแกรมเฟสไทม์ ทำใจดีสู้เสือโทรออกไป นานครู่ใหญ่จนเกือบจะถอดใจ ในที่สุดปลายสายก็กดรับภาพของคนคุ้นเคยสุดแสนจะคิดถึงก็ปรากฏ “ว่าไงภัทร?”หญิงสาวกะพริบตา มือบีบโทรศัพท์แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามข่มใจไม่คิดมากกับคำถามชวนคิดมากแบบนี้“ก็ไม่ว่าไง พี่รัชทำอะไรอยู่เหรอ?”“ช่วงนี้พี่กำลังยุ่งมากเลยภัทร ไม่ว่างโทรหาเลย”คนฟังมุ่นคิ้ว เธอก็ยุ่งเหมือนกันนี่นา...หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากบอกไปตามตรงว่าเธอเองก็ยุ่งเหมือนกันไง ทำไมยังโทรหาเขาได้ เสียงหวานหนึ่งพลันเอ่ยแทรก“รัช...ไปกันเถอะ”เสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ ณภัทรยังเห็นภาพเธอจากในโทรศัพท์ด้วย ผู้หญิงคนนั้นคือชัญญ่า...อดีตพี่รหัสของณภัทรนั่นเอง“อ้าว! น้องภัทรเหรอ? สวัสดีจ๊ะ” แค่นั้น ชัญญ่าทักทายเพียงแค่นั้น ก่อนหันไปทางนิรัช “รัช...เราไปกันเถอะ”“อืม...แค่นี้ก่อนนะภัทร”ปลายสายตัดไป ณภัทรได้แต่อึ้ง เธอเห็นภาพที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ที่นั่นคือห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ห้องเรียนแน่นอน...ธุรกิจเบเกอรี่ที่ณภัทรร่วมหุ้นกับภานียังคงไ
ระยะเวลาที่ห่างกัน จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน จากนั้นก็เลื่อนเป็นหนึ่งปีสองปีตามลำดับ ณภัทรยังคงคิดถึงนิรัชเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเริ่มเคยชินรถซุปเปอร์คาร์สีเหลืองสดแซ่บจี๊ดวนเข้ามาจอดด้านหน้าของภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง ประตูเปิดออกโดยบริกรที่มาคอยให้บริการ สาวสวยดูดีในมาดนักธุรกิจรุ่นใหม่ค่อยๆ ก้าวเท้าลงมา เธอสวมสูทสไตล์แฟชั่นล้ำสมัย ซึ่งเป็นการรังสรรค์เสื้อผ้าอันโดดเด่นที่มีส่วนช่วยให้เกิดความประทับใจต่อผู้ติดต่อทางธุรกิจ และยังสะท้อนทัศนคติไร้ขีดจำกัดให้กับผู้หญิงยุคนี้ที่บทบาททางสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจนแตกต่างจากในอดีตเธอคือณภัทร ผู้สลัดลุคนักศึกษาสาววัยใสกลายเป็นสาวสวยมั่นใจเต็มวัย แต่งหน้าทาปากเข้มขึ้นจนมองอายุจริงไม่ออก เสื้อผ้าหน้าผมล้วนได้โมรินช่วยดีไซน์และจัดการให้วันนี้เธอต้องมาเจรจาธุรกิจแทนวิชัยสาเหตุเป็นเพราะอีกฝ่ายออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนเพลินเกินไปหน่อย กระทั่งเอวเคล็ดกระดูกเคลื่อนเล็กน้อยจนต้องแอดมิทโรงพยาบาล ในขณะที่ลินดาป่วยเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก่อนหน้าณภัทรรู้ดีว่ามารดาของตนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากต้องตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตอนอายุน้อยอีกทั้งยังตรากตร